กระทู้เบาๆ ใน วันหยุดของ ฤดูร้อน ตับแตก แบบนี้ ที่อยากจะคุย กับเพื่อนๆในนี้ ทั้งสุราชน และทั้งที่ไม่ใช่สุราชน เช่นผมก็ตาม
ผมรู้จักความเมา มาตั้งแต่เริ่มเป็นวัยรุ่น เมื่อแรกดื่มน้ำอมฤต ของลุง ที่แกเล่นใส่น้ำแข็งไว้เต็มกระป๋องนมผงตราหมี(สมัยก่อน)แล้ว เทแม่โขงลงไปจนเต็ม
ลุงผมจะดื่มวันละ สามกระป๋องเป็นปกติ โดยเฉพาะเวลาที่แกนั่งเล่นหมากรุกท้ายสวนติดคลองกับเพื่อนๆ
พอผมเริ่มเป็นวัยรุ่น ยังไม่เท่าไร แกก็จับผมมา แล้วกรอกปากผมด้วยน้ำอมฤต แรกดื่ม รู้สึกว่ามันขม มันเหม็น แต่พอผ่านคอลงไปสักพัก มันช่างมีความสุขแบบแปลกๆซะนี่กระไร.............จากวันนั้น เจ้าน้ำแบบนี้ ก็กลายเป็นเพื่อนสนิทกะผมจนถึงปัจจุบัน
สุรา เบียร์ หรือน้ำเมาต่างๆ ผมพยายามค้นหาประวัติของมัน อยากรู้เหลือเกินว่า ใครหนอเป็นคนคิด คนทำขึ้นมาคนแรก น่าจะมีคนทำอนุเสาวรีย์ให้ เพราะ น้ำเมานั้น อีกด้านหนึ่ง มันคือ ความสุขเล็กๆของมนุษย์ มันเป็นช่วงเวลาหฤหรรษ์ในต่อมอารมณ์ลึกของสุราชน ตราบใดที่ดื่มไปแล้ว เราไม่ไปล่วงละเมิดสิทธิของผู้อื่น ไม่ไปขับน้ำอับเฉารดหน้าบ้านคนอื่น
ความเมาไม่เคยปรานีใคร.........บางท่านดื่มไปสักเล็กน้อย ก็เริ่มเมา บางท่าน คอทำด้วยแป๊บทำด้วย ทองแดง ดื่มไปจนหมดลังก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเมา (แต่อาจเมาแล้วก็ได้) แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสุขภาพมากกว่า บางคนอดนอนมาหลายคืน ดื่มไปแค่สองจิบ เมาแล้ว แต่หากวันไหนสุขภาพแข็งแรง พักผ่อนเต็มที่ ดื่มแต่เช้ายันดึก ก็ไม่ค่อยเมา
ความเมาที่เป็นความสุขอย่างแท้จริงนั้น ก็คือ เมาแล้วต้องไม่ทรมานตัว เมาแล้วไม่โดนปลาห้าหัวดีดใส่ เมาแล้วไม่เผลอเอาหัวไปโขกไม้หน้าสาม เมาแล้วไม่ขับรถ เมาแล้วไม่ไปแหกปากตะโกนหาคนมาช่วยนวดร่างกายด้วยมือและเท้า
คนเมาก็มีหลายรูปแบบ
บางท่านเมาแล้ว หลับ ดูไปก็น่ารักดี แต่มันหลับไม่ตื่น บางทีก็ไม่น่ารัก โดยเฉพาะเวลาเช็คบิล มันก็หลับ(อาจแกล้งหลับ) เราเลยต้องจ่ายคนเดียว เพราะมันเมาหลับ
บางท่านเมาแล้ว วิญญาณนักร้องเข้าสิง กินไปสามแก้ว ร้องเพลงไปสิบเพลง ประเภทนี้เวลาไม่เมา อย่าว่าแต่จะร้องเพลงโอเกะเลย ขนาดเพลบงชาติมันยังร้องแล้วคนอื่นต้องเอามืออุดหู แต่พอเมา ดันร้องเพลงเป็นเรื่องเป็นราว
บางท่านเมาแล้ว วิญญาณแดง ไบเล่ย์ เข้าสิง มองหมาแมว มด ปลวก รวมไปถึงไอ้ตี๋ลูกอาโกเจ้าของร้าน เป็นพวกคู่ปรับไปหมด ตามันจะขวางๆ หาเรื่องคนอื่นเหมือนหมาบ้าหน้าร้อน ประเภทนี้ ผมจะบอกศาลา ไม่ขอกินด้วยเด็ดขาด เพราะกลัวไม่แก่ตาย แต่จะตายเพราะมันเมานี่แหละ
บางท่านเมาแล้ว วิญญาณหื่นกามเข้าสิง วัวตัวเมียเดินผ่านวงเหล้า มันก็ยังบอกว่า สะโพกสวย ทำตาเยิ้มใส่ ประเภทนี้อย่าให้ไปกินเหล้าที่บ้าน หากท่านมีน้องเมียสวย เพราะมันจะแทะโลม และทำตนปากหมาใส่ ซึ่งท่านจะทนไม่ได้ที่มันบังอาจมาจีบแทะโลมน้องเมีย(ที่เป็นผู้หญิงนะ) หรือบางคนก็เอาแต่ชวนไปหาน้องนาง ทั้งที่เหล้าก็เหลืออีกตั้งเยอะ แต่พอกินไปหน่อยก็เริ่มหื่นแล้ว ชวนไปหมด หาเพื่อนไปให้ได้ อันนี้ต้องปล่อยมันไป ไม่งั้น เราจะนั่งดื่มอย่างไม่มีความสุข คอยระวังข้างหลังตลอดเวลา
บางท่านชอบเมาแบบเม็ดเล่ย์ ซึ่งผมสมัยหนุ่มฉะกรรจ์ ก็ชอบ คือ กินร้านหนึ่ง บ้ายไปอีกร้านหนึ่ง ตั้งแต่บ่าย ยันตีสาม ย้ายไป ห้าร้านได้ ที่เป็นเช่นนี้ก็ดีไปอย่าง เพราะ จะได้เพื่อนใหม่ๆ หรือหากตรงกันข้ามก็จะได้แผลใหม่ๆจากโก๋ร้านใหม่แทน
บางท่านชอบเมาแบบสุลต่าน คือเวลาเมา ต้องมีน้องๆ หน้าตาจิ้มลิ้ม มาคอยป้อน คอยชง อันนี้ผมไม่ค่อยชอบ เพราะเธอจะชงแก่บ้าง อ่อนบ้าง พอต่อว่าเข้า เธอก็บอกว่าเธอชงแก่หรืออ่อน ตามหน้าตาของคนดื่ม.........มิน่าเธอชงให้ผมแก่เชียว ผมเลยไม่ชอบด้วยเหตุนี้
บางท่านชอบดื่มที่บ้าน โดยมีแม่อีหนูแม่ไอ้หนูเป็นแม่ครัวทำให้ ดื่มแบบนี้ ก็ดี เพราะแม่บ้านเธอเห็นว่าอย่างน้อยก็ไม่ไปยุ่งกะสาวที่ไหนเวลาเมา เมาแล้วก็กินน้ำพริกถ้วยเดิมที่บ้าน
ยังมีเมาๆอีกหลายแบบ อยากให้เพื่อนๆมาคุยกันเรื่อง เมาๆ เบาๆ ในวันหยุด ครับ
ผมขอตัวไป เติม หน่อย เด๋ว มา
จากคุณ :
นายชด
- [
23 เม.ย. 48 11:52:52
]