ความคิดเห็นที่ 1 ระยะนี้ ข่าวคณะกรรมการสมานฉันท์ กำลังมาแรง เลยขอยกกลอนที่แต่งไว้ มาต่อครับ อันความรัก ถักไป ด้วยไอรัก ผลประจักษ์ แก่ใจ เพราะใจถาง รักต่อรัก นานไป สุขไม่จาง นี่คือทาง สู่รัก สมัครใจ มิตรไมตรี มีได้ ด้วยใจเปิด ต่างวิถี กำเนิด เกิดหนไหน คุณค่าคน วนถึง ทุกคนไป มิตรที่แท้ เกิดได้ ถาวรกาล ต่างการเมือง ต่างใจ โกรธไยหนอ ดอกไม้หลาก สีคลอ ละออหวาน ต่างความเห็น แลกไป ไม่เสียกาล เปิดใจพิศ กันนาน จักเห็นใจ พี่น้องที่ เข้ามา ท่าทางแน่ ห่วงแผ่นดิน เมืองแม่ มองออกได้ เมื่อเป้าสุด ตรงกัน หวั่นทำไม ถกเถียงไป เพื่อสร้าง ทางที่ดี มาแต่งเติม มุมมอง ผองคนชิด ก่อสัมพันธ์ สนิท เนืองน้องพี่ การเมืองเน่า แค่ไหน ใส่ใจดี แต่งความหวัง ด้วยกวี เป็นศรีไทย ชาติจะรุ่ง ด้วยชน สนใจเฝ้า เรื่องการเมือง เรื่องเรา ใ่ช่ใครไหน ร่วมสานแต่ง แนวทาง ถางถากไป หวังว่าไทย วัฒนา สถาพร.... สาธุ สวัสดี.../// แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 48 11:38:55 จากคุณ : piangdin - [ 28 เม.ย. 48 08:49:03 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สวัสดีค่ะ คุณเพียงดิน สายฝนสาดแทรกร้อน.........เพลาลง แต่มินานก็คง....................................ผ่าวได้ มีแดดสลับฝนหลง...........................ฤดูผ่าน ประหนึ่งยืนยันไว้.............................ว่าล้วนอนิจจัง วันนี้.. แถวๆ นี้ก็ฝนตกแต่เช้าตรู่เหมือนกัน   จากคุณ : อังศนา - [ 28 เม.ย. 48 10:45:14 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สวัสดีครับ คุณอังศนา เวลาผ่านไปเร็วเหมือนกันนะครับ นึกถึงสมัยเคยมา แวะเวียนบ่อย ๆ  สองปีผ่านไปแล้ว .... คน ๆ เดิม ชื่อเดิม แต่เรือนเท้าของผมเริ่มอพยพขึ้นที่สูง แฮ่ ๆ สงสัยจะหนีน้ำ เมฆฝนวนว่ายฟ้า................. เยือนดิน เปลวแดดเป็นมิตรผิน............ สลับซ้อน คอยเตือนว่าวารบิน............... ผันเปลี่ยน ใจหนึ่งควรสะท้อน................ เปลี่ยนด้วยวัฒนา รักหลงโลภโกรธด้วย............. อนิจจัง คงเปลี่ยนตามกำลัง............... สติท้า สังเกตุว่านวลหนัง.................  ยานหย่อน (ฮิ ฮา) ใจที่ธรรมนำหน้า....................  แน่แท้นวลตึง จากคุณ : piangdin - [ 28 เม.ย. 48 11:16:02 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ๐ฝนหนอฝนหม่นฟ้า....................เฟือนเฟือน หล่นร่วงพิรุณเฉือน......................เฉียดเนื้อ ชื่นดั่งแทรกเจ็บเตือน....................คมหยาด หมายนั่นสองด้านเยื้อ....................ย่ำย้ำจริง-ลวง ฯ สวัสดีค่ะ จากคุณ : malijauna - [ 28 เม.ย. 48 18:18:30 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ๐ ชีวิตลิขิตไว้..........................กรรมทวง เกิดแต่เนื้อใจทรวง...................ปวดร้าว จนเจ็บปวดเดือนลวง.................ปีผ่าน ค่ำขอดเขี่ยจันทร์ร้าว.................แหว่งแล้วลืมหาย ๐ ขี่เสือข้าเบื่อแล้ว.....................เปลี่ยนแนว โดดเดี่ยวเคยฉายแวว..................แหว่งเนื้อ หนึ่งปีปลอดคนแจว.....................เรือจอด คลอดถ่ายอำนาจเชื้อ...................เมื่อได้ครบเสียง สวัสดีท่านเพียงดิน ถ้าหนึ่งปีที่แล้ว มีกรรมการสมานฉันท์ ฆ่ารายวันคงไม่มากเท่านี้ จากคุณ : ๓s - [ 28 เม.ย. 48 19:31:08 A:203.113.37.6 X:203.151.140.116 TicketID:005068 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ฝนโปรยปรายสู่พื้น ......... พร่างพรม บัดโบกพร้อมแรงลม ....... เร่งเร้า ดังใจที่ตรอมตรม ........... ทุกข์หนัก น้ำหยดจากตาเศร้า ......... โศกสะอื้นอกผวา สวัสดีค่ะคุณเพียงดิน หายไปนานเลยนะคะ... ตอนนี้อยู่ กทม หรือเปล่าคะเนี่ย... ถ้าอยู่ไปสังสรรค์มีตติ้งห้องกวีกันนะคะ.... คุณหนึ่งกับคุณไนท์ก็เงียบๆไปเหมือนกันค่ะช่วงนี้ อยากให้มาพร้อมหน้าพร้อมกันตาจัง สวัสดีทุกท่านด้วยค่ะ   จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ 28 เม.ย. 48 21:09:04 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สวัสดีครับ คุณmalijauna คุณ ๓S และคุณชารา ไม่ค่อยมีเวลาได้มาทุกวันเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็แอบมาอ่านที่ราชดำเนินบ้าง ทนไม่ไหว ก็เขียนโคลงตอบพอหายคิดถึง บางทีการได้ มาทักแล้วไม่ได้อยู่พูดคุยก็จะกลายเป็นไม่มี น้ำใจหรือไม่มีมารยาท ก็เลยทำตัวเป็นพ่อสายบัวครับ แต่ก็แอบภูมิใจกับสิ่งที่เพื่อน ๆ ได้ทำที่ผ่านมา ลมหนาวยามห่างบ้าน............... หนาวตรึง ยังไม่เทียบลมคนึง.................. ห่วงบ้าน ฝนตกร่วมลมหึง..................... สนั่น มองกลับเรือนสะท้าน..............  ดั่งด้วยพายุครืน ยังหวังวันผ่านแล้ว................... ลมเพลา มืดผ่อนหนาวบรรเทา............... ผ่านฟื้น ดวงใจที่เคยเขลา..................... กลัวหวาด กลับชุ่มอกใจชื้น...................... มุ่งหน้าสันติทาง ยังไม่ได้กลับครับ คุณชารา หากมีโอกาสเมื่อไหร่ ได้เจอหน้ากันแน่ครับ จากคุณ : piangdin - [ 29 เม.ย. 48 00:24:38 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อากาศร้อนอบอ้าว................ครอบคลุม แสงส่องรังสีรุม....................รุ่มร้อน ลมพัดโบกเมฆสุม................ก้อนกลุ่ม ดำทะมึนเตรียมฟ้อน.............อย่างนี้มานาน เปรียบปานจิตมนุษย์นั้น.........เวียนวน คิดสลับหมุนเวียนจน.............ขุ่นข้อง รู้ตามติดอาจฉงน..................ไม่สร่าง เกิดดับวัฎจักรต้อง.................ปรับแก้บางที สายฝนที่พร่างพลิ้ว................โปรยปราย หยาดละอองกระจาย..............ฉ่ำชื้น ทุกข์ร้อนดับสลาย..................ตามแต่ มิติลึกหนาตื้น........................รับรู้ต่างกัน " สวัสดีค่ะ คุณเพียงดิน และทุก ๆ ท่านค่ะ " จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 29 เม.ย. 48 00:52:44 ]

ความคิดเห็นที่ 9 สวัสดีครับคุณยี่หร่า ธรรมดาบัวคู่น้ำ.................. ดอกคลอ นับสี่พวกตามกอ................ ดอกแย้ม การแลกเปลี่ยนจึงพอ.......... เสริมส่ง บัวลุ่มโคลนจนแต้ม............. อาจได้สติตาม ใจคนฤาอยู่พ้น................... กิเลสจริง เพียงแค่เผลอดังลิง.............. หลอกข้าม กระโดดดั่งลิงสิง.................. ดีแย่ การนั่งคุมหัดห้าม................. นั่นแท้บัวบาน อัตตาคือสิ่งกั้น.................... พัฒนา มันปิดหูบังตา...................... ดักด้าน ฉันถูกเก่งตีตรา.................... ตลอด ใครขัดความคัดค้าน.............. นั่นแท้ศัตรู รักจนหลงต่อเชื้อ.................. อวิชชา หรือโกรธจนปัญญา............... อุดอู้ ลางทีปล่อยโลภา.................  กำกับ หลายอย่างถึงเรารู้................  กิเลสนั้นมิถอย การขีดเขียนแต่งสร้าง............ โคลงกวี จึงดั่งดัดอินทรีย์.................... อ่อนคล้อย การตัดแต่งพฤกษี................. ใบผลิ การแต่งใจใสร้อย................. จึ่งต้องทำเสมอ หวังว่ากวีการเมืองคงยั่งยืนต่อไปนะครับ จะมาเป็นแขกเมื่อมีโอกาสครับ จากคุณ : piangdin - [ 29 เม.ย. 48 01:56:50 ]

ความคิดเห็นที่ 10 การเมืองบางครั้งอาจ...........ร้อนแรง ความคิดย่อมแสดง...........................ต่างได้ บ้้างดุเด็ดเผ็ดแผลง...........................พาสนุก บ้างอ่อนหวานเฉกใช้........................ชุบน้ำผึ้งเขียน เราเวียนแวะถักร้อย...........รวงกวี เห็นต่างเราถ้อยที...........................ทะเลาะบ้าง เราปะทะเสียดสี...............................ประสานศัพท์ ส่งรับหวังเสกสร้าง..........................ต่อสร้อยวรรณศิลป์ เมื่อลิ้นเลือกรู้รส............โอชา ตาเลือกสิ่งโสภา.........................พิศแล้ว หูขอเลือกวาจา............................สมานจิต ถูกจริตกวิแก้ว..............................กลัดเสี้ยวสุนทรีย์ วันนี้ไม่มีฝน.. แต่อยากรำพึงกับตนเองบ้าง   จากคุณ : อังศนา - [ 29 เม.ย. 48 20:10:58 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แวะมาอ่านครับ จากคุณ : จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร - [ 30 เม.ย. 48 12:36:50 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ฝนพรำชุ่มฉ่ำน้ำ .............. เนืองนอง นี่แหละแผ่นดินทอง ......... ทุ่งฟ้า ธรรมชาติเผ่าเพื่อนผอง ..... ผืนป่า ประจักษ์ทั่วแหล่งหล้า ....... ต่างล้วนชื่นชม สวัสดีอีกครั้งค่ะ..... ดื่มกาแฟไปติ๊ดเดียวเองนอนไม่หลับเลย   จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ วันแรงงาน 02:44:54 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ได้เพียงแวะมาชมคำพี่ เพียงดินร่ายวจีสวยสม อังศนาชาราว่าก็น่าชม น้องดอกหญ้ารสขมก็กลมกลืน เรื่องคารมว่าไปไม่กล้าเทียบ มาเรียบเรียบเคียงใกล้ไม่อยากฝืน เพราะใจอยากทักกันทุกวันคืน เลยระรื่นกรองคำสวัสดี... สวัสดีครับ.... จากคุณ : Scientist - [ 3 พ.ค. 48 05:06:07 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ฟ้าฝนหล่นครู่ครั้ง...............พอทน แตกต่างจากใจคน..............ร่วงแล้ว ร่วงเลยละเลยหน................หวนกลับ ดังกรีดกระจกแก้ว..............กร่อนให้เป็นรอย จากคุณ : สอมอ - [ 4 พ.ค. 48 14:07:53 A:61.90.1.141 X: TicketID:033340 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ฝนนำความชุ่มชื้น...........ตามมา น้ำท่วมท่วมน้ำตา............หยดย้อย ฝนแล้งก็โศกา...............กลัวอด เฝ้าโทษฟ้ามากน้อย........เท่าน้ำตาตน จากคุณ : สอมอ - [ 4 พ.ค. 48 14:15:59 A:61.90.1.141 X: TicketID:033340 ]