CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    โกหก ซ้อนโกหก

    http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9480000081339

    โดย โจนาธาน สเกล
         
          บางทีความจริงทางประวัติศาสตร์ที่ใหญ่โตและสลับซับซ้อนอาจจะปรากฏออกมาเป็นเนื้อข่าวเพียงสั้นๆ เหมือนเช่นสงครามในอิรัก ที่สองนักข่าวแห่ง นสพ.วอชิงตัน โพสต์ คือ แอนโธนี ชาดิด กับ สตีฟ ไฟนารู ช่วยกันเขียนเล่าข่าวชิ้นหนึ่ง ชื่อว่า ‘การสร้างกองทัพอิรัก : ภารกิจที่เป็นไปไม่ได้’ นักข่าวทั้งสองได้ทำในสิ่งที่มีคนทำเช่นนั้นน้อยนัก คือไปใช้ชีวิตอยู่กับทหารหน่วยใหม่ของอิรักที่กองทัพสหรัฐฯ ฝึกให้ (เนื้อเรื่องก็ทั่วๆ ไปคือสัมภาษณ์ทหารอเมริกันหลายนายที่ประจำการอยู่ในเขตเขียวในกรุงแบกแดด ว่าพวกเขาคิดว่าจะต้องอยู่ที่นั่นไปอีกนานแค่ไหน)
         
          ข่าวดังกล่าวเริ่มต้นโดยโปรยเนื้อเพลงประจำกองร้อยหน่วยซี (ชาร์ลี คอมปานี) ที่มักให้ทหารในหน่วยตะโกนร้องกันเสียงดังหูดับตับไหม้ให้ครูฝึกอเมริกันฟัง เนื้อร้องเกี่ยวกับซัดดัม ฮุสเซน ความว่า
         
         
    ตอนท่านจาก พวกเราถูกถางถาก หม่นไหม้

         
         
    ยามท่านไป เราแสนอาลัย อยากให้ท่านปกครอง

         
          สื่อมวลชนอเมริกันมักจะเอาการเมืองของฝ่ายกบฏออกมาตีแผ่ แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่เห็นมีผู้ใดวิจารณ์เรื่องที่ว่าทหารที่กองทัพสหรัฐฯ ฝึกให้พวกนี้ใฝ่ฝันอยากให้ซัดดัมกลับมาอีก หากถือเอาเรื่องนี้เป็นเรื่อง หรือคิดว่านี่เป็นสัญญาณว่าทหารหน่วยนี้คัดค้านการยึดครองแล้ว แทนที่สหรัฐฯ จะสร้างความมั่นคงและปลอดภัยมาให้อิรัก กลับกำลังฝึกคนที่ต่อไปในอนาคตจะมาต่อต้านตัว
         
          และที่จริงทหารในกองร้อยชาร์ลีบอกชาดิดกับไฟนารูว่า เมื่อเร็วๆ นี้ มีพรรคพวกของเขาลาออกไป 17 คน และเสริมว่าทันทีที่มีโอกาสพวกเขาจะลาออกทั้งหมด เหตุผลพวกเขาง่ายๆ คือเกลียดอเมริกัน ทหารคนหนึ่งกล่าวว่า “หันไปดูบ้านคนอิรักสิ ถูกทำลายไปหมดแล้ว” พอถามว่าใครทำ ? พวกเขาก็ชี้ไปที่เหล่าครูฝึกอเมริกัน “ก็พวกนั้นไง”
         
          ชาวอิรักยอมมาเข้าเกณฑ์ก็เพราะเงินเดือน US0 เหรียญ อันเป็นรายได้ที่น่าอิจฉาสำหรับสภาพบ้านแตกสาแหรกขาดในอิรักทุกวันนี้ แต่เงินนี้ต้องแลกกับเกียรติภูมิของตนเอง ทหารใหม่เหล่านี้ถูกซื้อและชิงชังตนเองนัก คนหนึ่งบอกว่าหลังจากที่ทุกคนออกหมดแล้ว “เราคงต้องปล่อยไปตามกรรม แต่เราจะยังมีความภาคภูมิใจอยู่”
         
          เราอาจสงสัยว่านักข่าวทั้งสองนี้อาจจะเผลอไปเลือกอยู่กองร้อยกบฏก็ได้ แต่ดูตามข้อเท็จจริงกองทัพสหรัฐฯ เองที่เป็นฝ่ายคัดเลือกกองร้อยชาร์ลีให้มาออกหน้าตัว
         
          การที่นายทหารสหรัฐฯ รับผิดชอบการคัดที่ห่วยๆ เช่นนี้ ก็เป็นอีหรอบเดียวกับความพยายามของสหรัฐฯทั้งหมดในประเทศอิรัก คือนายทหารเหล่านี้รับผิดชอบภารกิจที่ตนได้รับไปอย่างแกนๆ
         
          หลังจากหน่วยนี้ถูกโจมตีแล้วหนี (มี 4 คน เรียกแท็กซี่หนีไป) จ่าริก แมคโกเวิร์น หัวหน้าหน่วยก็เรียกหน่วยของตัวไปด่า “พวกแกนี่ขี้ขลาดชะมัด รู้ไหมว่าพวกเรามาอยู่ที่นี่ จากบ้านจากช่องมาเป็นปี พวกเราพร้อมจะตาย เพื่อแกจะได้มีเสรีภาพ พวกแกควรยินดีที่จะตายเพื่อเสรีภาพของตนเองบ้าง” การดุด่าแบบเสียๆ หายๆ เช่นนี้แสดงว่าทั้งชาวอเมริกันและชาวอิรักไม่มีมูลเหตุใดๆ ที่เหมือนกันเลยแม้แต่น้อย
         
          หากเขาปฏิเสธที่จะยิงคนอิรักที่เกลียดชังการยึดครองของอเมริกัน คนพวกนี้ก็ไม่ใช่คนขลาด ตรงกันข้ามยิ่งกล้ามากก็จะยิ่งไม่ยอมให้ตนตกเป็นเครื่องมือรบในสงครามแบบนี้มากขึ้น จริง ๆ แล้วคนในกองร้อยชาร์ลีไม่ค่อยมีความกล้า คือกล้าที่จะปฏิเสธเม็ดเงิน แล้วแสร้งทำทีเป็นต่อสู้เพื่อมูลเหตุที่ตนเกลียด ช่วงที่พวกเขาขี้ขลาดที่สุด (ว่ากันตามที่พวกเขาศรัทธานะ) ก็คือทนนั่งให้จ่าริกด่า พลฯ อามาร์ มานา ทหารคนหนึ่งในกองร้อยอธิบายเรื่องนี้ได้ชัดมาก “เราไม่อยากรับผิดชอบ หากสถานการณ์เป็นแบบนี้ ต่อให้เป็นพันปี เราก็ไม่อยากรับผิดชอบ”

    จากคุณ : เซคริยาห์ - [ 19 มิ.ย. 48 22:38:57 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป