ความคิดเห็นที่ 51
ส่วนเรื่องมันมีความจำเป็นอย่างไร? ในทางยุทธศาสตร์นั้น ผู้ปฎิบัติเขารู้ดีผมไม่กล้าไปก้าวก่ายเพราะไม่ใช่หน้าที่ และไม่แน่ใจว่าของผมถุกต้องที่สุดหรือยัง) แต่ที่ผมจะยกมาให้เห็นถึงความจำเป็น ในทางยุทธศาสตร์ที่ผมเคยเสนอไว้(ไม่เกี่ยวกับของใคร เอาเป็นว่าความจำเป็นในระดับปฎิบัติจริงๆต้องไปถามคนปฎิบัติเอง)
ผมจะพูดในส่วนของผมกับการนำเสนอ กับกลยุทธ"ปิดประตูตีแมว" สัมภเวสีผีผู่ก่อการร้ายพวกนี้ ที่จะต้องสอดคล้องกับ แนวทางสมาฯฉันท์ กับยุทธศาสตร์ การรบกับผี นั้นคือ
"""เปิดไฟเปิดใจ,ลดเงื่อนไข,พัฒนา,ทำปัญหาให้เล็กลง"""
ที่ผมเคยเสนอไว้ในกระทู้นี้
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P3606858/P3606858.html
และกระทู้นี้
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P3583514/P3583514.html
ผมเห็นว่า ปัญหาการ"""ลดเงื่อนไข"""ที่ผมถือเป็นหัวใจหลักอันหนึ่งของยุทธศาสตร์นี้สำหรับการที่จะนำไปสู่การทำปัญหาให้เล็กลง หรือจำกัดบริเวร(กรรม) ของวิบัติกรรมอันนี้ เพราะการที่เราจะใช้กลยุทธ" ปิดประตูตีแมว " ในพื้นที่ได้ เราจะต้องลดปัญหาอุปสรรค หลายๆด้านที่รวมทั้ง มิติของนิติศาสตร์(กฏหมายนี่ก็สำคัญ) ไม่ต่างจาก มิติของรัฐศาสตร์ความมั่นคง หรือ มิติทางสังคมศาสนา
ผมว่าเรื่องนี้ท่านนายกได้สะท้อนปัญหาระดับปฎิบัติไว้ชัดเจนแล้วผมคงไม่ขยายความ เราจึงต้องลดเงื่อนไขในปัญหาอุปสรรคในการที่เราจะเข้าไปควบคุม วิบัติกรรมพวกนั้นไม่ให้ไปเบียดเบียนใคร นั้นคือขีดกรอบจำกัดบริเวณ แต่ที่สำคัญในทางยุทธศาสตร์ที่จะสอดคล้องกับแนวทางสมาณฉันท์ นั้นคือ"สลายพฤติกรรมของวิบัติกรรมนั้นด้วยความคิดความเชื่อที่ถูกต้องกว่า"
นั้นคือปรัชญาหลักของการรบกับความต่างของคิดความเชื่อ แต่บางครั้งในบางเงื่อนไขของสถานการณ์ระดับปฎิบัติ ในการระงับเหตุในพื้นที่ที่มีรัสมีเส้นรอบกรรมพิเศษแบบนั้น การใช้กลยุทธค้นหาทำลายล้าง(ตามแบบอเมริกาแบบเดิมนั้นไม่สมควรใช้ยกเว้นจำเป็นจริงจริง เพราะมันทำลายได้แค่สังขารความเชื่อ??? อย่างเช่นการยิงหมาบ้า แม้จะเป็นหมาที่เรารักที่สุด แต่ถ้าควงปืนอาก้ามาเราก็ต้องป้องกันตัวหรือระงับเหตุเพราะแบบถ้าใช้เป็นยุทธศาสตร์หลักนั้นตายหนึ่งเกิดแสน)
แต่ควรจะใช้กลยุทธค้นหาควบคุมตัวหรือ ขีดกรอบจำกัดบริเวร(กรรม) ให้เล็กลงเรื่อยๆจนถึงนำไปสู่การสลายพฤติกรรม(วิบัติกรรม)นั้นให้ได้ ตัวช่วยที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่นอกเหนือจาก การหว่านเมล็ดพันธุ์ความเชื่อที่ถูกต้อง ผ่านโครงสร้างอัตลักษณ์ทางศาสนา และอื่น รวมกับเรากำลังพูดถึงคือกฎหมายแบบนี้ มันจึงมีความสำคัญต่อระดับปฎิบัติและระดับยุทธศาสตร์มาก
นั้นคือการควบคุมจำกัดบริเวรในปัจจัยภายใน รวมทั้งยุทธศาสตร์หลักที่สำคัญคือปัจจัยภายนอก กับการทูตการทำความเข้าใจที่ถูกต้องกับนานาประเทศ โดยเฉพาะประเทศมุสลิม ที่สำคัญข้างบ้านที่ปากว่าตาขยิบ นี่คือปัจจัยหลัก ที่จะเป็นเงื่อนไขที่เราจะต้องเร่งลดเพื่อจำกัดบริเวรปัญหา เพื่อนำไปสู่การตัดแข้งตัดขา การเชื่อมโยงจากสัมภเวสีไปถึงนักรบผีเสียงจริงสากล จนไปสู่กลยุทธ"ปิดประตูตีแมว"
ผมจึงอยากให้เรามองกฎหมายนี้ให้เป็นแบบวาระแห่งชาติไม่ใช่วาระ"สหบาท" คือเอาเหตุเอาผลเอาปัญญา,วิชาการ ไม่ใช่ เอาปัญหาวิชาเกิน? อคติมาค้านกัน ผมเห็นด้วยว่าเรื่องนี้ต้องรอบคอบต้องมีสติก่อนนำไปใช้เหมือนกัน เพราะถ้าไม่รอบคอบแล้วผลกระทบมันค่อนข้างมาก และไม่ชัดเจนในรัสมีของผลกระทบนั้น ด้วย???
จากคุณ :
ตอม
- [
17 ก.ค. 48 16:38:24
A:58.10.50.243 X: TicketID:001922
]
|
|
|