PANTIP.COM : P3646621 คุณคาดว่า "คณะรัฐมนตรีทักษิณ2/2" จะทำงานได้ดี มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมหรือไม่? [การเมือง]

ความคิดเห็นที่ 18

เปลวสีเงิน
จะเอาอะไรมากกว่านี้?

4 สิงหาคม 2548 กองบรรณาธิการ

ปรับ ครม.ทีไหน เป็นต้องมีเสียง ยี้-ฮี้-ฮ้า ขึ้นมาทีนั้น ก็สามารถแยกท่าทีตอบสนองไปได้ 2 ทางใหญ่ๆ คือ ส่วนหนึ่งก็ชอบ อีกส่วนหนึ่งก็ไม่ชอบ ซึ่งมันก็เป็นอย่างนี้

ทุกครั้ง-ทุก ครม.-ทุกรัฐบาล และก็จะเป็นอย่างนี้ไปตราบนิรันดร์กาล เพราะคน "มีหัวใจ" นี่ครับ!

กับ ครม.ทักษิณ 2/2 และกับ 17 รัฐมนตรีที่ถูกสลับ-ปรับ-เปลี่ยน อันมีทั้งเก่าออกไป ใหม่เข้ามา และมีทั้งคงของเดิมไว้ แต่หมุนเก้าอี้กันไปมา

ท่านจะมองในมิติไหน ก็เป็นได้ทั้งนั้นครับ!

จะว่าเป็นแฟมิลี่คาบิเนต หรือจะเป็นนายหญิงคาบิเนต หรือจะเป็น ครม.ชุดเสือจนตรอก หรือกระทั่งว่า ครม.ชุดรอตาย

มันก็ทั้งใช่ และไม่ใช่ เพราะทั้งหลายทั้งปวง ทั้ง 17 คน สรุปรวมอยู่ในตัวคน 1 คนเท่านั้น คือ

นายกฯ ทักษิณ!

จะร้อยปรับ หมื่นปรับ จะร้อยคน หมื่นคน ก็แค่ "ร่างทาง" ทักษิณแต่ผู้เดียว ฉะนั้น คนที่นายกฯ ทักษิณตั้งมาเป็นรัฐมนตรีในกระทรวงหลักๆ ก็จะต้องเป็นคนที่ คิดตาม-พูดตาม-ทำตาม ท่านได้เท่านั้น ฉะนั้น ไม่ต้องดูหน้า-ดูชื่อหรอกครับว่าใครจะมา-ใครจะไป

มาก็ "มาแต่ตัว"

ส่วน "สมอง" ถอดกองไว้ที่บ้านโน่น

จะเอาติดตัวมาใช้คิดอ่านทำอะไรด้วยสติปัญญาของตัวเองไม่ได้หรอกครับ

ก็ต้องเลือกเอาอย่าง ระหว่างศักดิ์ศรีทางปัญญา กับคำว่าบุญหนักศักดิ์ใหญ่บนเก้าอี้รัฐมนตรี

ภายใต้นิ้วชี้ทักษิณ!

เมื่อทำความเข้าใจถึงกำเนิด "ครม.ทักษิณ" เช่นนี้แล้ว ผมจึงว่า ไม่มีความหมายที่ต้องกระเย้อกระแหย่งแย่งดูว่า ปรับ ครม.แต่ละที ทักษิณจะชี้นิ้วเอาใครมาเป็นบ้าง?

ถ้ายึดเอาการปรับ ครม.เมื่อ 2 สิงหา.นี้เป็นเกณฑ์ ก็พอจะจับหลักได้ว่า 1 ปี มี 12 เดือน นั่นคือ 4 เดือน เท่ากับ 1 เทอม ครม.

ฉะนั้น ถ้ารัฐบาลทักษิณยังอยู่ได้ครบปี ก็จะมีการปรับ ครม.ปีละ 3 ครั้งเป็นอย่างน้อย!?

พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกฯ เทอม 2 เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 48 ครม.ทักษิณ 2/1 ชิงตั้งหนีราหูเมื่อ 11 มี.ค. 48

และ 2 ส.ค. 48 ซึ่งห่างกันแค่ 4 เดือนกว่าๆ ก็ปรับเป็น ครม.ทักษิณ 2/2 ถ้ายึดตามนี้เป็นเกณฑ์ อีก 4 เดือนข้างหน้า คือราวๆ เดือนธันวา.ก็น่าจะปรับเป็น ครม.ทักษิณ 2/3

ถ้าไฟเศรษฐกิจและสังคมโหมร้อนเร็ว ก็อาจจะมีปรับแบบมินิ ครม.เป็นการซื้อปัญหาในเดือนตุลา.อีกซักรอบก่อนก็ได้

เอ๊ะ..ผมมองรัฐบาลทักษิณ "สั้น-ยาว" เกินไปรึเปล่าเนี่ย?

เข้าใจกันแล้วนะครับ เมื่อเข้าใจ ทีนี้เราก็มาลองไล่ดูเฉพาะตำแหน่งสำคัญกับตัวคนที่นายกฯ ทักษิณจับมาใส่บ้าง

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ จากคลังมาเป็นรัฐมนตรีพาณิชย์ O.K. ครับ

พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ จากรองนายกฯ-มหาดไทยมาเป็นรัฐมนตรียุติธรรม O.K. ครับ

นายจาตุรนต์ ฉายแสง รองนายกฯ ไปเป็นรัฐมนตรีศึกษาฯ O.K. ครับ

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ จากคมนาคมไปรองนายกฯ ควบรัฐมนตรีอุตสาหกรรม O.K. ครับ

นายทนง พิทยะ จากรัฐมนตรีพาณิชย์ไปเป็นรัฐมนตรีคลัง O.K. ครับ แต่มีข้อสังเกตแนบท้ายว่า นายทนงนี้เหมือนสัญญาณเตือนภัยทางเศรษฐกิจ มาเป็นรัฐมนตรีคลังเมื่อไหร่

สัญญาณเตือน "ตายยกแก๊ง" เริ่มทำงาน

ไม่เชื่อไปถามอดีตนายกฯ ชวลิตดูซีครับ!

นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล มาเป็นรัฐมนตรีคมนาคม O.K. ครับ

พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา ทิ้งเก้าอี้ ผบ.ทอ. มาเป็นรัฐมนตรีมหาดไทย O.K. ครับ

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ จากรัฐมนตรียุติธรรมไปเป็นรองนายกฯ O.K. ครับ

พลเอกชัยนันท์ เจริญศิริ มาเป็น รมช.คมนาคม O.K. ครับ

สรุปแล้ว ทั้ง 17 คนใน ครม.ทักษิณ 2/2 ผม O.K. หมดเลย!

เพราะผมดูรูปแต่ละท่านจากหน้าหนังสือพิมพ์ฉบับเช้าวานแล้ว มันช่างมหัศจรรย์แห่งแผ่นดินอะไรอย่างนั้น

เพราะทั้ง 17 หน้า 17 คน

หน้าเหมือน "น้องเต้าส่วน" ทั้งนั้น!

การปรับ ครม.หนนี้ที่จับตากันมากคือ "นายสุริยะ ณ CTX" ปรากฏว่าราคาหั่งเช้ง เมื่อคืนวันที่ 2 สิงหา. ประกาศออกมา

เก้าอี้รองนายกฯ + เก้าอี้รัฐมนตรีอุตสาหกรรม = 1 เก้าอี้รัฐมนตรีคมนาคม

สำหรับวงนอกที่ไม่มีความรู้ "เรื่องไส้" คาดหมายด้วยความต้องการซื่อๆ ให้ปรับนายสุริยะออกไปเลย เพราะบริหารไม่โปร่งใสในเรื่องสนามบินสุวรรณภูมิ

ครั้งนี้อาจผิดหวัง และต้องกลับไปนอนท่องอาขยานที่บ้านว่า "ทำดี ได้ดี มีที่ไหน ทำชั่ว แล้วได้ดี + มีถมไป"

สำหรับคนวงในที่พอมีความรู้เรื่องไส้ บอกว่าพอใจ และพอรับได้ตามอัตราต่อรองที่ตกลงกันระหว่างวังน้ำยม วังบัวบาน กับนายกฯ เพราะอัตรา 2 ต่อ 1 แถมอาจได้กำกับดูแลงานคมนาคมแทนนายวิษณุ

ก็แค่ย้ายข้าวที่เคี้ยวในปาก จากฟันกรามแก้มซ้าย ย้ายมาไว้ฟันกรามแก้มขวา

ปากเดิม คอหอย-ลูกกระเดือกเดิม

สรุปแล้ว เรื่องของคนที่ "รู้ไส้-รู้พุง" กัน มันก็ลงตัวแบบเบิร์ด..เบิร์ด..อย่างนี้แหละ!

แต่สำหรับอีกพวกหนึ่ง คือพวกที่ชอบ "กินไส้" เกิดความรู้สึกว่า ผลที่นายสุริยะได้รับจากการปรับ ครม.หนนี้ ไม่ได้สื่อถึงความบกพร่องโดยสุจริตของนายสุริยะต่อกรณี CTX เลย

ตรงกันข้าม กลับสื่อถึงการได้รับปูนบำเหน็จ รางวัลจากนายกฯ บนความดี-ความชอบจากการบริหารงานก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิอันเต็มไปด้วยปัญหาทุจริต คอรัปชั่น

ความจริงกลุ่มคนชอบกินไส้ คาดหมายกันล่วงหน้าแล้วว่า ถึงอย่างไรนายกฯ ทักษิณก็ "ไม่กล้า" กับนายสุริยะมากนักหรอก

เพราะ "สุริยะ" ทำอะไรเพื่อ "สุริยะ" คนเดียวซะที่ไหนล่ะ?

ฉะนั้น เมื่อมีผลออกมาอย่างนี้ ก็เป็นเครื่องยืนยันความคาดหมายของคนกลุ่มนี้เท่านั้นว่า

ที่เขาประเมินทักษิณล่วงหน้าไว้นั้น...ไม่พลาด!

แต่ทักษิณนั่นแหละ "พลาด" ในการตัดสินใจเช่นนี้

เพราะการคงนายสุริยะไว้ เพียงโยกไป-โยกมาพอเป็นพิธี ถือว่า "อำนาจการเมือง" เบ็ดเสร็จ

กำลังท้าทาย "อำนาจคุณธรรม"

กำลังท้าทาย "อำนาจประชาชน" ว่าไม่มีความหมาย ฉะนั้น "ผู้กุมอำนาจรัฐบาล" จะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ

เพราะ..ไม่มีอำนาจไหน "ใหญ่เกิน" อำนาจนายกฯ!

สำหรับคนนอก-เข้าใหม่ อย่างนายพงษ์ศักดิ์ ก็ดี พล.อ.อ.คงศักดิ์ ก็ดี พลเอกชัยนันท์ ก็ดี นายประวิช รัตนเพียร ก็ดี

ผมว่าหยุมหยิมเกินไปที่จะหยิบความเชื่อมโยงส่วนตัวของเขามาตั้งแง่ กระแนะกระแหน และมองด้วยมุมลบในการเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีครั้งนี้

เขาตั้งตัวเองไม่ได้หรอกครับ นายกฯ ทักษิณตั้งเขา และเขายินดีรับเพื่อมาทำงาน "ตามสั่ง" เท่านั้น

ก็อย่างที่ว่า ใครก็ไม่สำคัญ

สำคัญที่ว่า "ใจ" ต้องเป็นของทักษิณ!

ฉะนั้น ต้องให้โอกาส รอดูลีลางานของท่านเหล่านั้นก่อนซักระยะ

แต่มีอยู่คนที่เซอร์ไพรส์กันพอสมควรทั้งวงนอก-วงในคือ "นายเนวิน ชิดชอบ" เพื่อนผม แผ่รากคุมเกษตรฯ อยู่ดีๆ ผลัวะเดียวเด้งไปเป็น "รัฐมนตรีคอนโดฯ" ถ้าจะถามถึงสาเหตุที่ถูกย้าย ผมว่าเพราะนายเนวินรู้จักแต่ "เต้าส่วน" ไม่รู้จัก "เต้าซ้อ" ก็เลย..ซวย.

จากคุณ : GLX - [ 4 ส.ค. 48 08:18:29 A:203.148.249.90 X: TicketID:003373 ]