ความคิดเห็นที่ 1 เห็นด้วยกับการแปรรูป (อย่าพึ่งตาเขียวฟังเหตุผลก่อน)เพราะว่า ... เมื่อเจอประเด็นนี้ครั้งแรกผมก็ค้าน...แต่เมื่อนั่งคิดและพยายามไตร่ตรองดูผมคิดว่าคำตอบแรกของผมมองสั้นเกินไป ถ้าคิดให้ไกลอีกสักนิดจะพบว่าการที่รัฐจะลงทุนบริการประชาชนใหม่ๆ เช่นระบบขนส่งมวลชน ระบบน้ำเพื่อการเกษตร ฯลฯ หนี้ที่ลงทุนจะเป็นหนี้สาธารณะทันที ซึ่งหนี้ตัวนี้จะเป็นตัวที่ถูกประเมินพื้นฐานของประเทศและต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสมเท่านั้น ซึ่งตอนนี้เราก็รู้อยู่ว่าอยู่ในระดับที่สูง ดังนั้นถ้าเราไม่ปล่อยให้กิจการบางส่วนของรัฐ(รัฐวิสาหกิจ)ที่มีศักยภาพเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แล้วรัฐถือหุ้นใหญ่และมีองค์กรที่กำหนดราคาอย่างยุติธรรม เราก็จะไม่สามารถลงทุนบริการใหม่ๆได้ ดังนั้นเมื่อเลือกทั้งสองอย่างไม่ได้ คิดถึงข้อเสียที่เกิดขึ้นกับผลดีที่จะเกิดขึ้นจากใช้บริการใหม่ๆ ผมคิดว่าเลือกที่จะใช้บริการใหม่ๆมากกว่า ถ้าใครมีแนวคิดอะไรที่ดีๆที่ทำให้เราได้ทั้งการไม่แปรรูป และได้บริการใหม่ๆจากรัฐก็จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด จากคุณ : KDE - [ 25 ส.ค. 48 21:12:28 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แปรไปแล้วไม่ใช่หรือคะ โฆษณาในทีวีบอกว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตมหาชน หรือว่าเราฟังผิด? จากคุณ : mrguide - [ 25 ส.ค. 48 21:39:40 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แปรไปแว้วนี่  ยังทำไรได้อีกเหรอ เหอ ๆ ๆ รับกรรมกันดีกว่านะจ๊ะ จากคุณ : กาแลนท์เขียวเมืองนนท์ - [ 25 ส.ค. 48 22:10:03 ]

ความคิดเห็นที่ 4 กฟผ.มีคนที่มีความสามารถเยอะ  แปรรูปแล้วสามารถเพิ่มศักยภาพได้ มิฉะนั้นโดนระเบียบราขการมัดจนทำอะไรไม่ได้ตั้งหลายอย่าง หรือทำได้ก็ชักช้า ไม่ทันกิน เรื่องค่าไฟที่กลัวว่าจะแพงก็ไม่น่าเป็นห่วง เพราะโดนคณะกรรมการกำกับดูแลคุมอยู่แล้ว น่าจะเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ขายหุ้นไม่ได้ราคาด้วยซ้ำ แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 48 22:31:05 จากคุณ : ศิล - [ 25 ส.ค. 48 22:26:54 ]

ความคิดเห็นที่ 5 นั่นแหละ น่ากลัว อยากให้หุ้นตก ก็ ออกข่าวไม่ขึ้นค่า FT หุ้นตก ก็กว้าซื้อ พอถึงเวลาจริง ก็ขึ้นค่า Ft หุ้นก็ขึ้น ใครได้-ใครเสีย อ้อ เขาจดทะเบียนตั้งแต่ 24 มิ.ย. 2548 แล้ว คนที่ไม่รู้เรื่อง แสดงว่าตกข่าว ครับ จากคุณ : ritman - [ 26 ส.ค. 48 08:17:54 ]

ความคิดเห็นที่ 6 จะขึ้นค่าไฟแลวครับ ไม่ต้องเถียงกัน จากคุณ : Mr.Mouse - [ 26 ส.ค. 48 08:40:15 A:192.2.1.63 X:58.11.9.29 TicketID:085151 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ข่าวร้าย"ลอยตัว"ค่าไฟ ให้นักลงทุนต่างชาติมั่นใจแต่ให้คนไทยรับเคราะห์ก่อนกฟผ.เข้าตลาดหุ้น โพสต์ทูเดย์ - เตรียมลอยตัวค่าไฟฟ้า สร้างหลักประกันให้นักลงทุนต่างประเทศก่อนเอาหุ้นไปขาย ขณะที่คนภูธรต้องลุ้น เงินชดเชยค่าไฟหดหาย นายเชิดพงษ์ สิริวิชช์ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในวันนี้ จะมีวาระสำคัญคือ แผนการระดมทุนของ บริษัท กฟผ. หรือการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เดิม และการพิจารณาโครงสร้างค่าไฟฟ้าใหม่ ที่ทางสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ศึกษาแล้วเสร็จแล้ว รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การนำ กฟผ.เข้าซื้อ-ขายหุ้น จำเป็นต้องขอมติรับรองอย่างเป็นทางการ เพื่อนำไปบรรจุในหนังสือชี้ชวนยืนยันว่ารัฐบาลเห็นชอบให้นำหุ้น กฟผ.เข้าไประดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ และนับจากนั้นไป รัฐบาลจะปล่อยให้การบริหารของ กฟผ.เป็นไปโดยเสรี เหมือนกรณีของ บริษัท ปตท. จุดสำคัญก็คือ แผนการระดมทุนมีการกำหนดชัดเจนถึงการปล่อยลอยตัวค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) เพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงของเชื้อเพลิงที่ ใช้ผลิตไฟฟ้าในแต่ละช่วงเวลา ไม่ใช่ต้องเข้าไปแบกภาระต้นทุนตามนโยบายของรัฐ ก่อนการแปรรูป กฟผ. ต้องเข้าไปแบกรับภาระต้นทุนค่าเอฟที โดยในช่วงที่ผ่านมาเป็นวงเงินประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ";การกำหนดแผนระดมทุน กฟผ.จำเป็นต้องมีมติ กพช.ออกมายืนยัน เพื่อตอบ คำถามนักลงทุนต่างประเทศ ว่ารัฐบาลเห็นชอบกับแผนทั้งหมดทุกประเด็น เพราะนักลงทุนยังไม่มั่นใจ หาก กฟผ.เข้าตลาดหุ้น จะมีอิสระในการปรับขึ้นค่าเอฟทีมากน้อยเพียงใด"รายงานข่าวกล่าว อย่างไรก็ตาม นอกจากค่าเอฟทีแล้ว การ แปรรูป กฟผ.ยังมีปัญหาต่อเนื่องตามมา เพราะการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ.จะเชื่อมโยงกับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โดย กฟผ.จะขายไฟฟ้าให้อีก 2 การไฟฟ้า และที่ผ่านมามีการอุดหนุนด้านต้นทุนให้กับ กฟภ. เพราะมีต้นทุนสูงสุดในการกระจายขายไฟฟ้าในส่วนภูมิภาค เมื่อ กฟผ.ต้องเข้าตลาดหุ้น จึงเกิดปัญหาการชดเชยให้ กฟภ. โดยหากต้องชดเชยมาก จะกระทบกับราคาหุ้น แต่ ถ้าชดเชยน้อยจะเป็นปัญหาต่อประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าในต่างจังหวัด จึงยังเป็นประเด็นด้านนโยบายที่จะต้องพิจารณา ซึ่งทางออกที่มีการเสนอก็คือ จะมีการเขียนกว้างๆ ถึงเรื่องการชดเชยให้ กฟภ.ไว้เท่านั้น ที่ประชุมวันนี้จะมีการเสนอให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของ บริษัท กฟผ. จาก 6 หมื่นล้านบาท เป็น 8 หมื่นล้านบาท โดยมีแผนขายหุ้นในสัดส่วนไม่เกิน 25% และยังเสนอให้ กฟผ.คงสิทธิผูกขาดในการผลิตไฟฟ้า 50% ของการผลิตทั้งประเทศ ทั้งนี้ ตามแผนการลงทุนระยะยาว ปี 2548-2553 กฟผ.จะก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่อีก 4 แห่ง แห่งละ 700 เมกะวัตต์ มูลค่าเงินลงทุน 2 แสนล้านบาท ได้แก่ โรงไฟฟ้าสงขลา โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ โรงไฟฟ้าพระนครใต้ และโรงไฟฟ้าบางปะกง โดย กฟผ.จะรับผิดชอบทั้งการก่อสร้างและการบริหารงาน แต่หลังจากปี 2553 เป็นต้นไป การก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ๆ ค่อยเปิดให้เอกชนเข้ามาประมูลก่อสร้างในสัดส่วน 50% ของความต้องการแต่ละช่วงเวลา http://www.posttoday.com/newsdet.php?sec=news&id=46767 ... จากคุณ : = s u n a k u j i r a = - [ 26 ส.ค. 48 10:09:51 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แล้วพวกที่ประท้วงๆ ไปไหนหมดอ่ะ // แปรรูปกัน เงียบเชียบเลย.. จากคุณ : กรุณาใช้บริการช่องถัดไป - [ 26 ส.ค. 48 11:14:34 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แปรไปแล้วครับ แล้วคนที่ประท้วงก็ทำกันสุดความสามารถแล้วถ้าคุณติดตามข่าวจริง ๆ เค้าไม่ได้หายไปไหนหรอกครับ เค้าเป็นแค่คนกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้มีอำนาจและทรัพย์สินพอที่จะชนะทักษิณได้ ก็ต้องยอมรับแล้วคุณว่าจะทำอะไรได้อีกละ มีแปรแล้วแปรกลับได้หรือครับ มาดูผลรับจากการแปรรูปและสิ่งที่ประชาชนต้องเจอดีกว่า จากคุณ : บลู - [ 28 ส.ค. 48 17:42:15 A:203.107.196.132 X: TicketID:048449 ]