ความคิดเห็นที่ 1 เคสนี้...ทั้งมติชนทั้งแกรมมี่...มันต้มคนดู จากคุณ : Lotus under water - [ 16 ก.ย. 48 20:38:38 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ปั่นหุ้น ชัดๆๆเลยแบบบนี้ ต้มคนดู นี่นะ หนังสือพิมพ์คุณภาพ เหออออ จากคุณ : ... - [ 16 ก.ย. 48 20:48:18 A:58.9.176.44 X: TicketID:089498 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ก็ต้องจบแบบนี้แหละครับ ไม่งั้น แกรมมี่เอง ก็จะโดนคนต่อต้านหนักไปกว่านี้ ศิลปิน เทป เพลง ซีดี จะพลอยโดนต่อต้านไปด้วย ส่วนเรื่องจะเตี๊ยมกันมารึป่าวนั้น ไม่แน่ใจ ไม่ออกความเห็น จากคุณ : ช่างไฟ - [ 16 ก.ย. 48 20:49:47 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่จบแบบนี้ให้จบแบบไหนหละครับ . . . จากคุณ : IntoDreams - [ 16 ก.ย. 48 20:50:45 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เค้าคุยกันมาก่อนแล้วไง กลับไปอ่านข่าวอากู๋ให้สัมภาษณ์วันแรก ถ้าระแวงซักนิด จะไม่โดนหลอก จากคุณ : Can (ไทเมือง) - [ 16 ก.ย. 48 20:54:10 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ก็คิดดูละกันจากหุ้นที่สภาพคล่องต่ำมากๆๆๆ ตอนมีข่าวจะแย่งกันตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้นคืน หุ้น MATI ติดอันดับการซื้อขายสูงสุด 10 อันดับแรก นั้นหมายถึงว่ามีกลุ่มลวงโลก เอาหุ้นของตัวเองมาหมุน ซื้อขายทำกำไรไม่รู้กี่รอบ แล้วก็ฝากหุ้นไว้กับแม่งเมา (คือคนที่เข้ามาซื้อราคาแพงแถวๆ 16-18 บาท) จากนั้นก็หมดข่าว ราคาหุ้นตกเละ กลุ่มลวงโลกก็มารับ ซื้อคืนในราคาถูก งานนี้ win - win ครับ เป็นใครก็น่าจะ เดากันออกนะครับ จากคุณ : User - [ 16 ก.ย. 48 20:58:13 A:58.10.205.151 X: TicketID:107889 ]

ความคิดเห็นที่ 7 งานนี้สื่อใช้ประชาชนครับ จากคุณ : ตูม - [ 16 ก.ย. 48 21:05:14 A:58.10.185.217 X: TicketID:003637 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ฟังแล้วหมองครับ จากคุณ : mouse4006 - [ 16 ก.ย. 48 21:11:35 ]

ความคิดเห็นที่ 9 พลังประชาชน ????? บ้าหรือปัญญาอ่อนหรือป่าวครับ......... คุณลองไปเดินตามป้ายรถเมล์ หรือ ที่ไหนๆก้อตาม แล้วถามคนเดินถนนเรื่องแกรมมี่กับมติชน..... ร้อยละ 90 จะบอกว่า....... ก้อเรื่องของมันสิ!!!!!!!! ขอเหอะ........ จะเห่าจะหอน ก้ออย่ามาอ้างประชาชนเลย สื่อ......ยกหางตัวเองเกินไปหรือป่าว.....แหม นสพ.ของคนมีความรู้... พูดมาได้ ไม่กระดากปากหรือครับ จากคุณ : มาตรฐานชายไทย - [ 16 ก.ย. 48 21:14:45 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่หรอกครับ อาจจะเหมือนคุณสนธิ-สโรชาที่ถูกถอดกลางอากาศ อากู๋อาจโดนสั่งให้ถอนกลางอากาศก็ได้ฐานเคยเป็นตัวแทนซื้อหงส์แดง เป็นผลให้กระทบเบื้องบนของอากู๋ แต่ยังไงก็ยังได้กำไรนะ จากคุณ : Coppergold - [ 16 ก.ย. 48 21:14:58 ]

ความคิดเห็นที่ 11 win-win.....คุณช้างและอากู๋ loss-loss....กองเชียร์เบ๊อะและพวกทิ้งหุ้นตอน 4 บาท จากคุณ : 5555555 - [ 16 ก.ย. 48 21:31:39 A:58.10.219.104 X: TicketID:001768 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อย่าเอาเงินฟาดหัวกับทุกเรื่องเลยค่ะ เอะอะก็ฮั้วก็ฮุบ ชินกับพฤติกรรมของคนมีอำนาจกันมากเลยนะคะ เคารพคุณ can นะคะ แต่ไม่เชื่อค่ะ หลายอย่างที่พูดมา เหมือนมีวงใน แต่มันแบบ...ในไปอ่ะค่ะ ถ้าจะระแวงก็ต้องคลางแคลงใจคุณนี่ล่ะ เรียนด้วยความเคารพค่ะ จากคุณ : asterisk - [ 16 ก.ย. 48 21:35:47 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อย่างนี้แหล่ะสรุปวันจันทร์แมงเม่าคงตายเกลื่อนตลาด เพราะหุ้นมติชน คงติด floor เอ๊กๆๆๆ จากคุณ : มหานคร (มหานคร) - [ 16 ก.ย. 48 21:36:10 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าตื่นกระแสกันได้ทุกๆเรื่อง โดยไม่เอาข้อมูลจริงมาพูดกัน การทำธุรกิจในตลาดหลักทรัพย์มันมีเหตุมีผลมีลูกเล่นมากมาย ก็รู้กันอยู่ เรารับข่าวกันมาด้านเดียวโดยไม่มองมุมกลับกันเลยซึ่งด้านนี้น่าจะตอบโจทย์ที่แท้จริงได้  นิเทศศาสตร์ สร้างคนคุณภาพมาเยอะแล้วคนพวกนั้นก็กลมเกลียวกันแนบแน่น ช่วยเหลือเกื้อกูลกันมายาวนาน การเติบโตของธุรกิจแขนงนี้มาแบบ ข้ามาคนเดียวเป็นไปไม่ได้ ท่านพลาดกันตรงที่หลงเชื่อมือที่ สามต่างหาก ที่ว่ามีการเมืองซ้อนเร็น ซึ่งความจริงมันก็เป็นเช่นนั้น เพราะทุกค่ายทุกแขนงมีใครไม่แนบสนิทกับการเมืองบ้างไหนลองบอกมาซิครับ  แม้แต่คุณ สนธิเองยังเข้านอกออกในได้กับทุกฝ่าย  แต่ ธุรกิจมันก็คือธุรกิจ ทางใครทางมันตรงไหนเวลาไหนเกื้อได้ก็คุยกันถ้าไม่ได้ก็หลบก็ลีกกันไปกันทั้งนั้น นั้นคือสัจธรรมที่ทุกผู้ทุกแขนงปฎิบัติกันมายาวนาน  ขอบอกอีกเรื่องที่ท่านๆไม่เคยรู้หรือไม่รู้กันเลย อากู๋ นี่แหละ คือ มันสมองของ นักศึกษาสมัย 14 16 ตุลา สคริร์ปต่างๆที่ถูกส่งขึ้นไปบนเวที ในที่ต่างๆมาจากทีมงานที่มี อากู๋ นี่แหละเป็นผู้กลั่นกรองเป็นหัวหน้าทีม ไม่เชื่อลองถาม อาจารย์ ธีรยุทธ คุณเสกสรร และเหล่าผู้นำ นิสิตนักศึกษาดูสิ ถ้าคนเหล่านั้นกล้าที่จะพูดในสถานการณ์อย่างนี้นะขอรับ การเติบโตทางด้านธุรกิจของท่านๆเหล่านี้ไม่ได้บังเอิญนะขอรับ ก็ลองนึกดูแล้วกัน 40 ปลายๆ จนถึง 60 ต้นๆ  คนกลุ่มนี้เขาผ่านอะไรมาด้วยกันอย่างลึกซึ้ง ซึ่ง ท่านๆที่ อายุ ต่ำกว่าลงไปไม่มีทางจะเข้าใจหรอกขอรับ ผมเคยเขียนลงในหลายๆกระทู้แล้วว่าทุกๆเรื่องต้องมีเหตุและมีผล นิ่งๆไว้แล้วจะได้รู้ข้อเท็จจริงกันในไม่ช้า นักธุรกิจทำธุรกิจเพื่อให้ได้ซึ่งกำไรไม่ใช่ขาดทุน แต่ คนที่มาเสี่ยมคนอื่นๆต่างหากที่เราไม่รู้ว่าเขาหวังอะไรกัน เมื่อคืนดู รายการ สรยุทธ ยังงงอยู่ว่า TDRI มาทำอะไร TDRI ก่อตั้งมาโดย คุณ ภูษณ ปรีมาโนช ถ้าผมจำไม่ผิดต้องกราบขอโทษท่านด้วยเพราะ ท่านปลีกตัวไปถือศิลฟังธรรมเป็นกุศลของท่านแล้ว แต่ลูกแถวของท่านมาจากทีมงานของใครคอการเมืองยอมรู้ดีจริงมั้ยครับ ลองหาเหตุหาผลกันดู ผมไม่เข้าใครออกใครอย่านอกเรื่องแล้วตรองกันดีๆ ปัญญาจะเกิดครับ  อากู๋ กับ คุณ ขรรชัย ก็สำเร็จ กันในการ ตกลงธุรกิจกันเป็นที่พอใจไปแล้ว มือที่สามก็ม็อบ คนในคลั่งกันไปแล้ว ผมถามว่าแล้วเราได้อะไรบ้างครับ ตกลงที่ได้ คือ รวงข้าวหรือยอดหญ้าที่คาปากกันอยู่ ขอรับ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ถึงฝนจะตกน้ำท่วมหรือแล้งน้ำไม่มี เราก็ควรหาวิธีปลูกข้าวให้เรามีไว้บริโภค อย่าด่วน ปลูกหญ้าเพียงเพราะมันเร็วมันง่าย แต่มันระคายคอระคายทวาร เรามิได้เกิดมาแบบ ...... จะได้รับประทานได้เหมือนมัน จริงบ่ขรับ จากคุณ : morgue_room - [ 16 ก.ย. 48 21:48:21 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ตอบคุณ asterisk กรุณากลับไปอ่านคำสัมภาษณ์อากู๋วันแถลงข่าวครับ เค้าคุยกันแล้วครับ บอกว่าพี่ช้างยอมรับสภาพ และยังได้คุยกันถึงแผนงานอื่น ๆ มากมาย เค้าก็บอกแล้ว อยากได้มติชน ที่เป็นมติชน ไม่เข้ายุ่งเกี่ยว แต่ความหวาดระแวงทางการเมือง มันถูกนำไปขยายผล ในทางที่ไม่สร้างสรรค์ ความจริงกับความเชื่อ บางทีมันสวนทางกัน ผมพยายามมองโลกในแง่ดีให้เห็นหลายกระทู้แล้วครับ ถ้าผมบอกว่า งานหนังสือพิมพ์ มันไม่ได้มีแค่ กองบรรณาธิการ มันมีกองอำนวยการ กองโฆษณา กองการพิมพ์ กองการขนส่ง กองการจัดจำหน่าย นักข่าวมติชน ทำหน้าที่พวกนี้ทั้งหมดหรือไม่ครับ แล้วคนที่คบกันมา 30 กว่าปี จะมาตีหัวเพื่อนง่าย ๆ หรือแทงข้างหลังก็ไม่ใช่อีก แตถ้าเดินเข้าไปบอกเค้าตรง ๆว่า พี่ช้างผมขอมีหุ้นนะ แบบนี้ก็ต้องโดนถีบออกมาก่อนครับ ทำไมไม่มีคนมองในแง่ดีแบบผม ว่าหากแกรมมี่นำเนื้อหาของมติชน ไปขยายผลในทางสื่ออื่น สือที่หนังสือเข้าไม่ถึง เช่น วิทยุ-ทีวี แบบนี้มติชนก็มีมูลค่าเพิ่ม มีคนรับรู้ข่าวสารที่มติชนต้องการสื่อ ทำไม่ดีใจครับที่ประชาชนคนไม่อ่านหนังสือพิมพ์จะได้รับรู้ข่าวสารดี ๆ จากค่ายมติชน ถ้าคุณชอบ ศิลปวัฒนธรรม ให้คุณมอง จดหมายเหตุกรุงศรีฯ หรือ รอยไทย หากคุณชอบเรื่องธุรกิจ ให้คุณมองรายการตลาดหุ้นของช่อง 9 ข้อมูลข่าวสารที่มีค่านั้น ก็สามารถใช้ประโยชน์สองต่อสามต่อ แบบนี้มติชนเสียหายอะไรครับ หรือทำแล้วหวงไว้เป็นเศษกระดาษ คุณค่าของข่าว จะมีค่าแค่วันเดียว ชั่วโมงเดียว ไม่ใช่เหรอครับ พูดง่าย ๆ นักธุรกิจเค้าจะไปเก็บ ของเหลือใช้ของมติชนมาทำเงินเพื่อมติชน ทำไมไม่ชอบครับ จากคุณ : Can (ไทเมือง) - [ 16 ก.ย. 48 22:15:38 ]

ความคิดเห็นที่ 16 นักข่าวมติชนและนักวิชาการ... ชอบกลัวในสิ่งที่มองไม่เห็นไง ชอบกลัวในสิ่งที่ยังไม่เกิด.. ไม่ค่อยได้เอาเหตุและผลมา คิดกันเท่าไรหรอก ลุง.. จากคุณ : ... - [ 16 ก.ย. 48 22:21:57 A:58.9.176.44 X: TicketID:089498 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เค้าประกาศเทนเดอร์แค่ 11.10 บาทอยู่แล้วนี่คะ ไปแย่งซื้อราคาสูงกันทำไมหล่ะ เพราะคิดจะเก็งกำไรกันไม่ใช่เหรอ ถ้าจะโทษพวกปั่นหุ้นคงไม่ใช่มติชนหรอก เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีสภาพคล่องเลย ถ้าคิดจะปั่นจริงๆ ต้องมีการเก็บหุ้นมีวอลุ่ม ขืนซื้ซั้วปั่น ได้ค้างอยู่บนดอยกันพอดี จากคุณ : แอน (แอ่นแอ๊น) - [ 16 ก.ย. 48 22:25:54 ]

ความคิดเห็นที่ 18 พี่ๆครับฝากดูหัวข้อกระทู้อีกครั้งครับ แวะไปที่นี้ด้วยครับถ้ากรุณา http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P3742571/P3742571.html จากคุณ : mouse4006 - [ 16 ก.ย. 48 22:51:37 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณค่ะพี่ที่ให้คำแนะนำที่น่าสนใจ ทีนี้ขอถามต่อีกหน่อยนะคะ แล้วทำไมกู่ไม่เอาเฮรัลด์ ทริบูล ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ใหญ่และเป็น worldwide ทั้งๆที่เค้าก็อยากแต่งกะกู๋จะตาย และทำไมไม่เอากอง เด นาสต์ ซึ่งใหญ่กว่าฮาเช็ทท์ ฟิลิปาคี่ในโลกของนิตยสารคะ ราคาก็ถูกกว่า ได้โว้กมาดูเล่นโก้ๆ ด้วย เรียนถามด้วยความเคารพจริงๆนะคะพี่ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ จากคุณ : asterisk - [ 16 ก.ย. 48 23:03:18 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เห็นด้วยกับคุณแอนนะคะเรื่องหุ้น ก็อยากรวยแล้วเข้าไปเก็งกำไรกันเอง แล้วมติชนเค้กาไม่ได้มีการเก็บหุ้นนะคะ ถ้าจะเก็บก็อีกฝั่งที่เก็บมาซัก 4 เดือนได้แล้วมั้งคะ จากคุณ : asterisk - [ 16 ก.ย. 48 23:11:55 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อากู๋ เค้ามองออกแค่มติชน มองมติชน มันก็แค่นั้นนี่ครับ มองในตลาดข่าวหนัก ๆ มันมีเจ้าเดียวที่ไม่มีหนี้ และให้ผลตอบแทนที่ดีอยู่แล้ว เงิน 2,000 ล้านที่ว่ากู้มา คิดหรือครับว่า แกรมมี่ไม่มีเงินสดในมือ การไปเอาเงินธนาคารมาก็เพื่อบอกสังคมว่า ผมกู้มานะจากธนาคาร ไม่ใช่มีนายทุนที่ใหนหนุนหลัง ถ้าคุณเรียนสายนิเทศศาสตร์ อาจจะเข้าใจเรื่อง คอนเท้นท์ และ มีเดีย ไปศึกษาเรื่องนี้ หรือที่คุณสุเมธอธิบายให้ฟังแล้วนั่นแหละครับ เค้าทำทีวี - วิทยุ ในไทย ต้องการเนื้อหาแบบ มิติชน ครับ มองง่าย ๆว่า ตัวนี้ มั่นคง ให้ผลตอบแทนพอทนและสามารถพัฒนาตัวสินค้าในไลน์อื่น ๆได้อีก แล้ววันหนึ่ง คุณจะรู้ว่า กำไรจากการพัฒนาสินค้าตรงนี้ มันจะสูงกว่าที่มติชนทำมาทั้งหมด จากคุณ : Can (ไทเมือง) - [ 17 ก.ย. 48 01:02:06 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ในสมติฐานว่าแกรมมี่ต้องการคอนเท้นท์ของมติชนด้วยเหตุผลทางธุรกิจ (ไม่ต้องการควบคุมสื่อ) การทำเช่นนี้ เทียบกับผลตอบแทนที่คาดจะได้รับแล้ว.. คุณไพบูลย์ลงทุนสูงมากนะครับ ไม่ใชแค่มูลค่า่1,600ล้านสำหรับมติชน ไม่ใช่แค่สภาพคล่องของแกรมมี่ แต่เป็นความเสี่ยงต่อการบอยคอตของประชาชน ต่อบริษัทในเครือทั้งหมด แต่เป็นความเสี่ยงต่อแบรนด์ "ไพบูลย์ ดำรงค์ชัยธรรม" ที่สั่งสมมาชั่วชีวิต เพื่อที่จะได้คอนเท้นท์ของมติชนมาต่อยอดธุรกิจ มีวิธีที่เสี่ยงน้อยกว่า ลงทุนน้อยกว่า มากจนนับไม่ไหวครับ ปล.ไม่ทราบที่บอกว่าคุณลุงแคนมีสายสัมพันธ์ทางลึกคลุกวงในกะทางแกรมมี่นั้น จะมีผลต่อความอิสระในการแสดงความเห็นในราชดำเนินนี้หรือเปล่าครับ จากคุณ : หมีเซอะ - [ 17 ก.ย. 48 01:37:33 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอเรียนตอบด้วยความเคารพอีกครั้งนะคะพี่ ถ้ามองในแง่ผลทางธุรกิจนะคะพี่ การร่วมทุนกับกอง เด นาสต์คุ้มค่ากว่ากันเยอะเลยค่ะ นับประสาอะไรกับหนังสือเล็กๆ แต่มีคนรักมากขนาดนี้ ทำมติชนกำไรปีละ 100 กว่าล้าน เสียเงินลงทุนไปพันหก กอง เดนาสต์ อย่างดีก็ร่วมกันไม่กี่ร้อย ได้ทีมระดับโลกด้วย ยิ่งเรื่องการพัมนาผลิตภัณฑ์นะคะ โอ้...พระเจ้าจอร์จ มติชนจะปช่วยอะไรได้ เพราะฉะนั้น เรื่องนี้ยังไงก็ยังแปลกค่ะ ขอบคุณค่ะพี่ที่ให้ความรู้ จากคุณ : asterisk - [ 17 ก.ย. 48 02:05:35 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เข้ามาดู คุณ morgue_room กะ ลุงcan โดยเฉพาะ... จากคุณ : ต้ม ยำ ไก่ (Tom Yum Kai) - [ 17 ก.ย. 48 04:52:49 A:61.19.169.215 X: TicketID:076435 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คุณไปคำนวณต้นทุนใหม่นะครับ ราคาไม่ขนาดนั้น ถ้าคุณจะบอกว่าอะไรคุ้มกว่าอะไร ไปขายชาเขียวก็ได้แล้วครับ ก็บอกแล้ว สำนักข่าวแบบมติชน คือสิ่งที่เค้าขาดและต้องการ ไม่ใช่หนังสือพิมพ์มติชน ถ้าคุณแยกคำสองคำ ระหว่าง สำนักข่าว กับ หนังสือพิมพ์ ไม่ออก ผมคงอธิบายให้คุณเข้าใจได้ยาก ถ้าอยู่ดี ๆ เดินเข้าไปคุย ก็โดนถีบออกมาเพราะในกอง บก. ก็รู้อยู่ว่า ไม่ชอบแนวบันเทิงแบบแกรมมี่ ทุกคนคิดว่าจะเอามติชนไปบวก ป๋าเบิร์ด หรือ โลโซ ซึ่งมองผิด มันเป็นตลาดใหม่ "ตลาดข่าวทีวี" คุณมองไปที่เนชั่น มองที่ช่อง 3 ตั้งแต่เช้ายันดึก เค้าเล่นขายข่าวโชว์  ทั้งสรยุทธ์-กนก ทั้งป๋าหมัก-ดุสิต ถึงบอกว่ามันเป็นช่องทางที่พอมองออก บอกแล้วว่าสิ่งที่มติชนขาดคือ ทีมงานทีวี-วิทยุ ทีมงานสารคดีทางภาพและเสียง ถ้าคุณยังไม่เข้าใจเรื่อง "ต่อยอด" คุณจะไม่เข้าใจอะไรเลย เค้ามองสิ่งที่เค้ามีศักยภาพ มีคนทำงาน มีความชำนาญด้านสื่ออื่น ๆ ที่ไม่ใช่สื่อกระดาษ เข้าใจยังครับ แกรมมี่มีสื่อทีไม่ใช่สื่อกระดาษ มีศักยภาพมากตรงนั้น คุณไปคิดดูเอาเองว่า สื่อ ที่ไม่ใช่สื่อกระดาษมีอะไรบ้าง ผมบอกคุณไปคิดเล่น ๆ โฆษณา ทีวี นาทีละแสน ชั่วโมงหนึ่ง 10 นาที เท่ากับชั่วโมงละล้าน ถ้าเป็นพีคล่ะราคาเท่าไหร่คุณไปหาดู คุณไปไล่ตัวเงินเอาละกันครับ แล้วรายการสารคดีท่องเที่ยว ที่มีทีมข้อมูลดี ๆในศิลปวัฒนธรรมล่ะ รายการแบบนี้มันขายได้ทั่วโลก ได้โฆษณาอีกเยอะแยะ ไม่ต้องเป็นเพลงอย่างเดียวครับ แค่ทำแบบสารานุกรม เป็นทีวี แล้วทำวีซีดี ขายแค่โรงเรียนเท่าไหร่แล้ว ทีมงานแบบ พาโนราม่า พวกนั้น แรมมี่ไม่ใช่นักลงทุนโดยไม่ลงแรง แต่เค้ามองศักยภาพที่เค้ามีแล้วจะขยายไลนืออกไปด้านใหนอีก ได้บ้าง ถ้าคุณมองไปในตลาดทีวี ที่กำลังขายข่าวโชว์ตอนนี้ ช่องใหนขาด ช่อง 7 ใช่มั๊ย ถ้าเอาทีมข่าวมติชน ไปลงตรงนั้นอะไรจะเกิดขึ้น อากู๋กับคุณแดงคอนเนคชั่นขนาดใหน เพราะคนเรามันรู้น้อย คิดแค่อยากได้เงิน แล้วมองว่าอะไรดีกว่าอะไรแค่นั้นไม่พอหรอก ถ้าเรียนนิเทสศาสตร์ มันจะมีอยู่ 2 อย่าง ที่ต้องทำคือ คอนเท้นท์กับมีเดีย นี่บอกแบบมองจากคนภายนอกนะ....แล้วจะรู้ว่าทำไม ผู้จัดการ และเนชั่น ที่พยายามทำ "มัลติมีเดีย" แต่มันยังไม่ได้ดีนักเพราะขาด "มีเดีย" และ "เทคนิค" แม้เนื้อหาคุณดี แต่ด้อยเทคนิคการนำเสนอ หรือสื่อสู้ไม่ได้มันก้ไปไม่รอด คุณมองไปที่กนก-สรยุทธ อยูเนชั่น ไปได้แค่ใหน พอมาลงช่อง 3 ช่อง 9เป้นยังไง ถ้าไม่เข้าใจให้ไปศึกษาเรื่อง "ทำเลค้าขาย" แล้วคุณจะเข้าใจ อธิบายให้เห็นภาพอย่างง่ายแล้วจะเข้าใจหรือเปล่าก็ไม่รู้นะเนี่ย อ้อ...ว่าง ๆไปดูคำอธิบาย ในรายการของคุณสรยุทธ์นะครับ ทั้งมติชนและแกรมมี่เค้าไปอธิบายไว้หมดแล้ว จากคุณ : Can (ไทเมือง) - [ 17 ก.ย. 48 05:01:52 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ในนาทีนี้ คุณมองแค่ว่า ข่าวภาษาไทยคือ มติชน ข่าวต่างประเทศใช้ โพสท์ แล้วทีนี้ เนชั่น มัลติมีเดีย จะหมดลีลาไปเลยครับ นั่นคือสิ่งที่เนชั่นกลัวดีลนี้สำเร็จ ในระยะแรกอาจใช้ฐาน ช่อง 7 สี  ทดสอบฝีมือ หากในอนาคต มีทีวีสถานีใหม่ คิดหรือว่า สถานีโทรทัศน์ใหม่ในนามแกรมมี่-มติชน โพสท์ จะไม่ออกมาอาละวาด ถ้าจะว่าไป มติชน ทำงานแบบอนุรักษ์เกินไป ไม่กล้าลุยออกไปในสื่อที่ไม่ใช่สื่อกระดาษ พอกระดาษขึ้นราคาทีก้ร้องโอดโอยที จะขึ้นราคาหนังสือพิมพ์รายวัน ก็โดน ยักษ์ใหญ่ ยันอยู่ตรงนั้น จะหนีไปขาย 10 บาท ก็ไปไม่ได้...กระดิกไม่ออก แต่สื่อที่ไม่ใช่กระดาษ สามารถกำหนดราคาเองได้ มองแค่นี้ ความคล่องตัวในเรื่องรายรับรายจ่าย มันคล่องตัวกว่ากันเยอะครับ อย่าไปมองแค่ มติชนคนรักเยอะ ก็เพราะคนรักเยอะนั่นแหละถึงต้องทำให้คนไม่อ่านหนังสือรักมากขึ้น ขยายคนรักให้มากขึ้นครับ จากคุณ : Can (ไทเมือง) - [ 17 ก.ย. 48 05:14:20 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ถ้ามองไม่ออก ก็มองแบบ CNN นะครับ คุณอาจจะเข้าใจง่ายขึ้น ถึงขนาดนั้น ยังโดน Time - Warner ซื้อไปจนได้ ลองคิดดูซิ ทำไมสื่อกระดาษ เข้าไปซื้ออุตสาหกรรมภาพยนต์ แล้วกินมาทางสื่อทีวี นี่มันยุค 2000 แล้วหนู ๆ เอ๊ย..ลุงยังต้องมานั่งเคาะเป็นอินเตอร์เน็ตเลย ฮ่า ฮ่า รู้มั๊ย สมัยลุงทำหนังสือน่ะ ใช้แท่น "ฉับแกละ" ใช้ตัวเรียงตะกั่ว...เฮ้อ...โลกมันไปถึง อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง Space Communication กันแล้ว แล้วรู้มั๊ยเรื่องพวกนี้อาจารย์ลุงสอนในหลักสูตรมา 37 ปีแล้ว ถ้าจะอนุรักษืก็จงอนุรักษ์และพอเพียงเฉพาะเนื้อหาเถิด แต่เรื่อง "สื่อ" พวกคุณต้องก้าวข้าม "สื่อกระดาษ" ที่มีความดี ความด้อยในตัวเองเช่นกัน ไม่นึกถึงชาวรากหญ้าซึ่งอยากได้เนื้อหาของมติชน แต่อ่านหนังสือไม่ออกบ้างเหรอครับ ทำไมเก็บของดีไว้สำหรับคนมีการศึกษาเท่านั้นละครับ กระจายความรู้ออกไปให้กว้างใกลไม่ดีหรือครับ นี่ไม่ใช่เรื่อง "เงิน" แต่เพียงอย่างเดียว แต่มันเป็นเรื่องทั้งเงินและกล่องครับ แต่ถ้าเงินก็จะเอา ศักดิ์ศรีก็สูงส่ง ถ้าคิดแค่นั้นเข้าตลาดทุนทำไมครับ จากคุณ : Can (ไทเมือง) - [ 17 ก.ย. 48 05:32:24 ]

ความคิดเห็นที่ 28 สิ่งที่คุณลุงพยายามชี้แจงมาตลอดหลายๆกระทู้คือ ความสมประโยชน์กันของคุณไพบูลย์และคุณขรรค์ชัย และพยายามให้เห็นภาพว่าผลประโยชน์ตรงนั้น ทำเงินมหาศาลขนาดไหน มากมายหลายข้อความ หลายกระทู้.. นั่นคือคุณลุงแคนพยายามบอกว่า .. ทั้งสองรู้เห็นเป็นใจกันมาก่อน ตรงนี้แหละครับที่มันแปร่งๆ เพราะหากทั้งสองมีเป้าอยู่ตรงโน้นตั้งแต่แรก วีธีและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ทางที่ดีที่สุดที่จะไปถึงตรงนั้นนะครับ.. นึกดูสิครับถ้าตั้งเป้าจะไปตรงนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือภาพความน่าเชื่อถือในตัวของมติชน.. และวิธีนี้มีความเสี่ยง .. เสี่ยงที่แม้รวมสำเร็จ (หรือคุณไพบูลย์ได้ไปเองหมดก็แล้วแต่).. ทั้งคอนเทนท์และมีเดียที่เป็นตัวทำเงินมันจะกลายเป็นแท่นพิมพ์กับกองกระดาษไปทั้งหมด.. จะใช้วิธีที่เสี่ยงอย่างนี้ไปทำไม ตามสมมติฐานที่คุณลุงว่า ผลลัพท์เหมือนวิน-วินทั้งสองฝ่าย แต่มีสองอย่างนะครับ - วินวิน ไม่ได้แปลว่าทั้งสองฝ่ายจะต้องคิดกันมาตั้งแต่ต้น (ในสมมติฐานว่าทั้งสองฮั้วกันก่อนแล้ว) เช่นผมเดินเข้าไปบอกลุงแคนว่าช่วยแบ็คอัพผมหน่อย แล้วผมเหมาจ่ายกิ๊กให้คุณลุงสองคน - อันนี้สมคบกันแต่ต้น ซึ่งคุณลุงอาจเตะส่งผมกลับมาได้ เพราะไม่ใช่วินวินสำหรับลุง แต่ถ้าผมจะตีหัวลุงก่อน แล้วบอกว่าถ้าแบ็คอัพผม ผมจะเหมาจ่ายกิ๊กให้ แถมไม่ตีหัวด้วย ในสถานการณ์ที่ต่างกัน กลับเกิดวินวินได้ มันอยู่ที่คนเปิดเกมน่ะครับ ซึ่งในประเด็นนี้ผมมองว่าเป็นเกมที่คุณไพบูลย์อ่านไว้แต่แรกแล้วว่า หากดีลสำเร็จ - คุณไพบูลย์สบายแฮ ได้ตามที่ลุงแคนแสดงความคิดไว้ แต่หากเกิดกระแสต้าน - คุณไพบูลย์จะถอยอย่างรวดเร็ว (อย่างที่เป็นอย฿่ตอนนี้) ทำไมต้องรวดเร็ว เพื่อไม่ให้แกรมมี่ได้รับผลกระทบไงครับ นั่นคือ คุณไพบูลย์รู้ถึงความเสี่ยงอยู่แล้วนั่นเอง ถึงตรงนี้ สมมติฐานว่าทั้งสองสมคบปั่นหุ้น มันแปร่งมากครับ แต่ถ้าคุณไพบูลย์ฝ่ายเดียวละ มีความเป็นไปได้มากกว่า ......... ถึงได้ปล.ไว้ข้างบนงัยครับ ความสัมพันธ์ระหว่างคุณลุงแคนกับแกรมมี่ที่มีมานาน มีอิทธิพลต่อความอิสระที่จะแสดงความเห็นอย่างเป็นกลาง ในเว็บบอร์ดนี้หรือเปล่า จากคุณ : หมีเซอะ - [ 17 ก.ย. 48 08:12:12 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ข้อความนี้ผมตัดสินใจแยกออกจากข้า้งบน เพราะไม่เกี่ยวกับเนื้อหานะครับ - ลักษณะการแสดงความคิดเห็นของคุณลุงแคน (เฉพาะในประเด็นนี้) ค่อนข้างลอยนะครับ คุณลุงพยายามยกความเป็นไปได้ตรงโน้นตรงนี้แล้วมาโยงๆกัน เช่นยกคอนเนคชั่นอากู๋คุณแดงว่าขนาดไหน ช่องเจ็ดขาดข่าว มันไม่ใช่ต้นทาง ไม่ได้มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเข้าซื้อหรอกครับ - ใช้คำก้าวร้าวขึ้น เน้นสำนวนลีลามากกว่าปกติ อันนี้ออกตัวก่อนนะครับว่าไม่ใช่แฟนประจำห้องราชฯ แต่ลักษณะของการให้ความเห็นที่มีทีท่าข่มความเห็นอื่น มักต้องการชนะคะคานมากกว่ารับฟังและคิดแลกเปลี่ยนความเห็นกันนะครับ นั่นแปลว่าอะไร แปลว่าผู้พูด มีจุดหมายปลายทางอยู่แล้ว ตรงนี้ผมว่าคุณลุงแปลกไปนะ - สุดท้ายยุคนี้มัน 2005 แล้วงัยครับ มันจึงทำให้เด็กอย่างผมตั้งใจรับฟังความเห็นคุณลุง .. แต่ไม่รีบเชื่อครับ ตั้งใจฟัง..ตั้งใจคิด..และเมื่อเห็นแย้งก็กล้าพูดถกกันครับ และถกกันโดยที่ผมเคารพในอาวุโส  เคารพในน้ำหนักคำพูดของคุณลุงอยู่ตลอดเวลา ..เอ่อ..แต่ไม่รีบเชื่อนะครับ..แฮ่ๆ ---------- และเพื่อไม่ให้เข้าใจผิด ผมเข้าใจดีว่าคุณลุงมีต้นทุนทางสังคมอยู่ และผมก็ไม่ใช่แฟนห้องนี้ ผมจึงไม่ได้ผลประโยชน์อะไรจากการเอาชนะคะคานทางความคิดนั้น ก็ขอแสดงความเห็นเฉพาะในกระทู้นี้แล้วกันนะครับ เป้าหมายของผมคือ แสดงความไม่เห็นด้วยในสมมติฐานที่ว่าคุณขรรค์ชัยรู้เห็นเป็นใจก่อนแล้ว และเห็นว่าเป็นเกมของคุณไพบูลย์ที่มองตั้งแต่ต้น และตอนนี้มติชนกำลังตกเป็นเหยื่อ (ใครว่าวินวินหว่า) บอกไว้เผื่อจะได้วินวินโซลูชั่นงัยครับ ฮ่า จากคุณ : หมีเซอะ - [ 17 ก.ย. 48 08:48:07 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ผมอธิบายด้วยหลักวิชาและใช้ความสัมพันธ์ ระหว่าง อากู๋กับคนมติชน เป็นตัวบอกผลสรุป ก็บอกแล้ว อากู๋บอกในการแถลงข่าว อยู่ดี ๆ จะไปซื้อของดีมาทุบเล่น เค้าบอกว่าเค้าไม่บ้าและไม่โง่ไงครับ คุณไม่ต้องมาหาความเป็นกลางหรือความยุติธรรมจากความคิดเห็นของมนุษย์ ทุกคนต่างมีมุมมองของตัวเอง และมีสิทธิแสดงความคิดเห็นโดยอิสระ ไม่ว่าคุณจะเห็นด้วยหรือโต้แย้ง..ผมรับฟังครับ ปีนี้ 2005 มันยุคแข่งขันกันด้วยข้อมูลข่าวสาร ทำไมไม่คิดเรื่อง ไทม์ วอร์เนอร์ เข้าไปเทค CNN เป็นโมเดลจำลอง ทำไมสื่อกระดาษ จึงไปเทคสื่อบันเทิงและ สื่อทางอากาศ แบบนี้ถูกต้องใช่มั๊ยครับ จากคุณ : Can (ไทเมือง) - [ 17 ก.ย. 48 11:54:26 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เอาเถอะ ประเด็น พี่ช้างรู้เห็นเป็นใจหรือไม่ นั่นเป็นแค่สมมุติฐาน มันมีสมมุติฐานอื่น ๆ ที่ฝ่าย "อากู๋" เป็นคนกำหนดเกม ก็คิดได้ครับ แต่ข่าวของ กลต. เชื่อว่างานนี้การเคลื่อนไหวปกติ...ก็ต้องเชื่อครับ...แต่อย่าลืมว่า "ความเชื่อ" กับ "ความจริง" บางทีมันก็ไม่ใช่ตัวเดียวกัน อย่าลืมว่า อยู่ดี ๆ ทำไมกลิ่นฟื้นตัวจากราคาหุ้นมติชนนานนับเดือนก่อนวันเข้าโจมตีมายังไง ถ้าฝ่ายมติชนยังตรวจสอบไม่ได้ มันก็ต้องมองไปอีกฝั่ง นี่ไม่ใช่การคิดชั้นเดียวแล้วดำเนินการไปหรือไม่มีแผนรองรับ การคิดธุรกิจพันล้านมาทำตามมีตามเกิดไม่ได้หรอกครับ มันต้องมีโมเดลจำลองสถานการณ์ มานานแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง จะเข้าไปขอลูกสาวเค้าพ่อตาก็ดุ มันก็มีทางเดียว ปีนหน้าต่างทำข้าวสารให้เป็นข้าวสุก...อิอิ เสร็จแล้วก็เอาดอกไม้มาขอขมา...อย่าซีเรียสครับ จากคุณ : Can (ไทเมือง) - [ 17 ก.ย. 48 12:03:41 ]

ความคิดเห็นที่ 32 อืมม...การทำคำเสนอขอซื้อของแกรมมี่ มันเป็นไปตามกติกาตลาดหุ้น ที่ต้องเดินไปตามนั้น การประกาศตั้งโต๊ะก็แค่ 11.10 มันไม่ได้มากนี่ครับ ถึงที่สุดวันสุดท้าย แกรมมี่และมติชน ก็ต้องมีข้อตกลง "คายหุ้น" ออกมา ( เหมือนเมื่อวาน ) อยู่ดีครับ เพราะอากู๋คงไม่อยากได้ ตัวตึกและโต๊ะเก้าอี้ มันก็ต้องออกมาในรูปนี้อยู่แล้ว เพียงแต่เกมมันจบลงเร็วเกินคาดแค่นั้นเองครับ นี่ผมไม่ได้มองในแง่การเมืองแม้แต่น้อยนะครับ เพราะผมไม่เชื่อว่า..นี่เป็นการเมืองหรือมีใบสั่ง ผมเชื่อแบบนี้ผมคงไม่ใช่คนเลวนะครับ เพราะก่อนหน้านี้ผมก็อยู่ฝั่งตรงข้ามมาโดยตลอด เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นฝ่งตรงข้ามรัฐบาลอยู่นั่นเอง จากคุณ : Can (ไทเมือง) - [ 17 ก.ย. 48 12:13:21 ]

ความคิดเห็นที่ 33 หลักที่ผมเอามาจับ ไม่ใช่ความเป็นกลางของคุณลุงหรือไม่ ไม่ใช่ความมีจริยธรรมของนักธุรกิจหรือไม่ แต่เป็นความสมเหตุสมผลทางธุรกิจครับ!! ทุกสิ่งที่คุณลุงพยายามยก - ไม่ว่าจะซีเอ็นเอ็น หรือสื่ออื่นๆ - ตรงนั้นเป็นความสมเหตุสมผลของฝั่งคุณไพบูลย์ครับ แต่การที่คุณลุงตั้งสมมติฐานว่าคุณขรรค์ชัยรู้เห็นเป็นใจแต่แรก ตรงนี้แหละครับที่ผมพยายามบอกว่า .. แปร่ง!! หากคุณขรรค์ชัยรู้เห็นแต่ต้น ต้องการขยายชาแนลสื่อของตัวเองตั้งแต่ต้น การเข้าซื้อของแกรมมี่จะออกมาสวยกว่านี้ หากภาพว่ากองบก.จะต่อต้าน การเลือกวิธีนี้ต่างกันตรงไหนครับ ยิ่งรู้สึกต่อต้านหนักกว่าเก่าเสียด้วยซ้า คุณลุงน่าจะรู้ได้ว่ามติชนทั้งหมด ตั้งอยู่บนความศรัทธาที่มีต่อคุณขรรค์ชัย หากคุณขรรค์ชัยต้องการร่วมกับแกรมมี่จริง แต่กองบก.ไม่ยอมรับแกรมมี่จริง ทางที่เหมาะสมคือไล่กองบก.ออกครับ ตามที่แสดงไป หากคุณขรรค์ชัยรู้เห็นตามที่คุณลุงว่า.. ทางนี้ความเสี่ยงที่จะลงทุนสูงเกินไปครับ แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 48 12:18:13 จากคุณ : หมีเซอะ - [ 17 ก.ย. 48 12:15:17 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เกมนี้เป็นเกมที่คุณไพบูลย์มีแต่ได้ อยู่ที่จะได้ทั้งหมด หรือรุกคืบมาได้บางส่วน .. นั่นก็คือเกมทางธุรกิจไป แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดจากเหตุการณ์นี้คือ .. แบรนด ์"คุณลุงแคน" มีมูลค่าเด่นขึ้นมามากครับ และยิ่งยุคนี้เป็นยุคข้อมูลข่าวสารอย่างที่ว่า หากคุณลุงบอกว่าสีดำ นักบริโภคข่าวหลายคน จะรับรู้ว่า ดำมาก ในขณะที่คนวิเคราะห์ข่าว - ในกรณีนี้ - อาจมองแค่เทาก็ได้ เพราะความสัมพันธ์ของคุณลุงที่ถามไป อาจทำ/หรือไม่ทำให้น้ำหนักในเรื่องนี้เบาลงได้ ทีนี้ถามว่าจะมีคุณโทษกับสังคมไหม อันนี้ผมว่าคุณลุงตระหนักได้นะครับ สิ่งที่ผมไม่สบายใจ และเป็นสาเหตุหลักให้มาโพสต์ในกระทู้นี้ เนื่องจากหัวข้อกระทู้นี่แหละครับ    "ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่าแกรมมี่ และมติชน จบลงแบบนี้ ด้วยพลังประชาชนหรือเปล่า" จากคุณ : mouse4006 วิเคราะห์ในทัศนะผม มติชน ซึ่งเป็นเหยื่อในเกม - เกมซึ่งคุณไพบูลย์เปิดทางเลือกแค่สองทาง แกต้องกล้ำกลืนรับสินสอดทองหมั้นมูลค่ามากมายที่ถูกประเคนมา นั่นแหละครับ (จะเรียกวินวินได้ไหมเนี่ย) ประชาชน และคนที่ออกมาเรียกร้อง - ท้อแท้ท้อถอย สับสน และอาจจะไม่ยอมออกมาเรียกร้องต่อสู้อีก คุณไพบูลย์ - ในทัศนะผม แกไม่ใช่เลวร้าย เป็นความฉลาดในการดำเนินกลยุทธิ์ ในขณะที่แบรนด์ "ขรรค์ชัย" บอบช้ำจากการดีล เพราะมีคาแรคเตอร์ของความซื่อสัตย์ แบรนด์ "ไพบูลย์" ยิ่งโดดเด่นในคาแรคเตอร์ของการทำธุรกิจ หากคุณเป็นนักลุงทุน ย่อมยิ่งเพิ่มความเชื่อมั่นว่าแบรนด์นี้คุ้มค่าการลงทุนแน่นอน ยังงัยก็ไม่วินวินแฮะ จากคุณ : หมีเซอะ - [ 17 ก.ย. 48 12:40:16 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เอาน่า.....ผมบอกแล้วความคิดคนมันจินตนาการได้ เพราะผมไม่ได้เขียนข่าวนะคับ มันเป็นการวิเคราะห์ของผมเอง  ถ้าผมจะอ้างว่า เหมือนคอลัมน์นิสต์ที่ตั้งสมมุติฐาน แล้วเขียนไปตามข้อมูลพื้นฐานผมคงไม่ใช่ตรงนั้น เพราะราชดำเนินพันทิปก็บอกแล้วเป็นบอร์ดสาธารณะ จะเห็นต่าง เห็นแย้งย่อมทำได้ อยากตอบหรือไม่อยากตอบก็กระทำได้ ไม่ได้มุ่งหมายให้คนเข้ามาอ่านแล้วต้องมาเชื่อ นะครับ เพราะที่นี่คือสนามแสดงความคิดเห็น มันก็แค่ผมบอกว่า..."ผมเชื่อเช่นนี้"...ซึ่งก็มีผลไม่ต่างจากฝั่งมติชน ที่เชื่อว่ามี "ใบสั่ง" มาจาก "การเมือง" ทั้งที่ความเป็นจริงในเรื่องนี้มีใครยืนยันได้บ้าง กรณีนี้ผมคิดว่ามติชน ต้องกลับไปสำรวจตัวเองด้วยว่า เสนอข่าวสาร "ด้วยอารมณ์" มากเกินไปหรือไม่ เข้าข่ายพยายาม"ชักจูง" ใหเกิดกระแสสังคมหรือไม่ และไปสร้างกระแสจากภายนอก อาศัยเครือข่ายหนังสือพิมพ์ ขึ้นต่อสู้ โดยที่ทาง แกรมมี่ ไม่มีโอกาสใช้สื่อนั้น ผมคิดว่า วิชาพวกนี้เราตางก็เรียนทันกันหมด แต่เรื่องแบบนี้ ไม่มีใครมีสิทธิ์ไปใช้สื่อของมติชน เพราะพวกคุณก็ยืนยันในแนวทางของตนเอง ไม่ได้เสาะแสวงหา "ข้อเท็จจริง" อย่างรอบด้าน แล้วนำกระแสสังคม มาสร้างผลประโยชน์ของตัวพวกคุณเอง กว่าวหาผู้อื่นอย่างเสียหาย ทั้ง ๆ ที่มันไม่จริงอะไรเลย ผมยอมรับว่าเบื่ออาการหลงตนเองของสื่อหนังสือพิมพ์เพราะการทำตัวเป็น "นักเลง" แบบนี้แหละครับ อย่าลืมว่า การแสดงเจตนา ได้มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการไปแล้ว มันก็จบแล้ว แต่ฝั่งมติชนเองต่างหาก ไปแปรเจตนา ใช้อารมณ์ร่วมของสังคมทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า การประจันหน้า ผมถึงตั้งข้อสังเกตหนึ่งว่าในขณะที่มติชน ต่อสู้เพื่อตนเอง โดยอ้างความชอบธรรมว่าต่อสู้เพื่อสถาบันหนังสือพิมพ์ จริง ๆ แล้วมันถูกต้องแล้วหรือครับ ไม่ว่าพี่พิเชียร หรือคุณประสงค์ คงจะอายปากตัวเองด้วยนะครับ ผมไม่อยากบอกว่า แทบจะสิ้นศรัทธาความเป็นนักนิเทศศาตร์ ถ้าคุณคิดว่า นักนิเทศสาตร์ แบบอื่นที่ไม่ใช่คนหนังสือพิมพ์ ไม่มีจิตวิญญาณ ผมขอค้านและไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ และขอประนามอย่างไม่อาย ทุกอาชีพต่างก็มีหลักจริยธรรมแห่งอาชีพทั้งนั้น หนังสือพิมพ์ มิใช่เทวดาที่จะไปชี้ผิดชี้ถูกดูถูกคนอาชีพอื่นมากมายขนาดนั้น เพราะทุกคนที่ผ่านหลักสูตร นิเทศสาตร์จุฬา จากรุ่น 1-7 ไม่มีแผนก หนังสือพิมพ์หรอกครับ อย่าอวดอ้างตนเองให้สูงส่งจนจะกลายเป็นเทวดา แต่พอมีคน"รู้จริง" เอาข้อมูลมาบอก ต้องให้คุณประสงค์ กลับไปถาม คุณ พิเชียร คุระทอง ว่าในรุ่นนั้นมีภาควิชา "หนังสือพิมพ์" หรือยัง สื่อหนังสือพิมพ์ ไม่ใช่เทวดา ที่แตะต้องไม่ได้ สื่อก็คือมนุษย์ขี้เหม็นที่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่ใช่คนกระดูกเหล็กผิวทองแดง ที่ไม่มีใครแตะต้องได้ อย่ายกตัวเองให้สูงส่งจนแตะไม่ถึงเลยครับ ใหญ่แค่ใหน ก็ไม่กว้างกว่าโลงครับ จากคุณ : Can (ไทเมือง) - [ 17 ก.ย. 48 14:24:37 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ผมยังไม่เข้าใจสิ่งที่คุณลุงพยายามจะบอกครับ ในสมมติฐาน(ที่คุณลุงใช้คำว่าจินตนาการ)ของคุณลุงนั้น คุณขรรค์ชัยรู้เห็นด้วย ทั้งหมดเป็นละครตบตา ซึ่งผมอธิบาย - ด้วยเหตุผลทางธุรกิจล้วนๆ - แล้วว่าเป็นไปบ่ได้ หากคุณขรรค์ชัยต้องการรวมกับแกรมมี่จริง มีวิธีที่ง่ายกว่านั้น และหากมองว่าไม่มีข้อโต้แย้งจากคุณลุงคือการยอมรับ.. เป็นอันว่าว่าประเด็นนี้ตกไปนะครับ ข้อต่อมาผมเสนอสมมติฐาน(จินตนาการ)ว่าทั้งหมดนี้ ไม่ใช่เรื่องตบตา ไม่ใช่การปั่นหุ้นมติชนโดยฝั่งมติชน แต่เป็นเหตุผลทางธุรกิจของฝั่งคุณไพบูลย์เพียวๆ มีแต่ได้ทั้งหมด หรือได้บางส่วนแล้วรอเวลาขยาย ก็ตามแต่ เป็นข้อสมมติฐานที่เป็นไปได้มากที่สุด.. และดูเหมือนจะไม่มีเหตุผลคัดค้านจากคุณลุงเช่นกัน.. แต่สิ่งที่ผมไม่เข้าใจคือ มติชน .. ซึ่งเป็นเหยื่อของเกมธุรกิจนี้ .. กำลังเป็นเหยื่อของสังคมอีกทอดหนึ่ง ประชาชน คนที่ออกมาปกป้องเหยื่ออย่างมติชน .. ก็กำลังถูกทำให้เคว้ง ไม่เข้าใจว่าการออกมาร้องแรกแหกกระเชอของกองบอกอมติชน ความกระเสือกกระสนของเหยื่อ ทำไมคุณลุงถึงมองว่าเป็นเรื่องที่ต้องเอาชนะคะคาน ด้วยความเคารพครับ .. เฮ้อ จากคุณ : หมีเซอะ - [ 17 ก.ย. 48 17:01:35 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ถ้าสถาบันที่เป็นที่พึ่งของประชาชน ไม่รู้จักดูแลตนเอง ตัวเองแทบจะเอาไม่รอด แล้วจะไปเป็นที่พึ่งให้ประชาชนได้ยังไงครับ คนเรากติกามี ก็ต้องเดินตามกติกา สิ่งที่ผมไม่ชอบอย่างยิ่งคือ การปลุกระดมต่าง ๆ นานา ดูเหมือนคนที่มาซื้อหุ้นเป็นโจร เป็นผู้ร้าย เป็นคนผลิตสินค้าที่ชั่วร้าย มันแฟร์สำหรับคนที่ไม่มีสื่อหนังสือพิมพ์เหรอครับ หรืออยากจะให้ ขาร็อค ไปรวมตัวหน้าโรงพิมพ์ มติชน ไม่คิดถึงใจคนรักแกรมมี่เหรอครับ แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 48 18:12:24 จากคุณ : Can (ไทเมือง) - [ 17 ก.ย. 48 18:10:37 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เข้าใจคุณลุงมากขึ้นแล้วครับ 1 คุณลุงไม่ชอบการปลุกระดมของมติชน 2 คุณลุงรักแกรมมี่ ก่อนอื่น..คุณลุงยอมรับการปลุกระดม.. นั่นคือคุณลุงยอมรับว่ามติชนไม่ต้องการผนวกแกรมมี่นะครับ.. ทีนี้อย่างที่คุณลุงไม่ปฏิเสธสมมติฐานผม ที่ว่ามติชนคือเหยื่อทางธุรกิจของปลาใหญ่อย่างแกรมมี่ คนมติชนออกมาขอความช่วยเหลือจากสังคม คนจำนวนมากออกมาช่วยเหลือมติชน แปลว่า..ของเค้าดีจริง .. มีคนรักเค้าจริงนะครับ .. เค้ามีสิทธิที่จะปกป้องสิ่งที่เค้ารักไม่ใช่หรือครับ ลองมองย้อนไปดูคุณสนธิสิครับ มันไม่ใช่ใครจะปลุกก็ปลุกได้ คนที่รักษาสะสมคุณความดีไว้จริงๆเท่านั้น ถึงทำได้ อย่างนี้มันคือรักจริง.. ไม่ใช่เรื่องปลุกระดมแล้วนะครับ!! ......... ส่วนข้อสอง ไม่ว่าคุณลุงจะรักแกรมมี่อย่างไร อย่าให้ความรักบังตา บังเหตุผลความถูกต้องนะครับ คุณลุงก็เหมือนสื่อ เหมือนมติชนนั่นแหละ มีคนบริโภคสื่อในนี้หลายคนพร้อมที่จะ"เชื่อในทันที"กับสิ่งที่คุณลุงแสดงออกมา นั่นเพราะคุณความดีที่คุณลุงสั่งสมมาเช่นกัน ตรงนี้น่ายินดีครับ.. เพียงแต่คุณลุงควรรับผิดชอบต่อความเห็นบ้าง คุณลุงตั้งสมมติฐานว่ามติชนฮั้วแกรมมี่ ไม่ว่าจะฮั้วอย่างไรแกรมมี่ไม่เสียหรอกครับ - เพราะคาแรคเตอร์แกรมมี่คือธุรกิจอยู่แล้ว.. (แม้แต่ผมก็ไม่ได้ว่าแกรมมี่เลย) แต่มติชนต่างหากที่เสีย .. เสียจากสมมติฐานที่คุณลุงไม่ปฏิเสธว่าเลื่อนลอย.. และที่เสียที่สุดคือสังคม.. ความสับสน และเคว้งคว้าง.. รักได้อย่าหลงนะครับคุณลุง แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 48 18:51:22 จากคุณ : หมีเซอะ - [ 17 ก.ย. 48 18:36:57 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เข้ามาตอบคุณ can นะคะ เมื่อคืนไม่ได้มาอ่านต่อ แต่ตอนนี้ได้ข้อสรุปแล้วค่ะว่าหนูไม่นับถือพี่ดีกว่า เพราะว่าพี่เป็นคนชอบข่มคนอื่น เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง อัตตาสูง ชอบเอาชนะ พี่ชอบบอกว่าถ้าคุณเป็นอย่างนั้น ถ้าคุณเป็นอย่างนี้ ถ้าคุณเป็นอย่างโน้น พี่รู้หรือคะว่าหนูไม่รู้ในสิ่งที่พี่พูด หรือไม่ได้อยู่ในธุรกิจนี้ หรือไม่ได้คร่ำหวอดอยู่ในวงการนี้ ถึงหนูจะเด็กกว่า แต่เมื่อคุยกับคนแก่ที่เต็มไปด้วยอารมณ์และการชอบเอาชนะแบบนี้...ไม่สนุกเลยค่ะ ไม่เป็น health discussion ขอโทษนะคะที่ทำให้พี่เสียเวลา หนูเองก็เสียเวลาเหมือนกัน นึกว่าจะได้ความรู้อะไรกลับไปบ้าง ที่ไหนได้ ก้แค่คนแก่ลำเอียงหนึ่งคน สวัสดีค่ะ จากคุณ : asterisk - [ 17 ก.ย. 48 23:45:46 ]