CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    จะใช้ร่าง พรบ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในปี 2549

    จาก www.nukbunchee.com/index_new_read.php?new_id=629

    หัวข้อข่าว : รัฐขู่รีดภาษีบ้าน-ที่ดิน หาเงินสนองประชานิยม

    ที่มา / อ้างอิง : ฐานเศรษฐกิจ

    ฝันร้ายคนมีบ้าน-ที่ดิน ทำใจกระเป๋าฉีก เจอรัฐรีดภาษีเพิ่ม หลัง ก.คลังดีเดย์ใช้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปีงบประมาณ 2549 ที่ดินเชิงพาณิชย์ ที่ดินเปล่า จ่ายตามเพดานสูงสุด 0.095 % ของราคาประเมินทุนทรัพย์ โดยเฉพาะกรณีที่ดินเปล่าไม่ทำประโยชน์ถูกเก็บภาษีอัตราก้าวหน้าทุกปี ครบ 3 ปียังปล่อยให้รกร้าง ให้อำนาจท้องถิ่นสามารถยึดคืนรัฐและขายทอดตลาดได้ทันที ส่วนคนที่ซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยต้องจ่ายภาษีด้วยไม่ต่ำกว่า 0.025 % คาดเพิ่มรายได้ให้ท้องถิ่น 7,000-8,000 ล้านบาทต่อปี ลดภาระรัฐบาลใช้เงินงบประมาณอุดหนุน ด้านรมช.คลัง เผยเตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเข้าที่ประชุม ครม. เร็วๆนี้

    เป็นที่น่าสังเกตว่าแนวโน้มของการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในอนาคต เริ่มเห็นสัญญาณที่แผ่วลงและมีโอกาสที่หลายกรมภาษีจะจัดเก็บรายได้ไม่ได้ตามเป้าประมาณการ ซึ่งดูได้จากในระยะ 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2548(ต.ค.47-ม.ค.48) แม้การจัดเก็บภาษีของทั้ง 3 กรมในสังกัดกระทรวงการคลัง คือ กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร จะยังจัดเก็บได้ได้สูงกว่าประมาณการ 18,176 ล้านบาท แต่ในส่วนของการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตต่ำกว่าประมาณการ

    6,902 ล้านบาท ส่วนการจัดเก็บรายได้ของกรมศุลกากรยังน่าเป็นห่วงเช่นกัน จากสถานการณ์ข้างต้น ในขณะที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ทั้งปีไว้ที่ 1,250,000 ล้านบาท (รวมงบกลางปีเพิ่มเติม 50,000 ล้านบาท)ทำให้ทางการต้องมีการเร่งนำแนวทางการจัดเก็บภาษีในรูปแบบต่างๆมาใช้ เพื่อที่จะช่วยเพิ่มรายได้จากการจัดเก็บให้ได้ตามเป้าหมาย

    ล่าสุด กระทรวงการคลังเตรียมนำ "ร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง "ซึ่งเป็นโครงสร้างภาษีใหม่มาใช้แทนโครงสร้างเดิม ซึ่งเป็นการสานต่อแนวทางที่รัฐบาลมีนโยบายปรับปรุงการจัดเก็บภาษีที่ดินใหม่เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ มีระบบภาษีทรัพย์สินที่แข็งแรงและเป็นธรรมต่อผู้เสียภาษี ซึ่งนำไปสู่ฐานภาษีที่กว้างขึ้น รวมทั้งยังกระตุ้นให้เกิดการใช้ที่ดินให้ได้ประโยชน์ ซึ่งการจัดเก็บภาษีจะมอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้จัดเก็บทำให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น และเป็นการกระจายอำนาจการคลังให้แก่ท้องถิ่น โดยรายได้ที่เกิดขึ้นจากส่วนนี้ แม้ว่าจะไม่ได้ช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่รัฐบาลโดยตรง แต่เป็นการลดภาระเงินอุดหนุนของรัฐบาลที่จะต้องลงไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)

    -คลังเสนอเครื่องมือใหม่จัดเก็บภาษีเพิ่ม

    นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างตั้งเรื่องเพื่อเสนอร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างพ.ศ. ………..เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.) คาดว่าเร็วๆนี้จะสามารถนำเสนอได้แต่เนื่องจากระเบียบขั้นตอนในการพิจารณากฎหมาย และการออกปฏิบัติใช้น่าจะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรจึงส่งผลให้การบังคับใช้ จะเริ่มได้จริงในปีงบประมาณ 2549 เป็นต้นไป

    "ความคืบหน้าในขณะนี้ ได้มีการหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อตรวจทานแก้ไข ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวในบางประเด็นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ก็สามารถตั้งเรื่องกลับไปใหม่ได้เลย โดยไม่ต้องผ่านความเห็นชอบจากกระทรวงการคลังแล้ว แต่เนื่องจากตามขั้นตอนทางสภาผู้แทนราษฎรคงต้องใช้เวลาประมาณ 5-6 เดือน ประกอบกับทาง

    ท้องถิ่นเองก็ต้องไปดำเนินการออกระเบียบปฏิบัติต่างๆเพื่อรองรับการจัดเก็บภาษีในส่วนนี้ จึงน่าจะใช้ได้จริงในปีงบประมาณ 2549"

    -หวังเพิ่มรายได้7,000-8,000ล้านต่อปี

    ด้านแหล่งข่าวระดับสูงจากกระทรวงการคลัง กล่าวเช่นกันว่า ขณะนี้ได้มีการหารือจนได้ข้อสรุปถึงการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าจะให้มีการกำหนดเพดานการจัดเก็บไว้ที่ 0.1%ของราคาประเมินทุนทรัพย์

    โดยกรมที่ดิน (ซึ่งขณะนี้ได้ย้ายเข้ามาสังกัดกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง แล้ว) จะมีการประกาศราคาประเมินใน

    ทุกๆ 4 ปี กำหนดอัตราสูงสุดในการจัดเก็บจริง 0.095% และอัตราต่ำสุดที่จะจัดเก็บ 0.025% ตามประเภทการใช้สอย

    ทั้งนี้ การจัดเก็บภาษีดังกล่าว คาดว่าจะทำให้ท้องถิ่นมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว หรือมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 7,000-8,000 ล้านบาทต่อปี

    "ในการกำหนดระดับขั้นของอัตราภาษีที่จะจัดเก็บนั้น กรณีที่ดินในเชิงพาณิชย์จะถูกเก็บภาษีในอัตราสูงสุด

    แต่หากเป็นบ้านพักอาศัยจะจัดเก็บในอัตราต่ำลงมา หรือกรณีที่เป็นที่ดินเพื่อใช้ในการเกษตรจะจัดเก็บในอัตราที่ต่ำที่สุด

    แต่สำหรับที่ดินว่างเปล่าไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์อะไรก็จะถูกเก็บในอัตราสูงสุดเช่นกัน และกรณีของที่ดินว่างเปล่าหากยังไม่มีการดำเนินการนำไปใช้ประโยชน์อะไรอีกในปีถัดไป ก็จะต้องเสียภาษีเพิ่มอีกเป็นเท่าตัว แต่หากนำไปใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ก็ให้ได้รับการยกเว้นภาษี" แหล่งข่าวกล่าวและว่า

    ยกตัวอย่าง ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดพื้นที่ 50 ตารางวา ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร

    มีราคาประเมิน ประมาณ 3 ล้านบาท ตามโครงสร้างภาษีแบบเดิมจะได้รับการยกเว้นภาษี แต่ตามโครงสร้างภาษีใหม่หากจัดเก็บบนเพดานภาษีสูงสุด จะต้องเสียภาษี ประมาณ 2,850 บาทต่อปี แต่หากจัดเก็บในอัตราภาษีต่ำสุด จะเสียภาษี 750 บาทต่อปี หรือหากจัดเก็บในอัตรา 0.050 %(เป็นอัตราที่ใช้สมมติเพื่อทดลองคำนวณภาระภาษีของผู้ที่ซื้อบ้านเพื่อที่อยู่อาศัย โดยที่ยังไม่มีความชัดเจนในการกำหนดขั้นกลางของอัตราภาษีระหว่างเพดานสูงสุดและอัตราต่ำสุดในขณะนี้) จะต้องเสียภาษี 1,500 บาทต่อปี เป็นต้น

    -ที่ดินรกร้างเสียภาษีอัตราก้าวหน้า

    แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เปิดเผยเพิ่มเติมในเรื่องเดียวกันนี้ว่าก่อนหน้านี้ครม.ได้มีมติเห็นชอบในหลักการ ร่างพระราชบัญญัติภาษีดังกล่าวแล้ว เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2541ที่ถือเป็นส่วนหนึ่งของภาษีทรัพย์สินที่จัดเก็บจากอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างโดยเจตนารมณ์ของกฎหมายฉบับนี้ มุ่งแก้ไขปัญหาอุปสรรคหลายประการ เช่น การขาดแคลนเงินทุนของรัฐบาลท้องถิ่นซึ่งไม่เพียงพอต่อการพัฒนากิจการอันเป็นสาธารณประโยชน์ จนเป็นเหตุให้ต้องพึ่งพาการอุดหนุนจากรัฐบาลกลางมาก

    นอกจากนี้ ภาระภาษีรายปีที่ต่ำและมีข้อยกเว้นมากรวมถึงระบบการประเมินและการจัดเก็บที่ไม่เหมาะสม

    จะส่งผลต่อรายได้ของท้องถิ่นแล้ว ยังส่งผลให้ต้นทุนในการถือครองอสังหาริมทรัพย์มีน้อยจนเอื้อให้เกิดการเก็งกำไรและการใช้ที่ดินอย่างไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นกฎหมายฉบับใหม่นี้จึงกำหนดให้ผู้ครอบครองที่ดินรกร้างว่างเปล่าโดยมิได้ใช้ประโยชน์ ต้องเสียภาษีที่ดินในอัตราก้าวหน้า ซึ่งถือเป็นมาตรการอันหนึ่งในการควบคุมและสกัดกั้นนักเก็งกำไร พร้อมทั้งมอบอำนาจให้ท้องถิ่นสามารถยึดทรัพย์ขายทอดตลาดได้ด้วย

    ล่าสุดประเด็นทางกฎหมายที่ผ่านการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปแล้วคือ ให้ยกเลิกกฎหมาย 3 ฉบับ ประกอบด้วย พ.ร.บ.ภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ. 2508 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.ภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม และพ.ร.บ.กำหนดราคาปานกลางของที่ดินสำหรับการประเมินภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ. 2529

    -3ปีไม่ทำประโยชน์ยึดขายทอดตลาด

    สำหรับในรายละเอียดตาม ร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ……….ที่จะนำมาใช้นั้น กำหนด ให้ราชการส่วนท้องถิ่นมีอำนาจจัดเก็บภาษีจากที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในเขตและให้ถือเป็นรายได้ของราชการส่วนท้องถิ่นนั้น ให้กำหนดฐานภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทุกประเภท แยกเป็นที่ดินที่ไม่มีสิ่งปลูกสร้างให้ใช้ราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินเป็นฐานภาษี ที่ดินที่มีสิ่งปลูกสร้างให้ใช้ราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินรวมกับราคาประเมินทุนทรัพย์โรงเรือนสิ่งปลูกสร้างโดยไม่มีการหักค่าเสื่อมราคาเป็นฐานภาษี และห้องชุดให้ใช้ราคาประเมินทุนทรัพย์ห้องชุดเป็นฐานภาษีกำหนดให้มีเพดานอัตราภาษีสูงสุด 0.1%ของราคาประเมินทุนทรัพย์ฯ ถ้าที่ดินที่ต้องเสียภาษีเป็นที่ดินที่ทิ้งไว้รกร้างว่างเปล่า ให้จัดเก็บภาษีในอัตราก้าวหน้า โดยจะต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าในทุกปี

    "หากต่อมายังคงทิ้งไว้ไม่ได้ใช้ประโยชน์จนครบปีที่3 ในร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ได้กำหนดไว้เป็นบทเฉพาะกาลให้อำนาจท้องถิ่นสามารถยึดทรัพย์สินดังกล่าวให้ตกเป็นทรัพย์สินของรัฐและให้ท้องถิ่นสามารถนำทรัพย์สินดังกล่าวออกขายทอดตลาดได้ โดยรายได้ตกเป็นของท้องถิ่นนั้นๆ แต่หากมีการนำที่ดินเปล่าดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ ก็จะถูกเก็บภาษีตามอัตราภาษีที่กำหนดไว้ตามประโยชน์ของการใช้สอย"

    ในขณะเดียวกัน ให้ผู้บริหารท้องถิ่นมีอำนาจประกาศลดหรือยกเว้นภาษีที่จะเรียกเก็บจากที่ดินในกรณีที่การประกอบเกษตรกรรมได้รับความเสียหายมากผิดปกติหรือทำการเกษตรไม่ได้ด้วยเหตุอันสุดวิสัยหรือสิ่งปลูกสร้างถูกรื้อถอนหรือทำลายหรือชำรุดจนเป็นเหตุให้ทำการซ่อมแซมส่วนสำคัญ และให้ผู้บริหารท้องถิ่นมีอำนาจออกคำสั่งเป็นหนังสือยึดทรัพย์อายัด หรือขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ค้างชำระภาษี ซึ่งร่างกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว รัฐบาลจะนำมาใช้แทนกฎหมายภาษีโรงเรือนและที่ดิน และกฎหมายภาษีบำรุงท้องที่ เพราะที่ผ่านมาท้องถิ่นขาดประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษีมาก ทำให้รัฐต้องนำเงินงบประมาณส่วนกลางไปอุดหนุนจำนวนมาก

    จากคุณ : สุธน หิญ - [ 24 ก.ย. 48 12:35:15 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป