ผีบุญ
๑)สวรรค์จักต่ำได้........ฉันใด
คนบาปครองครรไล....นรกร้อน
ฟ้าต่ำปากเหวไหน.....ตะกายเหยียด สูงนอ
เจียมกะลาครอกค้อน..สิทธิ์ชั้นพึงยล ฯ
๒)คือคนเพียงค้ำถ่อ.....สังขาร
ดึงค่าแห่งจักรวาล......วุ่นพ้น
วงว่ายแห่งดาวมาร....เจิดจรัส
ใคร่ดับแสงเดือนด้น....มอดเชื้อชนวนไข ฯ
๓)ยุคย่างสุริย์ร้าง....แรมหาว
คนสัตว์กลืนกลิ่นคาว..ต่างข้าว
แล้งพันธ์พฤกษาสาว....เพียงสลด
แลแม่น้ำเอนกด้าว....เหือดสิ้นกระแสสาย ฯ
๔)มิแยกได้เพศพ้อง.....หญิงชาย
เกิดหมื่นล้านแสนตาย..ดื่นบ้าน
แหงนหน้ากลับหื่นกระหาย...จันทร์กรด
พงษ์เผ่าแปลกประหลาดกร้าน..เกลือกกลั้วบัดสี ฯ
๕)ทะเลคลั่งคลื่นบ้า....ถ่อยโถม
อุทกท่วมใจโซม.....สร่างแผ้ว
วิบัติบากคลาโครม..คล้อยเคลื่อน
สำนึกห่างคงแคล้ว....ขอดแห้งคนดี ฯ
๖)นาครมีขื่อบ้าน....แปเมือง
ทุนนิยมกลับเรือง...รุ่งแคว้น
กรีฑาทัพประเทือง..ประทุษเทียบ
อดอยากถึงแร้นแค้น...ขูดเนื้อกระยาหาร ฯ
๗)ใดบุรุษลุกสู้.....แทนประชา
หนึ่งกล่าวคำครหา..กบฏบ้าง
ชายนั่นบอกชาวนา...โดนเหยียบ
ไผเชื่อต่างขัดง้าง...แง่นี้โจรเหวย ฯ
๘)คนจนสถาปน์ขึ้น...ผีบุญ
ปลดปล่อยจากนายทุน..เทวษแท้
ก้าวสู่ยุคแห่งอรุณ...พุทธศาสน์
อิ่มทิพย์กรรมดีแล้...โลกนั้นปรารถนา ฯ
๙)งมงาย-โง่ต่างนั้น....ตรงไหน
หากรัฐปิดตาไข.....โจทย์นั้น
ทางสว่างทั่วถมไป...มิเลือก
เพราะกิเลสเกิดกั้น..ประโยชน์สร้างเพียงตัว ฯ
๑๐)พระศรีอาริย์โปรดด้วย..ตามบุราณ
ฤๅแค่เพียงตำนาน....ปลอบด้วย
เทวษทุกข์กี่เหนียงยาน..ยียวด
อันกี่วัฎฎะม้วย.......จึ่งได้สมสนอง ฯ
ยุคแห่งการฉาบหน้าได้ผ่านไปแล้ว เสมือนน้ำลดตอผุด
ปัญหาต่าง ๆ มากมายรุมเร้าทำให้ก้าวแต่ละก้าวของรัฐบาลชุดนี้กระโผกกระเผกเต็มที
แต่ก็ยังมีหน้าสาวเท้าจ้ำอ้าวไปอย่างรวดเร็ว
โดยไม่สนใจว่า คนจนที่ไม่มีรองเท้าใส่จะโดนหนามทิ่มหรือไม่
กระบวนการนี้ทำให้นึกถึง "กบฎชาวนา "อย่างผีบุญในสมัยก่อนที่ชาวบ้านเชื่อกันว่า
เป็นผู้ที่มาปลดปล่อยให้พ้นจากความแร้นแค้นและทุกข์ยากเข็ญ
และได้ไปพบโลกใหม่ในยุคของพระศรีอาริย์ตามคติที่กล่าวไว้ในพระไตรปิฏก
แต่ทางราชการได้กล่าวเหยียด ๆ ว่า ผีบ้าผีบุญ นี่แหละหนาช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวย
ว่าแต่ว่ายุคนี้ใครหล่ะที่จะเป็นผีบุญคนต่อไป
สุข และ ศุกร์สวัสดิ์ค่ะ พี่ ๆ ผู้เป็นไพร่ฟ้าเมืองกวีทุกท่าน
แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 48 06:22:33
จากคุณ :
malijauna
- [
30 ก.ย. 48 06:11:39
]