CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    คุณว่าสนธิเป็นจอมบิดเบือนข่าวหรือไม่ ?

      บิดเบือน เขียนข่าวเข้าทางตัวเองตลอด ทั้งที่สื่ออื่นเขาว่ากันไปอีกอย่าง (14 คน)
      ไม่บิดเบือน สื่ออื่นนั่นล่ะที่บิดเบือน สนธิพูดความจริงเสมอ (19 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 33 คน

     42.42%
     57.58%


    ขอยกตัวอย่าง นิดนึงนะครับ (จากคุณเพดาน ช่างฝัน กระทู้ด้านล่าง)

    สำนักพุทธโฉ่ ละเมิดมติมส. (ข่าวจากไทยรัฐ)


    สืบเนื่องจากกรณีที่มหาเถรสมาคม (มส.) ได้มีมติพิจารณาเลื่อนและตั้งสมณศักดิ์พระสังฆาธิการ ประจำปี 2548 ไปเมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น ปรากฏว่า ขณะนี้ได้มีการเตรียมการเพื่อเลื่อนและตั้งสมณศักดิ์พระสังฆาธิการทั่วประเทศอีกครั้ง เนื่องในวโรกาสพิเศษที่พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี ในเดือน มิ.ย.2549 โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นผู้ดำเนินการ

    ทั้งนี้ พระเทพวิสุทธิกวี วัดราชาธิวาส ในฐานะเลขานุการคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เปิดเผยเมื่อวันที่ 16 ต.ค. ว่า ขณะนี้ได้มีหนังสือจากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดทั่วประเทศ ทยอยส่งรายนามพระสังฆาธิการที่จะได้เลื่อน และตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะตั้งแต่ชั้นสามัญ หรือเจ้าคุณขึ้นไปจนถึงพระราชาคณะในชั้นที่สูงขึ้น มาที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยอ้างว่า น.พ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ ผอ.สำนักงานพระ พุทธศาสนาแห่งชาติ มีคำสั่งให้ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดทุกจังหวัด เสนอรายชื่อพระสังฆาธิการที่มีคุณสมบัติ และถือปฏิบัติเหมาะสมควรแก่การเลื่อนสมณศักดิ์เป็นกรณีพิเศษ ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองราชสมบัติครบ 60 ปี ซึ่งถือเป็นกระบวนการที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากการพิจารณาเลื่อนและตั้งสมณศักดิ์ ต้องเป็นไปตามขั้นตอนของคณะสงฆ์ ไม่ใช่ดำเนินการโดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

    พระเทพวิสุทธิกวีกล่าวด้วยว่า ในการประชุม มส. เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา มีมติชัดเจนว่าจะมีการเลื่อนและตั้งสมณศักดิ์พระสังฆาธิการที่ทำประโยชน์เป็นวาระพิเศษ ในเดือน มิ.ย.2549 ซึ่งปฏิบัติต่อเนื่องกันมา โดยจะมีการเลื่อนและตั้งสมณศักดิ์พระสังฆาธิการทั้ง 2 นิกาย คือ ธรรมยุต กับมหานิกาย ตั้งแต่พระราชาคณะชั้นสามัญ หรือเจ้าคุณขึ้นไป จนถึงรองสมเด็จพระราชาคณะ และได้มอบให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติไปประสานกับรัฐบาล ในการกำหนดจำนวนพระสังฆาธิการที่จะได้เลื่อนและตั้งเท่านั้น ส่วนการพิจารณาให้เป็นไปตามขั้นตอนของคณะสงฆ์ ไม่ใช่ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติไปดำเนินการเลื่อนและตั้งเอง

    “การที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติไปดำเนินการเองถือว่าละเมิดมติ มส. ไปทำลัดขั้นตอนหรือแอบดำเนินการ ที่สำคัญพระสังฆาธิการที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติประจำจังหวัดไปคัดเลือกมา สมมติว่าจังหวัดละ 2 รูป 76 จังหวัดก็ 150 กว่ารูป ขณะที่โควตามีไม่กี่สิบรูป หากถึงเวลาพิจารณาแล้วไม่ได้เลื่อนจะส่งผลเสียหายแก่พระสังฆาธิการรูปนั้นๆ เพราะพระสังฆาธิการที่ได้รับการเสนอชื่อก็ย่อมมีความหวัง และที่ผ่านมาทุกครั้งก็จะมีกลุ่มคนไปหาผลประโยชน์ แอบอ้างว่าสามารถวิ่งเต้นช่วยให้เลื่อนสมณศักดิ์ได้ เมื่อถึงเวลาแล้วไม่ได้ขึ้นมาก็จะผิดหวัง เสียทั้งเงินและถึงอาจจะเจ็บไข้ได้ป่วย ซึ่งมีให้เห็นกันอยู่ทุกปี ดังนั้น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ต้องรับผิดชอบในกรณีที่เกิดขึ้น” พระเทพวิสุทธิกวีกล่าวในตอนท้าย

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนังสือเสนอรายนามพระสังฆาธิการที่สมควรได้รับการเลื่อน และตั้งสมณศักดิ์จากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติประจำจังหวัด ที่ทยอยส่งเข้ามาที่ส่วนกลาง อาทิ จากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดจันทบุรี ลงนามโดยนายธีระ อานามวงษ์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดจันทบุรี ได้เสนอนามพระสังฆาธิการที่สมควรเลื่อนสมณศักดิ์เป็นกรณีพิเศษ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ หรือเจ้าคุณ ประกอบด้วย พระครูธรรมสรคุณ เจ้าอาวาสวัดกระทิง จ.จันทบุรี กับพระครูอุดมรัตนคุณ เจ้าอาวาสวัดศรีเมือง จ.จันทบุรี ซึ่งอยู่ในฝ่ายมหานิกายทั้ง 2 รูป

    ด้าน นายธีระ อานามวงษ์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า การดำเนินการเสนอรายนามพระสังฆาธิการ เป็นคำสั่งของ น.พ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และตนเห็นว่ามีพระสังฆาธิการใน จ.จันทบุรี สมควรจะได้เลื่อนขึ้นเป็นเจ้าคุณ ซึ่งได้สอบถามไปที่เจ้าคณะจังหวัดทั้งฝ่ายมหานิกายและธรรมยุต ปรากฏว่า พระเทพสารสุธี เจ้าอาวาสวัดจันทนาราม เจ้าคณะจังหวัดจันทบุรี ฝ่ายธรรมยุต บอกว่า ไม่มีพระสงฆ์ธรรมยุตรูปใดใน จ.จันทบุรี ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม จึงไม่ได้เสนอชื่อ คงมีแต่พระฝ่ายมหานิกายเท่านั้น

    ต่อมาผู้สื่อข่าวสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปยัง น.พ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้รับคำตอบว่าได้ให้นโยบายกับ ผอ. สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดจริง เพื่อให้ช่วยพิจารณาคัดเลือกพระสงฆ์ในแต่ละจังหวัด ที่ทำประโยชน์เพื่อสังคมเพื่อถวายกำลังใจ โดยรายชื่อพระสงฆ์ที่ถูกเสนอเข้ามา จะส่งให้คณะสงฆ์พิจารณาตามกระบวนการต่อไป สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติไม่ได้พิจารณาเอง เพียงแต่ช่วยรวบรวมรายชื่อเท่านั้น

    *********************************

    แล้วพอ ผอ.สำนักพุทธศาสนาถูกย้ายจากสาเหตุดังกล่าว.. เซี่ยงเส้าหลง ก็มาวิเคราะห์อย่างนี้..

    *****

    ย้ายผอ.สำนักพุทธฯ ปิดทางแก้สภาวะ"สังฆราช 2 พระองค์"

    โดย เซี่ยงเส้าหลง 20 ตุลาคม 2548 01:26 น.



         •• แล้ว น.พ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ คนดีอีกคนหนึ่งที่ไม่เข้าใครออกใครนอกจาก ความดีงาม, ความถูกต้อง ก็ถูกโยกย้ายจากตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กลับต้นสังกัดเก่าไปเป็น ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เรียบร้อยโรงเรียนวิษณุ เครืองามจนได้ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดล่าสุดเมื่อ วันที่ 18 ตุลาคม 2548 สาเหตุหลักเชื่อว่ามาจากการเรียกร้องของ ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่มีมาตั้งแต่ เมษายน 2548 ระเรื่อยมาถึง กรกฎาคม 2548 ประเด็นนี้ตัวคุณหมอเองเคยให้สัมภาษณ์ไว้ตั้งแต่เมื่อ วันที่ 24 เมษายน 2548 ใน ไทยโพสต์ – แทบลอยด์ ขอคัดตอนหนึ่งที่แสดงความเป็น คนตงฉิน ของท่านชัดเจนมาก ๆ ว่า “...ปัญหาเกิดขึ้นเพราะศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนารู้สึกว่าตัวเองเป็นเจ้าของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพราะเป็นผู้นำการเคลื่อนไหวเรียกร้องจนก่อตั้งสำนักงานนี้ขึ้นสำเร็จในช่วงปฏิรูประบบราชการที่ผ่านมา และก็คาดหวังว่าเราจะต้องเป็นเด็กดีที่อยู่ในโอวาทของศูนย์พิทักษ์ฯ ซึ่งใน 1 ปีที่ผ่านมามันก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ผอ.เก่านำพาสำนักพระพุทธฯเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับศูนย์พิทักษ์ฯมาก พูดอะไรก็ได้หมด ซึ่งผมเห็นว่าไม่ถูกต้อง ถ้ามีใครบังคับให้ผมทำอย่างนั้นผมก็คงต้องขอย้ายตัวเอง เพราะผมเห็นว่าสำนักพระพุทธฯควรจะเป็นกลาง และรับฟังทุกฝ่าย ดูแลชาวพุทธทุกฝ่าย.” และอีกตอนหนึ่งท่านกล่าวตรงไปตรงมาว่า “...หมอจักรธรรมถูกมองว่าเป็นลูกศิษย์หลวงตาบัว ห่างเหินจากสมเด็จเกี่ยว เป็นคนแบบสมัยใหม่เกินไป.” ก็เป็นอันว่านับจากนี้ไปสถานการณ์ความคิดเห็นที่แตกต่างในแวดวงพุทธศาสนาโดยเฉพาะประเด็นใหญ่ที่ต่อเนื่องมาเกือบ 2 ปี แต่งตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช หมดโอกาสที่จะ แก้ไขโดยหน่วยงานกลาง แห่งนี้เสียแล้วเมื่อสิ้น ผอ.ผ่าเหล่า, ผอ.แหวกแนว ที่เข้ามา ท่ามกลางความประหลาดใจของทุกฝ่าย เข้ามาเบียดแทรก ว่าที่ผอ.จากตำรวจที่ได้วางตัวกันไว้แล้ว ของอดีตผอ.คนแรก พล.ต.ท.อุดม เจริญ ที่มีความคิดเห็นทุกประการไปในแนวทางเดียวกับ วิษณุ เครืองาม, ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งชาติ และ เสียงข้างมากในมหาเถรสมาคม น่าเสียดาย

    จากคุณ : smurfy - [ 21 ต.ค. 48 09:17:51 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป