ศาล รธน.มีมติเอกฉันท์ไม่รับเรื่องที่ คตง.ส่งให้ตีความ
สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ 4 พ.ย.- ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับเรื่อง คตง.ส่งให้ตีความประเด็นการสรรหาผู้ว่าฯ สตง. เพราะไม่เข้าข่ายรัฐธรรมนูญมาตรา 266 เพราะไม่ใช่ความขัดแย้งระหว่างองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ด้าน คตง.เตรียมสรรหา ผู้ว่าฯ สตง.อีกครั้ง และหากวุฒิสภาไม่เห็นชอบด้วยจะถือเป็นความขัดแย้งระหว่างองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะสามารถส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามมาตรา 266 ได้
นายไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ แถลงผลการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ วันนี้ (4 พ.ย.) ว่าคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาคำร้องเรื่องคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 266 กรณีปัญหาเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของ คตง. ในกระบวนการเพื่อให้ได้มาซึ่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ใน 2 ประเด็น ประกอบด้วย
ประเด็นที่ 1 การที่ คตง.ได้ดำเนินการสรรหาและเลือกผู้สมควรดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ สตง.ใหม่ ภายหลังที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยที่ 47/2547 ว่ากระบวนการสรรหาผู้ว่าฯ สตง. ไม่ถูกต้อง และถือว่าคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ไม่ได้รับเลือกจากคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และไม่ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภามาตั้งแต่ต้น จึงไม่สามารถที่จะปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ว่าฯ สตง.ได้ ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่
นายไพบูลย์ กล่าวว่า ประเด็นนี้คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าการที่ คตง.ได้ดำเนินการสรรหาผู้สมควรดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ สตง. จนได้รายชื่อนายวิสุทธิ์ มนตริวัต เป็นบุคคลผู้สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้ว่าฯ สตง. และวุฒิสภาให้ความเห็นชอบ และนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งตามขั้นตอนรัฐธรรมนูญมาตรา 312 คตง.ได้ใช้ดุลพินิจพิจารณาดำเนินการในฐานะองค์กรตามรัฐธรรมนูญที่มีอำนาจหน้าที่ในการสรรหาและเลือกบุคคลผู้สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้ว่าฯ สตง. ซึ่งเป็นการปฏิบัติให้เป็นไปโดยชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ตลอดจนกฎหมายที่เกี่ยวข้องครบถ้วนตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
คตง.ไม่ได้มีปัญหาเกี่ยวกับการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของตนแต่อย่างใด การขอถอนตัวของนายวิสุทธิ์ จากการเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อ การโต้แย้งการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของ คตง. ในการสรรหาผู้สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้ว่าฯ สตง. จากคุณหญิงจารุวรรณ และการโต้แย้งจากองค์กรภายนอกต่าง ๆ ไม่ได้เป็นการโต้แย้งขององค์กรตามรัฐธรรมนูญที่เป็นปัญหาต่อการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน นายไพบูลย์ กล่าว
ประเด็นที่ 2 การที่ คตง.ดำเนินการสรรหาและเลือกผู้ว่าฯ สตง.ใหม่ โดยไม่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา พ้นจากตำแหน่งนั้น ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าประเด็นนี้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสรรหา จึงอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ คตง. และองค์กรที่เกี่ยวข้องในกระบวนการเพื่อให้ได้มาซึ่งผู้ว่าฯ สตง. ที่ต้องพิจารณาวินิจฉัยเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คำขอดังกล่าวไม่ได้เป็นกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของ คตง. ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับไว้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 266
จากเหตุผลดังกล่าวศาลรัฐธรรมนูญจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าคำร้องที่ คตง.ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยทั้ง 2 ข้อ ไม่ได้มีปัญหาเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของ คตง. ศาลรัฐธรรมนูญจึงไม่รับคำร้องของ คตง.ไว้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 266 นายไพบูลย์ กล่าว
ด้านนายเกรียงศักดิ์ วัฒนวรางกูร หนึ่งในคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยไม่รับคำร้องของ คตง. ว่า คตง.ยังไม่ทราบเรื่องอย่างเป็นทางการ แต่ คตง.จะนัดหารือกันอีกครั้งหนึ่งเมื่อศาลรัฐธรรมนูญแจ้งมา อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเห็นว่าเมื่อเกิดกรณีเช่นนี้ คตง.คงต้องสรรหาผู้ว่าฯ สตง. ใหม่ หากศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าการสรรหาผู้ว่าฯ สตง. ครั้งนายวิสุทธิ์ มนตริวัต ชอบด้วยรัฐธรรมนูญแล้ว
คตง.บางส่วน ในการหารือก่อนที่จะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก็มีความเห็นแนวทางนี้เช่นกัน แต่เมื่อมีการโต้แย้งจากองค์กรประชาชนและนักวิชาการต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความรอบคอบ จึงตัดสินใจส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ก็นับว่าเป็นการกระทำที่มีเหตุผล นายเกรียงศักดิ์ กล่าว
นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า หากกระบวนการสรรหาใหม่ที่จะมีขึ้นครั้งนี้เกิดปัญหาว่าวุฒิสภาไม่เห็นชอบหรือมีข้อโต้แย้ง ก็คงต้องถือว่าเป็นปัญหาความขัดแย้งระหว่างองค์กรที่คงจะต้องส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามมาตรา 266 หรือหากคำแถลงของศาลรัฐธรรมนูญไม่ระบุถึงเรื่องนายวิสุทธิ์ เอาไว้ โดยส่วนตัวเห็นว่าอาจจะต้องใช้ทางเลือกด้วยการให้วุฒิสภาได้พิจารณาถึงข้อโต้แย้งที่มี ส.ว.เสียงข้างน้อยและนักวิชาการเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้วินิจฉัยกรณีการพ้นจากตำแหน่งผู้ว่าฯ สตง. ของคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา เพราะวุฒิสภามีหน้าที่ต้องถวายคำแนะนำ
ทั้งนี้ มีรายงานว่า คตง.จะนัดหารือในเรื่องดังกล่าวในสัปดาห์หน้า โดยนายนรชัย ศรีพิมล ประธาน คตง. อาจจะเรียกประชุมเป็นการเร่งด่วนก่อนจะประชุมประจำสัปดาห์ทุกวันพุธ เนื่องจากกระบวนการสรรหาผู้ว่าฯ สตง.คนใหม่ จะต้องมีขึ้นภายใน 30 วัน นับจากวันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย
อย่างไรก็ตาม คตง.บางคนเห็นว่าคุณหญิงจารุวรรณ ไม่ควรจะดื้อดึงอยู่ในตำแหน่งอีกต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการมิบังควรที่อ้างว่ายังไม่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ออกจากตำแหน่ง เพราะตำแหน่งที่จะต้องมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้พ้นจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญระบุไว้ไม่รวมถึงตำแหน่งผู้ว่าฯ สตง. อีกทั้งใน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดินก็ไม่ระบุถึงเรื่องนี้แต่อย่างใด
กรณีที่เกิดขึ้นน่าจะเทียบเคียงได้กับกรณีของ พล.อ.ศิรินทร์ ธูปกล่ำ อดีตประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ากระบวนการสรรหาไม่ถูกต้อง แม้จะได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ก็ยังพ้นจากตำแหน่งโดยไม่โต้แย้ง แหล่งข่าวระบุพร้อมตั้งคำถามว่าปัจจุบันมีตำแหน่งที่ต้องมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นจำนวนมาก หากทุกคนจะอ้างเหตุผลเช่นเดียวกับคุณหญิงจารุวรรณ จะไม่ทำให้เกิดปัญหาหรืออย่างไร
ทั้งนี้ ตำแหน่งที่จะต้องมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้พ้นจากตำแหน่งมีกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ 9 มาตรา ประกอบด้วย มาตรา 13 และ 16 องคมนตรี มาตรา 17 ข้าราชการในพระองค์และสมุหราชองครักษ์ มาตรา 216 และ 217 ตำแหน่งรัฐมนตรี มาตรา 227 ข้าราชการฝ่ายทหารและฝ่ายพลเรือน ตำแหน่งปลัดกระทรวง อธิบดี และเทียบเท่า มาตรา 251 และ 273 ตำแหน่งผู้พิพากษาและตุลาการ และมาตรา 277 ตำแหน่งตุลาการศาลปกครอง
ดังนั้น การพ้นจากตำแหน่งในตำแหน่งที่ต้องมีพระบรมราชโองการจะถวายพระราชอำนาจอย่างชัดเจนในรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง. - สำนักข่าวไทย
จาก: http://tna.mcot.net/
[ 2005-11-04 : 18:40:57 ]
จากคุณ :
X-CU 
- [
5 พ.ย. 48 00:04:03
]
ถึงศาล รธน.มีมติเอกฉันท์ไม่รับเรื่องที่ คตง.ส่งให้ตีความ ... แต่ข้างมีความเห็นดีๆ ให้อ่านกัน
