ถึงเวลาแล้ว (17 คน)
	รออีก 3 ปีกว่า (6 คน)
	จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 23 คน

	73.91%
	26.09%

ตอนนี้้เมืองไทยอยู่ในสภาวะที่ล่อแหลมเป็นอย่างยิ่ง ประชาชนคนในชาติแบ่งออกเป็นซีกที่ชัดเจน และมี
การขัดแย้งกันอย่างรุนแรง หากรักชาติกันจริงๆ เรา
ลองทำใจให้สงบ ทำใจให้เป็นกลาง ต้องการเห็น
ประเทศที่มีรูปทรงเหมือนขวานทองเล่มนี้เจริญ
อย่างยั่งยืน มีความสมบูรณ์และสมดุลย์กันระหว่าง
ความเจริญทางวัตถุ ทางเศรษฐกิจ ทางศีลธรรม และสังคม

พวกเราต้องยอมรับความจริงในการที่เกิดมาเป็นคนไทย
อย่างหนึ่งว่า ด้วยวัฒนธรรมอันดีงามของเรานี่แหละเป็น
เอกลักษณ์ เป็นจุดเด่น ซึ่งหาชาติใดเสมอเหมือนไม่ได้
นิสัยของคนไทยที่ชาติอื่นหาไม่ได้ คือ การมีมิตรจิต
มิตรใจ และก็ด้วยสภาพวัฒนธรรมกับนิสัยของเราเองอีก
นั้นแหละที่ทำให้เราเจริญช้ากว่าประเทศทางตะวันตก
ทางด้านวัตถุชั่วชีวิต เราๆ ท่านๆ ที่นั่งเถียงกันอยู่ใน
ห้องนี้ ไม่มีทางเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ไทยจะเหมือน
ฝรั่ง หรือฝรั่งจะเหมือนไทยแน่ๆ เราก็จะยังคงซื้อ
เทคโนโลยีด้วยสินค้าเกษตรไปอีกหลายปี เราก็คง
จะเป็นผู้ประกอบรถยนต์ ไม่ใช่ผู้ผลิตรถยนต์อีกสักระยะ

ที่กล่าวมาเนิ่นยาวก็เพื่อจะสื่อว่า ประเทศไทยไม่ควร
ไปยึดติดกับการที่จะแข่งขันกับโลกทางด้านวัตถุเท่านั้น
โดยลืมรากเหง้าของเรา ลืมสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์
ลืมศีลธรรมอันดี ลืมยิ้มสยาม ซึ่งเป็นโลโก้มานาน
การส่งเสริมให้สังคมมีความสมานสามัคคีกัน ผู้คนมี
จิตใจที่ดี มีเงินสุจริตสำหรับใช้จ่ายบนรากฐานของ
เศรษฐกิจที่พอเพียง ไม่เป็นหนี้ใคร ก็น่าจะเป็นความสุข
ที่พึงใจได้แล้วปัจจุบัน

การสื่อสารในปัจจุบันรวดเร็วขึ้น สื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น
หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ หรือ อินเตอร์เน็ตก็มีคน
ใช้เยอะขึ้น คนเราจึงมีความเคยชินกันไปโดยไม่รู้ตัว
ทางด้านสิ่งอำนวยความสะดวก จนมองแต่เรื่องว่า
หากจะมีความสุข ต้องมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก
ให้พร้อม การจะมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ต้องมีเงิน
การจะมีเงินต้องมีงานดีๆทำ การจะมีงานดีๆ ทำ เศรษฐกิจ
ของประเทศต้องดี การที่เศรษฐกิจของประเทศจะดี ต้อง
ได้รัฐบาลที่บริหารงานแบบมืออาชีพและต่อเนื่อง

ประเด็นที่เป็นตลกร้องไห้ของเราก็คือ เราไม่เคยมีคนเก่ง
ที่อยู่นานแล้วไม่ลืมตัว เรามักได้รัฐบาลที่เก่ง แต่ไม่ดี
ได้รัฐบาลดีแต่ไม่เก่ง ได้ทั้งไม่ดี และไม่เก่งก็มี

ท่านทักษิณถูกเลือกมาอย่างท่วมท้น
เป็นสิทธิ์ชอบธรรมที่จะได้บริหารประเทศตามระบอบ
ประชาธิปไตย

สาเหตุหลักที่ได้รับการเลือกตั้งในสมัยแรก คือ
1. นโยบายที่แหวกหลักการเดิมๆของ รัฐบาลทุกชุด
2. ภาพลักษณ์ของการเป็นมืออาชีพในการบริหาร
3. ประชาชนคนชั้นกลางที่มีการศึกษาเอาใจช่วยเยอะ เพราะหวังให้เป็นอัศวินม้าขาวมาช่วยกอบกู้เศรษฐกิจ
4. ประชาชนระดับรากหญ้าที่ชอบนโยบายประชานิยม
5. กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดว่าน่าจะถึงเวลาที่คนไทย ก้าวขึ้นไปผงาดในเวทีโลกได้แล้ว
6. เป็นการรวบรวมกลุ่ม สส.เดิมที่มีฐานเสียงอยู่แล้ว
7. การ present ตัวเองที่ทำอย่างมืออาชีพโดยมี ทีมงานสร้างภาพโดยเฉพาะแบบเดียวกับ ปธน.อเมริกา
8. ดูแล้วไม่น่าโกง เพราะรวยอยู่แล้ว
9. นิสัยคนไทยที่ชอบลองของใหม่
10. การเบื่อรัฐบาลที่เชื่องช้า

ส่วนสาเหตุหลักที่ได้รับการเลือกตั้งครั้งที่ 2 คือ
1. การควบคุมสื่อที่ยังได้ผล
2. ฝ่ายค้านยังไม่มีใครที่มีศักยภาพเพียงพอ
3. ประชาชนระดับรากหญ้ายังคงนิยมชมชอบ
4. ประชาชนอีกส่วนหนึ่งยังอยากเห็นการเมืองที่นิ่งและต่อเนื่อง
5. การพลาดของฝ่ายค้านเองในด้านการดำเนินนโยบายหาเสียง
6. ภาพลักษณ์ยังขายได้ในระดับสากล
7. บวกลบคูณหารแล้ว วัดครึ่งนึง กรรมการครึ่งนึง ยังพอรับได้
8. คนส่วนหนึ่งไม่ชอบ ปชป เป็นทุนเดิม
9. พวก สส หน้าเก่ายังอยู่กันครบ แม้มีข่าวไม่พอใจ
10. การแถลงผลงานเป็นรูปธรรม

ประชาชนได้ใช้งานรัฐบาลชุดนี้มาพอสมควรแล้ว
ตอนนี้ท่านผู้นำปากพาจนของเราเป็นอย่างไร
บ้าง ผมอยาก Survey ดูหน่อยว่า
ต้องรออีก 3 ปีกว่า หรือ จะฆ่าขุนพลกันตอนนี้
เราเสร็จศึกกันจริงๆ แล้วรึยัง

แล้วเราคิดว่าใครควรมาเป็นแม่ทัพคนต่อไป
คนที่ทั้งดี ทั้งเก่ง และคุมปูในกระด้งได้
ยังมีหลงเหลือในเมืองไทยหรือเปล่า