ความคิดเห็นที่ 1 จำหน่ายพวกแอบแฝงไม่ทำงาน ถ่ายพยาธิบุคคลากรเกาะกิน สาธุ จากคุณ : X-CU - [ วันรัฐธรรมนูญ 00:35:37 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ออกนอกระบบ ผู้บริหารก็ต้องออกนอกระบบด้วยสิครับ ไม่ใช่ว่าผู้บริหารเป็นข้าราชการ ส่วนเด็กจบใหม่เป็นพนักงานราชการ (แค่ชื่อก็..) ถ้าออกนอกระบบทั้งผู้บริหารและข้าราชการ มันก็จะถือว่าแฟร์ๆ แต่ ก็ไม่ออก ไม่ปรับเป็นพนักงานราชการ เพราะ เขาก็รอบำเหน็จบำนาญนั่นแหละ และก็บังคับพวกผู้น้อยออกนอกระบบ แบบนี้องค์กรถึงออกนอกระบบ แต่การบริหารก็ยังยึดติดกับสิ่งเดิมๆ ไม่มีประโยชน์อะไรในแง่การบริหารเท่าไร มันต้องออกนอกระบบทั้งคนด้วย ถึงจะเรียกว่า ยุติธรรม อย่างทั่วถึง และเป็นธรรม จากคุณ : เช็คบิล - [ วันรัฐธรรมนูญ 01:21:35 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มันยุติธรรมพอสมควรนะครับ เพราะนี่มันเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านเท่านั้น ผู้บริหารเหล่านี้  ถ้าให้เดาเขาก็คงรับราชการมานาน งานราชการมันจะได้ผลดีตอบแทนบ้างก็ตอนมีอายุ คนเหล่านี้เขาทนรับเงินเดือนน้อยๆ มาตั้งนานแล้ว ตอนนี้คือตอนที่เขาหวังว่าหลวงจะดูแลเขาบ้าง ส่วนคนใหม่  เข้ามาก็ได้อัตราใหม่  ไม่ได้รับเงินเดือนถูกๆ อย่างพวกเขา แต่ผมก็ยอมรับว่าเงินเดือนคนเข้าใหม่ในระบบพนักงานก็ยังน้อยเกินไปอญู่ดี ... เห็นใจครับ จากคุณ : X-CU - [ วันรัฐธรรมนูญ 01:42:10 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขออนุญาตเจ้าของกระทู้ไม่ตอบนะครับ แต่เอาข่าว ม.สิงค์โปร์มาฝาก http://www.bangkokbiznews.com/2005/11/22/news_19218806.php?news_id=19218806 มหาวิทยาลัยสิงคโปร์ออกหุ้นกู้หาทุนเลี้ยงตัว สิงคโปร์ - มหาวิทยาลัยในสิงคโปร์เตรียมเจาะตลาดทุน หลังรัฐบาลปล่อยเป็นอิสระ ตามแผนปั้นการศึกษาเป็นแหล่งทำเงินหลัก เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจในประเทศ สำนักข่าวดาวโจนส์รายงานว่า มหาวิทยาลัยขนาดใหญ่สุด 2 แห่งของสิงคโปร์ ได้แก่ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง อยู่ระหว่างเตรียมตัวเข้าตลาดทุนเพื่อระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์เริ่มดำเนินโครงการหุ้นกู้ระยะปานกลางมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์แล้ว ขณะที่แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมธนาคารอ้างว่า มหาวิทยาลัยแห่งนี้จะเปิดตัวหุ้นกู้อย่างเป็นทางการภายในเร็วๆ นี้ ขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยางต้องการระดมทุน 800 ล้านดอลลาร์ในปีหน้า โดยอาศัยเครื่องมือทางการเงินอย่างหลายหลาก รวมถึงหุ้นกู้ สินเชื่อระยะยาว และสินเชื่อหมุนเวียน การระดมทุนในตลาดทุนถือว่าไม่ธรรมดาสำหรับสถาบันการศึกษาในเอเชีย แม้ถือเป็นเรื่องปกติในภูมิภาคอื่นโดยเฉพาะสหรัฐ และอาจเป็นตัวอย่างให้สถาบันการศึกษาอื่นในสิงคโปร์ ตลอดจนประเทศอื่นๆ ปฏิบัติตาม ทั้งนี้ รัฐบาลสิงคโปร์เพิ่งอนุญาตให้สถาบันการศึกษามีอิสระมากขึ้น ตามแผนส่งเสริมให้การศึกษาเป็นแหล่งทำเงินหลักสำหรับเศรษฐกิจสิงคโปร์ที่พึ่งพาการค้าเป็นอย่างมาก ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป มหาวิทยาลัยในสิงคโปร์จะมีอิสระมากขึ้น ทั้งด้านการดำเนินงานและการบริหารเงินทุน โดยจะมีเสรีภาพในการบริหารงาน การใช้จ่ายงบประมาณ และการจัดเก็บค่าเล่าเรียน ขณะที่รัฐบาลจะสนับสนุนเงินทุนเพียงบางส่วน อยู่ที่กระทู้นี้ครับ http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P3933834/P3933834.html จากคุณ : นะ (tonytui) - [ วันรัฐธรรมนูญ 03:05:47 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้ายึดติดที่ระบบซี ผมคงไม่มาสอนหนังสือหรอกครับ ข้าราชการวุฒิปริญญาโท จะได้ซีอะไร? เงินเท่าไหร่? ออกนอกระบบแล้ว ไม่จำกัดเงินเดือน อยู่ที่ความสามารถ ดีออกครับ ระบบเก่า มันห่วยครับ ระบบเดิม เขาหวังสบายตอนแก่ พอแก่มาก็เฉื่อยๆ เขาว่าเขาทำมาเยอะแล้วตั้งแต่ยังหนุ่มยังสาว เลยอยู่ไปวันๆรอ60ก็มี บางคนก็ยังขยันอยู่ก็มี ระบบใหม่ ทุกคนขยันตลอดเวลา ทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย สัญญาต่อทุก3ปี ตกประเมินก็ไม่ได้ต่อสัญญา จากคุณ : โลหการ4 - [ วันรัฐธรรมนูญ 06:28:44 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เจ้าของกระทู้ได้ข่าวมาจากไหน http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01edu02091248&day=2005/12/09 *********************** วุฒิฯโหวตให้ตกร่างกฎหมายม.ขอนแก่น ชี้เหตุกมธ.ร่วมฯแก้ไขขัดหลักพิจารณากม. เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม นายภาวิช ทองโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมวุฒิสภา เมื่อเร็วๆ นี้ ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยขอนแก่น(มข.) ซึ่งเป็นร่างกฎหมายเข้าสู่การเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับรัฐบาล ที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมาธิการ(กมธ.) ร่วมสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาแล้ว โดยที่ประชุมวุฒิสภาลงมติโหวตไม่รับร่าง พ.ร.บ.มข.ฉบับ กมธ.ร่วมสองสภาดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่า กมธ.ไปแก้ไขในสาระที่ไม่ได้เป็นปัญหาความขัดแย้ง ซึ่งขัดหลักการของการพิจารณากฎหมาย วุฒิสภาจึงโหวตไม่รับและตกไป อย่างไรก็ตาม ยังเหลือในขั้นตอนของสภาผู้แทนราษฎรว่าจะลงมติรับหรือไม่รับร่างพ.ร.บ.ฉบับ กมธ.ร่วม สองสภาดังกล่าว ถ้าไม่รับก็สามารถหยิบยกร่าง พ.ร.บ.ฉบับที่ผ่านสภาผู้แทนฯซึ่งเป็นร่างแรกมาใช้ได้ ซึ่งขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) กำลังประสานงานกับ ส.ส.อยู่ "จริงๆ แล้ว ประเด็นที่ กมธ.ร่วมสองสภาแก้ไข ทำให้สาระร่างกฎหมายดีขึ้น แต่ทางวุฒิสภาเห็นว่าขัดกับหลักการพิจารณากฎหมายเพราะไปแก้ไขประเด็นที่นอกเหนือจากความขัดแย้ง" นายภาวิชกล่าว ด้านนายสุมนต์ สกลไชย อธิการบดี มข. กล่าวว่า กมธ.ร่วมสองสภาไปแก้ไขเพิ่มเติมในมาตรา 25 เกี่ยวกับภารกิจบทหน้าที่ของมหาวิทยาลัย โดยไปแก้ไขให้มีบทบาทหน้าที่กว้างๆ ครอบคลุมทุกด้านที่เกี่ยวกับวิชาการ แต่ไม่แจกแจงเป็นข้อๆ ต่างกับร่างเดิมที่ได้ระบุภารกิจทั้งหมด 11 ข้อ อย่างไรก็ตาม ทาง มข.ไม่ขัดข้องไม่ว่าสภาผู้แทนราษฎรจะหยิบยกร่างฉบับ กมธ.ร่วมสองสภาหรือร่างฉบับสภาผู้แทนฯมาใช้ *********************** http://www.senate.go.th/Secretariat/minute/n02548.pdf โดยส่วนตัวผมได้ประโยชน์ (พอสมควร) กับการนี้ (จริงๆคืออยู่ได้อย่างสบายทั้งสองระบบ) แต่ ... ไม่เห็นด้วยกับการออกนอกระบบของหลายๆ มหาลัย เพราะผมเห็นด้านเสียมากกว่าดี (แต่ไม่ขอลงรายละเอียด) ผมว่าถ้าจะออกกันจริงๆ มหาวิทยาลัยใหญ่อย่างจุฬา-ธรรมศาสตร์ น่าจะนำร่องมากกว่า หมาลัยอื่นโดยเฉพาะจากภูมิภาค ไม่น่าจะเสี่ยงแบบพรวดพราด จากคุณ : bgn - [ 11 ธ.ค. 48 09:32:02 A:10.161.40.31 X:202.12.97.119 TicketID:093114 ]