ความคิดเห็นที่ 1
คนตั้งกระทู้นี้คงไม่เข้าใจระบบเศรษฐกิจดีพอครับ ดินน้ำลมไฟ ที่ว่านี้ก็คงหมายถึง ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานของประเทศเรานั่นเอง
เศรษฐกิจไทยช่วงที่ผ่านมาโตเร็วมาก ก็ต้องการปัจจัยการผลิตมาก ต้องการไฟฟ้า ต้องการน้ำมันมาก กำลังการผลิตไฟฟ้าก็ไม่พอ ต้องซื้อจากโรงไฟฟ้าเอกชน ซื้อจากพม่า ซื้อจากลาว ซึ่งไฟฟ้าเป็นปัจจัยที่มีผลต่อเศรษฐกิจมาก หากวันนึงเกิดทะเลาะกับพม่า ทะเลาะกับลาว แล้วเขาหยุดส่งไฟฟ้าให้เราล่ะ ประเทศชาติจะเสียหายขนาดไหน ประเทศเรายากจนมากถึงกับผลิตกระแสไฟฟ้าเองไม่ได้หรือไง
สร้างเขื่อนไหม่ก็ไม่ได้ โดนต่อต้านเยอะ โรงไฟฟ้าถ่านหินก็ไม่ได้ มีผลกระทบสิ่งแวดล้อม ชุมชนไหนๆก็ต่อต้าน โรงไฟฟ้าดีเซล ต้นทุนค่าน้ำมันก็แพง ค่าFTก็ต้องแพงไปด้วย
ถ้าต้องลงทุนสร้างโรงไฟฟ้า จะเอาทุนมาจากไหน Debt Financing หรือ Equity Financing จะกู้....ตอนนี้เงินเฟ้อ ดอกเบี้ยแพง ต้นทุนการระดมทุนก็สูง ภาระของประเทศก็จะมาก หนี้สาธารณะก็จะมาก ชาวบ้าน ชาวนาที่ไม่ได้ใช้ไฟฟ้ามากมายแต่กลับต้องแบกหนี้สาธารณะไปกับเราด้วย
เข้าตลาดหุ้น ...เพียง 25% ที่เหลือยังคงเป็นของรัฐ ยังมีสถานภาพเป็นรัฐวิสาหกิจเหมือนเดิม ส่วนที่อยู่ในตลาดหุ้น ก็เป็นไปตามกลไกตลาด ทุกคนในโลกสามารถมาลงทุนในหุ้นนี้ได้ คนไทยก็ซื้อได้ ต่างชาติก็ซื้อได้ โรงไฟฟ้าในอเมริกา คนไทยก็สามารถไปซื้อถือหุ้นได้ ต่างชาติก็มาซื้อหุ้นการไฟฟ้าได้ เป็นไปตามกลไกตลาด คนที่บอกว่าต่างชาติจะมาฮุบเอาการไฟฟ้าไป ควรจะใช้ปัญญามากๆก่อนออกมาเต้าข่าว แล้วการเข้าตลาดหลักทรัพย์ก็ยิ่งทำให้การไฟฟ้าต้องเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะมากขึ้น โดนตรวจสอบได้ง่ายขึ้น การกระจายหุ้นก็โปร่งใส แถมห้ามพนักงานขายหุ้นต่ออีกในระยะเวลาที่กำหนด หลังจากนั้นคนไหนจะมากว้านซื้อหุ้นก็เป็นเรื่องของเขา เขาต้องแบกรับความเสี่ยงเอาเอง อย่างคนที่ไปกว้านซื้อหุ้นการบินไทย เขาก็ต้องแบกรับความเสี่ยงเอง ตอนนี้เจ๊งกันทั่วหน้า
คนที่ต่อต้านการแปรรูป ไม่รู้ต่อต้านไปทำไม..โลกกำลังเปลี่ยนไป การลงทุนใหม่ต้องเกิดขึ้น ถ้าโปร่งใสตรวจสอบได้ก็ถือว่าทำดีแล้วเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติ อย่ามัวแต่คัดค้านถ่วงความเจริญกันดีกว่าครับ
ถ้ารู้ไม่ลึก ไม่เข้าใจระบบเศรษฐกิจ อย่าไปกล่าวหาว่าคนอื่น "ขายชาติ" ดีกว่าครับ เห็นคำนี้ในกระทู้คุณแล้วเสียความรู้สึกมาก
จากคุณ :
เด็กสวน98
- [
19 ธ.ค. 48 09:22:41
]
|
|
|