ความคิดเห็นที่ 1 อืมม์ทำลิงค์ไว้ให้สำหรับผู้ต้องการความสะดวกในการ อ่านการชมเรื่องราวบันเทิงก่อนหน้ากระทู้นี้ค่ะ ติดตามภาค 1 ภาค 2 ได้ที่นี่เลยค่ะ http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P3952270/P3952270.html ********************************** http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P3966177/P3966177.html ************************************ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 22 ธ.ค. 48 01:50:17 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แปะภาพปราสาทเมืองต่ำไว้ก่อน เป็นน้ำจิ้มให้ดูกันเล่น ๆ แต่เราจะกั๊กไว้ก่อนยังมะเล่าหรอกค่ะ เก็บไว้ก่อน เพราะว่าเราต้องไปเขาพระวิหารก่อนไงคะ ไม่งั้นเล่าซีน กระโดดไปมาปวดหมองแย่เลยค่ะ ก็มาย้อนกลับไปเช้าวันใหม่ที่ผาแต้มนะคะ หลังจากที่เรา นอนค้างกันในเต๊นท์กันไปแล้ว  เรียกว่าห้องน้ำห้องท่าเค้า สะอาดใช้ได้เลยค่ะ  มีแบ่งหญิงชายแต่อยู่ติดกัน  มีหลาย ห้อง สะดวกใช้ได้ค่ะ  ตอนที่เราอาบน้ำนั้น  น้ำยังไม่เย็น จัด  อาจเป็นเพราะอากาศรอบ ๆ ยังไม่ยะเยือกเท่าตอน ค่ำ ๆ ไปแล้วอ่ะค่ะ ไม่เหมือนที่ตอนไปพักที่ภูกระดึง  บ้านกรมป่าไม้ อันนั้น ยังกับเอาน้ำในช่องฟรีซมาราดตัวเลยค่ะ  หนาวสั่นไปหมด ดีไม่เป็นปอดบวมกันละนั่น ก็กลับมาที่ผาแต้มต่อนะคะ  เช้าวันรุ่งขึ้นเราก็เร่งรีบไปดู พระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิว  โหคนล้านแปดเลยค่ะ  เราเร่ง รีบเก็บต๊งเก็บเต๊นท์เพื่อให้ทันดูพระอาทิตย์ขึ้นไงคะ งานนี้คุณลำน้ำ C ตื่นตั้งกะแต่ตีสี่  ได้ยินเสียงแล้วก็เผลอ หลับไปอีก  จนเสียงนาฬิกาปลุกจากมือถือดังตอนตีห้านั่น ละค่ะ  พวกเราถึงค่อยลุกขึ้นจัดแจงเก็บเสบียงสัมภาระ แล้วก็ร่ำลากันแบบรีบด่วนกับคุณลำน้ำ C 5555 โอยอะไร จะแข่งกับเวลาปานนั้นเนี่ยค่ะ อิ  อิ ภาพพระอาทิตย์ขึ้นก็แปะในกระทู้ของคุณลำน้ำ C  ซึ่ง เดี๋ยวก็คงมีคนมาแปะภาพสวย ๆ เสริมอีกละค่ะ เพราะของ ยี่หร่าหมดเฟรมแล้วค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 22 ธ.ค. 48 02:00:21 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ช่วงเช้าที่เราไปชมตะวันขึ้น ถ้าไม่มีเมฆมาบดบังก็ดีซีคะ พอลุ้นได้ที่แระ ตะวันโผล่พ้นเมฆออกมาแสงก็ให้เจิดจ้า จัดจ้านไปซะแหล่ว  อดถ่ายภาพเลยค่ะ เพราะมันสว่าง เกินไปแล้วค่ะ  แต่ยังไงความงามรายรอบยังโอเคอยู่นะคะ มิได้เสียบรรยากาศแต่อย่างใด  เพียงแต่ถ้าเห็นดวงตะวัน กลม ๆ โต ๆ ละก็จะยิ่งได้อรรถรสยิ่งขึ้นละค่ะ หลังจากที่เราดื่มด่ำวิวรอบกายเต็มอิ่มแล้วเราก็เคลื่อน ขบวนไปหาที่หม่ำกัน ก็ได้ที่ร้าน " พูมายาม " หม่ำข้าวต้ม มื้อเช้ากันที่โขงเจียมค่ะ เป็นข้าวต้มปลาบึก หรือปลาคังมีให้เลือก ตามด้วยกาแฟ หรือชาร้อนตามแต่ชอบค่ะ   และที่นี่คุณชาราก็ได้โน๊ตบุค คุณจอมมารส่งข้อความแจมทักทายในกระทู้คุณลำน้ำ C ค่ะ ตามประสาคนติดเน็ทค่ะ อิ อิ  แล้วพวกเราก็ได้ถ่าย โอนข้อมูลจากเม็มโมรีลงในเครื่องของคุณจอมมารด้วยค่ะ เพราะมันเต็มหมดแย้ว  เตรียมมาสองแผ่น 256 mb กับ 128 mb ยังไม่พอเลยค่ะ คิดดูว่าถ่ายตะบี้ตะบันกันขนาด ไหน 555 หลังจากนั้นเราก็เดินทางไปเรื่อย  ๆ เห็นป้ายสถานที่ไหน น่าสนใจเราก็จะเลี้ยวแว๊บ ๆ เข้าไป  ก็ถ้าจำมิผิดเราก็จะไป ดูสามเหลี่ยมมรกตด้วยมังคะ  แต่พอไปเข้าจริง ๆ เป็นเขต หวงห้าม เพื่อความปลอดภัยเพราะว่าติดชายแดนลาว เขมร ค่ะ  ไปเจองานของทหารเค้าพอดีค่ะ  รายละเอียดไว้รอ ท่านอื่น ๆ มาเล่าเสริมละกันนะคะ   จากนั้นก็รู้สึกจะหลับไม่สมประดี  ไปจนถึง.......... ปราสาทเขาพระวิหาร นั่นละค่ะ  ไปถึงนั่นก็ต้องจอดรถทิ้งไว้ แล้วก็เดิน เดิน แล้วก็เดิน ๆๆ  ขาแทบเดี้ยงเลยค่ะ  ฮี่ ๆๆๆ เราต้องไปเสียค่าธรรมเนียมผ่านเข้าประเทศกัมพูชาด้วยค่ะ รู้สึกจะ 50 บาทค่ะ  ระหว่างทางได้น้ำอ้อยคั้นสด ๆ ของ ทหารที่ตั้งร้านไว้  ชื่นใจเชียวค่ะไม่หวานมากอย่างน้ำตาล สดที่ดื่มแล้วแสบคอเลยค่ะ  รู้สึกมีแรงกำลังวังชาขึ้นอีก แยะค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 22 ธ.ค. 48 02:34:50 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ตื่นตีสี่แต่เช้า .................. ชื่นชม ดาวเด่นพร่างพราวพรม ..... แผ่นฟ้า เย็นยะเยือกสายลม .......... พัดแผ่ว รีบลุกรับตะวันท้า ............. ระทึกท้นดวงหทัย สวัสดีค่ะคุณ ยี่หร่า@ และทุกท่าน วันนั้นตื่นตีสี่เพราะได้ยินเสียงคุยกันของเต็นท์ข้าง ๆ ประมาณว่า "ขอนอนต่ออีกสักชั่วโมงได้มั้ย" ฟังแล้วก็ขำตาสว่างขึ้นมาทันที ตีสี่ฟ้ายังมืดสนิท มองไปที่ท้องฟ้าดาวเต็มฟ้าเลยค่ะ แต่ชื่นชมได้สักพักเองพอฟ้าสว่างดาวขี้อายก็รีบหลบตะวันไปซะก่อน ไม่รู้มีใครทันได้นับดาวหรือเปล่าน้ออออ จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ 22 ธ.ค. 48 10:19:01 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ออกจากผาแต้มก็ไปทานมื้อเช้ากันที่โขงเจียม ตามที่คุณยี่หร่าเล่าไว้นั่นแหละครับ .... เคยมีเรื่องเล่าว่า ทำไมปลาบึกหนังดำ มีคนบอกว่า ว่ายน้ำอย่างเดียวไม่ได้ถูสบู่ ! แต่ไม่ได้บอกไปกลางวง กลัวข้าวต้มจะกลายเป็นโจ๊ก เสียก่อน ตอนไปถึงริมน้ำร้านอาหาร  มีเรือ จ้างข้ามฝั่ง มาชักชวนไปชมแม่น้ำสองสี และ ข้ามไปเยี่ยมชมตลาดเช้าฝั่งลาว เรา (หรือผมคนเดียวก็ไม่รู้) ลังเลอยู่ซักพักก็ตัดสินใจไม่ข้ามไป เพราะจะรีบไป เขาพระวิหารกัน โดยเลือกเส้นทาง อ.น้ำยืน เพื่อที่จะผ่าน อช.ภูจองนายอย จากคุณ : จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร - [ 22 ธ.ค. 48 11:34:48 ]

ความคิดเห็นที่ 6 หลังจากขับรถฝ่าความเงียบมาหลายอำเภอ .... ก็พบเอากับป้าย สามเหลี่ยมมรกต ชาวคณะก็ลงมติว่าควรจะแวะเข้าไปเยี่ยมชม สามเหลี่ยมมรกต หรือ "ช่องบก" เป็นพื้นที่ที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง 3 ชาติ คือ ไทย ลาว กัมพูชา ไม่ได้อยู่ในเขตของประเทศใดชัดเจน มีพื้นที่ประมาณ 12 ตร.ก.ม. โดยในส่วนของประเทศไทยนั้น ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย บริเวณพรมแดนไทย-กัมพูชา-ลาว ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ห่างจากตัวจังหวัดทางรถยนต์ประมาณ 130 ก.ม. โดยใช้เส้นทางสายอุบลราชธานี-อ.เดชอุดม และจาก อ.เดชอุดม-น้ำยืน ตามทางหลวงหมายเลข 2214-2248 จากบ้านโนนสูง ไปตามถนนลูกรังอีกประมาณ 9 ก.ม.ก็จะไปถึงค่าย ตชด.มว.ที่ 2243 ชื่อฐานอนุพงศ์ คอยรักษาชายแดนบริเวณนี้ และจากฐานอนุพงศ์เดินทางเข้าไปอีกประมาณ 4 ก.ม. ก็จะถึงบริเวณสามเหลี่ยมมรกต สามเหลี่ยมมรกต แต่เดิมเคยเป็นสนามรบของลาวและกัมพูชา โดยเมื่อประมาณปี 2518 มีการสู้รบกันอย่างหนักในบริเวณนี้ ทหารไทย ลาว กัมพูชา ทอดร่างกลายเป็นศพมากมายหลายพันคน ทำให้บริเวณนี้เป็นดินแดนต้องห้าม เนื่องจากไม่มีความปลอดภัย ช่องบกในปัจจุบัน ชาวไทย ลาว กัมพูชา ที่ต้องการจะเข้ามาสัมผัสท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น จากคุณ : จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร - [ 22 ธ.ค. 48 11:43:20 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ก่อนเดินทางตามคุณยี่หร่า@เข้าสู่ปราสาทเขาพระวิหาร เรามาทราบเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยกันสักนิดครับ .... จากข้อเท็จจริงทางลักษณะภูมิประเทศ เขาพระวิหาร ควรเป็นของชนชาวไทยหรือไม่นั้น หรือจากเค้าโครงแห่งสภาพอารยธรรมทางทางประวัติศาสตร์ราชอาณาจักรขอม   ยึดดินแดนที่มีปราสาทเป็นที่ตั้ง นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะบทสรุปจากพิพากษาของศาลโลกร่วม ๗๐ กว่าครั้ง ระบุสุดท้ายว่า ดินแดนที่ว่านี้ไม่เคยเป็นของสยามประเทศ ________ เอวัง ! จากคุณ : จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร - [ 22 ธ.ค. 48 12:05:41 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เขาว่ากันอีกว่า ... เอกลักษณ์ของปราสาทขอมโบราณคือการสร้างบันได ที่ สูง และ ชัน   โดย(ผม)ไม่ทราบสาเหตุว่าจะชันไปทำไม? แต่ ปราสาทเขาพระวิหาร มีส่วนต่างจากปราสาทอื่นๆเท่าที่ผู้รู้รวบรวมไว้ดังนี้ครับ - ปราสาทแห่งนี้สร้างจากหินทรายสีขาว   ซึ่งปราสาทส่วนใหญ่สร้างจากหินทรายสีชมพู - ปราสาทเขาพระวิหาร ไม่มีศิลาแลงเป็นส่วนประกอบ ไม่ว่าจะเป็น ทางเดิน บรรณาลัย หรือ ส่วนอื่น ฯ - ปราสาทเขาพระวิหาร หันหน้าปราสาทไปทิศเหนือ โดยปราสาทส่วนใหญ่จะหันหน้าหาทิศตะวันออก จากคุณ : จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร - [ 22 ธ.ค. 48 12:31:25 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เปรี๊ยะ วิเฮียร์ ( Preah Vihear ) : ปราสาทเขาพระวิหาร ตั้งอยู่บนเทือกเขาพนมดงรักในเขตประเทศกัมพูชา บริเวณที่ติดกับ ผามออีแดงของประเทศไทย โดยตัวปราสาทหันหน้ามายังด้านที่ติดกับประเทศไทย ดังนั้นการเข้าชมปราสาทในทางบก จึงต้องใช้เส้นทางที่ผ่านผามออีแดงของประเทศไทยเท่านั้น ปราสาทเขาพระวิหาร เป็นเทวสถานขนาดใหญ่มีความยาวประมาณ ๙๐๐ เมตร ประกอบด้วย ปราสาท ๔ ชั้น แต่ละชั้นตั้งอยู่บนแนวเขา เป็นเนินสูงลดหลั่นกันขึ้นไปตามลำดับทั้ง ๔ ชั้น ทางเดินระหว่างชั้นของปราสาท ได้อาศัยแผ่นศิลาบนผิวพื้นภูเขานั้นเป็นแนวถนน และขั้นบันได โดยตกแต่งให้มีระดับต่อเนื่องกัน จนถึงยอดสูงสุดอันเป็นที่ตั้งของปราสาทชั้นที่ ๔ ซึ่งเป็นปราสาทองค์ประธานอยู่ชิดกับหน้าผา สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ๖๕๗ เมตร จากหลักฐานที่ปรากฏในจารึกแสดงว่าเขาพระวิหารแห่งนี้เป็นศิวะสถาน สร้างขึ้นในระหว่าง พุทธศตวรรษที่ ๑๕ และต่อมาในพุทธศตวรรษที่ ๑๖–๑๗ ก็ได้มีการสร้างเสริมเพิ่มเติม โดยลำดับจนสำเร็จในรัชกาลพระเจ้าสุริยวรมันที่ ๒ ซึ่งเป็นผู้ให้บันทึกคำประกาศของ ทางราชการไว้บนแผ่นศิลาจารึกด้วย ปราสาทเขาพระวิหารแห่งนี้เดิมเคยอยู่ในความปกครองดูแลของไทย และกรมศิลปากร ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน ประกาศในหนังสือราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ ๑๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ ตั้งแต่วันที่ ๑๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๐๕ เป็นต้นมาได้เปลี่ยนไปอยู่ภายใต้ การปกครองดูแลของประเทศกัมพูชาสืบมาจนถึงปัจจุบัน อ้าง และ อิง จาก http://en.wikipedia.org/wiki/Prasat_Preah_Vihear จากคุณ : จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร - [ 22 ธ.ค. 48 12:55:58 ]

ความคิดเห็นที่ 10 พฤหัสบดีสวัสดิ์ค่ะ ทุกๆ ท่าน ตากล้องอ่อนหัดคุ้ย..........รูปคอย ไม่แจ่มแต่ขอจอยน์.................จั่วบ้าง หินสลักบอกร่องรอย................เคยรุ่ง เรืองเฮย ศิลปะอดีตสร้าง......................ปรักซ้อนยังสวย stairway แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 48 16:14:39 จากคุณ : อังศนา - [ 22 ธ.ค. 48 16:11:38 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เคยเป็นประตู จากคุณ : อังศนา - [ 22 ธ.ค. 48 16:21:16 ]

ความคิดเห็นที่ 12 หยุดรอเจ้าของกระทู้ก่อน จากคุณ : อังศนา - [ 22 ธ.ค. 48 16:22:37 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สวัสดีค่ะ คุณชารา คุณจอมมาร พี่อัง  และ ทุก ๆ ท่าน นะคะ โห...ดีจังค่ะช่วยกันเล่าคนละเล็กละน้อยอ่ะค่ะ  เพราะบาง ช่วงบางเสี้ยว  ยี่หร่าก็หลง ๆ ลืม ๆ ไปบ้างแล้วเหมือนกัน ค่ะ แต่ช่วงที่คุณชาราเล่า ถึงเสียงที่เราได้ยินผ่านเต๊นท์ที่ว่า "ขอนอนต่ออีกชั่วโมงได้มั้ย" อิ อิ  ได้ยินแล้วต้องขำออกมากันเลยค่ะ   ก็น่ารักดีนะคะ แหมก็มันเพิ่งตีสี่เอง แต่ช่วงเวลานั้นก็ให้รู้สึกหนาวเยือกเอาการเหมือนกันนะคะ ดีที่พวกเราเตรียมถุงนอนกันมาด้วย ก็อยู่ในถุงนอนอีกที ทำให้อบอุ่นรอดพ้นจากปอดบวมกัน ============================== อืมม์...สถานท่องเที่ยวโบราณถ้าจะให้สนุกและซาบซึ้ง มากยิ่งขึ้นเนี่ย  ถ้าเราได้ทำการบ้านมาก่อน  คือหมายถึง หาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่เราจะไปไว้ก่อน  มันจะยิ่งทำให้ เราได้มุมมองและรู้ว่าจุดสำคัญ ๆ ไหนที่ควรสัมผัสใกล้ชิด ก็เหมือนกับที่คุณจอมมารแนะนำข้อมูลเบื้องต้นนั่นละค่ะ เวลาแปะภาพแล้ว  คงทำให้หลาย ๆ ท่านรู้สึกซาบซึ้งกับ ศิลปะ  สถาปัตยกรรมโบราณไม่น้อยเลยนะคะ ============================= อึ๊ยส์!!! จขกท.ปล่อยให้รอนานไปหรือเปล่าคะ  อะแฮ่ม แค่สามภาพน้ำจิ้มของพี่อัง  นี่ก็ทำเอาอึ้งแล้วนา ************** ในภาพ คุณ ท.ทหาร อดทนอารมณ์ดีนายหนึ่ง  เชิญชวน ให้อุดหนุนน้ำอ้อยคั้นสด ๆ  ใส่น้ำแข็งเล็กน้อยพอให้เย็น แต่ไม่ทำให้รสชาติเสียไปค่ะ  แค่ถุงละ 10 บาทค่ะ  ก็เข้า ไปอุดหนุนกันคนละถุงสองถุงกันค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 22 ธ.ค. 48 20:03:49 ]

ความคิดเห็นที่ 14 จากนั้นเราก็หิ้งถุงน้ำอ้อยคั้นต่องแต่ง ๆๆ  ไปตามทางลิบ ๆ ข้างหน้าโน้น  ท่ามกลางแสงแดดที่เรียกว่าเปรี้ยง ๆๆๆๆๆ แต่อุณหภูมิโดยรอบเย็น ๆ ทำให้ไม่รู้สึกว่าร้อนจนเกินไป เราต้องไปซื้อบัตรผ่านเข้ากัมพูชาด้วยค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 22 ธ.ค. 48 20:08:15 ]

ความคิดเห็นที่ 15 แล้วก็ถึงจุดชำระค่าธรรมเนียมเยี่ยมชมปราสาทเขาพระ วิหาร  ซึ่งก็จะมี บัตรมาให้สองใบ  ใบนึงเป็น เอ็นทรี พาส 50 บาท  อีกอันก็จะเป็นบัตรอนุญาตให้เดินทางออกนอก ประเทศเพื่อขึ้นชม ปราสาทฯ ค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 22 ธ.ค. 48 20:11:51 ]

ความคิดเห็นที่ 16 แล้วเราก็เดินแทบลิ้นห้อย ประมาณ 1 กิโล  จริง ๆ ถ้าเป็น ยามปกติ หนึ่งกิโลนี่สบายมั่ก ๆ เลยค่ะ  แต่บังเอิญมะวาน เราเที่ยวหลายที่มากเลยค่ะ  แล้วก็มีทั้งเดิน  ทั้งป่าย ทั้งปีน วันนี้ก็มีล้าเล็ก ๆ เหมือนกันค่ะ   แล้วคิดดูซีคะ  เดินขึ้นปราสาทเขาพระวิหารตอนเที่ยง ๆ เนี่ยนะ  5555  แต่น่าแปลกที่เราไม่ยักกะรู้สึกหิวเลยอ่ะค่ะ สงสัยได้พลังข้าวต้มปลาบึกมื้อเช้า  ฮี่ ๆๆๆๆ เราเดินไปอีกซักพัก ก็นี่เลย.......... แอ่น  แอน  แอ๊นนนนนนน ปากทางเข้าเขตกัมพูชากันแล้วค่ะ!!! จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 22 ธ.ค. 48 20:16:57 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ... จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 22 ธ.ค. 48 20:18:13 ]

ความคิดเห็นที่ 18 พอก้าวผ่านพ้นเข้าสู่กัมพูชาแล้ว  ก็แหงนหน้าหน่อยก็เจอ บันได 162 ขั้น  พวกเราก็มองตากันไปมา  เหมือนกับจะ ถามออกมาว่า  ไหวมั้ยพวก อะธ่อ........คนไทยใจเต็มร้อยอยู่แล้ว  คำว่าถอยไม่มีค่ะ ว่าแล้วพวกเราก็ค่อย ๆ กะย่องกะแย่ง ไต่บันได 555 ที่ แสนจะขรุขระ สูงชัน ไปเรื่อย ๆ ระหว่างนั้นก็จะมีเด็ก ๆ หรือมีไก๊ดจะเข้ามาแนะนำตัว จะเข้ามาช่วยเหลือพยุงแขนอำนวยความสะดวกให้กับพวก เราค่ะ  แรก ๆ ยี่หร่าก็ไม่พึ่งบริการนี้หรอกค่ะ  แต่ซักพัก แอะ ชักมะหวายแฮะ  เอา ๆๆ  ก็เกาะแกะแขนเด็กสาววัย รุ่นที่ชื่อ " ริ้น " ถ้าจำไม่ผิดนะคะ  ซึ่งน่ารักมาก ตอนหลัง ยี่หร่าก็เลยอุดหนุนภาพถ่ายโปสการ์ดปราสาทเนี่ยละค่ะ ก็รู้ว่าเค้าบวกราคาไว้แล้ว  แต่ก็เอาเถอะค่ะ  เทพอาจส่ง เค้ามาให้คอยดูแลเราไม่ให้ตกบันไดคอหักแหง่ก ๆ ห้อย อยู่ที่นั่นก็ได้ค่ะ 5555 จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 22 ธ.ค. 48 20:25:48 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ... นักท่องเที่ยวก็ไปเที่ยวกันแยะเหมือนกันนะคะ ไหน ๆ ก่อนจะก้าวขึ้นไปสุดยอดนั้นก็ต้องมีการแชะ ๆๆ กันไว้เล็กน้อยค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 22 ธ.ค. 48 20:32:20 ]

ความคิดเห็นที่ 20 .. จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 22 ธ.ค. 48 20:35:59 ]

ความคิดเห็นที่ 21 บันไดทางขึ้นเนี่ยนะคะ...ทางไก๊ดกัมพูชา...เล่าว่า บันไดทางขึ้นตรงที่ขรุขระส่วนตรงกลางนั้นเป็นทางขึ้น ของพระมเหสี  แต่ทางไม่ชันนักด้านสายมือ แต่อยู่ด้าน นอกของบันได  ถือเป็นทางขึ้นของสนม นักท่องเที่ยวก็เลือกเอาเองละกันว่าจะเป็นพระมเหสี หรือ สนมเอาเอง  ฮ่า ฮ่า ฮ่า  แน่นอนละค่ะ  พวกเราก็ต้องเลือก ปีนป่ายทางขรุขระที่เป็นทางเดินของพระมเหสีอยู่แล้วค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 22 ธ.ค. 48 20:48:59 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ยืนมองได้ไม่เบื่อเลยค่ะ จะว่าไปศิลปะแบบขอมนี้คล้าย กันมากกับ ปราสาทหินพนมรุ้งในบ้านเราเลยค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 22 ธ.ค. 48 21:00:02 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอเสียมารยาท พี่ๆช่วยวางแผนที่ ภาพประกอบ ฮะ จากคุณ : ลูกหินฮะ ๛ - [ 22 ธ.ค. 48 22:20:22 ]

ความคิดเห็นที่ 24 .... จากคุณ : จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร - [ 22 ธ.ค. 48 22:21:14 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ว๊าวน้องลูกหินฮะ...หูยมีแผนที่สอดไส้แหนม สอดแนมโตย อิ ๆๆ อ้าวคุณจอมมารแปะภาพเดียวเองเหยอ มะคืนว่าจะไปงีบแป๊บเดียว แล้วว่าจะกลับมาต่ออีกหน่อย ปรากฎว่า เนี่ยละค่ะรู้ตัวก็เช้าซะแล้ว ฮี่ ๆๆๆๆ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 06:25:16 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ... ที่นี่เราถ่ายภาพไว้กันแยะมากเลยค่ะ แล้วจะค่อย ๆ ทยอยแปะให้ชมกันนะคะ ชมที่นี่แล้ว คอยตามชมที่ปราสาทพนมรุ้งบ้านเรา เปรียบเทียบกันไปด้วยนะคะ อิ อิ แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 48 06:32:41 จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 06:26:13 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ... จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 06:33:11 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ^ ^ ^ ^ ภุาพข้างบนเค้าจะเรียกว่าเป็นส่วนไหนดีละคะ เฉลียงก็มิใช่นิ  แต่ก็มิรู้ว่าเอาไว้ใช้ในกิจอันใด คล้าย ๆ กับเป็นทางเดินเชื่อมต่อกันไปอย่างนั้นละค่ะ ถ่ายมาก็ดูสวยมากนะคะ ( ชมเอง อิ อิ)  แต่ของจริง ให้รู้สึกเสียดายว่าทำไมเค้าไม่ทำนุบำรุงกันเลยอ่ะค่ะ ทั้งฝุ่น เศษขยะ  ที่เกลื่อนกลาดที่พื้นเป็นระยะ ๆ เลยค่ะ น่าเสียดายจริง ๆ ค่ะ แล้วภาพต่อไปก็เป็นกองซากปรักหักพังที่ทิ้งไว้ให้ได้เห็น กันค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 06:38:06 ]

ความคิดเห็นที่ 29 มองอีกมุมค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 06:40:59 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เดินมาด้านนอกอ่ะค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 06:48:17 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ภาพมุมกว้างที่ชอบอีกมุมค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 06:50:13 ]

ความคิดเห็นที่ 32 สวัสดีครับ ช่วงปราสาทเขาพระวิหาร ผมลืมเอากล้องขึ้นไปครับ ให้ลงมาเอาก็ .... จากคุณ : จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร - [ 23 ธ.ค. 48 06:50:57 ]

ความคิดเห็นที่ 33 บริเวณนี้จะเป็นด้านนอกตัวปราสาทแต่ทางทิศไหน ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ พวกเราเดินเรื่อย ๆ ออกมาด้านนี้ก็จะถึงด้านหน้าผา ที่มองไปลิบ ๆ ก็เป็นบ้านเมืองกัมพูชาเค้าละค่ะ วิวสวยมากค่ะ เราก็ได้นั่งพักเหนื่อยชมวิว แล้วไก๊ดเค้าก็ช่วยเก็บภาพพวกเราให้ค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 06:54:10 ]

ความคิดเห็นที่ 34 หวัดดียามเช้าอันเย็นเยือกของวันศุกร์สุดสัปดาห์ค่ะ คุณจอมมาร  อ้าวเหรอคะ แหมถ้างั้นทู้นี้ก็เป็นรูปภาพ ภาคบังคับยัดเยียดให้ชมกันแล้วจิคะ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 06:57:30 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ... จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 07:00:21 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ... มือไวไปหน่อยแหะ ๆ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 07:01:08 ]

ความคิดเห็นที่ 37 .. จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 07:08:33 ]

ความคิดเห็นที่ 38 มองตรงไหนก็ดูมีเสน่ห์ไปหมด ศิลปะโบราณเนี่ยอ่ะค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 07:09:58 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ซากปรักหักพังเหล่านี้บอกอดีตเราอะไรได้บ้างคะ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 07:12:10 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ... จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 07:13:27 ]

ความคิดเห็นที่ 41 นี่ละค่ะ น้องริ้น  สาวชาวกัมพูชาที่คอยอยู่ดูแลยี่หร่า มิห่างค่ะ อิ อิ  น่ารักนะคะ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 07:15:28 ]

ความคิดเห็นที่ 42 มองในมุมสูงดูบ้างค่ะ จะเก็บภาพโดยหลีกเลี่ยงไม่ติดนักท่องเที่ยว บอกได้เลยว่า.........ยากค่ะ!! จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 07:17:52 ]

ความคิดเห็นที่ 43 .. จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 07:19:39 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ปืนโบราณมีประวัติไม่น้อย  แต่ความจำสั้นลืมไปแหล่ว จดไม่ทันเพราะเป็นช่วงที่เราเริ่มล้า ๆ แล้วค่ะ อิ อิ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 07:21:32 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ขอปิดท้ายเช้านี้ก่อนไปทำงานด้วยภาพนี้ที่ไก๊ดหนุ่มช่าง พูดจนพวกเราเนี่ยฟังกันเพลินและได้ความรู้แยะเลยค่ะ ถ่ายเก็บไว้ให้ค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 07:23:41 ]

ความคิดเห็นที่ 46 อรุณสวัสดิ์ค่ะ จขกท. ตนสวย และทุกท่าน ..เดือนนี้ชีพจรลงเท้า เดี๋ยวตั้วเจ๊ก็จะระเห็จขึ้นเหนือแล้ว แต่ยังอดมาแวะเวียนพันติ๊ปก่อนไม่ได้.. อิอิ ได้ทีเลยเอารูปมาแจมเสียอีกหน่อย.. จากคุณ : อังศนา - [ 23 ธ.ค. 48 07:35:04 ]

ความคิดเห็นที่ 47 รอยเท้าและเจ้าของผู้พิทักษ์ประตูปราสาท จากคุณ : อังศนา - [ 23 ธ.ค. 48 07:35:31 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เขาน่าจะเรียกว่าระเบียงนะคะ เหมือนระเบียงพระที่ล้อม พระปรางค์หรือเจดีย์อยู่ขั้นในของวัดบ้านเรา จากคุณ : อังศนา - [ 23 ธ.ค. 48 07:37:54 ]

ความคิดเห็นที่ 49 รอยสลักที่หน้าบรรณของปราสาท (เมื่อเทียบกับไทยเราแล้ว ยังมีความรายละเอียด และความวิจิตรบรรจงต่างกันมาก) จากคุณ : อังศนา - [ 23 ธ.ค. 48 07:41:34 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ตรงหน้าผาที่มองลงไปยังดินแดนกัมพูชา เป็นจุดที่ผู้คนนิยม ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน รวมทั้งพวกเราด้วย.. อิอิ จากคุณ : อังศนา - [ 23 ธ.ค. 48 07:44:48 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ขยับใกล้หน้าผาอีกหน่อย.. ก็แลเลยลงไปเห็นพื้นที่ของเขาได้กว้างขึ้น จากคุณ : อังศนา - [ 23 ธ.ค. 48 07:47:26 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ..รูปชุดเขาพระวิหารของพี่หมดสต็อคแล้ว และต้องเตรียมตัวเดินทางซะที... ..แล้วเจอกันออนไลน์ เมื่อหัวใจปรารถนาค่ะ จากคุณ : อังศนา - [ 23 ธ.ค. 48 07:54:02 ]

ความคิดเห็นที่ 53 หวัดดียามค่ำค่ะ พี่อัง และทุก ๆ ท่านค่ะ ดีจังเลยได้เห็นภาพหลากหลายมุม  รอยสลักที่หน้าบรรณ ของพี่อังชัดจังเลยค่ะ  ของยี่หร่าถ่ายแต่มุมไกลทั้งนั้นเลย ค่ะ เสียดายเหมือนกันนะคะ  แต่โชคดีได้จากกล้องพี่อัง ยี่หร่าจะได้เซฟไว้ด้วยค่ะ อิ อิ ใช่ค่ะ วิวริมขอบผา เป็นจุดที่สวยมาก ๆ  เห็นนักท่องเที่ยว จะต้องมายืนตรงมุมนี้กันทั้งนั้นเลยนะคะ  รวมพวกเราด้วย อย่างพี่อังว่าไว้ละค่ะ อ๊ะจะแอ่วเหนียอีกหรือคะ อิ อิ  ตอนนี้คงหนาวเยือกแน่ ๆ เลยค่ะ  ขนาด กทม.เค้ายังบอกว่า 16 องศาเซลเซียสเลย ค่ะ   แบบนี้คงไปเค้าดาวน์ที่โน้นแหงม ๆ เลยซีคะ ขอให้สนุกสนานมีความสุขหลาย ๆ นะคะ.......... " นี่ก็เป็นบางส่วนในปราสาทเขาพระวิหาร" จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 19:05:44 ]

ความคิดเห็นที่ 54 นี่ก็ด้วยค่ะ  แถว ๆ หน้าผาค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 19:18:51 ]

ความคิดเห็นที่ 55 บ่งบอกถึงวันเวลาที่ผ่านมาอย่างยาวนานค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 19:23:57 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ...หญ้าแห้ง ๆ บางทีมองก็ได้อารมณ์ไม่น้อยค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 19:28:22 ]

ความคิดเห็นที่ 57 """ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 19:48:59 ]

ความคิดเห็นที่ 58 รูปที่ปราสาทเขาพระวิหารของยี่หร่าก็จะหมดสต๊อกแล้ว เหมือนกันค่ะ  จริง ๆ ก็ไม่ถึงกับหมดทีเดียวมีอีกหลายมุม ค่ะ แต่เผอิญมันมีนางแบบๆเห่ย ๆ อย่างยี่หร่าติดอยู่ ก็ให้ เกรงว่าขืนเอามาแปะอีก  จะถูกโห่เอาค่ะทั้ง ๆ ที่อยากจะ ให้ดูที่วิวมากกว่าตัวประกอบหนะค่ะ อิ อิ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 19:55:43 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ... จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 20:01:59 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ภาพนี้ยี่หร่าก็ชอบค่ะ  เสาที่เอนไปเอนมา จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 21:13:08 ]

ความคิดเห็นที่ 61 อ้าวแล้วกัน........ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 21:13:50 ]

ความคิดเห็นที่ 62 กำลังสงสัยว่าภาพที่ออกมาดูมืด ๆ อาจเป็นเพราะตอนถ่าย มะได้ใช้แฟลตมังคะ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 21:16:14 ]

ความคิดเห็นที่ 63 เวลาเดินดูจุดต่าง ๆ เนี่ย  พวกเราไม่ค่อยยึดเกาะติดกัน อ่ะค่ะ  เพราะว่าบางทีเราอยากอยู่ดูอะไรตรงจุดนี้นาน ๆ ก็ เกรงใจไม่อยากให้ใครต้องมารอเรา ก็จะเข้าใจกันค่ะใคร ใคร่อยากดูอะไรก็ดูกันไป  แยกย้ายกันไป  เพราะตะละ คนก็อยากบันทึกภาพตามที่สายตาตัวเองชอบอ่ะค่ะ ของยี่หร่าดีหน่อยมีน้อง ริ้น อยู่ไม่ห่างค่ะ  พูดไทยชัดเชียว ค่ะ  ก็เลยไม่รู้สึกน่ากลัวในบางจุดที่ดูเงียบ ๆ วังเวง ๆ อ่ะค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 21:25:46 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ลักษณะตรงช่องหน้าต่าง เค้าจะเรียกหน้าต่างหรือไม่ ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ  แต่แบบนี้ไปที่ปราสาทเมืองต่ำ หรือปราสาทหินพนมรุ้งก็จะเจอแบบนี้ละค่ะ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 21:40:42 ]

ความคิดเห็นที่ 65 .... จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 21:52:12 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เดินดูรอบ ๆ ก็ไปเจอเข้ากับคล้าย ๆ หลุมหลบภัยหรือ ห้องใต้ดินทำนองนั้นอ่ะค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 21:54:43 ]

ความคิดเห็นที่ 67 .... จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 22:00:18 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ... จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 23 ธ.ค. 48 22:02:59 ]

ความคิดเห็นที่ 69 เข้ามาทบทวนภาพแห่งความหลังค่ะ ถ้าไปด้วยก็ไม่ต้องนอนเต๊นท์แถมมีน้ำอุ่นให้อาบด้วย ไปแอ่วแถวนั้นไม่เจอลุงแคนเจ้าถิ่นเหรอคะ จากคุณ : ซูซี่ (mint_candy) - [ 23 ธ.ค. 48 22:39:15 ]

ความคิดเห็นที่ 70 แอบมาเยี่ยมค่ะ.. จากคุณ : ก้อนหินสีชมพู - [ 24 ธ.ค. 48 01:51:06 ]

ความคิดเห็นที่ 71 หวัดดีค่ะ คุณซูซี่  แหนะคุณซูซี่จะพาไปพักที่ไหนเหรอคะ อูยแต่นอนเต๊นท์เนี่ยได้บรรยากาศสุด ๆ อีกแบบนะคะ คุณซูซี่  เที่ยวแบบนี้มันต้องสลับลุย ๆ หน่อย  มันถึงจะ มันเร้าไส้อ่ะค่ะ อิ อิ เนี่ยพูดถึงเต๊นท์แล้วเสียดายไม่หาย  ไม่น่าลืมบันทึกภาพ ช่วงที่กางเต๊นท์กัน  ช่วงที่ใช้ชีวิตกันอยู่ที่เต๊นท์อะค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 24 ธ.ค. 48 04:20:38 ]

ความคิดเห็นที่ 72 หวัดดีค่ะ พี่ก้อนหินสีชมพู  ดีใจที่แวะมาเยี่ยมและลง ทะเบียนเยี่ยมไว้ค่ะ  ยี่หร่าจะได้ทราบว่ามีลูกทัวร์กี่คนจะ ได้ต้อนขึ้นรถพาไปเที่ยวต่อไงคะ อิ อิ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 24 ธ.ค. 48 04:33:13 ]

ความคิดเห็นที่ 73 พอเราเดินชมกันทั่ว  พร้อม ๆ กับที่หมดแรง เราก็ค่อย ๆ ไต่กระยอกกระแยกตามบันไดลงมา  ความจริงระหว่าง ทางขึ้นลงหมายถึงใกล้ ๆ ตรงชายแดนอ่ะค่ะ  จะมีออกร้าน เรียงรายเป็นของพื้นเมืองของชาวกัมพูชาค่ะ  แต่สิ่งที่ยี่หร่า สนใจและคุณชาราสนใจตรงกันคือ ผ้าพันคอค่ะ เป็นผ้า ทอลายพื้นเมือง  ปล่อยชายครุย ๆ สวยดีค่ะ  มีการเล่นสี ผสมผสานลายหลายหลาก แล้วราคาไม่แพงเลยค่ะ  นั่นยิ่ง ทำให้ตาโตเข้าไปอีก  เลยเลือกกันเป็นนานตรงนั้น  ได้ กลับมาคนละถุงเบ้อเร่อเยย ( คุยให้มันเว่อร์ไปง้านค่ะ ) ที่น่าสนใจอีกอย่างคือเสื้อยืดพิมพ์ ตัวอักษรกัมพูชา พร้อมภาพปราสาทเขาพระวิหาร  หรือสถานที่สำคัญทาง ประวัติศาสตร์ของเค้าค่ะ ก็มิพลาดอีกเจ้าค่ะ  งานนี้พี่อังก็มิอาจหักห้ามใจได้เหมือน กันค่ะ อิ อิ ============================= ก็เลือกชมกันพอหอมปากหอมคอเสร็จ( อุปมาอุปมัย) เราก็เร่งรีบเดินกลับสู่มาตุภูมิแผ่นดินแม่ของเราค่ะ ตอนนี้บอกได้เลยค่ะว่าหมดแรงเจง ๆ ค่ะ  จนต้องบอก ชาวคณะว่า  ล่วงหน้าไปก่อนเลยค่ะ  เพราะเราเดินได้แบบ แค่กระดึ๊บ ๆๆๆๆๆ  5555  แล้วเริ่มคิดถึงน้ำอ้อยคั้นสด ๆ จาก ท.ทหารอดทนฝั่งเราอีกแล้วค่ะ ภาพสุดท้ายจากฝั่งกัมพูชาที่เราได้เห็นก็คือภาพนี้ค่ะ ซึ่งพอเห็นแล้วอดขนลุกไม่ได้  นี่คือจิตวิทยาอย่างนึงใน การปลุกจิตรวมชาติของเค้าด้วยกระมังคะ ก็คงไม่ต่างจากคนไทยหรอกค่ะ  เพราะทุกวันนี้ยี่หร่าก็ ให้รู้สึกภาคภูมิใจซะเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย  ได้ อยู่ภายใต้ร่มโพธิสมภาร  ของพระองค์ท่านอ่ะค่ะ  แล้วที่ สำมะคัญไม่มีที่ไหนจะเป็นสุวรรณภูมิได้เท่าประเทศไทย ของไทยเราอีกแล้วค่ะ ( นั่นเป็นไงละเลือดรักชาติแรงมั้ย) จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 24 ธ.ค. 48 04:44:05 ]

ความคิดเห็นที่ 74 พอเราก้าวพ้นประตูเหล็กตะข่ายที่กั้นชายแดนระหว่างไทย กัมพูชา  ก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองเก็บภาพที่เห็น บันทึกไว้ในความทรงจำ ว่าครั้งหนึ่งนะ เราได้มาเยือน ปราสาทเขาพระวิหารกับเค้าแล้วนะ  ปราสาทอันนี้นะที่เรา ต้องปล่อยให้หลุดลอยไปเป็นของเค้า  มันน่าเสียดายจัง ค่ะ  นี่ยังคิดเล่น ๆ ว่าถ้าหากอยู่ภายใต้การดูแลของเรา ยี่หร่าเชื่อว่า การท่องเที่ยว  กรมศิลปากร  หรือกระทรวง วัฒนธรรม คงต้องเข้ามาทำนุบำรุงให้คงสภาพแจ่มแจ๋วกว่า ที่เห็นเป็นแน่นอนค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 24 ธ.ค. 48 04:50:51 ]

ความคิดเห็นที่ 75 แล้วในที่สุดพวกเราก็ลากสังขารกลับถึงลานจอดรถได้ค่ะ และก็ไม่ลืมที่จะอุดหนุนน้ำอ้อยคั้นสด ๆ ค่ะ  ดื่มพอเรียก กำลังแรงวังชากลับมาหน่อย  ก็ให้รู้สึกหิวถึงหิวมั่ก ๆ ค่ะ อยากหม่ำอะไรร้อน ๆ  ไม่รู้ซีนะ  บางคนเค้าเหนื่อย ๆ เพลีย ๆ หิว ๆ ต้องทานอะไรอร่อย ๆ กับน้ำเย็นจัด ๆ ... แต่ยี่หร่าขอ... แค่มาม่าร้อน ๆ หรือน้ำแกง น้ำซุปร้อน ๆ เนี่ย ก็สดชื่นได้ อย่างประหลาดค่ะ  มองไปมองมาเราก็เห็นมีร้านขาย ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้น  ซึ่งมองแล้วไม่ใช่เนื้อเอ๋งแน่นอนค่ะ เป็นลูกชิ้นหมูที่มียี่ห้อเป็นที่โด่งดังทั่วไปการันตีอยู่ค่ะ อิ อิ ก็สั่งเกาเหลา  ไก่ย่าง ส้มตำ ข้าวเหนียว  หมูน้ำตก ตาม สูตรพี่ไทย 555 เมนูอินเตอร์บ้านเฮา อูยดีใจจะได้หม่ำส้มตำปูปลาร้าแย้ว  เพราะคุณชาราเดิน ไปสั่งการด้วยตนเองเลย  แต่ ว๊าว.... พอเค้ามาเสิร์ฟ  อู้ฮู กลิ่นการปรุงด้วยปลาร้า แสดงถึงฤทธิ์ เดชพลังให้ได้สัมผัสกันเลยค่ะ ความจริงเนี่ยชอบมั่ก ๆ นะคะ ส้มตำปลาร้า  ฮี่ ๆๆๆ มีหลาย คนอึ้งแบบมะเจื้อว่ากินด้วยเหรอ  อ้าวเนี่ยละแซบอีหลีตัว เลยละค่ะ  แต่ยี่หร่าต้องขอมาแบบพอมีกลิ่นมีรสชาติติ๊ด ๆ เท่านั้นค่ะ  แต่หากมาเป็นตัว ๆ กลิ่นแรง ๆ ยี่หร่าก็ถอยค่ะ ถอยค่ะ  งานนี้ยอมยกธงเขาแพ้คุณชาราไปเลยค่ะ อิ ๆๆ งานนี้คุณชารา ดูเอ็นจอยอีทติ้งมั่ก ๆ เนี่ยละค่ะรสชาติของ คนท้องถิ่นที่เค้าปรุงจริง ๆ มันต้องแบบนี้  ถูกต้องที่ซู๊ดๆๆๆ ยี่หร่าได้แต่มองน้ำลายฟูมปาก  อยากกินก็อยากกิน แต่ มันแรงไปไงคะ  เลยอดเยย อิ อิ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 24 ธ.ค. 48 05:01:57 ]

ความคิดเห็นที่ 76 จากจังหวัดศรีษะเกษ เราก็มุ่งหน้าสู่เมืองสุรินทร์ค่ะ นะคะยี่หร่าคงมิได้เล่าข้ามซีนนะคะ ถ้าไงชาวคณะ เข้ามาแย้งเลยนะคะ อิ อิ เราถึงเมืองสุรินทร์ก็ค่ำแล้วค่ะ  งานนี้เรื่องที่พักเรื่องใหญ่ แย้วเพราะมิรู้ว่าจะไปกางเต๊นท์ได้ตรงไหนที่จะไม่ถูกไล่ อะค่ะ อิ อิ ด้วยความที่ไม่คุ้นเคย ก็เลยไม่รู้ว่าจะพักที่ไหนดี ก็เลย ขับรถวน ๆๆ ไปรอบเมือง ประหนึ่งจะเก็บรายละเอียดทำ ผังเมืองกันใหม่อะค่ะ  จริง ๆ หลงค่ะ วนไปวนมาประกอบ กับหามะเจอด้วย ฮี่ๆๆ ก็เลยคิดว่าจะกินอะไรก่อนไหม๊ค่อยเช็คอินที่โรงแรมค่ะ ก็พอดีเห็นคิวรถมอเตอร์ไซด์เนี่ยต้องได้เรื่องแน่ ๆ เลยค่ะ ก็ได้รับคำแนะนำมาว่ามีร้านอาหารแบบสวนอาหารที่แยก ข้างหน้าเลี้ยวซ้ายไปมีแยะเลย  แล้วก็บอกชื่อโรงแรมให้ ด้วย  ก็ขอบอกขอบใจกันแล้วก็วิ่งจู๊ดขึ้นรถฮ้อไปตามคำ บอก  แต่เมื่อไปถึงสวนอาหารที่ว่าเป็นเหมือนคาราโอเกะ ผีริมถนนค่ะ 555 ความปลอดภัยจะมีมั้ยเนี่ยค่ะ คิดแล้วไม่เอาดีก่า  แรงป้า ๆ ลุง ๆ อย่างพวกเราจะมีแรงวิ่งมั้ยถ้า เกิดมีตีกันหนะ5555 มีเรื่องตลกติ๊ดนึงเรื่องหาที่กินกะที่พักเนี่ยละค่ะ ก็คุณจอมมารเห็นป้ายชื่อร้านอาหารอะไรน้า  สวนอาหาร ริมน้ำหรือไงเนี่ยค่ะ  ก็เลี้ยวเข้าไป  ไฟก็สลัว ๆ เชียวค่ะ ยังพูดกันเลยว่ามันดูแปลก ๆ เงียบ ๆ เลยเนอะ ไหนละ ริมน้ำ เข้าไปสุดทางกลายเป็น อิ อิ แบบโมเต็ลพากิ๊กเที่ยว มั้ง  ได้แต่ขำกันหย่ายเลยว่า อะไรวุ้ยป้ายมันบอกทางให้ เรามาโมเต็ลกิ๊กเนี่ยนะ  ว่าแล้วก็รีบวนรถออกไปทันทีค่ะ พอเราออกมาก็มีรถสวนเข้าไป เค้าคงนึกว่ารถคันนี้โหเป็น หมู่คณะเลย 5555 หันไปดูเห็นมีป้ายมืด ๆ ติดไว้ว่า แฮปปี้ฮอลิเดย์ค่ะ อิ อิ จากนั้นวนรถหาอีก จนทนมะหวายแย้ว คุณชาราบอกว่า ใช้บริการบักดีก่านิ  แล้วเค้าก็แนะนำมาหลายร้าน  ก็พอดี เราเห็นอยู่ร้านนึงน่านั่งเชียว  ก็จอดปร๊าดเอาแระค่ะเพราะ หิวมั่ก ๆ แล้วก็เพลียมั่ก ๆ ด้วยค่ะ ก็คือ " ร้านสวนมะลิ " ก็สั่งอาหารกันเพียบเลยค่ะ อิ่มแปร้กันเลย ทีนี้ก็คิดถึงที่ นอนแล้วซีคะ  แล้วที่สุดเราก็พักที่โรงแรม " เพชรเกษม" แต่ก่อนถึงนั้นเราหาทางไม่เจอก็จอดถามคุณตำรวจด้วยค่ะ แฮ่ ๆๆ  คุณตำรวจน่ารักมากขอบอก  มีน้ำใจไมตรีดีมาก นี่ที่ดี ๆ เค้าก็มีอยู่น้าท่านผู้ชม จากนั้นเราก็เข้าเช็คอินกัน.... โหยได้เจอน้ำอุ่นแย้ว ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เย้ ๆๆๆๆ งานนี้ต่างคนหลับเป็นตายเลยค่ะ 5555  จนสว่างเลยทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นแค่สามทุ่มเองมั้งคะ ฮี่ ๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 24 ธ.ค. 48 05:36:00 จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 24 ธ.ค. 48 05:29:53 ]

ความคิดเห็นที่ 77 พอเช้าวันใหม่ ได้ยินเสียงมอร์นิ่งคอล!! ก็เอ๊ะเราไม่ได้บอกที่ฟรอนท์ไว้ ซะหน่อยนิ  พอรับกลายเป็นคุณจอมมารที่ตื่นตั้งกะแต่ตีสี่ แล้วออกไปชมเมืองยามรุ่งสางรอบนึงแล้ว โหยไอ้เราก็นึ่งว่าเพิ่งตื่นนะนั่น เลยถามว่ากี่โมงแล้ว เสียง ตอบกลับมาหกโมงก่าแล้วนิ  อูยพรรคพวกพี่น้องคะ พี่อัง  คุณชาราหกโมงแย้ว  ว่าแล้วพวกเราก็ทยอยชำระ องค์ทรงเครื่องกัน  แล้วก็ลงไปเบร๊คฟาสกันที่ห้องอาหาร ของโรงแรมข้างล่างค่ะ ซัก แปดโมงสี่สิบห้านาทีได้มั้งคะ  เราก็เช็คเอาท์เคลื่อน ขบวนออกเดินทาง ก็ไปเรื่อย ๆ ค่ะ ตอนที่โต๊ะอาหารเราก็ แพลนกันว่าจะไปไหนกันดี  เพราะโปรแกรมของพวกเรา เนี่ยไม่ซีเรียสค่ะ  ตอนแรกก็คิดว่าจะไปปราสาทเมืองหิน พิมายไหม๊ถ้าไม่ไปเราก็จะมีเวลาไปปราสาทหินพนมรุ้งได้ ไม่ต้องเหนื่อยหรือเวลารัดตัวเกินไป ในที่สุดเราก็ได้ข้อสรุปค่ะ ว่าโปรแกรมส่วนนี้ตัดออกได้ เพราะวันหลังค่อยมาเก็บได้อีกค่ะ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 24 ธ.ค. 48 05:51:56 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ตอนแรกก็ว่าจะไปหมู่บ้านช้างกันค่ะ แต่ปรากฎว่า การท่องเที่ยวซีคะ จัดทำป้ายได้ไม่เนี้ยบเลย ค่ะ  ไม่ชัดเจน ทำให้เราหลงขับรถแบบไม่มีจุดหมายจน ต้องแวะถามคนท้องถิ่น  ซึ่งได้คำตอบว่าต้องไปอีกหลาย กิโลมากเลยค่ะ  หูยมันไกลมากขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย ที่สุดเราก็เปลี่ยนใจหันกลับเข้าสู่เมืองสุรินทร์อย่างเดิม เราได้แวะที่ ประสาทตรวน ( ถ้าจำไม่ผิดนะคะ)ไปหลายที่ มากไงคะชักเลอะ ๆ แล้วค่ะ พอดีไม่ได้จดไว้อ่ะค่ะ รู้สึกว่าจะจัดเป็นอันซีนไทยแลนด์ด้วยมังคะ แต่ถึงตอนนี้เมมโมรี่สติกยี่หร่าเจอปัญหาอีกแล้ว  ถ่ายที่ เขาพระวิหารจนแทบเกลี้ยงเลยค่ะ  ก็เริ่มเหี่ยวแล้วค่ะ มันอึดอัดหนะ  ได้เห็นสิ่งถูกใจแต่ไม่สามารถบันทึกภาพได้ เฮ้อ...ก็ต้องอาศัยมุมกล้องคุณจอมมาร กะพี่อังกันละค่ะ งานนี้ แต่สุดท้ายเราก็ได้ทางออกเพราะพอกลับเข้าเมือง สุรินทร์อีกครั้งก็เข้าร้านถ่ายรูปให้เค้าไรท์ลงซีดีให้เลย แล้วก็ฟอร์แมทเม็มโมรี่สติกทุกแผ่นซะ ก็แจ๋วเนี้ยบนิ้งเลย ทีนี้ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 24 ธ.ค. 48 06:11:00 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ก็เรียกว่าภาพในเซ็ทต่อ ๆ ไปเนี่ยเป็นภาพที่มาจาก กล้องคุณจอมมาร กะพี่อังนะคะ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 24 ธ.ค. 48 06:15:00 ]

ความคิดเห็นที่ 80 .... จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 24 ธ.ค. 48 06:20:04 ]

ความคิดเห็นที่ 81 อืมม์...ไม่มีปัญญาถ่ายภาพแย้วอย่างที่บอกตอนต้น แต่ไม่เสียดายเลยเพราะพอเห็นภาพที่คุณจอมมารถ่าย เก็บไว้แจ่มแจ๋วมากเลยค่ะ  รายละเอียดเจาะลึกดีจังค่ะ โชคดีที่เค้าไร้ท์ลงซีดีแจกค่อยยังชั่วหน่อย แฮ่ๆ บันทึกภาพโดย : คุณจอมมาร ( รวมทั้งกรอบข้างบนด้วย) จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 24 ธ.ค. 48 06:29:06 ]

ความคิดเห็นที่ 82 บันทึกภาพโดย : คุณจอมมาร จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 24 ธ.ค. 48 06:32:54 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ชมกันเพลินเลยค่ะ บันทึกภาพโดย : คุณจอมมาร จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 24 ธ.ค. 48 06:36:54 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ... ที่เห็นนี่ก็ช่างภาพมือฉมังอีกคนค่ะ อิ อิ บันทึกภาพโดย : คุณจอมมาร จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 24 ธ.ค. 48 06:40:01 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ไม่ทราบว่าเรียกดอกไม้อะไรค่ะ  แต่เห็นเด่นมากค่ะ มองขึ้นไปเนี่ยสีแดงเข้มตัดกับใบไม้สีเขียวน่ามองมากอ่ะ บันทึกภาพโดย : คุณจอมมาร จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 24 ธ.ค. 48 06:44:52 ]

ความคิดเห็นที่ 86 รายละเอียดสวยมาก แต่น่าเสียดายนิดนึงนะคะ ที่นี่การบูรณะซ่อมแซมแจ๋วค่ะแต่น่าจะใช้สีอิฐให้ กลมกลืนกว่านี้อีกติ๊ดนึงจะเลิศมากเลยค่ะ  อันนี้หมายถึง มุมอื่นอะหนะค่ะ บันทึกภาพโดย : คุณจอมมาร จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 24 ธ.ค. 48 06:48:08 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ยี่หร่าเข้าใจว่าน่าจะมีภาพค้างอยู่ในกล้องพี่อัง หรือคุณ จอมมารอีกแยะนะคะ  แล้วทู้นี้ก็ปาเข้าไปกรอบที่ แปดสิบ กว่าแล้ว ยี่หร่าก็อยากจะปล่อยเปิดกว้างไว้แบบนี้เผื่อพี่เค้า มีรูปมาแปะแจมค่ะ  จะได้ไม่เสียอรรถรส  เป็นการเติบเต็ม การอ่าน การชมให้เต็มร้อยยิ่งขึ้นค่ะ แฮ่ จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 24 ธ.ค. 48 06:55:03 ]

ความคิดเห็นที่ 88 แวะมาส่งท้ายกระทู้ด้วย ป้ายบอกชื่อถนนของจังหวัดสุรินทร์ จากคุณ : อังศนา - [ 24 ธ.ค. 48 09:12:05 ]

ความคิดเห็นที่ 89 สวัสดีครับ..... ก่อนออกจากสุรินทร์ เราไปที่ปราสาทนี่ครับ ปราสาท ศรีขรภูมิ อ. ศีขรภูมิ จ. สุรินทร์ ผมว่าไกด์นำเที่ยวมากไป คงสับสนเล็กๆ แต่ที่นี่คุณยี่หร่า@มีปืนแต่ไม่มีกระสุนครับ ได้แต่ยืนทำตาปริบๆ บันทึกภาพจากสายตาเท่านั้น อ้างอิง จากกรอบที่ ๗๕ ออกจากเขาพระวิหารแล้ว ผมไม่แน่ใจว่าแอบไปทานข้าวกันตอนไหน   ผมไปไหน ถ้าผมอยู่แล้วทำไมไม่ชวนกัน จากคุณ : จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร - [ 24 ธ.ค. 48 10:25:22 ]

ความคิดเห็นที่ 90 .. จากคุณ : จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร - [ 24 ธ.ค. 48 10:27:47 ]

ความคิดเห็นที่ 91 .... จากคุณ : จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร - [ 24 ธ.ค. 48 10:28:35 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ... นางอัสปร .... มีที่นี่เดียวในประเทศไทย จากคุณ : จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร - [ 24 ธ.ค. 48 10:32:03 ]

ความคิดเห็นที่ 93 อึ๊ยส์!!! คงจะมึนเมาโดยมิได้ดื่มเมรัยแต่อย่างใด มันไปหลายที่เจง ๆ 555  คงจำสับสน อิ อิ อ้าวแล้วกัน โซ้ยข้าวเหนียวกันคนละปั้นทำลืม อิ อิ ป้ายน่ารักดีค่ะพี่อัง จากคุณ : ยี่หร่า@ - [ 24 ธ.ค. 48 12:53:01 ]

ความคิดเห็นที่ 94 มาตาร้อนต่อ..... จากคุณ : หญ้าหนวดแมว - [ 26 ธ.ค. 48 19:33:08 ]

ความคิดเห็นที่ 95 มาแอบดูอาการคนตาร้อน จากคุณ : ชารา๚ะ๛ - [ 11 ม.ค. 49 13:50:07 ]