พอดีไปเจอบทความนี้มาครับ ที่เว็บนิตยสารopen online ( www.onopen.com ) column เนติบริกวน ของ บุญชิต ฟักมี อ่านแล้วก็โนใจดี เลยเอามาให้อ่านกัน
----------------------------------
เมื่อผมกลับมายังประเทศใคร
เครื่องบินสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 931 จากสนามบินรัวซี ชาลส์ เดอ โกล 1 ร่อนลงบนรันเวย์ที่เรียบราวกับทีวีจอแบนของสนามบินสุวรรณภูมิ
นานเท่าไรแล้วนะที่ผมไม่ได้กลับบ้าน... ผมจำไม่ได้แล้ว ที่แน่ๆคือตอนที่ผมออกเดินทางนั้น ผมยังมาขึ้นเครื่องบินที่ดอนเมืองอยู่เลย แต่วันนี้คงกลายเป็นอดีตไปเสียแล้ว
ผมเดินผ่านทางเดินยาวที่หรูหราอย่างงงๆ รับกระเป๋าเดินทางใบโต แล้วเดินผ่านไปด่านตรวจศุลกากรตามปกติ แถวค่อนข้างยาว แม้เป็นช่องเขียวสำหรับกรณีไม่มีของต้องสำแดง แต่กระนั้น, เจ้าหน้าที่ก็มาขอสุ่มตรวจกันเนืองๆ ผมรู้สึกชื่นชมในใจว่า เดี๋ยวนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองของเราเข้มแข็งดี ป้องกันพวกลักไก่หิ้วของมาขาย รักษาผลประโยชน์ได้อย่างดีมาก
แต่อะไรนั่น ... ! ผมเห็นช่องทางอีกทางเพิ่มขึ้นมาจากช่องเขียวช่องแดงที่เคยรู้จัก มันเป็นช่องสีน้ำเงิน มีตัวอักษร ภาษาอังกฤษว่า For SCC Only ทว่าทำไมกัน, ผมเห็นคนหิ้วไวน์ร่วมสองลังใหญ่ กระเป๋าหลุยส์วิตตองพวงหนึ่งแลดูคล้ายหิ้วชะลอมมาขาย หรือกระทั่งรถสมาร์ตคาร์... (เอิ้ว มันเอาใส่ท้องเครื่องบินมาได้ไงฟะ)
เขาเหล่านั้นเดินตัวปลิวผ่านช่องสีฟ้า... มีเจ้าหน้าที่คอยสวัสดี เชิญค่ะ ยินดีต้อนรับกลับประเทศไทยค่ะ...
อย่างไรก็ตาม ผมเก็บความสงสัยนั้นไว้ในกระเป๋าที่ถูกเจ้าหน้าที่รื้อค้น โชคดีที่ผมไม่มีอะไรไปมากกว่าเสื้อผ้าเก่าๆ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค (ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็สงสัยขอเปิดดูว่าใช่เครื่องหิ้วมาขายหรือเปล่า แต่แล้วก็พบรูปโป๊จำนวนมากในเครื่องที่แสดงให้เห็นว่าเจ้าของเครื่องต้องใช้เวลาไม่น้อยในการรวบรวมสะสม ผมถึงรอดไป)
ผมต้องติดต่อทางบ้าน แต่โทรศัพท์สีส้มที่เอามาจากฝรั่งเศสไม่สามารถทำงานได้ แม้ผมจะขอเปิดระบบการใช้งานในต่างประเทศมาแล้ว ผมลองถามคนแถวนั้น เลยทราบว่าเดี๋ยวนี้โทรศัพท์มือถือมียี่ห้อเดียวแล้ว คือเจ้าสีน้ำเงิน ผมจึงจำเป็นต้องซื้อซิมหนึ่ง-สอง-โทร! มาใช้เพื่อติดต่อกับเพื่อนที่จะมารับผมและทางบ้านที่ต่างจังหวัดว่าผมมาถึงแล้ว
ขอบัตรประชาชนด้วยค่ะ สาวหมวยสวยเอ็กซ์ตาเล็กดัดฟันกล่าวตอบ เมื่อผมแจ้งความประสงค์ขอซื้อบัตรเติมเงินที่ว่า ผมยื่นพาสปอร์ตส่งให้ เธอรับไปคีย์เลขลงในคอมพิวเตอร์ พลางกล่าวว่า
คุณไม่ใช่ SCC ต้องมีค่าธรรมเนียมเพิ่มอีกสองร้อยบาทนะคะ ส่วนค่าโทร โทรหา SCC นาทีละห้าสิบสตางค์ โทรหาคนนอก SCC นาทีละแปดบาทค่ะ ขอบคุณที่ใช้บริการค่ะ
ผมรับมือถือที่ใส่ซิมการ์ดแล้วอย่างงงๆ ภายในสิบห้านาทีนี้ผมเจอคำว่า SCC นี้แล้วสองครั้ง มันคืออะไร ? ผมเพียงทราบได้แค่ว่า SCC มีสิทธิดีกว่าผมหลายอย่าง มันอาจจะหมายถึงสมาชิกบัตรเครดิตหรือธุรกิจขายตรงอะไรหรือเปล่า ผมเก็บความสงสัยไว้ในใจเพื่อรอไปถามเพื่อน พลางเดินมารอคิวขึ้นแท็กซี่เพื่อไปหาเพื่อนที่มหาวิทยาลัย เพราะคืนนี้ผมต้องพักกับเขา
ไปมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ครับ ผมบอกสารถี รถแท็กซี่เหลืองเขียวแล่นฉิวผ่านถนนที่ตัดผ่านจากมหานครสุวรรณภูมิไปสู่กรุงเทพฯ และเกาะรัตนโกสินทร์ บ้านเมืองไม่เปลี่ยนไปนัก เว้นแต่มีสะพานตามแยกต่างๆมากขึ้น ผมนึกสงสัยว่า อีกหน่อยหากปริมาณรถยนต์ไม่ลดลงบ้าง เราอาจจะมีสะพานเพื่อข้ามสะพานก็เป็นได้
พี่แม่นเอ็ดซี่ซี่บ่? หนุ่มลูกข้าวเหนียวถามผมด้วยสีหน้ายิ้มๆเมื่อเลี้ยวเข้าประตูธรรมศาสตร์ด้านสนามหลวง
ผมย้อนถาม อะไรน่ะครับ ?
เอ็ดซี่ซี่ น่ะ ... คนพิเศษของเพิ่น เจ้าหนุ่มพยายามอธิบาย เอางี้ เลือกตั้งที่แล้วพี่เลือกไผเป็นผู้แทน?
ผมอยู่ต่างประเทศ ผมไม่ได้เลือกตั้งมาหลายปีแล้วครับ ผมตอบ
หนุ่มแท็กซี่ส่ายหน้า งั้น ค่าโดยสารร้อยยี่สิบ ค่าธรรมเนียมน้ำมันแปดสิบ ภาษีถนนสามสิบ สองร้อยสามสิบครับพี่
ผมควักเงินจ่ายแบบงงๆ ก่อนจะเดินฝ่าฝูงชนเข้าไปในมหาวิทยาลัย ผมสังเกตสิ่งรอบข้างอีกครั้ง ก็พบความน่าตกใจของ SCC
ที่ริมกำแพงมีป้ายโฆษณาคอนเสิร์ตนักร้องดังสังกัดค่ายอากู๋ ในนั้นแจ้งว่า SCC แลกบัตรฟรี ... ที่โรงอาหารมีช่องจ่ายเงินสำหรับ SCC ผมรีบเคาะประตูห้องทำงานเพื่อนด้วยความฉงน...ที่นี่อาจจะเป็นโลกเดียวที่ผมยังคุ้นเคย เราทักทายกันนิดหน่อย จากนั้นผมจึงยิงคำถามคาใจ
อะไรคือ SCC หาเจียก ? ตั้งแต่ลงเครื่องที่สุวรรณภูมิมานี่กูเจอแต่ SCC
SCC = Special-Cared Citizen เจ้าเจียกถอนหายใจ พลเมืองดูแลพิเศษไง
ทำไมถึงต้องดูแลพิเศษ ? เป็นสมาชิกบัตรเครดิตทองรึ ?
เปล่า, คนพวกนี้เป็นคนกลุ่มที่เลือกพรรครัฐบาลขึ้นมาบริหารประเทศ ถือเป็นผู้ร่วมกระทำคุณูปการต่อชาติ จึงเป็นพลเมืองที่ได้รับสิทธิในการดูแลเป็นพิเศษด้านรัฐสวัสดิการจากภาครัฐ ซึ่งเป็นไปตามปฏิญญานครสวรรค์
เฮ้ย ! อย่างงี้มันขัดรัฐธรรมนูญนะ ! ผมโวย
ผศ.ดร. ลำเจียกยิ้มเปร่าๆ พลางเปิดรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๔๐ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ... กางมาตรา ๓๐ ยื่นทิ่มมาตรงหน้าผม มาตรา ๓๐ บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน... ข้อความเป็นอย่างที่ผมเคยอ่าน ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ จนกระทั่งเจอข้อความในวรรคท้าย...
มาตรการที่รัฐกำหนดขึ้นสำหรับพลเมืองดูแลพิเศษ ที่เลือกพรรครัฐบาลหรือพรรคร่วมรัฐบาล ย่อมไม่ถือเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมตามวรรคสาม
ผมทำหน้าเหมือนถูกใครปาระเบิดใส่รั้วบ้าน เพื่อนผมยิ้มแค่นๆ ถ้ายังไม่สะใจ จะลองอ่านพระราชกำหนดการจัดรัฐสวัสดิการสำหรับพลเมืองดูแลพิเศษ พ.ศ. .... ไหมล่ะ....
....................................................................
เราใช้เวลาตั้งแต่สายถึงบ่ายในการพูดคุยกันเรื่องนี้ ... ผมพบว่าเรื่อง SCC นั้นไม่ใช่เรื่องอำเล่นสนุกๆ เพราะรัฐบาลนั้นให้สิทธิพิเศษสำหรับ SCC แบบคุ้มค่า เช่น สิทธิลดหย่อนค่าไฟฟ้าและน้ำประปา (ในขณะที่คนที่ไม่ใช่ SCC ต้อพวกเพิ่มค่าต้นทุนนั่นนี่นี่ยุบยิบมากมาย) สิทธินั่งรถเมล์ รถไฟใต้ดินราคาถูก ซื้อหนังสือที่เข้าร่วมโครงการกับภาครัฐได้ในราคาพิเศษ ซื้อบัตรเติมเงินหรือใช้บริการมือถือ หรือนั่งเครื่องบินในบริษัทเครือท่านผู้นำได้ในราคาโคตรถูก แม้แต่ค่าแท็กซี่ที่ผมขึ้นมาเมื่อเช้า ก็สามารถลดค่าธรรมเนียมน้ำมันได้ครึ่งหนึ่ง ส่วนภาษีถนนไม่ต้องเสีย
แล้วนี่ ลูกกูจะเข้าโรงเรียน ไม่รู้จะเข้าได้ไหม เพราะเขาต้องสำรองที่นั่งให้ลูกของคนในครอบครัว SCC ไว้ก่อน เพื่อนผมครวญ นี่คนที่ไม่ได้เลือกพรรครัฐบาลหรือลืมไปเลือกตั้งคราวที่แล้วเนี่ย ก็รอกันว่าเมื่อไรจะมีเลือกตั้งอีก จะได้อัพเกรดไปเป็น SCC
นี่มันหมดทางเลือกขนาดนั้นแล้วเหรอนี่ ... ผมอุทาน
...............................................................................
เพื่อนผมขอตัวไปสอนในตอนบ่าย ผมจัดแจงฝากข้าวของไว้ ส่วนตัวไปเดินเล่นพาหุรัด สำเพ็ง สะพานเหล็ก ถิ่นเก่า
ขณะที่เดินช๊อปปิ้งอยู่ ก็พลันได้รู้ว่า ส้มตำที่เคยคุ้นเคย แต่เมื่อท้องไม่คุ้นชิน มันก็แปรเป็นแรงกดดันมหาศาลที่พร้อมจะระเบิดออกมา ห้องน้ำสาธารณะในนครบางกอก เป็นสิ่งหายาก ... แต่ที่หายากกว่า คือห้องน้ำในยามที่ปวด ผมเดินฝ่าฝูงชนจำนวนมากพลางจินตนาการไปต่างนาๆ ว่าฝูงชนที่ออคั่งกันในตรอกซอกซอยเล็กๆ ก็เหมือนอะไรบางอย่างในลำไส้ผม
ในที่สุดผมก็เจอ ห้องน้ำสาธารณะแบบทันสมัย ตู้สีโลหะเงาวาววับ แต่ แต่ แต่
ตัวหนังสือสีน้ำเงินปรากฏหราที่ผนังตู้ส้วม...
FOR SCC ONLY
ช่างมัน ! ใครจะมาตรวจบัตร เดี๋ยวมั่วนิ่มโกหกไปก็ได้ ผมหยอดเหรียญผลักประตูเข้าไป ... จัดการทิ้งระเบิดจนเรียบร้อย...
แต่แล้วเมื่อเปิดประตูส้วมออกมา ผมก็ต้องเผชิญหน้ากับตำรวจยศจ่านายหนึ่ง เขาแจ้งว่า ผมใช้ห้องน้ำของพลเมืองดูแลพิเศษโดยไม่แสดงตน ขอให้แสดงตนด้วย
ก่อนที่ทันจะได้ทำอะไร เขาใช้ไฟฉายสีนำเงินฉายไปที่หน้าผากผม
คุณไม่ใช่ SCC นี่ ... เชิญที่โรงพักครับ
...............................................................................
ผมถูกเปรียบเทียบปรับหลายพันบาท แต่ผมไม่มีเงินสดติดตัวขนาดนั้น จะไปกดเอทีเอ็มก็ไม่ได้ ต้องรอจนมืดเพื่อให้เพื่อนผมสอนเสร็จแล้วจึงตามมาหาจ่ายค่าปรับให้ที่ สน. แต่กระนั้นก็เป็นเวลาค่ำโขแล้ว เราออกไปกินข้าวต้มกันเงียบๆ ก่อนไปต่อกันที่ร้านเหล้า Fight for King บนถนนพระอาทิตย์ ที่เคยเป็นที่ทำการของหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง แต่ภายหลังเจ้าของเปลี่ยนไปเอาดีทางด้านขายซีดีและเปิดร้านเหล้ามีดนตรีและทอล์กโชว์ปลุกใจ แน่นอนว่าเหล้าที่นี่ราคาแพงพิเศษ เพราะภาษี เนื่องจากเจ้าของกิจการไม่ใช่พลเมืองดูแลพิเศษ
นี่มันประเทศอะไรกันหาเนี่ย ผมตะโกนเบาๆอยู่ในใจ เพราะไม่รู้ว่าการตะโกนดังๆ ออกมาโดยวาจานั้น เป็นสิทธิเฉพาะสำหรับพลเมืองดูแลพิเศษหรือเปล่า ส่วนเพื่อนผมจิบเหล้าอย่างเงียบๆ
เจ้าจำไอ้ปลวกได้ไหม เขาหมายถึงเพื่อนร่วมรุ่นคนหนึ่ง ตอนนี้มันไปช่วยราชการสำนักนายกฯ กำลังขึ้นหม้อเลย
ผมพยักหน้า ทำไม
ก่อนกูไปประกันตัว กูไปหาไอ้ปลวกที่ออฟฟิศมันว่ะ ก็เรื่องลูกกูจะเข้าโรงเรียนนั่นแหละ ไอ้ปลวกมันบอกว่า มันพอจะช่วยกูได้ แต่กูต้องเซ็นบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าเอาไว้สำหรับการเลือกตั้งคราวหน้า ... กูก็
อย่าบอกนะว่า...
ไอ้เจียกใช้ไฟฉายสีน้ำเงิน ฉายที่หน้าผากตัวเองแทนคำตอบ ตัวอักษรโลโก้ประดิษฐ์จาก ท. ทหาร ปรากฏเรืองแสงสีฟ้าแดง ขึ้นบนหน้าผากของเขา ....
ผมหน้ามืด....
...............................................................................
ผมตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม จังหวัดไหนมอบความไว้วางใจให้เราต้อง ดูแลเป็นพิเศษ แต่เราต้องดูแลคนทั้งประเทศด้วย แต่เวลาจำกัด ต้องเอาเวลาไปจังหวัดที่เราได้รับความไว้วางใจมากเป็นพิเศษ จังหวัดที่ไว้วางใจเราน้อยต้องเอาไว้ทีหลัง ไม่ใช่ไม่ไป คิวต้องเรียงอย่างนี้ ผมเป็นคนพูดตรงไปตรงมา เปิดเผย สื่อมวลชนอยู่ต้องเปิดเผย ไม่มีความลับสำหรับผม วันนี้คิดกับประชาชนอย่างไร ก็อยากเห็นคนทั้งประเทศไม่ว่าอยู่ที่ไหน เลือกหรือไม่เลือกผม
ฯพณฯ พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
จังหวัดนครสวรรค์, ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๘
http://www.onopen.com/2005/01/47
จากคุณ :
mmtr
- [
27 ธ.ค. 48 22:44:06
]