ขอท้าวความก่อนเลยนะครับ เพราะว่าหลังๆเห็นกระทู้เกี่ยวกับประกันหลายอันเหลือเกิน รถผมทำประกันชั้น1กับวิริยะประกันภัย และทำที่นี้มาโดยตลอด เป็นรถ BENZ นะครับ
เรื่องมีอยู่ว่าคืนวันที่ 23 ธ.ค. ผมไปคุยงานกับเพื่อนที่เป็นหุ้นส่วนที่ทำบริษัทด้วยกัน และกำลังจะเปิดอีกธุรกิจใหม่ด้วยกันอีกเพื่อให้พร้อมดำเนินการหลังปีใหม่ได้เลย จนแล้วเสร็จประมาณตี3 ได้ ผมก็ขับรถกลับบ้าน
จากสีลมไปออกทางวิภาเพื่อจะเข้าแยกสะพานควาย ซึ่งพอมาถึงเส้นอิทมาระเกือบถึงสะพานควายรถผมวิ่งเลนซ้ายสุด รถข้างหน้าเป็นรถแท๊กซี่วิ่งคล่อมเลนอยู่ จู่ๆแท๊กซี่เบลคกระทันหันเพื่อจะเลี้ยวเข้าซอยขวามือผมตามหลังมาเบลคไม่ทันครับ ชนท้าย ก็ลงไปดู เสร็จแล้วผมก็คิดเอาว่าชนท้ายน่าจะผิดอยู่แล้วไม่เป็นไร ผมก็บอกทางแท๊กซี่ไม่เป็นไร รถผมมีประกันชั้น1 เดี๋ยวหาที่แอบก่อน จะได้ไม่เกะกะตรงถนน ก็เข้าปั๊มน้ำมันข้างหน้าเพราะอยู่ติดกันกับที่เกิดเหต
ผมก็ดูความเสียหายรถแท๊กซี่ แล้วมาดูที่รถผม ของผมหม้อน้ำแตกเลย ทางนั้นกันชนหลุดส่วนนึงด้านซ้ายที่ผมชน แล้วก็บุบ ผมลืมบอกเหตเกิดเกิดที่อีกไม่กี่ซอยก็ถึงบ้านผมแล้ว ด้วยความที่ผมไม่ต้องการเสียเวลาจากการรอประกัน และบ้านผมก็อยู่ข้างหน้านี้เอง ที่สำคัญวันรุ่งขึ้นผมต้องไปมีงานที่ต่างจังหวัดต่อ และรู้มาว่าถ้าเราชนท้ายยังไงส่วนใหญ่เราก็ผิด ผมก็บอกทางแท๊กซี่ไม่เป็นไร ทางผมรับผิดชอบให้ บ้านผมอยู่ตรงนี้เอง แล้วก็ง่วงมากๆแล้ว ผมให้ใบขับขี่แท๊กซี่ไว้ แล้วบอกว่า พรุ่งนี้ช่วงบ่ายๆผมจะเรียกพนักงานประกันมาเครมให้ ได้ไหม เพราะผมต้องรีบกลับถ้าให้รอประกันคงนานแน่ๆ แล้วผมก็ให้ใบขับขี่กับทางแท๊กซี่ไว้ ระหว่างที่ผมนั่งรถกลับบ้านผมก็โทรหาทาง 1133 ถามเบอร์วิริยะ แล้วโทรแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้น ก็บอกว่าบ้านผมอยู่ตรงนี้ แล้วก็เล่าสถาณการให้ฟัง ผมก็ถามพรุ่งนี้ค่อยเรียกพนักงานมาดูความเสียหายได้ไหม จะมีปัญหาไหม ทางนั้นก็บอกไม่เป็นไร ถ้าเราผิด แล้วยอมรับผิด พรุ่งนี้ก็โทรนัดพนักง่านเคลมมาได้ ทางวิริยะก็มีบันทึกจุดนี้ไว้ด้วย (จริงๆจุดนี้ไม่มีปัญหาอะไรครับ)
พอเช้ามาผมก็เรียกวิริยะมาที่ผมจอดรถ และแท๊กซี่คู่กรณีก็จอดรออยู่ ทางวิริยะก็เช็คความเสียหาย 2 ฝ่าย และสอบถามสถาณการณ์ ก็ผ่านไปได้ดี ทางวิริยะก็ออกใบเครมให้ผม โดยไปถ่ายเอกสารมาให้!! แล้วก็เรียกรถยกมายกเข้าอู่ประกันเพื่อซ่อม พอเสร็จเรื่องทางแท๊กซี่คู่กรณีผมนะซิ มาขอเงินค่าชดเชย เสียโอกาส ค่านู้นค่านี้กับผม เป็นจำนวนค่อนข้างเยอะทีเดียว ผมก็บอกผมประกันชั้น 1 ทางกฏหมาย บริษัทประกันของผมต้องชดเชยให้อยู่แล้วคุยกับทางนั้นได้เลย ทางพนักงานวิริยะกลับบอกไม่มีให้ (ผมถามกรมประกันภัยมา บริษัทประกันจะต้องชดเชยให้ เพราะเข้าข่ายละเมิด) พอทางนั้นปฏิเสธ ทางแท๊กซี่คู่กรณีมาถามผมตกลงจะไม่ให้ใช่ไหม ผมก็บอกเค๊าคุยกับประกันได้เลยพี่ไม่มีปัญหา จนสุดท้ายผมจะกลับแล้ว เพราะเรื่องเสร็จแล้ว ใบเคลมก็ได้กันหมดแล้ว.............
แท๊กซี่คู่กรณีดันมาปรักปรำผมว่าเมื่อคืนผมเมาเหล้าแน่นอน เลยมาชนรถเค๊า ก็มีการโต้เถีงกันเกิดขึ้น เพราะผมไม่ได้ไปดื่มเหล้าที่ไหนมาเลย กลับถูกคนพวกนี้ปักปำ เพราะเหตผลเดียวไม่ยอมให้เงินกับทางเค๊า
ผมก็นึกว่าเรื่องจบแล้วไม่มีอะไรเพราะใบเคลมผม กับ แท๊กซี่ก็ได้แล้ว แล้วรถผมก็เข้าอู่ประกันเรียบร้อยแล้ว จนผ่านปีใหม่ไป มาถึงวันที่ 5 มกรา ผมโทรสอบถามทางอ่ว่ารถซ่อมไปถึงไหนแล้ว อู่ในเครือวิริยะก็บอกผมว่าทางวิริยะยังไม่ให้ซ่อม
ผมโทรถามกับทาง "วิริยะ สาขาวิภาวดี" ซึ่งเป็นฝ่ายที่ดูแลเรื่องผมอยู่ ทางนั้นแจ้งว่าคู่กรณีผมบอกว่าผมเมาเหล้าเลยขับรถชนเค๊า ทางประกันจะยังไม่ซ่อมให้ ทั้งๆที่ผมไม่ได้ไปกินเหล้าตามที่แท๊กซี่อ้างมาเลย ซึ่งผมมีทั้งพยาน และหลักฐานซึ่งเพื่อนผมที่คุยเรื่องบริษัทอยู่ด้วยกันตลอดทั้งครอบครัว และที่สำคัญวันที่ 22 ธ.ค. ผมเข้าโรงพยาบาลกล้ามเนื้อขาฉีกขาด บวม เจ็บขนาดทาง รพ ต้องเอ็กซเลย์ ช่วงนั้นผมก็ต้องเดินแบบขาเป๋มากๆ และต้องทานยาเยอะมากๆ เช้า กลางวัน เย็น ทุกอย่างผมมีหลักฐานจาก รพ ผมคงไม่ขาเป๋ไปเที่ยวดื่มเหล้าหรอกครับ ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไปเที่ยวดื่มเหล้าทั้งๆที่ขาเป๋อย่างนั้น
สุดท้ายประกันบอกผมรถผมต้องซ่อมเยอะ แสนกว่าบาท อยากให้ช่วยออก 50% ถ้าผมอยากซ่อมรถเร็วๆ ต้องยอม เพราะจากคำปรักปรำของแท๊กซี่คู่กรณีคนเดียวที่ผมไม่ยอมให้เงินชดเชยที่ทางนั้นเรียกมา ซึ่งผมนึกว่าประกันจะต้องรับผิดชอบ ทั้งๆที่ผมไม่ได้ไปดื่มเหล้าอย่างนั้นเลย ซึ่งผมแย้งเรื่องดังต่อไปนี้
- ถ้าผมดื่มเหล้าจริงทำไมแท๊กซี่ไม่ล๊อคตัวผม แล้วเรียกตำรวจตรวจแอลกฮอล
- เหตเกิดใกล้บ้านผมมากไม่กี่ซอยก็ถึง พอผมขึ้นรถถามทางประกันว่าจะมีปัญหาอะไรไหม เพราะวันรุ่งขึ้นต้องเตรียมตัวไปต่างจังหว้ด ประกันวิริยะก็บอกไม่มีปัญหา
- ทำไมในคืนนั้นๆแท๊กซี่ไม่มีการแจ้งความ
- ผมขากล้ามเนื้อฉีกเข้าโรงพยาบาล ต้องเอ็กซเลย์ จนต้องเดินขาเป๋ในวันที่ 22 ธค ถ้าผมดื่มเหล้าจริงผมต้องดื่มคืนที่ 23 ธค นะซิ ซึ่งไม่สมเหตสมผลมากๆ
- ทำไมถ้าผมดื่มเหล้าจริงตามคำกล่าวอ้างแท๊กซี่ไม่บอกกับพนักงานประกันตั้งแต่แรก จนเรื่องจบแล้ว พอจะขูดรีดเงินจากผมไม่ได้ ก็โวยวายประกัน ปรักปรำว่าผมดื่มเหล้า
เรื่องทั้งหมดผมคุยกับร้อยเวร สน สุทธิสาร โดยมีพนักงานประกันวิริยะอยู่ด้วย และผมโทรปรึกษากับกรมประกันภัย ทั้ง 2 ฝ่ายก็บอกว่าทางประกันต้องจ่ายแน่นอน ไม่ต้องกังวล เพราะไม่มีการตรวจ ถึงแม้ทางตำรวจจะรู้ว่าดื่มเหล้า แล้วไม่มีการตรวจ ประกันก็ไม่สามารถเอามาอ้างได้
แต่ทางประกันบริษัทวิริยะ ได้พยายามดึงเรื่องโดยที่พึ่งให้รถผมซ่อมได้ในวัน ที่ 6 ม.ค. แต่มีข้อแม้ว่าถ้ารถซ่อมเสร็จแล้วผมต้องออกเงินค่าซ่อมไปก่อน(แสนกว่าบาท) เพราะทางนั้นต้องสืบเรื่องให้ได้เรื่องก่อนว่าผมเมาเหล้า ซึ่งไม่รู้จะนานขนาดไหน เพราะสืบยังไงก็ไม่มีอยู่แล้ว เพราะผมไม่ได้ดื่มเหล้าจริงๆ สาบานเลย
พรุ่งนี้ผมจะเข้าให้การที่ สน และเสียค่าปรับ แล้วเอาหลักฐานไปลองปรึกษาและร้องเรียนกรมประกันภัยดูครับ เพราะทางกรมประกันภัยแนะนำผมให้มาทำเรื่องได้เลย
เลยอยากเล่าให้เพื่อนๆในนี้ให้ฟังเองว่า บริษัทประกันภัยวิริยะ ที่ตอนแรกผมคิดว่าดีที่สุด เพราะใช้มานานไม่มีปัญหา ทั้งๆที่เบี้ยะประกันก็แพงที่สุด แต่เราซื้อประกันเพื่อความสบายใจ แต่พอเกิดการเครมเยอะๆ แล้วใช้เพียงคำกล่าวอ้างลอยๆของคนที่พยายามกรรโชกทรัพย์ผม มาเป็นข้ออ้างจะไม่จ่ายค่าซ่อมให้ ทั้งๆที่เราทำประกันชั้น1 กับทางวิริยะ (เป็นความบกพร่องของผมด้วยที่ผมเชื่อ พนักงานวิริยะที่รับเรื่องตอนเกิดเหตว่าไม่มีปัญหา ที่ให้พนักงานมาวันรุ่งขึ้น)
ถ้าเรื่องคืบหน้ายังไงจะมาเล่าให้ฟังเป็นประสบการณ์แล้วกันครับ (ต้องขออภัยที่พิมมาซะยืดยาวนะครับ) ถ้าเพื่อนๆโหวตให้จะขอบคุณมากๆเลย(เพราะผมกลัวเรื่องจะเงียบหายไป และอาจมีคนโดนพวกมิจฉาชีพกรรโชกทรัพย์ แล้วประกันก็ทำท่าจะเบี้ยวแบบผม) ถือว่าแบ่งปันประสบการณ์แล้วกันครับ จะได้ไม่โดนบริษัทประกันทำกับผมอย่างนี้
++ยังไงเพื่อนๆก็ช่วยกดไอค่อนข้างล่างความเห็นผม ตรงที่ โหวตกระทู้ ขึ้นเป็นกระทู้แนะนำหน่อยครับ กระทู้จะได้ไม่ต้องตกไปเร็วๆ เพื่อนๆคนอื่นจะได้อ่านเป็นอุทธาหรณ์สำหรับเทคนิคจะหลีกเลี่ยงของประกันภัยวิริยะ กับพวกมิจฉาชีพ กันครับ++ ขอบคุณครับ
แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 49 12:47:54
แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 49 12:46:34
แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 49 01:44:30
แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 49 01:43:29
จากคุณ :
Natureboy. 
- [
6 ม.ค. 49 00:42:27
]
ผมกำลังจะโดนประกันชั้น1วิริยะเบี้ยวครับ อยากให้เพื่อนๆในนี้อ่านเป็นประสบการณ์ จะได้ไม่เปิดช่องให้กับประกันแบบนี้
