ความคิดเห็นที่ 1 ถ้ามองที่ละด้านมันก็มีสองคำตอบแหละครับ จากคุณ : 123 (MIVA) - [ 20 ม.ค. 49 09:49:54 ]

ความคิดเห็นที่ 2 จุดมุ่งหมายของไฟตัดหอก ก็คือ ให้รถคันอื่นมองเห็นเราครับ ไม่ใช่เพิ่มทัศนวิสัยให้เราแน่นอนครับ ไม่เชื่อ ลองดูที่ไฟตัดหอก หลังสิครับท่านใช้ด้านหลังรถ เพิ่มทัศนวิสัยให้ตนเองด้วยหรือ? ส่วนทัศนวิสัยที่เพิ่มขึ้น มันเป็นแค่ผลพลอยได้ครับ ที่อ้างอิงไม่ต้อง เอาแค่เหตุผลก็พอ เพราะอย่างไงซะ คนแรกที่ คิดหรือเขียนมันขึ้นมา จะอ้างอิงใครหล่ะ เขาก็ต้องคิดมันขึ้นมา เองอยู่แล้ว ดังนั้น ลืมเรื่องอ้างอิงไปเลย แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 49 10:01:46 จากคุณ : สยึมกึ๋ย - [ 20 ม.ค. 49 10:00:06 ]

ความคิดเห็นที่ 3 *2 ไฟตัดหอก??? จากคุณ : teenahor - [ 20 ม.ค. 49 10:12:57 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เรียน ท่าน teenahor ความคิดเห็นที่ ๓ ตามตรงครับ ผมเป็นคนแก้จาก ไฟตัดหมอก เป็น ไฟตัดหอก เองแหละครับ จากคุณ : สยึมกึ๋ย - [ 20 ม.ค. 49 10:25:41 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มันชื่อไฟตัดหมอก แล้วจุดประสงค์ไม่ได้มีไว้เปิดเพื่อใช้ตัดหมอกหรอกหรือครับ ??? ไอ้ให้ใครเห็นดึขึ้น ผมว่าถ้าหมอกลงหนาๆ มันก็คงให้ทั้งตัวเองและคนอื่นเห็นชัดขึ้นทั้งคู่แหละครับ คิดมากกันไปไย จากคุณ : บ้าเงินคุง - [ 20 ม.ค. 49 10:28:13 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่ว่าจุดประสงค์แท้จริงจะเป็นอย่างไร.. ผมเห็นว่า.. ปัจจุบัน.. จุดประสงค์ คือ... "ความสวยงาม" ครับ จากคุณ : แม่ฮ่องสอน (แม่ฮ่องสอน) - [ 20 ม.ค. 49 10:40:48 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ความเห็นส่วนตัวนะคะ... 1. ไฟตัดหมอกหน้า ... เพื่อช่วยให้ทัศนวิสัยดีขึ้น 2.  ไฟตัดหมอกหลัง ...เพื่อช่วยให้รถคันอื่นมองเห็นเรา... จากคุณ : Moody-Angle - [ 20 ม.ค. 49 11:33:29 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เมื่อวานนี้ 19 มค หมอกลงจัด บ้านผมอยู่บางบัวทอง  ออกจากหมู่บ้านมา6.30น ข้างทางก็เป็นทุ่งหญ้า กับทุ่งนาปลูกข้าว ปกติก็มีหมอกปละปลาย แต่วันนั้น ต้องเรียกว่าเมืองในหมอก อยู่มา6ปี เจอหมอกมากแบบนี้ครั้งแรก มองถนนก็แทบไม่เห็น มองเห็นไฟท้ายรถคันหน้า แบบเลือนลางเต็มที ก็เลยได้ใช้ไฟตัดหมอก กะเขาสักที ซื้อรถมาตั้งหลายเดือน ได้เปิดใช้2-3ครั้ง เวลาฝนตกหนัก  วันนี้ เพิ่งได้ใช้ตรงตามวัตถุประสงค์หลักครั้งแรก ก็แค่ป้องกันให้คันอื่นมองเห็นเราในระยะไกลๆ ครับ ซอย2เลน 2ข้างเป็นคลอง กับทุ่งนา จากคุณ : new comer - [ 20 ม.ค. 49 11:34:20 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมเข้าใจ ตามความเห็นที่สองครับผม จากคุณ : notstudio - [ 20 ม.ค. 49 12:33:07 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ตาม #2 ครับ เพื่อให้รถที่สวนมามองเห็นเรา จะได้ระวัง ถ้าหมอกหนาจริงๆ ต่อให้เปิดไฟตัดหมอก ทัศนวิสัยของเราก็ไม่ได้ดีขึ้นหรอกครับ จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ - [ 20 ม.ค. 49 12:42:58 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขับตามบ้านนอกนะ 2 ตาสวนมานี่อาจเป็น มอไซ 2 คัน แต่ถ้ามาทีเดียว 4 ตาละก็ เก๋งแน่นอน จากคุณ : arku - [ 20 ม.ค. 49 13:02:52 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เดี๋ยวรอคุณต้น99 มาตอบดิ จากคุณ : ** jj-Ocu ** - [ 20 ม.ค. 49 13:19:10 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ผมตอบว่า ไฟตัดหมอก ติดเอาไว้ให้คนอื่นเห็น "ไฟ" ของเรา (ไม่ใช่เห็นตัวรถเราด้วยซ้ำไป) ครับ มันจะช่วยให้ทัศนวิสัยของเราดีขึ้นได้ยังไง? สมมติวัตถุที่ต้องการมองคือรถคันหน้า (สมมติว่ารถคันหน้าไม่เปิดไฟ-- เลยไม่มีไฟท้าย ก่อนละกันนะ) ปกติตอนที่ทัศนวิสัยดี แสงตกกระทบรถคันหน้า สะท้อนมาเข้าตาเรา เราจึงมองเห็นรถคันหน้า พอมีหมอก  แสงที่สะท้อนจากรถคันหน้า มีหมอกมาขวางอยู่ ก็เลยเดินทางมาไม่ถึงตาเรา เราเลยมองไม่เห็นรถคันหน้า ดังนั้นไฟของเรา(ส่องไปจากรถเรา) มันจะไปทำให้แสงจากรถคันหน้ามาถึงตาเราได้ยังไง? น่าจะเป็นไปได้อยู่กรณีเดียว คือแสงนั้นต้องสว่างมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จนทะลุหมอกไปถึงรถคันหน้าได้ และแสงยังมีพลังงานพอจะสะท้อนรถ ทะลุหมอกอีกรอบ กลับมาเข้าตาเราอีกที ไฟอะไรล่ะนั่น?????? ในทางปฏิบัติ ยิ่งใช้ไฟแรงๆ มากๆ เราก็ยิ่งเห็นหมอกชัดกว่ารถคันหน้า (เหตุนึงเพราะหมอกมันใกล้ตาเรามากกว่า) และเราก็จะยิ่งเห็นรถคันหน้าไม่ชัดเข้าไปใหญ่ จากคุณ : อากง - [ 20 ม.ค. 49 13:29:18 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ไก่งามเพราะขน                   รถงามเพราะแต่ง แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 49 13:34:09 จากคุณ : Mr.Vip - [ 20 ม.ค. 49 13:32:29 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ไฟตัดหมอกมันใช้ความร้อนในการตัดหมอกไม่ใช่หรือครับ ???? เมื่อหมอกโดนความร้อนก็สลายตัวไป ก็ทำให้มองเห็นคันหน้าชัดขึ้น ไม่ใช่เหรอครับ ??? จากคุณ : บ้าเงินคุง - [ 20 ม.ค. 49 13:37:10 ]

ความคิดเห็นที่ 16 พูดเล่นป่ะเนี่ย ลองถือเตารีด (เสียบปลั๊กด้วยนะ)  ไปยืนกลางหมอก แล้วลองสังเกตดู หมอกมันสลายตัวแค่ไหนเชียว? จากคุณ : อากง - [ 20 ม.ค. 49 13:45:33 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ฮ่า ๆๆ #5 พูดเหมือนไฟตัดหมอกทำหน้าที่เหมือนลวดไล่ฝ้าเลย จากคุณ : กร๊วก - [ 20 ม.ค. 49 15:33:09 A:61.91.161.185 X: TicketID:114643 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ไฟตัดหมอก ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าให้ใช้ตอนมีหมอก แต่ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่าถ้าไม่มีหมอกจะเปิดกันทำไมครับ เราควรใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ที่มี ให้ตรงกับหน้าที่ของมันจะดีกว่านะผมว่า เพื่อที่จะไม่ให้ใครมาว่าเรา จากคุณ : แงซาย (แ ง ซ า ย) - [ 20 ม.ค. 49 15:47:31 ]

ความคิดเห็นที่ 19 แก้ไขข้อความ #15 พูดเหมือนไฟตัดหมอกทำหน้าที่เหมือนลวดไล่ฝ้าเลย จากคุณ : กร๊วก - [ 20 ม.ค. 49 15:49:32 A:61.91.161.185 X: TicketID:114643 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แสงสีเหลืองทะลวงหมอกได้ดีกว่าสีขาวหรือเปล่าครับ เคยเรียนตอน ม.ปลาย คลับคล้ายคลับคลาว่างั้น จากคุณ : socio - [ 20 ม.ค. 49 16:10:22 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เห็นด้วยกับคุณหยึมฯ จากคุณ : mongolia - [ 20 ม.ค. 49 16:10:23 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ไฟตัดหมอกหน้าที่ออกแบบมาดีๆจะทำให้ทัศนวิสัยดีขึ้นแน่นอนครับเพราะมุมฉายมันจะฉายไปด้านข้าง ทำให้เห็นขอบถนนด้านข้างทำให้ไม่ตกถนนหรือไปเบียดขอบทางง่ายๆ แต่ไม่ใช่ว่าไปทำให้เราเห็นรถคันข้างหน้าชัดขึ้นนะ คนละเรื่องกัน (แต่คันข้างหน้ามองกระจกหลังแล้วก็มองเห็นเราชัดขึ้นจริง) ส่วนไฟตัดหมอกหลัง ก็ทำให้คันข้างหลังเห็นเราชัดขึ้นไง จากคุณ : ....4จุด - [ 20 ม.ค. 49 23:19:03 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คงจะตามความเห็นข้างบนละครับ(ความคิดเห็นส่วนตัวครับผม) จากคุณ : baron (baronpong) - [ 21 ม.ค. 49 08:50:45 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เปิดให้รถคัน อื่น ตาพร่า ครับ แล้วไหลไปชนข้่างทางครับ จะเปิดทำไมกัน ในกรุงเทพ อ่ะ ปวดตาจะแย่แล้ว จากคุณ : สระมรกต - [ 21 ม.ค. 49 14:45:41 ]

ความคิดเห็นที่ 25 1. ไฟตัดหมอกหน้า - ประโยชน์ใช้สอยเพื่อให้เห็นทางได้ชัดขึ้น เพราะไฟหน้าปกติของเราจะฉายออกไปค่อนข้างไกล ซึ่งจำเป็นในสภาวะอากาศปกติ แต่ในสภาพมีหมอกลงจัด ลำแสงไฟที่ฉายออกไปตรงๆ จะสะท้อนละอองน้ำที่หนาแน่น ทำให้ยิ่งมองเห็นทางลำบากขึ้น - มันจะขาวโพลนไปหมด ไฟตัดหมอกหน้า จะกดลงต่ำ (ส่องไปไกลไม่เกิน 2.5-3.00 เมตร) และจะฉายบานออกไปด้านข้าง ทำให้แสงไฟไม่ไปสะท้อนละอองน้ำกลับมาเข้าตาคนขับ ทำให้ทัศนวิสัยดีขึ้น แต่ก็แค่ในระยะใกล้ๆ หน้ารถ เพราะฉนั้น ต้องใช้ความเร็วต่ำเพื่อความปลอดภัยประกอบไปด้วย 2. ไฟตัดหมอกหลัง - ใช้ไฟสีแดงที่สว่างมากกว่าไฟท้ายปกติ (ส่วนใหญ่จะส่วางเท่ากับไฟเบรค) เพื่อสว่างตัดละอองหมอกออกไปให้รถที่อยู่ข้างหลังเห็นเราได้ดีขึ้น ข้อคิด: บางประเทศ เช่นฝรั่งเศส มีกฏหมายให้ใช้ไฟหน้าสีเหลือง เพราะตามหลักวิทยาศาสตร์ ไฟสีเหลืองจะฝ่าละอองน้ำ (ละอองหมอก) ไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า-ไกลกว่า ตัวอย่างที่เห็นก็คือ ไฟลานบิน (Runway) และไฟถนนใกล้ๆ สนามบิน จะใช้สีเหลือง เพื่อให้นักบินมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น - อีกประเด็นหนึ่งก็คือ กรุณาอ่านคำชี้แจงข้างต้น แล้วใช้ไฟตัดหมอกของท่าน ทั้งหน้าและหลัง ให้ถูกต้องกับจุดประสงค์ของมัน - ไม่ใช่เพื่อความโก้เก๋ จากคุณ : Tamaraw - [ 21 ม.ค. 49 15:28:29 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ค.ห. 25 พูดถูกครับ ตามหลักฟิสสิกเลย เห็นด้วยอย่างมาก หมอกลงห้ามใช้ไฟสูงเพราะละอองน้ำในอากาศก็เหมือนกระจกนั้นเองซึ่งสะท้อนแสงกลับมาหาเรา ดั้งนั้นเปิดไฟสูงใส่หมอกก็เหมือนกับยิงไฟใส่กระจกที่จะสะท้อนแสงกลับเข้ามาที่ตัวเราเอง โดยธรรมชาติหมอกจะลอยอยู่เหนือพื้น ดังนั้นไฟตัดหมอกต้องอยู่ตำแหน่งต่ำที่สุดเพื่อที่จะส่องไฟลอดใต้หมอกที่ลอยตัวอยู่ไปข้างหน้า และแสงไฟไม่แรงเกินไปที่จะทำให้มีการสะท้อนแสงกลับมา... เวลาชับรถยนต์ในสภาพถนนที่มีหมอกใช้ความเร็วต่ำเพื่อความปลอดภัยนะครับ จากคุณ : snubiam - [ 24 ม.ค. 49 01:33:02 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ไฟตัดหมอก จะเป็นแสงแบบกระจาย ** ใช้เปิดเพื่อให้รถคันอื่น มองเห็นรถเราได้ชัดขึ้นครับ** เพื่อป้องกันคนอื่นมาชนเรา ***ไม่ได้ทำให้เรามองเห็นชัดขึ้นนะครับ*** ถ้าหมอกลงจัด ก็ควรเปิดครับ ---แต่ในสภาพปกติ แล้วคุณเปิดตลอด ก็แสดงว่า ไม่มีมารยาทแล้วหละครับ เพราะแสงมันแสบตาคนอื่นมากครับ **กรุณาทำความเข้าใจใหม่ด้วยครับ** ติดไว้ แล้วใช้ให้ถูกกาละ เทศะ ไม่ผิดครับ *เปิดเฉพาะเวลา มีหมอกจริงๆ *ห้ามเปิด เวลา สภาพอากาศปกติ -- เนื่องจากไฟตัดหมอก จะเป็นแสงแบบกระจายทุกทิศทุกทาง ทำให้มองเห็นได้ชัดแม้เวลามีหมอกหนา หมายถึง ให้รถคันอื่นมองเห็นเรานะครับ ไม่ได้ช่วยให้เรามองเห็นมากขึ้นกว่าเดิมเลยครับ ***เพราะฉะนั้น ในสภาพปกติ ไม่ได้ช่วยให้เรามองเห็นดีขึ้นเลย แต่กลับจะไปแยงตาชาวบ้านเค้ามากขึ้นครับ ขอร้องหละครับ ถ้าไม่มีหมอกอย่าเปิดเลยครับ อาจเป็นสาเหตุทำให้รถคันอื่นประสบอุบัติเหตุได้ครับ ระวังจะโดนข้อหาพยายามฆ่านะครับ -- บางคนบอกว่า ถ้าเปิดแล้วผิด แล้วเค้าติดตั้งมาในรถให้ทำไม ** ตอบได้เลยว่า ติดไว้ไม่ผิดครับ แต่ใช้ผิด ก็โดนจับครับ ยกตัวอย่าง --- คุณแวะซื้อมีดกลับมาบ้าน 1.คุณใช้มีดไปทำอาหาร  ---  ไม่มีความผิดครับ 2.คุณใช้มีดไปแทงคนตาย --- ผิดแน่นอนครับ **สรุป** คนที่ชอบเปิดไฟตัดหมอก โดยคิดว่าเท่ คิดว่าไม่ผิด ไม่หนักหัวใคร เลิกซะเถอะครับ อย่าเอาเปรียบสังคมอีกเลย จากคุณ : A (เอ-อุบล) - [ 27 ม.ค. 49 11:29:54 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ผมไม่ได้มีความประสงค์ที่จะให้ท้ายคนเปิดไฟตัดหมอก (ทั้งหน้าและหลัง) ในเวลาสภาพอากาศปกติ แต่ผมเห็นว่ามีคนเข้าใจการทำงานของไฟตัดหมอก (หน้า) ผิดๆ กันเยอะเหลือเกิน อย่างที่ผมได้อธิบายไว้ใน คคห. 25 ว่าในกรณีที่หมอกลงหนัก ไฟสูงๆ จะยิ่งทำให้มองทางไม่เห็น เพราะไฟมันจะสะท้อนละอองน้ำในอากาศ (ก็คือหมอกนั่นเอง) กลับมาเข้าตาคนขับ ทำให้มองทางได้ยากมากขึ้น (คุณsnubiam ยืนยันอย่างถูกต้องใน คคห. 26) ดังนั้น ถ้า "ไฟตัดหมอก" ตั้งไว้สูงถึงขนาดเข้าตาคนขับรถที่สวนมา จนแสบตา "ไฟตัดหมอก" ดังกล่าวจะไม่มีศักยภาพที่จะเป็น "ไฟตัดหมอก" ได้ เพราะในสภาพมีหมอก ลำแสงจะสะท้อนมาเข้าตาคนขับทำให้มองทางไม่เห็น เหมือนไฟปกติธรรมดา ไฟตัดหมอกที่ใช้ "ตัดหมอก" ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะต้องกดลงต่ำส่องพื้นถนนและกระจายออกไปด้านข้างเล็กน้อย และส่องไปไกลจากหน้ารถไม่เกิน 3.00 เมตร ถึงจะทำให้ช่วยเห็นทาง (ในระยะใกล้ๆ) ได้ชัดเจนขึ้น เราต้องแยกไฟที่เรียกว่า "ไฟตัดหมอก" (Fog Lamp) ออกจาก "ไฟส่องทาง" (Spot Light หรือ Spot Lamp) ให้ได้ชัดเจน จะได้แยกแยะได้ถูกครับ ทีนี้คุณก็ลองไปเปิดไฟ (แถมพิเศษ) ที่ติดมากับรถคุณดู ถ้ามันฉายกระจายออกไปข้างๆ เล็กน้อยและกดลำแสงลงต่ำ (ไปไกลไม่เกิน 2.50-3.00 ม.) นั่นคือ "ไฟตัดหมอก" ที่ถูกต้อง ที่ถ้าคุณจะเห่อ หรือจะบ้าเปิดขับมันทุกวันก็ไม่รบกวนใคร (ขอยืนยันว่าไม่ให้ท้ายใคร เพราะผมเองก็ไม่เปิดพรําเพรื่อ) แต่ถ้าไฟของคุณมันส่องออกไปตรงๆ ในระดับสูงอย่างเห็นได้ชัด คุณจะเรียกไฟของคุณว่า "ไฟตัดหมอก" ไม่ได้ ต้องเรียก ไฟ "Spot Light' -- อันนี้แหละครับ ที่ทำความรำคาญให้ชาวบ้าน และทำให้คุณถูกแช่งชักหักกระดูกอยู่ทุกวันโดยไม่รู้ตัว แค่เพราะความอยากเท่ของคุณ แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 49 14:17:21 จากคุณ : Tamaraw - [ 27 ม.ค. 49 14:16:30 ]

ความคิดเห็นที่ 29 มาหนุนหลัง #28 ครับ หลายคนยังสับสนระหว่าง fog lamp กับ driving lamp นะครับ ซึ่งทั้งสองอย่างก็ถือเป็นไฟเสริมจาก head lamp ด้วยกันทั้งคู่ fog lamp เขาตั้งใจให้ใช้ร่วมกับไฟหน้าต่ำ ในสถานการณ์ที่มีหมอกลง  หิมะตก  ฝนตกหนัก  หรือมีฝุ่นควันมาก  เพราะสถานการณ์เหล่านั้น คุณจะไม่สามารถมองเห็นข้างหน้าได้เป็นระยะทางไกล  การเปิด fog lamp เสริม จะช่วยให้มองเห็นระยะใกล้ ๆ หน้ารถได้ดี เนื่องจากแสงมันจะพุ่งลงต่ำ ทำให้ไม่สะท้อนกับหมอกมาเข้าตาเรา driving lamp ออกแบบมาให้ใช้ร่วมกับไฟหน้าสูงปกติ  เพื่อเพิ่มการมองเห็นได้สว่างหรือกว้างไกลกว่าเดิม และไม่ควรใช้ร่วมกับกับไฟหน้าต่ำ หรือเปิดเฉพาะตัวมันเดี่ยว ๆ เพราะมันจะรบกวนเพื่อนร่วมทางและให้ทัศนวิสัยไม่ดี ( อ้างอิงจาก PIAA FAQs ) และดูรูปนี้ประกอบนะครับ จาก www.pilot automotive.com จากคุณ : director - [ 27 ม.ค. 49 22:25:33 ]

ความคิดเห็นที่ 30 โอ้โฮ ขอบคุณ คุณ Director ครับ ผมเองพยายามหารูปที่ชัดแจ้งแดงแจ๋อย่างนี้มาประกอบ แต่ยังหาไม่เจอ ถึงขนาดคิดจะวาดให้ดูเอง แต่ไม่มีเวลา นี่แบบยืนยันโดย PIAA ก็หวังว่าประเด็นนี้สรุปกันได้แล้วนะครับ เห็นได้ชัดในรูปที่คุณ Director โพสต์มานะครับ ว่า -- ไฟตัดหมอก (Fog Lamp) ไม่มีทางไปแยงตาใครได้ -- ถ้าได้ มันไม่ใช่ "ไฟตัดหมอก" แต่เป็น ไฟ Spot Lamp หรือ Driving Lamp นั่นเอง หรืออาจเป็นไฟที่เจ้าของรถติด (หรือตั้ง) มาเอง ด้วยจุดประสงค์เพื่อกวนประสาทชาวบ้าน จากคุณ : Tamaraw - [ 30 ม.ค. 49 18:54:32 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ครับผม..ไม่เป็นไรครับ แต่ผมเกรงว่าคงจะไม่ค่อยมีคนตามมาอ่านถึงตอนนี้ซักเท่าไรกระมังครับ จากคุณ : director - [ 31 ม.ค. 49 23:29:29 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ผมเพิ่งเข้ามาติดตามอ่านครับ หลังจากไม่ได้เล่นเน็ตมาหลายวัน ขอขอบคุณ ทุกท่านมากครับ ที่ให้ความกระจ่าง จากคุณ : กร๊วก (คนตั้งกระทู้) - [ 1 ก.พ. 49 10:13:54 A:58.9.177.204 X: TicketID:114643 ]