ความคิดเห็นที่ 1 จากกรณีที่ว่า ผมเป็นบริษัทขายผ้าเบรค ผมทำอาชีพรับเหมาก่อสร้างครับ ส่วนหนึ่งของข้อกล่าวหา "ที่ว่าเป็นบริษัทผลิตผ้าเบรค" "ข้อมูลที่ผมแจ้งเรื่องความน่าสงสัยในเจตนาของผู้ให้ข้อมูลเรื่องเบรคนั้น เป็นข้อมูลที่ได้มาจากฝ่ายจัดซื้ออะไหล่ OEM ของ TWA และฝ่ายวิศวกรรมของบริษัทโตโยต้า ซึ่งเป็นผู้ประกอบรถฟอร์จูนเนอร์ว่ามีการเสนอขายผ้าดิสเบรคสำหรับใส่รถรุ่นนี้ โดยกลุ่มบุคคลเหล่านี้แต่ข้อเสนอไม่ผ่านการพิจารณา จึงเริ่มมีการให้ข้อมูลต่าง ๆ เรื่องผ้าเบรคผ่านสื่อต่าง ๆ นี้เป็นสิ่งที่ผมได้รับรู้มาจึงขอแจ้งให้ทราบเพื่อให้สมาชิกได้นำไปพิจารณาประกอบข้อเท็จจริงต่าง ๆ " จากคุณ : Preecha Fortuner - [ 12 ก.พ. 49 17:19:56 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ผมประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้างครับ ไม่ใช่บริษัทขายผ้าเบรคเด็ดขาด Pr ของบริษัทผู้ผลิตแห่งนี้ "ไร้จรรยาบรรณนะครับ" จากคุณ : Preecha Fortuner - [ 12 ก.พ. 49 17:26:48 ]

ความคิดเห็นที่ 3 นี้เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ยังอาจไม่เข้าใจในเจตนาของผม โดยใช้กลุ่มผู้ใช้รถกลุ่มหนึ่งที่คอยปล่อยข่าวออกมาเบี่ยงเบนประเด็นบ้าง สนับสนุนให้คนไปดัดแปลงรถ เป็นดิสเบรคสี่ล้อ เพื่อที่บริษัทนี้จะได้ไม่ต้องรับผิดชอบ เนื่องจากหากผู้ใช้รถไปเปลี่ยนเป็นดิสเบรค 4 ล้อผู้ใช้รถเป็นฝ่ายผิด 100% เนื่องจาก "รู้อยู่แล้วว่าทำไม่ถูกต้องตามคำเตือนของผู้ผลิตในเรื่องการดัดแปลงสภาพรถแล้วยังสมัครใจเสี่ยงภัยเปลี่ยนดิสเบรค 4 ล้อโดยไม่มีเหตุผลอันควร และผู้ผลิตมีคำเตือนอย่างชัดเจนแล้วผู้ใช้ยังจงใจฝ่าฝืน ซึ่งบริษัทผู้ผลิตก็จะหลุดพ้นความรับผิดชอบไปตามมาตรา (7)"  เพื่อนๆ ครับเมื่อก่อนผมโดนข้อหาดัดแปลงสภาพรถจากล้อและยางที่มีหน้ากว้างขึ้น  จนสังคมเข้าใจผมผิดว่าผมไปดัดแปลงสภาพรถและทำให้ผ้าเบรคร้าว  แต่ในขณะนี้ผมกับมาบอกเตือนถึงผู้ที่จะไปเปลี่ยนดิสเบรค 4 ล้อว่าไปดัดแปลงเป็นดิสเบรค 4 ล้อ เดี๋ยวจะเข้าทางเกมสืของบริษัทผู้ผลิตแห่งนี้ เพื่อที่จะหลุดพ้นจากความรับผิดชอบเรื่องปัญหาเบรค จริงๆ เจตนาผมที่ทำตรงนี้ ต้องการเพียงบอกข่าวสารข้อมูลให้ผู้ใช้รถ Fortuner ตรวจสอบระบบเบรคเพื่อความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สิน และผมมีข้อมูลที่เป็นผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับระบบเบรค เพียงพอต่อการตัดสินใจ  ว่าระบบเบรคมีปัญหาจริง  จึงนำมาบอกแก่คนในสังคม และการที่ผมเคยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนกระดูกต้นคอ C2 หัก ผ่านประสบการณ์เฉียดตายมา ผ่านวินาทีชีวิต  ต้องเข้าเฝือกตั้งแต่เอวถึงศรีษะ และผมมีข้อมูลเพียงพอว่าระบบเบรค Fortuner มีปัญหา มิเช่นนั้นบริษัทนี้ฟ้องผมแล้วล่ะครับ ยิงบรืษัทใหญ่ๆ อย่างนี้ด้วย ซึ่งการที่ผมผ่านประสบการณ์เฉียดตายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์มานั้น เป็นแรงผลักดันให้ผมต้องมาเตือนคนในสังคมให้ระวังเกี่ยวกับปัญหาเบรค Fortuner ที่เกิดขึ้นนั้น แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 49 17:58:51 แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 49 17:58:50 จากคุณ : Preecha Fortuner - [ 12 ก.พ. 49 17:40:47 ]

ความคิดเห็นที่ 4 นี้เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่อาจมาความเข้าใจเจตนาของผมผิด ผมขออนุญาติชี้แจงนะครับ ว่าผมเปิดบริษัทรับเหมาก่อสร้างมีบริษัทจริง และกลุ่มคลับต่างๆ ที่ออกมาเป็นกันชนของความจริงแทนบริษัทผู้ผลิตแห่งนี้ ผมขอร้องล่ะครับ คุณกำลังเล่นอยู่กับความปลอดภัยของชีวิตคน อย่าสร้างกระแสให้ผู้ใช้รถเข้าใจผิดว่า " ระยะห่างเบรคหลังคลายตัวได้โดยไปปรับเบรคหลังให้ชิดเกินไปเพื่อความรู้สึกผู้ใช้รถที่ว่าเบรคตอบสนองดีขึ้น หรือแป้นเบรคมือนับได้ 4 กิ๊ก เบรคจนยางหลังร้องเอียด!! เป็นการเบี่ยงเบนประเด็นของปัญหาระบบเบรคที่เกิดขึ้น ให้เป็นปัญหาของความรู้สึกซึ่งการออกแบบระบบเบรคดรัมพ์หลังรถรุ่นนี้ ก็มีระบบปรับตั้งระยะผ้าเบรคอัตโนมัตอยู่แล้ว (LTS) Leading Trailing System อย่าไปเปลี่ยนเฟื่องให้ระเอียดขึ้นนะครับ เฟื่องเดิมติดรถมาระยะดีอยู่แล้ว อย่าทำให้ผู้ใช้รถเข้าใจผิด โดยใช้เทคนิคของร้านผ้าเบรค ที่เข้าใจว่าตั้งเบรคหลังยิ่งชิดยิ่งดี จากเครื่องทดสอบเบรคคุณก็น่าจะรู้แล้วว่าแรงเบรคจากล้อหลังเป็นอย่างไร  ถ้าดีจริงแสดงผลออกมาสิครับ หรือว่าแรงเบรคจากล้อหลังน้อยจนไม่กล้าประกาศกับสาธารณะชน "พี่ขอบคุณที่หนุ่ยยังฟังพี่ เรื่องของปรีชาเป็นเรื่องที่สมควรเฝ้ามองพี่กลับมองไม่เหมือนน้องๆที่มองปรีชาเพราะพฤติกรรมหลายๆครั้งของปรีชาและพวก(ตอนนั้นมีเปิ้ล และ ปราณ)คงยังจำกันได้ สร้างเรื่องราวใหญ่โตไม่ฟังเสียงทัดทานจากใครทั้งสิ้น เค้าจะต้องทำเพื่อให้ตัวเองโดดเด่นออกมาจากคนอื่น อีกทั้งสร้างเรื่องว่ามีคนตามมาปองร้าย ทั้งที่เป็นเรื่องไม่จริง ยังไม่นับกระแสข่าวที่ถูกปล่อยออกมาเรื่องผลประโยชน์ของปรีชา ตลอดจนกระทั่งอุบัติเหตุที่ต้นคอของปรีชา ที่มีข่าวออกมาว่าไม่ได้เกิดจากการขับฟอร์จูนเนอร์ เหล่านี้ทำให้พี่และหลายคนคิดว่าเราควรอยู่ห่างๆเค้า ยิ่งห่างพี่ก็ยิ่งเห็นว่ามันคล้ายๆกับว่าที่เค้าพูดเรื่องผลประโยชน์ที่ปรีชาควรได้รับจะเป็นจริงได้ โก๊ะนะเค้าจริงใจพยายามช่วยเหลือเพื่อนเสมอแต่คนเรายิ่งทำมากก็มีช่องโหว่ให้เค้ามองเรื่องผลประโยชน์มากเช่นกัน นัทก็เช่นกันเรื่องการต่อรองผลประโยชน์พี่เชื่อว่ามีแต่ทำเพื่อส่วนรวมหรือไม่ หากทำเพื่อส่วนรวมหรือทำเพื่อประโยชน์ของเวปพี่ก็ยินดีนะ ผลประโยชน์ทับซ้อนแบบที่หนุ่ยว่าหากมีจริงไม่นานความจริงก็จะเปิดเผยเอง พี่อย่าไปกังวลกับมันมากเกินไป ใครเจอปรีชา พี่ฝากบอกด้วยว่าการทดสอบเบรคหลังโดยการขึ้นโรลเล่อร์อย่างเดียวแล้วเอาค่ามาตีความหมายแล้วปรับแก้ไม่ถูกต้อง และอันตรายอย่างยิ่ง พี่เองไม่ใช่วิศวกรฯแต่ศึกษาเรื่องรถยนต์มากกว่าพวกวิศวกรหลายท่าน ต่อให้ไปทำช่วงล่างมาดีแค่ไหนใครลองขับไม่ให้หน้าทิ่ม ท้ายยกสิ แล้วมีใครรู้บ้างว่าวาล์วตัวนี้ทำงานตัดน้ำมันเฉพาะตอนเบรค แต่ปกติ (อยู่บนโรลเลอร์)หากท้ายไม่ยกมันมาเต็มที่อยู่แล้ว หากจะปรับแต่งรถจะคิดถึงข้อเสียเสมอ เรื่อง LSPV หากรู้ว่ามันทำให้เกิดผลเสียยังไง จะน่ากลัวมาก คนเข้าใจว่ารถมี ABS แล้วยังไงก็ไม่อันตราย ปรีชาเองก็มาแปลกๆบอกว่าทำเพื่อส่วนรวม แต่วิธีปรับค่า กลับปิดบังเสียนี่แล้วจะให้พี่เข้าใจว่ายังไง???? ลองคิดดูนะ ก็หวังว่าไม่ต้องการให้ใครเป็นเครื่องมือของใคร พี่ว่าหนุ่ยเองก็อย่าเพิ่งกังวลเรื่องผลประโยชน์มากนัก เราพอมองกันออกครับ ดีกันใว้ก่อนแล้วร่วมมือกัน แต่ก็ไม่เห็นด้วยที่ไปทดสอบเพื่อใครบางคน หากเค้าได้ประโยชน์จริง เรานะแหละที่จะลำบากใจ และเสียใจมาก ...แหมหนุ่ยเป็นพี่-น้องจุฬา กัน แล้วพี่นี่เป็นอะไรดีหละ พี่ระหัส CU 16... ขอบคุณครับที่อธิบายให้พี่เข้าใจ" จากคุณ : Preecha Fortuner - [ 12 ก.พ. 49 17:51:26 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ก่อนที่จะคุยเรื่องเบรค ขออนุญาติคุยเรื่องปัญหาคลัทซ์ที่เกี่ยวข้องกับรถ Fortuner และ Vigo โดยปัญหาที่พบมีดังนี้ 1. ขณะรอบเดินเบาจะได้ยินเสียง ก๊อกๆ ตลอด เสียงเหมือนโลหะกระทบกัน แต่พอเหยียบคลัทซ์ เสียจะเงียบหายไป ลองตรวจสอบดูนะครับว่าใครเป็นบ้าง ซึ่งปัญหาคือ ก้ามปูคลัทซ์กับตัวปรับก้ามปูคลัทซ์ มีระยะห่างที่ไม่เหมาะสม ซึ่งได้มีอุปกรณ์ก้ามปูคลัทซ์ตัวใหม่ออกมาโดยมีบูทยางมารองที่เบ้าก้ามปู (เหมือนเบ้าลูกหมาก) และแก้ไขโดยเพิ่มแหวนมารองบริเวณตัวปรับก้ามปูคลัทซ์ ทำให้เสียงนั้นลดลงไม่มีเสียงโลหะกระทบกัน ซึ่งหากเพื่อนๆ เหยียบคลัทซ์ หัวของตัวปรับก้ามปูก็ไปชนเบ้าในก้ามปูคลัทซ์ ทำให้เสียงเงียบลงในขณะที่เราเหยียบคลัทซ์ แต่หากปล่อยคลัทซ์แล้ว ก็จะมีเสียงเหมือนโลหะกระทบกันอีก ผมคิดว่าน่าจะเป็นกันทุกคันนะครับ ตรวจสอบดู!! [url]http://www.vigoclub.com/BoardTalk2.asp?id=Q000002672;talk จากคุณ : Preecha Fortuner - [ 12 ก.พ. 49 18:27:01 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ปัญหาที่ 2 อาจเกิดอาการคลัทซ์จมซึ่งอาจจะต้องตรวจสอบแม่ปั๊มคลัทซ์บน-ล่าง ว่ารั่วหรือไม่ ปัญหาที่ 3 เข้าเกียร์จาก 1 ไป 2, และจาก 2 ไป 1 ยาก และขณะออกตัวมีอาการสั่น หรือมีเสียงซึ่งจะเกิดจาก การที่ตรงกลางของจานคลัทซ์ ที่เรียกว่า Friction Plate เกิดการรุนตัวหรือให้ตัวได้ เนื่องจากจากแรงบิดที่สูงของเครื่อง รวมถึงสปริงกดคลัทซ์ จากคุณ : Preecha Fortuner - [ 12 ก.พ. 49 18:30:42 ]

ความคิดเห็นที่ 7 หากไม่รีบแก้ไขก็อาจจะสร้างความเสียหายให้กับระบบคลัทซ์ได้ เช่นคลัทซ์ไหม้ จากคุณ : Preecha Fortuner - [ 12 ก.พ. 49 18:31:53 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คลัทซ์ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการถ่ายทอดกำลังจากเครื่องยนต์ไปสู่ชุดเฟื่องเกียร์และถ่ายทอดแรงบิดไปสู่เพลาท้าย ซึ่งจะนำไปหมุนล้อในการเคลือนที่ของรถ ซึ่งส่วนประกอบของคลัทซ์ มีดังนี้ จากคุณ : Preecha Fortuner - [ 12 ก.พ. 49 18:34:22 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณครับ ผมติดตามมาตลอด สู้นะครับ ให้กำลังใจครับทำได้แค่นี้เอง จากคุณ : ChineseBoy - [ 12 ก.พ. 49 18:38:18 ]

ความคิดเห็นที่ 10 จากรูปจะเห็นว่าท่อน้ำแอร์จะปล่อยน้ำแอร์ลงมาสู่ปั๊มคลัทซ์ตัวล่าง ซึ่งอาจทำให้เกิดสนิมได้ ซึ่งมีผลกับการทำงานของปั๊มคลัทซ์ได้ เพื่อนๆ ต้องต่อท่อออกมาให้ยาวขึ้น จากคุณ : Preecha Fortuner - [ 12 ก.พ. 49 18:51:37 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สงสัยเป็น idea ระบายความร้อนสูบคลัท พี่ปรีชาสู้ต่อไปครับ พี่ไม่ลองฟ้องศาล ดูหรือครับ ? หรือว่าศาลไม่รับฟ้อง ? จากคุณ : Professor - [ 12 ก.พ. 49 19:20:56 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ผู้ใช้ Fortuner ทุกวันนี้ยุคนี้เป็นยุคข้อมูลข่าวสาร เต็มไปหมดเป็นยุคที่เราจะต้องเลือกที่จะฟังเลือกที่จะเชื่อ จะต้องวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสาร รวมถึงคุณภาพของข้อมูลที่นำเสนอเพื่อเลือกที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อ หากสื่อของผู้ใช้รถ Fortuner ทางอินเทอร์เนตถูกบริษัทผู้ผลิตแห่งนี้ครอบงำโดยมีการปล่อยข่าวออกมาเป็นระยะๆ  และเบี่ยงเบนประเด็นของปัญหาโดยดารใช้กลุ่มอ้างอิง(Refence Group) เข้ามาปล่อยข่าวและบิดเบือนข้อเท็จจริง ทำให้มีอิทธิพลต่อผู้ใช้ Fortuner ในด้าน 1. ทัศนะคติ และแนวคิดของผู้ใช้ Fortuner 2. พฤติกรรมการตัดสินใจในการแก้ไขปัญหาเบรค จะใช้พฤติกรรมของกลุ่มอ้างอิงเป็นเกณฑ์ ทั้งนี้เนื่องจากบุคคลต้องการเป้นที่ยอมรับของกลุ่ม จึงปฏิบัติตามและยอมรับความคิดเห็นของกลุ่ม นักการตลาดทราบดีว่ากลุ่มอ้างอิงใน Club แห่งหนึ่ง ซึ่งสันนิฐานว่ามี PR ของบริษัทนี้อยู่เต็มไปหมด และใช้ความคิดเห็นของกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มอ้างอิงในการตัดสินใจเรื่องปัญหาเบรค พร้อมชักจุงและจุงใจให้ผู้ใช้ Fortuner แก้ไขตาม ซึ่งบริษัทผู้ผลิตนี้ ก้จะหลุดพ้นความรับผิดชอบไปตาม พรบ.มาตรา (7) 2. ใช้บุคคลที่มีมีความเป็นผู้นำทางความคิด(Opinion Leader) ที่เกี่ยวของกับรถยนต์มาตั้งข้อสังเกตุถึงปัญหาที่เกิดขึ้นต่างๆ รวมถึงปล่อยข่าวว่าอีก 2 สัปดาห์ก่อนถึงงานแสดงรถยนต์ครั้งที่ผ่านมา ทางบริษัทผู้ผลิตแห่งนี้จะมีการแก้ไขปัญหาระบบเบรค ซึ่งผมก็คิดว่าไม่รับผิดชอบคำพูด หายเข้ากลีบเมฆ ซึ่งจากที่ผ่านมาทั้งหมดผู้ใช้ Fortuner ก็ได้รับบทเรียนต่างๆ มามากมายแต่ไม่เคยได้รับการแก้ปัญหาเบรคจากบริษัทแห่งนี้ ผมคิดว่าพวกเราต้องตั้งสติ และวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เราต้องเลือกที่จะเชื่อและไม่เชื่อข้อมูลข่าวสารโดยคำนึงถึงคุณภาพของข้อมูลที่นำเสนอ ปัญหาระบบเบรคที่พบเราต้องทำความเข้าใจกันใหม่ดังนี้ 1. ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ระบบเบรคหน้า การเปลี่ยนผ้าเบรคหน้าก็มิใช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้อง แต่เป็นการลดความเสี่ยง ของอาการเบรคทื่อ (Fade) เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงขึ้น 2. ปัญหาอยู่ที่ ระบบเบรคหลังทำงานไม่สมบูรณ์เนื่องจากแรงดันน้ำมันเบรคหลังน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งก้านวาล์วทีค่ควบคุม LSPV นี้ในขณะที่รถมีการเบรคน้ำหนักของรถจะถูกถ่ายเทไปบริเวณด้านหน้า ทำให้ระดับท้ายของตัวรถยกระดับมากขึ้น ก็จะทำให้ก้านวาล์วที่ควบคุมโดยสปริงลดระดับลงมา[b]เร็วเกินไปสังเกตุได้จากลองยืนที่บันไดข้างทั้ง 2 ข้างค่อนไปทางด้านหลังแล้วขย่มรถ จะเห็นก้านวาล์วลดระดับลงมาไวมาก ผมเคยติดกล้อง VDO ถ่ายการเคลือนที่ของก้านที่ควบคุม LSPV วาล์วทำให้วาล์วใน LSPV จะลดแรงดันของน้ำมันเบรคที่ไปสู่ล้อหลังทั้งซ้ายและขวา ตามรูปที่ 2 และ 3 แสดงถึงท่อน้ำมันเบรคไปสู่ล้อหลังซ้ายและขวา ซึ่งหากแรงดันน้ำมันเบรคที่น้อยเนื่องจากก้านวาล์ว LSPV ลดระดับเร็วเกินไป สังเกตุได้จากจุดยึด LSPV วาล์วจาก รูปที่ 4 และรูปที่ 5 หากท้ายรถยกตัวก้านวาล์วก็จะปรับลงมา ตรงนี้เป็นเหตุผลที่ หากนั่ง 4 คน - 7 คน ประสิทธิภาพเบรคของรถ Fortuner จะกลับมาใช้งานได้ดีเนื่องจากมีน้ำหนักบรรทุกทำให้เสถียรภาพของรถดีขึ้น ไม่มีอาการท้ายยก(ลดระดับแรงดันน้ำมันเบรคมากเกินไป จากเครื่องทดสอบบางครั้งประสิทธิภาพเบรคหลังเท่ากับ 40-50%)จึงส่งผลทำให้ลูกสูบเบรคหลังไม่มีแรงพอที่จะดันผ้าเบรคหลังให้เสียดสีกับจานดรัมพ์เบรคหลังได้ ทำให้เกิดแรงเบรคที่น้อยกว่าที่ควรจะเป็น ทำให้ภาระไปอยู่ที่เบรคหน้าจนสุดโต่ง สังเกตุได้จากรถที่เกิดอุบัติเหตุ ส่วนใหญ่ด้านหน้ายุบตัวลงมากจนหัวโช๊คกระแทกกับซุ้มล้อด้านหน้า 3. ปัญหาไม่ใช่ระยะห่างเบรคหลังห่างเกินไปหรือที่กล่าวกันว่าระยะห่างเบรคหลังคลายตัวได้ ซึ่งการออกแบบระบบเบรคดรัมพ์หลังรถรุ่นนี้ ก็มีระบบปรับตั้งระยะผ้าเบรคอัตโนมัตอยู่แล้ว (LTS) Leading Trailing System อย่าไปเปลี่ยนเฟื่องให้ละเอียดขึ้นนะครับ เฟื่องเดิมติดรถมาระยะดีอยู่แล้ว อย่าทำให้ผู้ใช้รถเข้าใจผิด โดยใช้เทคนิคของร้านผ้าเบรค ที่เข้าใจว่าตั้งเบรคหลังยิ่งชิดยิ่งดี จากเครื่องทดสอบเบรคคุณก็น่าจะรู้แล้วว่าแรงเบรคจากล้อหลังเป็นอย่างไร  ถ้าดีจริงแสดงผลออกมาสิครับ หรือว่าแรงเบรคจากล้อหลังน้อยจนไม่กล้าประกาศกับสาธารณะชน ( โดยการไปเปลี่ยนเฟื่องตั้งเบรคหลังให้ละเอียดขึ้น ซึ่งจากของเดิมติดรถ 18 เฟือง(ทำให้ระยะห่างระหว่างเบรคหลังถึงจานเบรคเท่ากับ 0.6 มิล หรือดึงเบรคมือได้เท่ากับ 9 - 10 กิ๊ก) โดยไปเปลี่ยนเฟืองให้ละเอียดขึ้นเป็น 24 เฟือง(ทำให้ระยะห่างเท่ากับ 0.4 มิลหรือดึงเบรคมือได้เท่ากับ 5 - 6 กิ๊ก) ซึ่งจากผลทดสอบเบรครถที่นำไปทดสอบและตั้งเบรคหลังให้ชิดกว่าค่ามาตรฐานโรงงานนั้น อาจจะรู้สึกว่าเบรคดีขึ้นตึงมือขึ้น แต่ค่าจากเครื่องทดสอบเบรค จะเห็นว่า แรงเบรคหลังประมาณ 1500-1800 นิวตัน ซึ่งคิดเป็น 40% จากคุณ : Preecha Fortuner - [ 12 ก.พ. 49 19:32:40 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เง้อ... ทิ้งน้ำแอร์ตรงนี้ก็ได้ด้วยวุ้ย จากคุณ : สยึมกึ๋ย - [ 12 ก.พ. 49 19:38:55 ]

ความคิดเห็นที่ 14 วีออส อีกคันที่บ้านก็เป็นครับ เรื่อง ท่อน้ำทิ้งของ แอร์หนะครับ  ลองไปดูนะครับ หากรถ วีออสใคร สายมันสั้น ก็ ต่อให้มันยาวลงมานะครับ ไม่งั้น หล่นลงตัวถังอยู่เรื่อยๆ  ลองดูนะครับ จากคุณ : ap (ap group) - [ 12 ก.พ. 49 19:50:51 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ในรถอีกคันหนึ่งที่เปลี่ยนเฟืองเบรคหลัง 24 เฟืองซึ่งเป็นเฟืองที่ละเอียดขึ้น ทำให้ระยะห่างเบรคหลังเท่ากับ 0.4 มิล ซึ่งน้อยกว่ามาตรฐานโรงงาน 0.6 มิล เราจะเห็นว่าหากตั้งระยะห่างเบรคหลังที่ชิดเกินไป ก็จะทำให้เกิดการสึกของผ้าเบรคที่บริเวณด้านบนของฝักเบรคก่อน เนื่องจากระยะที่ชิดเกินไปทำให้ผ้าเบรคบริเวณด้านล่างไม่สัมผัสกับจานเบรค การสึกหร่อของผ้าเบรคก็จะมีเฉพาะด้านบน เหมือนกับสึกหร่อไม่เต็มผิวสัมผัสของผ้าเบรค เนื่องจากกลไกการทำงานของดรัมพ์เบรคหลัง ลูกสูบเบรคจะถ่างแขนด้านบนฝักเบรคออกก่อนทั้ง 2 ข้างหากระยะห่างเบรคหลังชิดเกินไป ก็จะทำให้ผิวสัมผัสของผ้าเบรคด้านบนสัมผัสก่อน จะเห็นดังรูปที่แสดง จากคุณ : Preecha Fortuner - [ 12 ก.พ. 49 19:52:20 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ในรถที่ใช้เฟืองเดิม 18 ฟัน ตามมาตรฐานโรงงานและระยะห่างเบรคหลังเท่ากับ 0.6 มิลหรือดึงเบรคมือได้ 9 - 10 กิ๊ก เมื่อถอดดรัมเบรคหลังดูหน้าสัมผัสของผ้าเบรคหลังจะพบว่าหน้าผ้าเบรคมีผิวสัมผัสการสึกหร่อที่เท่ากันซึ่งแสดงว่ารัสมีความโค้งของฝักเบรคหลังประกอบกับแรงดันเบรคหลังที่เหมาะสมนี้ สามารถทำให้หน้าสัมผัสของผ้าเบรคหลังและจานดรัมเบรคแนบชิดกันได้ดีจนสามารถสร้างแรงเบรคได้ดีกว่าเบรคหลังที่เป็นดิสเบรคเนื่องจากมีขนาดหน้าสัมผัสที่ใหญ่กว่าผ้าเบรคหลังที่เป็นดิสก์ จากคุณ : Preecha Fortuner - [ 12 ก.พ. 49 20:01:32 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ในรถที่มีการใช้ระยะห่างเบรคหลัง เท่ากับ 0.6 มิลตามมาตรฐานโรงงานโดยใช้เฟือง 18 ฟันเท่าเดิมตามมาตรฐานโรงงาน หรือนับเบรคมือได้เท่ากับ 9 - 10 กิ๊ก พร้อมกับปรับแรงดันเบรคหลังให้เหมาะสมจะเห็นว่าสามารถสร้างแรงเบรคได้ถึง 3570 นิวตันในล้อหลัง และประสิทธิเบรคหลังเท่ากับ 73% ซึ่งเท่ากับประสิทธิภาพเบรคหน้าที่ 73% และประสิทธิภาพเบรคมือเท่ากับ 34% ซึ่งในรถคันนี้ใช้ผ้าเบรคหน้าและผ้าเบรคหลังเดิม เพียงปรับแรงดันน้ำมันเบรคให้เหมาะสม และระยะห่างเบรคหลังเท่ากับมาตรฐานคือ 0.6 มิล ก็จะได้ประสิทธิภาพเบรคดังแสดง จากคุณ : Preecha Fortuner - [ 12 ก.พ. 49 20:17:56 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เราจะสังเกตุเห็นว่าหากใช้เปลี่ยนเฟืองที่ละเอียด 24 ฟันซึ่งเท่ากับการตั้งระยะเบรคหลัง 0.4 มิลหรือดึงเบรคมือได้ 4-5 กิ๊ก ซึ่งจะทำให้แรงเบรคต่ำเพียง 1500 นิวตั้น เนื่องจากเมื่อลูกสูบเบรคหลังตามรูปที่ 1 ได้รับแรงดันน้ำมันเบรค ลูกสูบเบรคก็จะถ่างแขนออกทั้ง 2 ข้าง แต่การถ่างออกของลูกสูบเบรค จะถ่างออกจากด้านบนของผ้าเบรคหากตั้งระยะเบรคหลังที่ชิดเกินไป (0.4 มิล) โดยการเปลี่ยนเฟื่องละเอียด 24 ฟัน หรือตั้งเบรคมือ 4-5 กิ๊ก ก็จะทำให้ผิวสัมผัสด้านบนของผ้าเบรคสัมผัสกับจานดรัมพ์เบรคก่อน ทำให้จานเบรคและผ้าเบรคไม่สามารถสร้างแรงดูดระหว่างผิวสัมผัสทั้ง 2 ได้ตลอดหน้าสัมผัส ซึ่งการสร้างแรงเบรคที่เหมาะสมนั้น ฝักเบรคหลังจะต้องมีระยะการเคลื่อนตัวได้ซึ่งจะมีผลทำให้เกิดแรงดูดระหว่างผิวสัมผัสจานเบรคและหน้าสัมผัสเบรคได้อย่างเต็มที่ จึงเกิดการสึกหร่อเฉพาะด้านบนของผ้าเบรคเท่านั้น (จากคำอธิบายข้างต้นเพื่อนคงพอจะเห้นภาพแล้ว ว่าหากเปลี่ยนเฟื่องที่ละเอียดขึ้น ซึ่งจะทำให้ระยะเบรคชิดถึง 0.4 มิลหรือดึงเบรคมือได้ 4 - 5 กิ๊ก จะทำให้แรงเบรคหลังลดลง แต่จะมีผลในเชิงความรู้สึกว่า เบรคชิดขึ้นตอบสนองได้ดีถึงขนาดใช้ความรู้สึกวัดว่ายางร้องเอี๊ยดระงม ผมว่าโกหกนะครับ) ***เพราะฉะนั้นผู้ใช้รถ Fortuner อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะครับ จากคุณ : Preecha Fortuner - [ 12 ก.พ. 49 20:32:08 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สุดยอดครับ  โหวตครับท่านคือลูกผู้ชายตัวจริง จากคุณ : *380 Z - [ 12 ก.พ. 49 20:58:09 ]

ความคิดเห็นที่ 20 4. มีข่าวลือมาจากช่างภาพคนหนึ่ง ว่าเบรคหลังคลายตัวได้เองเมื่อใช้ไปสักระยะเบรคที่ตั้งชิดขึ้น จนดึงเบรคมือได้ 4 - 5 กิ๊ก เมื่อใช้ไปสักระยะเบรคมือจะเพิ่มขึ้นเป็น 9 - 10 กิ๊ก ทำให้ผู้ใช้รถ Fortuner เข้าใจผิดคิดว่าเบรคหลังคลายตัวได้เอง ทั้งๆ ที่ในรถคันนี้ก็มีระบบปรับตั้งระยะผ้าเบรคอัตโนมัตอยู่แล้ว (LTS) Leading Trailing System ซึ่งตรงนี้เป็นการเบี่ยงเบนประเด็นอย่างร้ายแรง ทำให้คนเข้าใจผิด เรียกว่าเอาความรู้สึกของคนมาเล่น อธิบายได้ดังนี้ครับ การที่รถคันนี้มีเฟื่อง 18 ฟันขนาดที่เหมาะสมที่ทำให้ระยะห่างเบรคหลังเท่ากับ 0.6 มิล หรือดึงเบรคมือ 9 - 10 กิ๊ก ซึ่งระยะห่างที่เหมาะสมในการสร้างแรงเบรคที่ดี แต่หากไปตั้งเบรคหลังให้ชิดขึ้นจนดึงเบรคมือได้ 4 - 5 กิ๊ก ซึ่งระยะห่างเบรคหลังเท่ากับ 0.4 มิล แล้วบอกกล่าวกับผู้ใช้รถว่าเบรคหลังตอบสนองได้ดี แป้นเบรคสูงขึ้นระยะเบรคมือตึงมือขึ้น ซึ่งเป็นการจุงใจคนทางด้านความรู้สึกให้คล้อยตาม และเชื่อตามตลอดจนทำตาม ซึ่งคนที่ทำตามแล้วก็จะรู้สึกว่า เบรคดีขึ้นตอบสนองเร็วขึ้น แต่ไม่เคยขึ้นเครื่องทดสอบเบรค ซึ่งจะเห็นได้จากหน้าสัมผัสเบรคด้านบนที่สึกหร่อเพียงด้านเดียว ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องนะครับ และความเข้าใจที่ว่า เบรคหลังคลายตัวได้เองก็ไปตั้งเบรคหลังให้มันชิดขึ้นเบรคมือ 4 - 5 กิ๊ก ระยะห่างเท่ากับ 0.4 มิล แต่เมื่อเราใช้งานไปสักระยะผ้าเบรคก็จะเกิดการสึกหร่อทำให้ระยะห่างของผ้าเบรคและจานเบรคห่างเท่ากับ 0.6 มิล หรือดึงเบรคมือได้ 9 -10 กิ๊ก ซึ่งเป้นไปตามกลไกการทำงานของระบบปรับตั้งระยะผ้าเบรคอัตโนมัต (LTS) Leading Trailing System ซึ่งเป็นไปตามระยะห่างของเฟื่องที่ใช้ 18 ฟันตามมาตรฐานของโรงงาน แสดงว่ากลไกการปรับตั้งระยะผ้าเบรคอัตโนมัตทำงานได้ดี แต่ทำให้คนเข้าใจผิดคิดว่าเบรคหลังคลายตัวเองได้ ผมก็ไม่ทราบเจตนาการเบี่ยงเบนเรื่องระยะเบรคหลังคลายตัวเองได้นี้ทำเพื่ออะไร เพื่อนๆ ลองดูรถใหม่ที่ศูนย์บริการรถใหม่เบรคมือก็ 9 - 10 กิ๊กเท่านั้น ที่ผมเขียนมานี้ผมเพียงต้องการให้ผู้ใช้ Fortuner เข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นให้ถูกต้อง และกลับมาร่วมแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยจะต้องทำให้บริษัทผู้ผลิตรถนี้ ออกมารับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น จากสินค้าที่อาจไม่ปลอดภัยต่อการใช้งาน ตามปกติอันควรมีระดับมาตรฐานความปลอดภัย ที่วิญญูชนพึ่งคาดหวังไว้ หากนำรถมาใช้แล้วเกิดปัญหาเบรคทื่อซึ่งจะเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ผมว่าผู้ผลิตควรออกมารับผิดชอบต่อสังคมได้แล้วผมคิดว่าผู้ใช้รถ Fortuner ให้เวลากับบริษัทนี้มานานเพียงพอแล้ว ซึ่งล่วงเลยมานานกว่า 7 เดือนแล้ว แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 49 21:34:10 แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 49 21:31:51 จากคุณ : Preecha Fortuner - [ 12 ก.พ. 49 21:05:49 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ใช้เวลาอ่านนานจริงๆ ขอบคุณและนับถือคุณปรีชามากครับ ที่ทำเพื่อส่วนรวม จากคุณ : Bhirach608 - [ 12 ก.พ. 49 21:36:11 ]

ความคิดเห็นที่ 22 กระบะดัดแปลงก็ยังงี้แหละ ขับช้าๆหน่อยแล้วกัน จากคุณ : HS1FWK - [ 12 ก.พ. 49 21:38:16 ]

ความคิดเห็นที่ 23 แอคคอร์ดสิบปีของผมก็เบรคแล้วมีลุ้นครับ ต้องออกแรงกดเยอะ ไม่รู้เป็นที่แม่ปั๊ม หรือหม้อลม หรือปั๊มลูกสูบเบรคเสื่อม กลัวซ่อมไม่ตรงจุด มีอู่ไหนเก่งๆแก้ได้ตรงจุดในทีเดียวบ้าง ถ้าได้คนอย่างคุณปรีชามาแก้ให้ได้ท่าจะดีนะครับ จากคุณ : WhiteAccorD - [ 12 ก.พ. 49 21:57:16 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ผมคิดว่าปัญหาเบรคทื่อ ของ fortuner แก้ไขได้นะครับหากบริษัทผู้ผลิตนี้ จริงใจในการแก้ปัญหาและรับผิดชอบต่อสังคมเพียงพอทุกวันนี้ผมเก็บข้อมูลถึงสาเหตุของปัญหาเบรคที่เกิดขึ้น พร้อมทำการแก้ไขปัญหาดังกล่าวข้างต้น ผมเคยนำเสนอข้อมูลนี้ให้ฝ่ายเทคนิคที่บริเวณศูนย์แถวพระราม 5 แต่ก็ไม่ได้รับการสนใจ ผมจึงขอความร่วมมือแก่ผู้ใช้รถ Fortuner นำรถไปทดสอบเบรคก่อนแล้วเก็บข้อมูลไว้เพื่อเป็นหลักฐานในการพิสูจน์ว่าสินค้าอาจมีความไม่ปลอดภัยในการใช้งาน โดยคำนึงถึงสภาพของสินค้า ลักษณะการใช้งานปกติ อันควรมีระดับความปลอดภัยที่วิญญูชนพึงคาดหวังไว้ เพื่อจะดำเนินการในขั้นตอนต่อไปที่ผู้ผลิตจะต้องพิสูจน์ว่าสินค้าตัวเองปลอดภัยโดยมีหน่วยงานกลางของรัฐไปร่วมทดสอบด้วยไม่ใช่ทดสอบกันแบบปิด ปิดทั้งข้อมูลที่เกิดขึ้น ผมว่าผู้ผลิตนี้ข้ามขั้นตอนนะครับ จากรูปข้างล่างรถ Fortuner ที่ทำการแก้ไขแล้ว จะเห็นว่าได้ประสิทธิภาพเบรคหน้า 73% และ เบรคหลัง 73% เบรคมือ 34% จากคุณ : Preecha Fortuner - [ 12 ก.พ. 49 21:59:55 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณอีกครั้ง ขอเป็กำลังใจครับ จากคุณ : Solitude - [ 12 ก.พ. 49 22:00:32 ]

ความคิดเห็นที่ 26 นั่ง 4 คนประสิทธิภาพเบรคหน้า 76% เบรคหลัง 76% และเบรคมือ 36% ซึ่งผมคิดว่าหลังจากการขับขี่บนท้องถนนทดสอบแล้ว การทำงานของระบบ ABS ก็ปกติ แต่เหตุใดผู้ผลิตแห่งนี้จึงไม่ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อสินค้าของตัวเอง หรือว่ากฏหมายบ้านเราไม่มีกฏหมายรองรับ ไม่เหมือนอเมริกาที่ผู้บริโภคไม่ต้องเสียเวลาในการพิสูจน์ว่าสินค้าไม่ปลอดภัย แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 49 22:18:48 จากคุณ : Preecha Fortuner - [ 12 ก.พ. 49 22:01:57 ]

ความคิดเห็นที่ 27 หากมองในแง่ของกฏหมายเนื่องจากยังไม่มี พรบ.ความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย เกิดขึ้นมา การที่ผู้ใช้รถพบว่ารถที่ใช้เกิดปัญหาเบรคทื่อซึ่งจะนำมาซึ่งความไม่ปลอดภัย เป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน การฟ้องคดีมีความยุ่งยาก เพราะภาระที่พิสูจน์ถึงความประมาณของผู้ผลิต ผลิตสินค้าที่ไม่ปลอดภัยนั้น ตกเป็นหน้าที่ของผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหาย ในการพิสูจน์ว่าเป็นสินค้าที่ไม่ปลอดภัยตามประมวลกฏหมายแพ่งและพาณิชย์ทั่วไปยังไม่มีกฏหมายให้ความคุ้มครองผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัยนี้ นิยามของสินค้าที่ไม่ปลอดภัย     "คือสินค้าที่นำไปใช้แล้วเกิดปัญหาเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน โดยคำนึงถึงสภาพการใช้งานปกติ ธรรมดาของสินค้า อันควรมีระดับความปลอดภัยที่วิญญูชนควรคาดหวัง" ซึ่งจากประมวลกฏหมายแพ่งและพาณิชย์ในปัจจุบันในมาตรา (6) คงต้องดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้ 1. ผู้บริโภคจะต้องพิสูจน์ว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการใช้สินค้ามีความไม่ปลอดภัย โดยคำนึงถึงสภาพการใช้งานปกติ เป็นไปตามวิธีการต่างๆ ของผู้ผลิต  อันควรมีระดับความปลอดภัยที่วิญญูชนควรคาดหวังไว้ ซึ่งคงต้องขอความร่วมมือเพื่อนๆ ผู้ใช้รถ Fortuner เข้าเครื่องทดสอบเบรค เพื่อที่จะพิสูจน์ว่าประสิทธิภาพเบรคหลังมีปัญหา ช่วยร่วมมือในการให้ข้อมูลเถอะครับ เพื่อความรับผิดชอบต่อสังคมในเรื่องความปลอดภัย เราต้องใส่ใจในสิทธิของตัวเอง เงินที่จ่ายออกไปยอมต้องได้สินค้าที่คุ้มค่าเงิน และปลอดภัยในการใช้งานหากเพื่อนผู้ใช้รถ Fortuner ขับรถเกิดอุบัติเหตุเพราะเมาเหล้า ตรงนี้เป็นข้อบกพร่องของคนขับ แต่หากการเกิดอุบัติเหตุนั้น พิสูจน์ได้ว่าผู้ขับรถไม่ประมาทเลินเล่อ มีสติในการควบคุมรถที่ดี ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานของความระมัดระวังของผู้ใช้รถบนท้องถนน แต่หากเป็นข้อบกพร่องของประสิทธิภาพเบรครถยนต์ผมคิดว่าบริษัทจะต้องออกมารับผิดชอบต่อสังคมอย่าใช่ช่องโหว่ของกฏหมายเมืองไทย 2. ขั้นตอนต่อไปจะเป็นขั้นตอนของผู้ผลิตที่จะต้องพิสูจน์ว่าสินค้าของตนเองปลอดภัย หากใช้งานปกติเป็นไปตามข้อกำหนดของผู้ผลิต  ซึ่งผมมองว่าการทดสอบเบรคที่สนามบริดสโตนโดยร่วมมือกับผู้ใช้รถจาก Club แห่งหนึ่ง แล้วร่วมกันทดสอบและแถลงออกมาว่า เบรคทื่อแต่ปลอดภัย โดยไม่มีหน่วยงานกลางของรัฐบาลมาร่วมพิสูจน์ด้วย ผมว่าผิดขั้นตอนนะครับ และเป็นเหตุผลทำให้บริษัทผู้ผลิตแห่งนี้ ต้องบอกว่าหยุดได้ในระยะที่ปลอดภัย 3. ต้องมีหน่วยงานกลางชองทางราชการมาร่วมพิสูจน์ว่ารถนั้น เป็นสินค้าที่ทำให้เกิดความเสียหายและเป็นสินค้าที่ปลอดภัยหรือไม่ จากลำดับขั้นตอนทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่า ภาระในการพิสูจน์ว่าสินค้านั้นอาจจะไม่ปลอดภัย เป็นของผู้บริโภคตามกฏหมายบ้านเรา !! ดังนั้นผมจึงอยาดรณรงค์ให้ทุกคน นำรถเข้าทดสอบเบรคด้วยเครื่องทดสอบเบรค และได้ทำการรวบรวมข้อมูลในการพิสูจน์เพื่อที่จะเชื่อมโยงข้อมูลว่าเป็นเหตุผลไปสู่ความไม่ปลอดภัยที่ผู้บริโภคได้รับจากตัวสินค้านั้น เพื่อที่จะได้ดำเนินการในขึ้นตอนต่อไป หากมีประเด็นที่ 1 ว่ารถยนต์นี้มีสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรมดูแลอยู่ ซึ่งหากเกิดความเสียหาย ที่เกิดขึ้นจากการใช้งานอย่างถูกวิธี ผู้ผลิตจะอ้างเหตุผลนี้เพื่อหลุดพ้นต่อความรับผิดชอบต่อผู้ประกอบการไม่ได้ ถ้ามีการร้องเรียนขึ้นมา ต้องนำหน่วยงานกลางมาร่วมพิสูจน์ว่าสินค้าปลอดภัยหรือไม่ ประเด็นที่ 2 จากขั้นตอนการผลิตรถยนต์ของผู้ผลิตนี้ตามมาตรฐานการตรวจสอบรถยนต์ที่ผลิตเสร็จก่อนนำส่งมอบให้ลูกค้า (Complete Vehicle Inspection Standard) จะต้องมีการทดสอบแรงเบรค(จากเครื่องมือทดสอบเบรคทุกคัน) แต่เหตุอันใดเมื่อนำมาใช้งานแรงเบรคในล้อหลังจึงต่ำ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์กันต่อไป ประเด็นที่ 3 ตามมาตร (6) กำหนดให้ผู้เสียหาย(ผู้ใช้รถ) จะต้องหาพยานหลักฐานมาพิสูจน์ ว่าได้รับความเสียหายจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัยนี้ ไม่ได้เกิดจากเหตุอื่น ซึ่งตรงนี้เพื่อนๆ ท่านใดหากพบว่าผ้าเบรคหน้าร้าว ช่วยเก็บหลักฐานไว้ด้วยนะครับ  อย่าเคลมเด็ดขาด เพราะอาจจะไม่มีหลักฐาน เช่น เราดื่มนมบูดแล้วปวดท้องไปหาหมอ ต้องดูความเกี่ยวข้อง นั้นคือหลักฐาน ถ้าเพื่อนๆ นำนมนี้ไปทิ้งแล้ว ก็ยากในการพิสูจน์ เพราะไม่มีหลักฐานก็ไม่สามารถที่จะฟ้องได้ ประเด็นที่ 4 หากมีเทคโนโลยีในขณะนั้นที่สูงกว่าและทำให้มาตรฐานของความปลอดภัยเพิ่มขึ้นแต่ผู้ผลิต ยังเลือกใช้ระบบเทคโนโลยี LSPV วาล์ว ซึ่งเป็นระบบกลไกทำงานคู่กับ ABS ซึ่งเป็นระบบอิเล็คทรอนิค ซึ่งหากใช้เทคโนโลยีที่สูงกว่านั้น คือระบบ EDB ที่ช่วยในการกระจายแรงดันน้ำมันเบรคซึ่งเป็นระบบอิเล็คทรอนิคส์ ทำงานควบคู่กับ ABS ซึ่งเป็นระบบอิเล็คทรอนิคส์เหมือนกัน ซึ่งจะทำให้การกระจายแรงดันน้ำมันเบรคหลังแม่นยำขึ้นซึ่งจะทำให้รถนั้นมีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น [b]ผมขอความร่วมมือจากผู้ใช้รถ Fortuner และคนในสังคมที่ตระหนักถึงความไม่ปลอดภัย หากยังปล่อยให้สินค้าที่ผู้ผลิตบอกว่า "เบรคทื่อแต่ปลอดภัย" วิ่งอยู่บนท้องถนนผมจึงขอความร่วมมือทุกคนดังนี้ 1. กลุ่มคนที่ผมห่วงมากที่สุดคือกลุ่มคนที่ใช้ Fortuner ที่ไม่ใช้อินเทอร์เนต ซึ่งคนกลุ่มนี้อาจจะไม่รับทราบถึงปัญหาเบรคทื่อแต่ปลอดภัยที่เกิดขึ้น จึงขอความร่วมมือทุกท่าน หากใครมีญาติพี่น้องหรือเพื่อนที่ใช้รถ Fortuner ช่วยนำข้อมูลเหล่านี้ เผยแพร่ด้วยนะครับ และช่วยประชาสัมพันธ์เรื่อง การทดสอบเบรคด้วยเครื่องทดสอบเบรค ที่ทั่วโลกยอมรับกัน เพื่อเป็นการตรวจสอบประสิทธิภาพของเบรคหลังว่ามีปัญหาหรือไม่ ผมคิดว่าเป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นการให้ความปลอดภัยแก่คนที่เรารัก และรู้จัก เพื่อความปลอดภัยของคนในสังคม 2. สำหรับผู้ใช้รถ Fortuner ตามกฏหมายเป็นภาระของผู้ใช้รถ ที่จะต้องพิสูจน์ว่าความเสียหายที่เกิดขึ้น เกิดจากการใช้สินค้าที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งตรงนี้คงต้องช่วยกันรณรงค์ให้ผู้ใช้รถ Fortuner เข้าทดสอบเบรคด้วยเครื่องทดสอบเบรคตามสถานตรวจสภาพรถเอกชนทั่วไป(ตรอ.) หรือค้นหาข้อมูลได้จาก WEBSITE ของกรมการขนส่งทางบก [url]http://202.149.117.186/index.php?action=sch_dlt หากท่านใดสนใจรวมทดสอบเบรคด้วยเครื่องทดสอบเบรคเพื่อพิสูจน์ถึงประสิทธิภาพของเบรคหลัง อีกทั้งจะเป็นการรวบรวมข้อมูลของรถที่มีปัญหาระบบเบรครวมถึงการจัดเก็บหลักฐานผ้าเบรคที่ร้าวอย่างเป็นระบบเชิญร่วมลงชื่อได้ที่  [url]http://preechafortuner.com หรือ [url]http://fortuneronline.com/web/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1043 และหากเพื่อนๆ ที่มีข้อมูลจากเครื่องทดสอบเบรคแล้วช่วยโพล์ตใน [url]http://preechafortuner.com หรือ [url]http://fortuneronline.com เพื่อเป็นการกระตุ้นเตือนให้ผู้ใช้รถ Fortuner ท่านอื่นได้เห็นประโยชน์และความสำคัญของการทดสอบเบรคด้วยเครื่องมือทดสอบเบรคนี้ ในการนำรถ Fortuner เข้าทดสอบเบรคด้วยเครื่องมือทดสอบเบรคนี้ จะเป็นการพิสูจน์ประสิทธิภาพเบรคหลังที่เป็นตัวเลขทางวิทยาศาสตร์ เพื่อที่จะพิสูจน์ถึงมาตรฐานความปลอดภัยของรถคันนี้ ซึ่งจะนำไปสู่กระบวนการในขั้นตอนต่อไปที่ผู้ผลิตจะต้องออกมาชี้แจง แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 49 00:15:49 แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 49 00:11:38 แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 49 23:32:43 แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 49 22:52:02 แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 49 22:20:16 จากคุณ : Preecha Fortuner - [ 12 ก.พ. 49 22:02:24 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คุณ ปรีชา จบวิศวฯ เครื่องกลมาจากสถาบันฯไหน ครับ รุ้สึกว่าหน่วยงานของทางการ ไม่มีใครสนใจ จากคุณ : ป๋า - [ 12 ก.พ. 49 22:32:17 A:172.16.6.98 X:202.44.210.42 TicketID:110672 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณอีกครั้ง สำหรับข้อมูลครับ เป็นกำลังใจให้พี่ สู้ต่อไปนะครับ จากคุณ : Lerpong13 - [ 12 ก.พ. 49 22:32:17 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ความคิดเห็นที่ 22  ตัว QRM บนboardกับรถFortunerกระบะดัดแปลงหรือตัวเองขับรถเทวดา ไม่ต้องมาตอบไม่ได้เชิญมี QTRว่างๆก็ไปทำอย่างอื่น หรือไม่ก็ไป QRM บนความถี่  ออกไป! ออกไป! ออกไป! จากคุณ : โตโก้ - [ 12 ก.พ. 49 22:37:33 ]

ความคิดเห็นที่ 31 รถที่มีการทำงานของระบบ EDB ทำงานร่วมกับ ABS ในการกระจายแรงดันน้ำมันเบรคทั้งล้อซ้ายและขวา จะเห็นว่ากราฟทับกันตลอด และมีความปลอดภัยในการใช้งานสูงกว่า จากคุณ : Preecha Fortuner - [ 12 ก.พ. 49 22:55:50 ]

ความคิดเห็นที่ 32 อย่าท้อนะครับ คุณปรีชา สู้ต่อไป จากคุณ : โบกกรัก - [ 12 ก.พ. 49 23:04:54 ]

ความคิดเห็นที่ 33 คุณปรีชาครับ ฟันของเฟืองตัวตั้งระยะเบรคมันสมมาตรหรือเปล่าครับ ดูจากรูปข้างต้นเห็นไม่ชัดเท่าไหร่ จากคุณ : ตุ๋ย - [ 12 ก.พ. 49 23:23:13 A:61.91.74.126 X: TicketID:012670 ]

ความคิดเห็นที่ 34 Leading - Trailing มันใช่ระบบปรับระยะเบรคหรือครับ? มันไม่ใช่ "แบบหนึ่งของดรัมเบรค" เหรอ จากคุณ : อ (อากง) - [ วันมาฆบูชา 00:44:35 ]

ความคิดเห็นที่ 35 โหวตให้เหมือนเดิมครับ จากคุณ : อุ้ยเซี่ยวป้อ - [ 13 ก.พ. 49 10:06:45 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เป็นกำลังใจให้พร้อมกับโหวตให้อีกครั้งคับ แต่หลังจากอ่านกระทู้ของคุณปรีชาวันนี้ผมรู้สึกเพิ่มอีกอย่างนึงฮะ เรื่องข้อมูลข่าวสารที่เป็นจริงครับ ทำไมบางครั้งมันรู้สึกได้ว่าเราโดนหลอกลวงด้วยกลวิธีทางการตลาด ในบางครั้งมากเสียจนทำให้เราๆลืมข้อเท็จจริงไป ผมก็เรียนมานะครับการตลาดเป็นวิชาที่ชอบมากๆด้วยซ้ำ แต่ระยะหลังๆเริ่มสงสัยว่า เค้าเอาการตลาดมาหลอกลวงข้อเท็จจริงแล้วเหรอเนี่ย พลังเงิน อำนาจ หรืออิทธิพลทำให้สื่อสารมวลชนหลงลืมเรื่องจรรยารรณไป (ผมเริ่มรู้สึกอย่างนี้แล้วครับ) ผลประโยชน์ทางธุรกิจกำลังนำหน้าศีลธรรม จริยธรรมไปซะแล้วไม่ว่าทางธุรกิจหรือการเมือง (เอ้ะ วกมาเรื่องนี้ได้งัย คิคิ)  เฮ้อ.... จากคุณ : ตาโป้ง - [ 14 ก.พ. 49 00:57:34 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เอ้า ถ้าผู้บริหารฝ่ายเคลมประกันภัย(รถยนต์ Fortuner) หรือ ประกันชีวิตที่ผู้ขับ Fortuner ทำไว้แล้วรับเคราะห์ถึงแก่บาดเจ็บ พิการ หรือ เสียชีวิต ท่านรีบติดต่อคุณปรีชามาร่วมพิสูจน์ระบบเบรคของรถคันนั้น (ถ้ายังสามารถพิสูจน์ได้) เผื่อเป็นแนวทางในการฟ้องร้อง เพราะท่านจะได้มีผู้มาชดใช้สินไหมแทนท่านได้นะครับ จากคุณ : ** jj-Ocu ** - [ 14 ก.พ. 49 09:01:06 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ช่วยกันแปลแล้วส่งไป Toyota ที่ญี่ปุ่นกันเลยก็ดีนะครับ คงได้มีการเปลี่ยนผู้บริหารในไทยกันบ้างแหละ จากคุณ : Ping Guy - [ 14 ก.พ. 49 09:28:33 ]

ความคิดเห็นที่ 39 โหวตครับ รายละเอียดดีมาก จากคุณ : berd - [ 14 ก.พ. 49 12:10:46 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ไม่ได้ใช้ Toyota แต่ Vote+ให้กำลังใจครับ จากคุณ : renton - [ 14 ก.พ. 49 13:57:31 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เป็นกำลังใจให้ครับ  คุณปรีชา จากคุณ : ชื่อคุณยังไม่ได้ลงทะเบียน - [ 14 ก.พ. 49 14:44:19 ]

ความคิดเห็นที่ 42 มีประโยชน์ โหวตให้ครับ จากคุณ : Shandy - [ 14 ก.พ. 49 15:09:10 ]

ความคิดเห็นที่ 43 โลกจะไม่มีวันลืมคุณครับ จากคุณ : kimjung2000 - [ 14 ก.พ. 49 16:25:05 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เห็นด้วยครับ โลกจะไม่มีวันลืมคุณครับ คุณปรีชา จากคุณ : Nunix - [ 14 ก.พ. 49 17:52:56 ]

ความคิดเห็นที่ 45 CEO Toyota ขับอันใด ช่วยบอก  จะไปถามให้ อืมมม  ใครนะคิด  เบรคทื่อ แต่ปลอดภัย ที่ USA โดนฟ้องจนเจ้ง แหง  แถมเข้าคุก หัวโต จากคุณ : โฮเฮะ - [ 14 ก.พ. 49 23:09:20 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เอาใจช่วยครับ จากคุณ : Master Obi-Wan - [ 14 ก.พ. 49 23:37:07 ]

ความคิดเห็นที่ 47 == ยกมา จากคคห. 31 ตามไปดูที่กราฟนี้อีกทีให้ดีๆนะครับ == รถที่มีการทำงานของระบบ EDB ทำงานร่วมกับ ABS ในการกระจายแรงดันน้ำมันเบรคทั้งล้อซ้ายและขวา จะเห็นว่ากราฟทับกันตลอด และมีความปลอดภัยในการใช้งานสูงกว่า ผมขอตอบ แต่ไม่ได้หมายความว่าป่วนนะ เพราะอยากให้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับรายงานผลการทดสอบให้ดีเสียก่อน ก่อนที่คุณปรีชาจะรีบสรุปนะครับ เพื่อที่จะได้เข้าใจถึงประเด็นของปัญหาที่เผชิญอยู่ได้ชัดเจนขึ้นครับ กราฟที่เห็นนั้น เป็นการทดสอบในโหมด 4x2 หรือแบบขับสอง เบรคถูกทสอบพร้อมๆกัน ถารถปกติ กราฟก็จะทับกันอย่างที่เห็นในรูปครับ สังเกตดู่แกนนอน ซึ่งบ่งบอกเวลา และล้อทั้งสองก็เริ่มเบรคพร้อมๆกัน และเสร็จสิ้นการเบรคพร้อมๆกัน จากคุณ : kroner - [ 14 ก.พ. 49 23:41:13 ]

ความคิดเห็นที่ 48 แต่กับ Fortuner เป็นการทดสอบทีละล้อ เหยียบคนละที แรงเหยียบอาจจะแรงไม่เท่ากัน และก็กดแป้นเบรคช้าเร็วไม่เท่ากัน ทำให้กราฟที่ได้ไม่ทำกันอย่างที่ปรากฎอยุ่ในรายงานทั่วๆไปของน้องจูน ทีนี้เมื่อเบรคคนละครั้ง คนละที ไม่สามารถนำผลที่ได้มาวิเคราะห์ โดยเฉพาะด้านสมดุลย์ของเบรคระหว่างซ้ายขวา ส่วนหน้ากับหลังนั้น ยังพออนุโลมได้ เพราะรถรุ่นอื่นๆ ก็ทดสอบกันทีละเพลา คือทดสอบหน้าที แล้วหลังที [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : kroner - [ 15 ก.พ. 49 00:07:27 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ทีน้องจูนเรานี่มีของแปลกติดตัวอยู่อย่างนึง นั่นคือ Super LSPV ที่ทำหน้าที่ไม่เหมือนใคร เพราะทุกครั้งที่เหยียบเบรค แขนของ LSPV จะแกว่งไปในทางที่จ่ายแรงดันต่ำก่อน แล้วจึงถูกดึงกลับด้วย สปริงเกี่ยวที่แขน LSPV นั่นเอง ทั้งนี้ นัยว่าเพื่อลดปัญหาเบรคปัดจากการที่เหยียบเบรคอย่างรุนแรง (แต่ว่าอาจจะก่อปัญหาอื่นๆ เช่น เบรคทื่อตามมาได้เหมือนกันนะ อิอิ) แล้วกลไกเช่นนี้เอง ยังทำให้ผลการทดสอบเบรคหลังซ้ายขวา ที่เบรคกันคนละทีนี่ ออกมาแตกต่างกันมากขึ้น จนไม่อาจจะนำมาวิเคราะห์ปัญหาเบรคไม่สมดุลย์ซ้ายขวาได้ ก็เพราะว่า หากล้อใดตามที่เหยียบเบาไป ผลแรงเบรคก็ต่ำ ถ้าเหยียบให้จบเร็ว ผลแรงเบรคก็อาจจะต่ำตามไปอีกด้วย เพราะเจ้าแขน LSPV ตัวนี้แกว่งไปด้านแรงดันต่ำ แล้วยังแกว่งกลับมาไม่ทันดี ทำให้การทดสอบครั้งนี้ทดสอบด้วยแรงดันต่ำกว่าอีกด้านหนึ่งได้ ดังนั้น หากจะทดสอบบนแท่นแบบเหยียบทดสอบเบรคทีละล้อแล้ว ไม่น่าจะนำผลการทดสอบมาวิเคราะห์หาข้อสรุปด้านสมดุลย์ของเบรคได้ เพราะตัวแปรสำคัญคือมนุษย์ นอกจากนี้ ที่ล้อหลังยังมีรูปแบบการทำงานของ Super LSPV มาเป็นตัวแปรด้านแรงดันท่ไม่สม่ำเสมออีก ขอฝากไว้เพื่อที่ให้คุณปรีชาคิดได้รอบคอบมากกว่านี้ ส่วนตัวชื่อชมความตั้งอกตั้งใจแสวงหา อย่างจริงจัง แม้ว่าจะไม่ชอบใจเรื่องวิธีการนำเสนอแบบกระผมมาถูกทางแต่ผู้เดียว คนอื่นไม่ดีไปหมด ผมมันก็แค่เด็กอู่ข้างถนนคนนึงครับ จากคุณ : kroner - [ 15 ก.พ. 49 00:30:29 ]

ความคิดเห็นที่ 50 คุณ kroner หมายความว่า  เมื่อเราเหยียบเบรกรถFortuner จะมีเบรกข้างใดข้างหนึ่ง จับก่อน ใช่หรือไม่ อย่างนี้จะทำให้รถปัด หรือหมุน ได้ง่าย เป็นข้อบกพร่องของTOYOTA จริงๆหรือ ตอบหน่อยนะครับ เด็กอู่ เจ้าของธุรกิจผ้าเบรกพันล้าน จากคุณ : what's next - [ 15 ก.พ. 49 01:59:46 ]

ความคิดเห็นที่ 51 สู้ต่อไปครับพี่ ผมมาโหวตให้พี่ครับ จากคุณ : JccK - [ 15 ก.พ. 49 10:12:45 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ผมขอเป็นแค่คนที่ชอบหากินโดยการข่มขู่บริษัทรถยนต์ และหลอกใช้คนอื่นให้ออกหน้าแทนครับ จากคุณ : อ้น - [ 15 ก.พ. 49 12:37:55 A:203.107.200.158 X: TicketID:116187 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ติดตามอยู่เหมือนเดิมครับ จากคุณ : เรียกฆ่าว่า...ไอ้น่ารัก - [ 15 ก.พ. 49 13:04:39 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ใช้ Mazda แต่ vote ให้ครับ จากคุณ : โอมี (Anna_NSW) - [ 15 ก.พ. 49 13:32:50 ]

ความคิดเห็นที่ 55 คุณwhat's next  คคห.ที่ 50 ครับ ผมหมายความว่าการทดสอบที่กระทำการเบรคแตกต่างกัน แม้จะรถคันเดียวกัน ครั้งเดียวกัน ยากที่จะนำ เอาผลแรงเบรคที่ปรากฎอยู่ในแต่ละล้อมาเปรียบเทียบเพื่อบอกว่าสมดุลย์หรือไม่สมดุลย์ไม่ได้ครับ เพราะไม่ได้เบรคพร้อมๆกันทั้ง 2 ล้อ ซ้าย-ขวา ที่สำคัญ ตัว SuperLSPV เป็น LSPV ที่ทำการหน่วงการทำงานของล้อหลังให้เบา และช้าลงด้วยการลดแรงดันเริ่มต้นที่กระทำต่อเบรคล้อหลัง ดังนั้่น การทดสอบเบรคแต่ละครั้ง นอกจากปัจจัยด้านแรงเหยียบเบรคของผู้ทดสอบที่ยากที่จะควบคุมให้แรง หรือเร็วได้เท่าๆกันในการทดสอบเบรคหลังซ้ายขวาในแต่ละครั้งแล้ว กลไกหน่วงเวลาและแรงดันของ SuperLSPV ก็ยังเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้แรงดันในการทดสอบแต่ละครั้งไม่เท่ากัน ผลที่ได้จึงมีความแตกต่างระหว่างซ้ายขวามากในรถคันเดียวกัน ซึ่ง "หากค่าแรงเบรคเป็นไปอย่างที่เครื่องทดสอบออกมา รถคันที่เป็นอย่างนี้มีหวังหมุนคว้างในถนนไปแล้ว แต่ที่รถจริงๆไม่หมุนก็เพราะเกิดข้อบกพร่องในการทดสอบครับ" ดังนั้น ผลการทดสอบด้วยวิธีการทดสอบเช่นนี้ ไม่สามารถนำค่าสมดุลย์เบรคมาอ้างอิงได้ครับ ซึ่งจริงๆแล้วเรื่องสมดุลย์เบรคนี่ถือเป็นหัวใจสำคัญของการทดสอบด้วยเครื่องมือนี้ เว้นเสียแต่จะทดสอบภายใต้การควบคุมตัวแปรที่น้อยลง จากคุณ : kroner - [ 15 ก.พ. 49 15:51:31 ]

ความคิดเห็นที่ 56 โหวตครับ จากคุณ : เฉลียง - [ 15 ก.พ. 49 19:07:18 ]

ความคิดเห็นที่ 57 Vigo 4x4 นี่เกี่ยวด้วยมั้ยครับ? อยากรู้เพราะใช้อยู่ครับ จากคุณ : ar cook - [ 15 ก.พ. 49 22:57:11 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เอาใจช่วยครับ จากคุณ : เตียเป๋งลิ้ม - [ 16 ก.พ. 49 00:43:51 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ประเทศไทยต้องการคนแบบนี้อีกเยอะ ๆ ครับ ผมไม่มีความรู้พอที่จะตัดสินว่าคุณปรีชาพูดถูกหรือเปล่า แต่บริษัทต้องออกมาชี้แจง จัดทดสอบด้วยวิธีการทาง วิทยาศาสตร์ให้เห็นจริง เพื่อแก้ข้อกล่าวหา ไม่ใช่ปล่อยไปอย่างนี้ คนเราถ้าคนอื่นมาพูดโกหกว่าเราเสีย ๆ หาย ๆ ใครจะไม่ออกมาตอบโต้ชี้แจง ยิ่งเป็นผู้ผลิต เหนือกว่าทุกอย่าง ถ้าดีจริง ต้องออกมาพิสูจน์ครับ จากคุณ : เจียวไข่ - [ 16 ก.พ. 49 22:24:13 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ขอเป็นกำลังใจให้คุรปรีชา ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ตอไปครับ จากคุณ : น้อยหมู - [ 16 ก.พ. 49 23:11:48 ]

ความคิดเห็นที่ 61 สู้ต่อไป จากคุณ : หมูยิ้มยาก - [ 17 ก.พ. 49 12:38:51 ]

ความคิดเห็นที่ 62 สู้ต่อไปนะครับ เป็นกำลังใจให้พร้อมกับโหวตให้อีกครั้งครับ จากคุณ : moc - [ 17 ก.พ. 49 13:27:47 ]

ความคิดเห็นที่ 63 หึหึหึ กลุ่มนั้นมันจะออกมาแสดงความรับผิดชอบอะไร ไม่กล้าออกมาหละไม่ว่า ทีทำตัวเป็นกันชน ออกมากันหน้าสลอน ปากแต่ละคนคงไม่ต้องให้บอกอะไรมาก ...  แค่มาเฟีย ในห้องนี้กับกลุ่มนั้นไม่เข้ามากระทู้นี้มันเป็นบุญ ของผู้บริโภคแล้ว จากคุณ : เนต - [ 17 ก.พ. 49 19:39:41 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ตามหัวข้อว่าอย่างนี้ "เชิญผู้ใช้ Fortuner เข้าเครื่องทดสอบเบรคด่วน!! เพื่อพิสูจน์ว่ามีปัญหาเบรคจริง" ผมพยายามอ่านดูหลายรอบแล้ว ก็ไม่เข้าใจ ขอโทษนะครับ ผมยังมองไม่เห็นว่าเจ้าเครื่องวิเศษของคุณปรีชามันจะพิสุจน์ได้ยังไงว่า เบรคมีปัญหา ? เครื่องวิเศษของคุณใช้วัดการเบรกแต่ละล้อออกมา จะวัดได้ละเอียดแค่ไหน มันจะบอกได้ยังไงว่าเบรคมีปัญหาครับ ?? ระบบเบรกที่ดี สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่มนุษย์บนโลกนี้ทำได้ มันจะดีได้ ไม่ใช่แค่มีแรงหยุดล้อจนล้อล้อค อย่างนั้น ไม่ใช่ครับ เพราะมันจะล้อคเฉพาะล้อ แต่ตัวรถไม่ได้หยุดตามล้อ นี่ครับ ระบบเบรกที่ดีจะต้องควบคุมและแบ่งแรงเบรก ระหว่างล้อหลังและล้อหน้าให้มีแรงสัมพันธ์กัน มันควบคุมเป็น Real time ไม่ได้ใช้อัตราส่วน x ต่อ y "คงที่" ตลอดเวลาที่เราเบรค เรียนถามคุณปรีชาด้วยความเคารพว่า เจ้าเครื่องทดสอบที่คุณว่าวิเศษนี่มันบอกเราได้หรือครับ ว่า ratio X ต่อ Y ที่เหมาะสม มันเป็นเท่าไร ?? ช่วยอธิบายหน่อยเถอะครับ ไหนๆ ก็ไหนๆแล้ว เห็นคุณปรีชาขยันและเสียเวลาตั้งกระทู้ตั้งมากมาย ผมก็เห็นใจคุณปรีชากลัวจะเข้าใจผิดหรือเปล่า ผมพูดผิดพลาดยังไง ไม่ชอบผม ก็ด่าได้เลย ผมตรงไปตรงมาไม่ได้รับจ้างใครมา จากคุณ : ช่างกล (ช่างกล-หนุ่ม) - [ 18 ก.พ. 49 08:26:07 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ข้อคิดของคุณ  kroner  มีเหตุผลน่าสนใจครับ จากคุณ : ช่างกล (ช่างกล-หนุ่ม) - [ 18 ก.พ. 49 08:28:14 ]

ความคิดเห็นที่ 66 น่าคิดครับ  น่าคิด จากคุณ : *380 Z - [ 19 ก.พ. 49 13:49:41 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ความคิดเห็นที่ 64   ตามหัวข้อว่าอย่างนี้ "เชิญผู้ใช้ Fortuner เข้าเครื่องทดสอบเบรคด่วน!! เพื่อพิสูจน์ว่ามีปัญหาเบรคจริง" ผมพยายามอ่านดูหลายรอบแล้ว ก็ไม่เข้าใจ ขอโทษนะครับ ผมยังมองไม่เห็นว่าเจ้าเครื่องวิเศษของคุณปรีชามันจะพิสุจน์ได้ยังไงว่า เบรคมีปัญหา ? เครื่องวิเศษของคุณใช้วัดการเบรกแต่ละล้อออกมา จะวัดได้ละเอียดแค่ไหน มันจะบอกได้ยังไงว่าเบรคมีปัญหาครับ ?? ระบบเบรกที่ดี สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่มนุษย์บนโลกนี้ทำได้ มันจะดีได้ ไม่ใช่แค่มีแรงหยุดล้อจนล้อล้อค อย่างนั้น ไม่ใช่ครับ เพราะมันจะล้อคเฉพาะล้อ แต่ตัวรถไม่ได้หยุดตามล้อ นี่ครับ ระบบเบรกที่ดีจะต้องควบคุมและแบ่งแรงเบรก ระหว่างล้อหลังและล้อหน้าให้มีแรงสัมพันธ์กัน มันควบคุมเป็น Real time ไม่ได้ใช้อัตราส่วน x ต่อ y "คงที่" ตลอดเวลาที่เราเบรค เรียนถามคุณปรีชาด้วยความเคารพว่า เจ้าเครื่องทดสอบที่คุณว่าวิเศษนี่มันบอกเราได้หรือครับ ว่า ratio X ต่อ Y ที่เหมาะสม มันเป็นเท่าไร ?? ช่วยอธิบายหน่อยเถอะครับ ไหนๆ ก็ไหนๆแล้ว เห็นคุณปรีชาขยันและเสียเวลาตั้งกระทู้ตั้งมากมาย ผมก็เห็นใจคุณปรีชากลัวจะเข้าใจผิดหรือเปล่า ผมพูดผิดพลาดยังไง ไม่ชอบผม ก็ด่าได้เลย ผมตรงไปตรงมาไม่ได้รับจ้างใครมา จากคุณ : ช่างกล (ช่างกล-หนุ่ม)  - [ 18 ก.พ. 49 08:26:07 ] ขออนุญาติชี้แจง     ว่าอัตราส่วน X /  Y ที่เหมาะสมจากข้อมูลค่ามาตรฐานของบริษัทผู้ผลิตแห่งนี้ระบุไว้ว่า แรงดันน้ำมันเบรคล้อหน้า 10 Mpa (ค่า X) ส่วนค่าแรงดันน้ำมันเบรคล้อหลัง (ค่า Y) 3.7 + - 0.64 Mpa  แล้วเครื่องที่ คุณอา ว่าเป็นเครื่องวิเศษนั้นมันคือเครื่องทดสอบเบรคครับ ซึ่งเครื่องเนี้ยก็สามารถพิสูจน์ถึงปัญหาระบบเบรคของ Fortuner ที่มีปัญหามาจากค่า มาตรฐานการออกแบบแรงดันน้ำมันเบรคล้อหลังไม่เหมาะสมกับการใช้งานจริง A Primer on Brakes and Brake Testing Form 2623T, 1/90 Introduction The evidence is now in to suggest that vehicle defects, particularly brake system defects, are an avoidable cause of many automobile accidents. According to studies by the National Highway Traffic Safety Administration, vehicle defects were the sole cause of one out of every 43.4 fatal accidents studied. Vehicle defects played a partial role in a much larger percentage of accidents. A multi–disciplinary study conducted by the State of Indiana concluded that vehicle defects were possible causes in 25.2 percent of all accidents studied. In addition, the Indiana study conclusively demonstrated that nearly half of all defects found were in the vehicles' brake systems. Approximately 42 percent of the brake defects were wheel–to–wheel or axle–to–axle imbalances or other performance degradations that can be diagnosed through testing.1 Even if brake tests resulted in only a one percent reduction in vehicle accidents, annual savings would include 460 fewer deaths, 34,000 fewer injuries, and $740 million less damage. While the technology needed for testing brake performance is widely available and economically justifiable for most auto service centers, it has not :-) achieved universal use. ดังนั้นจะเห็นว่าถ้าเราสามารถนำรถ Fortuner ที่มีปัญหาระบบเบรคที่วิ่งอยู่บนท้องถนนทุกวันนี้ มาตรวจสอบระบบเบรคด้วยเครื่องมือทดสอบเบรค และทำการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นก็จะลดอุบัติเหตุและความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สิน หากผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนขนาดนี้บริษัทผู้ผลิตยังไม่ได้ออกมารับผิดชอบต่อสังคม และผู้ใช้รถ Fortuner  ทุกวันนี้เหมือนกับไม่มีทางออกของปัญหาที่เกิดขึ้น ผมคิดว่าคนในสังคมคงต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นนี้    ซึ่งคงต้องขอความร่วมมือเพื่อนๆ ผู้ใช้รถ Fortuner เข้าเครื่องทดสอบเบรค เพื่อที่จะพิสูจน์ว่าประสิทธิภาพเบรคหลังมีปัญหา ช่วยร่วมมือในการให้ข้อมูลเถอะครับ เพื่อความรับผิดชอบต่อสังคมในเรื่องความปลอดภัย เราต้องใส่ใจในสิทธิของตัวเอง เงินที่จ่ายออกไปยอมต้องได้สินค้าที่คุ้มค่าเงิน และปลอดภัยในการใช้งานหากเพื่อนผู้ใช้รถ Fortuner ขับรถเกิดอุบัติเหตุเพราะเมาเหล้า ตรงนี้เป็นข้อบกพร่องของคนขับ แต่หากการเกิดอุบัติเหตุนั้น พิสูจน์ได้ว่าผู้ขับรถไม่ประมาทเลินเล่อ มีสติในการควบคุมรถที่ดี ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานของความระมัดระวังของผู้ใช้รถบนท้องถนน แต่หากเป็นข้อบกพร่องของประสิทธิภาพเบรครถยนต์ผมคิดว่าบริษัทจะต้องออกมารับผิดชอบต่อสังคมอย่าใช่ช่องโหว่ของกฏหมายเมืองไทย ผมขอความร่วมมือจากผู้ใช้รถ Fortuner และคนในสังคมที่ตระหนักถึงความไม่ปลอดภัย หากยังปล่อยให้สินค้าที่ผู้ผลิตบอกว่า "เบรคทื่อแต่ปลอดภัย" วิ่งอยู่บนท้องถนนผมจึงขอความร่วมมือทุกคนดังนี้ 1. กลุ่มคนที่ผมห่วงมากที่สุดคือกลุ่มคนที่ใช้ Fortuner ที่ไม่ใช้อินเทอร์เนต ซึ่งคนกลุ่มนี้อาจจะไม่รับทราบถึงปัญหาเบรคทื่อแต่ปลอดภัยที่เกิดขึ้น จึงขอความร่วมมือทุกท่าน หากใครมีญาติพี่น้องหรือเพื่อนที่ใช้รถ Fortuner ช่วยนำข้อมูลเหล่านี้ เผยแพร่ด้วยนะครับ และช่วยประชาสัมพันธ์เรื่อง การทดสอบเบรคด้วยเครื่องทดสอบเบรค ที่ทั่วโลกยอมรับกัน เพื่อเป็นการตรวจสอบประสิทธิภาพของเบรคหลังว่ามีปัญหาหรือไม่ ผมคิดว่าเป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นการให้ความปลอดภัยแก่คนที่เรารัก และรู้จัก เพื่อความปลอดภัยของคนในสังคม 2. สำหรับผู้ใช้รถ Fortuner ตามกฏหมายเป็นภาระของผู้ใช้รถ ที่จะต้องพิสูจน์ว่าความเสียหายที่เกิดขึ้น เกิดจากการใช้สินค้าที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งตรงนี้คงต้องช่วยกันรณรงค์ให้ผู้ใช้รถ Fortuner เข้าทดสอบเบรคด้วยเครื่องทดสอบเบรคตามสถานตรวจสภาพรถเอกชนทั่วไป(ตรอ.) หรือค้นหาข้อมูลได้จาก WEBSITE ของกรมการขนส่งทางบก [url]http://202.149.117.186/index.php?action=sch_dlt หากท่านใดสนใจรวมทดสอบเบรคด้วยเครื่องทดสอบเบรคเพื่อพิสูจน์ถึงประสิทธิภาพของเบรคหลัง อีกทั้งจะเป็นการรวบรวมข้อมูลของรถที่มีปัญหาระบบเบรครวมถึงการจัดเก็บหลักฐานผ้าเบรคที่ร้าวอย่างเป็นระบบเชิญร่วมลงชื่อได้ที่  [url]http://preechafortuner.com หรือ [url]http://fortuneronline.com/web/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1043 และหากเพื่อนๆ ที่มีข้อมูลจากเครื่องทดสอบเบรคแล้วช่วยโพล์ตใน [url]http://preechafortuner.com หรือ [url]http://fortuneronline.com เพื่อเป็นการกระตุ้นเตือนให้ผู้ใช้รถ Fortuner ท่านอื่นได้เห็นประโยชน์และความสำคัญของการทดสอบเบรคด้วยเครื่องมือทดสอบเบรคนี้ ในการนำรถ Fortuner เข้าทดสอบเบรคด้วยเครื่องมือทดสอบเบรคนี้ จะเป็นการพิสูจน์ประสิทธิภาพเบรคหลังที่เป็นตัวเลขทางวิทยาศาสตร์ เพื่อที่จะพิสูจน์ถึงมาตรฐานความปลอดภัยของรถคันนี้ ซึ่งจะนำไปสู่กระบวนการในขั้นตอนต่อไปที่ผู้ผลิตจะต้องออกมาชี้แจง จากคุณ : Preecha Fortuner - [ 19 ก.พ. 49 21:35:56 ]

ความคิดเห็นที่ 68 [url]http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V4119040/V4119040.html จากคุณ : Preecha Fortuner - [ 19 ก.พ. 49 21:36:29 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ผมขอวิจารณ์ในฐานะนักการตลาด     ผู้ใช้รถ Fortuner "คงต้องรู้เท่าทัน" นักการตลาดของบริษัทนี้ให้ดีนะครับ เพราะนักการตลาดบริษัทนี้เก่งมากครับ ขนาด"เปลี่ยนผู้อื่นเป็นผู้ตาม" ยังเคยทำสำเร็จมาแล้ว นักการตลาดจะสนใจที่การรับรู้ (Perception) ของผู้บริโภคมีความสำคัญมากข่าวสารต่างๆ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องเบรคทื่อแต่ปลอดภัยของ Fortuner นั้นจะส่งผลถึงภาพลักษณ์ (Image) ของ Brand ดังนั้นนนักการตลาดจึงพยายามสร้างงภาพลักษณ์ที่ดีให้เกิดขึ้นในการรับรู้ของผู้บริโภค  แต่จะต้องอยู่บนรากฐานของความเป็นจริง เพราะหากสินค้าไม่ได้เป็นไปตามที่ได้โฆษณาไว้ ก็จะสร้างความผิดหวังให้ผู้บริโภค ในที่สุดก็จะไม่เกิดการซื้อซ้ำ และจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ Brand ทำให้เกิดความเสียหายได้ในระยะยาว นักสื่อสารการตลาดบริษัทนี้ จึงใช้ทั้งการโฆษณา(Advertising) และการประชาสัมพันธ์ (PR) ให้มีการหนุดเนื่องกัน เช่น  1. Ad ที่ว่า "ปีใหม่นี้คนที่รักและห่วงใยคุณ อยากได้อะไรจากคุณ....." ซึ่งเป็นการใช้แรงดึงดูดทางอารมณ์ (Emotion Appeal) ในการสร้างความรู้สึกที่ดี ที่บริษัทมีความห่วงใยต่อคนในสังคม และผู้ใช้รถบนท้องถนน โดยคำนึงถึงความปลอดัย   2. การใช้กลุ่มอ้างอิงตาม Club แห่งหนึ่ง และกลุ่มบุคคลซึ่งมีลักษณะเป็นผู้นำทางความคิด เช่น สื่อทางด้านรถยนต์เป็นกันชนของความจริงที่เกิดขึ้น เนื่องจากกลุ่มอ้างอินจะมีอิทธิพลต่อบุคคลในด้าน       2.1 ทัศนะคติและแนวคิดของผู้ใช้รถ Fortuner       2.2 พฤติกรรมในการแก้ไขปัญหาระบบเบรค   นักสื่อสารการตลาดบริษัทนี้ ทราบดีว่ากลุ่มอ้างอิงมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจต่อผู้ใช้รถ Fortuner 2 แนวทางดังนี้   1. เป็นกลุ่มที่กำหนดบรรทัดฐานของพฤติกรรม(Normative Inference) คือกลุ่มจะกำหนดว่าพฤติกรรมใดทำได้ อะไรทำไม่ได้ เช่นการทดสอบเบรคที่ สนามบริดสโตน ทั้งๆ ที่ไม่มีหน่วยงานกลางของรัฐร่วมทดสอบด้วยก็ยังจัดการทดสอบ พร้อมทั้งปิดปังข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในการทดสอบและสร้างภาพว่ากลุ่มผู้ใช้รถ Fortuner ร่วมทดสอบแล้วรถใหม่ที่ออกจากสายพานการผลิตไม่มีปัญหา  2. เป็นกลุ่มที่กำหนดทางเลือกของพฤติกรรม(Comparative Inference) ว่าสินค้าไหนใช้ได้สินค้าอันไหนใช้ไม่ได้ เช่น ผ้าเบรคจะใช้ยี่ห้อใด หรือ จุงใจให้เพื่อนร่วมกลุ่มเปลี่ยนระบบเบรคจากดรัมเบรคเป็นดิสเบรค 4 ล้อ เพราะคนในกลุ่มย้อมกลัวการแตกแยก จากบรรทัดฐานของกลุ่ม  ใครที่จะเปลี่ยนดิสเบรค 4 ล้อ คิดให้ดีนะครับ มันเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย เพราะต้องศึกษาหาข้อมูลก่อนการตัดสินใจ เพราะสินค้าที่คุณเลือกมันจะต้องปลอดภัยปกป้องชีวิตและทรัพย์สินได้  3. การใช้เทคนิค " Limited Edition" คือผลิตรถ Fortuner รุ่นพิเศษมาจำนวนจำกัด  หมดแล้วหมดเลยต้องจองล่วงหน้า วิธีการนี้จะใช้การประชาสัมพันธ์ (PR) ที่อยู่ตาม WEB ต่างๆ ประชาสัมพันธ์ล่วงหน้า เพื่อให้เกิดความต้องการ และเป็นการสร้างกระแส เพื่อเป็นการเพิ่มคุณค่าให้แก่สินค้า เกินกว่าคำบรรยาย แต่อย่าใช่บ่อยนะครับ ถ้าใช้บ่อยลูกค้าจับทางถูก จะลดคุณค่าแก่สินค้าไปได้ เพราะปัญหาเรื่องเบรคทื่อแต่ปลอดภัยยังไม่ได้รับการแก้ไข จากคุณ : Preecha Fortuner - [ 19 ก.พ. 49 22:44:20 ]

ความคิดเห็นที่ 70 คือ ไม่ใช่ไม่เชื่อผลการทดสอบของเครื่องนะครับ แต่มีเรื่องสงสัยอยู่นิดนึงว่า เครื่องนี้มันทำงานวัดจากอะไรบ้างอะครับ . . . ไม่ได้ถามกวนๆนะครับ แต่อยากรู้จริงๆ คือผมนึกไม่ออกว่า เครื่องมันวัดอะไรบ้าง ถ้าวัดความสามรถในการหยุดล้อ ก็ไม่น่าจะตรงความจริงนัก เพราะขณะทดสอบตัวรถมันอยู่กับที่ มันเป็น Static Weight ที่ลงไปในแต่ละล้อ ซึ่งในความเป็นจริง น้ำหนักมัน Dynamic ตลอดขณะที่เราลงเบรค ซึ่ง Weight Transfer เหล่านี้ก็มีผลต่อประสิทธิภาพเบรคในแต่ละล้อโดยตรง เอาแค่ไม่มีการย้ายน้ำหนักรถเลย แค่ความสูงความเตี้ย Weight Transfer ก็เปลี่ยนไปแล้ว ใช้ Shock ไม่เหมือนกัน ประสิทธิภาพเบรคก็ไม่เท่ากันแล้ว . . . ผมพยายามนึกตามว่าเครื่องนี้มัน Simulate ตัวแปรเหล่านี้ยังไงอะครับ คือ คนออกแบบเครื่องเขาอาจจะมี Logic ในการ Compensate ค่าพวกนี้มาแล้ว(หรืออาจะไม่มีก็ได้) แต่ผมยังนึกไม่ออกว่า ถ้าจะ Compensate ค่าพวกนี้ เขาจะทำด้วยวิธีไหน คือเห็นว่าคุณปรีชา เล่นอยู่กับเครื่องตัวนี้ คงจะบ่อยพอสมควรแล้วจนถึงวันนี้ น่าจะเข้าใจการทำงานของมันได้ดี เพราะเป็นวิศวกรด้วย คงมองภาพเหล่านี้ทะลุปรุโปร่ง . . รบกวนช่วยแบ่งปัน เล่าการทำงานของเครื่องให้ฟังหน่อยนะครับ ถือเป็นการแบ่งปันความรู้ ปล. ถ้าบังเอิญในกระทู้เก่าๆเกิดมีการอธิบายไปแล้ว ผมก็ขอโทษด้วย และรวกวน จะลอกมาแปะใหม่ หรือทำ Link ไปให้อ่านด้วย ก็จะขอบคุณอย่างมากครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : A-Z - [ 20 ก.พ. 49 01:23:14 A:58.11.49.220 X: TicketID:002452 ]

ความคิดเห็นที่ 71 สู้ต่อไปนะครับ จากคุณ : Eied - [ 20 ก.พ. 49 09:57:03 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เป็นกำลังใจให้ครับ  ผมใช้อยู่  กำลังรอว่าเขาจะเรียกไปแก้ไขให้เมื่อไหร่ครับ เฮ้ย!!!!  ตื่นๆๆ  นี่ Toyota เมื่องไทยนะ จากคุณ : Unplug - [ 20 ก.พ. 49 11:04:54 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ติดตามอ่านกระทู้ท่านปรีชาทีไร รู้สึกได้อะไรเยอะทุกที แม้ไม่ได้ใช้รุ่นนี้ก็เถอะ เจ๋งครับ จากคุณ : tgih - [ 20 ก.พ. 49 14:23:31 ]

ความคิดเห็นที่ 74 เท่าที่ฟังดูแล้วเหมือนกับว่าเครื่องนี้มันวัดแค่ว่ากดเบรคเท่านั้นเท่านี้แล้วเบรคหน้าซ้ายขวากับเบรคหลังซ้ายขวามีแรงกดอยู่เท่าไหร่ แล้วก็ฟังดูเหมือนว่าโตโยต้าใส่ระบบอะไรแปลกๆ ที่ทำให้ผลสุดท้ายแล้วแรงกดที่ว่านี้ไม่คงที่เพื่อจะให้เบรคได้ปลอดภัยขึ้น แต่ปรากฏว่ามันทำงานไปผิดทางรึเปล่า เดาต่อว่าเวลาทดสอบบนเครื่องทดสอบที่ว่า ระบบนี้คงไม่ทำงาน เพราะรถไม่เคลื่อนที่ ค่าที่ได้เลยดูเพี้ยนๆไปจากรถปกติ เลยสรุปว่าเบรคไม่ได้มาตรฐานตามรถปกติ ผิดถูกอย่างไรเชิญนะครับ แต่ส่วนตัวแล้วจากข้อมูลที่ได้รับคิดว่ามีการหมกเม็ดและเบี่ยงเบนข้อมูลในวันทดสอบจริง ตัวรถเองก็น่าจะมีปัญหาอยู่จริงๆ แต่มีคนรู้จักคนนึงก็ซื้อมาใช้ ถามว่ารู้เรื่องมั้ยบอกรู้ แต่ยังไม่มีปัญหาอะไร อาจเป็นเพราะเค้าไม่ได้ขับเร็ว เอาเป็นว่าถ้ามีปัญหาเบรคไม่ดีแล้วจะมาเล่าให้ฟังแล้วกัน จากคุณ : S(2) - [ 20 ก.พ. 49 18:18:14 ]

ความคิดเห็นที่ 75 น่าเสียดายกับรถในความฝันของหลายๆคน  แต่ถ้าไม่ดีจริงก็คงไม่ซื้อดีกว่า จากคุณ : draft15 (draft15) - [ 21 ก.พ. 49 00:03:27 ]