ความคิดเห็นที่ 1 โดยรวมแล้ว Disc Brake ได้เปรียบเกือบทั้งหมด อันเนื่องมาจาก 1. Disc Brake จะมีการรีดตัวอยู่ตลอดเวลา ทำให้เมื่อโดนน้ำแล้ว จะรีดน้ำทิ้งได้อย่างรวดเร็ว ไม่ก่อให้เกิดปัญหา เบครลื่น 2. การดูแลรักษาง่าย ไม่ดักเก็บฝุ่นเบรค 3. เนื่องจาก Disc Brake ใช้แรงกดจากลูกสูบไฮดรอลิคแบบตลอดเวลา ทำให้หน้าเบรคนั้นประชิดจานได้ตลอด ส่วน Drum ต้องทำการตั้งระยะชิดอย่างสม่ำเสมอ 4.ผ้าเบรคของ Disc นั้น เราจะยกทิ้งทั้งฐานรอง ส่วน Drum มักจะใช้การส่งไปอัดผ้า ทำให้เสียเวลามากกว่า โอกาสชำรุดของ Drum ก็จะสูงกว่า แต่ Disc ก็จะมีราคาที่สูงกว่าด้วย รวมๆ มาก็ประมาณนี้ครับ จากคุณ : BigA - [ 17 ก.พ. 49 11:51:56 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ข้อเสียของ Disc คือ สายอาจถูกหนูกัดได้ เราซวย แต่ Drum หนูกัดขาดยากกว่า บางทีหนูอาจเบื่อที่จะกัด เป็นไม่กัดซะเลย ผมคิดออกแค่นี้ล่ะคับ จากคุณ : 999 (paopoy) - [ 17 ก.พ. 49 11:58:08 ]

ความคิดเห็นที่ 3 Disc มีข้อเสียหลักๆ อีกข้อครับ เบรคจะติดง่ายมาก หากลูกยางกันฝุ่นชำรุดครับ เพราะบรรดาโคลน ล้ำ จะเข้าไปทำให้ลูกสูบเป็น สนิม เมื่อชักเบรคขึ้น ผ้าเบรคก็จะไม่ถอยขึ้นมา ครับผม ส่วนดรัม จะมีสปริงดึงกลับครับ ยากต่อการที่ จะติดมากขึ้น แต่ มันก็ติดได้อยู่ดีครับ จากคุณ : สยึมกึ๋ย - [ 17 ก.พ. 49 12:13:34 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ดรัมเบรคใช้แรงกดลูกสูบน้อยกว่า มีพื้นที่ผิวสัมผัสมากกว่า ดูเหมือนจะเปลืองผ้าเบรคน้อยกว่า ดรัมเบรคตอบสนองทีนช้ากว่า ระบายความร้อนช้ากว่า ..นึกเพิ่มเติมได้เท่านี้เองครับ... จากคุณ : Ontjung - [ 17 ก.พ. 49 12:51:45 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แล้วทำมนิยมใช้ดรัมในล้อหลังละครับ โดยเฉพาะในระกระบะ จากคุณ : ghia - [ 17 ก.พ. 49 13:12:58 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ดรัมเบรกรับน้ำหนักบรรทุกได้มากกว่าครับ จากคุณ : -OmegA- - [ 17 ก.พ. 49 15:42:15 ]

ความคิดเห็นที่ 7 การออกแบบดรัมเบรค ให้มีการดันตัวออก ของฝักเบรคทั้งสองข้าง ทำให้จะมีข้างหนึ่งหมุนไปตามการหมุนของจานเบรค (ดรัม) และอีกข้างหนึ่งหมุนสวนกับการหมุนของดรัมครับ จากลักษณะที่ว่านี้ ทำให้ดรัมเบรคบางระบบ (ขึ้นอยู่กับลักษณะการออกแบบติดตั้งและการยึดผ้าเบรค) มีแรงช่วยในการเบรคโดยอัตโนมัติ, Self amplification ซึ่งเจ้าระบบที่มี self amplification มากที่สุดก็คือ Duo servo, ที่ใช้กันอยู่ทั่วไปในรถกระบะปัจจุบันครับ โดยจะมีลูกสูบสองลูกดันสองทิศทางอยู่ด้านบนของฝักเบรค และด้านล่างจะเป็นจุดยึด (จุดหมุนนั่นแหละคับ) และมีสปริงรั้งฝักเบรคกลับสองตัว บนล่าง สำหรับเรื่องการรับน้ำหนักได้นั้น ความเห็นผมคิดว่า ไม่เชิงว่าจะเกี่ยวเนื่องโดยตรงครับ เพราะแรงเบรคที่เราต้องการนั้น มีลิมิทอยู่ที่โหลดที่ล้อครับ ถ้าล้อนั้นๆ น้ำหนักบรรทุกน้ำหนักเบา เราก็จะให้แรงเบรคมากไม่ได้ เดี๋ยวล้อจะล้อค แต่ถ้าล้อมีน้ำหนักกดลงมาก เราก็สามารถเบรคได้ รุนแรงมากขึ้นครับ ซึ่งดรัมเบรคเองมีคุณสมบัติตรงข้อนี้ดีมาก เพราะเจ้าค่า  self amplification นั่นเอง ที่ทำให้ได้แรงเบรคมากขึ้นครับ จากคุณ : ดรัมเบรค (Num..na) - [ 17 ก.พ. 49 16:26:11 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เคยมีใครสังเกตมั่ง เบรครถบรรทุก หรือ รถบัส ดรัมทุกล้อ แต่ เบรคเครื่องบิน ดิสก์ทุกล้อ จากคุณ : อาเซโฮล - [ 17 ก.พ. 49 17:58:09 A:203.130.133.210 X: TicketID:110943 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เบรคเครื่องบินเป็นแบบ ABS ครับ ABS นี่ใช้ดิสเบรค ครับผม รู้คร่าวๆ ว่ามันมี senser จากล้อ ส่งไปยังโซลินอยล์ ทำการควบคุมปั้มเบรค ให้จับ-ปล่อย ตามจังหวะครับ จากคุณ : Pole_Position - [ 17 ก.พ. 49 22:46:41 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เบรคเครื่องบินต้องการการระบายความร้อนที่ดีด้วยครับ และแผ่นผ้าเบรคของเครื่องบินมีจำนวนหลายชั้นมาก เรื่องพื้นที่สัมผัสก็คงไม่ด้อยกว่าระบบอื่นๆ แรงดันน้ำมันเบรคก็เหลือเฟือ แรงกดลูกสูบก็สม่ำเสมอเพราะลูกสูบเบรคเพียบ จากคุณ : Ontjung - [ 17 ก.พ. 49 23:29:49 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ดรัมเบรค  แรงกดผ้าเบรคลงไปที่ขอบจานเต็มๆ ดิสเบรค  แรงกดผ้าเบรคกะคร่าวๆจะลงไปแถวๆกึ่งกลางของขอบในกับขอบนอก จากคุณ : ton99 - [ 18 ก.พ. 49 01:38:17 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เบรคเครื่องบินไม่สามารถพึ่งพาดิสค์เบรคที่ล้อเท่านั้นได้ เพราะเอาไม่อยู่ ยังต้องมีเบรคอากาศ กับตัวกลับแรงดันเครื่องยนต์ เพื่อช่วยให้ลดความเร็วตอนลงจอดได้เพียงพอครับ ส่วนเบรคเฉพาะที่ล้ออย่างใช้ตอนแท็กซี่ช้าๆพอไหว จากคุณ : kroner - [ 18 ก.พ. 49 01:39:42 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ผมขออนุญาตแย้งนิดครับ สังเกตตอนเครื่องบินเปิดรีเวอร์สเซอร์ + เบรคอากาศนี่ ตัวเครื่องแทบไม่หน่วงเลยครับ แต่พอลงเบรคล้อนี่ ถ้านักบินกะพลาดนี่หัวทิ่มเลยนะครับ บางครั้งระบบช่วยเบรคอย่าง ABS หรือพวกป้องกันล้อลื่นไถลไม่ทำงานนี่ก็เห็นชัดว่า ประสิทธิภาพเบรคเครื่องบินนี่ดีมากๆครับ เพราะนักบินจะกะแรงเบรคลำบาก และส่วนใหญ่การเบรคจะรุนแรง ซึ่งเบรคอากาศ หรือ Thrust reverser ทำไม่ได้แน่ๆ แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 49 09:41:55 จากคุณ : Ontjung - [ 18 ก.พ. 49 09:38:59 ]

ความคิดเห็นที่ 14 จริงๆแล้วผมไม่ใช่นักบินนะครับ ต้องขออกตัวไว้ก่อน แต่ว่าสังเกตสังกาเอา ตอนเดินทางบ่อยๆครับ ตัวกลับทิศทางแรงขับนั้นจะมีผลมากๆก็ต่อเมื่อเร่งเครื่องยนต์ประกอบด้วยครับ ส่วนเบรคอากาศก็เช่นกันครับ ถ้าความเร็วมาเร็วมากๆ ลมประทะก็มาก เบรคอากาศก็จะช่วยได้เยอะครับ เบรคที่ล้อ ถ้าจะใช้เดี่ยวๆ ต้องใช้ตอนทุกๆอย่างเริ่มชลอลงมากแล้วครับ เรื่องนี้ ถ้ามีนักบินจริงๆมาช่วยชี้แนะก็น่าจะดีคับ จากคุณ : kroner - [ 18 ก.พ. 49 23:01:51 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ใช่ครับ ตัวกลับทิศแรงขับมีผลเมื่อเร่งเครื่องยนต์ด้วย แต่ก็ยังห่วยกว่าเบรคล้อมากๆๆๆครับผม ยิ่ง ณ ปัจจุบันนี้ ผมแทบไม่เห็นมีนักบินคนไหนเร่งเครื่องเพื่อใช้ตัวกลับทิศแรงขับเบรคอีกเลย สมัยเมื่อเกือบสิบปีก่อน ผมพยายามจับอาการหน่วงของเครื่องบินทุกครั้ง เมื่อใช้ Thrust reverser อย่างเดียว พยายามแม้กระทั่งเอาแก้วใส่น้ำเกือบเต็มตั้งไว้บนโต๊ะ เพื่อสังเกตการเปลี่ยนแปลงเลยอะครับ แน่นอนครับ ผมทดลองเป็นสิบๆครั้งแล้วครับ อิ อิ จากคุณ : Ontjung - [ 19 ก.พ. 49 08:36:47 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ผมแค่จะแย้งท่านว่า เบรคล้อเครื่องบินเอาเครื่องบินอยู่แน่นอนครับ อย่างมากสุด เบรคก็ร้อนตับแตกล่ะครับผม(เครื่องบินสมัยใหม่มี Brake Fan เอาไว้ระบายความร้อนด้วย) จากคุณ : Ontjung - [ 19 ก.พ. 49 08:40:15 ]

ความคิดเห็นที่ 17 แจมด้วยคนครับ เบรกเครื่องบิน ตอน abort takeoff เบรกอยู่ก็จริง  แต่ นี่ catch fire ได้ง่ายๆเลยนะครับ ตอนเปิด Reverse กับ extend spoiler นี่ หน่วงนิดๆ ครับ แต่มันจะหน่วง น้อยลง  เมื่อความเร็ว ต่ำลง ดังนั้น เมื่อถึง ความเร็วที่ Reverse มีผลน้อยแล้ว นักบิน ก็จะปิด Reverse เอง ส่วนจะเริ่มใช้เบรกเท้าเมื่อไหร่ ก็แล้วแต่ ดุลพินิจครับ เครื่องเล็กๆ เบาๆ  บางทีปล่อยไหล ได้เลย  แตะเบาๆ ยืนยันตามคุณ Ontjung ว่า "เอาอยู่" ครับ ตัวจาน เป็น คาร์บอนไฟเบอร์สลับกับ ผ้าเบรก หลายชั้น (สำหรับ 744 รุ่นหลังๆ) แต่ ถ้าเบรกโหดมาก อาจจะ catch fire จากคุณ : ถัง - [ 19 ก.พ. 49 20:27:14 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เบรคเครื่องบินนี้หยุดดีขนาดคนกระเด็นเลยนะ ที่อูซาน เกาหลี  สนามบินเป็นสนามเล็ก เครื่องบินกำลังวิ่งจากหลุมจอดออกไปรันเวย์ อยู่ดีๆมีเครื่องบินอีกลำวิ่งออกมา  คนขับเบรคจึ้กเดียวหยุด พวกแอร์ที่กำลังเดินอยู่ที่ถึงกับกระเด็นไปไกล จากคุณ : ton99 - [ 19 ก.พ. 49 21:42:41 ]