ความคิดเห็นที่ 1 แล้วทำไมช่างไทยไม่คิดพัฒนาความรู้ความสามารถให้ตนเองละครับ.... ทำไมต้องเดินถอยหลังล่ะ ??? จากคุณ : Ns.ZDIT - [ 20 ก.พ. 49 15:29:00 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แค่ส่วนหนึ่งเล็กๆถึงเล็กมากๆ ครับ ไม่ใช่ประเด็นครับ พูดไปมันก็ยาวเหยียด รอท่านต่อไปดีกว่า จากคุณ : ตาดำๆ - [ 20 ก.พ. 49 15:30:20 A:221.128.111.137 X: TicketID:038237 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ยากนะ..คุณต้องส่งเขาไปเรียน..นะ  ช่างส่วนใหญ่เรียนมาจากการเป้นลูกน้อง...อู่รถนะครับ  เขาไม่มีใบประกาศ  รับรอง...แบบนักศึกษา.. จากคุณ : ก๋งง (dokaki) - [ 20 ก.พ. 49 15:34:39 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ยิ่งมันมีเทคโนโลยีมาก มันยิ่งซ่อมง่ายนะ เพราะ มันสามารถเช็คได้โดยคอมพ์ ซ่อมง่าย ไม่ต้องวิเคราะห์ให้เมื่อยตุ้ม หุหุ จากคุณ : สยึมกึ๋ย - [ 20 ก.พ. 49 15:37:34 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เหมือน 1 ครับ จากคุณ : *380 Z - [ 20 ก.พ. 49 15:37:47 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้ามันไปเสียในที่ห่างไกล..มากฯ..จะต้องลากเข้าเมืองตลอดไหม?...บางที่กันดารมากนะ...หรืออย่าขันไปไกลมากฯ.... จากคุณ : ก๋งง (dokaki) - [ 20 ก.พ. 49 15:42:05 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ซ่อมยากส่วนนึงคือ ไม่ค่อยได้ซ่อม  เลยไม่คุ้น รถมันไม่ได้มีมากมายเท่ารถญี่ปุ่น แต่ก็ยอมรับนะว่าเครื่องรถยุโรป วางได้ซับซ้อนกว่าจิงๆ เคยเอารถเปอร์โย ไปซ่อมอู่ข้างนอก ช่างในอู่บ่นอุบเลย จากคุณ : REX-REX - [ 20 ก.พ. 49 15:44:28 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าเค้าทำ แค่ รถญี่ปุ่น แล้ว โลกจะพัดนาได้ไง โดย ปรกติ รถญี่ปุ่นจะ ช้ากว่าสักนิดนีง จีงทำให้ เทโนโลยีมีโอกส ได้ ทดลงก่อนฉลาด ดีผมว่า จากคุณ : E-Boat - [ 20 ก.พ. 49 15:57:14 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แล้วทำไม รถยี่ปุ่น ทำออกมาคันละ 5 ล้าน ถึงไม่มีคนซื้อ ทำไม เบนซ์ คันละ 5 ล้าน ถึงมีคนซื้อไปขี่........... จากคุณ : โอ๊ะเอ๊ะ - [ 20 ก.พ. 49 16:01:39 ]

ความคิดเห็นที่ 11 โซนยุโรปส่วนใหญ่นิยมเปลี่ยนอะไหล่เลยนะครับ...ไม่ค่อยซ่อม..เวลาส่วนไหนมีปัญหาใช้คอมพ์เช็คแล้วเปลี่ยนทิ้งเลย หรือบางทีก็เปลี่ยนตามอายุงาน...ไม่รอให้เกิดอาการแล้วถึงเปลี่ยน...คือถึงเวลาเปลี่ยนก็เปลี่ยนเลยไม่ว่าจะเสียหรือไม่ก็ตาม อย่าเอามาเทียบกับบ้านเราเลยครับ...เอาเป็นใครใคร่ใช้ก็ใช้ไปเถอะครับ... จากคุณ : ปี้นๆ - [ 20 ก.พ. 49 16:02:55 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ในราคาที่สูงฯ  แบบคุณว่า  เป้นผมก้ซื้อรถยุโรป...ถ้าไม่กลัวราคาตกมากนะ  ประเทศเรามันกำลังพัฒนา  คนส่วนมากในนี้ยากจน..รายได้ต่อหัวตำ่...คนมีเงินไม่น่ามีมากนะ แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 49 16:07:50 จากคุณ : ก๋งง (dokaki) - [ 20 ก.พ. 49 16:04:26 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เราตามไม่ทันมากกว่า  จะให้ทันได้ไงล่ะเนี่ย กลัวก็ใช้รถยุ่นต่อไป จากคุณ : คนหัวฟู - [ 20 ก.พ. 49 16:05:00 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผมว่าเขาออกแบบมาแบบใช้เทคโนโลยีเพราะค่าแรงบ้านเขามันสูงมากๆ ก็เอาเทคโนโลยีมาช่วย จากคุณ : มังกรใจเย็น - [ 20 ก.พ. 49 16:11:49 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อ่านกระทู้ล่างๆแล้วขำอะ ผมว่ารถยุโรปไม่เหมาะกับอากาศแบบประเทศเราเลย ใช้ไปซ่อมไปสนุกดี จากคุณ : anonymous coward - [ 20 ก.พ. 49 16:15:30 A:61.91.142.17 X: TicketID:102575 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ผมว่ามันเป็นศักดิ์ศรีนะ เรื่องการคิดค้นเทคโนโลยีต่าง ๆ มันเหมือนเป็นหน้าตาของทางยุโรปเค้านะ เวลาเค้าจะสร้างรถผลิตรถพัฒนารถขึ้นมาซักคันนึงเค้าจะไม่ใช่ใส่ วิศวกรรม ลงไปอย่างเดียว แต่เค้าจะใส่ ศิลปะ และวิถีชีวิต การใช้งานต่าง ๆ ที่ตอบสนองเรามากขึ้น ๆ เข้าไป มันเป็นศาสตร์เลยนะ ซึ่งส่วนนี้เนี่ย ทาง ญี่ปุ่น ยังตามอยู่อีกมากนัก ถ้าเค้าไม่พัฒนาอะไรออกมาเลย ถ้าเค้าหยุดนิ่ง ก็เหมือนพวกยุโรปเค้าจะกลายเป็นผู้ตามไปโดยปริยาย จะเห็นได้ว่าทั้ง benz ทั้ง bm เค้าใส่อะไรต่อมิอะไรเข้าไปเยอะ โดยเฉพาะ bm นี่ แต่ไหนแต่ไรแล้ว และบางทีก็มากเกินกว่าคนธรรมดา ๆ จะขับได้ด้วยซ้ำ ส่วนรถญี่ปุ่นน่ะ ไม่ได้พัฒนาทางด้านนี้มากนัก นอกเสียจากว่า จะนำเทคโนของทางเค้ามาและพัฒนาไปให้ไกลกว่า แต่จะไม่ค่อยเห็นเค้าคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ ขึ้นมาเท่าไหร่นัก ซึ่งการที่เอาเทคโนเค้ามาพัฒนาอีกขั้นนึงนั้น เป็นสิ่งที่ถนัดของทางญี่ปุ่นจริง ๆ แล้วก็ทำได้ดีด้วย แล้วก็ทำให้รถมันมี reliability มากขึ้นต่างจากพวกยุโรปที่มักจะคิดกันเก่ง ซับซ้อน จนลืมไปว่า บางทีมันซับซ้อนเกินกว่าที่คนทั่วไปจะใช้ได้ซ่อมได้ พวกญี่ปุ่นนี่แหละ ก็มาทำอีกทีให้มันง่ายเข้า แต่อยากจะบอกว่า ไม่เฉพาะพวกเทคโนฯ เท่านั้นนะ ที่ยุโรปเค้าเหนือกว่า อย่างที่บอกไปว่า ยุโรป เค้าใส่ใจการออกแบบ เพื่อให้เข้ากับวิถีชีวิตการใช้งานจริง ๆ ยกตัวอย่างง่าย ๆ อย่างนึงก็เรื่อง เบาะนั่ง ถ้าเราไปนั่งในรถยุโรป จะรู้สึกได้เป็นอย่างดีว่า มันนั่งสบายกว่า มันถูกสรีระเรามากกว่ารถญี่ปุ่น ที่เหมือนกับแค่ว่า เออ เอาให้มันเป็นเก้าอี้นั่งได้ก็พอแล้ว แต่รถยุโรป ไม่ใช่อย่างนั้น ในเรื่องวิสัยทัศน์ในการขับขี่ก็เหมือนกัน เค้าเน้นการผสมผสานระหว่างผู้ขับขี่กับรถได้ดีกว่า ผมนั่งขับรถญี่ปุ่น กับ ยุโรป หลาย ๆ คัน ผมสังเกตอยู่อย่างนึงว่า รถญี่ปุ่น เกิดจุดบอด จุดอับ ต่าง ๆ มากกว่า รถยุโรป ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทางญี่ปุ่น เค้าไม่ได้คำนึงถึงจุดนี้สักเท่าไหร่หรืออย่างไร จากคุณ : นามแฝงที่จะใช้ในเว็บ - [ 20 ก.พ. 49 16:22:51 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้าช่างเหล่านั้นเปลี่ยนคำบ่นเป็นความกระหายที่จะเรียนรู้ และศึกษาให้ถ่องแท้ ต่อให้เป็นจานบินจากดาวอังคารก็ซ่อมได้ครับ จากคุณ : ไข่กวน - [ 20 ก.พ. 49 16:36:26 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คงต้องไปเรียนจากe.t. แต่รถยุโรปราคาตกในตลาดรถมือ2...ตกแบบครึ่งทีเดียว...ขาดทุนจุดนี้มากฯ... จากคุณ : don"t go... (dokaki) - [ 20 ก.พ. 49 16:49:07 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ถามหน่อยเหอะ คุณคิดว่าฝรั่งเจ้าของค่ายรถเนี่ย เขาจะมาเอาใจคุณทำไม ยอดขายประเทศนี้ซักกี่คัน มีเหตุผลอะไรที่จะต้องลดสเปกมาเอาใจ "ช่าง" เขาผลิตของมาขาย เขาก็กะจะ"ฟัน"ค่าซ่อมด้วยน่ะสิ หรืออาจเป็นเพราะเขารู้ว่า ในเยอรมัน อังกฤษ สวีเดน ฯลฯ ช่างที่โน่นเขามี"ฝีมือ" มีเครื่องวิเคราะห์ อ่านข้อมูล รู้จุด ซ่อมได้ จากคุณ : Gunn_Sap - [ 20 ก.พ. 49 17:12:57 ]

ความคิดเห็นที่ 20 งั้นก็เชิญ..ไม่สนใจต่อไป..ทำตลาดเมืองนอกดีกว่ามั้ง?.... จากคุณ : ก๋งง (dokaki) - [ 20 ก.พ. 49 17:29:55 ]

ความคิดเห็นที่ 21 `เหมือน คห1 ด้วยคน จากคุณ : น้องสาหร่าย - [ 20 ก.พ. 49 17:34:02 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ถ้าช่างทำไม่เป็น  ก็อย่าบ่น  บอกลูกค้าว่าไม่รับทำ  ทำไม่เป็น ถ้าทำได้  รับงานมาทำ ก็อย่าบ่น  ลูกค้าไม่ได้ให้ทำฟรี ถ้ายี่ห้อไหน  รุ่นไหน ทำยากกว่าก็คิดแพงๆไป ลูกค้าไม่ได้ให้ทำฟรี  เข้าใจ? จากคุณ : นายลุงหมี - [ 20 ก.พ. 49 17:34:56 ]

ความคิดเห็นที่ 23 รถญี่ปุ่นคือรถที่ดีที่สุดและเพียงพอแล้วกับการใช้งานของเราอ่ะ เพิ่งจบใหม่ๆก็ใช้ vios พอเลื่อนขั้นเติบโตหน่อยก็ altis ถ้าเป็นผู้จัดการก็ camry นี่ก็สุดๆแล้วจะเอาอะไรอีก พวกที่ใช้รถเกินกว่านี้ดูเหอะเกินตัว รถมันไม่มีอะไรต่างกันเลย มีล้อ มีเครื่องเหมือนกัน รถแพงๆใช้ไปซ่อมไปเพราะมันไม่เหมาะกับอากาศบ้านเรา คนใช้นอกจากรวยแล้วยังต้องโง่เพราะไม่รู้จักคิด รถที่จอดตายข้างถนนน่ะดูดิ มีแต่รถฝรั่งทั้งนั้น จากคุณ : yengradoor@hotmail.com - [ 20 ก.พ. 49 17:50:29 A:192.168.135.132 X:203.148.174.126 TicketID:116425 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ชีวิตคนเราต้องมีการเรียนรู้ครับ ไม่ใช่ว่าจะเอาแต่ความรู้เก่าๆมาใช้ แล้วมาบ่นว่า ออกเทคโนโลยีใหม่ๆมาทำไม(วะ) ซ่อมไม่เป็น ทำไมไม่เอาเทคโนโลยีเก่าๆมาใช้บ้าง...แล้วเทคโนโลยีเก่าๆที่เคยมีมามันก้อเคยใหม่มาก่อน ทำไมเค้าถึงซ่อมได้ล่ะครับ ไม่ใช่เพราะค่อยๆเรียนรู้ไปทีละนิดๆหรอ ? จากคุณ : -OmegA- - [ 20 ก.พ. 49 18:11:02 ]

ความคิดเห็นที่ 25 แล้วรถญี่ปุ่นมันเปลี่ยนไปใช้หัวฉีดทำไมล่ะ แล้วมันทำไมต้องเพิ่ม ABS VSC EBD สารพัด VTEC นี่ก็ก็อปปี้เค้ามานะ เดี๋ยวนี้ก็ซ่อมกันได้นี่ จากคุณ : revolfe - [ 20 ก.พ. 49 18:42:52 ]

ความคิดเห็นที่ 26 #23 มีคนอีกมากที่มองรถยนต์เป็นยนตรกรรม ไม่ใช่แค่พาหนะจากจุด A->B หรือเกวียนนะครับ ส่วนเรื่องการซ่อม พูดยาก ใส่เทคโนโลยีเข้ามาสูงเกินไป ช่างไทยอุปกรณ์น้อยไม่คิดค้นคว้า service manual ก็ซ่อมยากหน่อย อีกอย่างก็คือกั๊กเทคโนโลยี+service ด้วยจริงๆ  BMW รุ่นใหม่ๆไม่มีก้านวัดน้ำมันเครื่องด้วยซ้ำ แบบมีไรต้องเข้าศูนย์เอาคอมเช็คเท่านั้น ก็ว่ากันไป จากคุณ : ....4จุด - [ 20 ก.พ. 49 19:44:00 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ถ้าไม่พัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมาใช้งานจริงๆ ป่านนี้คงจะยังขี่ควายกันอยู่หล่ะครับ (ไม่มีเกวียนด้วยซ้ำ) จากคุณ : maruyama - [ 20 ก.พ. 49 19:45:04 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ถ้า ไปที่ กันดารๆ ก็ ขับ รถยี่ปุ่นไปดิคับ ดู อย่าง พี่ หมอ JFK ดิ พาเมียไปเที่ยว แกขับ Fortuner ไปเน้อ ~~ จากคุณ : Almost Innocent - [ 20 ก.พ. 49 20:47:04 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ความเห็นที่23 ถ้าเป็นอย่างงั้น benzกับbmคงลงเรือกลับไปนั่งดื่มเบียร์ที่บ้านเกิดแล้ว คิดได้ไงอะ จากคุณ : toy_bu - [ 20 ก.พ. 49 21:33:21 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ผมมองเป็นว่า รถหนะ เขาทำมากะใช้ในประเทศเขา ซึ่งรูปแบบประเทศเขา เป็นการบีบไปในตัว ว่าให้เข้าแต่ศูนย์เท่านั้น ซึ่งได้กำไรอีกชั้นในการที่ลูกค้าทำรถเข้า และสามารถควบคุมชื่อเสียงรถได้อีกต่างหาก รถเข้าศูนย์ ช่างเก่ง รถไม่ตายบ่อยๆ รถจึงมีชื่อ สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้ แต่ญี่ปุ่น ปรัชญาการผลิตรถเขาเป็นอีกอย่างหนึ่ง กำไรได้เสร็จแล้วตอนขาย บริการหลังการขายกำไรเป็นน้ำจิ้ม รถญี่ปุ่นสร้างความพึงพอใจในตอนก่อนจะซื้อ และตอนซื้อมาใหม่ๆได้ดีครับ แต่ความพึงพอใจจะคงอยู่ได้ ก็ต้องการศูนย์บริการที่ดี เพื่อให้รถออกมาดี และยังทำให้พอใจอยู่ได้ จากคุณ : โลหการ4 - [ 20 ก.พ. 49 21:36:38 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ที่จริงซื้อรถมันน่าจะแถม Software เอาไว้คอยตรวจเช็คระบบต่างๆเองได้น่าจะดี มี Software ลงในคอมพิวเตอร์ พร้อมด้วยการเชื่อต่อแบบง่ายๆ เช่น USB พวกเนี๊ยะ เวลารถเป็นไรขึ้นมาจะได้ตรวจเอง  แล้วค่อยไปตรวจละเอียดที่ศูนย์อีกที ผมว่าปัจจุบันมันก็น่าจะหาได้นะครับ Software ที่ใช้ในศูนย์บริการ  แล้วก็หัวที่ต่อกับรถ  ส่วนพวก IO card ต้องค้นกันอีกนิด แต่เครื่องคอมที่ใช้ในศูนย์ผมว่ามันแพงไปครับ  เครื่องก็ไม่เห็นมีอะไรเท่าไหร่ แต่ราคาแต่ละตัว ซื้อรถคันนึงได้เลย จากคุณ : AJ-FAN-CLUB - [ 20 ก.พ. 49 21:39:00 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เทคโนโลยีสูงไม่ใช่แค่หมายถึงเครื่องแรงอย่างเดียวครับ มันรวมถึงเสถียรภาพการทรงตัว ความปลอดภัยของรถด้วย เมื่อเทคโนโลยีมันสูง ความซับซ้อนมันก็มากกว่าเป็นธรรมดา  เหมือนรอยยักในสมองคนฉลาดกับคนฉลาดน้อยก็ต่างกัน #23 คนที่เห็นคุณค่าของชีวิต ถ้ามีสิทธิเลือกคนส่วนใหญ่ก็จะเลือกรถยุโรปครับ อย่างนี้เรียกว่าคนมีรอยหยักมากหรือน้อยครับ จากคุณ : Poonoi - [ 20 ก.พ. 49 21:41:57 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ได้ยิน คอมมอนเรล คนไทย ก็เอาแล้ว เปลี่ยนดีกว่า แรงดี ประหยัดดี ว่างั้น แล้วจะไม่ให้ซ่อมยากได้ไงหล่ะคับ จากคุณ : P Mini - [ 20 ก.พ. 49 23:28:34 ]

ความคิดเห็นที่ 34 "VTEC นี่ก็ก็อปปี้เค้ามานะ เดี๋ยวนี้ก็ซ่อมกันได้นี่ " คุณเอาข้อมูลนี้มาจากไหน ข้อมูลที่ผมทราบ HOnda คิดขึ้นเองจากการแข่ง F1 สมัยโน้นเกือบ 20 ปีแล้วที่เครื่องยนต์ Honda ได้ที่ 1 หลายปีติดต่อกันก็เพราะ Vtec นี่แหละ ผมอยากรู้ว่า Honda ก้อบใครมา ช่วยทำให้หายโง่ พร้อมหลักฐานหน่อยครับ พูดมาลอยๆ เสียชื่อนะครับ จากคุณ : K.Senior - [ 21 ก.พ. 49 00:19:09 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ของไฮเทคจะทำให้ซ่อมง่ายๆก็ทำได้ไม่ยากหรอก แต่เรื่องของเรื่องคือ "หาเรื่องขายของ" ไงครับ ถ้ามันง่าย ใครๆก็ทำได้จริงไหม มันต้องวางกับดักเอาไว้บ้าง จากคุณ : ton99 - [ 21 ก.พ. 49 00:20:14 ]

ความคิดเห็นที่ 36 บอกช่างว่า หนทางยังอีกยาวไกล... ยิ่งทุบ ยิ่งแกร่ง...... ((นอกเรื่องไปป่าว)) จากคุณ : giang_au - [ 21 ก.พ. 49 00:21:10 ]

ความคิดเห็นที่ 37 แล้วทำไมช่างไทยไม่คิดพัฒนาความรู้ความสามารถให้ตนเองละครับ.... ทำไมต้องเดินถอยหลังล่ะ ??? จากคุณ : Ns.ZDIT   - [ 20 ก.พ. 49 15:29:00 ]     -------------------------- ก็อยากพัฒนานะ แต่เครื่องมือก็หลายแสนอยู่ ไม่รู้จะเอาเงินไหนมาซื้อ แถมคนใช้รถยุโรป มีน้อยที่จะมีเงินซ่อมได้อย่างสมศักดิ์ศรี ส่วนมากขับเบนซ์บีเอ็ม มือ2 กันเยอะ แค่ค่าเปลี่ยนถ่าย นมค.+รีเซท 7-800 บาท ก็ต่อแล้วต่ออีก บอกโตโยต้าทำไมผมคิดแค่ 400 บาท ถ้าคนใช้รถยุโรป100คน จ่ายค่าซ่อมคุ้มค่าแรงค่าเครื่องมือ ผมอยู่เชียงใหม่ต่อให้รถอยู่สุไหงโกลก ผมก็จะไปซ่อม แล้วดูสิครับ รถยุโรปเกลื่อนถนน เข้า0 กี่คันกันเชียว ไม่มีใครอยากถอยหลังหรอกครับ ตอนนี้ผมก็ใช้วิธีแบบลุงหมีว่า คือ ไม่รับดีกว่า ซ่อมยากไม่กลัว กลัวลูกค้าเค็มมากกว่า ปล. ถ้ามีเครื่องมือ จานบินเสีย ผมก็รับซ่อมนะครับ แต่ซ่อมได้ ไม่ได้ก็อีกเรื่องนะ โฮ่ๆๆ จากคุณ : penn's - [ 21 ก.พ. 49 00:21:44 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ผมเลือกที่จะขับรถยุโรปมือสองถูกๆมากกว่ารถญี่ปุ่นป้ายแดงราคาเป็นล้าน จากคุณ : แมวตัวอ้วนๆเดินตกท่อ - [ 21 ก.พ. 49 00:53:50 ]

ความคิดเห็นที่ 39 #37 ^ ^   ใช่ครับ  คนเราเขาก็อยากเรียนรู้กันทั้งนั้นแหละครับ ถ้าเครื่องมือมีพร้อม จากที่ผมมีโอกาสเข้าไปคลุกคลี เกี่ยวการซ่อมรถอยู่ช่วงนึง  ตอนนี้สนิทกับช่างที่ศูนย์ไปเรียบร้อยแล้วครับ ผมมองเห็นพัฒนาการ การซ่อมรถของเขาในทางที่ดีขึ้นครับ   หลังจากบริษัทแม่มีการจัดอบรมเกี่ยวกับการซ่อม รถรุ่นนี้อยู่สม่ำเสมอ  ถึงแม้บางทีจะต้องเปิดหนังสือหนาเตอะ ที่มีอยู่หลายๆเล่มในการซ่อมก็ตามเถอะ แก้ไขเมื่อ 21 ก.พ. 49 01:55:05 จากคุณ : AJ-FAN-CLUB - [ 21 ก.พ. 49 00:55:01 ]

ความคิดเห็นที่ 40 มันขึ้นอยู่กับว่าคุณเป็นช่างระดับไหนมากกว่า.. จากคุณ : Nuay_Int86 - [ 21 ก.พ. 49 01:15:41 ]

ความคิดเห็นที่ 41 รถผมมี OBD เช้คเองได้ แต่ต้องหา Download Code เอาเอง เคยเช้ค ตัว Fault ได้เป็น Airmass ครั้งนึง และ Sensor flywheel ตัวนึง ซื้ออะไหล่มาเปลี่ยนเอง อาการเสียหายเลยครับ จากคุณ : Stinger - [ 21 ก.พ. 49 01:23:41 A:203.172.54.174 X: TicketID:097643 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เงินเดือนช่างคนนึงเท่าไหร่ ค่าซ่อมเท่าไหร่ ถ้าช่างมีฝีมือเรียนมาเยอะ คุณจะยอมจ่ายค่าซ่อมเพิ่มให้เค้าป่าวครับ คุณก็จ่ายเค้าเท่าเดิม แต่ค่าเล่าเรียนที่เพิ่มขึ้นเยอะ ค่าอุปกรณ์ไม่เห็นลูกค้า สนจช่วยหารเลยครับ ช่างแถวบ้านผม บอกว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้ ซื้อใช้ทีเดียวเก็บเพราะ ช้ซ่อมเบนซ์คันนี้เท่านั้น ค่าแรงก็ไม่ได้เพิ่มขึ้น เผลอๆ ไม่คุ้มค่าอุปกรณ์ เบนซ์คุณว่าคิดค่าแรงถ่ายน้ำมันเครื่องคุณว่าได้กี่บาท แล้วรู้ไหม ลูกบล๊อด30หัว12เหลี่ยม โคเคนสำหรับถอดปากหม้อกรองรุ่นนี้เฉพาะลูกเท่าไหร่ 400 กว่าบาทนะครับ นี่แค่เล็กน้อย ของญี่ปุ่นนะ เอาคีมบีบออกได้เลย ยุโรปไม่ได้ครับ ทำฝาเค้าแตกโดนอีก 800 เศร้า ผมไม่ได้เป็นช่างหรอกครับ แค่คลุกคลีกับช่างมามากเท่านั้น จากคุณ : Suntar - [ 21 ก.พ. 49 09:40:51 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ถ้าเกี่ยวกับเรื่องของช่างก้อตาม คห.37 กะ 42 อ่ะ... แต่ถ้าเรื่อง technology เนี่ย ผมว่ารถญี่ปุ่น-เกาหลีเนี่ยเค้าก้อมีที่ล้ำๆอยู่ในมือนะคับ...แต่ว่าไม่เอามาใส่ขาย เนื่องจากของเดิมยังขายได้อยู่ การที่พัฒนา หรือ copy technology ใหม่ๆซักอย่างนึงมันเสียงบประมาณเยอะอ่ะ ก้อเลยขายของเก่าเดิมๆให้คุ้มค่าซะก่อน ราคาขายก้อเลยถูกกว่ารถยุโรปที่ขนเอา techno ใหม่ๆมาใส่เข้าไปตลอดเวลา ราคา techno ก้อพุ่งตามราคารถ อย่างเช่น airbag เนี่ยในอนาคตก้อเหมือนเข็มขัดนิรภัยอ่ะ กลายเป็นของติดรถที่ทุกคันต้องมีอ่ะนะ จากคุณ : A49 GTR34 - [ 21 ก.พ. 49 14:42:42 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ถ้ารถยุโรปดีจริง ทำไมพวกเมกามันถึงขับรถญี่ปุ่นกันเกร่อ จนโตต้ามันขึ้นเป็นที่หนึ่งของโลกได้ จริงไหม ผมว่าเท็คโนโลยี่ไม่ว่าญี่ปุ่น,ยุโรป หรือเมกา ในเรื่องรถยนต์ไม่ต่างกันหรอก อยู่ที่คุณจะทำรถออกมาเพื่อจับตลาดระดับใหน ไม่ว่าจะเป็นรถใช้งานทั่วไปหรือรถหรู จากคุณ : alien1200 - [ 21 ก.พ. 49 14:52:51 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เห็นภาพและเห็นด้วยกับคุณ penn's #37 จากคุณ : อย่างแรง (Craftsman) - [ 21 ก.พ. 49 14:52:53 ]

ความคิดเห็นที่ 46 อย่างพวก clear ไฟโชว์ ความจริงจะทำให้มัน clear จากในรถก็ได้ แต่บริษัทรถเขากั๊กเอาไว้ให้ต้องเอาเข้าไปที่ศูนย์ ถ้าไม่อยากเข้าศูนย์  ต้องหาเครื่องมือมา clear เอง อู่ไหนไม่มีเครื่องมือ  ถ้าอยากซ่อมก็ต้องไปซื้อเอามาใช้ เงินทั้งนั้น จากคุณ : ton99 - [ 21 ก.พ. 49 15:06:50 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เห็นด้วยกับคุณต้นครับ เพราะยิ่งเทคโนโลยีสูงๆช่างข้างนอกก็จะซ่อมยาก ลูกค้าก็ต้องเข้าเข้ามาซ่อมที่ศูนย์ผลดีมันมาตกกับตัวบริษัทเขาเอง แต่ซ่อมยากซ่อมง่ายมันก็น่าจะขึ้นอยู่กับประเทศนั้นด้วย อย่างบราซิลช่างข้างนอกเขาก็ถนัดในการซ่อมพวก โฟล์ค เฟียต อะไรประมาณนี้เพราะบ้านเขาใช้ยี่ห้อเหล่านี้มานาน และเข้าใจกับมันเป็นอย่างดี จากคุณ : Marcelo (ผงธุลีในจักรวาล) - [ 21 ก.พ. 49 15:18:00 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ตอนนี้รถที่มีกำไรมากที่สุดในโลก...คือโตต้ากำลังจะขึ้นแท่นเบอร์1...ในโลก.... จากคุณ : don"t go... (dokaki) - [ 21 ก.พ. 49 16:08:25 ]

ความคิดเห็นที่ 49 พวกเมกามันใช้ไรก็ไม่ได้แปลว่าของนั้นจะดีที่สุด จากคุณ : installation - [ 21 ก.พ. 49 18:51:33 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ทำไมเค้าต้องไปเรียนรู้จากญี่ปุ่นด้วยละครับ??? ในเมื่อเค้าก้อขายของเค้าได้...มันทำตลาดไม่เหมือนกันนะครับ อีกอย่างการที่คุณไม่ใช่ช่างใน0ของเค้าแล้วซ่อมลำบากนี่เค้าไม่เหนจะต้องมาแคร์คุนเลยนี่ครับ กรุณาใช้ ความคิดหน่อยนะค้าบ จากคุณ : EVA 01 (aizeen) - [ 21 ก.พ. 49 21:08:08 ]

ความคิดเห็นที่ 51 แล้วอย่างนี้จะมี Benzกับ Toyotaไว้ทำไม แต่ผมไม่ได้ดูถูกรถญี่ปุ่นนะครับ แต่ผมไว้มันมีของดีคนละแบบครับ มีเอกลักษณ์คนละแบบ จากคุณ : mooinside - [ 21 ก.พ. 49 22:55:23 ]

ความคิดเห็นที่ 52 แต่เรื่องอะไหล่ละ?...ครับ...กระจายไปไม่ทั่ว... จากคุณ : don"t go... (dokaki) - [ 22 ก.พ. 49 09:38:46 ]

ความคิดเห็นที่ 53 toyota กำลังจะ เป็น เบอร์ 1 ของโลก แต่ แค่ fortuner ในประเทศ เล็กๆยังรับผิดชอบ ไม่ได้ คนญี่ปุ่นสมัยนี้ ไม่เหมือน กับ สมัยก่อน ที่ขยัน และ รักศักดิ์ศรี   แต่เป็น นักธุรกิจ คิดหากำไรเก่ง จากคุณ : E-Boat - [ 22 ก.พ. 49 10:09:35 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ^ โดนใจจริงๆครับ จากคุณ : นายลุงหมี - [ 22 ก.พ. 49 21:31:32 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณครับ นานๆทีจะมีคนชม 555 จากคุณ : E-Boat - [ 23 ก.พ. 49 01:03:15 ]