ความคิดเห็นที่ 1 ขออภัยเป็นอย่าสูง ที่ภาพไม่ชัด เพราะกล้องคู่ใจเอาไปฝากไว้ ณ โรงจำนำ(ล้อเล่นนนน แต่จำนำจริง!!) เลยใช้กล้องมือถือถ่ายมาแทน แต่คงไม่ต่างกันมาก เพราะปกติ ผมก็ถ่ายรูปไม่เป็นอยู่แล้ว 55 มิตรรักแฟนเพลง คงจะจำกันได้ -------------------------------------------------------------------- อุปกรณ์ที่ใช้ ต้องหาง่ายตามท้องตลาด และมีราคาไม่แพง ดังนั้น โดยหลักการแล้ว จะประกอบด้วย 1.เครื่องเล่น 2.ลำโพง 3.เครื่องจ่ายไฟ โดยการพิจารณาแล้ว 1.เครื่องเล่น ก็คือเครื่องเล่นเก่าๆ ที่เราถอดออกมาไม่ได้ใช้แล้ว แต่ยังพอใช้ได้อยู่ 2.ลำโพงก็เช่นเดียวกัน ลำโพงเก่าของเรายังมีค่า 3.เครื่องจ่ายไฟ ใครๆก็รู้ว่า รถยนต์ใช้ไฟ 12 V DC ดังนั้น เมื่อเอามาใช้ในบ้าน เราจึงต้องแปลง ไฟจาก 220 V AC มาเป็น 12 V DC เสียก่อนโดยใช้อุปกรณแปลงไฟ หลายท่านเรียกว่า Regulator จากคุณ : LTK - [ 4 เม.ย. 49 19:37:39 ]

ความคิดเห็นที่ 2 Regurator ของผม ไม่ใช่ของหายากราคาแพงอะไรเลยครับ เอาง่ายๆเราน่าจะมีกันทุกบ้าน หรือถ้าไม่มีไปหาซื้อของใหม่ตัวละไม่เกิน 300 ได้ที่ห้างขายอุปกรณ์ IT ของมือสอง 50 บาทก็เอาแล้ว ครับ เราเรียกเจ้าสิ่งนี้ว่า Power Supply ในที่นี้ ผมจะใช้ แบบ ATX เนื่องจากหาได้ง่ายในปัจจุบัน ครับ จากคุณ : LTK - [ 4 เม.ย. 49 19:41:18 ]

ความคิดเห็นที่ 3 การเตรียม Power Supply นั้น ให้ดูที่หัวปลั๊กเสียบที่ใหญ่ที่สุด จะมีสายไฟ สีเขียว กับ สีดำ ซึ่งอยู่ติดกัน 2 สายนี้จะทำหน้าที่เป็นสะพานไฟ หมายถึงเมื่อเรา เอา 2 สายนี้มาแตะกัน Power supply จะทำงาน แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 49 19:52:03 จากคุณ : LTK - [ 4 เม.ย. 49 19:51:33 ]

ความคิดเห็นที่ 4 .. แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 49 19:56:01 จากคุณ : LTK - [ 4 เม.ย. 49 19:52:54 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขออภัยรูปใหญ่ไป สังเกตุสาย สีเขียว + ดำ ตามรูป จากคุณ : LTK - [ 4 เม.ย. 49 19:56:49 ]

ความคิดเห็นที่ 6 จากรูปใน คห.2 นั้นเราจะสังเกตุได้ว่า Power Supply ที่เราใช้นั้น มีสวิทซ์ควบคุมการทำงานอยู่แล้ว (อยู่ใต้เต้ารับ) ดังนั้น เราจึงนำสายทั้ง 2 เส้นต่อเข้าด้วยกัน เพื่อให้เปิดการทำงานได้ทันที เมื่อมีกระแสไหลเข้าระบบ จากคุณ : LTK - [ 4 เม.ย. 49 19:59:57 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แต่หากใช้ Power supply ที่มีไม่มีสวิทซ์ เราจึงจำเป็นต้องต่อสวิทซ์แยกให้มัน เพื่อสะดวกในการเปิด-ปิด (ขอยืมรูปภาพจากกระทู้เก่านะครับ) จากคุณ : LTK - [ 4 เม.ย. 49 20:03:54 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ต่อมาก็เก็บสายไฟที่ไม่ใช้งาน ซ่อนเข้าไปให้เรียบร้อย จากคุณ : LTK - [ 4 เม.ย. 49 20:06:14 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เหลือไว้เพียงสายที่เราต้องใช้งาน.. จากคุณ : LTK - [ 4 เม.ย. 49 20:07:39 ]

ความคิดเห็นที่ 10 หลังจากนั้น เราก็มาดูที่วิทยุของเรา ซึ่งวิทยุ อันที่ผมใช้นี้ เป็นวิทยุของ Accord 94 และมี Wiring Diagram แสดงอยู่ดังรูป จึงได้ให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นว่า สายไหน มีหน้าที่อะไร จากคุณ : LTK - [ 4 เม.ย. 49 20:10:14 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คราวนี้มาเริ่มต่อสายไฟกัน โดยใช้ปลั๊กตัวรับ ของ Power Supply อีกนั่นแหละครับ มาทำการเชื่อมต่อ สายสีเหลืองของ Power supply จะจ่ายกระแส 12 V DC ซึ่งตรงกับ วิทยุของเรา ที่ต้องการ 12 V DC ด้วยเช่นกัน แต่มี 2 เส้นที่ต้องการ 12 v โดยที่เส้นหนึงต่อตรงและอีกเส้นหนึ่งนั้น ต้องผ่านฟิวส์ แต่ในที่นี้ผมไม่ต่อผ่านฟิวส์ เพราะถือว่า เสถียรภาพในการจ่ายกระแส ของ Power Supply อยู่ในขั้นวางใจได้ และก็ยังมีฟิวส์ป้องกันในตัวของมันเองอยู่แล้ว (จริงๆ ขี้เกียจซะมากกว่า) จากคุณ : LTK - [ 4 เม.ย. 49 20:16:12 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ส่วนสายลำโพงนั้น ก็ต่อตาม Wiring Diagram  ที่ได้มา หรือหากไม่มี ให้ลองถามคนทีต่อลำโพงเป็นดู สังเกตุสี และจับคู่สายไม่ยากเท่าไหร่ ซึ่งในที่นี้ ผมใช้ ลำโพง 2 ตัว ต้องมีการจับคู่สายต่อกัน จะมีสายที่เหลือเป็น + - 2 คู่ ได้ออกมาตามรูป จากคุณ : LTK - [ 4 เม.ย. 49 20:19:50 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สำเร็จเสร็จแล้ว ก็นำอุปกรณ์ มาเชื่อมต่อกัน วิทยุ + Power Supply จากคุณ : LTK - [ 4 เม.ย. 49 20:21:26 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แล้ว ก็ต่อลำโพง ขั้ว + - ให้ถูกต้อง จากคุณ : LTK - [ 4 เม.ย. 49 20:22:28 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อีกหนึ่งอย่าง คือสายอากาศ ผมไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูนะครับ แต่หาซื้อไม่แพง ไม่เกิน 200 มีขายทุกห้าง แต่หากไม่อยากซื้อ ก็ปอกสายไฟ เปลือยๆนี่หล่ะเชื่อต่อกันเข้าไป หรือเอาไปติดไว้กับเสาทีวี แค่นี้ก็ฟังระรื่นอุรากันแล้ว เปิดสวิทย์ทดสอบเครื่องดูนะครับ จากคุณ : LTK - [ 4 เม.ย. 49 20:26:50 ]

ความคิดเห็นที่ 16 แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 49 20:37:33 จากคุณ : LTK - [ 4 เม.ย. 49 20:30:17 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สำเร็จเสร็จสมอารมณ์หมาย สบายอุรา ได้วิทยุเสียงดีกว่าที่คิด มาฟังฟรีๆอีก 1 เครื่องครับ ใครมีไอเดียบรรเจิด ก็เอาอุปกรณ์ ไปจัดวางในกล่องให้สวยงาม พกพาสะดวก เอาไว้ฟังภาคสนาม ตามสบาย สไตล์ใคร สไตล์มันครับผม ขอพระคุณที่ติดตามอ่านจนจบครับ ------------------------------------------------------------ LTK บรรยาย + ถ่ายภาพ จากเมี่ยงไทย ส๊ะบายยยยยยดี๋ จากคุณ : LTK - [ 4 เม.ย. 49 20:39:47 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เจ๋ง อะ รูปดูยากไปนิ๊ส ถามนิดนึงว่า power supply เราใช้ watt น้อยๆ เพื่อประหยัดไฟ หรือว่า จะเล็กหรือจะใหญ่ก็กินไฟเท่ากันอะคะ เพราะที่เห็นสมัยนี้ มีตั้งแต่ 150Watt - 600 watt เลยอะค่ะ แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 49 21:57:35 จากคุณ : น้องปูเล่ - [ 4 เม.ย. 49 21:52:53 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เยี่ยมยอดครับเดียวจะลองทำบ้างแต่จะให้ดีตีกล่องให้เคลื่อนย้ายง่ายหน่อยก็เยี่ยมเลยครับ จากคุณ : GonkNet - [ 4 เม.ย. 49 21:57:02 ]

ความคิดเห็นที่ 20 good idea! จากคุณ : hush (hush) - [ 4 เม.ย. 49 22:05:05 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ตอบคุณน้องปูเล่ Rating ของ Power Supply เป็น Maximum Rating ที่จะสามารถจ่ายไฟได้สูงสุดครับ ไม่ได้บอกว่ามันกินไฟเท่าไหร่ การกินไฟมากน้อยนั้นขึ้นอยู่กั 2 อย่างครับ 1 คือว่า load (อุปกรณ์ไฟฟ้าใดๆก็ตามที่ Power Supply ทำหน้าที่จ่ายไฟให้) กินไฟมากน้อยแค่ไหน 2 ประสิทธิภาพของ Power supply ครับ เช่น ต่อ load 80W เข้ากับ Power Supply ที่มีประสิทธิภาพ 80% (ไฟเข้า 100W จ่ายออกมาจริง 80W) ก็จะเปลืองพลังงานทั้งสิ้น 100 W ครับ ไม่ว่า power supply เครื่องนั้นจะจ่ายได้ 300,  600, หรือว่า 10,000W ครับ จากคุณ : Compromiser - [ 4 เม.ย. 49 23:30:18 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ในห้องผมตอนนี้ก็มีวิทยุรถเก่าๆ กับวิทยุบ้านเก่าๆมาต่อพ่วงกันอยู่ และใช้งานอยู่ครับ เพราะว่าวิทยุบ้านมันสามารถรับ line in จากวิทยุรถได้ (แต่ภาครับวิทยุบ้านมันพัง) ผมก็เลยเอาวิทยุรถ ที่มีภาครับแสดงตัวเลขคลื่นสัญญาณเป็น digital มาอาศัยไฟ 12V จากตัววิทยุบ้าน ใช้สบายไปเรยครับ อิอิ จากคุณ : iNFeRNaL - [ 5 เม.ย. 49 00:22:11 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ท่าน LTK ภาพ คคห.7 สายสีอื่นๆมันเป็นสายอะไรบ้างครับ (แดง ม่วง เหลือง ขาว ส้ม น้ำเงิน) จากคุณ : >Phenomenon< - [ 5 เม.ย. 49 08:40:15 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คุณ Phenomenon เป็นไฟ +  - ๕ , ๑๒ โวลท์ ครับ เทียบกับ ๐ โวลลท์ จากคุณ : st@rnet - [ 5 เม.ย. 49 09:18:49 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เยี่ยมครับ ตอนเด็กๆ(ซัก 15 ปีมาแล้ว) อยู่บ้านผมก็ฟังเพลงจากวิทยุติดรถยนต์นี่แหละ แต่ผมไม่ได้เป็นคนต่อเองหรอก อาผมทำให้ แต่มันชอบกินเทปผม เทปยับเทปย่นหมดเลย จากคุณ : Mr.Submarine - [ 5 เม.ย. 49 10:30:56 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ผมก็เคยต่อใช้ครับ แต่ว่าจับโดนวิทยุตรงที่เป็นโลหะไม่ได้เลยครับไฟดูด ครับ ไม่รู่ผมไฟแรงไฟหรือเปล่าไม่รู้ครับ ตอนนี้ผมไปซื้ออแดปเตอร์ขนาด3 แอมป์มาใช้แทนแล้วครับ ประมาณ 300 บาทครับ ไฟไม่ดูดแล้วครับ จากคุณ : marin11 - [ 5 เม.ย. 49 10:38:46 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณครับท่านst@rnet จากคุณ : >Phenomenon< - [ 5 เม.ย. 49 11:53:08 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ใช้ได้ก็ดีครับ   แต่ว่า ผมเคยทำมาแล้วประสบปัญหาดังนี้ - เทปไม่ยอมเล่นด้าน Reverse บางครั้ง นึกว่าเสีย เอาไปซ่อม ช่างบอกไม่เห็นเป็นไร(ดีที่เป็นคนรู้จัก เลยไม่เสียตัง) เอามาต่อใหม่มันก็เป็นอีก  เลยวิเคราะห์พบว่า ฟร้อนมันออกแบบให้ใช้ไฟเกินกว่า 12 โวลท์ นิดๆ แต่ PS ของคอมพ์มันควบคุมแรงดันดีมาก ยังไงก็ไม่ขาดไม่เกิน  เลยไปเอา Adaptor แบบเก่า เอามิเตอร์วัด บางอันเกิน บางอันขาด แต่กลับใช้ได้ไม่มีปัญหาเลย  ตอนนั้นทำกล่องซะสวย เลยกลายเป็นของรกห้อง ต่อสายเอาเปลือยๆ จากคุณ : หมูน่ารักจริงๆ - [ 5 เม.ย. 49 12:16:10 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : Prof.Erysipeliothrix - [ 5 เม.ย. 49 17:20:49 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ถ้าอยากฟังแบบสบายอุรากว่าเดิม... แนะนำให้เจาะลำโพงทั้งสองตัวเข้ากับหัวเตียงนอน ทางด้านริมซ้าย-ขวา ถ้าปริมาตรของหัวเตียงมันมีมากไป ก็กั้นห้องให้มันเล็กลงมาหน่อย จะได้มีแรงขับ จะเจาะท่อทำ Bass Reflex ก็แล้วแต่ชอบ เอา Front ฝังเข้าไปบนหัวเตียงแบบ Built-in เพื่อเอาไว้ฟังเพลงก่อนนอน หรือเปิดเพลงประกอบกิจกรรมอื่น ๆ รับรองเจ๋งโคตร ๆ เบสตึ้บ ๆๆ จากคุณ : โย่ว - [ 5 เม.ย. 49 22:02:52 A:124.121.139.91 X: TicketID:114643 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ผมลองคิดเล่นๆนะครับ แทนที่เราจะเอาเพาเวอร์คอมออกมา ลองเอาฟอนท์ ยัดใส่คอมดูดิ จะได้คอมพิวเตอร์ที่สามารถฟังวิทยุและเล่นเทป ได้อีกต่างหาก ผมยังไม่เคยเห็นสเปคคอมร้านไหนมีเลยนะ อิอิอิ จากคุณ : pao666 (pao666) - [ 10 เม.ย. 49 11:38:39 ]