PANTIP.COM : V4482356 !!!!!!วิธีการแก้ไขปัญหาระบบเบรคทื่อ ในรถ FORTUNER !!!!!!! []

!!!!!!วิธีการแก้ไขปัญหาระบบเบรคทื่อ ในรถ FORTUNER !!!!!!!

วัตถุประสงค์
1. เพื่อนำเสนอแนวความคิดในการแก้ไขปัญหาเบรคทื่อของรถ FORTUNER ที่ผ่านการคำนวณและทดลองใช้ในรถ 70 กว่าคัน ในระยะเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้น และช่วยกันป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น
2. วิธีการนี้สภาพรถจะต้องอยู่ในสภาพเดิมไม่เปลี่ยนสปริงเบนซ์ หรือถอดเบาะหรือยางอะไหล่ออก เพื่จะมีผลต่อความสูงของท้ายรถ
3. ท่านจะต้องนำรถ Fortuner เข้าเครื่องทดสอบเบรคตาม ตรอ. ทั่วไปก่อน เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพเบรคหลังจึงทำการแก้ไขได้

มีหนังสือชี้แจงจากบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ที่ ซี.อาร์.ซี 003/2549 ลงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2549 ที่ส่งถึงสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (ดังเอกสารที่แนบมา) พบว่า หนังสือชี้แจงดังกล่าวมีเนื้อหาและข้อเท็จจริงไม่ตรงและไม่ครบถ้วนในหลายประการดังนี้
1. จากคำชี้แจงของบริษัทโตโยต้าฯ ที่ว่า “ผลจากการทดสอบเบรกไม่พบว่าเบรกมีรอยแตกร้าว” นั้นไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยจากพยานบุคคลที่เข้าร่วมทดสอบเบรกระบุว่า ผลจากการทดสอบเบรกในรถของตัวแทนกลุ่ม FORTUNER CLUB พบว่า “ผ้าเบรกหน้าแตกร้าว” โดยการวิเคราะห์หาสาเหตุการแตกร้าวของผ้าเบรกหน้านั้น เกิดจากการที่ผ้าเบรกได้รับความร้อนสูง โดยมีผลมาจากอุณหภูมิของผ้าเบรกหน้าที่สูงถึง 550 องศาเซลเซียส (สาเหตุการแตกร้าวของผ้าเบรกหน้า สอดคล้องกับ หนังสือด้านเทคนิคเรื่อง ผ้าเบรกหน้าแตกร้าว จาก บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ฉบับที่ T153/05 เดือนพฤษภาคม 2548 และผ้าเบรกของรถ TOYOTA FORTUNER เป็นผ้าเบรกสูตรเดียวกับของรถ VIGO คือ สูตร PS558H-FF)
2. จากคำชี้แจงของบริษัทโตโยต้าฯ ที่ว่า “ อุณหภูมิของผ้าเบรกหน้าสูงสุดประมาณ 550 องศาเซลเซียส ซึ่งลักษณะที่เกิดขึ้น เกิดจากอุณหภูมิสะสมที่จานเบรกและผ้าเบรก จากการใช้เบรกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับรถยนต์ทั่วๆ ไป” โดยคำชี้แจงถึงสาเหตุอุณหภูมิของผ้าเบรกหน้าสูงถึง 550 องศาเซลเซียสนั้นไม่ตรงกับสาเหตุที่แท้จริง และแตกต่างจากรถยนต์ทั่วๆ ไป ดังนี้
จากผลการทดสอบประสิทธิภาพเบรกของรถ TOYOTA FORTUNER ด้วยเครื่องทดสอบเบรก ที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบกนั้น พบว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดอุณหภูมิของผ้าเบรกหน้าสูงถึง 550 องศาเซลเซียส เกิดจากประสิทธิภาพเบรกของล้อหน้าและล้อหลังไม่สมดุลกัน ซึ่งแตกต่างจากรถยนต์ทั่วๆ ไปที่ผลการทดสอบประสิทธิภาพเบรกของล้อหน้าและล้อหลังสมดุลกัน
ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ประสิทธิภาพเบรกของล้อหน้าและล้อหลังไม่สมดุลกันเกิดจาก “กลไกควบคุมแรงดันน้ำมันเบรกล้อหลังบกพร่อง” ทำให้ในขณะเหยียบแป้นเบรกลูกสูบเบรกหลังไม่มีแรงดันน้ำมันเบรกเพียงพอในการสร้างแรงเบรกทำให้ประสิทธิภาพเบรกล้อหลังน้อยมาก และไม่ช่วยรับภาระในการเบรก ทำให้ภาระในการเบรกเพื่อหยุดรถ TOYOTA FORTUNER จึงตกไปอยู่ที่ล้อหน้ามากเกินไป จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้อุณหภูมิของผ้าเบรกล้อหน้าสูงถึง 550 องศาเซลเซียส และเกิดความร้อนที่สูงจนเป็นสาเหตุทำให้ผ้าเบรกหน้าแตกร้าว
3. จากคำชี้แจงของบริษัทโตโยต้าฯ ที่ว่า “ผู้ขับขี่อาจจะต้องเพิ่มแรงในการเหยียบแป้นเบรก เพิ่มขึ้นบ้าง” โดยไม่ได้ชี้แจงถึงว่าเพราะเหตุใดผู้ขับขี่จึงต้องเพิ่มแรงในการเหยียบแป้นเบรกเพิ่มขึ้น และเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเท่าไร?
โดยผลจากการทดสอบเบรกครั้งนั้นพบว่าผู้ขับขี่ต้องเพิ่มแรงในการเหยียบแป้นเบรกเพิ่มขึ้นถึง 30% ซึ่งแตกต่างจากรถยนต์ปกติทั่วๆ ไป เนื่องจากการที่อุณหภูมิของผ้าเบรกล้อหน้าสูงถึง 550 องศาเซลเซียส นั้น ซึ่งมีอุณหภูมิสูงเกินกว่า 300 องศาเซลเซียสจะส่งผลทำให้ผ้าเบรกสูญเสียประสิทธิภาพในการสร้างแรงเบรก ทำให้ความสามารถในการหยุดรถลดลง ผู้ขับรถ TOYOTA FORTUNER จึงรู้สึกได้ว่า ” เบรกไม่อยู่ ” ผู้ขับจึงต้องเพิ่มแรงในการเหยียบแป้นเบรกเพิ่มขึ้นถึง 30% ซึ่งแตกต่างจากรถยนต์ปกติทั่วๆ ไป และไม่เป็นไปตามความคาดหวังของผู้ใช้รถอันอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ต่อผู้ใช้รถใช้ถนนได้

[คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง]

จากคุณ : Preecha Fortuner - [ 25 มิ.ย. 49 12:19:26 ]