CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    +++++++++ กรณี เคลม Civic 2006 ของคุณ VIT ผมมีกฎหมายของ อเมริกา มาให้ดู +++++++

    http://www.oag.state.ny.us/consumer/cars/qa.html

    กฎหมายในอเมริกาที่ว่าคือ Lemon Law คำว่า Lemon คือ สินค้าที่ห่วย! เช่น Lemon car คือรถที่คุณซื้อมาเกิดมีปัญหา

    ในแต่ละรัฐของประเทศนี้จะมีกฎหมายที่เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคอันเนื่องมาจากการซื้อสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพ เช่น รถยนต์ คอมพิวเตอร์
    Lemon Law แต่ละรัฐก็มีรายละเอียดที่แตกต่างกันบ้างเล็กน้อย แต่สาระสำคัญโดยรวม เหมือนกัน
    จาก url ข้างบน คือตัวอย่างของ Lemon Law ในรัฐ New York

    สรุปสาระสำคัญๆของ url ข้างบนคือ

    1. เข้าข่ายเมื่อ
    1.1. รถเฮงซวยของคุณจะเข้าข่ายการยื่นเรื่อง Lemon Law ก็ต่อเมื่อ เป็นรถที่ใช้งานมาไม่เกิน 18000 ไมล์ หรือไม่เกิน 2ปีนับจากวันที่ถอยจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
    1.2. รถ Demo ก็เข้าข่ายด้วยนะ
    1.3. รถคันนั้นต้องไม่ใช้เพื่อประกอบธุระกิจ เช่น เอาไปทำเป้นรถเช่าหรือรถ taxi คือใช้งานส่วนบุคคลทั่วไป (แต่ถ้าใช้ปนๆกัน เช่นใช้ไปติดต่องานกับลูกค้า ก็ให้ไม่เกิน 50% ของการใช้งานทั้งหมด)
    1.4. รถจักรยานยนต์ รถ Off-Road ก็เข้าข่ายด้วยแฮะ

    2. เมื่อเกิดปัญหา
    2.1. ถ้าเรารู้สึกว่ารถเรามีปัญหา เราต้องแจ้ง dealer เป็นลายลักษณ์อักษรว่ารถเรามีปัญหา ซึ่งที่ NY กฎหมายจะบังคับให้ Dealer นั้น ต้องส่งจดหมายนี้ไปยังผู้ผลิตภายใน 7 วันนับจากวันที่ dealer รับจดหมายร้องเรียนจากเรา
    แต่ถ้า Dealer มันไม่ยอมซ่อมให้ภายใน 7 วันนับจากวันที่เราส่งจดหมายถึง dealer ก็ส่งจดหมายลงทะเบียนถึงผู้ผลิตเลย ระบุไปด้วยว่า Dealer เฮงซวยนั้นชื่อว่าอะไร
    2.2. อาการของรถที่เข้าข่ายเช่น สตาร์ทรถยาก ไม่ค่อยติด , ขับๆไป ดับ , เกียร์ทำงานผิดปรกติ ฯลฯ ซึ่งอาการเหล่านี้เกิดจาก ชิ้นส่วนบางชิ้นทำงานผิดพลาด เจ๊ง นั่นเอง
    2.3. ปัญหานั้นๆแม้ว่าจะเป็นปัญหาขี้ประติ๋ว ไม่สามารถซ่อมให้หายได้ "4 ครั้ง"!!! แค่ปัญหาเดียวแต่ซ่อมกัน 4 ครั้งก็ไม่หาย แม้ว่าครั้งที่ 5 จะซ่อมหายขาดก็เถอะ
    2.4. ปัญหาร้านแรงนั้นๆ ส่งผลต่อมูลค่ารถอย่างมาก ผมจะยกตัวอย่างเท่าที่ผมเข้าใจและเห็นมา เช่น
    2.4.1. ปัญหาจากน้ำรั่ว Yaris ในกระทู้ล่างๆ เป็นใครๆก็รับไม่ได้ ใครรู้ก็ไม่อยากซื้อต่อ แสดงว่ามูลค่ารถตกต่ำอย่างน่าใจหายเพราะกลัวสนิมจะกินหลังคา
    2.4.2. ปัญหาเบรค Fortuner ที่ถ้าใครรู้ว่า รถคันนั้นเบรคทื่อแถมไม่ปลอดภัย ก็ไม่อยากจะซื้อรถคันนั้นต่อหรอก (ขอแว้บมาด่า toyota ครับ)
    2.4.3. ปัญหาเครื่องสะดุด ดับกลางทาง , เบรคจม , ABS ไม่ทำงาน , พวงมาลัยทำงานแปลกๆ คืออะไรที่คุณคิดว่าส่งผลร้ายแรงต่อการขับขี่ด้วยความปลอดภัยนั่นแหละ
    2.5. ปัญหาทุกปัญหาไม่ว่าจะมีเพียงปัญหาเดียวหรือหลายปัญหา เป็นสาเหตุที่ส่งผลให้ รถของเราไม่สามารถใช้งานได้รวมกันเกิน 30 วัน !!!!!!



    3. ความรับผิดชอบของผู้ผลิต

    3.1. ผู้ผลิตต้อง คืนเงินเต็มจำนวน ไม่ว่าจะซื้อสดหรือผ่อน หรือไม่ก็ หารถที่เทียบเท่ากันเปลี่ยนให้เมื่อ ข้อ 2.3 หรือ 2.4 หรือ 2.5 ดังที่กล่าวไว้ข้างบน เกิดขึ้น ผมเน้นว่า "หรือ"
    3.2. มีข้อยกเว้นนะ ถ้าเราใช้รถไม่รักษาดูแลเลย ใช้งานผิดๆ หรือเอาไปแต่ง ติด option จากร้านข้างนอก อันนี้เค้ามีสิทธิที่จะบอกว่า ไม่!!!!
    3.3. ถ้าจะให้เค้าคืนเงินให้ เค้าจะรับผิดชอบ ราคารถที่ซื้อ + ราคา option ที่ติดจาก 0 + ค่าจดทะเบียน ค่าป้ายดำ + ค่าะรรมเนียมอะไรก็แล้วแต่ที่ทางราชการเรียกเก็บ เช่นภาษีแบบต่างๆ
    "ลบ" ด้วย Lawful Deduction ซึ่งอธิบายได้ดังนี้ เช่นถ้ารถ บ. ฮอนด้าระบุว่า 12,000 ไมล์แรกจะไม่ต้องโดนหัก แต่หลังจากนั้นจะโดนหักเป็นสัดส่วนโดยการคำนวน เช่น รถเราตอนซื้อมา ราคา 20,000 เหรียญใช้มา 15,000 ไมล์
    เค้าจะคำนวนยอดหักได้เท่ากับ 600 เหรียญ มาจาก ( 15000 - 12000 ) เท่ากับ 3000ไมล์ส่วนที่เกิน เอา 3,000 x 20,000 แล้วหาร 100,000 ได้ 600 เหรียญ สูตรนี้เค้ากำหนดมานะครับ ไม่รู้ที่มาเหมือนกัน และแต่ละยี่ห้อก็กำหนดระยะทางที่สามารถไม่โดนหักได้ต่างกันไป
    3.4. (( อะไรที่เค้าไม่รับผิดชอบ )) คือ ค่าประกันภัย , ค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บจาก บ.ไฟแนนซ์


    4. คนซื้อรถอย่างเรา
    4.1. ต้องเก็บเอกสารทั้งหมดไว้ ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดการซ่อม ใบเสร็จ คนที่ติดต่อ เบรอ์โทร วันเวลา
    ทุกเม็ดเก็บให้หมด คือที่อเมริกา กฎหมายบอกว่า ช่างต้องทำรายงานการซ่อมทุก job อย่าละเอียด
    ไม่ว่า job นั้นจะเป็น job ธรรมดา หรือ job เคลม lemon law เราต้องเก็บเอกสารตรงนี้ไว้เพื่อยืนยันว่า รถเราเข้าข่ายห่วยจัง Lemon Law
    4.2. ถ้าซื้อผ่อน ต้องผ่อนต่อ ไม่งั้นจะมีปัญหาเรื่อง ใครเป็นเจ้าของรถ แล้วจะยุ่งตอนทำเรื่อง Refund เงิน
    4.3. กรณีผ่อน มีหลักงานกว้างๆคือ เงินที่ได้จากการ refund จะแบ่งกันระหว่าง เราคือผู้ซื้อรถ(เงินดาวน์+ค่างวดที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย) และ บ.ไฟแนนซ์(ดอกเบี้ย) โดยจะจัดให้กับ บ.ไฟแนนซ์ ให้เต็มจำนวนก่อนแล้วจึงถึงเรา
    สัดส่วนเป็นเท่าไร คำนวนได้ดังข้างล่างนี้

    เรามีวิธีคำนวนว่าจะได้เงินคืนเท่าไรดังต่อไปนี้
    สมมติ ผ่อน 36 เดือน วางเงินดาวน์ไป 1,500 เหรียญ ผ่อนเดือนละ 300 เหรียญ ซึ่งใน 300 เหรียญนี้ เป็นดอกเบี้ยซัก 100 เหรียญต่อเดือนละกัน
    เกิดว่า 12 เดือนผ่านไป เงิน refund ที่เกิดจากการเคลมผู้ผลิตออกมา เราจะได้เงินคืนดังนี้
    เอา Down 1,500 + (300x12) ค่างวดแต่ละเดือน 12 เดือน ได้เท่ากับ 5,100 เหรียญ
    ลบด้วย ดอกเบี้ยตลอด 12เดือนคือ 100 x 12 เท่ากับ 1,200
    ดังนั้นเราจะได้เงินคืนเพียงแค่ 3,900 ครับ

    4.4 อันนี้ผมก็เพิ่งเคยทราบเลยคือ ถ้าพิสูจน์กันได้แล้วว่ารถเราเป็นรถ Lemon (เฮงซวย) สัญญากู้ซื้อรถกับ Finance ถือว่าเป็นอันยกเลิกและ บ. finance ไม่อาจที่จะเก็บเงินค่าการยกเลิกสํญญาก่อนครบกำหนดได้
    Once a finding has been made that a car is a lemon, the lease is terminated. As a result, no early termination penalties under the lease may be collected.
    อันนี้สำคัญมาก

    4.5 ถ้าเราชนะ ค่าทนาย(ที่เหมาะสม ไม่สูงเว่อร์) จะได้รับการชดใช้ให้ด้วยครับ



    อันนี้เด็ด
    แล้วรถคันที่ผู้ผลิตซื้อคืนจะลงเอยยังไง เค้าว่าอย่างนี้ครับ
    กฎหมายบังคับให้ผู้ผลิต , dealer ต้องแจ้งและพิมพ์ประโยคดังต่อไปนี้
    IMPORTANT: This vehicle was returned to the manufacturer or dealer because it did not conform to its warranty and the defect or condition was not fixed within a reasonable time as provided by New York law.

    คือใครจะซื้อคันนี้ต่อก็จะได้รู้ว่า คันนี้เคยมีปัญหามาก่อน ไม่มีย้อมแมว
    This disclosure must also be printed on the car's certificate of title by the New York State Department of Motor Vehicles.

    จากคุณ : เอาซักชื่อ - [ 25 มิ.ย. 49 16:23:10 A:125.25.56.117 X: TicketID:122101 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com