ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าเข้าใจไม่ผิด... ผมว่าน่าจะวัดจากล้อนะครับ ไม่ใช่ยาง แต่ถึงอย่างไรก็เท่ากันอยู่ดีเพราะวัดเป็นองศาครับ ไม่ยืนยันนะ รอคนรู้จริงมาว่าต่อดีก่า จากคุณ : คิด (KID) - [ 17 พ.ย. 49 12:29:57 ]

ความคิดเห็นที่ 2 จากคุณ : *380 Z - [ 17 พ.ย. 49 13:55:08 ]

ความคิดเห็นที่ 3 การวัดมุมโท จะวัดจากกึ่งกลางของหน้ายางครับ ถ้ามองจากหน้ารถไปท้ายรถ ถ้าส่วนหน้าของล้อมีระยะแคบกว่าส่วนหลังของล้อ เรียกว่า (toe in) ในทางตรงข้าม ถ้าจัดให้ระยะของล้อส่วนหน้า มีระยะกว้างกว่า ส่วนของล้อด้านหลัง เรียกว่า (toe out) มุมโทอินโทเอาท์ เมื่อวัดจากกึ่งกลางของล้อ ไม่ว่าคุณจะเปลี่ยนล้อหน้ากว้างแค่ไหน มุนโทก็จะต้องเท่าเดิมครับ ยืนยันว่า ต้องตั้งตามคู่มือของรถครับ รถแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ กำหนดมุมโทมาไม่เท่ากันครับ ลองไปถามร้านที่มีเครื่องตั้งศูนย์คอมพิวเตอร์ซิครับ เวลาตั้งศูนย์ ช่างจะต้องคีย์ระบุ ยี่ห้อรถรุ่นของรถลงไปด้วย ทำไมหละครับ นอกจากมุมโทแล้ว ยังมีมุมแคมเบอร์และแคสเตอร์ด้วยนะครับ ถ้าใช้มุมโทอย่างเดียว มีร้องเพลงน้ำตาจ่าโทแน่ครับ ------------------------------------------------- กว่าจะตัดสินใจตอบกระทู้นี้ ผมคิดตัดสินใจอยู่นานเหมือนกัน สาเหตุเพราะคนตั้งกระทู้ชื่อ คุณ ton99 เนื่องเพราะ เท่าที่ผมอ่านกระทู้ที่คุณton99 ตั้งถาม และมีการตอบ ค่อนข้างเป็นเชิงวิชาการ ซึ่งในขณะที่ ผมไม่ใช่นักวิชาการ เป็นแค่คนชอบศึกษาหาประสบการณ์ รู้แบบงูๆปลาๆ กลัวว่า ถ้าตอบไปแล้ว คุณ ton99 ถามกลับ เพื่อเอาตัวเลขที่แน่นอน ผมจนมุมแน่นอนครับ ถ้ามีอะไรส่วนไหนที่ผมตอบผิดพลาดไป ก็ให้อ่านข้ามๆไปนะครับ และขอโทษไว้ล่วงหน้ามา ณ ที่นี้ด้วยครับ จากคุณ : Moonlight Sonata - [ 17 พ.ย. 49 14:10:51 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ได้ความรู้เพิ่มขึ้นเลยครับ ขอบคุณทั้งคุณ ton99 และคุณ Moonlight Sonata ครับ จากคุณ : ~<<traction_control>>~ - [ 17 พ.ย. 49 14:36:47 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เหลือ มุมแคมเบอร์และแคสเตอร์ ใครจะช่วขยายความบ้างครับ จากคุณ : . (Tread'em all) - [ 17 พ.ย. 49 16:52:50 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มุมแคมเบอร์ (camber angle)นั้น ถ้าเรามองจากหน้ารถไปหลังรถ จะเห็นล้อตั้งฉากกับพื้น นั่นคือมุมแคมเบอร์เป็น 0 ถ้าเรามองจากกึ่งกลางล้อ (ใช้ดุมล้อเป็นแกน) ถ้าด้านบนเอียงออกนอกตัวรถ เรียกว่า มุมแคมเบอร์เป็น + ในทางตรงกันข้าม ถ้าเรามองจากกึ่งกลางล้อ (ใช้ดุมล้อเป็นแกน) ถ้าด้านบนเอียงเข้าหาตัวรถ เรียกว่า มุมแคมเบอร์เป็น - มุมแคมเบอร์จะ + หรือ - กี่องศา ขึ้นอยู่กับ spec ทางยี่ห้อรถ รุ่นรถระบุมาครับ รถรุ่นเก่าๆ ส่วนใหญ่กำหนดให้มุมแคมเบอร์เป็น + แต่ปัจจุบัน เนื่องจากระบบรองรับนน.ของตัวรถแข็งแรงขึ้น และถนนราบเรียบขึ้น รถยนต์สมัยใหม่จึงกำหนดมุมแคมเบอร์เป็น+ ในองศาที่ต่ำมากจนเกือบ 0 เพื่อป้องกันให้การสึกของหน้ายางไม่ผิดปกติ  แต่ยังมีรถบางรุ่น กำหนดให้มุมแคมเบอร์เป็นลบ เพื่อเพิ่มสมรรถนะในการบังคับเลี้ยวเข้าทางโค้งได้ดียิ่งขึ้นครับ ------------------------------------------------ **** ผมเองไม่ค่อยกระจ่างเรื่องมุมแคสเตอร์นัก แต่พอทราบหน้าที่ของมันคือการบังคับให้เกิดความคงที่ในขณะวิ่งในแนวตรง หรือกล่าวอีกนัยหนึง ก็คือ ถ้าเราบังคับเลี้ยวไปด้านใดด้านหนึ่ง มุนแคสเตอร์ที่สมดุล จะบังคับให้ล้อช่วยคืนกลับในแนวตรงครับ **** มุมแคสเตอร์ (caster angle) นั้น ถ้าเรามองล้อหน้าจากด้านข้างตัวรถ ไม่ว่าจะมองจากด้านซ้ายไปด้านขวา หรือมองจากด้านขวาไปด้านซ้าย ก็ตาม จากดุมล้อ ลากเส้นแนวดิ่งตั้งฉากกับพื้น มุมเอียงของแนวแกนสลักล้อหน้า ถ้าแกนสลักล้อถูกเอียงไปด้านหลังโดยวัดจากแนวดิ่ง จะเรียกว่า มุมแคสเตอร์เป็น + ในทำนองเดียวกัน ถ้าแกนสลักล้อถูกเอียงไปทางด้านหน้าโดยวัดจากแนวดิ่ง จะเรียกว่า มุมแคสเตอร์เป็น - จากคุณ : Moonlight Sonata - [ 17 พ.ย. 49 18:04:33 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ในรถทั่วไป จะตั้งค่า TOE = 0 เพื่อให้ล้อทั้งสองข้างขนานกัน ค่าTOE ขณะจอดและขับอาจต่างกันเล็กน้อย เพราะระบบช่วงล่าง ความสูงของรถ สภาพถนน และน้ำหนักของตัวล้อเอง บางแห่งจึงแนะนำให้ตั้งTOE-IN เล็กน้อยขณะจอด เพื่อให้ค่า TOE = 0 เวลาเดินทาง ค่า TOE จะวัดเป็นองศา นอกจาก US ที่วัดเป็น เศษส่วนของนิ้ว เครื่องตั้งศูนย์ แบบมีเซนเซอร์คู่เดียว จะอ้างอิงล้ออีกข้าง ส่วนเครื่องแบบจับสี่ล้อ จะอ้างอิงเส้นกลางตัวรถ(centerline) การปรับองศา TOE มักจะทำในรถแข่งเพื่อ เพิ่ม/ลดความเสถียร และปรับแต่ง over หรือ understeer ขณะเข้าโค้งได้ จากคุณ : ความรู้ท่วมหัว (ความรู้ท่วมหัว) - [ 17 พ.ย. 49 19:50:14 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ยางใหญ่ขึ้น ที่ผมกล่าวเอาไว้ข้างบน หมายถึง เส้นรอบวงที่มากขึ้นครับ ไม่ใช่หน้ายางที่มากขึ้นครับ เท่าที่ผมได้ลองสังเกตุมา  จะพบว่าค่ามุมต่างๆ ของคู่มือ กับของเครื่องตั้งศูนย์ มันไม่ตรงกัน ทีนี้เราจะยึดค่าตามคู่มือ หรือ ของเครื่องตั้งศูนย์ ดีครับ? นอกจากนั้นที่ผมได้ลองเปลี่ยนร้านตั้งศูนย์ดู ประเภทตั้งร้านนี้เสร็จขับต่อไปให้อีกร้านเช็คดู  ปรากฏว่าค่ามันไม่ตรงกันเลยสักเครื่อง จากคุณ : ton99 - [ 17 พ.ย. 49 19:52:57 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แปลงค่าtoe(mm)เป็น individual toe angle ตามสูตร:                                              toe(mm)  sine(individual toe angle) =  ----------------------                                        2 x tire diameter(mm) ถ้ายางไม่มาตรฐานหาค่าtoe(mm)ใช้เทียบสัดส่วนตามเส้นผ่าศูนย์กลางยางได้ หรือไม่ก็ใช้ individual toe angle เลยจะตรงที่สุด เพราะจริงแล้วเครื่องตั้งศูนย์จะวัดค่าindividual toe angle โดยตรงอยู่แล้ว ถ้าแสดงเป็นtoe(mm)ค่อยมาคำนวณ การใช้ค่าindividual toe angle เป็นค่าตั้งศูนย์จะมีข้อดีกว่าตรงที่ตั้งค่าของแต่ละล้อโดยตรงซึ่งค่าแต่ละล้อต้องไม่ต่างกันเกินข้อกำหนด ถ้าดูค่าtoe(mm)ให้ถูกต้องอย่างเดียวเป็นไปได้ที่ค่าtoe(mm)ตรงพอดีแต่เกิดจากมุมtoeล้อหนึ่งสูงไปอีกล้อต่ำไปมารวมกันได้ค่าtoe(mm)ตรงพอดี ค่าtoeสำหรับรถโดยทั่วไปจะพยายามให้ยางตรงเวลารถวิ่ง ถ้าขับหลังจะตั้งtoe inเล็กน้อย ถ้าขับหน้าจะตั้งtoe outเล็กน้อย เรื่องร้านตั้งเอาเข้า0ที่มีเครื่องตั้งไปเลยครับหมดปัญหาเรื่องspecไม่ถูกต้อง แถมมีประกันการซ่อมด้วย จากคุณ : akeb - [ 17 พ.ย. 49 21:07:50 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คห. 7 ผมว่าน่าจะผิดแล้วนะ Toe ต้องตั้งตาม spec นะครับ ไม่ใช่ให้ toe เป็นศูนย์ มันมีผลเรื่องความมั่นคงในการวิ่ง แล้วก็ประสิทธิภาพการเข้าโค้ง การตอบสนองของพวงมาลัยด้วย ส่วน Caster นั้น เมื่อแกนล้อเอียง จะทำให้มีโมเมนต์ผลักล้อให้กลับเข้าสู่แนวตรงกับเส้นทางที่วิ่งเสมอครับ ดูง่ายๆ จากรถเข็นใน supermarket จะเห็นว่า "จุดที่ยึดล้อให้ติดกับตัวรถ" กับ "ดุมล้อ" มันเยื้องกันอยู่ ดังนั้นไม่ว่าเราจะดันรถเข็นไปทางไหน ล้อก็พร้อมจะหันไปทางด้านนั้นทันที จากคุณ : Nuay_Int86 - [ 17 พ.ย. 49 21:24:48 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เรียนคุณ ton99 ครับ ตามที่ผมเข้าใจ ไม่ว่าวงล้อจะใหญ่ หรือหน้าล้อจะกว้าง ก็ไม่ได้มีผลให้มุมโทต้องตั้งแตกต่างจาก Spec ที่คู่มือรถระบุครับ (ผมใช้จิตนาการนึกภาพเอาเองนะครับ) ด้วยความเคารพครับ จากคุณ : Moonlight Sonata - [ 17 พ.ย. 49 21:51:00 ]

ความคิดเห็นที่ 12 มุมแคมเบอร์  ถ้าเป็นช่วงล่างแบบปีกนกเดี่ยว เวลาบรรทุกหนักรถเตี้ยลง ล้อจะแบะออก หรือ ยกสูงขึ้นล้อจะหุบ  ถ้าเป็นปีกนกคู่ จะคงที่ไม่ว่ารถอยู่สูงหรือเตี้ย มุมแคสเตอร์ ตัวอย่างก็ตะเกียบคู่หน้ามอไซด์ครับ ยื่นไปเยอะๆ ทำให้เลี้ยวยาก แต่รถมั่นคง  ขณะที่รถบรรทุก รถบัส มันจะเป็น 0 เพราะไม่งั้นเลี้ยวไม่ไหว จากคุณ : หมูน่ารักจริงๆ - [ 17 พ.ย. 49 21:55:05 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อย่าไปซีเรียสกับเครื่องตั้งศูนย์มากเลยครับ คุณไม่สามารถใช้ทฤษฎีเพียวๆกับชีวิตจริงได้หรอกครับ นาฬิกาแต่ละเรือนยังเดินไม่ตรงกันเลย นับประสาอะไรกับเครื่องตั้งศูนย์ล่ะครับ? อันนี้เป็นความคิดเห็นของผมนะครับ คุณ ton99 มักจะอ้างอิงกับทฤษฎีเสมอๆ ตั้งแต่เรื่องไมล์แข็ง ไมล์อ่อนแล้ว ไม่มีเครื่องวัดใดๆในโลกจะเที่ยงตรงหรอกครับ มันมีแต่อนุมานว่าเที่ยงตรงเท่านั้นเอง อีกนิด การที่ตั้งศูนย์จากที่นึง แล้วไปวัดอีกที่นึง ล้อได้มีการขยับ เกลียวที่ปรับตั้งมันก็มีโอกาสที่จะหมุนแน่นขึ้น หรือคลอนลง ได้ทั้งนั้น ยางกันฝุ่นอะไรมันก็มีโอกาสให้ตัวได้ทั้งนั้น เมื่อมันให้ตัวได้ องศาที่วัดมันก็มีสิทธิ์คลาดเคลื่อนได้ตลอดเวลาอยู่แล้วครับ ตั้งศูนย์แล้ววิ่งตรง ไม่กินซ้ายขวา แค่นี้ก็น่าจะพอใจแล้วนะครับ ค่าศูนย์ในคู่มือ เป็นค่ากลางๆที่บริษัทรถได้กำหนดขึ้น การที่เราจะปรับเปลี่ยน แก้ไข ก็สามารถกระทำได้ ไม่อย่างงั้นพวกรถ Drag คงตั้งตามสเปกศูนย์กันหมดแล้วครับ คงไม่ต้องมานั่งเลื่อนจุดยึดโช้ค ให้มุมโน้นมุมนี้เปลี่ยนแปลงหรอกครับ จากคุณ : athlon1400 - [ 18 พ.ย. 49 02:57:52 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตั้ง 0 มันเป็นเรื่องของเซนส์ + ประสบการณ์ด้วย แต่ที่เจอส่วนใหญ่ ก็อย่างที่คุณต้นบอกอะแหละ ตั้ง 0 เด๊ะ ๆ บางที่ยังหาที่ตั้งล้อหลังไม่เจอเลย ต้องไปชี้ ๆ ๆ (แล้วก็นึกในใจ มันทำเป็นแน่เหรอฟะ) จากคุณ : Aop - [ 18 พ.ย. 49 08:39:52 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ผมรู้ครับว่ามันเพี้ยน  ผมก็ไม่ต้องการให้มันได้อะไรเป๊ะๆหรอก ทั้งวิทยาศาสตร์ และ พุทธศาสนา พูดตรงกันคือ โลกนี้ไม่มีอะไร 100% ขนาด ton ยังแค่ 99 เลย อย่างเรื่องเข็มแข็งเข็มอ่อน เพี้ยน 4-5% ผมรับได้ครับ แต่ที่ผมรับไม่ได้คือ  คนขับรถยี่ห้อ A ไปว่ารถยี่ห้อ B เข็มอ่อน จึงต้องมาวัดกันให้ดูชัดๆครับ  ว่าทั้ง A และ B มันก็อ่อนๆเหมือนๆกัน ฉะนั้นอย่ามาพูดข่มกันจะดีกว่า กลับมาเรื่องเครื่องตั้งศูนย์ ล่าสุดผมเข้าไปร้านนึง สั่งให้ตั้งล้อหลังโทอิน 2mm แต่ร้านดันไปสุดได้แค่ 1.3mm ผมก็เลยเอาตามนั้น ขับเข้าโค้ง  ท้ายเกาะดีกว่าเดิมชัด  แต่ขับทางตรงเหมือนล้อมันขืนๆ ผมเลยมาเล็งและวัดแบบคราวๆแล้วคำนวณเอา  พบว่าโทอินมันจะตก 3-4mm เลยไปที่อีกร้าน เครื่องวัดออกมาได้โทอิน 2.9mm กับ 4.9mm แบบนี้ผมว่ามันไม่นิดหน่อยนะครับ  เพราะว่าผิดกันไป 3 เท่า กินยางเห็นๆครับ  แต่ยอมรับว่าเข้าโค้งดีมาก มีผู้รู้บอกเอาไว้ว่า  การตั้งศูนย์มีจุดมุ่งหมาย อยู่ 2 แนวทาง แนวทางที่ 1 คือ ตั้งให้รถวิ่งตรง ไม่กินซ้ายขวา  ยางสึกน้อย  แบบที่คุณ athlon1400 พูดเอาไว้ แนวทางที่ 2 คือ ตั้งให้รถได้เกาะยึดเกาะและการควบคุมดีที่สุด  เรื่องกินยางไม่สน ส่วนผมโลภมากครับ อยากได้ทั้งสองแนวทาง จึงต้องมาหาค่ากลางๆจากทั้งสองแนวทาง  แล้วเอามาเลือกใช้เอง จากคุณ : ton99 - [ 18 พ.ย. 49 16:07:33 ]

ความคิดเห็นที่ 16 รถขับหน้า(ถ้าไม่มีข้อมูลจากผู้ผลิต) toe inหน้า ประมาณ0ถึง1 มม หลัง 3ถึง4มม. จากคุณ : ป๋า - [ 19 พ.ย. 49 23:01:44 A:unknown X:203.149.16.34 TicketID:110672 ]