ความคิดเห็นที่ 1 ตอบก่อนว่า ไม่ได้ ส่วนเหตุผล ลองดูด้านล่าง เคยตอบเรื่องปรีแอมป์ กับพาวเวอร์แอมป์ ไว้ในกระทู้เก่า แต่นานมากคงลบไปแล้ว ขอยกมาทั้งกระทู้ ยาวหน่อยแต่น่าจะเข้าใจได้นะครับ      ปรีแอม มีไว้ทำอะไรครับ      คือว่าผมติดในรถแจ๊ส      1.front pioneer dvd +จอ lcd pioneer      2.คู่หน้าแยกชิ้น6.5 performance      3.คู่หลังแยกชิ้น 6.5 bluewave      4.amp. bluewave 4ch      อยากแรกคือ ตอนสตาร์รถยังไม่เปิดเครื่องเสียง มีเสียงซ่าๆจากลำโพงเสียงแหลมด้านคนขับ (อันเีดียวเลย) ก็ให้ช่างแก้ให้หาย แต่เวลารอเปลี่ยนเพลงใหม่ มีเสียงซ๋าๆออกจากลำโพงเสียงแหลม ช่างก็บอกว่าต้องติดปรีแอมป์ จะทำให้เสียงนั้นหายไปได้ ก็เลยอยากขอความรู้ว่ามันช่วยได้จริงป่าว ไม่ใช่อะไรครับเสียตังก์ไปเยอะแล้วไม่อยากเสียอีก      และอีกปัญหาคือลำโพงเสียงกลางด้านคนขับ เป็นอยู่อันเดียว เสียงมันดังเบา ขาดๆ หายๆ เวลาเป็นมันเอาแน่ไม่ไ้ด้ ผมให้ช่างเค้าเช็คแล้วเค้าก็ว่าไม่เป็น ผมก็ลองฟังสัก2 นาที ก็ไม่เป็น ซวยเลย เอากลับบ้านไป แต่ทุกวันนี้ลองเอาหูแนบฟังก็เป็น (แอบทุบๆๆ ก็ไม่หาย)ฟังเทียบกับลำโพงตัวอื่นๆก็เสียงดังฟังชัดดี ก็เลยไม่รู้จะทำยังไง ถ้าไปที่ร้านแล้วไม่เป็นอีก ก็น่าแหก (รื้อประตูไม่เป็นเสียด้วย อยากดูว่าสายหลวมหรือป่าว)      รบกวนเพื่อนๆ 2 คำถามครับ ขอบคุณครับ      จากคุณ : knu+ - [ 29 ต.ค. 49 21:59:33 ]                        ความคิดเห็นที่ 1                  ตอบข้อแรกก่อนครับ                  ปรีแอมป์ คือแอมป์ที่มีกำลังขยายต่ำ แต่ความเที่ยงตรงสูง (ความเพี้ยนต่ำ)                  ใช้ขยายสัญญาณอ่อนๆ จากต้นทาง เช่นซีดี เนื่องจากความที่ปรีแอมป์ มีความเพี้ยนต่ำ ถ้าสร้างให้มีกำลังขยายมาก ก็จะแพงมหาศาล                  ในทางกลับกัน แอมป์ คือแอมป์ที่มีกำลังขยายสูง แต่ความเที่ยงตรงต่ำ (ความเพี้ยนสูง)                  ใช้ขยายสัญญาณที่ค่อนข้างแรง ที่ออกมาจากปรีแอมป์อีกที ถ้าสร้างแอมป์ให้มีความเพี้ยนต่ำ ก็จะแพงมหาศาลเช่นกัน                  เพื่อลดต้นทุน จึงใช้ปรีแอมป์ขยายสัญญาณ "อย่างเที่ยงตรง" ให้มีความแรงขึ้นมาสักหน่อยก่อน แล้วจึงให้แอมป์ขยายต่อให้ดัง ตรงนี้จะเพี้ยนบ้างก็ยอม และที่ความดังมากๆ จะเพี้ยนบ้าง เราก็แยกไม่ออก                  สมมุติเป็นเครื่องถ่ายเอกสาร ถ้าจะถ่ายขยายจาก A5 -> A0 โดยภาพยังชัดมากๆ ก็ต้องใช้เลนส์ดีมากๆ ก็จะแพง                  เลยใช้วิธีถ่ายจาก A5 เป็น A3 ก่อน (ปรีแอมป์) แล้วค่อยเอา A3 ไปถ่ายเป็น A0 อีกที (แอมป์) ทีนี้ถ้าช่วง A5 -> A3 เพี้ยน ช่วง A3 -> A0 ก็ยิ่งเพี้ยนหนัก โดยงบประมาณที่จำกัด จึงยอมทำดีมากๆ แค่ช่วงแรกเท่านั้น                  ========================================                  ส่วน เสียงซ่าที่ออกมา ประกอบกับคำตอบของช่าง ทำให้ผม "เดา" ว่า น่าจะเกิดจากการ "เร่ง" แอมป์มากเกินไป เทียบได้กับการพยายามขยาย A5 -> A0 ในคราวเดียว ทำให้ "สัญญาณรบกวนต่างๆ" ถูกขยายออกมา "ฟ้อง" ด้วย                  ช่างแนะนำให้ติดปรีแอมป์ เพื่อจะแบ่งเบาภาระช่วง A5 -> A3 แล้วลดกำลังของแอมป์ ให้ขยายช่วง A3 -> A0 จะได้ไม่ "ฟ้อง" อะไรมากนัก                  ========================================                  ทีนี้ต้องดูว่า อุปกรณ์ที่เลือกใช้ทั้งหมด มีสัญญาณรบกวนมากน้อยเพียงใด หรือมาจากการติดตั้งของร้าน สัญญาณที่เกิดขึ้น มาจากการกวนของเครื่องยนต์หรือเปล่า                  เมื่อได้สมมุติฐานมาแล้วก็ทดสอบไม่ยาก                  ดับเครื่องยนต์ แล้วเปิดเครื่องเสียง                  - ถ้ายังมีเสียงรบกวน ก็อาจมาจากตัวเครื่องเสียงเอง หรือฝีมือติดตั้ง ถ้าไม่มีเสียงรบกวน เดาได้ว่าเสียงรบกวนมาจากภายนอก (ซึ่งก็คือเครื่องยนต์) ตัวอุปกรณ์ หรือการติดตั้ง หรือทั้งสองอย่างรวมกัน ไม่สามารถป้องกันการรบกวนได้                  ถ้าเสียงรบกวนมาจากตัวเครื่องเสียง และอุปกรณ์เอง ขอลองตัวใหม่ ลองในร้านเลย ไม่ต้องเอามาติดตั้งกับรถ                  ถ้าเป็นเหมือนกันทุกตัว คงต้องทำใจ เพราะมาจากโรงงานอย่างนี้แล้ว                  แต่ถ้าลองในร้านเงียบ แสดงว่าตัวที่เอามาติด หรือฝีมือช่างมีปัญหา ก็ไล่กันไป                  ========================================                  ช่วงต่อรอง อาจให้เค้าลองเอาปรีแอมป์มาเสียบดูก่อน ยังไม่ต้องติดตั้ง ถ้าหายก็บอกขอลองตามข้างบนก่อน เผื่อจะเจอสาเหตุอื่น แต่ถ้าไม่เจอ คุณอาจต้องซื้อปรีแอมป์ตัวนี้                  หรือหากช่างลองเอาปรีแอมป์มาเสียบแล้ว ไม่หาย แสดงว่าช่าง "มั่ว" อย่างนี้ไล่กันเหนื่อยครับ                  จากคุณ : จั๊กกะจี๋ - [ 30 ต.ค. 49 03:08:31 ]                                                      ความคิดเห็นที่ 2                  ว่าจะเข้ามาตอบ  มีแบบละเอียดไปซะแล้ว                  ถ้า Front มี pre out ไม่แรง (น้อยกว่า 4 Voltสำหรับผมนะ) แล้ว ต้องไปเร่ง Gain ที่แอมป์ให้เยอะๆ เนี่ย จะทำให้เกิดเสียงกวนขึ้นมาได้                  ดังนั้น การไส่ pre ก็อาจช่วยได้                  1.ลองดูที่ Gain ที่ แอมป์ก่อน ว่า เร่งมากเกิน 50-75% ไหม   ลองลด Gain ที่ แอมป์ แล้ว เร่งเสียงที่front ขึ้น                  2.ลองดูวิธีการเดินสายสัญญาณเขา เดินสายสัญญาณคู่กับสายไฟจาก Battery เข้าแอมป์  ติดๆกันเนี่ยก็เสียงกวนได้                  3.Passive Crossover ตัวกล่องของลำโพงแยกชิ้นคุณน่ะ วางใกล้กล่อง ECU หรือ อุปกรณ์ อีเล็คโทรนิก ส่วนต่างๆของรถบ้างมั๊ย (อันนี้ผมเจอมาหลายที  ช่างชุ่ยชอบเอากล่องไปซุกไว้ใต้แผงแอร์ ใกล้ กล่องคุมเครื่อง กล่องคุมเกียร์  วี๊ดกระจาย เปิดแอร์เสียงนึง เร่งเครื่องเสียงนึง  ตอนนี้ผมย้ายกล่องไปไว้ที่ kickpanel หายสนิท)                  4.จุดลงกราวน์ ว่าหนาแน่นไหม                  ลองดู 4 จุดก่อน  ถ้าไม่ได้ค่อยลองหา ปรี มาไส่                  เพราะไส่ปรี บางทีก็มีวี๊ดเพิ่มอีก(ในกรณีของถูก) แถมเสียงเพี้ยนอีก  เฮ้อ!                  ส่วนข้อ 2  สายโดนประตูหนีบ รึเปล่า                  แต่ดูๆแล้ว รู้สึกปัญหาจะมาแต่จากข้างขวานะ                    ลองเล่นๆ  ลองย้าย Passive ข้างขวาไปไว้ข้างซ้ายแทน  ไม่รู้จะเสียจาก passive รึเปล่า ถ้าอาการย้างไปอยู่ข้างซ้าย  ก็ passive แล้วหละครับ                  ปล.เพราะผมเห็นว่าปัญหามีแต่ข้างซ้าย เลยอยากให้เช็คอย่างอื่นก่อนติด ตัว  (อับ)ปรี(ย์) แอมป์  ครับ                  จากคุณ : Cyber - [ 30 ต.ค. 49 11:23:38 ]                                                      ความคิดเห็นที่ 3                  ขอบคุณสำหรับคำแนะนำคร้าบบบ..                  จากคุณ : knu+ - [ 30 ต.ค. 49 20:06:22 ]                                                      ความคิดเห็นที่ 4                  ท่านจักกะจี้ และ cyber ตอบได้ละเอียดดีที่เดียวครับ ชอบวิธีการเปรียบเทียบปรีกับแอมป์จังครับ เห็นภาพดี                  ถ้ารถคันนี้เป็นของผม ผมจะทำดังนี้ครับ                  ลองทำ level matching ให้ถูกต้องก่อน วิธีการคือ                  1.ตรวจสอบโวลุ่มของวิทยุว่าสูงสุดได้ถึงตัวเลขเท่าไหร่(ในคู่มือวิทยุจะบอกไว้) เช่น jvc 0-50  สำหรับ pioneer รุ่น จอกราฟฟิคก็จะมีสไลด์บาร์ ก็จะเห็นภาพชัดเจน                  2.หาแทร็ค cd ว่างๆ มาเปิด อันนี้จะยากนิดนึง ถ้ามีเครื่องคอม เขียน cd ได้ ก็เข้าไปที่โปรแกรม sound recorder ของ windows แล้วบันทึกเสียง โดยไม่ต้องเสียบไมค์ จากนั้น ก็เขียนไพล์นั้นลงซีดี แล้วนำไปเปิดที่วิทยุ                  3.หมุน gain โวลุ่มแอมป์ ให้อยู่ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์                  4.หมุน โวล่มวิทยุ ขึ้นไปอยู่ประมาณ 2ใน3  ถ้าสูงสุด 50 ก็ปะรมาณ33                  5.หมุนgain โวลุ่มแอมป์ ขึ้นไปเรื่อยๆ ขณะนั้นให้แนบหูเข้าหาทวิตเตอร์ จะหาทวีตเตอร์มาต่อฟังที่แอมป์ก็ได้ ยกเว้นแต่คุณจะเป็นแม่นาค มือยาว  (โปรดทำขณะไม่มีเสียงรบกวน) หมุนขึ้นไปจนได้ยินเสียง ซ่า ให้หมุนกลับมาเล็กน้อย  ให้อยู่ในตำแหน่งที่เริ่มมีเสียงซ่า                  เท่านี้เป็นเป็นอันเรียบร้อย ท่านจะได้เสียงที่ดีที่สุดที่ระบบของท่านจะให้ได้ และลดการกินกระแสไฟโดยใช่เหตุของแอมป์อีกด้วย และอาจจะแก้ปัญหาเสียงรบกวนของท่านได้ด้วย ลองดูครับ นี่คือวิธีการจูนเสียงที่ถูกต้อง การจูนเสียงกับการปรับเสียงไม่เหมือนกันนะครับ เพราะการปรับแต่งเสียงเป็นการปรับ ความถึ่ เดซิเบล และ สีสันในตัววิทยุมากกว่า ผมไม่แนะนำให้ช่างหรือเจ้าของร้านปรับแต่งเสียงให้คุณ ให้เขาจูนเสียง (หรือที่เรียกว่า level matching) แค่นั้นพอ การปรับแต่งเสียงเป็นหน้าที่ของลูกค้าครับ เพราะช่างไม่ได้ฟังเพลงแบบเดียวกับที่เราฟัง เราฟัง jazz แต่ช่างเขาฟัง ลูกทุ่งครับ  ปรับเองดีที่สุด ส่วนการจูนเสียงนั้น ถ้าคุณรู้วิธีดังกล่าวแล้วก็ทำได้ด้วยตัวเอง แต่ถ้าจะไปให้ร้านทำก็ลองถามเขาดูก่อนก็ได้ครับว่าเขาจะจูนอย่างไร ถ้าไม่ใช่อย่างที่ผมบอก ท่านก็คิดเอาเองว่า จะเสี่ยงกับเขาไหม                  จากคุณ : วิดวะเชิงดอย (Thawee_CMU) - [ 1 พ.ย. 49 01:31:52 ]                                                      ความคิดเห็นที่ 5                  มาเสี่ยงที่ผมก็ได้ครับ แล้วจะรู้ว่าน่าเสี่ยง อิอิ แซวท่านวิดวะไปเรื่อย                  ลูกค้าเข้าร้านหลายๆ ร้าน ยอมเสียค่าจูน (ทั้งหมดที่ท่านวิดวะกล่าวมาอ่ะ) เสียที 4000-7000 เพื่อให้ได้เสียงที่เค้าต้องการโดยนั่งเกลี่ยกันจากที่ร้านเริ่มต้นให้ก่อน เค้าคงคิดดีแล้วน่าท่าน ลูกค้ามาหาเจ้าของร้านครับไม่ได้มาหาช่างซะหน่อย ท่านก็ อ้อ แต่เอาจูนมันส์ๆ นี่ผมก็ให้ลูกน้องบรรเลงอ่ะ เค้าจูนมันส์กว่าผมอ่ะ                  จากคุณ : MIKE_BADBOY - [ 2 พ.ย. 49 01:17:41 ]                                                      ความคิดเห็นที่ 6                  ท่าน mike ครับ (ขอชี้แจง เพราะท่านพูดพาดพิงผม... แซวกลับบ้าง...) วิธีการจูนของผมเป็นการจูนเสียงแบบเต็มประสิทธิภาพ หรือภาษาฝรั่งเขาเรียกว่า optimisation ซึ่งจะให้เสียงที่ดีที่สุด โดยเฉพาะการฟังในรถ ตามแต่กำลังของแอมป์ที่เรามี ไม่ใช่จูนกันแบบ แอมป์ซื้อมา 5000 จะเอาให้ได้เท่าเครื่อง 50000 ถ้าอย่างนั้นใครก็จูนได้ครับ(หมุนไปทางขวาให้สุด boot bass มีเท่าไหร่ใส่ให้หมด) อ้อ...ค่าจูนแอมป์ร้านผมคิดแค่ 300 บาทเท่านั้น ถูกต้องตามหลักวิชาการแน่นอน ไม่ใช่เอามันส์ แบบเปิดเพลงซะดังลั่นแล้วหนุนกันเข้าไป มันก็มันส์ซิครับ เปิดซะสนั่นขนาดนั้น                  จากคุณ : วิดวะเชิงดอย (Thawee_CMU) - [ 11 พ.ย. 49 23:37:20 ] จากคุณ : จั๊กกะจี๋ - [ 12 ธ.ค. 49 00:29:39 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตามนั้นเลยครับ จากคุณ : Cyber - [ 12 ธ.ค. 49 10:21:22 ]

ความคิดเห็นที่ 3 จุดประสงค์ของผม คือ เอา มา ต่อ เพื่อ ให้มี aux เฉยๆอะครับบ ไม่ได้ ต้องการ ขยาย หรือ ทำ ให้ เสียงดีขึ้น คือ pre -amp ผม ได้มาจากพี่ ที่เค้าไม่ใช้แล้วว ก็อยากจะลองเอามาติดดู ไม่อยาก ซื้อ power amp เพิ่ม อ่ะ เด๋วจะมาเป็นชุดใหญ่ ตัวผมเองก็เป็นคนไม่ได้เล่นเครื่องเสียงอะไรอยู่แล้วครับบ คือฟังยังไงก็ได้ แต่อยากฟัง ipodในรถได้ เพราะ front เดิมมไม่มี ช่องaux มาให้ เลยต่อ ipod ไม่ได้ แต่เห็นที่pre -amp มี ช่อง aux มาให้ กะว่า จะต่อ pre-amp แล้วเข้าลำโพง โดยเสียบipod ผ่าน ช่อง Aux แต่ไม่รู้ว่าทำ ได้ รึเปล่าอ่ะ ครับ คือเหตุผลที่ คุณ จั๊กกะจี๋ ให้มา ผมยังไม่เคลียร์อ่ะครับ แต่ก็ขอบคุณมากครับ จากคุณ : Teelek - [ 12 ธ.ค. 49 18:03:54 A:124.120.217.214 X: TicketID:113514 ]

ความคิดเห็นที่ 4 pre amp ไม่มีแรงขับลำโพงครับ ถ้าจะใส่ pre amp ก็ต้องติด amp ด้วยครับ จากคุณ : mommamz (mommamz) - [ 19 ธ.ค. 49 13:48:35 ]