ความคิดเห็นที่ 1 แม้ผมจะเคยมีโอกาสขับแจ้ส มาตั้งแต่ครั้งที่ไปร่วมทริป ขับประหยัดน้ำมัน City-Jazz Eco Challenge มาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2004 แล้ว แต่กว่าที่ผมจะหาโอกาสเหมาะๆ นำแจ้ส มาขับทดลองกันอย่างเต็มๆ ก็เพิ่งจะมีเวลา ช่วงสิ้นปีนี้เองแหละครับ ถือว่าเป็นมุมมองของผม ที่มีต่อแจ้ส ก่อนที่รถรุ่นนี้ จะมีการปรับโฉม นาโนเชนจ์ ครั้งสุดท้าย ภายในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ และในเมื่อ เป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะกล่าวถึงแจ้สรุ่นนี้ ก็คงต้องพูดกันให้ครบ ทั้งในด้านดี และด้านที่ควรปรับปรุง เพราะในอีกไม่เกิน 5 เดือนหลังจากนี้ แจ้ส ตัวถังใหม่ ก็จะเปิดตัวในญี่ปุ่นแล้ว และกว่าจะมาถึงเมืองไทย ก็ต้องรอกันไปจนถึงปีหน้า ยังพอมีเวลา ให้ทีมของฮอนด้า ยังพอปรับแต่งสมรรถนะของรถให้ดียิ่งขึ้นได้ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 01:43:18 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ก่อนที่เราจะคุยกันต่อไป มาย้อนดูกันสักหน่อยดีกว่า ว่าที่ผ่านมา สถานการณ์ ทั้งก่อน และหลังเปิดตัวฮอนด้า แจ้ส ในตลาดญี่ปุ่น และเมืองไทย เป็นอย่างไร [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 01:47:12 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ฟิต/แจ้ส สร้างขึ้นภายใต้รหัสโครงการ MK เป็นรถยนต์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อสอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของตลาดกลุ่มนี้ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมุ่งเน้นไปยังรถยนต์ที่มีรูปทรงคล้ายรถตู้เอ็มพีวีแต่มีขนาดตัวถัง เล็กกว่ากันมากขึ้น และเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่พัฒนาขึ้นบนพื้นตัวถังใหม่ GLOBAL SMALL PLATFORM ซึ่งจะเป็นพื้นฐานให้กับรถยนต์ขนาดกระทัดรัดรุ่นใหม่ๆใน โครงการที่ชื่อ SMALL MAX ที่ทะยอยตามออกมาภายหลัง ทั้ง City Mobilio Mobilio-Spike Airwave  และถือเป็นรถยนต์รุ่นสำคัญในแผนยุทธศาสตร์ของ ฮอนด้าเพื่อการบุกตลาดทั่วโลกซึ่งรวมถึงประเทศไทย เพราะที่ผ่านมา หลังประสบความสำเร็จจากแฮตช์แบ็ค 3 ประตูรุ่น ซิตี้ เมื่อช่วงปี 1981-1986 (คนละรุ่นกับเมืองไทย) ฮอนด้าก็ไม่เคยลิ้มรสความสำเร็จจากก้อนเค้กส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่ม B-SEGMENT นี้อีกเลยจนต้องถอนตัวจากไปในปี 1990 ก่อนจะหวนกลับมาหยั่งเชิงอีกครั้งในปี 1996 ด้วยรุ่นโลโก ซึ่งเป็นรถยนต์ที่...แม้จะไม่ประสบความสำเร็จในด้านยอดขายเท่าที่ควร แต่ถือเป็นรุ่นที่ช่วยให้ฮอนด้าเก็บข้อมูลความต้องการของตลาดกลุ่มนี้มาได้เหลือเฟือ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 01:51:18 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ฮอนด้าพยายามที่จะบุกตลาดรถยนต์แฮทช์แบ็คขนาดกระทัดรัด ในกลุ่ม ซับ-คอมแพคท์ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เริ่มจากรุ่นแรกของซิตี้ ในปี 1981 (คนละรุ่นและไม่มีความ เกี่ยวพันใดๆกับซิตี้ ซีดานในเมืองไทย) ที่ประสบความสำเร็จทะลุความคาดหมาย จนฮอนด้าได้ใจส่งรุ่นเปลี่ยนโฉมโมเดลเชนจ์ของซิตี้ กลับสู่ตลาดอีกครั้งในปี 1986 แต่แล้ว เมื่อความนิยมรถยนต์ขนาดเล็กในญีปุ่นเริ่มลดลง ซิตี้ รุ่นที่ 2 จึงไม่ได้รับความนิยมนัก จนต้องหายหน้าออกจากตลาดไป และปล่อยให้น้องสาวที่เล็กกว่าอย่างรุ่นทูเดย์ ที่มียอดขายไปได้ดีกับกลุ่มตลาด K-CAR (เครื่องยนต์ไม่เกิน 660 ซีซี) รับหน้าเสื่อไปก่อน จนกระทั่งความนิยมในรถยนต์แฮตช์แบ็คซับ-คอมแพคท์กลับมาบูมในตลาดโลกอีกครั้ง ซิตี้จึงกลับมาแจ้งเกิดใหม่อีกครั้งในชื่อ โลโก้ เมื่อเดือนตุลาคม 1996 และอยู่ในตลาดต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยส่วนหนึ่งถูกส่งออกไปชิมลางยังตลาดยุโรปอีกด้วย [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 01:52:15 ]

ความคิดเห็นที่ 5 การที่ฮอนด้าตัดสินใจเปลี่ยนแนวคิดใหม่ และไม่ยึดติดกับแนวคิดแฮตช์แบ็กมาตรฐาน แบบที่เคยมีมาในโลโก เปลี่ยนแนวคิดใหม่ให้มีรูปทรงเป็นแบบซับ-คอมแพคท์ เอ็มพีวี เนื่องจากกระแสความนิยมรถยนต์ประเภทนี้เริ่มแพร่ขยายจากยุโรป จนลามไปทั่วโลกอย่างช้าๆ ขณะเดียวกัน ลูกค้าในญี่ปุ่นเองก็เรียกร้องให้มีรถยนต์ที่ให้ความอเนกประสงค์ ของห้องโดยสารแบบนี้ในตลาดมากขึ้น แนวโน้มของลูกค้าที่ไม่ได้มุ่งเน้นสมรรถนะของรถ หากแต่มองหาการปรับเปลี่ยนเบาะนั่งให้ได้ประโยชน์ใช้สอยสูงสุด กลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ลูกค้าเรียกร้อง ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ฮอนด้าจะต้องเปลี่ยนตำแหน่งตลาด ของรถยนต์รุ่นนี้เสียใหม่ จากเดิมที่แข่งคั่วกันอยู่กับโตโยต้า วิทซ์/ยาริส นิสสัน มาร์ช/ไมครา และไดฮัทสุ ชาเรด จนกลายเป็นรถแฮตช์แบ็ก ดีไซน์ใหม่ ที่ไม่เหมือนคู่แข่งคันใด ในขณะนั้น หรือถ้าเรียกให้ดูดี มันก็จะคล้ายกับสโลแกนของรถยุโรปยี่ห้อนึง ที่เลิกใช้ไปนานแล้ว ก็คือ In a class of its own จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 01:57:25 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สำหรับเมืองไทยแล้ว การนำแจ้สเข้ามาทำตลาดในเมืองไทย ส่วนหนึ่ง ต้องยอมรับว่า เกิดขึ้นจาก การเปิดตัว ฮอนด้า ซิตี้ รุ่นปัจจุบัน เมื่อ 12 ตุลาคม 2002 ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร สาเหตุมีทั้งการเปิดตัวด้วยเครื่องยนต์ 1,500 ซีซี แต่ให้แรงม้าน้อยลงเหลือเพียง 88 แรงม้า แรงกว่า เครื่อง L13A ของ แจ้ส 1,300 ซีซี เวอร์ชันญี่ปุ่น แค่ 2 แรงม้า เท่านั้น! อีกสาเหตุสำคัญคือ รูปทรงภายนอก ที่แยกดูเป็นชิ้นๆ หนะ สวย แต่พอจับมารวมกันทั้งคัน บอกกันตรงๆเลยว่า น่าเกลียดมาก และดูไม่ได้ ก็คิดดูแล้วกันว่าดีไซน์ดูไม่ลงตัวขนาดว่าส อาจารย์ หมวดภาษาไทย ที่โรงเรียนเก่าของผม พร้อมใจกันขนานนาม ซิตี้ ว่า เป็น "อุทัยเทวี ติดล้อ!" ธ่อ หมดกัน! แต่สาเหตุหลัก อยู่ที่การประเมิณความต้องการของ ลูกค้าในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ไว้ผิดพลาด คือ ไปมองว่า ลูกค้า น่าจะอยากได้ รถเก๋ง ซีดาน ที่ให้ความอเนกประสงค์เต็มที่ ไม่ต่างจาก ฮอนด้า ฟิต/แจ้ส แถม ไหนๆก็ไหนๆ ผลิตขายในไทยทั้งที ก็ยังสามารถทำขายส่งออกกลับไปยังญี่ปุ่น อุดช่องว่าง ซับ-คอมแพกต์ ซีดาน ขนาดเล็ก ได้อีกต่างหาก! แต่ทั้งหมดนี้ ในตอนนั้น ฮอนด้าคิดวางแผนไว้คร่าวๆ อย่างนี้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องนำแจ้สเข้ามาขาย และนั่นทำให้ยอดขาย ของซิตี้ ไม่อาจสู้ โตโยต้า วีออส 503N / NCP42 ได้เลย ตั้งแต่เปิดตัว จนถึงทุกวันนี้ ฮอนด้าเอง เหมือนจะรู้ตัวล่วงหน้าแล้ว สุดท้าย ก็เลยต้องนำแจ้ส เข้ามาผลิตขาย อยู่ดี... จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 02:05:51 ]

ความคิดเห็นที่ 7 โอ้วมาซะดึกเลยนะ กล้วยหอมสีเหลือง จากคุณ : RMS_JUNG - [ 29 ม.ค. 50 02:16:22 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แต่ให้พูดก็พูดเถอะ การเปิดตัวของแจ้สในบ้านเรา นับว่าเป็นการตัดสินใจแก้เกมที่ดีของฮอนด้า แม้จะเป็นการเปิดตัวช้ากว่าในญี่ปุ่น ถึง 2 ปีกว่าๆ เพราะถือเป็นการกลับมาเปิดศักราชใหม่ ที่ท้าทาย ทุกผลการวิจัยตลาดว่า คนไทยไม่สนใจรถยนต์แฮตช์แบ็ก วันนี้ คนไทยเริ่มให้การยอมรับกับรถยนต์แฮตช์แบ็กได้มากขึ้นแล้ว เหตุผลที่ มาช้า เพราะในระหว่างการเตรียม ซิตี้ ออกมาขายนั้น ตอนนั้น ฮอนด้าเอง ก็ยังหวั่นใจว่า ไม่น่าจะประสบความสำเร็จ แผนสำรอง เผื่อเหลือเผื่อขาดไว้ คือการกัดฟัน นำแจ้สมาขึ้นไลน์ในไทย ซึ่งทีมงานก็ต้องตอบโจทย์อันท้าทายให้คนญี่ปุ่นจงได้ ว่า การนำรถแฮตช์แบ็กท้ายตัดมาเปิดตลาดแบบนี้ จะ "ฮิต" สักแค่ไหน? เพราะจะให้ดังเปรี้ยงปร้าง แบบเดียวกับ ซีวิค 3 ประตู ที่ขายกระฉูดได้ เพราะราคาขาย เป็นสำคัญ (เริ่มต้นที่ 361,000 บาท) นั่นมันไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะค่าเงิน และต้นทุนมันเปลี่ยนไปแล้ว ตามเวลาที่หมุนผ่าน แต่เมื่อเช็คกระแสแล้ว คนไทย ยังพร้อมจะรับ แจ้ส อยู่ เพระกระแสความร้อนแรงของแจ้ส ในญี่ปุ่น (ภายใต้ชื่อ ฟิต) ถูกส่งตรงถึงการรับรู้ของคนไทย ผ่านทางอินเตอร์เน็ต และสื่อต่างๆ ยิ่งพอได้รางวัลรถขายดีที่สุด ในปี 2002-2003 ที่ญี่ปุ่น โค่นแชมป์ 28 ปี อย่างโตโยต้า โคโรลล่า ลงได้ นั่นคือเรื่องที่ไม่ธรรมดาอย่างยิ่งสำหรับวงการรถยนต์ ญี่ปุ่น ความอยากได้แจ้ส ของวัยรุ่นชาวไทย ก็เลยเริ่มต้นจริงจัง จนฮอนด้าคิดว่า เอาละ งานนี้คงต้องเสี่ยงกันสักตั้ง ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่ว่า ทำไม แจ้สถึงมาเมืองไทย ล่าช้ากว่าญี่ปุ่น 2 ปีกว่าๆ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 02:19:33 ]

ความคิดเห็นที่ 9 และเมื่อเสี่ยงแล้ว ถึงแม้เมื่อนำยอดขายรวมกันทั้ง 2 รุ่น ซิตี้ กับ แจ้ส ไม่อาจจะสู้ยอดขายรวมของ โตโยต้า ในตลาดซับ-คอมแพกต์ได้ แต่ การเปิดตัวของแจ้ส ก็สร้างกระแสความนิยมในบ้านเรา อย่างสูง จนทำให้ยักษ์เจ้าตลาดอย่างโตโยต้า ยอมดีดลูกคิด คิดไปคิดมา ส่ง ยาริส เข้ามาประกอบขายในบ้านเรา เมื่อเดือนมกราคม 2006 ทั้งที่ตัวรถสดใหม่กว่า แต่ด้วยราคาที่แพงเกินไป และวัสดุในห้องโดยสาร ที่ เน้นการรีไซเคิลมากจน ดู Look cheap ไม่สมราคาที่ตั้งไว้แพงมาก โดยรุ่นท็อปตั้งไว้ถึง 750,000 บาท อีกทั้ง การสื่อสารการตลาด สู่ผู้บริโภค ไม่ชัดเจน ตั้งแต่แรก คือ จะเน้นวางตำแหน่งการตลาด ในฐานะของ พรีเมียม คอมแพกต์ ทั้งที่ตัวรถ เป็นซับ-คอมแพกต์ แฮตช์แบ็กธรรมดา 1 รุ่น แถมลูกค้ายังตั้งความหวังไว้ว่า ราคาน่าจะถูกกว่า หรืออย่างน้อย ควรจะเท่าๆกันกับวีออส ปัจจัยทั้งหมดนี้ ทำให้การเปิดตัวช่วงแรกของยาริส สะดุดขาตัวเองล้ม และฮอนด้า ก็เลย ออกมาประกาศในวันรุ่งขึ้น หลังวันเปิดตัวยาริสว่า "ฮอนด้า ไม่กลัวยาริส" ยอดขายสิ้นปี คือตัวเลขที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่า ถ้า ยาริส ไม่ได้การอัดแคมเปญ และข้อเสนอทางการเงินช่วย ในช่วง เดือน ที่ 2 ที่เริ่มทำตลาดเป็นต้นมา ยอดขายยาริส จะไม่ดีอย่างที่เป็นอยู่ ปิดปี 2006 ไป ยอดขายของ แจ้ส อยู่ที่ระดับ 16,000 คัน ขอไม่บอกตัวเลขที่ชัดเจนแล้วกัน แต่เพียงแค่นี้ ก็น่าจะเพียงพอที่ให้คุณๆได้เดากันเล่นๆว่า ยอดขายยาริส ที่แท้จริง น่าจะอยู่ที่กี่คัน.... [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 02:29:23 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สถานการณ์ที่ผ่านมา ก็อย่างที่คุณๆรู้กันดีครับ แจ้ส เปิดตัว ครั้งแรกในไทย 28 พฤศจิกายน 2003 หรือ 1 ปี หลังการเปิดตัวซิตี้ รุ่น 2 จากนั้น 1 ปีถัดไป ในเดือนพฤศจิกายน 2004 เพิ่มรุ่นเครื่องยนต์ VTEC 110 แรงม้า ทำตลาด ตามเสียงเรียกร้องของลูกค้า และตามเกมที่ตนวางเอาไว้ นี่ยังไม่นับสารพัดรุ่นย่อยพิเศษ ทั่ง Jazz Cool Jazz Extreme ฯลฯ ที่ผมขี้เกียจจะนับจะจำด้วยแล้วนะครับ มีนาคม 2006 ปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ ซึ่งเป็นรุ่นที่คุณๆจะเห็นอยู่นี้ และพิเศษกับรุ่นสีเหลือง ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวได้จังหวะ ชนกับกระแสผ้าโพกหัวสีเหลือง เรียกร้องโดย สนธิ ลิ้มทองกุล ให้อดีต นายกทักษิณฯ ลงจากตำแหน่ง ในเวลานั้นได้อย่าง ฮา มิใช่เล่น! ก็ขนาดวันเปิดตัว ยังมี พี่ที่ผมรู้จักคุ้นเคยกัน สวมผ้าโพกหัวสีเหลือง ตัวอักษร "กู้ชาติ" สีแดงตัวเบ้อเร่อ เรียกเสียงฮือฮา และเสียงฮา ของแขกเหรื่อในงาน ได้ชนิดที่ ทั่นประธาน โทดะ ของฮอนด้าเอง ก็ปาดเหงื่อขำขำ และได้แต่บอกว่า "เราออกรถสีนี้มา มิได้ มีนัยยะทางการเมือง หรือจะประกาศตัวว่า เราอยู่ฝ่ายคุณสนธิ แต่อย่างใด" (ฮา) เปลี่ยนกระจังหน้า และลายเปลือกกันชนหน้า ตามเกรด รุ่นย่อย อย่างรุ่น ท็อป จะใช้ลายกระจังหน้าแบบนี้ ขณะที่รุ่นล่างลงไป จะเป็นอีกลายหนึ่ง ไฟท้ายทุกรุ่น เป็น LED ทั้งหมด แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 50 02:37:33 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 02:36:10 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แต่พูดก็พูดเถอะ สีตัวถังเนี่ย ใครว่า เหมือนรถขยะ กทม???? คุณเข้าใจผิดแล้ว!! อย่างมหันต์เสียด้วย!! ผมเอาไปจอดเทียบมาแล้วครับ เบอร์สีไม่เห็นจะตรงกันสักหน่อย!! [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 02:39:25 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เบอร์สีที่ผมว่าใกล้เคียงกว่าหนะ คือสีของ เจ้านี่ต่างหาก! คิคิ จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 02:45:07 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อ้อ ไฟหน้า เนี่ย ถ้ารมดำ ไปเลย มันจะเข้าท่ากว่า ทำตามแบบเวอร์ชันญี่ป่นเป๊ะๆ อย่างนี้หนะครับ จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 02:48:27 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ... จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 03:08:21 ]

ความคิดเห็นที่ 15 .. จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 03:11:12 ]

ความคิดเห็นที่ 16 มาดูห้องโดยสารกันดีกว่าครับ ฟิต/แจ้ส เป็นรถที่ เป็นมิตร ต่อผู้ใช้ มากว่าที่เราจะคิดกัน ด้วยการออกแบบ ภายใต้แนวคิด Man Maximum , Machine Minimum อันเป็นแนวทางที่ฮอนด้าใช้มาตลอดกับรถขนาดเล็กของตนหลายๆรุ่น ในช่วง 3 ทศวรรษ ที่ผ่านมา [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 03:13:52 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ในรุ่นใหม่ เปลี่ยนมาใช้ผ้าเบาะกำมะหยี่ ที่นอกขจากดูสปอร์ตแล้ว พูดกันตรงๆเลยเต็มปากว่า ให้สัมผัสที่ดีกว่า ผ้าหุ้มเบาะของ โตโยต้า ยาริส อีกทั้ง เบาะนั่งคู่หน้า ยังนั่งได้นาน โดยไม่ก่อให้เกิดอาการเมื่อยล้า สำหรับแผ่นหลังที่พร้อมจะปวดเมื่อยได้ง่ายทุกเมื่ออย่างผม ตรงกันข้ามกับเบาะนั่งคู่หน้าของยาริส ที่ติดตั้งไว้ในตำแหน่งสูงกว่า อาจช่วยให้คุณผู้หญิงชอบ เพราะเหมือนน่ามองเห็นระยะไกลได้ชัดดี แต่พอเอาเข้าจริงแล้ว ขับทางไกลเมื่อไหร่ อาการปวดเมื่อยบั้นเอวจะเริ่มมาเยือน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะตำแหน่งพวงมาลัยของยาริสนั้น ติดตั้งไว้ต่ำเกินไป ต่อให้ปรับระดับสูงต่ำ ช่วยแล้ว ก็ไม่ได้ช่วยให้ อะไรๆ ดีขึ้นเท่าใดเลย ขณะที่แจ้ส ลืมปัญหานี้ไปได้เลย การเข้าออกจากรถ นอกจากจะสะดวกสบายแล้ว อาการปวดหลัง แทบจะไม่พบเลย ตำแหน่งพวงมาลัย ติดตั้งไว้อย่างเหมาะสม ดังนั้น การปรับระดับสูงต่ำ ช่วยนั้น จะยิ่งช่วยเพิ่มความละเอียดในการปรับตำแหน่งที่เหมาะสม ให้กับทุกความต้องการได้ดีกว่า [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 03:18:57 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ประตูคู่หลัง การเข้าออก ไม่ยาก ถือว่าพอๆกัน [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 03:20:51 ]

ความคิดเห็นที่ 19 แต่เบาะนั่งด้านหลังนั้น พนักพิงหลัง แข็ง ก็จริง แต่ถือว่ายังพอให้ความสบายในการเดินทางได้ดีกว่ายาริส ซึ่งทั้งพนักพิง และเบาะรองนั่ง แข็งมากเกินไป จนชวนให้นึกถึงเจ้าเรนจ์ โรเวอร์ สปอร์ต คันละ 9.8 ล้านบาท คันนั้น อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ขึ้นมาโดยสารกับผม บนเบาะหลังของแจ้ส ก็ยังพอมีเสียงบ่นให้ได้ยินว่า ยังนั่งไม่ค่อยสบาย.... [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 03:24:37 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แต่อย่างน้อย ก็มีอยู่คนนึง... ที่เล่นอาศัยพื้นที่ ซึ่งมีคนบ่นว่าไม่ค่อยสบายนั่นละ ยึดเป็นที่นอนเสียเสร็จสรรพ! แถมยังหลับไปอย่างไม่รู้สึกตัวด้วยอีกแหนะ! ปล่อยให้เพื่อนฝูงอย่างผม ต้องเป็นสารถี ขับฝ่าความมืดกับน้องกิต Homy Demio กันตามลำพัง! ขอเอาเพื่อนสมัยเรียน มาเผากันตรงนี้หน่อยคงไม่ว่ากันนะครับ อิอิ จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 03:26:39 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เบาะหลังของ แจ้ส พับให้แบนราบ ไปกับพื้นห้องเก็บของด้านหลังได้ สะดวกต่อประชาคมชาวบ้าหอบฟาง เป็นอย่างยิ่ง [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 03:28:11 ]

ความคิดเห็นที่ 22 แต่จุดเด่นที่ยากจะหาเจอในรถยนต์ไม่ว่าจะระดับเดียวกันนี้ หรือระดับสูงกว่าเป็นไหนๆ นั่นคือ เบาะรองนั่ง สามารถพับเก็บ แบบเดียวกับเบาะในโรงภาพยนตร์ แต่ต่างกันที่ เบาะนี้ สามารถล็อกในตำแหน่งนี้ได้ ในแค็ตตาล็อก เขาถ่ายรูปออกมาเป็น การขนกระถางต้นไม้ แน่จริง ขนไม้สักให้ได้ดิ คิคิ.. [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 03:30:02 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อีกอาวุธสำคัญของแจ้ส ที่ถือเป็นจุดขายหลักของเขาคือ ห้องเก็บของด้านหลังนั่นเอง [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 03:32:30 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อ่ะ อ่ะ อ่ะ คิดอยู่ละสิว่า รูปต่อไป ต้องเป็น รูป ผม นอนเป็นพะยูนเกยตื้น อยู่หลัง แจ้สกล้วยน้อยคันนี้ คุณๆ ทายผิดแล้วละ จะให้ผมไปนอนเอกเขนก ถ่ายรูปมาให้คุณๆได้ฮากันเล่นเนี่ยะ ยากส์! แต่ ผมก็หาโอกาสทดลองพับเบาะไว้นอนเล่นได้แล้วละ ถ้าคุณพี่ Gondorus มาอ่านเจอกระทู้นี้ ช่วยย้อนระลึกไปถึงคืนที่ผมกับพี่ นอนกลิ้งไปกลิ้งมา คุยโทรศัพท์ นอนไปคุยถก ถลก เรื่องราวในวงการรถยนต์กัน ตอน ตี 2 กว่าๆ ปาเข้าไป ตี 3 นั่น... ตอนนั้นแหละครับ ที่ผมใช้ประโยชน์เต็มที่ จากการที่แจ้ส พับเบาะเอนราบได้เต็มที่นั่นเอง!! ตัวขนาดผม นอนกลิ้งไปกลิ้งมา ในพื้นที่หลังรถแจ้สได้แล้วกัน! หึหึ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 03:36:56 ]

ความคิดเห็นที่ 25 สิ่งที่น่าอภิรมณ์ที่สุดของแจ้ส ในสายตาผมคือ แผงหน้าปัด ออกแบบมาได้ดี และเน้นฟังก์ชันการใช้งานเป็นหลัก มาก่อนรูปลักษณ์ ตามสไตล์ของฮอนด้า จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 03:40:07 ]

ความคิดเห็นที่ 26 แต่คราวนี้ แตกต่างจากคราวก่อนคือ มันมาพร้อมความสวย และพื้นผิวสัมผัส ที่ชวนให้รู้สึกว่า หนักแน่น แข็งแรง น่าใช้   มากกว่าพลาสติกที่อยู่บนแผงหน้าปัดของยาริส [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 03:42:58 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ชุดแผงหน้าปัดในภาพรวม แจ้ส จะยึดโทนสีตกแต่งภายใน อยู่ในโทนสีดำ ในรุ่นท็อป VTEC และสีเทาในรุ่น i-DSi [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 03:45:12 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ชุดมาตรวัด ที่ปรับปรุงใหม่ และมีเฉพาะรุ่นท็อป SV เท่านั้น ที่จะเรืองแสงได้โดยอัตโนมัติอย่างนี้ แล้วฮอนด้า ก็มีอะไรแปลกๆให้เราได้เห็นกัน คือ จู่ๆ ก็มีที่ปรับความสว่างของชุดมาตรวัดมาให้ ในรุ่นท็อป ทั้งที่เมื่อก่อนไม่มีให้ เมื่อมองดูพี่น้องร่วมตระกูลในตอนนี้ แจ้ส มีมาให้ ซีวิคใหม่ ก็มีมาให้ ซีอาร์-วี ใหม่ ในที่สุดผมก็เพิ่งค้นพบว่าแถมมาให้! ส่วนมาตรวัดความร้อน ก็ตัดออกไป เหลือแต่สัญญาณไฟเตือนแทน แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 50 11:29:36 แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 50 03:48:51 จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 03:48:17 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณมากครับ เป็นประโยชน์อย่างมากในการตัดสินใจ จากคุณ : panupat - [ 29 ม.ค. 50 03:54:40 ]

ความคิดเห็นที่ 30 วิทยุติดรถยนต์ ให้เสียงได้แบบว่า...แย่ แต่ยังไม่บี้แบนเท่ายาริส ไม่ค่อยดีเลย แต่อย่างน้อย คิดและมองโลกในแง่ดี มันยังพอฟังได้ ไม่เหมือนในยาริส เวอร์ชันไทย ที่ปรับโทนเสียงของวิทยุติดรถจากโรงงาน มาจนบี้แบน เสียงกลาง หายไป จนฟังไม่ได้เรื่องเลย ตำแหน่งสวิชต์แอร์ แม้จะใช้งานสะดวก แต่ออกจะเตี้ยไปนิดนึง [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 03:58:54 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ง่ะ....ไม่ไหวแล้ว ไปนอนก่อน พรุ่งนี้มาอ่านต่อ ขอบคุณคุณ JIMMY มากๆครับ **รอชมฟลูรีวิวของ CR-V จากคุณ : จ๊าง - [ 29 ม.ค. 50 03:59:59 ]

ความคิดเห็นที่ 32 สิ่งที่ผมค่อนข้างพึงพอใจอย่างนึงของแจ้สคือ ที่เก็บของตามจุดต่างๆ มีหลายแบบหลายขนาดให้เลือกใช้ ใต้ลิ้นชักตอนหน้า มีที่วางของกระจุกกระจิกอยู่ พร้อมแผ่นกันลื่น จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 04:04:28 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เปิดฝาเก๊ะด้านหน้า โอ ทำเป็น 2 ชั้นด้วยแหะ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 04:05:35 ]

ความคิดเห็นที่ 34 และอย่านึกว่า ผู้โดยสารด้านข้างจะมีอย่างเดียว คนขับเขาก็มีเหมือนกันๆๆๆ ! จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 04:10:40 ]

ความคิดเห็นที่ 35 แต่ใช่ว่าจะให้ชมกันอย่างเดียวง จุดที่ควรตำหนิก็ยังมี ตำแหน่งระหว่างคนขับและคนนั่งด้านหน้าไงละครับ คอนโซลกลาง ถ้าจะให้ดี ทำเป็นที่พักแขนได้จะดีมาก หรือถ้าทำไมได้ ก็ควรจะมีพื้นที่เก็บ ซีดี เยอะกว่านี้สักหน่อย [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 04:17:53 ]

ความคิดเห็นที่ 36 รุ่นท็อปของ แจ้ส วีเทค ติดตั้งถังลมนิรภัยคู่หน้า มาให้ พร้อม เอบีเอส อันเป็นระบบ ป้องกันล้อล็อก เมื่อเหยียบเบรกกระทันหัน รวมทั้งระบบกระจายแรงเบรก และอุปกรณ์อื่นๆ ถ้าอยากรู้ว่า รุ่นไหนติดตั้งอะไร ไม่ติดรายการไหน คนชมกันดูเยอะจัง งั้นเข้าไปดูที่ http://www.honda.co.th จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 04:21:20 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ... [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 04:46:11 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ***รายละเอียดทางเทคนิค*** เครื่องยนต์ของแจ้ส ในบ้านเรามี 2 ระดับความแรง เป็นรหัส L15A 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว 1,497 ซีซี ทั้งคู่ ต่างกันที่ - เวอร์ชัน i-DSi ใช้หัวเทียนคู่ ต่อ 1 สูบ หัวแรกจุดระเบิดนำ หัวที่ 2 จุดระเบิดตาม ไม่มีระบบแปรผันวาล์ว VTEC 88 แรงม้า (PS) ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 13.4 กก.-ม.ที่ 2,700 รอบ/นาที - เวอร์ชัน ที่มีระบบแปรผันวาล์ว VTEC แต่ไม่มีหัวเทียนคู่แบบ i-DSi 110 แรงม้า (PS) ที่ ที่ 5,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.6 กก.-ม.ที่ 4,800 รอบ/นาที [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 04:53:52 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ทั้งคู่จะยังคงส่งกำลังได้ทั้งเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง CVT (Continuously Variable Transmission) HONDA MULTI MATIC-S และมีทอร์ค คอนเวอร์เตอร์ รวมทั้งสามารถ เลือกล็อกอัตราทดได้ตามที่โปรแกรมไว้ ถึง 7 ตำแหน่ง ตามการบีบหด ขยายตัวของพูเลย์ ขับ และพูเลย์ตาม จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 04:57:33 ]

ความคิดเห็นที่ 40 Jazz เหลืองเปรี้ยว สมที่ว่าเป็นรุ่นสังฆทานจริงๆ จำได้ว่าออกไทป์ Z มาไม่นาน.. Jazz ก็ออกตามมา.. แอบเคือง Honda ไปเล็กน้อยเหมือนกันค่ะ.. ปล.คุณ Jimmy ตามใจแฟนคลับ Jazz จริงๆ นับถือๆ ว่าแต่ว่า..ทำไมคุณJimmy ไม่ทำลายน้ำที่ภาพละค่ะ..??? แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 50 05:16:23 จากคุณ : TsuTaYa - [ 29 ม.ค. 50 05:14:02 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ผมทำการทดลองหาตัวเลขอัตราเร่ง โดยคราวนี้ ผู้ช่วยของผมคือ ตาถัง น้ำหนักตัวประมาณ 70 กิโลกรัม เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ผมขอนำตัวเลขของโตโยต้า  วีออส และ ยาริส มาเปรียบเทียบให้เห็นด้วยในคราวนี้เลย นะครับ อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร / ชั่วโมง เปิดแอร์ ................VIOS.......YARIS.......JAZZ ครั้งที่ 1.....12.65.......12.87.......13.08 วินาที ครั้งที่ 2.....12.23.......12.24.......13.14 วินาที ครั้งที่ 3.....12.62.......12.69.......13.23 วินาที ครั้งที่ 4.....12.88.......12.51.......13.09 วินาที เฉลี่ย........12.59.......12.57.......13.13 วินาที สรุปว่า อัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่ง ถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ของ แจ้ส VTEC CVT ยังไงๆ ก็อืดกว่าทั้ง วีออส และยาริส ประมาณ เกือบ 1 วินาที ------------------------- อัตราเร่ง 80-120 กิโลเมตร/ชั่วโมง ................VIOS.......YARIS.......JAZZ ครั้งที่ 1.......8.47.......10.71........9.85 วินาที ครั้งที่ 2.......8.90.......10.44........9.92 วินาที ครั้งที่ 3.......8.66.......10.75........9.97วินาที ครั้งที่ 4.......8.66.......10.54........9.60 วินาที เฉลี่ย..........8.67.......10.61........9.83 วินาที ตรงนี้ละครับ เป็นความแตกต่างที่ชัดเจน ในช่วงการตอบสนองต่อความต้องการอัตราเร่งแซงนั้น วีออส กลับทำได้ดีกว่า ยาริส ซึ่งใช้ลิ้นเร่งไฟฟ้า ยาริสเอง ต้องใช้เวลารอประมาณเกือบ 1 วินาที เพื่อที่จะรอให้สมองกลสั่งการให้เรียบร้อยเสียก่อน ว่าผู้ขับกำลังต้องการอัตราเร่งอย่างมหาศาลเดี๋ยวนี้ ทั้งที่วีออส นั้น แรงบิดแทบจะมารออยู่ที่ปลายเท้า เหลือเพียงแค่กดคันเร่ง ตอบสนองได้ดีกว่า แต่ที่แน่ๆ แจ้ส กลับให้อัตราเร่งแซง ในช่วง 80-120 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ดีกว่ายาริส ถึงเกือบ 1 วินาที แต่ก็ยังแพ้วีออส ที่ถือว่าเป็น รถที่มีเครื่องยนต์ การเซ็ตต่างๆ ระบบส่งกำลัง ฯลฯ ดีที่สุดในกลุ่ม ไปประมาณ 1 วินาที ---------------------------- * หมายเหตุ วีออส และแจ้ส ทดสอบตอนกลางวัน ส่วนทดสอบตอนกลางคืน ครับ แต่ในอุณหภูมิ ไล่เลี่ยกัน คือ แถวๆ 31-32 องศา เซลเซียส ส่วนรูปประกอบ ถ่ายตอนบ่ายครับ* แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 50 05:25:43 จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 05:14:12 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ความเร็วสูงสุดในแต่ละเกียร์ สำหรับ รถที่ใช้เกียร์ CVT จะวัดในแต่ละเกียร์ไม่ได้ครับ เพราะ เกียร์ เป็นแบบ พูเลย์ ใช้สายพานคล้อง อัตราทดจะแปรผัน แต่ถ้าจะถามว่า อ้าว มันมีปุ่ม 7 จังหวะ ล้อกอัตราทดไว้นี่ ก็คงต้องตอบว่า เอาเข้าจริงแล้ว ผมไม่ได้ทดลองมาให้ครับ และไม่เห็นความจำเป็นจะต้องทดลองให้ด้วยแต่อย่างใด เพราะอันที่จริงแล้ว เกียร์แบบนี้ ถูกออกแบบมา เพื่อการขับขี่ที่ต่อเนื่อง และให้อัตราเร่งที่ต่อเนื่อง โดยไม่ต้องไปพะวักพะวง ต้องมานั่งไล่รอบเครื่องยนต์กันใหม่ทุกครั้งที่เปลี่ยนเกียร์ ในเมื่อจุดมุ่งหมายเขาออกแบบมาอย่างนี้ จะใมห้ไปกดปุ่มล็อกอัตราทด ที่เอาเข้าจริง เราก็แทบไมได้ประโยชน์อะไรจาก ปุ่มที่ว่านี้เลย ในชีวิตจริง กันทำไม (ซึ่งก็เป็นแค่ของเล่นที่นำมาติดไว้ เพื่อ เป็นลูกเล่นทางการตลาดเท่านั้น) "ความเร็วที่ได้นี้ เป็นความเร็วที่อ่านได้จากมาตรวัด" นะครับ สำหรับวีออสแล้ว ความเร็วสูงสุดที่อ่านได้จากมาตรวัด ณ เกียร์ 4 อยู่ที่ 190 กิโลเมตร/ชั่วโมง ที่ 6,000 รอบ/นาที ซึ่งเชื่อได้ว่าอาจมีความเพี้ยนของชุดมาตรวัดที่เกิดขึ้นจริงบ้าง เล็กน้อย เป็นธรรมดา เพราะเมื่อเทียบกับข้อมูลจากการทดสอบของทีมวิศวกรโตโยต้าเองแล้ว พบว่า รุ่นเกียร์ธรรมดา ความเร็วสูงสุดจะอยู่ที่ 185 กิโลเมตร/ชั่วโมง ขณะที่รุ่นเกียร์อัตโนมัติอยู่ที่ 175 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่กับยาริสนั้น ความเร็วสูงสุด 175 กิโลเมตร/ชั่วโมงนั้นกลับอยู่ที่แค่เกียร์ 3 และต้องลากรอบเครื่องยนต์กันไปจนถึง เลยเส้นขีดแดง ที่ 6,500 รอบ/นาที กันขึ้นไปเลย และถ้าเข้าเกียร์ 4 เมื่อใด กล่องก็จะตัดลดความเร็วลงเหลือ 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง ที่ 6,000 รอบ/นาที แต่สำหรับ ฮอนด้า แจ้ส VTEC CVT แล้ว ความเร็วสูงสุด ดูจากรูปนี้ได้เลยครับ พยายามกดคันเร่งอย่างต่อเนื่อง จนสุดแล้ว และใช้ระยะเวลาไกลพอสมควร ได้เพียงแค่นี้ ก็ไม่มีวี่แววว่าจะไหลขึ้นต่อเนื่องอีกแต่อย่างใด จึงต้องถอนเท้าออกมาในที่สุดครับ แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 50 05:24:23 จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 05:21:59 ]

ความคิดเห็นที่ 43 พี่จิมมี่ ถ้า วีออสไมล์เพี้ยน จาก ความเร็ว 175 เป็น 190 km/h ก้อถืว่าerror เยอะเหมือนกันเลยนะครับ ประมาณ 8.5 % อย่างนี้การวัดความเร็ว 0- 100 จะไม่เพี้ยนเป็นวินาทีเลยหรอครับ ขอบคุณครับ// ชมแจ๊สต่อ จากคุณ : PrOject2000 (PrOject2000) - [ 29 ม.ค. 50 05:42:36 ]

ความคิดเห็นที่ 44 การทดลองขับงวดนี้ มีแขกรับเชิญ มาร่วมให้ระลึกความทรงจำ แม้เพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ ก็ตาม ต้องขอขอบคุณ ตาโจ้ เปรมศักดิ์ เพียรพาณิชย์ แห่งศูนย์บริการผลิตภัณฑ์หล่อลื่น สุลิตดา ด้วยครับ ที่หารถมาให้ลองได้ในจังหวะเหมาะเหม็งขนาดนี้ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ รถคันนี้ บอกได้แต่เพียงว่า ไม่ใช่รถของโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เป็นรถของลูกค้าคนหนึ่ง ที่ซื้อมาใช้งานตามปกติ ก็เท่านั้นครับ แต่ ขอไม่เปิดเผยชื่อเสียงเรียงนามอะไรทั้งสิ้น เพราะมันไม่จำเป็น และ ไม่อยากให้มีปัญหาอะไรในภายหลัง -------------------------- คืนนั้น หลังจากที่ผม ลองสลับกันขับ เจ้ายาริส ขณะที่ตาโจ้ ขับแจ้ส เราขับแค่ระยะสั้นๆครับ จากสถานี FM89.5 ที่เทเวศน์ ไปจนถึง ฟู้ดแลนด์ รามคำแหง แค่นี้ก็พอแล้ว อย่างที่ได้เห็นไปแล้วว่าการตอบสนองของเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังนั้น เอาเข้าจริงแล้ว ถือว่า สูสีกับยาริส แต่ชัดเจนว่า การออกตัวจากจุดหยุดนิ่งนั้น แจ้สทำได้ด้อยกว่ายาริส แต่เมื่อ เร่งแซงในขณะเดินทาง จุดนี้เอง ที่แจ้ส ใช้เวลาในการเร่งแซงน้อยกว่ายาริส ข้อนี้ผมสัมผัสได้เอง ขณะขับรถเดินทางไกล กลับจากกาญจนบุรี มายัง กทม. เห็นได้ชัดเลยว่าอัตราเร่งแซงนั้น แม้จะมีลุ้นอยู่บ้าง แต่ยังถือว่าเร่งแซงได้อย่างสบายๆ มีลุ้นบ้างนิดนึง แต่ถือว่า ค่อนข้างทำได้ดี ขณะที่ ยาริสนั้น จะเร่งแซง มีลุ้นอยู่พอสมควร แล้วทีนี้ ถ้านอกเหนือจากเครื่องยนต์ละ? ในด้านอื่นๆ เมื่อต้องเทียบกันแล้ว แจ้ส กับ ยาริส จะเป็นอย่างไร? เริ่มกันที่ระบบกันสะเทือน ทั้งคู่ เซ็ตมาในแนวแข็ง สะเทือนใช้การได้ แต่ดูเหมือนว่า ถ้าเทียบกันในรุ่น G Limited หรือรุ่น E แล้ว โช้คอัพดูเหมือนจะยุบตัวได้มากกว่าแจ้ส แต่ถ้าเปรียบกับรุ่น S-Limited แล้ว ผมว่า ยาริส จะแข็งกระด้างกว่าในทันที เหมือนว่าสัมผัสจากแจ้ส จะอยู่แทรกกลางระหว่าง 2 ระบบกันสะเทือนของยาริส -------------------- น้ำหนักพวงมาลัยของแจ้สนั้น มาแบบแปลกๆ คือ พวงมาลัยมีน้ำหนักเบามากๆ มากเกินไป มากเสียจนแทบจะใช้นิ้วมือเดียวหมุนได้ด้วยซ้ำ แต่มันก็ไม่ถึงขนาดนั้น ในบางจังหวะ ที่จะต้องเลี้ยวรถกลับ แล้วต้องถอยเข้า ถอยออก แล้วเปลี่ยนเกียร์ไป-มาด้วย พวงมาลัยจะหนืดขึ้นในบัดดล และที่แน่ๆ ระยะฟรี แทบไม่มีเลย บังคับเลี้ยวได้ เฉียบคม และแม่นยำ อีกทั้ง เวลาขับทางไกลแล้ว ถามว่านิ่งไหม ก็คงตอบได้เลยว่า นิ่ง แต่ น้ำหนัก และความหนืด กลับจะไม่มากเท่ากับยาริส ซึ่งเซ็ตน้ำหนักพวงมาลัยมาได้ดีกว่า และมีน้ำหนักที่ดีกว่านิดหน่อย เมื่อยู่ในย่านความเร็วสูง ----------------------- การตอบสนองของแป้นเบรก ในแจ้ส นั้น จับตัวค่อนข้างไว และคุณกดเพิ่มจากเดิมอีกสักหน่อย ก็จะกลายเป็นว่า ผ้าเบรกจับตัวกับจานเบรกมาก จน เอบีเอส ต้องเข้ามาช่วยเร็วกว่าที่ควรเป็น แถมน้ำหนักแป้นเบรก ยังแปลกๆ และต้องเผื่อระยะไว้ ขณะเบรกอยู่บ้างเหมือนกัน แต่ยาริส กลับไม่มีปัญหานี้ ทว่า แป้นเบรกของยาริสนั้น ค่อนข้างตื้นในสไตล์โตโยต้า ตอบสนองได้ทันใจ และทันเวลาแน่ๆ --------------------- แต่ถ้าจะถามว่า เวลาแล่นด้วยความเร็วสูง แล้วเจอลมปะทะด้านข้าง คันไหนโคลงกว่ากัน ชัดเจนเลยว่า ยาริสจะออกอาการมากกว่าแจ้ส ครับ แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 50 06:23:49 จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 06:17:49 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ***ทดลองหาอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง*** เกิดเหตุไม่คาดคิดมาก่อนในการทดลองครั้งนี้ครับ ตามปกติแล้ว อย่างที่ทราบกันดี มาตรฐานการทดลองอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของผมคือ วิ่ง 110 กม./ชม. เปิดแอร์ และนั่ง 2 คน คราวนี้ ก็ตั้งใจไว้ว่าจะทำเช่นเดียวกัน วันที่รับรถมา ผมกับตาถัง นัดกันไปลองที่ ปั้มน้ำมันเอสโซ่ ริมถนนพระราม 6 เจ้าเดิม ที่เราใช้บริการเป็นประจำ เราก็เติมไป เขย่ารถกันไป กว่าจะเต็ม ผมเลือกจะเขย่ารถ เพราะมีบทเรียน จากตอนที่ทดลองอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของ ซิตี้ ZX จาก หัวหิน กลับสู่ พระราม 2 แล้วพบว่า ตัวเลข เพี้ยนกระจายิ เมื่อไม่เขย่ารถ เอาละ ในรุ่นนี้ พิกัดก็ตามเกณฑ์ 1,500 - 2,000 ซีซี และกลุ่มรถกระบะทุกคัน จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 06:31:47 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เติมกันจนน้ำมันเต็มปรี่ขนาดนี้ แต่เนื่องจาก ถังน้ำมันของแจ้ส / ซิตี้ ไม่มีเหมือนชาวบ้านเค้า คือ ตั้งอยู่ใต้เบาะคู่หน้า แทนที่จะอยู่ตรงเบาะคู่หลัง เหมือนรถสมัยใหม่ทั่วไป  ดังนั้น คอถังจึงยาวมากกว่าปกติ แถมถังน้ำมัน ก็ยังมีแอ่งตรงกลาง คล้ายตัว V คว่ำ ดังนั้น การจะคาดการณ์ว่าเมื่อไหร่ น้ำมันจะเต็มเสียที มันนานมากๆแล้วเสียเวลาเปล่าๆ   เอาละ ได้ตอนเติมเต็มเข้ามาแล้วละสินะ....ก็ออกรถกันได้แล้ว แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 50 12:10:18 จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 06:37:54 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เราใช้ความเร็วคงที่ อย่างสม่ำเสมอครับ 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง รอบเครื่องเท่านี้.... จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 06:43:14 ]

ความคิดเห็นที่ 48 วิ่ง 110 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้รอบเครื่องเท่านี้... จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 06:45:12 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ทัศนวิสัยจากกระจกหน้า จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 06:48:52 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เสาหลังคา A-Pillar ที่ทำหูช้างเพิ่มมาด้วยนั้น ไม่ได้ถึงกับบังทัศนวิสัยมากอย่างที่คิด จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 06:49:35 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ยิ่งฝั่งซ้าย ยิ่งไม่บดบังเท่าไหร่ เว้นแต่ตอนจะเลี้ยวกลับรถในบางกรณี ทั้งหมดนี้ถ่ายจาก ตำแหน่งสายตาของผม ซึ่งเป็นคนขับนะครับ จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 06:50:59 ]

ความคิดเห็นที่ 52 และนี่ก็ทัศนวิสัยด้านหลัง จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 06:51:29 ]

ความคิดเห็นที่ 53 มารออ่านจนจบ .. จากคุณ : iNFeRNaL - [ 29 ม.ค. 50 06:57:45 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ปรากฎว่า พอกลับมาที่ปั้มเดิม ทีนี้ เติมน้ำมันเข้าไปเท่าไหร่ เขย่าเข้าไปเท่าไหร่ มันไม่รู้จักเต็ม!!! ใช้เวลากันนานมากๆ จนเรารู้สึกว่า พอเถอะ เพราะเติมเกินกันเข้าไปมากถึง 8-9 ลิตร นั่นมากไปแล้ว เพราะถ้าแล่นมา 80-90 กิโลเมตร ปกติ แต่ละคัน เติมกลับมักป้วนเปี้ยนแถวๆ 6 ไม่ค่อยเกิน 8 ลิตร แต่นี่ ล่อเข้าไป 8-9 และเลยขึ้นไปถึง 10 ลิตรด้วยซ้ำ แสดงว่า เยอะมากไปแล้ว ต้องตัดจบเลย และแสดงว่า เพี้ยนมากกว่าที่คาดคิด สรุปว่าผมเลยต้องใช้วิธียืมแจ้สมาอีกรอบ แล้วขับไปกับน้องกิต Homy Demio และ นายฮาร์ท เพื่อนสมัยเรียนของผม ตรงไปยังเมืองกาญจน์ฯ กัน ไปสุดที่น้ำตกไทรโยค แล้วแล่นกลับ กทม.กัน แต่แวะปั้มน้ำมันแ ปตท. ตรงแถวใกล้ตัวเมืองกาญจน์ นั่งกันไป 3 คน เปิดแอร์ตลอดทาง ความเร็วที่ใช้ อยู่ในช่วง 80-120 กิโลเมตร/ชั่วโมง นิ่งๆ และขึ้นบ้างลงบ้าง ตามจังหวะการเร่งแซง ระยะทางที่แล่นไปตามมาตรวัด 433.1 กิโลเมตร ปริมาณน้ำมันเติมกลับ                   27.797 ลิตร อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย                     15.58 กิโลเมตร/ลิตร แสดงว่า อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ทำได้จริงนั้น น่าจะอยู่แถวๆ 15.0-15.7 กิโลเมตร/ลิตร ดังนั้น ผลการทดสอบอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงคราวนี้ ผมจะไม่รับรองผลให้นะครับ เพราะไม่ได้ทำในวิธีการปกติที่เคยทำมา จึงขอนำตัวเลขที่ได้ มาถือเป็นตัวเลขที่ทำได้จริง แบบไม่ได้ตั้งใจทำ มาเล่าสู่กันฟังจะดีกว่าครับ จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 07:02:43 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ตามอ่านตั้งแต่ตี2เลยนะเนี้ย ขอบคุณครับ จากคุณ : terios - [ 29 ม.ค. 50 07:20:41 ]

ความคิดเห็นที่ 56 โอ้ จบแล้วหรือ ขอบคุณมากครับ ง่วงนอนมากๆ แต่ก็หน้ามึนรอ เพราะไม่อยากปาด จากคุณ : yongkung - [ 29 ม.ค. 50 07:24:47 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ***สรุป*** แยกเป็นหัวข้อๆ ยาริส ได้คะแนนนำไปบ้าง แต่ เมื่อจับมารวมกันทั้งคัน น่าขับสู้แจ้ส ไม่ได้! เป็นความจริงที่ออกจะขัดหูไปสักหน่อย แต่ผมก็คงต้องพูดกันตรงๆแบบนี้ละครับ ก็เพราะ เราต้องยอมรับกันว่า แจ้สนั้น เปิดตัวออกมาก่อนยาริสรุ่นที่ 2 นี้ อย่างน้อยๆ ก็ 5 ปี แน่นอนว่า หลายหัวข้อ เมื่อแยกออกจากกันแล้ว จะเห็นได้ชัดว่า ยาริส อาจจะถูกพัฒนาจนมีความสดใหม่กว่า และ สามารถเอาชนะแจ้สได้ ทั้งแบบเต็มๆ และแบบฉิวเฉียด ไปได้ในหลายหัวข้อ ทว่า เมื่อนำแต่ละกัวข้อ จับมารวมกันเป็นหนึ่งคันรถ ยังไงๆ ก็ตาม แจ้ส กลับมีความน่าใช้งานมากกว่ายาริส! เหตุผล? 1. มีความเป็นมิตรกับผู้ใช้มากกว่า 2. ให้ความคล่องตัว สำหรับการเดินทาง ทั้งในเมือง และนอกเมือง รวมทั้งให้ความอเนกประสงค์ ไปพร้อมๆกัน ในขณะเดียวกัน 3. ดีไซน์ ที่ดูยังไม่เก่าง่ายๆ แม้เวลาจะเปลี่ยนไป 4. ประหยัดน้ำมัน ตามระดับเดียวกับคู่แข่ง [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 07:26:11 ]

ความคิดเห็นที่ 58 แต่กระนั้น ฮอนด้ายังมีสิ่งที่ต้องปรับปรุงในอีกหลายเรื่อง โจทย์หลักที่ผมอยากจะตั้งเป็นคำถามไว้ก็คือ ทำอย่างไรที่ฮอนด้า จะพัฒนาและปรับปรุง ลบทุกจุดด้อยของแจ้สให้ลดน้อยลงไป โดยยังคงเหลือความสนุกสนาน และความคล่องตัวในการขับขี่ ไปจนถึงความเป็นมิตรกับผู้ใช้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกค้า เลือกซื้อแจ้สในที่สุด? เรื่องที่อยากให้ปรับปรุงคือ 1. การตอบสนองของพวงมาลัย ที่เบาเกินเหตุไป แม้ว่ามันจะคม และแทบไม่มีระยะฟรีก็ตาม 2. การตอบสนองของแป้นเบรก ขอความรู้สึกที่ใกล้เคียงรถยุโรปมากกว่านี้ ไม่ต้องให้ผ้าเบรกจับตัวกับจานเร็ว เพียงแค่ปลายเท้าสัมผัสแป้น อันนั้นก็เกินไป 3. ระบบกันสะเทือน ขอที่ให้ความหนักแน่น นุ่มนวล แต่มั่นใจ เฟิร์มมากกว่านี้อีกสักหน่อย 4. เครื่องยนต์ ที่ให้อัตราเร่งที่ดีกว่า แต่กินน้ำมันน้อยกว่านี้อีกสักนิด 5. ถ้าระยะฐานล้อ ยืดออกมาได้ถึงระดับ 2,500 - 2,600 มิลลิเมตร  จะช่วยให้ผู้โดยสารด้านหลัง นั่งได้สบายกว่านี้อีก 6. ยางติดรถ เลิกใช้ของ Goodyeat NCT เสียทีได้ไหม? ห่วยแตกมากๆ พอๆกับยางติดรถของเจ้า ทีด้าเลย กลิ้งกล่กๆๆ ไปตามหน้าที่ของมันเท่านั้นจริงๆ มันแทบไมได้ยึดเกาะกับผิวถนนเท่าไหร่เลย --------------------------- ฮอนด้า ยังต้องใช้เวลา และการเดินทางอีกสักพัก สำหรับการครองความเป็นผู้นำในตลาดซับ-คอมแพกต์ 1,500 ซีซี ในบ้านเรา แต่ตอนนี้ ฮอนด้าเริ่มจับทางถูกแล้วละว่า ตนได้พลาดอะไรไปบ้าง เหลือแค่ว่า จะเอาชนะข้อจำกัดต่างๆได้มากน้อยแค่ไหน เราก็คงต้องติดตามดูกันต่อไปครับ แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 50 12:13:14 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 07:32:53 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ขอขอบคุณ พี่ Zi ศศิวรรณ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิลล์ ประเทศไทย จำกัด สำหรับความเอื้อเฟื้อในครั้งนี้ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 07:35:05 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ... [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 07:35:50 ]

ความคิดเห็นที่ 61 รูปนี้ โปรดอย่าถามนะครับว่า ถ่ายมาได้ยังไง อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างครับ อันตรายมาก [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 07:39:31 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ... จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 07:40:31 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ข้อมูลเยี่ยมเลย..ขอบคุณคร๊าบบบ.. จากคุณ : CK5 - [ 29 ม.ค. 50 07:40:41 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ... [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 07:42:38 ]

ความคิดเห็นที่ 65 โลเกชัน งวดนี้ - สโมสร ราชพฤกษ์ วันจัดงาน พันทิบ 10 ปี - เขื่อนศรีนครินทร์ กาญจนบุรี - น้ำตกเอราวัณ กาญจนบุรี - กำแพงเหลืองๆนั้น  แมคโคร RCA ครับ เล็งมานานแล้วว่า ถ้ายืมแจ้สเหลืองมา โลเกชันต้องที่นี่ พอเอาเข้าจริง ด้านหน้ามันไม่เวิร์ก เลยต้องไปใช้กำแพงด้านหลังแทน แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 50 11:35:50 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 07:45:33 ]

ความคิดเห็นที่ 66 .. [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 07:46:02 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ... [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 07:46:34 ]

ความคิดเห็นที่ 68 รายการต่อไป - Honda CR-V 2.0 ตอนนี้ รุ่น 4WD อยู่ในมือ แต่ รุ่นขับ 2 ล้อ และ 2.4 ลิตร จะมาได้เมื่อไหร่ ไม่รู้จริงๆ - Nissan Navara ขึ้นเชียงใหม่ ไปขับ ไปถ่ายรุป แล้วค่อยมาว่ากันต่อในเรื่องอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง และอัตราเร่ง - Chevrolet AVEO เหลือแค่ วัดอัตราสิ้นเปลือง และ ทำอัตราเร่งแล้วเท่านั้น - Saab 9-3 195 แรงม้า ลองขับอีกสักครั้ง กับรถขับล้อหน้าที่ดีที่สุดคันหนึ่งที่เคยมีมาบนโลกนี้ -------------------- ท้ายสุด ไหน ใครบอกว่า ทีด้า เทียบกับ แจ้ส กับยาริส?? ไม่ใช่นะครับ ทีด้า เป็นคอมแพกต์ ใหญ่กว่า เลยนะ! แจ้ส ซับ-คอมแพกต์ นะครับ ไม่เชื่อ ดูรูปนี้เอาแล้วกัน.... [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 07:51:45 ]

ความคิดเห็นที่ 69 จบแล้วครับ ขอบคุณที่ติดตาม [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 07:52:19 ]

ความคิดเห็นที่ 70 นอนดีกว่า ขอบคุณที่รีวิว จากคุณ : yongkung - [ 29 ม.ค. 50 07:56:28 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ขอบคุณครับ จากคุณ : boxfile - [ 29 ม.ค. 50 07:56:50 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ขอบคุณครับพี่จิม แต่ถามหน่อยเหอะ คิดได้ไงอ่ะไอ้ถังขยะน่ะ!!! ว่าแต่พี่ซื้อให้ผมคันนึงดิ นะนะนะ จากคุณ : หลานยายจุล - [ 29 ม.ค. 50 08:11:35 ]

ความคิดเห็นที่ 73 มามุงมามุง จากคุณ : เปรตเวหา - [ 29 ม.ค. 50 08:13:34 ]

ความคิดเห็นที่ 74 จากคุณ : เกิดมาจน - [ 29 ม.ค. 50 08:42:00 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ถ่ายรูปได้ สวย ขอบคุณครับ สำหรับ รีวิว จากคุณ : บุญมีแต่กรรมบัง - [ 29 ม.ค. 50 08:44:17 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ขอบคุณครับคุณ Jimmy ถือว่าเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจที่ดีครับ ถือว่าคุ้มกับการตั้งตาคอยครับ อิอิ จากคุณ : Live Forever - [ 29 ม.ค. 50 08:48:17 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ขอบคุณมาก จากคุณ : chem chem - [ 29 ม.ค. 50 09:09:32 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ทำการทดสอบรถ ได้เหมาะสม กับผู้ที่ต้องการ เลือกซื้อรถ และใช้งานรถจริงๆครับ ไม่เหมือนการทดสอบรถ เพื่อลงหนังสือดีครับ จากคุณ : หล่อจางเว่ย-ดาราฮ่องกง - [ 29 ม.ค. 50 09:12:07 ]

ความคิดเห็นที่ 79 โอ้ คุ้มค่ากะที่รอคอย ขอบคุณคะที่รีวิว ไม่เสียใจที่ได้ใช้ j@zz เลย จากคุณ : ohjin15 - [ 29 ม.ค. 50 09:52:31 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ขอบคุณคร้าบพี่จิมมี่ 555+ รอมาข้ามปี -*- อิอิ จากคุณ : NayLoveMint - [ 29 ม.ค. 50 09:56:10 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ขอบคุณครับ  อ่านแล้ว มีความรู้สึกว่า อยากได้แจ๊ส ขึ้นมาทันทีเลยครับ จากคุณ : ChineseBoy - [ 29 ม.ค. 50 09:59:13 ]

ความคิดเห็นที่ 82 เข้ามาดูอีกรอบ ขอบคุณครับ จากคุณ : iNFeRNaL - [ 29 ม.ค. 50 09:59:57 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ขอบคุณครับ คุณจิมมี อ่านแล้วสนุกดีครับ จากคุณ : Dungeon - [ 29 ม.ค. 50 10:01:08 ]

ความคิดเห็นที่ 84 เชียร์ แจ๊ส มากไปเปล่าหว่า เหอๆๆ แต่มันก็คือทัศนะ ส่วนบุคคล ว่ากันไม่ได้ จากคุณ : ผู้ใช้ถนน - [ 29 ม.ค. 50 10:05:25 ]

ความคิดเห็นที่ 85 เหอๆ ทำอัตราเร่งตามตรูด Vios เลยวุ้ย จากคุณ : สยึมกึ๋ย - [ 29 ม.ค. 50 10:29:39 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ขอบคุณ ครับ จากคุณ : Mr. why? - [ 29 ม.ค. 50 10:32:41 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ดูจะเชียร์ Jazz เอามากนะเนี่ย.... หุหุ เหมือนกัน ชอบ Jazz  แต่ไปจบที่ Focus 5Drs. 2.0 สิ่งที่เหมือนกันระหว่าง Jazz กะ Focus S  นอกจากมี 5 ประตูแล้ว ก็มีเบาะหลังที่ชันกว่าชาวบ้านเค้า ทำให้คนนั่งหลังอาจจะนั่งไม่สบาย  แต่ไม่สน เพราะเราเป็นคนขับและหัวใจสปอร์ต  อิอิ จากคุณ : moccha mania - [ 29 ม.ค. 50 10:40:57 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ปุ่มบนพวงมาลัยเอาไว้ทำอะไรอ่าา จากคุณ : napatds - [ 29 ม.ค. 50 10:43:42 ]

ความคิดเห็นที่ 89 จาก คคห ที่ 54 รถคันที่ทดสอบต้องเอากลับไป เปลี่ยนช้อคหลังใหม่หรือเปล่าครับคุณ จิม จากคุณ : กาแลนท์เขียวเมืองนนท์ - [ 29 ม.ค. 50 10:48:26 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ขอบคุณครับ พี่ Jimmy   จากคุณ : Saiieam - [ 29 ม.ค. 50 10:51:01 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ดีใจที่ช่วยเปรียบเทียบกับ Yaris ให้ด้วย จากคุณ : Morning Omame - [ 29 ม.ค. 50 10:55:18 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ใช้ Jazz อยู่ครับ เห็นด้วยกับคุณ Jimmy ทุกประการเลย จากคุณ : GameOver - [ 29 ม.ค. 50 11:01:12 ]

ความคิดเห็นที่ 93 คุณจิมมี่ ผมมีข้อบกพร่องของJazz ที่น่าตำหนิในความขี้เหนียวของHonda มาเล่าคือขับรถเวลาฝนตกคุณจะคุยกันในรถเกือบไม่รู้เรื่องเลยเพราะหลังคาพอโดนฝนแล้วหนวกหูมากๆๆๆๆๆๆ มีวิธีแก้อย่างไรข่วยบอกด้วยครับผมใช้รุ่น VTEC คิดว่า Full Option แล้วที่แรกว่าคิดดีแล้วพอมาพบปัญหานี้ภายหลังคะแนนตกไปเยอะเลย จากคุณ : คนชอบเที่ยว (ออสก้าอินเดีย) - [ 29 ม.ค. 50 11:50:25 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ยืนยันว่า ที่เขียนไปทั้งหมดนั้น ไม่ได้เชียร์แจ้ส ก็บอกแล้วครับว่า ถ้าแยกออกมาเป็นหัวข้อๆ ยาริส จะทำได้ดีกว่า แต่เมื่อเอาทั้งหมดมารวมกันแล้ว แจ้สจะน่าขับกว่า ซึ่งก็เป็นเรื่องแปลก และคำว่า user friendly มันคือเหตุผลแรกสุดที่โผล่เข้ามาในหัว ------------------------------- เรื่องของคุณคนชอบเที่ยว นั่นก็เป็นข้อที่ทีมของฮอนด้าควรจะรับฟังแล้วนำไปหาทางปรับปรุงให้ดีขึ้นครับและที่ผมไม่เขียนลงไปในรีวิวนี้ เพราะผมนำรถมาลองขับในวันที่ไม่มีฝนตก เลยไม่เจอกับปัญหานี้ กับตัวเองหนะครับ แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 50 12:04:29 จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 12:01:10 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 29 ม.ค. 50 12:07:52 ]

ความคิดเห็นที่ 96 เดี๋ยววันหน้า จะเอารูปแบบ การทดสอบ/เปรียบเทียบรถ ในอเมริกามาให้ดู (ดูว่ามืออาชีพเขาทดสอบกันอย่างไร มีหมดทั้งวิชาการและปฏิบัติ) จากคุณ : DEL AMO - [ 29 ม.ค. 50 12:10:40 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ทำเป็นเล่นไป ถังขยะ กทม. สีเหลืองๆ นั้นรู้มั้ย ยื่น LC กัน ราคาใบละเท่าไหร่ ?? หลายหมื่น นะครับ ไม่ใช่ กระจอกๆนะ ... เหอะๆๆๆ จากคุณ : ... - [ 29 ม.ค. 50 12:11:06 A:203.153.166.116 X: TicketID:055955 ]

ความคิดเห็นที่ 98 เดี๋ยววันหน้า จะเอารูปแบบ การทดสอบ/เปรียบเทียบรถ ในอเมริกามาให้ดู (ดูว่ามืออาชีพเขาทดสอบกันอย่างไร มีหมดทั้งวิชาการและปฏิบัติ) จากคุณ : DEL AMO  - [ 29 ม.ค. 50 12:10:40 ]     ------------------------------ คนที่นี่ เขารู้กันดีอยู่แล้วครับว่า สื่อ อเมริกันทดสอบรถอย่างไร แต่อยากจะบอกว่า สื่ออเมริกัน Bias ก็มีเยอะ และรับเงินหนักข้อกว่าสื่อเมืองไทยก็มี! อย่าไปเอาพวกฝรั่งมังค่ามาเทิดทูนไว้บนหัวมากนักเลย เห็นมาหลายกระทู้แล้วครับ จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 12:16:07 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ูสำหรับผม ที่ใช้น้องแจ๊ซ มาปีกว่า กับ 4หมื่นกิโลฯ ผมค่อนข้างพอใจมากครับ โดยเฉพาะขับในเมืองเนี่ย เป็นความรู้สึกที่ว่า โอ๊ว มันช่างดีจริงๆ ส่วนเบาะหลังผมไม่สน เพราะว่าผมเป็นคนขับ ไม่ได้เป็นคนนั่งครับ ตั้งแต่ซื้อรถมาเคยนั่งข้างหลังแค่ครั้งเดียวเอง หุหุ ถ้าซื้อแจ๊ซมา แนะนำให้เปลี่ยนยางครับ แล้วจะพบว่ามันจะขับดีขึ้นอีกหลายเท่าตัวเลย ทั้งการเข้าโค้ง และการเปลี่ยนเลนที่คมและมั่นใจกว่าเดิมครับ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : joufo - [ 29 ม.ค. 50 12:17:01 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ถังขยะพวกนี้ ที่บ้านผมก็ขายอยู่ครับ เปิด LC ใบหลายหมื่น แต่ต้นทุน ใบนึง ก็ไม่ได้เยอะขนาดนั้นหรอกครับ จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 12:17:36 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ส่วนเรื่องเครื่องเสียงนั้น สำหรับผมแล้วต้อง เปลี่ยนเท่านั้นครับ พูดตรงๆ เลยนะครับว่า เครื่องเสียงแบบ เทป 1 din ที่ติดมากับรถ วีออส ตัว E เสียงยังจะดีกว่า เครื่องเสียงแบบ cd 1 แผ่น ที่ติดรถแจ๊ซมาอีกอ่ะ จากคุณ : joufo - [ 29 ม.ค. 50 12:20:35 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ขอร่วมแจมกระทู้ด้วยเพียงเท่านี้ละกันครับ สิ่งที่ผมไม่ค่อยชอบน้องแจ๊ซก็คือ ของแต่งเยอะไปหน่อย ซื้อรถมาแล้ว ก็จะมีกิเลส อยากแต่งรถขึ้นมาอีก จากคุณ : joufo - [ 29 ม.ค. 50 12:25:04 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ฮ่า ฮ่า ฮ่า ขอบคุณมากครับคุณ joufo ------------------- พี่ Mhum ครับ ผมรีวิวจบแล้ว โพสต์รูปแจ้สมะม่วงของพี่ ได้เลยครับ เห็นแล้ว ฮามากๆ อิอิ จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 12:27:23 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ใช้อยู่และเห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับ โดยเฉพาะเรื่องเบรคที่จับตัวเร็วมากเกินไปหน่อยจริงๆ ส่วนเรื่องพวงมาลัย ผมขอเห็นต่างไปหน่อย ส่วนตัวผมก็ว่ามันเบาไปนะแต่แฟนผมเค้าใช้ตัวVTEC(ผมใช้IDSi)เค้ากลับบอกว่า เบาอย่างงี้ละดีแล้ว..แปลว่าทางฮอนด้าเอง อาจจะเซ็ทเพื่อคนหลายๆกลุ่มกว้างๆ ไม่เจาะจงเฉพาะคนที่ขับรถหรือซีเรียสเรื่องบังคับควบคุมรถอย่างเราๆก็ได้ครับ แต่เรื่องพวงมาลัย แม่นและคมจริงครับทั้งๆที่ตอนแรกกังวลว่ามันเป็นพวงมาลัยไฟฟ้าแล้วเราจะคุ้นรึเปล่า(เคยใช้แต่แบบแร็คธรรมดาไร้พาวเวอร์ด้วยซ้ำ) เรื่องหลังคา ฝนตกแล้วหนวกหูพอควรจริงครับ แต่ก็ไม่หนีจากวีออสเท่าไหร่นัก แต่ก็แย่กว่ารถพิกัด1600รุ่นเก่าๆหลายตัวครับ....ปรับหน่อยท่าจะดี จากคุณ : Extrusso - [ 29 ม.ค. 50 12:37:38 ]

ความคิดเห็นที่ 105 เจ๋งจริงคุณjimmy จากคุณ : นายน้อยนิด - [ 29 ม.ค. 50 12:43:21 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ตามมาอ่าน จากคุณ : SHOGUN - [ 29 ม.ค. 50 12:44:24 ]

ความคิดเห็นที่ 107 #102 ของแต่งอย่างนึงที่ผม ไม่ชอบเลย คือไปเปลี่ยนไฟหน้า ผม เจอ Jazz ไปเปลี่ยนไฟหน้าเยอะเหมือนกัน จากคุณ : บุญมีแต่กรรมบัง - [ 29 ม.ค. 50 12:44:27 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : amtap - [ 29 ม.ค. 50 12:44:31 ]

ความคิดเห็นที่ 109 #107 ู^ ^ เห็นด้วยครับ โดยเฉพาะ ซีนอนเถื่อนเนี่ย ผมหละเกลียดจริงๆ แจ๊ซเนี่ย ผมว่าโคมไฟมันไม่เหมาะกับการใส่ ซีนอน อ่ะครับ แต่ทุกวันนี้ผมก็ยังสนใจชุด Bi-Xenon ของ ฟิลลิปส์ อ่ะครับ แต่ราคาแพงเอาเรื่องเลย แต่ก็มันก็ไม่จำเป็นอ่ะครับ เพราะไฟเดิมๆ นี่ก็สว่างแล้วอ่ะ จากคุณ : joufo - [ 29 ม.ค. 50 12:52:10 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ขอบคุณครับคุณ JIMMY jazz แต่งเป็น fit   fit กลับแต่งเป็น jazz หุหุ เรื่องหลังคาครับ  แนะนำว่าให้ แดมป์ ใหม่เลยครับ มีเพื่อนๆ เคย DIY ไว้ เสียตังค์ไม่กี่ร้อยครับ ฝนตกเงียบยังกะอยู่ในป่าช้า ผมก็ยังไม่ทำหรอกครับ แต่เวลาฝนตกหนักๆ ผมจะตั้งใจขับรถ เลยไม่ได้คุยกะเพื่อนเท่าไหร่ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : Mongther - [ 29 ม.ค. 50 12:52:16 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ขอบคุณครับ ละเอียดเหมือนเคยครับ จากคุณ : Sorn มาคับ - [ 29 ม.ค. 50 13:02:22 ]

ความคิดเห็นที่ 112 รถสวยมากครับ จากคุณ : seing (SeInG) - [ 29 ม.ค. 50 13:08:13 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ผมรอ มานานแล้ว พี่ JIMMY Review Jazz ซะที จากคุณ : usenet - [ 29 ม.ค. 50 13:23:17 ]

ความคิดเห็นที่ 114 ขอบคุณมากค่ะคุณ Jimmy อ่านแล้วเลยอยากได้ Jazz เลย อิอิ ถ่ายรูปสวยมากค่ะ ชอบๆ แต่ เห็น list รายการ review คราวหน้าแล้ว โอ้ว crv อยากอ่านมากๆ จะรอนะคะ สู้ๆค่ะ เชียร์อยู่ค่ะ :) แต่คราวหน้าขออนุญาต request ให้คุณ Jimmy ถ่ายรูปกับรถแบบยิ้มแฉ่งได้มั้ยคะ อิอิ แบบว่าเห็นรูป คห. 54 แล้วรู้เลยว่าคุณ Jimmy น่าจะเหนื่อย แหะแหะ สู้ๆนะคะ :) จากคุณ : Kristin - [ 29 ม.ค. 50 13:38:26 ]

ความคิดเห็นที่ 115 รูป คห.54 ถ้ามาเห็นเบื้องหลังแล้ว จะเข้าใจทันทีว่าทำไมผมทำหน้าอย่างนั้น ก็ นั่งขย่มรถแบบนั้น กับตาถัง 2 คน ผลัดกัน กำลังคิดเล่นๆเลยว่า นี่เรา นั่งเทียนเจ้าแจ้สอยู่หรือไงฟะเนี่ย! คนในปั้มเค้าก็มองว่า มันสองตัวทำบ้าอะไรกันอยู่ อายคนเค้าเหมือนกันเน้อ แหะๆ จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 13:49:02 ]

ความคิดเห็นที่ 116 ขอบคุณครับ จากคุณ : REX-REX - [ 29 ม.ค. 50 13:54:06 ]

ความคิดเห็นที่ 117 วันๆไม่ได้ทำงาน เอาแต่นั่งอ่านรีวิวของคุณ JIMMY มันส์!!! จริงๆ ใกล้เคียงอ่านแฮร์รี่ พอตเตอร์ละ อ่านแล้วหยุดไม่ได้ :-) ปล.อ่านแล้วอยากซื้อแจ๊สเลยอ่ะ จากคุณ : maffy - [ 29 ม.ค. 50 14:17:52 ]

ความคิดเห็นที่ 118 ขอบคุณครับ รอมานานแล้ว และก็ไม่ผิดหวัง ละเอียดจริงๆครับ ป.ล.เห็นด้วยสุดๆกับเจ้า NCT5 เก็บตังค์เปลี่ยนอยู่เนี่ย -_-" จากคุณ : sLiimFit - [ 29 ม.ค. 50 14:27:27 ]

ความคิดเห็นที่ 119 ขอบคุณมากค่ะพี่Jimmy เรารอจนไม่ไหวแล้วเลยไปจองJazz มาแล้วเมื่อเช้า กลับมาก็เจอกระทู้นี้พอดี คิดถูกแล้วหล่ะที่เลือกJazz แต่แหม ดอกเบี้ยแพง ของแถมก็น้อยจัง แล้วเจอกันนะน้องJazz ขาวๆอวบๆของเรา อิอิ จากคุณ : Notso (Notso) - [ 29 ม.ค. 50 14:32:57 ]

ความคิดเห็นที่ 120 /// ความคิดเห็นที่ 35   แต่ใช่ว่าจะให้ชมกันอย่างเดียวง จุดที่ควรตำหนิก็ยังมี ตำแหน่งระหว่างคนขับและคนนั่งด้านหน้าไงละครับ คอนโซลกลาง ถ้าจะให้ดี ทำเป็นที่พักแขนได้จะดีมาก หรือถ้าทำไมได้ ก็ควรจะมีพื้นที่เก็บ ซีดี เยอะกว่านี้สักหน่อย /// โล่งๆแบบนี้ล่ะดีนักแล   ไม่เชื่อลองถามคนที่เคยใช้ประโยชน์จากมันดู หุหุ จากคุณ : ton99 - [ 29 ม.ค. 50 14:36:28 ]

ความคิดเห็นที่ 121 /// การตอบสนองของแป้นเบรก ในแจ้ส นั้น จับตัวค่อนข้างไว และคุณกดเพิ่มจากเดิมอีกสักหน่อย ก็จะกลายเป็นว่า ผ้าเบรกจับตัวกับจานเบรกมาก จน เอบีเอส ต้องเข้ามาช่วยเร็วกว่าที่ควรเป็น แถมน้ำหนักแป้นเบรก ยังแปลกๆ และต้องเผื่อระยะไว้ ขณะเบรกอยู่บ้างเหมือนกัน /// Jazz คันนี้ ยางยังเป็น NCT5 หรือเปล่า ถ้าใช่  ก็ไม่แปลกครับ เพราะยางตัวนี้อยู่ในบัญชียางอันตราย จากคุณ : ton99 - [ 29 ม.ค. 50 14:37:01 ]

ความคิดเห็นที่ 122 ขอบคุณครับ รอมาตั้งแต่ปีที่แล้ว จากคุณ : dum.d - [ 29 ม.ค. 50 14:38:54 ]

ความคิดเห็นที่ 123 /// เรื่องที่อยากให้ปรับปรุงคือ 1. การตอบสนองของพวงมาลัย ที่เบาเกินเหตุไป แม้ว่ามันจะคม และแทบไม่มีระยะฟรีก็ตาม 2. การตอบสนองของแป้นเบรก ขอความรู้สึกที่ใกล้เคียงรถยุโรปมากกว่านี้ ไม่ต้องให้ผ้าเบรกจับตัวกับจานเร็ว เพียงแค่ปลายเท้าสัมผัสแป้น อันนั้นก็เกินไป 3. ระบบกันสะเทือน ขอที่ให้ความหนักแน่น นุ่มนวล แต่มั่นใจ เฟิร์มมากกว่านี้อีกสักหน่อย 4. เครื่องยนต์ ที่ให้อัตราเร่งที่ดีกว่า แต่กินน้ำมันน้อยกว่านี้อีกสักนิด 6. ยางติดรถ เลิกใช้ของ Goodyeat NCT เสียทีได้ไหม? ห่วยแตกมากๆ พอๆกับยางติดรถของเจ้า ทีด้าเลย กลิ้งกล่กๆๆ ไปตามหน้าที่ของมันเท่านั้นจริงๆ มันแทบไมได้ยึดเกาะกับผิวถนนเท่าไหร่เลย /// 1 ผมยากจะบอกว่าพวงมาลัยของ Jazz นี่ฝืดกว่า Civic Ek อีกนะ พวงมาลัยลื่นๆหนะดีแล้วมันเลี้ยวได้ไวดี ความฝืดของพวงมาลัย  มันก็แค่ความรู้สึก 2 ผ้าเบรคติดรถ Honda มันจะมีอาการแบบนี้ ไม่รู้ว่า Honda ทำไมถึงทำให้มันเป็นแบบนี้เหมือนกัน ผ้าเบรคเกรดธรรมดา ตามร้านทั่วไปเบรคได้ดีกว่าเยอะจริงๆ 3 Jazz รุ่นนี้มันวิ่งดีดๆชมัด จะนิ่มก็ไม่นิ่ม  จะแข็งก็ไม่แข็ง  แปลกดีเหมือนกัน 4 ถ้าขับในเมือง i-DSI วิ่งดีกว่า Accord 2.4 อีกนะ แต่ถ้าเกิน 120km/h ก็เริ่มไม่ได้เรื่อง ตอนนี้ผมว่ารอดูเครื่องตัวใหม่ของ Jazz รุ่นต่อไปดีกว่า 6 NCT5 ยังดี  ถ้ามาเจอ Energy แล้วจะยิ่งหนักกว่า เพราะตัวนี้ทั้งดัง ทั้งกระด้าง ทั้งไม่เกาะ ขอเถอะ Honda อย่าเอายางอันตรายติดรถมาให้ลูกค้าเลย อย่าง Energy ที่ติด Civic มาก็เห็นชัดเลยว่าเป็น Energy เอื้ออาทร จากคุณ : ton99 - [ 29 ม.ค. 50 14:51:15 ]

ความคิดเห็นที่ 124 จากคุณ : *380 Z - [ 29 ม.ค. 50 14:56:01 ]

ความคิดเห็นที่ 125 ขอบคุณครับ จากคุณ : ss2498 - [ 29 ม.ค. 50 15:05:16 ]

ความคิดเห็นที่ 126 ขอบคุณครับคุณ JIMMY จากคุณ : นาย-พล - [ 29 ม.ค. 50 15:14:22 ]

ความคิดเห็นที่ 127 Thanks แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 50 15:22:59 จากคุณ : bluegill - [ 29 ม.ค. 50 15:21:45 ]

ความคิดเห็นที่ 128 เมื่อไหร่ตาจิมหมีมันจะเขียนชื่อข้าพเจ้าถูก.....ฟะ... เอ...วันไหนหว่าคุยเรื่องในวงการ.. จะได้แต่วันที่มีคนปรึกษาปัญหาหัวใจล้มเหลวขั้นรุนแรงอ่ะ... ฮี่ฮี่ฮี่ จากคุณ : GondoraS - [ 29 ม.ค. 50 15:48:38 ]

ความคิดเห็นที่ 129 เมื่อไหร่ตานี่มานจาเลิกเขียนชื่อช้านผิดฟะ.... เดี๋ยวนะ...ปรึกษาปัญหาในวงการดึก ๆ หรอ... จำไม่ได้อ่ะ...จำได้แต่วันที่... มีการปรึกษาปัญหาหัวใจล้มเหลวขั้นรุนแรงอ่ะ แก... จำได้ป่ะ... ฮี่ฮี่ฮี่ จากคุณ : GondoraS - [ 29 ม.ค. 50 15:50:37 ]

ความคิดเห็นที่ 130 ขอบคุณครับ คุณ JIMMY ผมเลือกที่จะซื้อ Yaris ที่คุณ Jimmy บรรยายมา ผมว่าดีมากเลยครับ เป็นแนวทางการเลือกซื้อ และสำหรับผู้ที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับรถรุ่นต่างๆที่ทำมา จริงแล้วสุดท้ายก่อนการจะซื้อรถ มันก็อยู่ที่คนซื้อล่ะครับ ส่วนตัวผมชอบทั้ง Jazz และ Yaris เลยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : 010 - [ 29 ม.ค. 50 15:53:47 A:203.144.169.34 X: ]

ความคิดเห็นที่ 131 เห็นด้วยหลายอย่างครับ.. เรื่องหลังคาก็เป้นหนึ่งในนั้น..เสียงหยั่งกะ หลบฝนอยู่ในหลังคาสังกะสี.. อ่อ..แล้วอีกเรื่องก็เรื่องเกียร์ CVT ที่มีปัญหา..ด้วยครับ.. ออกแล้วกระตุกๆ...เมื่อใช้ไปสัก เจ็ดแปดหมื่นโล.. (ไม่รู้ว่าทางฮอนด้ามีวิธี แก้ปัญหายังไงบ้าง..นอกจากให้ทางศูนย์ อัพเกรด โปรแกรมเกียร์..ซึ่งปัญหาไม่ยักกะจบ..คนบ่นหลายคน) และแอร์ ถ้าใช้ไปสักระยะ..มันตัดแบบแปลกๆ พิกลๆ .. อันบนเป็นข้อเสีย.. ส่วนข้อดีคือ.. ถ้าใช้รถในเมือง..เป้นรถที่คล่องแคล่ว..ใช้ง่าย..เรื่องพวงมาลัย เบา..ผมกลับชอบ เพราะไม่ค่อยเอารถเล็กออกต่างจังหวัด..ขับในเมืองไม่ค่อยเมื่อย.. ประหยัด..พอควร อัตรา เร่งก็พอสมควร ความเกาะถนน..ก็ใช้ได้...และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา..ค่อนข้างถูกมากๆ จากคุณ : ยืมล๊อคอินเค้ามาใช้ (พุดดิ้งแมน) - [ 29 ม.ค. 50 16:14:59 ]

ความคิดเห็นที่ 132 ถ้ามันมีอาการสะเทือนๆ ตอนออกตัว ลองเช็คยางรองแท่นเกียร์ก่อนไหมครับ? จากคุณ : JIMMY - [ 29 ม.ค. 50 18:15:51 ]

ความคิดเห็นที่ 133 1. ยางแย่ goodyear ที่ติดรถมา แย่ที่สุดเมื่อเทียบกับเจ้าอื่นๆ ในตลาด 2. เครื่องเสียงแย่ๆ ที่ติดรถมาบวกกับลำโพงแย่ๆ ทำลายความคุ้มค่าเรื่องราคาของรถไปเยอะ 3. ควรปรับปรุง 2 สิ่งนี้ก่อนเพื่อน เนืองจากคนขับ jazz มักเลือกเปลี่ยนเครื่องเสียงกับยางที่ honda ให้มาโดยไม่รู้สึกเสียดายก่อนเป็นอันดับแรก 4. อย่าให้ 2 เรื่องนี้เป็นตัวทำลายความรู้สึกทีดีใน jazz รุ่นต่อไปเลยครับ จากคุณ : ชีล่า (ชีล่า) - [ 29 ม.ค. 50 18:32:29 ]

ความคิดเห็นที่ 134 ใครว่า Jazz มันเหลืองแท็กซี่ หรือ รถขยะ แต่ผมว่ามันเหลืองมะม่วงนะ รูปเนี่ยถ่ายมาตั้งแต่หลังเปิดตัวรถใหม่ๆ บางส่วนจาก Bangkok Post 31 มีนาคม 2006 "...What’s a Thai hot season like without creamy coconut milk sticky rice and sweet ripe mango? We drove the latest minor change Honda Jazz, in mango yellow, to fetch some as fast as we could. (หน้าร้อนเนี่ยขาดข้าวเหนียวมูลหอมๆ ราดกระทิหวานๆมันๆ กินกับมะม่วงไม่ได้หรอก ว่าแล้วเราก็ควบรถฮอนด้า แจ๊ส ไมเนอร์เชนจ์ล่าสุดไปหาข้าวเหนียวมะม่วงมากินกันโดยด่วนจี๋ที่สุด) Ok, it’s actually “Helios Yellow” and its arrival coincides perfectly with the season of ripe “Nam Dorg Mai” or “Og Rong” mango that we all love. The other new colour for the Jazz is a rather dark violet and that reminds us of mangosteen – any idea if that’s in season, too?..." (จริงๆ มันมีชื่อสีว่า เหลือง ฮีลีออส แต่บังเอิญรถรุ่นนี้มาเปิดพร้อมกับหน้ามะม่วงน้ำดอกไม้ หรือ อกร่อง ที่เราโปรดปรานอยู่พอดี  ส่วน Jazz อีกสีนึงที่เขาออกมาใหม่ก็ยังออกม่วงเข้มคล้ายสีผลไม้อีกอย่างนั่นคือมังคุด   เอ... ใครบอกได้มั้งว่าเข้าหน้ามันพอดีรึเปล่า?) แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 50 18:44:59 แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 50 18:40:57 จากคุณ : Mhum - [ 29 ม.ค. 50 18:32:34 ]

ความคิดเห็นที่ 135 อ่านเสร็จแล้วรักรถขึ้นมาอีกเป็นกองเลย .. วันนี้ว่าจะพาน้องขาวอวบไปอาบน้ำ แล้วเช็ดตัวให้แห้ง จากนั้นทาโลชั่นกันแดดให้อีก :) มันจะได้อยู่กับเรานานๆ จากคุณ : tuppee - [ 29 ม.ค. 50 18:57:03 ]