ความคิดเห็นที่ 1 อืม แย่จัง ช่วงนี้ใช้บริการแท๊กซี่บ่อยด้วยอ่ะ เรียนหนัก กลับบ้านดึก ระวังตัวกันด้วยนะครับ ช่วยโหวต!!! จากคุณ : แง่บแง่บ - [ 24 ก.พ. 50 12:59:23 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ยังไงเนี่ย สมันนี้ เมื่อกี้โทรไปบอกแฟนไม่ให้นั่งแท๊กซี่แล้ว ตกลงมันคือยาอะไร แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 50 13:11:22 จากคุณ : lustful - [ 24 ก.พ. 50 13:09:25 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มานต้องตาย จากคุณ : white_pooh_bear - [ 24 ก.พ. 50 13:12:04 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มีทั้งสี ทั้งทะเบียน ไม่น่าจะรอดน่ะครับ... เอ !!! นั่งมาคู่และกลางวันแสกๆ ยังทำได้ ขอให้จับได้โดยเร็วด้วยเถิด พวกภัยสังคมเนี่ยะ... จากคุณ : Suraphan07 - [ 24 ก.พ. 50 13:23:54 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อะไรกันเนี่ย น่ากลัวขึ้นทุกวัน ทีหลังไม่ให้แฟนนั่งแท็กซี่ดีกว่า จากคุณ : sLiimFit - [ 24 ก.พ. 50 13:29:09 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าจำเป็นต้องใช้บริการแท๊กซี่ ผมแนะนำแบบนี้นะครับ 1.อย่าใส่ของมีค่า 2.เวลาขึ้นพอปิดประตูแล้วลองเปิดดูอีกที ว่าออกไม๊ 3.จำข้อมูลภายในรถไว้ครับ มีโทรศัพท์ก็เอามากดโทรหาคนที่บ้าน บอกทะเบียนให้คนที่บ้านรู้ไปเลยครับ ไม่ต้องอาย (ก่อนหน้านี้ผมยังคิดตลกอยู่ว่าใครมันจะบ้าบอกในรถล่ะ เกรงใจคนขับ แต่ต่อไปนี้ผมขอหน้าด้าน) กดแอบถ่ายรูปไว้ครับ (ถ้าแพงก็แอบถ่ายครับ) แต่ให้ถ่ายรูปคนขับเอาชัด ๆ ไว้ซักรูปนึง 4.สังเกตุพฤติกรรมคนขับไว้นะครับ ถ้าผิดปรกติก็ขอลงเลย ไม่ต้องเสียดายเงิน ไม่ต้องอายครับ ชีวิตเรา 5.ห้ามหลับเด็ดขาด ข้อนี้สำคัญ 6.มีสติตลอดเวลา คนขับแท๊กซี่ไม่ใช่ญาติเรา ขับให้เรานั่งเพราะรอจะเอาเงินแค่นั้นครับ (ขอโทษแท๊กซี่ดี ๆ ด้วยนะครับ) น่าจะมีอีกเยอะ แต่ที่ผมรอดมาได้เพราะข้อ 6 ครับ จากคุณ : Taffeta White - [ 24 ก.พ. 50 13:37:13 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อีกแล้วเหรอเนี่ย จากคุณ : อุ้ยเซี่ยวป้อ - [ 24 ก.พ. 50 13:43:50 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ผมเสียใจกับระบบของการแจ้งความของสน.ไทยจังคับ ผมบอกตรง ๆ อยากนั่งรถกลับไปแจ้งที่ สน.เกิดเหตุ แต่ผมกับแฟนคงไปไม่ไหวอะคับ ที่ผมได้ทำคือ 1.โทรไปแจ้ง ร่วมด้วยช่วยกัน 2.โทรไปแจ้ง 191 3.ไปเดินไปแจ้งสน. ที่บ้าน ผมบอกทะเบียนรถไป ยังบอกไม่ต้องเลย แล้วจะให้เล่าทำไมหว่าตั้งยาว สุดท้าย ไม่จดอะไรเลยซักตัว ผมคงไม่ออกไปแจ้งที่ สน บางโพแล้วล่ะครับ ผมว่าแจ้ง ร่วมด้วยช่วยกัน ดีที่สุดแล้วล่ะ พึ่งคนในสังคมเดียวกันเองเนี่ยแหละ แต่ผมว่าเค้าคงรอดอะครับ หลักฐานก็ไม่มี ให้ตรวจค้น โยนยาทิ้งก็จบแล้ว มันคงไปทำกับใครอีกแน่นอนครับ เพราะถ้าผู้โดยสารคนไหนไม่รู้ตัว 10 วิก็หลับแล้วครับ อาการนะครับ นับเป็นวิเลย ผมให้ 10 วิ (ผู้ชายร่างกายแข็งแรง ออกกำลังกายบ้างนะครับ) 1.หายใจเข้าไปเหมือนยังไม่ได้รับออกซิเจน ต้องหายใจอีกรอบ (ภายใน 1 - 5 วิ หลังจากดมเข้าไป) 2.มึนหัว  แน่นหน้าอก พูดไม่ออก (1-2 วิหลังจากข้อ 1) 3.ถ้าไม่ลงจากรถ 2 วิหลังจากนี้คุณหลับคารถแน่นอนครับ รอดมาได้ไงเนี่ย จากคุณ : Taffeta White - [ 24 ก.พ. 50 14:06:13 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ทำไม คนขับแท็กซี่ไม่สลบอ่ะ จากคุณ : ลาภมา100 (ลาภมา100) - [ 24 ก.พ. 50 14:08:19 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ข้อสังเกตุครับ  คุณนั่งมากับแฟน แฟนนั่งหลังคนขับ ย่อมอยู่ใกล้กว่า ทำไมไม่เป็นอะไร คุณอยู่ไกลกว่า ทำไมเป็นล่ะ แพ้ยาอะไรหรือเปล่าครับ ผมไม่อยากเชื่อว่า แท็กซี่ วางยาคุณ เพราะกลางวันแสกๆด้วย ผมไม่ได้เข้าข้างแท็กซี่แต่ผมดูตามเนื้อผ้า   คุณผิดใจอะไรกันมาหรือเปล่า มีตั้งหลายเรื่อง ที่ไม่พอใจแท็กซี่แล้วใส่ร้ายป้ายสี แท็กซี่ไปอีกรูปแบบหนึ่งเยอะแยะไป ขอโทษนะครับ ที่ไม่ได้เข้าข้างเจ้าของกระทู้ เพราะตอบกระทู้ไม่จำเป็นต้องเอียนเอียงไปกับเจ้าของกระทู้เสมอไป (เพราะกระทู้ก็คือผู้ออกความเห็นร่วมกัน) จากคุณ : taxi y2k - [ 24 ก.พ. 50 14:13:54 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เอาเป็นว่าจะจดจำหมายเลขนี้ไว้เพื่อระวังก็แล้วกัน จากคุณ : กาแลนท์เขียวเมืองนนท์ - [ 24 ก.พ. 50 15:11:58 ]

ความคิดเห็นที่ 12 -_-" จากคุณ : Moody-Angle - [ 24 ก.พ. 50 15:14:05 ]

ความคิดเห็นที่ 13 2.คนขับใส่แว่นตาดำ แต่ทำไมบนคอนโซลหน้ารถมีแว่นตาเลนส์ใสวางอยู่ - เขาอาจจะสายตายาว ใส่แว่นเฉพาะเวลาอ่านหนังสือ  กลางวันแสกๆ ใส่แว่นกันแดดขับรถก็ปกติดีนิ 3.ผมมองไปที่รูปคนขับหน้ารถ ไม่ตรงกับหน้าคนขับครับ - เจอบ่อยครับ  บ้านเรา ไม่ได้ควบคุมว่า คนขับแท็กซี่ต้องมีใบขับขี่รถสาธารณะ อย่างเข้มงวด  บางทีก็เจอพวกเอาใบขับขี่คนอื่นมาใช้เหมือนกัน 4.ภายในรถคนขับเปิดเพลงลูกทุ่ง ซึ่งขนาดไม่ได้โดนยาได้ฟังแล้วเวียนหัวแล้วคับ แต่เพลงตลกดีผมเลยไม่ได้คิดไร -คุณอาจจะเวียนหัวจากเพลงก็ได้ครับ เพราะว่าถ้าเป็นยาจริง ทำไมแฟนคุณ ที่ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน ไม่เป็นอะไรเลย แต่ระหว่างทาง หน้าโรงเรียน โยธินบูรณะ กำลังจะเลี้ยวซ้ายไปบางโพ จะมีสะพานคนขับเริ่มหยิบกระปุกยามาทาที่ท้ายทอยคนขับ ขวดประมาณ นมเปรี้ยวบีทาเก้น (ไม่รู้จะเทียบขนาดกับอะไรขออภัยนะครับ) ตัวยาเป็นสีเหลือง ๆ เนื้อยา(เหมือนจะเหลว ๆ )คล้าย ๆ วิก หรือขี้ผึ้ง ขวดขนาดนั้น อาจเป็น น้ำมันมวยก็ได้ครับ  บางคนก็แพ้กลิ่นนี้เหมือนกัน ไม่ได้ว่าท่าน จขกท นะครับ  เพียงแต่ว่าอยากให้ท่านใช้สติ ลองพิจารณาดูว่า  เหตุการณ์ที่ท่านเจอนั้น  เท็จ จริงเป็นอย่างไรบ้าง บางทีอาจจะไม่ใช่เรื่องร้ายอะไรก็ได้ครับ จากคุณ : ปากหวาน - [ 24 ก.พ. 50 15:32:24 ]

ความคิดเห็นที่ 14 1.การใช้สารระเหยเพื่อระงับประสาทในทางการแพทย์ มีขั้นตอนที่ต้องควบคุมเพื่อให้สารระเหยนั้นเดินทางตรงเข้าสู้ถุงลมที่ปอด ซึ่งเป็นส่วนที่มีการแลกเปลี่ยนกาซเข้าสู่เลือด  หากควบคุมไม่ดี ก็ไม่สลบ   และหากสารระเหยไปไม่ถึงถุงลม  ก็เข้ากระแสเลือดไม่ได้ ก็ไม่มีผล  แต่นี่แค่ได้กลิ่นซึ้งฟุ้งในพื้นที่กว้าง  ดันจะสลบ  ง่ายไปมั๊ง 2.สมมติที่แทกซี่ใช้ เป็นสารวิเศษกว่าทางการแพทย์  แล้วแทกซี่มันไม่สลบด้วยหรือไง? ใครเชื่อก็ฟายละ จากคุณ : moccha mania - [ 24 ก.พ. 50 16:05:47 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เจ้าของกระทู้มาบอกเตือนแบบนี้ก็ดีแล้ว...คนที่ไม่เห็นด้วยก็เงียบๆ ไปก็จะดีนะ เรื่องแบบนี้คนอ่านเค้าตัดสินเองได้ ว่าจริงหรือเท็จ ก็คิดว่าถ้าแท๊กซี่คนนั้นบริสุทธิ์ใจจริง การที่คุณเจ้าของกระทู้เปิดประตูแล้วกระโดดลงมากับแฟน แถมตะโกนด่าไปแบบนั้น  เค้าต้องไม่ขับรถหนีไปเฉยๆ แน่  มันต้องลงมาทวงค่าโดยสารสิ มันต้องลงมาถามว่าเฮ๊ยคุณด่าผมทำไมเนี่ย...อ่านแล้วก็ Think กันนิ๊ดนึง เรื่องสารระเหย ถ้าคนมันเลวอ่ะนะ ถ้ามันคิดจะทำอะไรมันก็ต้องหาทางป้องกันตัวเองไว้ล่ะ  อย่างเช่นมันใช้สารระเหยมาทำให้ผู้โดยสารสลบสไล...มันก็ต้องมีวิธีป้องกันตัวมันเอง เราไม่ได้เข้าข้างเจ้าของกระทู้  แต่ก็รู้สึกเห็นใจที่อุตส่าห์เอาเรื่องทำนองนี้มาเตือนเพื่อนๆ กลับถูกคอมเม้นท์ที่ไม่เห็นด้วยตอบกลับแบบไม่น่ารักเอาซะเลย... สังคมเลวเพราะคนดีท้อแท้... จากคุณ : iamjunenumberone - [ 24 ก.พ. 50 16:26:02 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คือ ไม่เป็นไรครับ ใครไม่เชื่อผม ผมก็ไม่โกรธหรอกครับ เพราะเจตนาผมแค่หวังดีมาเตือนกันเท่านั้นเอง -ทำไมแฟนผมไม่เป็นก่อนผมเพราะอะไร ผมคิดว่าตรงนี้คงเป็นเพราะผมรู้เท่าไม่ถึงการไปพยายามดมดูว่ามันเป็นกลิ่นของอะไรอะครับ อีกอย่างผมอธิบายลวก ๆ ไป ตำแหน่งที่แฟนผมนั่งคือหลังคนขับ ผมนั่งชิดกับแฟนครับ คือประมาณตรงกลางรถ และแอร์เหมือนจะปรับมาตรงทางนี้ครับ ผมคงได้รับกลิ่นไปก่อนแฟนคงน่าจะเพราะเหตุนี้ครับ แต่หลังจากที่แฟนผมลงจากรถมายืนข้างทางแล้ว แฟนผมก็เริ่มมีอาการเดียวกับผมครับ แต่เป็นน้อยกว่า ถามแฟนบอกว่าใจสั่นมือไม้สั่นและแน่นหน้าอกเหมือนกัน ไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะมาแต่งเรื่องหรอกครับ เจตนาหวังดีและไม่อยากให้ใครไปโดนเค้าทำอีกนั่นแหละครับ ของแบบนี้ไม่เจอกับตัวคงไม่มีใครเข้าใจ ไม่เป็นไรครับ ที่ทั้ง 2 ท่านว่ามาก็เป็นการมองความอีกด้านนึง แต่ผมสาบานด้วยผ้าเหลืองที่ผมเคยห่มมาแล้ว ว่าทั้งหมดที่ผมเอามาเตือนกันไม่ได้มีเจตนาใส่ร้ายใครทั้งนั้น ส่วนที่ว่าทำไมคนขับถึงไม่สลบ เอาตามความคิดผม ถ้าผมเป็นคนขับนะ ผมจะกลั้นหายใจซัก 30 วินาที เปิดขวด ทายา 20 วินาทีผ่านไป ผมจะลดกระจกลง ซัก 10 วิเพื่อให้อากาศถ่ายเทออกไป จากนั้นผมก็ปิดกระจกครับ (ผมจะทำแบบนี้ถ้าผมจะวางยาในรถครับ) และผมก็ไม่คิดว่าเอาอะไรแบบนี้มาบอกกันในเวปบอร์ด เพื่อจะให้ไปเอาผิดอะไรหรือให้ใครต้องมาเชื่อผมทั้งหมดหรอกครับ เอาเป็นว่าผมหวังดีแล้วกันนะครับ ตอนแรกที่ผมอ่านจากท่านอื่นที่เอามาเล่า ผมก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งนะครับ เสียงเล็ก ๆ จากปากผมคงเหมือนปากชาวบ้านคนนึงเหมือนที่ผมได้อ่านจากคุณ "สงสารน้องออส" นั่นแหละครับ แต่สำหรับผมตอนนี้เสียงนั้นมีค่ากับชีวิตผมมาก ๆ ครับ มันผิดตรงที่ผมไม่มีหลักฐานนั่นแหละครับ ร่วมด้วยช่วยกัน 1677 ลองโทรไปถามดูนะครับ ว่ามีคนโดนแบบนี้มากี่คนแล้ว โชคดีครับผม ขออย่าให้ใครต้องเป็นเหยื่อมันอีกก็แล้วกันครับ ถ้าเบอร์ทะเบียนรถ ที่ผมหวังดีจำมาบอก มันทำให้คนดีหลายท่านต้องเดือดร้อนกัน แจ้งลบกระทู้ผมได้เลยครับ ผมเสียใจ ผมกับแฟนคงไม่มีอะไรจะทำกันแหละครับ ลืมเรื่องเบอร์ทะเบียนรถไปก็ได้ครับ อ่านเป็นอุทาหรณ์ ก็พอครับ นั่นคือเจตนาผม จากคุณ : Taffeta White - [ 24 ก.พ. 50 16:32:30 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เพิ่งมาอ่านความเห็นของคุณคห 14. แล้วน้ำตาผมจะไหล จากคุณ : Taffeta White - [ 24 ก.พ. 50 16:41:03 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ใครไม่เจอกับตัวไม่รู้หรอคับ คนรู้จักผมก็โดนกลางวันแสกๆกลางห้างเลยคับ  อาการเดียวกันเลยคับ คุยๆอยู่แล้วก็วูบไปเลยดีนะที่แฟนมาทันเลยไม่โดนรูดทรัพย์ แต่ต้องเข้าโรงพยาบาลเลยคับ ขนาดบอกอาการโดยละเอียดหมอยังไม่รู้เลยคับว่าโดนยาอะไรมาอะคับ   ฟังเอาไว้เป็นการป้องกันดีไหมคับ ถ้าวันหนึ่งมันเกิดขึ้นกับคุณจะได้มีทางเอาตัวรอดได้     คนรู้จักของผมแต่ก่อนก็ไม่เชื่อซ้ำยังหัวเราะซะด้วยเวลามีข่าว  แต่ตอนนี้...........ลองคิดกันดูเอาเองนะคับ   เรายังไม่เจอไม่ใช่ไม่มีนะคับ   พี่ จขท ขอบคุณคับที่มาเตือน จากคุณ : nana1685 - [ 24 ก.พ. 50 16:56:16 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เอาล่ะ ผมเชื่อคุนๆ ใจเย็นๆ เดี่ยวทางตำรวจคงตามตัวมันได้แหละคับ จากคุณ : VanHelsing - [ 24 ก.พ. 50 17:36:57 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ฟังมาเยอะแล้วเรื่องนี้...ตอนแรก ๆ ไม่เชื่อ... ตอนนี้เริ่มลังเล   แท๊กซี่ไม่พิรุธจริง.. จอดลงมาแล้ว ผู้โดยสารเบี้ยวค่าแท๊กซี่มันไม่ยอมหรอก ยิ่งชายมากับหญิงด้วยแล้วดูไม่น่ากลัว ยกเว้น ชายมาเป็นกลุ่ม แท๊กซี่อาจไม่กล้าลงมา เหตุผลนี้ทำให้ดูมีน้ำหนักที่จะเชื่อหน่อย ดีใจด้วยครับ ที่รอดมาได้ เป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : Soul To Squeeze - [ 24 ก.พ. 50 17:42:29 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เก็บข้อมูล ขอบคุณ จขกท. ที่เอามาเล่าสู่กันฟัง ขอให้หายมึนไวไวนะคะ จากคุณ : หัวใจข้างซ้าย พวงมาลัยข้างขวา - [ 24 ก.พ. 50 17:53:04 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ช่วยโหวตครับ จากคุณ : yacht7 - [ 24 ก.พ. 50 18:41:17 ]

ความคิดเห็นที่ 23 โหวตครับ จากคุณ : <---TUk---> - [ 24 ก.พ. 50 18:53:44 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ผมเชื่อคุณไว้ก่อนล่ะครับ เพราะผมเรียนอยู่รร.โยธินบูรณะ(เพิ่งปิดเทอมเอง) แล้วก็กลับแท็กซี่กับเพื่อนอีกหลายคนทุกวันด้วย แต่ถ้าผมเจอเค้าคงไม่กล้า เพราะปกติผมกลับหลายคน แต่บางทีก็มีบ้างทีกลับคนเดียว ขอบคุณจขกท.มากๆครับที่ช่วยมาเตือนกัน แล้วก็ขอให้คิดว่าคห.14 เป็นคนขับแท็กซี่คันนั้น มาแก้ต่างให้ตัวเองละกันครับ จะได้ไม่ต้องคิดมาก ปล. คุณด่าคนอื่นก่อนนะครับ คห.14 จากคุณ : เบลอว่ารักแถบ - [ 24 ก.พ. 50 19:38:48 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณที่เตือนค่ะ จากคุณ : njin - [ 24 ก.พ. 50 19:59:47 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อุปทาน เคยอ่านเรื่องแบบนี้บ่อยๆเลย ทำให้คิดมากเลยเครียดว่าจะโดนแบบนั้น จิตใจจะสับสน ยิ่งคนขับขับแบบเบรค ยึกๆยักๆ พาลจะอ๊วกเอาให้ได้ ผมก็เป็นถ้านั่งหลัง ผสมกับได้กลิ่นยา"เหลือง" ที่คนขับเอามานวดแก้เมื่อยเข้าไปอีก เลยไปกันใหญ่ คิดว่าเขาจะวางยาซะงั้น คนขับทั้งดมทั้งนวดแบบนั้นไปคร่อกไปก่อนคุณเรอะ แฟนคุณยังไม่เป๋นไร เพราะแฟนคุณไม่เคยอ่านเรื่องพวกนี้ เลยไม่เป็นไง ผมว่าถ้าแท๊กซี่จะทำอะไรแบบนี้คงเลือกที่จะทำกับ ผู้โดยสารดูอ่อนแอกว่า เช่นเป็นหญิงที่มาคนเดียว ทำกับผู้ชายที่มากับแฟนสองคน นี่โง่เอามากๆเลย ไม่รู้สิผมไม่ค่อยเชื่อ แต่ก็ไม่ได้ว่า เรื่องแบบนี้มันเป็นไปไม่ได้ เพียงแต่มันเกิดขึ้นได้ยากนะ ยาที่ทำให้สลบง่ายๆแค่ได้กลิ่นแบบนั้น มันหาไม่ได้ง่ายนะ ขออภัย จขกท ที่ ไม่เห็นด้วยนะ จะให้ดีแนะ นำ ไปหาหมอแล้วตรวจอาการดูว่าคุณเป็นอะไรไปแน่ ตรวจเนื้อเยื่อในโพรงจมูกหรือหลอดลมก็คงวิเคราะห์ได้แล้ว ได้ผลเป็นที่แน่นอนว่าโดนสารเคมีที่ทำให้หลับหรือสลบ "ค่อยมาโพสก็ยังไม่สาย" ที่สำคัญ อย่าเพิ่ง โพสทะเบียนรถแบบนี้ครับ มันอาจไม่เป็นผลดีต่อคุณนัก อาจเป็นคดีความได้   มันจะปวดหัวกว่าเก่านา ไม่โหวตครับ แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 50 20:42:02 จากคุณ : <<TH.MaR.>> - [ 24 ก.พ. 50 20:35:28 ]

ความคิดเห็นที่ 27 แจ้ง วิทยุ สวพ91 หรือ จส100 เร็วกว่าตำรวจครับ ออกอากาศไปเลย ตำรวจหน้าบางเรื่องพวกนี้ รีบตำเนินการเร็วครับ แล้ว บนถนน คนเห็นก็จะได้แจ้งว่าผู้ต้องสงสัยอยู่แถวไหน จากคุณ : หาเบอร์พวกนี้ติดไว้ดีกว่าจำ191 - [ 24 ก.พ. 50 20:44:03 A:125.25.159.88 X: TicketID:038237 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อุปทาน จากคุณ : Freethinker - [ 24 ก.พ. 50 20:55:41 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ผมก็ไม่ค่อยเชื่อนะ แต่ถ้าจริงก็ขอบคุณที่เตีอนครับ จากคุณ : โกอ้วน - [ 24 ก.พ. 50 20:58:00 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ไม่เป็นไรนะครับเจ้าของกระทู้ ดีแล้วที่ไม่โดนอะไร คนที่ไม่โดนก้อไม่รู้หรอก คงต้องรอให้โดนกับตัวก่อน ผมเองก้อไม่อยากให้แฟนนั่งแท๊กซี่เหมือนกัน ขอบคุณมากครับที่เข้ามาเตือน จากคุณ : เด็ก ป.สี่ (นามสมมุติ) - [ 24 ก.พ. 50 21:16:00 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณพี่คห. 26 มากครับ ผมอาจเป็นอย่างที่คุณว่าก็ได้ครับ ตอนนี้ผมกับแฟนก็ปลอดภัยดีแล้ว ผมก็ผิดเองที่วู่วามเอาทะเบียนรถมาลงแบบนี้เพราะผมเคยเห็นสมาชิกบางท่านก็เจอแบบนี้มาก่อน ตอนนี้ผมไม่ต้องการเอาเรื่องเค้าหรอกครับ ตอนพิมพ์หันไปถามแฟนเหมือนกันว่าทำไมเค้าถึงไม่ค่อยมีอาการ แฟนบอกว่านั่งดมยาดมมาตลอดทางเลย(การบูร) แต่ตอนที่กำลังจะลงแฟนก็ได้กลิ่นวูบมาเหมือนกัน และมามีอาการคล้าย ๆ ผมตอนลงจากรถแล้วครับ ไม่ต้องโหวตหรอกครับ กระทู้แนะนำดี ๆ ของหลาย ๆ ท่านดูจะมีประโยชน์มากกว่า เอาเป็นว่าฟังหูไว้หูก็แล้วกันนะครับ อ่านผ่าน ๆ ไปดีกว่า ฟังไว้เป็นอุทาหรณ์แล้วกันครับ พี่แท๊กซี่ที่ทำมาหากินสุจริตเค้าจะได้ไม่พลอยเดือนร้อนกันไปด้วย ผมขอโทษแล้วกันนะครับ ไม่ว่าจะทำอะไรอย่าประมาทก็แล้วกันครับผม ฝากไว้เท่านี้แหละครับ ^^ จากคุณ : Taffeta White - [ 24 ก.พ. 50 21:25:46 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ผมไม่แน่ใจเรื่องยาขวดนั้นครับ อาจเป็นยาบ้านๆอะไรของเค้าซักอย่างที่กลิ่นไม่คุ้นกับ จมูกเราก็ได้...ดมแล้วพาลคลื่นไส้ผมก็เป็นบ่อยๆ แต่ถ้าเป็นอย่างที่ จขกท. สงสัยจริงๆ ก็ต้องนับถือล่ะ ครับที่มีสติพอที่จะเอาตัวเองและตัวแฟนรอดได้ ผมเองก็พึ่งได้คุยกับคนรู้จักไม่นานมานี้ ลูกชายเค้านั่งแท็กซี่จวนจะถึงบ้านอยู่แล้ว คนขับมันหันมาถามว่าบ้านอยู่ซอยไหน พอลูกชายเค้าอ้าปากจะตอบ ไอ้แท็กซี่ มันฉีดสเปรย์อะไรซักอย่างเข้าไปที่ปาก และจมูก เรียบร้อยครับ ลูกชายเค้าทรุดไป แทบจะทันที ตื่นมาอีกทีก็อยู่ในพงหญ้าและ ของมีค่าหายไปหมด นี่ถ้าเป็นผู้หญิงก็คงโดน อะไรที่เลวร้ายมากกว่านี้แล้วครับ จากคุณ : hooya - [ 24 ก.พ. 50 21:34:28 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณมากครับที่เข้ามาเตือน แฟนกำลังจะแฟนนั่งแท๊กซี่กลับบ้านโทรไปรเตือนแฟนดีกว่า ใครไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะครับและ ไม่ควรใช้คำหยาบกับ จขทก. เหมือน คห.14 คห.14 ลองพิจารณาตัวเองด้วยครับ จากคุณ : ME34 - [ 24 ก.พ. 50 21:42:32 A:124.120.196.142 X: TicketID:136309 ]

ความคิดเห็นที่ 34 นี่แหละครับ สังคมเราอันตรายขึ้นทุกๆวัน ตอนที่ผมโดน ผมก็ไม่คิดเหมือนกันครับว่ามันจะเกิดกับผมเอง โชคดีมากครับ ที่ไม่เป็นอะไร ทั้งตัวคุณ และแฟนคุณเอง จากคุณ : DelighTedPooH - [ 24 ก.พ. 50 21:50:10 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ผมเชื่อเจ้าของกระทู้ครับ เรื่องนี้มีจริงแน่นอน จากคุณ : GameOver - [ 24 ก.พ. 50 21:52:25 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณค่ะ จะระวังตัวเพิ่มขึ้น จากคุณ : สเปน - [ 24 ก.พ. 50 21:54:42 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบอกตรงนี้อีกครั้งนะครับหลังจากตอนนี้ผมมีสติและรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว ผมกลับอ่านข้อความแรกที่ผมโพสด้านบนอีกรอบ บางประโยคเหมือนผมจะมีความแค้นกับแท๊กซี่คันนี้เป็นการส่วนตัวจริง ๆ นั่นแหละครับ ผมนั่งแท๊กซี่มาถ้านับตั้งแต่เด็กนี่คงเป็นพันคัน กล้าบอกตรงนี้เลยว่า 99% ของคนขับแท๊กซี่ ส่วนใหญ่ที่มีบ้างเค้าจะชวนคุย จากที่คุย ๆ มาหลายท่านจะเป็นคนดีทำมาหากินสุจริตแทบทั้งนั้นเลยครับ มีบ้างที่บางคันมีอารมณ์หงุดหงิด ก็อย่าไปถือโกรธเค้าเลยครับ หากินบนท้องถนนและทำงานแข่งกับเวลาแบบนี้ รถก็ติด สภาพแวดล้อมวุ่นวายตลอดเวลา แถมต้องใช้สมาธิขับรถด้วยยิ่งอาจทำให้บางคนหงุดหงิดไปกันใหญ่ครับ ผมขอไปลบบางข้อความที่ไม่เหมาะสมออกแล้วกันนะครับ ถ้าแก้ชื่อกระทู้ได้ผมขอเอาเบอร์ทะเบียนออกแล้วกันครับ หรือลบกระทู้ไปเลยก็ดีครับผม ไม่ต้องการให้กระทู้นี้ขึ้นเป็นกระทู้แนะนำหรอกครับ เพราะตอนนี้ผมกับแฟนปลอดภัยแล้วและไม่เดือดร้อนอะไร เดี๋ยวพาลจะทำให้คนขับแท๊กซี่ที่หากินสุจริตพลอยเดือดร้อนไปด้วย สงสารลูกเมียเค้าครับผม คนมีปัญหาหนักกว่าผมยังมี อ่านแล้วผ่านไปฟังเอาไว้เป็นบทเรียนดีกว่าครับ แต่สำหรับผมและแฟนเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ผมเหมือนเกิดใหม่ ต่อไปนี้ผมคงรักแฟนและรักตัวเองขึ้นเยอะเลยครับ ขอโทษพี่ ๆ แท๊กซี่ดี ๆ ท่านอื่นด้วยนะครับ ผมขาดสติเอง ___/\___ ขอโทษครับ ^^" จากคุณ : Taffeta White - [ 24 ก.พ. 50 22:02:48 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ไม่โดนเข้าตัวเองไม่รู้หรอก...กระทู้ที่ว่าอุปทาน..หนะ...อิอิ..ท่าเจอเข้ากับตัวเองแล้ว..จะรู้ว่า..สังคมนี้มันแย่แค่ไหน..ผม + ให้ครับ..เจอมาแล้ว.. จากคุณ : ย่างก้าวหมื่นลี้ - [ 24 ก.พ. 50 22:52:11 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ผมว่าคนทีอ่านแล้วไม่เชื่อ มีอยู่ 2 ด้านนะ - เคยใช้เอง - ความรู้ไม่ถึง หรือไม่ค่อยเชื่อคนอื่น แต่ไม่แปลกครับ เพราะต่างคน ต่างความคิด สำหรับผม ผมว่าคุณโชคดีมาก ตัดสินใจเร็ว ส่วนเรื่องทำไมคนขับไม่เป็นไร ถ้าเป็นยาสลบบางชนิด เคยได้ยินมาว่า เอาผ้าชุบน้ำปิดจมูก หรือทาอะไรสักอย่างไว้ที่จมูกก่อน สามารถป้องกันได้ครับ สรุปง่ายๆ คือ ถ้าเขาจะทำเรา เขาต้องป้องกันตัวอยู่ก่อนแล้วครับ และสำหรับผม เรื่องจะจริงหรือไม่จริง แต่เหตุการณ์ที่ จขกท โพสมานี้ มีความเป็นได้ค่อนข้างมาก ครับ จากคุณ : ongtor - [ 24 ก.พ. 50 22:57:46 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขออย่าให้เกิดขึ้นกับใครอีกเลยนะครับ ช่วยๆกันนะคับ เราอยู่ในสังคมเดียวกัน จากคุณ : song hey khuan - [ 24 ก.พ. 50 23:17:33 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ผมว่ายานั้นน่าจะเป็นยาที่มันคล้ายๆยาหม่องอะ ไม่รู้เรียกว่าไรที่บ้านก็มี แต่ผมเชื่อจขกท.ค่อนข้างมากครับ เพราะอย่างที่คห.ข้างบนพูด ทำไมแท๊กซี่ไม่ลงทวงค่าโดยสารหรือลงมาพูดอะไร จะขับหนีไปเลยทำไมครับ?? จากคุณ : amtap - [ 24 ก.พ. 50 23:42:38 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ถ้ามันคิดจะวางยาทำให้คนอื่นเค้าหลับ มันคงไม่โง่พอที่จะ ไม่ป้องกันตัวเองหรอกครับ รายการเจาะใจ เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาก็ แท็กซี่ แทงผู้หญิงปางตาย ป้ายคนขับ ก็มั่ว ไม่ตรงกัน คุณสัญญา ยังสงสัยเลยว่าไม่ยักกะมีคนตรวจ ปล่อยให้มันมั่วๆขึ้นทุกวัน แล้วก็กลายเป็นเรื่องธรรมดา ประเทศไทยทุกวันนี้ ความปลอดภัยยังมีอยู่หรือเปล่าครับ เดี๋ยวนี้ไว้ใจอะไรได้ที่ไหนครับ แจ้งตำรวจเหรอครับ แจ้งข่าวสารให้ระวังภัยกันอย่างนี้ เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วครับ เอาเรื่องพวกนี้ไปเล่าให้คนที่เรารักได้ฟัง เค้าจะได้เตรียมตัวป้องกันไว้ หรือ หลีกเลี่ยงได้ ต้องขอบคุณเจ้าของกระทู้ครับ แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 50 00:43:32 แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 50 00:31:50 จากคุณ : ลูนาร์ - [ 25 ก.พ. 50 00:11:08 ]

ความคิดเห็นที่ 43 นอนไม่หลับ คิด ๆ ไปก็ยังพอมีบางอย่างที่ผมพอจะบอกให้ไว้ป้องกันตัวเองหรือสังเกตุเอาไว้ ที่อาจจะมีประโยชน์บ้างนะครับ ขอเรียบเรียงเอาพฤติกรรมของคนขับมาบอกให้ฟังนะครับ ซึ่งตอนแรกผมนึกอะไรไม่ออกเลยครับ 1.ตอนผมขึ้นรถ คนขับพยายามหาเรื่องคุยกับผม (ซึ่งแท๊กซี่ดี ๆ หลายท่านที่อัธยาศัยดีก็มีเยอะครับ ชวนลูกค้าคุย มีให้พบเห็นเป็นประจำอยู่แล้ว) ตรงนี้ผมคิดว่าพยายามทำให้ผมและแฟนไว้ใจ และสร้างความสนิทสนมในระดับนึงเพื่อให้เรารู้สึกว่าเค้าไว้ใจได้ครับ 2.คนขับจะลุกลี้ลุกลน ขับรถรีบเร่ง หรือมองกระจกหลังบ่อย ๆ (มองผู้โดยสารนะครับไม่ใช่มองรถที่ตามมาด้านหลัง) คนขับคันที่ผมนั่ง ตอนแรกไม่ใส่แว่นกันแดด ผมเห็นเค้ามองกระจกมาด้านหลังบ่อย ๆ จนผมเริ่มผิดสังเกตุ เค้าเลยหยิบแว่นดำมาใส่ (ตรงนี้แดดอาจร้อนก็เป็นได้ครับ ซึ่งอากาศข้างนอกมันก็ร้อนจริง ๆ ครับ) 3.ตอนเค้าเอายาป้ายที่หลังคอแล้ว ต่อจากนั้นเหมือนเค้าเอานิ้วมาถูที่จมูกเหมือนท่าของคนที่เป็นหวัด (ตรงนี้ก็เป็นอาการปรกติอีกเช่นกัน เลยทำให้ผมไม่ค่อยระแวง จนเป็นเหตุให้ผมลองดมดู ซึ่งมันเป็นการกระทำที่โง่จริง ๆ ครับ แต่ในอีกแง่นึงถ้าผมไม่ลองดม ผมคงไม่รู้สึกถึงอาการแน่นและทำให้รู้ตัวในทันทีครับ) ถ้าเจอแบบผม อย่าพยายามดมนะครับ มันทำให้อาการไปไวมากจริง ๆ ให้ขอลงจากรถเลยครับ หรือถ้าจำเป็นให้เปิดกระจก นึกเล่น ๆ ว่าถ้าผมอยู่บนทางด่วนล่ะ . . . (มีแท๊กซี่บางท่านขอผู้โดยสารว่าให้ขึ้นทางด่วน ตรงนี้อยากให้มองไว้ 2 ทาง ก็แล้วกันนะครับ ลองพิจารณาดูตามเหตุการ ณ เวลานั้นของคุณดูนะครับ 1. มองในแง่ดี คนขับเจตนาดี หรือเขารีบเพื่อส่งกะ และถึงที่หมายไว ซึ่งเป็นผลดีทั้ง 2 ฝ่าย 2. มองในแง่ร้าย บนนั้นคุณไม่มีสิทธิที่จะร้องขอความช่วยเหลือจากใครได้เลยครับ จะเปิดประตูแล้วรีบโดนลงรถแบบผมคงไม่ไหว (ผมเสียใจและโกรธตัวเองอยู่อย่างนึง ตอนผมลงรถนั้น ผมหยิบของลงจากรถก่อนแทนที่จะดึงมือแฟนผมตามไปด้วย เพราะที่นั่งระหว่างผมกับแฟนมีถุงสัมภาระใบเล็ก ๆ 2 - 3 ถุงวางคั่นไว้ ถ้าผมลงไปแล้วมันขับรถออกไปทั้ง ๆ ที่แฟนผมยังอยู่บนนั้นผมคง จะไม่ให้อภัยตัวเองไปทั้งชีวิตแน่ ๆ ครับ ซึ่งตรงนี้มันแย่มาก ๆ ครับ เพราะผมรักแฟนของผมมาก ๆ) นึกออกได้เพิ่มเติมเท่านี้แหละครับ หวังว่าคงมีประโยชน์บ้างนะครับ ฝากเอาไว้อีกนิดนึงดีกว่าครับ ถ้าจะใช้บริการแท๊กซี่อยากให้รู้เส้นทางเอาไว้อย่าไปตามมีตามเกิด คนขับเกิดพาขับไปไหนก็ไม่รู้ รถติดนิดหน่อยบางครั้ง ช่วงเวลาตรงที่หลายคนหงุดหงิด อาจคือโอกาสเดียวของคุณที่จะเอาตัวรอดได้ครับผม . . . (ถ้าอยู่บนทางด่วนอย่างดีผมกับแฟนคงหมดตัวรอดกลับบ้าน อย่างร้ายที่สุดเกินจินตนาการเลยล่ะครับ) โชคดีนะครับ คนไทยรักกัน จากคุณ : Taffeta White - [ 25 ก.พ. 50 01:26:26 ]

ความคิดเห็นที่ 44 มามุง จากคุณ : เปรตเวหา - [ 25 ก.พ. 50 01:34:01 ]

ความคิดเห็นที่ 45 อ่านแล้วชักเป็นห่วงแฟน เฮ้อ ชีวิต จากคุณ : Thongchai - [ 25 ก.พ. 50 01:46:58 ]

ความคิดเห็นที่ 46 สังคมทุกวันนี้น่ากลัวจัง แต่ผมก็ยัง งงๆ อ่ะครับ แล้วทำไมคนขับทั้งจับ ทั้งนวด ทั้ง ดม ขนาดนั้นทำไมไม่เป็นไรอ่ะครับ แฟนคุณด้วยน่ะครับ เป็นไปได้รึเปล่าว่าเป็นอาการแพ้สารเคมีบางอย่างของคุณ จขกท เองน่ะครับ เพราะเพื่อนผมก็มีพวกที่ได้กลิ่นยาหม่องกับน้ำมันมวยแล้วเป็นลมน่ะครับ ผมพยายามงองหลายๆแง่นะครับไม่โหนกระแส ไอ้เรื่องมอมน่ะมันก็มีจิงๆแหละครับผม อย่าว่ากันเด้อ จากคุณ : เกย์หงุดหงิด - [ 25 ก.พ. 50 02:07:30 ]

ความคิดเห็นที่ 47 rep บนครับ ที่เค้าทานั่นเป็นยาแก้ครับ แต่ที่ Taxi จะมอมนั่นมาจากช่อมแอร์ครับผม ไม่เจอกับตัวไม่รู้หรอก มิจฉาชีพ มันก็มีการพัฒนาการที่จะเรื่องไม่ดีได้เรื่อยๆแหล่ะ ของแบบนี้ฟังหูไว้หู ระวังไว้อย่าประมาท ถ้าเกิดกับตัวเราเองจะได้ป้องกันตัวเองถูก ยิ่งเป็นผู้หญิงด้วย ผู้ชายอย่างมากก็แค่เสียทรัพย์ แต่ถ้าเป็นผู้หญิงหล่ะ อาจเสียทั้งกาย เสียทั้งทรัพย์ ปล. เห็นใจเจ้าของกระทู้ครับ rev 14 คนอย่างคุณนี่ผมโคตรเกลียดเลยหว่ะ ไม่เชื่อไม่มีใครว่า แต่ด่าคนที่เค้ามาเตือนคุณนี่สิ ใคร ฟายกันแน่ จากคุณ : ไม่รู้เรื่องเลย - [ 25 ก.พ. 50 02:45:57 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ไอพวกที่เคยออกข่าว เอายาทาตัวแล้วมึน ขึ้นรถแล้วมึน สรุปออกมาก็ fake ทั้งนั้น ทางที่ดี จขกท ร่างกายออกอาการแบบนี้ ไปหาหมอก็ดีครับ เป็นห่วงสุขภาพคุณมากกว่าภัยจาก taxi เสียอีก ปล. อยากรู้จังว่าพวกข้างบนที่ว่า เคยโดนมาแล้วบ้าง มีอยู่ที่บ้านบ้าง มันจริงขนาดไหน!? จากคุณ : Freethinker - [ 25 ก.พ. 50 04:03:08 ]

ความคิดเห็นที่ 49 จริงๆเรื่องแบบนี้ผมก็ได้ยินมาเยอะเหมือนกัน ยังไงก็ขอบคุณ จขกท. แล้วกันครับ ตกลง taxi คันนั้นตามได้ยังครับ จากคุณ : chonguy - [ 25 ก.พ. 50 04:57:30 ]

ความคิดเห็นที่ 50 แท็กซี่ทำผิดอะไรน้อยนิด ขึ้นข่าวพาดหัวหน้าหนึ่ง แต่พอแท็กซี่ ถูกผู้โดยสาร ปาดคอตาย ลงข่าวท้ายสุด สั้นนิดเดียว  ขนาดข่าวยังรำเอียงเลยครับ ยิ่งมาเจอแค่เขาทายาแก้เมื่อยแก้ง่วงนอน ก็คิดไปโน่น คิดว่าเขาวางยาสลบไปโน่น  ผมเชื่อนะครับว่า รถแท็กซี่บางคันกลิ่นมันฉุนเอามากๆเลย ฉุนยิ่งกว่าสลบซะอีก ไม่รู้เขาเอากลิ่นอะไรมาใส่รถ  กลิ่นเต่ากลิ่นเหงื่อกลิ่นเหล้า กลิ่นบุหรี่ แอร์มันก็ดูดเก็บสะสมไว้มากๆก็เหม็นอย่างนี้แหละครับ บอกแล้วว่าอย่านั่งรถเก่ารถเก่าก็ไม่เชื่อ ทุกท่านคิดเหมือนผมไหมครับ(ผมก็ขับแท็กซี่) ที่เจ้าของกระทู้ลงจากรถแล้วเขาไม่ยอมเก็บค่าโดยสาร และซ้ำเขาขับรถหนีไปเลย  ผมมองต่างมุมครับ 1 จขกท เปิดประตูลงรถแล้วด่าเขาเลย  เขาก็ตกใจสิครับ  นึกว่าด่าเขาเรื่องทายาในรถผู้โดยสารแพ้ยาเลยด่า 2 ไหนๆเขาทำผิดแล้ว(ที่ทายา) เลยไม่อยากมีเรื่องเพราะถ้ามีเรื่องถึงตำรวจ เรื่องมันจะยาวๆๆๆๆกว่าค่าโดยสารอีก เพราะเขาไม่มีใบขับขี่(ที่รู้ว่าไม่มีเพราะใบติดหน้ารถเขายังไม่มีแล้วใบขับขี่คิดหรือว่าจะมี)  ถึงยังไงตัวผมก็ยังยืนยัน ว่าเขาไม่ได้วางยาอย่างเจ้าของกระทู้คิดครับเพราะมันไม่น่าเป็นไปได้มันกลางวันแสกๆนะครับ(ตาม คห.10 ทุกอย่าง)  และขอขอบคุณนะครับที่ไม่โกรธกันที่ไม่เออออ ตามเจ้าของกระทู้ นับว่าใจกว้างพอสมควร จากคุณ : taxi y2k - [ 25 ก.พ. 50 06:04:21 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ถึงคุณพี่ taxi y2k นะครับ ที่คุณว่าไว้ - แท็กซี่ทำผิดอะไรน้อยนิด ขึ้นข่าวพาดหัวหน้าหนึ่ง ข่าวอะไรครับที่ทำผิด "น้อยนิด" แล้วต้องถึงกับเอามา "พาดหัวหน้าหนึ่ง" ขับทับเท้าผู้โดยสารเหรอครับ เท่าที่ผมอ่านเจอบ่อย ๆ ก็เป็นพวกฆ่าชิงทรัพย์ ลวงไปข่มขืน ทั้งนั้น กรณีแบบนี้คุณเรียกว่าน้อยนิดเหรอครับ รถประจำทาง รถแท๊กซี่ หรือรถอะไรที่ถือว่าใช้บริการประชาชน ถ้ามีเหตุการณ์รุนแรงอะไรแบบนี้(ที่คุณเรียกว่าน้อยนิด) มันควรจะไว้หน้าหนึ่งน่ะถูกแล้วครับ เพราะถ้ามันถือว่าเป็น "ภัยสังคม" ไม่ว่ารถอะไรก็ลงหน้าหนึ่งทั้งนั้นแหละครับ แต่กรณี แท๊กซี่ นี่แทบจะมีรายวันเลยก็ได้ครับ - แต่พอแท็กซี่ ถูกผู้โดยสาร ปาดคอตาย ลงข่าวท้ายสุด กรณีเดียวกันกับข้างบนเลยครับ สำคัญเท่ากัน แต่ข่าวแท๊กซี่ทำกับผู้โดยสาร  มันมากกว่า ผู้โดยสารทำกับแท๊กซี่เยอะครับ - ยิ่งมาเจอแค่เขาทายาแก้เมื่อยแก้ง่วงนอน ก็คิดไปโน่น คิดว่าเขาวางยาสลบไปโน่น  ผมเชื่อนะครับว่า รถแท็กซี่บางคันกลิ่นมันฉุนเอามากๆเลย ฉุนยิ่งกว่าสลบซะอีก ไม่รู้เขาเอากลิ่นอะไรมาใส่รถ  กลิ่นเต่ากลิ่นเหงื่อกลิ่นเหล้า กลิ่นบุหรี่ แอร์มันก็ดูดเก็บสะสมไว้มากๆก็เหม็นอย่างนี้แหละครับ บอกแล้วว่าอย่านั่งรถเก่ารถเก่าก็ไม่เชื่อ คุณหรือผมที่เป็นคนเจอเหตุการณ์นี้เหรอครับ รอบรู้ไปหมดเลย ??? จะบอกอะไรให้นะครับ เอาแค่ได้กลิ่นเหล้า สมองผมก็สั่งงานไม่ให้เท้าผมก้าวขึ้นรถแล้วล่ะครับ รถเก่าไม่เก่าผมไม่ซีเรียสหรอกครับ บุญวาสนาของคนไม่เท่ากัน ผมเจอคันเก่ามาก่อนผมก็เรียกครับ - 1 จขกท เปิดประตูลงรถแล้วด่าเขาเลย  เขาก็ตกใจสิครับ นึกว่าด่าเขาเรื่องทายาในรถผู้โดยสารแพ้ยาเลยด่า หลังจากผมด่า เขาหันมายิ้มนิด ๆ แล้วถามผมกับแฟนว่ามีอะไรเหรอครับ แล้วก็ออกรถไป ดูเขาตกใจมากเลยนะครับ - 2 ไหนๆเขาทำผิดแล้ว(ที่ทายา) เลยไม่อยากมีเรื่องเพราะถ้ามีเรื่องถึงตำรวจ เรื่องมันจะยาวๆๆๆๆกว่าค่าโดยสารอีก เพราะเขาไม่มีใบขับขี่(ที่รู้ว่าไม่มีเพราะใบติดหน้ารถเขายังไม่มีแล้วใบขับขี่คิดหรือว่าจะมี) อ้อ ผมเพิ่งรู้นะครับ ถ้าแท๊กซี่คันไหนรูปถ่ายในรถไม่ตรงกับหน้านั่นแสดงว่าคนขับคันนั้น ไม่มีใบขับขี่นั่นเอง เกือบครึ่งนึงของจำนวนที่ผมเคยนั่งมาเลยนะครับ นั่น ความรู้ใหม่ครับ ขอบคุณมาก (เหมือนจะพร้อมหลบหนีทุกสถานการณ์เลยนะครับ) - ถึงยังไงตัวผมก็ยังยืนยัน ว่าเขาไม่ได้วางยาอย่างเจ้าของกระทู้คิดครับเพราะมันไม่น่าเป็นไปได้มันกลางวันแสกๆนะครับ คนหรือผีครับ กลางวันไม่มีฤทธิ์เดช หรือส่วนใหญ่ที่เค้าลงมือกันนี่เลือกที่จะทำตอนมืดไปแล้วซะมากกว่าสินะครับ กล้ายืนยันเพราะมันเป็นกลางวัน  - -" (ถ้าผมเจอเหตุการณ์นี้ตอนดึก คุณคงเชื่อผมใช่ไหมครับ) ความเห็นของคุณที่ 50 นี่ ทำให้ผมรู้นิสัยคุณได้เลยล่ะครับ ผมขอถามอะไรคุณหน่อยนะครับ คุณมีลูกมีเมียไหมครับ ถามหน่อยถ้าวันนึง เกิดลูกหรือเมียคุณโดนจี้ปล้นบนรถแท๊กซี่ หรือบนรถตู้ แต่รอดตายกลับมาบ้านได้ และมาเล่าเหตุการแบบเดียวกับผมให้คุณฟัง คุณจะตั้งข้อสันนิฐานแบบนี้กับลูกและเมียคุณไหมครับ ผมฝากให้คุณเอาไปคิดแล้วกันนะครับ ลองเอาใจเขาใส่ใจเราดูบ้างก็ดีนะครับ เพื่อสังคมของคุณเองครับ... จากคุณ : Taffeta White - [ 25 ก.พ. 50 07:54:38 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณที่เตือนกันนะคะ.. ส่วนตัวแล้ว ถ้าอากาศร้อนๆ ขึ้นแท๊กซี่ไปนี่บางทีร่างกายปรับอุณหภูมิไม่ทัน ประกอบกับบางคันมีกลิ่นอับๆ หรือแก๊สปนอยู่ เพลงที่เปิด การขับเหยียบๆเบรคๆ ก็มีผลให้มึนหัวได้ มะกี้ลองเอายาหม่องมาทาที่ท้ายทอย เราได้กลิ่นชัดมากเลย ถ้าเป็นยาสลบ คนขับเองน่าจะมีอาการมากกว่าจขกท. เพราะสัมผัสร่างกายด้วย PS . Just assumption naka.. จากคุณ : นางฟ้าคล้ายนางมาร - [ 25 ก.พ. 50 08:20:45 ]

ความคิดเห็นที่ 53 อืม ถ้าทาที่ ตัวเองก่อนแล้ว คนขับจะไม่สลบไปคา พวงมาลัยเลยเหรอ ??? จากคุณ : Mr. why? - [ 25 ก.พ. 50 09:27:54 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ผมตอบในแง่ที่พอจะรู้เรื่องยาบ้างเล็กน้อยละกันนะครับ ยาแบบที่ จขกท ว่าไว้นั้น จะเป็นพวกยาระเหย (แนวๆ ยาหอมระเหย แบบนั้น) ซึ่งการทาไม่ส่งผลต่อร่างกาย แต่จะส่งผลต่อผู้ได้กลิ่นข้างเคียงครับ จะสังเกตได้ว่าผู้ที่จะใช้พวกนี้เพื่อการมิจฉาชีพ จะมีการเร่งลมแอร์ และช่องแอร์จะถูกส่งมาทางด้านหลังอย่างเต็มที่ โดยที่เลี่ยงการเป่าบริเวณคนขับครับ และก่อนที่จะใช้นั้น จะมีพวกยาอม หรือยาดม ที่จะป้องกันกลิ่นจำพวกนี้ไม่ให้ออกฤทธิ์ได้ครับ จากความรู้ที่มี ก็ขอตอบแบบคร่าวๆ อย่างนี้ละกันครับ ไม่ว่าจะ จริง หรือ เท็จ ประการใด ทุกท่านก็ควรจะต้องระวังตัวเสมอหล่ะครับ อย่าประมาท แล้วจะดีเองครับ บอกไม่ได้หรอกว่าจะเกิดเมื่อไหร่ เกิดกับใคร แต่ถ้าเรารู้ เราศึกษา ก็จะได้รู้จักป้องกันครับ จากคุณ : โอบทะเลไว้ด้วยไอรัก - [ 25 ก.พ. 50 09:55:10 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ไม่ได้เข้าพันทิพมาหลายวัน .. เปิดมาก็เจอชื่อตัวเองในกระทู้นี้เป็นกระทู้แรก .. ขอบคุณ คุณ Taffeta White นะคะ ที่กรุณายกเครดิตให้ เจตนาที่เรามาโพสต์ไว้ในครั้งนั้นก็เพื่อเตือนให้คนอื่นระวังตัวเองไว้บ้าง ซึ่งเราคิดว่ามันอาจจะเป็นประโยชน์สำหรับคนอื่นๆในวันหนึ่งข้างหน้าบ้าง เพราะตั้งแต่เราเข้าห้องรัชดามาเราก็ได้ประโยชน์จากการเตือนหรือบอกเล่าเรื่องต่างๆบนท้องถนนจากเพื่อนๆสมาชิกรัชดาด้วยเหมือนกันค่ะ ในขณะเดียวกันก็รู้สึกเสียใจอยู่บ้างที่ถูกมองเจตนาไปในทางอื่น แต่ก็รับฟังและระมัดระวังให้มากขึ้นในการโพสต์ข้อความ เราเข้าใจคุณนะคะ คุณ Taffeta White คนอื่นอาจจะไม่เข้าใจเท่าไหร่ แต่เราเข้าใจดีมากๆค่ะ กระทู้เดิมที่เราตั้งไว้ http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V5090700/V5090700.html ได้อาศัยเครดิตจากเพื่อนของเราคนหนึ่งซึ่งเป็นสมาชิกชาวรัชดาคนหนึ่งเหมือนกัน คือ คุณ CLK BRABUS เข้ามาอ่านและแสดงความคิดเห็นในฐานะที่เค้าเป็นหมอคนหนึ่ง และมีความรู้ทางด้านการแพทย์แม้ว่าจะไม่ได้จบทางด้านวิสัญญีมาโดยตรง ลองเข้าไปอ่านใน คห. 141 คห. 142 ดูนะคะ ซึ่ง CLK BRABUS บอกไว้ว่าตามหลักทฤษฎีเค้าก็ไม่เชื่อเหมือนกันว่ามันจะเป็นไปได้ที่เราจะถูกวางยา แต่เค้าเชื่อแม้ว่ามันจะไม่สามารถอธิบายเหตุผลได้ เพราะมีลูกน้องที่ทำงานเค้าถูกวางยาและโดนรูดทรัพย์ไป ลักษณะอาการที่คุณ จขกท. โดนมาเป็นอาการเดียวกับเราค่ะ พอดีว่าเราเคยเป็นลมมาก่อน จึงรู้ว่าลักษณะอาการแบบนี้แหละที่มันจะทำให้เราเป็นลม ห้ามหลับตาลงเด็ดขาดเพราะเพียงคิดว่า " ขอพักสายตา " ต่างกันกับครั้งที่เราเป็นลมว่า ถ้าเราจะเป็นลมที่อาจเกิดจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ เราจะต้องอยู่ในท่ายืน แต่เมื่อได้นั่งลงแล้วอาการหน้ามืด ใจสั่น นั้นจะหายไป และไม่เป็นลมค่ะ จากคุณ : สงสารน้องออส - [ 25 ก.พ. 50 11:10:04 A:58.136.50.132 X: TicketID:135360 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เข้า google  ครับ แล้ว หาคำว่า  "ยาสลบ" แล้วคุณจะรู้ความจริงว่าทุกวันนี้  สังคมมันสกปรก โสมม ขนาดไหน จากคุณ : benzino - [ 25 ก.พ. 50 11:50:07 ]

ความคิดเห็นที่ 58 โหวตเรียบร้อยแล้วครับ จากคุณ : maxibon - [ 25 ก.พ. 50 12:12:03 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ระยะหลังได้ยินกรณีแบบนี้บ่อยๆ ผมก็ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วมันเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกันแน่  มอมยาจริง ? ระแวงไปเอง ? ไม่มีใครจะรู้ได้ 100 % ครับ แต่กรณีคุณ Taffeta White ผมตั้งข้อสังเกตนิดนึงว่า พอคุณรีบลงจากรถ แต่ทำไมแท็กซี่กลับไม่คิดที่จะโวยวายหรือเก็บค่าโดยสารเลย (ถ้าที่คุณเล่ามาเป็นเรื่องจริงและไม่ได้ตกหล่นอะไรนะครับ) ทางที่ดีที่สุดคือต้องระมัดระวังตัว....เชื่อสัญชาตญาณของตัวเองดีที่สุด...ถ้ารู้สึกว่าอะไรไม่ชอบมาพากลก็ต้องรีบเอาตัวรอดก่อนครับ ขอบคุณ จขกท ที่มาเตือนนะครับ แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 50 17:38:39 จากคุณ : CLK BRABUS - [ 25 ก.พ. 50 17:27:05 ]

ความคิดเห็นที่ 60 คุนตำรวจจะเรียกอะไรเวลาผมขับรถ ผมก้อให้นะครับ เพราะเข้าใจว่าเค้าเงินเดือนน้อย แต่ไอบางคนที่สันดา- แบบเนี้ย ที่ไม่ยอมรับแจ้งความตอนประชาชนเดือดร้อนนี่สุดตรีน 191 เหมือนกัน โทรไปไม่เคยรับ ก้อเข้าใจว่าคนโทรแกล้งเยอะ แต่ตอนขโมยขึ้นบ้าน ถ้าไม่มี สันญาณกันขโมยก้อคงโดนยกเค้า + พี่ผมโดนปล้ำเปนเมียมันไปแล้ว น่าจะขยันกว่านี้หน่อยก้อดีนะ จากคุณ : NayLoveMint - [ 25 ก.พ. 50 18:17:56 ]

ความคิดเห็นที่ 61 พี่สาวผมเคยเจอเหตุการณ์อย่างคุณเจ้าของกระทู้ เจอทั้งใน taxi และรถเมล์ปรับอากาศ ที่พี่ผมเจอมาใน taxi จะมีแบบปรับช่องแอร์ในรถ taxi ให้หันมาทางเราแล้วคนขับก็จะเปิดกระจกครับ ส่วนในรถเมล์เจอในรูปแบบสเปรย์พ่นครับ อาการคือหน้ามืด ใจสั่น ไม่มีแรงเหมือนจะเป็นลม แต่ดีที่พี่ผมยังมีสติ พยายามประคองตัวไปบอกคนขับ+กระเป๋ารถเมล์เลยรอดมาได้ครับ ปล. เหตุเกิดบนรถเมล์พี่ผมเจอมาหลายครั้ง ลักษณะคล้ายๆกัน ไม่รู้พี่ผมจะดวงตกอะไรขนาดนั้น ( สงสัยเบญจเพศ ) ระวังไว้หน่อยก็ดีนะครับ รถเมล์สีน้ำเงินปรับอากาศสายที่วิ่งกลับมาปากน้ำ ปล2. ผมอยากให้พี่หมอหลายๆคนในพันทิพช่วยมาอธิบายหน่อยครับ ว่ามีสารอะไรที่สามารถทำให้คนเราเป็นแบบนี้ได้ ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว จากคุณ : ^BmwM5^ - [ 25 ก.พ. 50 18:51:26 ]

ความคิดเห็นที่ 62 แต่ แท็กซี่เดี๋ยวนี้น่ากลัวจริง ๆ ให้ผมทาย ร้อยละร้อย คงไม่มีใครให้แฟนตัวเองกลับแท็กซี่คนเดียวแน่ ๆ มาตรฐานเมืองไทย ห่วยแตกพอกันหมดกับรถสาธารณะ มิน่า รถมันถึงได้ติดทู๊กกกกวันเลย จากคุณ : พี่หมี (meecom) - [ 25 ก.พ. 50 18:52:17 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ผมยังคงยืนยันเหมือนเดิมนะครับ ว่าเจตนาผมที่มาตั้งกระทู้ในบอร์ดนี้ไม่ได้ต้องการให้ใคร "ต้องมาเชื่อผม" มันไม่ใช่เรื่องผีหรือไสยศาสตร์ และผมก็ไม่ใช่คนที่งมงายอะไรในเรื่องพวกนั้นซักเท่าไหร่ และผมตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเป็นลมหรือหน้ามืดแม้แต่ครั้งเดียว (ไม่ใช่ไม่เคยเป็นแล้วจะต้องไม่เป็นนะครับ) พวกเครื่องเล่นตามสวนสนุก ที่หวาดเสียวผมก็ชอบและเล่นมันมาหมดแล้ว ไม่ใช่ว่าอวดเก่งนะครับแต่นั่นคือข้อมูลที่ผมรู้ตัว ว่าเทียบกับขับรถเร็ว เบรก ๆ เร่ง ๆ มันไม่ได้ครึ่งนึงของเครื่องเล่นพวกนั้นเลยครับ แต่ที่ผมเอามาบอกกล่าวมันคือ "ภัยสังคม" ที่อยู่รอบตัวและใกล้ตัวคุณมาก เพียงแต่คุณยังเป็นคนที่โชคดีที่ยังไม่เคยตกเป็นเหยื่อ บอร์ดรัชดา เป็นบอร์ดสำหรับคนใช้รถใช้ถนน ทุกท่านคงมีรถขับ อาจไม่ใส่ใจเรื่องการใช้บริการรถสาธารณะแบบนี้ ซักเท่าไหร่ และมองมันเป็นเรื่องไกลตัว อันนี้ถูกต้องครับ แต่ถ้าคนรักของคุณ หรือคนในครอบครัวคุณต้องใช้บริการรถสาธารณะเหล่านี้ คุณจำคำผมไว้แล้วไปบอกเตือนเถอะครับ ประสบการณ์รอดตายแย่ ๆ แบบนี้มันเป็นของฟรีที่คุณไม่ต้องเอาตัวเข้าไปเสี่ยงเลยครับ รับรู้ไว้เถอะ ไม่มีอะไรเสียหายครับผม แล้วผมก็ไม่ได้ตังด้วย...... ถึง คุณ Rep.55  เอาเบา ๆ แล้วกันนะครับเห็นเป็นคนมีอารมณ์ขัน คุณลองหาใครก็ได้นะครับที่เค้าปวดขี้อยู่ แล้วให้เค้ายืนเหนือลมคุณแล้วให้เค้าตด ออกมานะครับ แล้วคุณถามตัวเองนะครับว่าเหม็นไม๊เอ่ย? จากนั้นถ้าคุณหายมึนตดแล้ว คุณลองคิดดูว่าคนตดจะได้กลิ่นตดตัวเองไหมนะครับ คุณว่าแปลกไหมล่ะครับ ที่คนตดมักไม่ได้กลิ่นตดตัวเอง ??? ถ้าคนตดเองเหม็นเอง นั่นคือเค้าตั้งใจดมแล้วครับ ยังแปลกใจอยู่ไหมครับผม.... ^^ จากคุณ : Taffeta White - [ 25 ก.พ. 50 19:13:28 ]

ความคิดเห็นที่ 64 น่ากลัวอ่ะ เก็บไว้เป็นประสบการณ์ป้องกันตัวเอง ได้อีกเรื่อง ^^ แต่เรื่องแนวๆนี้เกี่ยวกับ taxi ได้ยินมาแยะมาก แต่ยิ่งฟังเอาไว้เยอะเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งรู้ทันคนมากขึ้น ขอบคุณจ้าที่มาเล่ามาแชร์ประสบการณ์กัน จากคุณ : จูจุ๊บ..จุ๊บจุ๊บ..จ๊วบจ๊วบ จ้า - [ 25 ก.พ. 50 22:05:44 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เมารถแล้วยังไปด่าเค้าอีก คนเรา คุณคงเป็นคนดีมากสินะไปด่าเค้า ซึ่งหน้าแล้วยังมาหาว่าเค้าวางยาอีกผมว่าคุณมันวิตกจริตเกินเหตุ โถคนดี... จากคุณ : กก - [ 25 ก.พ. 50 23:31:15 A:203.146.63.185 X: ]

ความคิดเห็นที่ 66 ฟังหูไว้หูค่ะ.... แต่ปักใจเชื่อนะคะ... จากคุณ : M!nT (นักฆ่า...น่ารัก) - [ 25 ก.พ. 50 23:44:28 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ***เป็นไปได้มั๊ยครับ ว่าคนขับไม่สลบเพราะว่ากินยากันไว้ หรือมีอุปกรณ์ช่วยอย่างอื่น ใครพอจะรู้บ้างครับว่าทำแบบที่ว่าได้รึเปล่า จากคุณ : 5599 - [ 26 ก.พ. 50 00:34:40 A:125.26.147.16 X: TicketID:119099 ]

ความคิดเห็นที่ 68 เอาอย่างนี้ดีไหม  taxi y2k จะตามตัวคนขับ มาจับเข่าคุยกับเจ้าของกระทู้เลย จะได้รู้กันว่า วันนั้นมันเกิดอะไรขึ้น การตามรถแท็กซี่ ไม่ยากเกินความสามารถของ taxiy2k เลยนะครับ สามวันก็เจอแล้ว เริ่มต้นที่กองทะเบียนก่อน หลังจากนั้นก็ไปที่อู่รถคันนั้น และต่อไปก็เช็คว่าวันนั้น กะกลางวันใครเป็นคนขับ เท่านี้ก็จูงแขนคนขับมาคุยได้แล้ว จากคุณ : taxi y2k - [ 26 ก.พ. 50 06:15:19 ]

ความคิดเห็นที่ 69 เห็นชอบด้วยกับ คุณtaxi y2k ^^^ ใน คคห.ที่ 68... เรื่องแบบนี้ ไม่น่าจะปล่อยไป เพราะถือเป็นภัยสังคม ไหนๆก็มีทั้ง ทะเบียน ทั้งสีรถ ที่สามารถตามได้ไม่ยาก ที่จะติดขัดน่าจะเป็น "เจ้าทุกข์/ผู้เสียหาย" ... ถ้าไม่เอาความเสียแล้ว ใครๆก็ช่วยอะไรไม่ได้... สังคมก็อาจจะมีผู้ที่ต้องตกเป็นเหยื่อ กันอีกหลายราย... จากคุณ : Suraphan07 - [ 26 ก.พ. 50 08:51:03 ]

ความคิดเห็นที่ 70 สังคมเดี๋ยวนี้อันตราย ต้องระวังตัวเยอะ ๆ กระทู้เตือนภัย อ่านไว้ก็ไม่เสียหาย ***ว่าแต่แนวการเล่าเรื่องเหมือนคุณสงสารน้องออสเลยถ้าไม่เห็นล๊อคอิน เรานึกว่าคุณน้องออสเจอดีอีกแล้ว*** แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 50 08:55:24 จากคุณ : คิดชื่อไรก้อซ้ำ - [ 26 ก.พ. 50 08:52:59 ]

ความคิดเห็นที่ 71 มาให้ความเห็นนิดหน่อยครับ เรื่องแว่นตาดำ อันน่าจะเป็น แว่นกันแดด    หากเป็นการขับรถกลางวันแดดจัดๆ  ส่วนใหญ่ ก็มักใส่แว่นตาดำกันเป็นปกติ อยู่แล้วครับ เรื่องใบขับขี่  ทั่วไป  TAXI มัก มีผู้ขับ 2 คน ต่อ 1 วัน หรือ เรียกว่า 2 กะ  ใบขับขี่ที่เห็น อาจเป็น ของคู่ กะ ก็ ได้ครับ บางที คู่กะ อาจ เป็น เจ้าของรถเอง เลย ติด ใบขับขี่ไว้ แบบ ดีหน่อย  แต่ ขับ คนเดียว 24 ชม. ไม่ไหว  ก็ แบ่งให้ คนอื่น เช่าขับ ซะครึ่งวัน   ก็ อาจเป็นได้ครับ ส่วนเรื่อง มอมยา รมยา  ก็ เป็นไปได้ครับ มาเล่าสู่กันฟังเพื่อ ประดับความรู้ ก็ไม่เสียหลาย แก่ผู้บริโภคสื่อ  อยู่แล้ว Rgds, จากคุณ : MaeJung - [ 26 ก.พ. 50 09:00:23 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ความคิดเห็นที่ 9   ทำไม คนขับแท็กซี่ไม่สลบอ่ะ จากคุณ : ลาภมา100 (ลาภมา100)   กำลังคิดเหมือนคุณเลยครับ... จากคุณ : JccK - [ 26 ก.พ. 50 09:31:42 ]

ความคิดเห็นที่ 73 เอ่อ แล้วทำไมเค้าไม่เรียกค่ารถล่ะครับ ปกติแล้วยังไงก็ค่ารถแท๊กซี่มาก่อนนะครับ ไม่งั้นไม่ขับรถออกไปหรอก นี่ไม่มีการทวงค่ารถแท๊กซี่เลยสักนิด จากคุณ : MySql - [ 26 ก.พ. 50 13:00:52 ]

ความคิดเห็นที่ 74 คุณ taxi y2k  ตามมาเลย อยากรู้เหมือนกัน แต่ผมเชื่อไปทาง จขกท. นะ จากคุณ : ไม่มากไม่น้อย - [ 26 ก.พ. 50 13:26:58 ]

ความคิดเห็นที่ 75 สมมุติ เป็นผม ผมก็ไม่กล้าเรียกค่ารถนะ  ด่าผมซะรุนแรง ทั้งๆที่ผมยังไม่รู้ตัวว่า ผมทำอะไรผิดไป ผมก็กลัวเป็นนะ คิดอีกมุมเฉยๆ ไม่มีอะไรครับ เดี๋ยวนี้  แม้กระทั่งตอนกลางวันแสกๆ เดี๋ยวนี้  ขนาดผู้โดยสารนั่งสองคน ขนาดมีผู้ชายด้วย ก็ไม่เว้นแล้วหรือ เดี๋ยวนี้ ใช้วิธีทายานวดยาที่คอตนเอง ได้แล้วหรือ โดยไม่กลัวว่า ยาจะอยู่ใกล้ๆกับจมูกตนเอง อีกอย่าง แอร์ ในรถมันก็จะหมุนเวียนอากาศภายในให้ทั่วถึงอยู่ดี ผมว่าหากจำ เป็นจะต้องนั่งแท็กซี่จริงๆ 1 ก่อนขึ้นรถจดจำสีและทะเบียน หากไม่มีที่จด ให้กดใส่โทรศัพท์ไว้ก่อน 2 ทายาหม่องที่จมูกดักไว้ก่อน เอาผ้าแบบสำเร็จ ปิดปากและจมูกไว้ 3 บอกคนขับว่า ให้ปิดแอร์ ขอเปิดกระจกลดลงนิดหน่อย โดยบอกว่าไม่สบาย และแพ้แอร์มาก 4 ถ่ายรูปตรงบัตร ที่ติดอยู่ด้านฝั่งคนนั่ง ซูมๆ ชัดๆ เมื่อถ่ายได้แล้ว แกล้งทำเป็นว่ากำลังสนใจถ่ายรูปไป ที่ร้านค้าริมถนน อีกสักภาพ จากนั้นก็ทำเฉยๆไว้ ประมาณนี้ครับ จากคุณ : บ๊อบบี้ฮุย - [ 26 ก.พ. 50 13:28:55 ]

ความคิดเห็นที่ 76 จะมาบอกว่า แฟนผม ก็ชอบทำเหมือนแท๊กซี่ คือเวลาเธอมึนๆ เพลียๆ เวลาเดินทาง จะเิอาขวด ประมาณนมเปรี้ยวบีทาเก้น นี่แหละ ป้ายๆ มาดมที่จมูก แล้วก็ นวดต้นคอ บางครั้ง ก็นวด ขมับด้วยหล่ะ เอ่อ แล้วผมก็มีแว่นแบบที่ว่าด้วย คือว่ามี 3 อัน 1. ผมใส่อยู่ อาจจะเลนดำ 2. วางบนคอนโซล เลนใสๆ อันเก่า เอ้ออ ถ้าเปิดในเกะรถ จะเจออีกอัน คือ ของแฟนผม เลนสีแดง ความจริงมีเลนชา ของพี่สาวผมด้วย ตอนนี้พี่เขาทวงคืนไปแล้ว ไม่ได้มาป่วนน๊ะครับ แต่ที่พูดมาทั้งหมด คือความจริง และเรื่องที่เจ้าของกระทู้เล่ามา ผม 20% เชื่อ 80% เป็นเรื่องวิตกจริต และบังเอิญครับ ขอโทษที่ไม่เห็นด้วยคับ เพราะเหตุผลหลายๆอย่างมันขัดแย้งกันเองครับ ไม่ได้ว่าเจ้าของกระทู้ว่า ไม่ใช่เรื่องจริงน๊ะคับ แต่ผมว่ามันเป็นการเข้าใจผิดและวิตกจริตกันมากกว่าครับ จากคุณ : ตามนั้นครับ - [ 26 ก.พ. 50 13:46:03 A:127.0.0.1 X:192.168.111.60, 58.10.68.229 TicketID:046415 ]

ความคิดเห็นที่ 77 อยากให้โทร 1644 สถานีวิทยุของตำรวจโดยตรง  อีกสักเบอร์ได้ไหมคะ  เล่าให้เจ้าหน้าที่ฟัง ไม่นาน คุณน่าจะได้ คำตอบ และคดีคืบหน้า นะคะ จากคุณ : love-so - [ 26 ก.พ. 50 14:09:39 ]

ความคิดเห็นที่ 78 โหวด จากคุณ : Fighting Beaver - [ 26 ก.พ. 50 14:12:25 ]

ความคิดเห็นที่ 79 หวังว่าพวกนี้คงเจอกับ 9 มม. ในเร็ววัน จากคุณ : Wald5 - [ 26 ก.พ. 50 14:39:17 ]

ความคิดเห็นที่ 80 อ่ะนะ เห็นคุณ taxiy2k สมาชิกประจำพูดแบบนี้แล้ว ผมเชื่อว่าทุกคนอยากเห็นและได้ยินจากปากคนขับแทกซี่ ทม 1142 อย่างแน่นอนครับ จากคุณ : bingbong - [ 26 ก.พ. 50 14:47:01 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ตามแท็กซี่ไม่ได้ง่ายอย่างที่คุณ วาย2เค บอกนะครับ ผมเคยชนกับแท็กซี่ มันลงมาดูแล้วขับหนีไป ผมจดทะเบียนไว้ได้ แจ้งความที่ สน.ตำรวจเช็คให้ว่ารถคันนั้นอยู่ไหน แต่ให้เราไปตามเอง พอไปถึงอู่ไม่มีใครให้ข้อมูลคุณหรอกครับ หน้าตาแต่ละคนก็ไม่เป็นมิตร ตำรวจก็ไม่ตามให้ อายัดทะเบียนไว้ มันต่อทะเบียนไม่ได้ ติดต่อมาที่ สน.แต่พอเราไปดูมันไม่ใช่คนนี้ เอาคนแก่มาแล้วบอกว่าคนนี้ขับวันนั้น รถก็ไปทำมาแล้วไม่มีรอยชน หาว่าเราจำทะเบียนผิด สรุปทำอะไรมันไม่ได้ต้องถอนอายัด จากคุณ : body jak - [ 26 ก.พ. 50 15:28:04 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ผมคิดเหมือนค ห ที่ 54 ครับ จขกท เขียนบรรยายได้ดีมากๆ  ฟัง(อ่าน)ดูเหมือนโอเวอร์ส่วนตัวเชื่อว่าเรื่องแบบนี้มีจริง ** แปลกใจ ว่าแฟนคุณนั่งหลังคนขับแท้ๆ แต่ทำไมถึงได้รับความรู้สึกช้าจัง จากคุณ : นักฆ่าดาบเดียว - [ 26 ก.พ. 50 15:30:10 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ผมอยู่พังงานะ(ตะกั่วป่า)ตอนเกิดซึนามิศพเป็นร้อยครับที่ จนท. ต้องตรวจพิสูจน์ ต้องชายทำงานสาธารณสุขต้องไปช่วยงานที่วัด เห็น จนท. จากกรุงเทพทุกคนจะมีจุก(ไม่รู้เรียกอะไรดี)ใส่ไว้ที่จมูกกันทุกคนเพื่อป้องกันกลิ่น  ผมว่าพวกที่จะก่ออาชญากรรมมันคงจะหาได้อยู่หรอกยาแปลกๆมันยังหากันมาก่อเหตุได้เลย จากคุณ : อันดา อันดามัน - [ 26 ก.พ. 50 16:17:22 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ที่ จขกท.เห็นว่าเป็นขวดสีเหลืองๆ เนื้อยาเป็นขี้ผึ้ง ตัวนี้น่าจะเป็น "โอสถทิพย์" ครับ ร้านยาขายอยู่ 25 บาท รักษาแทบจะทุกโรคตั้งแต่ เคล็ดขัดยอก ไปจนถึงอัมพาต ถ้าว่างจะถ่ายรูปขวดมาให้ดู ส่วน จขกท.จะถูกมอมยาหรือไม่ หรือว่า เป็นอุปาทาน ไม่มีความคิดเห็นครับ และเรื่องที่จขกท.มาลงแม้นจะไม่จริงทั้งหมด แต่ก็ช่วยให้เราระมัดระวังเวลานั่ง แท๊กซี่ได้ครับ จากคุณ : CELEBREX - [ 26 ก.พ. 50 16:27:14 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ขอบคุณ จขกท ที่เตือน ครับ ปล.เดียวนี้ ขึ้นแท๊กซี่ทีไร เป้นต้องลองเปิดกระจก มันทุกที สิน่าผมเนี่ย จากคุณ : vn, man - [ 26 ก.พ. 50 16:32:53 ]

ความคิดเห็นที่ 86 พวกมิจฉาชีพหากินได้หลายรูปแบบครับ พวกนี้มันอาจจะเลห์เหลียมเยอะโดยที่คนทั่วไปอาจไม่รู้ ไม่ใช่ว่าจะมีแต่Taxiอย่างเดียว เท็กซี่ควรจะระวังผู้โดยสารไว้ด้วยก็ดี (การฟังข่าวคราวก็ควรคิดไห้รอบคอบ สิ่งไหนควรเชื่อ สิ่งไหนไม่ควร ก็รู้ๆๆกันอยู่นะครับ) จากคุณ : jub (jaturaput) - [ 26 ก.พ. 50 18:59:28 ]

ความคิดเห็นที่ 87 สงสาร taxi เดี๋ยวนี้อุปทานคนมันแรงจริง วางยาทีเดียว 2 คนซ้อน กลางวันแสกๆ ถ้าคนนึงสลบอีกคนไม่สลบ taxi จะเป็นยังไงโดนตำนวจลากคอเข้าคุก  หรือถ้าไม่สลบทั้ง 2 คน taxi คงได้โดนกระทืบ เหตการณ์มันยากเกินจะเชื่อ ยาอะไร มีผลรุนแรงกับคนนั่งทันที แต่คนขับไม่เป็นอะไร  ยาชนิดนี้ถ้ามันมีจริงและอันตรายจน taxi หาซื้อมาใช้ง่ายๆเนี่ย อย.เราทำอะไรอยู่ อือ อยากเชื่อนะ แต่ทำใจไม่ได้ จากคุณ : NAN_KUNG - [ 26 ก.พ. 50 19:55:07 ]

ความคิดเห็นที่ 88 I fay number 14 จากคุณ : arrerr - [ 26 ก.พ. 50 20:45:56 ]

ความคิดเห็นที่ 89 จริง ๆ ผมก็สงสัยว่ามันมีจริงเหรอ เลย search ใน google ว่า "taxi มอมยา" ดู ก็เห็นหลาย case แสดงว่ามันคงจะมีจริง ๆ ยังไงก็ขอบคุณ จขกท. ที่เตือนครับ จะได้บอกคนรู้จักระวังตัวและหาวิธีป้องกันครับ จากคุณ : แฮรี่ พอตตุ้ย - [ 26 ก.พ. 50 21:05:22 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ระวังไว้ก็ดีนะครับ ไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรครับ จากคุณ : ภูมิพลัง - [ 26 ก.พ. 50 21:25:16 ]

ความคิดเห็นที่ 91 เป็นเรื่องที่เราต้องรับทราบไว้ครับไม่ได้เสียหายอะไร ขอบคุณ จขกท.ที่ช่วยเล่าให้ได้รับทราบ จะระวังให้มากๆครับ จากคุณ : frogy2 - [ 26 ก.พ. 50 22:10:42 ]

ความคิดเห็นที่ 92 เดาๆเอานะ ไม่ได้มีความรู้ ผมนึกถึงพวกโอมชินริเกียวที่ญี่ปุ่น ปล่อยแก๊ซซาริน ในรถไฟใต้ดิน ทำให้คนตายได้  นาซีก็รมแก๊ซ ในห้องให้ชาวยิวตายได้ ห้องโดยสารในรถมันก็แคบๆ กึ่งๆเป็นห้องปิดทึบ มันจะมีตัวยาที่เป็นแก๊ซทำให้คนสลบ มันก็เป็นไปได้อยู่นะ แต่ผมไม่มีความรู้เรื่องนี้นะ รอคนรู้เรื่องมาตอบดีกว่า จากคุณ : seven-elephant - [ 26 ก.พ. 50 22:25:40 ]

ความคิดเห็นที่ 93 เข้าใจความหวังดี จขกท. นะครับ แต่ดูแล้วยังไงก็อุปาทานครับ ไม่มียาตัวไหนที่ทราบในวงการแพทย์หรอกครับที่จะทำได้แบบนี้ ถ้ามีคนคิดได้คงรวยเป็นร้อยล้านไปแล้ว (เอาสูตรยาไปขาย นำสลบด้วยวิธีสูดดมผ่านๆ วิสัญญีแพทย์คงทำงานง่ายขึ้นเยอะ) ไม่ต้องมาเป็นมิจฉาชีพหรอกครับ ผมเองก็ใช้บริการแท๊กซี่บ่อยๆ คุยกับคนขับก็มีหลายคนเล่าประสบการณ์ผู้โดยสารแปลกๆ แบบนี้ เป็นผมก็คงไม่ตามลงไปทวงหรอกครับ ผู้โดยสารลงจากรถแล้วด่าอีก ลงไปอาจไม่ใช่แคด่า เอาชีวิตไปเสี่ยงไม่คุ้มค่ารถหรอกครับ ไม่ได้ว่า จขกท. นะครับ เข้าใจความรู้สึกจริงๆ จากคุณ : มาจากหว้ากอครับ (vandalism) - [ 26 ก.พ. 50 22:30:26 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ข้อสงสัยผมก็เหมือนที่เคยเขียนกระทู้ของคุณสงสารน้องออส คือถ้าใช้ยารมจริง ทำไมคนขับไม่เป็นไร ความเสี่ยงมันสูงมากที่จะหลับทั้งคู่นะครับ และไม่มียาไหนหรอกที่ใช้แล้วมียาต้านการสลบ แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 50 22:43:37 จากคุณ : ....4จุด - [ 26 ก.พ. 50 22:41:37 ]

ความคิดเห็นที่ 95 หลังจากที่วิเคราะห์อย่างละเอียด พร้อมปรึกษาเพื่อนฝูงที่ เป็นเภสัชกร และนักเทคนิคการแพทย์แล้วสรุปได้ความว่า คุณ จขกท อุปทานไปเองครับ จากคุณ : axquest - [ 26 ก.พ. 50 22:52:25 ]

ความคิดเห็นที่ 96 อ่านข้อความที่บรรยาย คิดว่า จขกท.ยังยืนยันว่าตัวเองถูกยาสลบ โดยยาสลบจะเป็นยาที่แท๊กซี่เอามาทาตัว แต่ผมมองต่างไป ไม่ค่อยเชื่อ เพราะการที่เอายาสลบมาทาตัว ผมว่าคนที่ใกล้ที่สุด น่าจะได้รับความเข้มข้นมากสุด และสลบไปก่อนใคร อาจจะเป็นอุปทานหรือไม่ หรืออาจจะเป็นไปได้มั้ยว่าคุณอาจจะแพ้ สารระเหยที่มีอยู่ในยาทานั้น ซึ่งการแพ้อาจจะแพ้แค่คุณคนเดียว โดยที่ แท๊กซี่กับแฟนคุณไม่ได้แพ้เลย ผมว่าถ้าคุณ taxi y2k ตามคนขับเจอ ช่วยเอายาทานั้นมาให้ จขกท.ดมอีกครั้ง น่าจะเป็นการพิสูจน์ข้อเท๊จจริงได้ ยังยืนยัน ไม่ค่อยเชื่อครับว่าถูกยาสลบ แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 50 23:17:42 จากคุณ : REX-REX - [ 26 ก.พ. 50 23:14:32 ]

ความคิดเห็นที่ 97 2.คนขับใส่แว่นตาดำ แต่ทำไมบนคอนโซลหน้ารถมีแว่นตาเลนส์ใสวางอยู่ ปกติคนขับรถเค้าก็ใส่แว่นตาดำกันครับ ยิ่งเป็นตอนกลางวัน แต่ถ้าใส่ตอนกลางคืนสิจะน่าสงสัย 3.ผมมองไปที่รูปคนขับหน้ารถ ไม่ตรงกับหน้าคนขับครับ ผมขึ้นหลายที ไม่ตรงก็หลายที ตรงนี้น่าจะมีการตรวจสอบนะ ถึงเปลี่ยนกะเปลี่ยนคนยังไงก็น่าจะทำให้ถูกต้อง 4.ภายในรถคนขับเปิดเพลงลูกทุ่ง ซึ่งขนาดไม่ได้โดนยาได้ฟังแล้วเวียนหัวแล้วคับ แต่เพลงตลกดีผมเลยไม่ได้คิดไร อันนี้แล้วแต่รสนิยมคนขับครับ ไม่น่าจะวิจารย์ แต่ผมไม่ไหวแล้วเลยเปิดประตูดู ระหว่างที่รถยังวิ่ง ๆ อยู่ (ลงสะพานแล้วความเร็วประมาณ 40 กม ) ผมดึงประตูเปิดออกครับ คนขับเริ่มหยุดรถผมรีบคว้าของลงข้างรถ ตะโกนเรียกแฟนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ให้ลงจากรถ ผมชี้หน้าแท๊กซี่ แล้วตะโกนด่าว่า ไอ้สั... ถ้าผมเป็นแท็กซี่อยู่ดีๆเจอคนเปิดประตูออกไป แถมชี้หน้าด่า ก รู อีก คงคิดว่า ซวยแล้วกู มันเป็นอะไรไม่รู้ อยู่ๆก็หนีออกไป แถมมันมากันตั้ง 2 คน ถ้าไม่คิดจะมีเรื่องผมก็ขับไปเลยดีกว่า อยู่ไปก็อาจซวย ถือว่ารายนี้ก็ฟาดเคราะห์ไป ยาทาที่เหลืองๆกลิ่นฉุนๆ อาจเป็นยาหม่องสมุนไพรก็ได้ปกติ อาการใจสั่นจากการได้กลิ่นที่ไม่พึงประสงค์เป็นไปได้ปกติครับ และถ้าเป็นยาที่เป็นอันตรายจริง แฟนคุณก็น่าจะเป็นด้วย ส่วนแทกซี่ก็น่าจะเป็นด้วยเช่นกัน แต่ที่คุณคิดไว้ก็อาจเป็นจริงก็ได้ ถ้าผมมองโลกในแง่ดีเกินไป จากคุณ : Wizard. - [ 26 ก.พ. 50 23:41:49 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ผมเชื่อนะว่าจขกท.ไม่มีเจตนาใส่ร้ายใคร แต่อ่านๆดูแล้ว.. ก็คงเป็นยาหม่อง+การขับรถที่(เลวเป็น)ปกติ+จขกท.วิตก(จริด) ครับ เพราะฉนั้น.. ผมว่า taxi ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องนะครับ อ้อ.. ถ้าลากเค้าลงมา .. เค้าคงไม่ปล่อยให้คุณกระทืบหรอกครับ จากคุณ : Pop_Pcon - [ 27 ก.พ. 50 00:22:24 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ผมว่าอุปทานไปเอง มากกว่า 2.คนขับใส่แว่นตาดำ แต่ทำไมบนคอนโซลหน้ารถมีแว่นตาเลนส์ใสวางอยู่ *** ใส่แว่นตาดำหรือใส มันไม่ได้ช่วยให้ยาไม่ออกฤทธิ์หรอกครับ ขับรถตอนเที่ยง ๆ แดดแรงจะตาย ไม่ใช่คนขับไม่รู้หรอก 3.ผมมองไปที่รูปคนขับหน้ารถ ไม่ตรงกับหน้าคนขับครับ *** ผมขึ้นแท๊กซี่ไม่เคยเห็นรูปคนขับกับใบขับขี่มันจะตรงกันเลยสักคัน ขนาดรถเมล์เล็กมันยังไม่ตรงกันเลย 4.ภายในรถคนขับเปิดเพลงลูกทุ่ง ซึ่งขนาดไม่ได้โดนยาได้ฟังแล้วเวียนหัวแล้วคับ แต่เพลงตลกดีผมเลยไม่ได้คิดไร *** เปิดเพลงลูกทุ่งไม่ทำให้ตัวยาออกฤทธิ์เร็วเพิ่มขึ้นหรอกครับ ยาอะไรมันจะดีขนาดนั้นเลยหรอเนี่ย เอายาทาที่ต้นคอตัวเองไม่เป็นอะไร แต่ จขกท แทบจะตาย และแฟนที่นั่งข้างหลังด้วยกันก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย ความรู้สึกช้า ??? อยากรู้ว่าทำไมแฟน จขกท ถึงไม่เป็นอะไรเลย อาจจะเป็นเพราะคุณกำลังเหนี่อย เพลียจากการเดินตอนเที่ยง ๆ แล้วขึ้นรถ taxi ที่มีกลิ่นอับ (แทบทุกคัน) แล้วยิ่งมาเจอยาทาที่ไม่ชอบ (กลิ่นพวกแนวการบูน) ยิ่งทำให้หายใจไม่ออกด้วยหรือเปล่า ผมขึ้น taxi ตอนดึก ๆ ก็บ่อย หายใจไม่ค่อยสะดวกก็ประจำเพราะ taxi เกือบทุกคัน กลิ่นมันแสนจะสุดยอด ยิ่งรถเก่า ๆ ด้วยแล้ว และการขับรถที่แทบจะไม่มีความนุ่มนวลเลย ผมว่ามันเป็นปรกติของ taxi ไทยครับ จากคุณ : fa_beer - [ 27 ก.พ. 50 00:55:34 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ส่วนใหญ่ แทบ ทุกครั้ง เวลาผม นั่ง Taxi ผมจะ ดู เลขทะเบียน ก่อน จากนั้น ดู ป้าย ครับว่าตรง กับหน้า หรือไหม ถ้าไม่ตรง ก็ดูหน้า คนขับ ก่อนว่า พอจะไว้ใจได้ไหม  และ สังเกต การขับรถ ของ เขา ตลอด เท่าที่จะทำได้่ แต่เห็น ส่วยใหญ่เวลาที่ผม นั่ง Taxi ชอบ กดที่ฉีดกระจก เช็ด กระจกรถซะงั้น...5555+ แต่ ถ้า เห็น กด หรือ ทำตัว คลุกคลัก บ่อยๆ ก็ จะ มองๆ แล้ว จากคุณ : Mr.Kito - [ 27 ก.พ. 50 02:54:33 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ผมว่าเค้ามาบอกให้ระวังกันก้อดีแล้วนะครับ ยังจะมาว่าเค้าอีกพวกที่ว่านี่ขับ taxi กันอยู่รึป่าวครับ หรือทำกันอยู่ ไม่งั้นก้อไม่น่าจะเดือดร้อน อย่าคิดว่าตัวเองรู้ไปหมดซะทุกอย่างนะครับ อย่าเอาตัวเองเป็นเครื่องตัดสินคนอื่น แต่ละท่านพูดซะเหนือเชียว จากคุณ : boobi - [ 27 ก.พ. 50 06:28:06 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ความคิดเห็นที่ 81   ตามแท็กซี่ไม่ได้ง่ายอย่างที่คุณ วาย2เค บอกนะครับ ผมเคยชนกับแท็กซี่ มันลงมาดูแล้วขับหนีไป ผมจดทะเบียนไว้ได้ แจ้งความที่ สน.ตำรวจเช็คให้ว่ารถคันนั้นอยู่ไหน แต่ให้เราไปตามเอง พอไปถึงอู่ไม่มีใครให้ข้อมูลคุณหรอกครับ หน้าตาแต่ละคนก็ไม่เป็นมิตร ตำรวจก็ไม่ตามให้ อายัดทะเบียนไว้ มันต่อทะเบียนไม่ได้ ติดต่อมาที่ สน.แต่พอเราไปดูมันไม่ใช่คนนี้ เอาคนแก่มาแล้วบอกว่าคนนี้ขับวันนั้น รถก็ไปทำมาแล้วไม่มีรอยชน หาว่าเราจำทะเบียนผิด สรุปทำอะไรมันไม่ได้ต้องถอนอายัด จากคุณ : body jak  - [ 26 ก.พ. 50 15:28:04 ] ตามจับกับตามตัวมาแก้ข่าว มันคนละเรื่องกันครับ เขาไม่ได้ทำผิดอะไรทำไมเขาจะไม่ให้ความร่วมมือ แท็กซี่ด้วยกันย่อมเข้าใจในเจตนาของกันและกัน ตอนนี้รู้อู่แล้ว อู่อยู่ ประชาอุทิศ โทรถามแล้วเขายอมรับว่า เป็นรถอู่เขาจริง แต่คนขับยังไม่แน่ใจว่าเป็นใคร ต้องรอเวลาตรวจสอบก่อนครับ จากคุณ : taxi y2k - [ 27 ก.พ. 50 06:51:04 ]

ความคิดเห็นที่ 103 เยี่ยมครับคุณ taxi y2k เรื่องอย่างนี้ต้องฟังความ 2 ฝ่ายครับ จากคุณ : Pop_Pcon - [ 27 ก.พ. 50 08:28:09 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ผมว่าเจ้าของกระทู้แพ้ยาหม่อง ผมก็เป็นเวลาดมยาหม่องแล้วมึน เวียนหัว ยิ่งอยู่ในภาวะอับๆด้วย มันหายใจไม่ค่อยออกครับ ลองให้เเฟนคุณนวดยาหม่องในรถแทกซี่อับๆดูครับ ถ้ามีอาการอย่างนี้อีก แปลว่าคุณขาดออกซิเจนและแพ้ยาหม่องครับ ไม่ใช่ไม่เชื่อนะครับ แต่แทกซี่ส่วนมากอับมาก เหมือนไม่มีอากาศหายใจ เวลาผมใช้บริการจะกลับมาป่วยบ่อย ที่คนขับอยู่ได้เพราะเขาชินครับ เหมือนคุณทดลองเอาหนูมาใส่ในตู้ที่มีออกซิเจนน้อยๆเป็นเวลานานๆ มันก็ปรับตัวได้ครับ จากคุณ : ไปกะพี่มั้ยน้อง - [ 27 ก.พ. 50 08:45:16 ]

ความคิดเห็นที่ 105 รอฟังครับ ไม่รู้จะเชื่อใครดี ใครๆๆก็ปกป้องสิทธิ์ทั้งนั้น แต่ผมขอบอกไม่ชอบแท็กซี่ ก็แค่ไม่ชอบส่วนตัวเพราะทำให้ผมเจ็บตัวมาหลายครั้ง ขี่มอไซก็โดนปาดล้ม ขับรถเก๋งก็คอยจี้ จนชนท้าย เกลียดครับ (สั้นๆๆ ส่วนตัว) จากคุณ : ลูกปัดคับ - [ 27 ก.พ. 50 09:05:15 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ไม่รู้สิครับผมว่าแพทธ์สมัยนี้จะมีความรู้ด้านยาได้เท่าเทียมกับพวกมิจฉาชีพรึเปล่า   อย่างเพื่อนผมโดนกลางห้างเลยนะครับ มีคนมาแตะแขนแอยู่ดี ๆ ก็จะเป็นลมเฉยเลย ทั้งที่เพื่อนผมนะเป็นนักกีฬานะครับ ถึงจะผู้หญิงก็เถอะอยู่ในห้างที่อากาศกำลังพอดีแทบจะหาสาเหตุไม่ได้เลบว่าเป็นลมเพราะอะไรนอกจากก่อนจะล้มมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาสะกิดโดนแขนเค้า จากคุณ : et009 - [ 27 ก.พ. 50 09:31:46 ]

ความคิดเห็นที่ 107 รอผลการติดตามกับคุณ taxi y2k ด้วยคนครับ จากคุณ : BabyGoal - [ 27 ก.พ. 50 09:37:20 ]

ความคิดเห็นที่ 108 เรื่องจริงที่รอการพิสูจน์ จากคุณ : เส้นทึบห้ามแซง - [ 27 ก.พ. 50 10:16:43 ]

ความคิดเห็นที่ 109 เดินซื้อของ ตากแดด เวียนหัว รีบขึ้นแท็กซี่ เจอความเย็นกะทันหัน เริ่มเบลอ นั่งหลังซ้าย(มุมโปรดของคนเมารถ) คนขับๆฉวัดเฉวียน(อันนี้สามารถทำได้ เป็นความสามารถเฉพาะตัว) เปิดเพลงที่เค้าชอบ(ลูกทุ่ง คุณอาจไม่ค่อยสบายอยู่แล้ว เลยไม่ปลื้ม) ทายาหม่องสูตรสมุนไพร(เจอกลิ่นเข้า ยิ่งไปใหญ่) ขับไปเรื่อยๆ เริ่มอยากอาเจียน จากการเวียนหัวและกลิ่นยาหม่องผสมแอร์ รีบลงรถ และด่า ไปแจ้งความ จบ ผมฟังหูไว้หูครับ ไม่ใช่ไม่เชื่อ แต่อาจเป็นแบบนี้ก็ได้ จากคุณ : McPhu - [ 27 ก.พ. 50 10:52:35 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ขอบคุณเจ้าของกระทู้ครับที่มาเตือน และเห็นด้วยกับวิธีระวังตัวของหลายๆท่าน แต่ยาที่ทางเจ้าของกระทู้เล่ามา ยังไม่มีทางเป็นไปได้ครับ แต่อย่างไรก็ขอบคุณอีกครั้งครับ จากคุณ : น้องหมาตาสีฟ้า - [ 27 ก.พ. 50 11:48:20 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ยาแบบที่ว่าที่เคยรู้มีเป็นสมุนไพรไทยโบราณพวกยาเบื่อแต่ที่เคยเห็นมักเป็นแบบเผาให้เกิดควันกับทาตัวเหยื่อตรง ครับ  ไม่เคยเห็นเหมือนกันที่ทาต้นคอตัวเองให้คนนั่งหลังเมา ผมมีหนังสือเก่ามากแต่มีสูตรทำยาแบบเผาให้เกิดควันที่จำได้ครับส่วนทาตัวเหยื่อตรงมันทำยุ่งยากกว่าหาตัวยายากเลยไม่ได้จำ เป็นสูตรที่โบราณโจรใช้รมยาก่อนปล้นกับหนุ่มๆใช้รมบ้านสาวก่อนปีน ไม่ต้องขอสูตรกันนะครับคงไม่ให้หรอก ยาเบื่อนี่ทั่วไปแก้ง่ายครับ(แบบเผารม)  หมอพื้นบ้านจะรู้ดี  (หมอสมัยใหม่จะไม่ค่อยรู้ครับใช้วิธีรอให้หมดฤทธิ์ยาไปเอง  ดื้อไม่ยอมรับรู้ความรู้พื้นบ้านเลย)  คือถ้ากินน้ำเย็นไม่รู้สึกดีขึ้นให้หาน้ำมะพร้าวน้ำหอมมาเช็ดหน้าก่อน(แค่เช็ดพอนะครับยังไม่ต้องถึงกับล้าง  ถ้าไม่ฟื้นยาวเดี๋ยวค่อยส่งไปให้สัปเหร่อที่วัดล้างให้ทีหลัง)  บ้วนปากสักทีแล้วค่อยดื่มและใช้สำลีชุบนำมะพร้าวเช็ดในรูจมูกล้างกลิ่นยาตกค้างครับ ยาทานึกไม่ออกแต่มันใช้สมุนไพรชื่อพิลึก2ตัวผานมาตำให้แหลกกินกับเหล้าขาว  ถ้าในกทม.กว่าจะหายาเจอผมว่าคนหายเมาไปเองแล้ว  จะลองคุ้ยกองหนังสือก่อน  ถ้าเจอจะเอามาบอกแต่จริงๆลองไปถามหมอแผนโบราณนี่น่าจะง่ายกว่าคุ้ยหนังสือนะ จากคุณ : แชจั๊ว - [ 27 ก.พ. 50 11:59:12 ]

ความคิดเห็นที่ 112 จากหว้ากอ ความคิดเห็นที่ 5 คิดไปเองครับ ถ้ายาที่แท็กซี่ใช้ เจ๋งแบบที่ว่าจริง บริษัทยายินดีรับซื้อในราคาหลายร้อยล้านบาท ไม่ต้องไปมอมยาผู้โดยสารเก็บเงินทีละไม่กี่พันบาทหรอก จากคุณ : อะธีลาส - [ 26 ก.พ. 50 23:48:37 ] จากคุณ : 69 - [ 27 ก.พ. 50 12:28:47 A:203.155.99.242 X: TicketID:134802 ]

ความคิดเห็นที่ 113 โหวตครับ จากคุณ : เด็กข้างหนามบิน - [ 27 ก.พ. 50 12:39:20 ]

ความคิดเห็นที่ 114 เรื่องอย่างนี้ มีคนมาเล่ากันเยอะ บ่อยๆ หลายคนคงเคยได้ยิน ผมเอง ก็ได้ยินบ่อย แต่ไม่เคยเจอใครที่ พิสูจน์ให้เห็นได้ว่าเป็นเรื่องจริงๆ หรือ แม้แต่เป็นคดี ที่ตามไปจนเจอ แล้ว ก็จับได้พิสูจน์กันออกมาได้ ว่าเป็นยาอะไร และโดยส่วนตัวที่ทำงานอยู่ในวงการแพทย์ ก็นึกไม่ออกว่าจะมียาอะไรที่จะทำให้คนอื่นมึนงง แต่ตัวเองไม่งง ได้แบบนี้ สรุประวังไว้เป็นเรื่องดี แต่ก็คงต้องฟัง และคิดตามกันเอง ล่ะครับ อย่าให้ความกลัว จนกลายเป็นหวาดระแวง และอุปทานไปหมด จากคุณ : -=Jfk=- - [ 27 ก.พ. 50 12:56:22 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ผมคิดว่า น่าจะเป็นแบบคุณ McPhu บอกใน #109 ครับ จากคุณ : 447 - [ 27 ก.พ. 50 15:41:59 ]

ความคิดเห็นที่ 116 1 Vote ( โหวตไว้ก่อน อย่างน้อยก็เป็นอุทธาหรให้เราระวังตัวกันมากขึ้นน๊า ) จากคุณ : ด.ญ คณิตกร - [ 27 ก.พ. 50 15:46:49 ]

ความคิดเห็นที่ 117 ของแบบนี้ใครไม่เจอเอง หรือ ไม่ใช่คนสนิทเจอ ก็คงไม่เชื่อ เพื่อนสนิทเราเคยเจอคะ เลยทำให้เราระวังตัวมากขึ้น ล่าสุดเจอกับตัว คือ วางกระเป๋าใบใหญ่ไว้ในรถ ถือกระเป๋าเงินลงไปซื้อข้าว ระหว่างรอ พี่แท็กซี่แอบเลยค้น ล้วง เอามือถือที่ทิ้งไว้ในกระเป๋าไปใช้เล่นดีก่า ฮ่าๆ ของเก่าของเรา ราคาเหลือ พัน พันห้า สำหรับ คนจนๆได้เท่านั้น มันคงดีใจแล้ว เรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า ขึ้นแท็กซี่เมื่อไหร ให้จดกท ทันที  มีอะไร จะได้ตามกันได้ที่หลัง พวกภัยสังคม มันมีอยู่ทุกที่แหละคะ ไปไหนมาไหน ระวังตัวไว้หน่อยละกัน จากคุณ : น้องต๋าว - [ 27 ก.พ. 50 18:19:19 ]

ความคิดเห็นที่ 118 หุ หุ จากคุณ : [TTTT] - [ 27 ก.พ. 50 20:14:22 ]

ความคิดเห็นที่ 119 วางยาแน่นอนครับ ถ้าแท๊กซี่บริสุทธิ์ ทำไมหนีละครับท่าน จากคุณ : His-tour-nu - [ 27 ก.พ. 50 21:36:50 ]

ความคิดเห็นที่ 120 เคยเมารถหรือเปล่าครับ จากคุณ : เดอะไรท์ - [ 27 ก.พ. 50 22:35:55 ]

ความคิดเห็นที่ 121 ถ้าแทกซี่สามารถคิดค้นสูตรยาสลบอย่างที่ว่าได้  ผมจะรีบตามหาตัวให้เจอ ... ติดต่อให้มาเป็นวิสัญญีแพทย์แทน  และร้องเรียนแพทย์สภา ให้ตรวจสอบความสามารถ วิสัญญีแพทย์ทั่วประเทศ ว่า ความรู้ความสามารถ ยังไม่เทียบเท่าแทกซี่ ทั้งที่เรียนมาเป็นสิบๆปี  ส่วนแทกซี่ ... ให้ค่าทรัพย์สินทางปัญญาก่อนเลย 50 ล้าน  และจ่ายค่าแรง มาทำให้คนไข้สลบ ให้รายละหมื่น รับประกันค่าแรงขั้นต่ำให้เดือนละ 2 แสนด้วย!  เพราะยาสลบ ยามึน ยาทำให้งง ฯลฯ ที่ว่ามานั่น ... เอาไปขายต่อบริษัทยา แค่หักค่านายหน้า ยังรวยจนนับเงินไม่ทัน จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 27 ก.พ. 50 22:56:20 ]

ความคิดเห็นที่ 122 เพื่อนเราเคยโดนค่ะ ที่ป้ายรถเมล์ มีคนมาชวนคุย แล้วไม่รู้ยังไง อยู่ๆก็ยอมเค้าไปหมดทุกอย่าง เค้าขอบัตรเอทีเอ็มกับรหัส ก็ให้เค้า มารู้สึกตัวอีกที นั่งแท๊กซี่แล้ว (พวกนั้นมานเรียกให้) ที่รู้สึกตัว เพราะแท๊กซี่ถามว่า จะลงที่ไหน เชื่อค่ะ ว่าพวกมอมยา มีจริง จากคุณ : Angel iN BeD - [ 27 ก.พ. 50 23:27:15 ]

ความคิดเห็นที่ 123 ขอโพสแบบกลางๆนะครับ... คุณเพลียๆ แล้วทำไมแฟนคุณ กับคนขับถึงไม่เพลียล่ะครับ ผมล่ะ งง จริงๆ อากาศในรถมันต้องหายใจร่วมกันอยู่แล้ว แน่นอนว่าคนที่ทำต้องน๊อคก่อนเป็นคนแรกเลย ตอนที่เค้าเอาออกมาทาท้ายทอย แฟนคุณไม่เป็นไร แต่คุณเป็นคนเดียว ผมเดาว่าเป็นพวกน้ำมัน"เมทิลซาลิไซเลต"ครับ พวกตระกูลยาหม่องแหละครับ คือเป็นครีม/เจลเหลืองๆคล้ายขี้ผึ้ง และมีกลิ่นฉุนของยานวดครับ (คุณอาจแพ้กลิ่นยาพวกนี้) รูปคนขับไม่ตรงกับใบหน้า มีเยอะแยะไปครับ (เพราะว่า คนขับเค้าอาจเช่า หรือยืมมาจากเจ้าของรถตัวจริงอีกทีไงครับ) เรื่องแว่นนั้นผมไม่รู้ครับ ถ้าเค้าจะลงมือกับคุณ ผมว่าถนนตรงนั้นมันคึกคักมากเลย ไร้ซึ่งความเปลี่ยว ใกล้ป้อมจราจร แถมยังอยู่ใกล้ สน.เตาปูน อีก ถ้าลงมือโอกาสพลาดมีถึง 100% ชัวร์ๆครับ ถ้ายังไงซะ ลองเรียกคนที่ขับรถคันนั้น ในวัน/เวลานั้น มาเคลียร์กับคุณเลยมั้ยครับ เพราะว่าจะได้สบายใจทั้ง2ฝ่าย หากพิสูจน์ได้ว่าเค้าเป็นคนร้ายจริง ก็ให้ ตร.เล่นงานมันไปเลย เอาให้หนักๆ หรือ... ถ้าไม่ใช่คนร้าย แต่พิสูจน์ตามความจริงแล้วว่าเป็นความเข้าใจผิดของคุณเอง ผมอยากให้คุณเอ่ยคำขอโทษเค้า แล้วให้สินน้ำใจเค้าไปด้วยครับ จากคุณ : . - [ 27 ก.พ. 50 23:59:35 A:58.64.109.214 X: ]

ความคิดเห็นที่ 124 รอพี่ Taxi Y2K ครับ นอกจากเรื่องนี้ ผมสงสัยไอยาป้ายแล้วสลบมันมีจริงหรอ - -" มันเป็นอะไรที่สุดยอดมาก แค่ทายาที่ผิวหนังก็สลบแล้ว ยิ่งกว่ายาชาอีก จากคุณ : Nutonline - [ 28 ก.พ. 50 02:05:10 ]

ความคิดเห็นที่ 125 เจ้าของที่มีรูปติดอยู่ตรงหน้าคอนโซลด้านซ้าย ของรถแท๊กซี่ทะเบียน ทม 1142 ไม่ใช่เป็นคนผิดเรื่องนี้นะครับ ถ้าหน้าตรงกับรูปผมขอบอกตรงนี้ว่าไม่ใช่เค้าแน่นอน ผมไม่รู้หรอกนะครับว่าแท๊กซี่เค้าแชร์รถกันยังไง ถึงให้คนขับกับรูปข้อมูลในรถคนละคนกัน จะไปสืบกันก็อย่าให้คนดี(ในรูป)ต้องพลอยเดือดร้อนก็แล้วกันนะครับ ที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นน่าจะมาจากที่ผมและแฟนมีของมีค่าติดตัวใส่ขึ้นรถนั่นแหละครับ จะเดินทางไปไหนถอดเก็บไว้ก่อนพอถึงค่อยหยิบมาใส่ก็ได้ครับ เพราะตอนผมกับแฟนขึ้นไป นั่งบนเบาะหลังแล้ว รถติดไฟแดง คนขับมีหันหลังมาดูผมที่ด้านหลังเหมือนกัน เบรกให้ตรงนี้เลยดีกว่า ว่าคนขับหันมาดูว่าประตูปิดดีแล้ว หรือยัง (ซึ่งตอนนี้เวลาผมกะแฟนจะไปไหนก็ถอดเก็บไม่ใส่แล้วครับ )   เห็นพี่ Y2k บอกว่า ถ้ารูปติดในรถยังไม่มีอย่าหวังเลยว่า เค้าจะมีใบขับขี่ ถ้าเป็นอย่างนั้นเหตุการณ์ก็ผ่านมาแค่ 3 วันเอง หวังว่าเค้าคงยังหามาไม่ได้นะครับ รูปพรรณสันฐาน ผมสั้นประมาณรองทรงสูง ผมหยักศก ผิวดำแดง หน้าลาว ๆ อายุประมาณ 35 กว่า  ส่วนสูงไม่แน่ใจเพราะเขาไม่ได้ลงจากรถ แต่เท่าที่ผมพอจะประมาณ ได้ก็น่าจะ 170 ซม ที่เล็บมือด้านซ้ายแทบทุกนิ้ว เหมือนจะทายาทาเล็บเคลือบไว้ เห็นข้างเดียวตอนเขาเปลี่ยนเกียร์ ทำไมผมถึงไปสนใจเค้าเป็นพิเศษก็คงเป็น เพราะตอนแรกผมนึกว่าเขาเป็นเกย์ เพราะเขามองหน้าผมผ่านกระจกหลังบ่อย ผมก็เสียว ๆ อยู่ เพราะเห็นเล็บ แต่ดูภายนอกปกติครับผม หรือคนที่ผมกล่าวถึงมีสิทธิ์เป็นเกย์ก็ได้ครับ น่าจะเป็นคนภาคอีสาน (น่าจะนะครับ) เพราะประโยคแรกที่เค้าชวนผมกับแฟนคุยคือ เรื่องอากาศร้อนข้างนอก เค้าบอกว่าถ้าเป็นแถวอีสานสงกรานต์ไม่ได้เล่นน้ำแบบที่นี่หรอก ต้องลงไปในคูน้ำเล่นกันเอา เรื่องตามจับผมบอกตรงนี้เลยแล้วกันนะครับ ว่าผมเห็นหน้าคนขับไม่ตรงกับ ข้อมูลที่ติดไว้ในรถผมก็ท้อใจที่จะตามแล้วล่ะครับ อีกอย่างรุ่งวันต่อมาขึ้นผมกับแฟนตื่นแต่เช้า ไปใส่บาตร อุทิศส่วนกุศลให้เขาแล้วล่ะครับ ผมขอว่าให้หมดเวรหมดกรรมกันชาตินี้พอแล้วนะครับ ผมอโหสิกรรมให้ขอให้ผลบุญตรงนี้ของผมและแฟน ดลใจให้คุณรู้สึกตัวและกลับใจ อย่าไปทำแบบนี้กับใครอีกเลย เป็นคนดีหมดเวรหมดกรรมกันเท่านี้นะครับ และอย่าไปทำกับใครอีก ถ้าคุณอ่านอยู่หรือใครก็ตามที่รู้ว่าเค้าเป็นใคร ฝากคำของผมไปบอกเค้าทีนะครับ "ถ้าคุณเป็นลูกผู้ชายพอ จงรักและมีศักดิ์ศรีในหน้าที่ของตัวเองเถอะครับ ผู้โดยสารอุตส่าห์ฝากความไว้วางใจเลือกที่จะร่วมทางไปกับคุณแล้ว คุณน่าจะภูมิใจตรงนี้ และทำหน้าที่ให้ดีที่สุดนะครับ นึกถึงลูกเมียที่บ้านไว้ก็ได้ครับ ถ้าวันนึงคุณเกิดโดนจับเข้าคุก ลูกกับเมียคุณ จะทำอะไรต่อไป หรือถ้ามีใครทำกับลูกเมียคุณแบบนี้บ้างล่ะครับ เวรกรรมมันมีจริงนะครับ อย่าเอาเงินสกปรกตรงนี้ที่คุณหามาได้ เลี้ยงดูลูกคุณเลยครับ บาปมันก็จะไปตกกับลูกคุณด้วย หยุดได้แล้วนะครับ ทำบาปมามากพอแล้ว"     ผมบวชเรียนมาแล้ว นั่งสวดมนต์ในโบสถทุกเย็นมาแล้ว บิณฑบาตรมาก็แล้ว ผมคงไม่ว่างมาแต่งเรื่องโง่ ๆ แบบนี้ในเวปบอร์ดให้มาด่าผมกันหรอกครับ อย่าให้ความคิดของคุณที่ว่าผม วิตกจริต อุปทาน หรืออะไรก็แล้วแต่ที่คุณจะยัดเยียดกันมาให้ผม ทำให้คุณวางใจ หรือประมาท กับการใช้ชีวิต จนอาจทำให้คุณต้องเสียใจภายหลังเลยแล้วกันนะครับ เห็นบอกกันหลายคนว่าผมบ้าบอเป็นอยู่ได้คนเดียว ผมบอกไปแล้วนะครับว่าแฟนผมก็มี อาการเดียวกัน ไม่ใช่ผมที่เป็นอยู่คนเดียวนะครับ แต่เป็นหลังจากลงรถพอดีครับ เหล้า 1 แก้ว ยี่ห้อเดียวกัน บางคนกินเหมาหัวทิ่ม บางคนกินเป็นน้ำยังไม่เมาเลยก็มีครับ ผมขอสรุปให้ก็แล้วกันนะครับจะได้ไม่ต้องพูดคำนี้กันอีกว่า ผมกะแฟนพร้อมใจกันอุปทาน และวิตกจริตจน หน้ามืด แน่นหน้าอก ขาสั่น มือสั่น กันไปเอง ตรงป้างรถเมล์ ควบคุมสติไม่อยู่จนด่าแท๊กซี่  แบบไม่อายใครทั้ง ๆ ที่ตรงป้ายรถก็มีผู้เห็นเหตุการณ์ 2 ท่าน ซึ่งเป็นผู้หญิง และร้านค้าแถวนั้นก็เปิดกันครับ เป็นกันไม่บ่อยหรอกครับ หลายร้อยครั้งที่ ใช้บริการแท๊กซี่ ผมกะแฟนจะเป็นกันคนละ 1 ครั้งพอครับ ชาตินี้ สิ่งที่คุณทำลงไป มันมีประโยชน์กับผมและแฟนเหลือเกินครับคุณ สงสารน้องออส ใครจะว่าคุณยังไง หรือทำให้คุณรู้สึกท้อใจ ผมกับแฟนเป็นกำลังใจให้ครับ ขอบคุณอีกครั้งครับผม __/\__ ปล.อ้อ ๆ มีจุดสังเกตุอีกอย่างนะครับ รถคันนั้นแฟนบอกกระจกด้านฝั่งแฟนเป็นแบบใช้มือหมุน       แต่ฝั่งผมเป็นแบบกดครับ อันนี้อยากทราบว่ารถรุ่นนี้เค้าใช้ระบบกระจกแบบไหนครับ       ขอมองด้านดีด้านเดียวแล้วกันนะครับ ว่าแบบหมุนคงเสีย เลยอยากลองใช้แบบกดดูบ้าง       เปลี่ยนทั้งทีเปลี่ยนคนละแบบดีกว่าจะได้ไม่ซ้ำกัน จากคุณ : Taffeta White - [ 28 ก.พ. 50 06:28:11 ]

ความคิดเห็นที่ 126 วิตกจริต หรือ อุปทาน ความหมายของคุณคืออะไรครับ - ผมเปิดประตูลงรถ เรียกแฟนลงมา แฟนถามว่ามีอะไร  (ยังไม่รู้เรื่อง) - ผมด่าคนขับว่า ไอ้สั...(พูดไม่ออกแล้ว แน่นหน้าอก) - ขาผมเริ่มยืนไม่ไหว มือผมสั่น - แท๊กซี่หันมาอมยิ้มนิด ๆ แล้วถามว่า เป็นอะไรเหรอ  ก่อนค่อย ๆ ออกรถไป - แฟนเริ่มมีอาการแน่นหน้าอก ก้าวขาไม่ออก ทำท่าจะล้ม ผมยังไม่ได้บอกแฟนว่าเกิดอะไรขึ้นเลยนะครับ ผมโอบแฟนพาขึ้นไปบนฟุตบาท คำพูดแรกที่แฟนผมพูดกับผม "มันทำอะไรอะ" วิตกจริต หรือ อุปทาน ครับแบบนี้ จากคุณ : Taffeta White - [ 28 ก.พ. 50 06:56:32 ]

ความคิดเห็นที่ 127 แวะมาให้กำลังใจเจ้าของกระทู้ค่ะ มันเป็นเรื่องธรรมดาค่ะ คุณต้องยอมรับแหละว่าเมื่อมาโพสต์ข้อความแบบนี้เมื่ออยู่ในคนหมู่มาก ก็ย่อมมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป จากคุณ : สงสารน้องออส - [ 28 ก.พ. 50 07:07:37 A:58.136.71.200 X: TicketID:135360 ]

ความคิดเห็นที่ 128 ทุกครั้งที่คิมใช้บริการแท๊กซี่ คิมจะสังเกตเลขทะเบียนก่อนขึ้น แล้วโทรบอกที่บ้านค่ะ คุณแม่จะจดป้ายทะเบียน สีรถ แล้วคิมก็จะบอกคุณแม่ว่า ถ้าถึงจุดหมายแล้ว หนูจะโทรหาแม่อีกครั้งนะคะ พอวางสาย ก็จะขอโทษพี่คนขับ บอกว่าคุณแม่เป็นห่วง ต้องขอโทษด้วยค่ะ ทุกครั้ง คนขับเขาจะบอกว่าไม่เป็นไร บางคันก็บอกว่าดีแล้วหล่ะหนู ปลอดภัยไว้ก่อน ก็ไม่รู้จะร้อยเปอร์เซ็นต์หรือเปล่า แต่ก็ทำเท่าที่ทำได้ค่ะ จากคุณ : Ms. Kim - [ 28 ก.พ. 50 07:13:02 ]

ความคิดเห็นที่ 129 taxi  ติด gas  เวียนหัว เพราะ กลิ่น gas ป๊ะ จากคุณ : tvong - [ 28 ก.พ. 50 08:56:04 ]

ความคิดเห็นที่ 130 ผมใช้บริการแท็กซี่อยู่แทบทุกวันในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ขอบคุณที่เจ้าของกระทู้เตือนครับ การเตือนด้วยเจตนาดี เป็นสิ่งที่ดี ต่อเพื่อนมนุษย์ แต่...... เวลานี้ เรายังหาข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้ ทางเดียวที่ทำได้คือ เตือนไว้เฉยๆ และได้แค่นั้นครับ เพราะถ้าคนขับแท็กซี่ จะป้ายยาที่ว่าเข้าที่ร่างกายตนเอง เขาควรเป็นผู้รับสารนั้นโดยตรงมากกว่าคุณ และอาการของเขาน่าจะหนักกว่าคุณแล้วครับ จากคุณ : JIMMY - [ 28 ก.พ. 50 10:09:35 ]

ความคิดเห็นที่ 131 อย่างนี้ต้องช่วยกันประจานค่ะ พี่สาวก็เคยโดนแต่รอดมาได้เหมือนกันเนื่องจากระยะทางไม่ได้ไกลมาก แล้วเค้ารู้ตัวเลยรีบโทรกลับมาบอกที่บ้านค่ะ ทางแท็กซี่ก็เลยไม่กล้าพอออกนอกเส้นทาง พอพี่สาวกลับเข้าบ้านป๊บแข้งขาอ่อน พับไปเลยค่ะ สักพักก็อาเจียรใหญ่เลยค่ะ ยาแบบนี้น่ากลัวมากๆ จากคุณ : NoKKo@InLovE - [ 28 ก.พ. 50 10:53:05 ]

ความคิดเห็นที่ 132 วิตกจริต หรือ อุปทาน ความหมายของคุณคืออะไรครับ - ผมเปิดประตูลงรถ เรียกแฟนลงมา แฟนถามว่ามีอะไร (ยังไม่รู้เรื่อง) - ผมด่าคนขับว่า ไอ้สั...(พูดไม่ออกแล้ว แน่นหน้าอก) - ขาผมเริ่มยืนไม่ไหว มือผมสั่น - แท๊กซี่หันมาอมยิ้มนิด ๆ แล้วถามว่า เป็นอะไรเหรอ ก่อนค่อย ๆ ออกรถไป - แฟนเริ่มมีอาการแน่นหน้าอก ก้าวขาไม่ออก ทำท่าจะล้ม ผมยังไม่ได้บอกแฟนว่าเกิดอะไรขึ้นเลยนะครับ ผมโอบแฟนพาขึ้นไปบนฟุตบาท คำพูดแรกที่แฟนผมพูดกับผม "มันทำอะไรอะ" วิตกจริต หรือ อุปทาน ครับแบบนี้ ตอบ คือ แบบข้างบนที่คุณโพสมาไงครับ หลายๆคน แม้แต่หมอเอง ยังมองสองมุม แต่คุณยังมองมุมเดียวตลอด บอกตรงๆ ผมไม่เคยเชื่อว่า การมอมยา โดยรมผ่านอากาศ อยู่ด้วยกัน สองคน เนี๊ยะ ผมไ่ม่เคยเชื่อเลยครับ แต่ถ้าบอกว่า ใช้สเปรย์ฉีดเข้าใส่หน้า นี่ น่าเชื่อกว่าครับ ถึงผมจะไม่เคยทราบว่ามียาตัวนี้อยู่หรือป่าว ไอ้อาการทีุ่คุณบอกมา ผมก็เคยเป็นครับ ไม่เจ็บ ไม่ป่วย ไม่ไข้ แต่อยู่ดีๆ ผมเหมือนจะเป็นลมบนรถเมล์ ใจสั่น ขาสั่น ลงมานั่งข้างล่างสักพักก็หาย ไม่รู้มีใครรมยาผม บนรถเมล์หรือป่าว แล้วคนทั้งรถ ทำไม ไม่เป็นอะไร ????? ตื่นตัว แต่อย่า ตื่นตูมครับ จากคุณ : ฺBD - [ 28 ก.พ. 50 11:25:22 A:127.0.0.1 X:58.10.6.123 TicketID:046415 ]

ความคิดเห็นที่ 133 *******  โปรดทราบ  ********* เรียนทุกๆท่านครับ ในกระทู้นี้ ได้มีคุณหมอ ( แพทย์ ) เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น ถึง 3 ท่านเกี่ยวกับเรื่องการ  ถูกมอมยา  หรือ  วางยา   ในเคสลักษณะที่คล้ายๆจะถูกกระทำแบบดังกล่าวนี้ หากท่านที่เป็นสมาชิกประจำในห้องรัชดา ท่านจะต้อง รู้จักกับคุณหมอที่ว่านี้ได้ดีครับ ลองไปอ่านความคิด เห็นของท่านดูครับ ไม่ใช่มาท้วงติง หรือมาคัดค้านไม่เห็นด้วย แต่อยากให้ใช้สติ ในการอ่าน ในการโพสและ เก็บข้อควรระวังไว้ไปเป็นภูมิคุ้มกันในวันข้างหน้า ปล.รอความคืบหน้า จากสมาชิกเราอยู่ ท่าน วายทูเค จากคุณ : บ๊อบบี้ฮุย - [ 28 ก.พ. 50 12:25:30 ]

ความคิดเห็นที่ 134 เพิ่มเติมครับ มาฟังเรื่องของแท็กซี่บ้าง เมื่อวานเวลา หกโมงเย็นกว่าๆ โดยประมาณ จากพิธีกรคุณ วีระยุทธ์  ยิ่งยวด จาก สวพ.91 ได้กล่าวถึงเรื่องสมาชิกชาวแท็กซี่ว่า ที่ผ่านมานอกจากจะโดนจี้ชิงทรัพย์แล้ว ช่วงหลังๆมามีแท็กซี่ ถูกเบี้ยวค่าโดยสารมากขึ้น โดยผู้โดยสารจะมีวิธี สารพัดรูปแบบในกลโกง ล่าสุดเคสเมื่อวานนี้ หญิงอายุประมาณ 60 ปี ผมขาวแล้ว ยังเบี้ยวค่าโดยสารได้ ครับ  เค้าก็ระวังเรา  เราก็ระวังเค้า จากคุณ : บ๊อบบี้ฮุย - [ 28 ก.พ. 50 12:38:08 ]

ความคิดเห็นที่ 135 รอการรายงานจากคุณ taxi y2k อยู่นะครับ   จะได้ไม่เป็นการฟังความข้างเดียว   จะได้ยุติธรรมกันครับ จากคุณ : poppula - [ 28 ก.พ. 50 13:52:28 ]

ความคิดเห็นที่ 136 ใจเย็นๆ... เอ่อ ขอมองต่างมุมจุดนี้นะ... *** แต่ผมไม่ไหวแล้วเลยเปิดประตูดู ระหว่างที่รถยังวิ่ง ๆ อยู่ (ลงสะพานแล้วความเร็วประมาณ 40 กม ) ผมดึงประตูเปิดออกครับ คนขับเริ่มหยุดรถผมรีบคว้าของลงข้างรถ ตะโกนเรียกแฟนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ให้ลงจากรถ ผมชี้หน้าแท๊กซี่ แล้วตะโกนด่าว่า ไอ้สั... พอสิ้นเสียงขาผมเริ่มอ่อน จะเข้าไปลากออกมากระทืบก็ไม่ไหว มันก็ขับรถออกไป ทางข้างหน้าผม ถ้าตรงไปจะไปทางพระราม 7 ถ้าเลี้ยวขวาแยกบางโพก็จะออกไปเตาปูน *** มองแบบ จขกท. TAXI กลัวคุณจะปล้นเขา...อยู่ๆคนที่นั่งมาลงพรวดจากรถ นี้มองแง่ลบ คือ นี้คือจุดนัดพวกมารุมปล้น ? เพราะขืน Taxi ลงตามไปเสร็จแน่ๆ สู้ขับหนีดีกว่า... จบการมองต่างมุม... *** ปล.อ้อ ๆ มีจุดสังเกตุอีกอย่างนะครับ รถคันนั้นแฟนบอกกระจกด้านฝั่งแฟนเป็นแบบใช้มือหมุน แต่ฝั่งผมเป็นแบบกดครับ *** คิดว่า เพราะรถคันนั้นเคยผ่านมาถูกชนด้านข้างมาแล้ว พอเปลี่ยน/ซ่อมประตูจึงเป็นแบบนั้น ?  แล้วด้านคุณปุ่มกดมันคงจะเสียแต่ไม่ได้ซ่อมมากกว่า ถ้า TAXI คิดจะปล้นรถคุณ น่าจะเป็น Central-Lock หรือ เปิดจากด้านในไม่ได้ มากกว่าเปิดกระจก... (จริงๆบอกแฟนคุณเปิดกระจกด้านนั้นให้หน่อยก็ได้นิ) ปล. ถามเผื่อใครมีข้อมูล ถ้าเอายา...ไปทาพวกเบาะหลังนี้มีสิทธิ์โดนยา...ไหม? ปล.2 ว่าแต่คุณไปซื้ออะไรแถวๆสะพานเหล็กล่ะ ? หัวเชื้อน้ำยาต่างๆ ? edit ปล.3 เคยนั่ง Taxi แล้วมึนปวดหัวเหมือนกัน เพราะเสร่ออ่านหนังสือใน Taxi แอร์เก่าๆ+รถขย่ม มึนหัวฉิบหาย... แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 50 14:26:25 แก้ไขเมื่อ 28 ก.พ. 50 14:23:56 จากคุณ : มองอีกมุมเล่นๆ (A...) - [ 28 ก.พ. 50 14:18:48 ]

ความคิดเห็นที่ 137 วันนี้ตอนเช้า ผมกับแฟนมีธุระตอนเช้าเดินซื้อของกันแถวสำเพ็งเยาวราช ขาไปปรกติส่วนใหญ่เวลาผมไปไหนแบบรีบ ๆ จะใช้บริการแท๊กซี่เป็นประจำ แต่วันนี้บอกตรง ๆ ผมกับแฟนยังกล้า ๆ กลัว ๆ อยู่ ขาไปผมเลยขึ้นรถเมล์ไปกันดีกว่าตื่นเช้ากว่าเดิมนิดหน่อย แต่เอาสบายใจก่อนแล้วกัน ทำธุระเสร็จก็เกือบ 11 โมง เวลาเดิมเลย อากาศก็ร้อนเหมือนเดิม กลับรถเมล์คงไม่ไหว เพราะหลายต่อและน่าจะเสียเวลามากกว่ากันเกือบ ชั่วโมง คราวนี้ผมขอยอมรับว่า ผมเริ่มวิตกจริตเข้าแล้วจริง ๆ - ตั้งแต่เรียกรถ ผมเริ่มจำทะเบียนมาแต่ไกล อย่างที่ไม่   เคยใส่ใจกับมันมาก่อน เปิดประตูดูหน้าคนขับโอเคผ่าน (ดูสติสัมปชัญญะนะครับ ว่ามีอาการเมาค้าง หรือว่าอดหลับอดนอนมารึเปล่า ที่เหลือใช้สัญชาตญาณตัวเองว่าก้าวขึ้นดีหรือไม่) - ก้าวขึ้นรถ แต่คราวนี้ผมบอกแฟนว่าขอผมนั่งกลางเยื้องไปเบาะหลังคนขับเหมือนเดิม แต่ให้แฟนขึ้นรถทีหลัง นั่งฝั่งซ้ายมือของผม บอกแฟนก่อนขึ้นแล้วว่าให้ช่วยกันดูนะคราวนี้ ถ้ามีอะไรผิดสังเกตุ อย่างผมหลับไปดื้อ ๆ โดยไม่บอกก่อน หรือคนขับมีพฤติกรรมแปลก ๆ และถ้ามีอะไรเกิดขึ้นมาจริง ๆ ให้แฟนหนีไปก่อนเลยไม่ต้องห่วงผม - มองทะเบียนข้างประตูโอเคตรงกันกับหน้ารถ แต่มาเซ็งเอาตรงที่รูปและข้อมูลคนขับ ไม่ตรงกันอีกแล้ว โอเคไม่เป็นไรเจอบ่อย แต่แอบเซ็งนิด ๆ - แท๊กซี่ปรับแอร์ ไล่ตั้งแต่ซ้าย กลาง ขวาให้ผมด้วยเจตนาที่หวังดีเพราะเห็นแฟนผมนั่งพัดอยู่ จากนั้นผมก็เริ่มเรียนรู้ว่าคำว่าวิตกจริตจริง ๆ นั้นเป็นอย่างไรทั้ง ๆ ที่ผมรู้อยู่แก่ใจนะว่าเค้ามีน้ำใจและหวังดีจริง ๆ แต่ใครล่ะจะอดคิดไม่ได้ ว่าลมเย็น ๆ นั่นจะมีอะไรปะปนมาด้วยอีกไหม - ผมเริ่มมองกระจกหน้าสังเกตุพฤติกรรมคนขับเป็นระยะ จริงแล้วก็เกือบตลอดทางเลยก็ว่าได้ครับ - -" จนมีแว๊บนึงที่ตาผมกับตาคนขับมาประสานกัน ผมรู้ได้ทันทีว่าโชเฟอร์คันนี้เริ่มกังวลเกี่ยวกับผมเข้าบ้างแล้ว (ผมขอโทษ) เขาเลยใช้มือขวาทำเป็นหยิบของในเก๊ะหน้ารถ ซึ่งผมไม่อยากเห็นเขาทำแบบนั้นเลยให้ตายเหอะครับ แต่เขาดูเหมือนว่าไม่ได้หยิบอะไรออกมาเพราะมือขวาเขากลับมาคุมพวงมาลัยเหมือนเดิม - จนรถขับมาถึงบริเวณที่ 3 วันก่อนผมเจอเรื่องเลวร้ายในชีวิตอีกครั้ง ทุกอย่างเหมือนรีเพลย์กลับมา แต่คราวนี้อาการผมปรกติดีทุกอย่าง ผมเริ่มอุ่นใจ และหันไปคุยเรื่องตลกกับแฟน เพื่อให้บรรยากาศภายในรถดีขึ้น คนขับเริ่มหัวเราะ ทุกอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง - ค่าโดยสาร 127 บาท ผมยืนให้ไป 140 คนขับบอกผมว่าน้องพี่ไม่มีเศษเลย ผมก็ไม่มีครับพี่ ไม่เป็นไรครับ ขับรถดี ๆ นะครับ คนขับยื่นแบงค์ 20 คืนให้ผมพร้อมบอกกลับมาว่า "เอาไปเถอะน้อง 7 บาทเอง รถพี่กินแก๊ส 20 บาทนั่นเอาไปหาซื้อน้ำเย็น ๆ กินกับแฟนเถอะ อากาศมันร้อน" บอกตรง ๆ ประโยคนี้เล่นผมอึ้งไปเลย เลขทะเบียน 2 คันที่ผมจำมา สำหรับผมมันคนละขั้วกันเลยจริง ๆ   ผมอยากนั่งแท๊กซี่แล้วอุ่นใจเหมือนเดิมจัง ที่เคยง่วงก็หลับตานอน ที่เคยอยากผ่อนคลายก็หยิบเพลงมาเปิดฟัง ที่เวลารถวิ่งก็อยากมองออกไปดูวิวข้างทาง ต่อไปนี้สำหรับผมและแฟนมันอารมณ์แบบนั้นมันคงหายากแล้วสินะ เฮ้อ เล่าให้ฟังเฉย ๆ ครับ แท๊กซี่ดี ๆ ที่น่าประทับใจของผมก็มีเยอะครับ นั่นคงน่าจะเป็น TAXI คันสุดท้ายที่ผมจะได้ขึ้นมันแล้วสินะ เพราะต้นเดือนมีนา รถที่ผมจองไว้ก็จะมาแล้ว จากคุณ : Taffeta White - [ 28 ก.พ. 50 14:25:04 ]

ความคิดเห็นที่ 138 อยากให้ หลายๆคนอ่านความเห็นที่ 114 / 121 คุณหมอมาเอง จากคุณ : tgih - [ 28 ก.พ. 50 14:39:12 ]

ความคิดเห็นที่ 139 จขกท. ขอแนะนำเรื่องนั่ง TAXI นิดๆแล้วกันถ้าไม่ไว้ใจ... 1. นั่ง หน้าข้างคนขับ และ อีกคนนั่งหลัง คนขับพอดี (จริงๆถ้า 3 จะ Perfect นะเนี่ย) 1.1 กรณีซ่อนของในเก๊ะหรือใต้เบาะจะทำอะไรไม่สะดวก เพราะคนด้านข้างจะสังเกตเห็น... 1.2 หลังคนขับพอดี จะเป็นมุมอับสายตา ซึ่ง TAXI จะกลัวขอรับ ^^ (ทั้ง จี้+จับล็อค+ปาดคอ ได้สบาย) จริงๆอยากจะตำหนิ เจ้าของกระทู้ นะขอรับ เพราะถ้าเป็นโจรจริงๆมันอาจขับรถต่อพาแฟนคุณไปเลยนะนั่น...และอาจขู่แฟนคุณด้วยอาวุธหรืออะไรก็แล้วแต่...โดยที่คุณตามไปช่วยไม่ทัน...เพราะคุณชิ่งหนีออกมาก่อน จากคุณ : ใครมีดีกว่าก็แนะๆล่ะกัน (A...) - [ 28 ก.พ. 50 14:40:23 ]

ความคิดเห็นที่ 140 ความหวังดีถูกกระทืบซะแหลกสลายไปแล้ว จากคุณ : Finnaja - [ 28 ก.พ. 50 14:46:01 ]

ความคิดเห็นที่ 141 ที่แท็กซี่รีบขับหนีทันที หลังคุณลงอาจเป็นเพราะ -กลัวที่อยู่ๆ ผู้โดยสารทำตัวผิดปรกติ เปิดประตูจะโดดออกจากรถฆ่าตัวตาย -พอลงจากรถได้ ชี้หน้าด่าหาว่าเป็นพวก สี่เท้า แถมท่าทางเอาเรื่อง เค้ากลัว เลยรีบหนี หาเช้ากินค่ำ ไม่อยากโชคร้าย   เป็นไปได้หมดค่ะ จากคุณ : narathra - [ 28 ก.พ. 50 16:47:44 ]

ความคิดเห็นที่ 142 ท่าน #140 ท่านก็กล่าวเกินความจริงไปครับ   เพียงแค่มุมมอง  ที่แตกต่าง หรือมองต่างมุม อยู่ที่ อะไร  ยานๆๆนั่นแหล่ะของแต่ละคน จากคุณ : บ๊อบบี้ฮุย - [ 28 ก.พ. 50 17:05:56 ]

ความคิดเห็นที่ 143 ยาแอสไพริน ชนิดน้ำ       คนที่แพ้ โดนทาผิว ก็ มึนชา ถึง สลบไสล  จุดนี้  คนร้าย มักใช้ เล่นงานเหยื่อ              นัยว่า เมืองแขก นิยม มาก   ไม่ได้บอกให้เชื่อ      กอปรทั้ง ไม่ได้ตู่ คิดเอาเอง                 เอาข้อมูลจาก เคเบิ้ลทีวี หลายปีก่อน       ทาต้นคอ ยิงเข้าจมูกอีกที ฉ๊อตนี้           หวังผลยาก (ระยะมันไกล)       สูตรเป่ายา (หน้าต่างบ้าน)  ศาสตร์โจร             ใช้ x จุ่มใน y แล้วจุดเหนือลม                   หลับเป็นตายทั้งเรือน จากคุณ : tik - [ 28 ก.พ. 50 19:28:34 ]

ความคิดเห็นที่ 144 มองต่างมุม ................................ ขับรถแทกซี่อยู่ดีๆ เอาน้ำมันยามาทาท้ายทอย ผู้โดยสารทำท่าไม่ดี พะอืดพะอม เหมือนผีเข้า แถมโวยวายเปิดประตูจะโดดออกจากรถ เห็นท่าไม่ดีเลยรีบจอด พอจอดก็รีบโดดลงไปเลย ตังค์ก็ไม่จ่าย แต่ก็ไม่กล้าไปทวง กลัวเป็นของขึ้นหรือประสาทแdก ขับรถต่อไปดีกว่า ช่างมัน .............. ผมเคยถามพ่อเพื่อนที่เป็นอาจารย์หมอวิสัญญี ไอ่ที่แบบกินยาก่อนแล้วกันได้เค้าก็ยังไม่เคยเห็น แถมคนที่คิดจะ learn ยา แบบรับปริมาณ น้อยๆให้มีภูมิ ก็เป็นไปได้ยากมาก เพราะตัวยามันออกฤทธิ์แบบอะไรซักอย่างนี่แหละ ผมจำไม่ได้ ให้หมอมาตอบ แถมถ้าจะกะให้คนอื่นสลบโดยตัวเองไม่สลบนี่ยากโคตรๆ ขนาดหมอจะใช้ยังต้องคำนวนแล้วคำนวนอีก เค้าบอกว่าประสาทแdกกันเองทั้งนั้น ผมว่าถ้ามั่นใจจริงๆ ก็ลองดำเนินคดให้ถึงที่สุีดดูเลยครับ แต่ผมเป็นห่วงนิดหนึ่ง เอาเลขทะเบียนเค้ามาโชว์นี่ระวังนะครับ เค้าฟ้องหมิ่นประมาทกลับได้ง่ายๆเลยนะครับ เอาให้จริงจังไปเลยครับ ลองดู จะได้รู้ว่ามีเทคนิคเลวๆอะไรที่หมอก็ยังไม่รู้ ให้เป็นวิทยาทานแก่ผู้อื่นด้วย แต่ถ้าไม่มั่นใจ ผมว่าลบเลขทะเบียนออกเถอะ เดี๋ยวโดนฟ้องหัวบาน จากคุณ : shebang - [ 28 ก.พ. 50 19:47:20 A:203.150.118.29 X: TicketID:063489 ]

ความคิดเห็นที่ 145 ยาสลบมันมียากันได้ด้วยเรอะ??? ที่คนเราสลบเพราะฤทธิ์ยาส่งผลถึงระบบประสาทนะครับ  เท่าๆ ที่ฟังดูแล้วดูเหมือนเราๆ ท่านๆ จะสลบเพราะกลิ่นมันยังไงยังงั้น  แถมคนขับยังมียากลิ่นอื่นทาแก้ไว้ด้วยอีก จากคุณ : ก๊วกกี้ (earth the RippeR) - [ 28 ก.พ. 50 21:27:09 ]

ความคิดเห็นที่ 146 เปิดกระจกครับ ถ้าสงสัย บอกไปเลยว่าเหม็น จากนั้นก็บอกว่าขอจอด มั่วนิ่มว่าจะลงไปธุระก่อน จ่ายเงินแล้วไปเลยครับ ถ้ามันแสดงตัว มีหลักฐานชัดเจนและจะเล่นงานเรา ก็เอาตีนยันหน้าคนขับ ถ้ามาสองคนก็ยันหัวทะลุกระจกไปเลย ยันหัวไม่ได้ บิดวิทยุ บิดแอร์ให้รถดับ กระทืบเกียร์ เท่านี้มันก็เจ็บตัวแล้วครับ จากคุณ : hexapiner - [ 1 มี.ค. 50 05:59:53 ]

ความคิดเห็นที่ 147 ผมขอจบตรงนี้และไม่ขอพูดอะไรมากแล้วดีกว่าครับ หลักฐานก็ไม่มี คนขับก็ไม่ตรงกับรูปและข้อมูลหน้ารถ พูดไปเดี๋ยวจะทำให้คนดี ๆ เขาพลอยเดือดร้อนกันไปด้วย ขึ้นเดือนใหม่แล้ว และผมก็ไปทำบุญและขออโหสิกรรมไปแล้ว ผมไม่คิดว่าความหวังดีของผมที่แค่อยากมาเตือน กลับทำให้ผมรู้สึกว่าสิ่งที่ผมทำไปมันไร้ค่าสำหรับคุณเอามาก ๆ และกลับกลายเป็นผมเองที่เป็นฝ่ายผิด เอาล่ะครับ ผมไม่ขอมาตอบอะไรอีกแล้วนะครับ เพราะผมได้พูดและเตือนอะไรไปหมดแล้ว ยิ่งอ่านไปก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกเสียใจเหมือนกันว่า ผมมาทำอะไรอยู่ เพื่ออะไร หรือทำไปแล้วได้อะไร ผมได้อะไรจากการกระทำครั้งนี้เหรอครับ ในแง่ร้าย ผมถูกมองเหมือนเป็นคนบ้า ในสายตาคนดี ในแง่ดี ผมไม่ได้อะไรเลยจริง ๆ ถ้าสิ่งที่ผมเอามาบอกกล่าวกัน ทำให้คุณรู้สึกหงุดหงิด หรือทำให้คุณไม่สบายใจกัน ผมขอโทษจริง ๆ ครับ ___/\___ ประสบการณ์จะเป็นตัวสอนคุณเองครับผม ขอโทษครับ จากคุณ : Taffeta White - [ 1 มี.ค. 50 08:23:41 ]

ความคิดเห็นที่ 148 ผมเชื่อเจ้าของกระทู้นะครับ ตะหนกวิตก ก่อนเกิดเหตุนะ ดีแล้วครับ ไม่มีอะไรก็ดีไป แต่ถ้ามันมีอะไร แล้วไม่เอะใจ จะแก้ไขไม่ทัน (เห็นมาเยอะครับ พวกประมาทชะล่าใจ) อย่าลืมนะครับ คำพูดสุดท้ายของพระพุทธเจ้าท่านสอนเรื่อง ความประมาท ปล. เพื่อนผมเคยโดนกลางวันแสกๆ กลางสยามสแคว์ เป็นยาอะไรก็ไม่รู้ หมดตัวเลยครับ แต่ดีที่มันไม่เอารถไปด้วย จากคุณ : MatthewSweetMercy - [ 1 มี.ค. 50 10:58:11 ]

ความคิดเห็นที่ 149 คนเรามักมีแนวโน้มเชื่อในสิ่งที่เลวร้ายเสมอ ขนาดหมอมาแนะนำว่าสิ่งที่พูดไม่น่าเป็นไปได้ ก็จะบอกต่อว่า หมอไม่รู้วิชามาร พูดกันขนาดนี้ ก็ขึ้นอยู่กับว่าสังคมจะเชื่ออะไร เหมือนกับอีกหลายๆ เรื่องที่สังคมเลือกจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าจริง ไม่ฟังคำคนที่ทำงานเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ เลย ในฐานะที่ทำงานด้านนี้ขอบอกว่า ไอ้ยาสลบที่ใช้ทั้งทาคอทั้งดมกลิ่นนั่นน่ะ taxi มันจะสลบไปนานแล้ว ก่อนคนที่นั่งห่างหลังสุดโน่น แล้วยาสลบหลายๆ ชนิด ไม่มียาแก้ด้วย พูดกันตั้งหลายความเห็น ก็ยังคิดว่า หมอไม่รู้ อีกแล้ว จากคุณ : Vancin - [ 1 มี.ค. 50 12:44:46 ]

ความคิดเห็นที่ 150 เข้ามาแสดงความคิดเห็น 1. นอกเหนือจากยาสลบที่ใช้ในทางการแพทย์ ยังมีสารอื่นๆ อีกที่ใช้ในทางการวิจัยที่มีฤทธิ์เหมือนยาสลบ แต่เขาไม่นำมาใช้รักษา ซึ่งการจะได้มานั้นยากมากๆ 2. พอดีที่แลปใช้สัตว์ทดลองอยู่ ทำแลปเสร็จ ก็ต้องฆ่าหนูทิ้ง มีสาร A ซึ่งระเหยได้ ใช้ทำให้หนูสลบ ครั้งแรกที่ใช้สาร A แม้ได้สูดเข้าไปเล็กน้อย ก็มีการวิงเวียนแล้ว แทบทนไม่ไหว ต้องออกจากห้องก่อน พอครั้งต่อๆ ไปนานเป็นเดือน ร่างกายปรับตัวได้ ทีนี้หละ แม้ไม่ได้ใส่ mask อยู่นานๆ ก็ไม่รู้สึกอะไร ในทางเดียวกัน เป็นไปได้มั้ย ที่คนขับรถ เกิดการทนทานต่อยานั้นๆ 3. ยาที่ใช้ทำให้สลบ ต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ระยะเวลาที่เหมาะ เพียงพอที่จะทำให้คนๆ นั้นสลบได้ เขาเรียกว่า Therapeutic dose ถ้าใช้ก็ทั้งคนขับ คนนั่งได้สลบทันทีแน่ๆ แต่เข้าใจว่าคนขับรถต้องใช้ขนาดยาที่เป็น sub-therapeutic dose คือ ปริมาณน้อยกว่าที่ใช้รักษาแน่นอน ซึ่งแค่ทำให้เกิด sedation ไม่ถึงกะสลบ แน่นอนมันก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาวะร่างกายของแต่ละคนด้วย คนที่ใช้ต้องรู้ว่าขนาดเท่านี้ ระยะเวลาเท่านี้ ตนเองทนได้แค่ไหน แต่ผู้โดยสารบางคนถึงกะวิงเวียนคล้ายจะเป็นลมก็ได้ 4. ยาสลบที่ใช้ในทางการแพทย์ ไม่มียาแก้ใดๆ เลย (antidote) สารพิษบางตัวมียาแก้ 5. ทำไมคนที่ถูกว่ามอมยา คิดว่ายาสลบที่ใช้มาจากช่องแอร์แน่นอน อันนี้ไม่ทราบ ต้องไปถามช่างแอร์ว่าทำได้มั้ย 6.สรุปว่า 50:50 เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เพราะ สารที่ทำให้เกิดอาการคล้ายกะเป็นลม มีแน่นอน แต่ที่ไม่เชื่อ เพราะ ไม่คิดว่าคนขับรถแท็กซี่จะมีความรู้มากพอและสามารถหาสารนั้นๆ จากคุณ : toxic - [ 1 มี.ค. 50 15:12:02 A:133.5.227.241 X: TicketID:139678 ]

ความคิดเห็นที่ 151 โทษนะ  ในเมื่อคุณจำทะเบียนรถได้แล้วทำไมไม่ไปแจ้งความเอาผิดแท๊กซี่ล่ะ  (อย่าบอกนะว่า คนขับกับคนในรูปคนละคนกัน  อันนี้มันตรวจสอบกันได้ ใครเอารถให้ใครขับวันไหน เวลาไหน) หรือว่ากลัวว่าเขาไม่ได้ผิดจริง  ตังค์ก็ไม่จ่ายเขานี่ ฮ่าๆ จากคุณ : DolPhin (*_*) - [ 1 มี.ค. 50 16:10:52 ]

ความคิดเห็นที่ 152 มันน่าจับตอน 7 ชั่วโคตร เลยจริงๆ จากคุณ : นักดื่ม - [ 1 มี.ค. 50 17:02:21 ]

ความคิดเห็นที่ 153 ไม่ขอออกความคิดเห็นค่ะ แต่ตอนที่อ่านกระทู้ตรงที่ว่า ........คนขับเริ่มหยิบกระปุกยามาทาที่ท้ายทอยคนขับ ขวดประมาณ นมเปรี้ยวบีทาเก้น (ไม่รู้จะเทียบขนาดกับอะไรขออภัยนะครับ) ตัวยาเป็นสีเหลือง ๆ เนื้อยา(เหมือนจะเหลว ๆ )คล้าย ๆ วิก หรือขี้ผึ้ง...... เราคิดเป็นอันดับแรกว่า เป็นยาหม่องสีเหลือง ของ "โอสถทิพย์" ขวดมีหลายขนาด ขนาดเท่าที่ จขกท ว่าก็มี สีขาวก็มี เป็นยาออกแนวสารพัดประโยชน์ อัมพฤก อัมพาต ปวดเมื่อย หาซื้อได้ตามร้านที่ชอบขายพวกยาลูกกลอนวัดโพธ์ ยาหอม ร้านยาบางแห่งก็มี กลิ่นยาก็จะ:-)ๆ อยู่ ยานี้เป็นในรูปของยาหม่อง แต่เมื่ออยู่ในอากาศร้อนหน่อยก็จะละลายเล็กน้อย จากคุณ : เบคอนแฮม - [ 1 มี.ค. 50 18:02:29 ]

ความคิดเห็นที่ 154 ไม่มีใครเค้าว่าในความหวังดีคุณหรอกครับ มีแต่คนขอบคุณคุณเยอะแยะมากมายด้วยซ้ำ.. แต่เวลาคนเค้ามองต่างมุมเนี่ย ก็รับฟังหน่อยสิครับ ไม่ใช่ประชดกระแทกแดกดันเค้ากลับไป.. จากคุณ : pop_pcon (Pop_Pcon) - [ 1 มี.ค. 50 18:51:33 ]

ความคิดเห็นที่ 155 คุณ toxic ทำไมโหดร้ายจัง ทำไมต้องไปฆ่าหนูด้วย ทุกชีวิตก็มีค่าเหมือนกันนะ หนูมันก็รักชีวิตของมัน คุณนี่ไม่น่าเกิดมาเป็นคนเลยเลย ใช้มันทดลองเสร็จแล้ว ก็ปล่อยให้มันอยู่ตามปกติสิ ไปทำมันทำไม จากคุณ : . - [ 1 มี.ค. 50 19:10:19 A:58.64.100.15 X: ]

ความคิดเห็นที่ 156 1. รู้จักโรคกลุ่มอาการ hyperventilation หรือเปล่ากรับ อาการเหมือนคุณก็ได้นะ และก็ ถ้าเป็นสารหรือยานอนหลับ ทุกคนที่ได้ก็จะมีอาการเหมือนกัน หรือ 2.คุณอาจจะแพ้สารระเหยดังกล่าวก็ได้ 3. โอกาสเป็นอย่างที่เจ้าของกระทู้เล่ามามีค่อนข้างน้อย แต่ก็ควรระวังตัวไว้ ดีแล้วครับ ตอบโดยไม่มีอคตินะเนีย จากคุณ : aommoa - [ 1 มี.ค. 50 20:22:31 A:124.157.241.166 X: ]

ความคิดเห็นที่ 157 น่ากลัว  สาวๆระวังไว้นะครับ  ภัยรอบตัว จากคุณ : คนหัวฟู - [ 1 มี.ค. 50 21:32:30 ]

ความคิดเห็นที่ 158 ขอบคุณเจ้าของกระทู้ครับ  จริงหรือไม่ช่างมันก่อน  แต่ทำให้ผมระวังขึ้นมาก  ขอบคุณครับ ตอนแรกคิดจะเชื่อ  แต่เห็นเจ้าของกระทู้มาแก้ตัวบ่อยๆ  เหมือนต้องการหาเหตุมากลบกล่าวอ้าง  เลยเชื่อน้อยลงครับ คห.121  ถ้าเป็นหมอจริง  น่าจะมีความสำรวมทางความคิด  ไม่ใช่มาประชดประชัน  แล้วอย่างนี้จะไปรักษาใครกันละครับ แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 50 23:10:26 จากคุณ : DonJuan - [ 1 มี.ค. 50 23:09:21 ]

ความคิดเห็นที่ 159 ขอบคุณที่นำมาเตือนกันค่ะ ก็คงต้องระวังตัวเองกัน ในสังคมมีทั้งคนดีและไม่ดีไม่เว้นว่าจะประกอบอาชีพอะไร ไม่วิจารณ์ว่าใครผิดใครถูกเพราะอาจเป็นได้จริงทั้งสองกรณี ไม่อยากให้มานั่งทะเลาะหรือประชดประชันกันด้วยคำพูด แต่เคยเจอtaxyน่ารักมากค่ะ เป็นลุงคนนึงอายุประมาณห้าสิบ แอบดูชื่อตอนขึ้นรถแต่เสียดายจำไม่ได้แล้ว พอดูชื่อเสร็จนอนหลับตานิ่งๆเพราะเพลีย ตอนนั้นตีสามกว่า(ไปอบรมที่กทม.คนเดียวค่ะ) ลุงคนขับบอกว่า หนูเวลานั่งรถอย่าหลับดูซ้ายขวาด้วยว่าเค้าจะพาไปไหน มาคนเดียวดึกๆอย่างนี้มันอันตรายนะ โห น่ารักมาก ก็ถือว่าโชคดีที่เจอคนดีแบบนี้ ในกรณีของคุณถ้าคนขับทำเรื่องไม่ดีจริง ก็ดีใจกับคุณและแฟนด้วยค่ะที่ปลอดภัยดี แต่taxiน่ารักๆมีจริงนะคะ เจอมาแล้ว จากคุณ : random-4 - [ 1 มี.ค. 50 23:13:10 ]

ความคิดเห็นที่ 160 ความเห็น 158  คห.พี่หมอแกคงตอบติดตลกมากกว่า ให้บรรยากาศไม่ซีเรียส อ้าวหวัดดีครับคุณ random 4 จากคุณ : REX-REX - [ 1 มี.ค. 50 23:33:35 ]

ความคิดเห็นที่ 161 ยังรอความคืบหน้าของคุณ taxi y2k อยู่ครับ ถ้าผิดจริงต้องลากตัวมาลงโทษ เพราะทำให้ชื่อเสียงtaxi เสียหาย ไม่ใครก้อใครล่ะครับ ระหว่าง จขกท กับ taxi คันนั้น จากคุณ : เดอะไรท์ - [ 2 มี.ค. 50 01:29:43 ]

ความคิดเห็นที่ 162 ครับขอบคุณทุกๆท่านเลยครับที่รอคอย  แต่ว่า ข้อมูลมันผิดพลาดเล็กน้อยครับ  ได้ข้อมูลมา 5คัน ที่ผมเดาว่าเป็นโตโยต้า แต่แล้วเป็นรถส่วนตัวหมด ที่ถามวันนั้น ผมถามทะเบียน ภม 1142 เจ้าของนามสกุลลงท้ายมี ศ.ศาลา 2ตัว รอหน่อยนะครับผมขอเช็ครายละเอียดอีกทีว่า สีและทะเบียน ถูกต้องตามเจ้าของกระทู้ลงหรือเปล่า ไม่งั้นตามไปถึงอู่แล้วกลับไม่ใช่ก็เสียเวลาผมครับ ว่าแต่ว่า เจ้าของกระทู้จะกล้ารับหรือไม่ว่า เขาพูดว่าอย่างไรและ ทำไมเขาไม่เก็บเงินคุณ  ผมกลัวอย่างเดียวว่า เจ้าของกระทู้จะหายหน้าไปเลย ที่ผมจะติดตามเรื่องนี้ไม่ใช่ว่าผมอยากเอาชนะใคร แต่ผมอยากทดสอบเทคโนโลยี่ เรื่องแค่นี้ทำไมตามไม่ได้ เอาละคุยมาก เดี๋ยวแบคกราวน์ผมหมั่นใส้เอา เดี๋ยวก็ไม่ค้นให้ซะหรอก   แท็กซี่วายทูเคคนนี้ มีแบคเยอะนะครับ จะตามอะไรสักอย่างง่ายมากเลย (ยกเว้นโจรภาคใต้) แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 50 06:00:15 จากคุณ : taxi y2k - [ 2 มี.ค. 50 06:21:32 ]

ความคิดเห็นที่ 163 1677 ร่วมด้วยช่วยกัน ลองโทรไปถามดูนะครับ อาจจะโทรติดยากหน่อย แล้วคุณจะรู้ว่าคนบ้าแบบผมมีอีกเยอะ ผมไม่หายไปไหนหรอกครับ ผมก็ยังอ่านบอร์ดนี้ศึกษาหาความรู้ใหม่ ๆ เหมือนเดิมแหละครับ แต่ผมขอไม่กลับมอ่านกระทู้นี้อีกแล้วนะครับ ผมเสียใจกับการกระทำครั้งนี้ของผมจริง ๆ  ผมขอโทษอีกครั้งแล้วกันครับ ผมผิดเอง จากคุณ : Taffeta White - [ 2 มี.ค. 50 07:16:54 ]

ความคิดเห็นที่ 164 การตั้งกระทู้มาเตือนกันเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมค่ะ เจ้าของกระทู้อย่าเพิ่งหมดกำลังใจนะคะ แต่เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีคนมองต่างมุมกัน ถ้าคุณtaxi y2k สามารถติดตามคนขับรถคนนั้นมาสอบถามได้ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีค่ะ ว่าแต่ว่าถ้าเค้าทำจริงจะกล้ายอมรับเหรอคะ หรือถ้าบทสรุปเป็นอย่างที่หลายคนข้องใจ เจ้าของกระทู้ก็ต้องขอโทษเค้าล่ะค่ะ แต่คิดว่าเจ้าของกระทู้เค้าใจกว้างพอสมควรจากที่อ่านมาทั้งหมดแต่ที่เค้ามีอารมณ์โกรธ หรือน้อยใจบ้างก็เป็นธรรมดาของมนุษย์ทุกคนแหละค่ะ โลกนี้ไม่มีมนุษย์คนไหนสมบูรณ์แบบนี่นา              หวัดดีค่ะพี่ REX REX อิอิ ^ ^ จากคุณ : random-4 - [ 2 มี.ค. 50 07:28:02 ]

ความคิดเห็นที่ 165 เพิ่งเห็นความคิดเห็นล่าสุดของจขกท. คุณอย่าเสียใจไปเลยค่ะ มีคนบอกว่าถ้าเราคิดว่าสิ่งที่เราทำนั้นดีที่สุดแล้วไม่ตองมานั่งเสียใจค่ะ เป็นกำลังใจให้คุณนะคะ ^ ^ จากคุณ : random-4 - [ 2 มี.ค. 50 07:32:34 ]

ความคิดเห็นที่ 166 พวกที่ชอบมากระแน๊ะกระแหน... หากวันนึงโดนเข้าเองจะรู้สึก แล้วยานั้นเกิดมีผลดังว่าจริงๆ คุณๆๆๆแต่ละคนถ้าอยู่บนรถคันนั้นจะมีเวลามานั่งวิเคราะห์หรอว่า ยาโน้น ยานี้ ออกฤทธิ์อย่างนั้นอย่างนี้... เผลอๆไม่ได้มองคนขับซะด้วยซ้ำ... เป็นกำลังใจให้เข้าของกระทู้ครับ จากคุณ : Aha (Ahabox) - [ 2 มี.ค. 50 08:50:38 ]

ความคิดเห็นที่ 167 คห.121  ถ้าเป็นหมอจริง  น่าจะมีความสำรวมทางความคิด  ไม่ใช่มาประชดประชัน  แล้วอย่างนี้จะไปรักษาใครกันละครับ  โตนจุดธูป เอ๊ย โดนตามมาแก้ตัว เอ๊ย มาดู  อ่านแล้วก็สงสัยหลายๆประการ (ไม่เกี่ยวกับกระทู้)  คือ หมอเนี่ย ... ท่าทางจะไม่ต้องกินข้าว ไม่ต้องดูหนังฟังเพลง กินเหล้า เข้าสังคม ฯลฯ  ชีวิตทั้งชีวิต ต้องสำรวม ไม่พูดไม่จา ศีลห้าต้องเคร่งครัด ไม่ให้ด่าง พร้อย ทะลุ หรือขาด ตลอดทุกวินาที  อย่างนั้นหรือ?  ที่นี้มาเข้าเรื่อง + คห.121  เพื่อนสนิทกัน เป็น อ.แพทย์วิสัญญี  กำลังทำวิจัยเรื่อง ยาสลบชนิดป้ายผิวหนังแบบออกฤทธิเร็ว ระยะสั้น (topical, short acting, anaesthesia)  ทำมาหลายปีดีดักแล้ว ยังไปไม่ถึงไหนเลย ติดแหง่กแค่เฟส 1 เท่านั้น  รับทุนมาจากเมืองนอกด้วย  ทุนรวมๆ แล้วเป็นล้าน(USD) ครับ  .........  ถ้าคิดว่าผมประชดประชันหละก้อ ... เอางี้แล้วกัน  .. ใครมียาป้ายแล้ว หมดความรู้สึุก หรือ เบลอ แต่ยังทำตามคำสั่งได้ ... (หรืออย่างแรงๆ ... ป้ายแล้วสลบ)  โดยไม่มีผลข้างเคียงร้ายแรง (ถึงตับพัง หรือตาย)  ได้ผลทุกสถานะ ทุกสถานที่  ผมยินดีจ่ายค่าลิขสิทธิสูตรยานั้นจริงๆ  แค่ทดลองกับอาสาสมัคร ที่ผมพามา 3 คน แล้วได้ผล ตามที่บอก กับทั้ง 3 คนนั้น  จ่ายก่อนทันที 1 ล้านบาท  ... จะได้รวยเป็นเศรษฐีร้อยล้านพันล้านกะเขาซะที ... จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 2 มี.ค. 50 09:40:19 ]

ความคิดเห็นที่ 168 ก็ขอบคุณเจ้าของกระทู้ มากๆ แฟนผมกลับแท๊กซี่ทุกวัน เป็นห่วงจริงๆ เรื่องอย่างนี้ก็ต้องทำใจครับเพราะมันยังพิสูจน์ไม่ได้ครับ ยังไงก็ต้องระวังไว้เยอะๆครับ ดีๆมีเยอะเลวๆก็เยอะครับ โดยเฉพาะชอบทำเลวๆกับผู้หญิงที่ขึ้นคนเดียวเนี่ยมีเยอะมาก ระวังตัวเอง ตื่นตัวตลอดเวลา อ่ะดีมากแล้วครับ จากคุณ : MySql - [ 2 มี.ค. 50 10:21:32 ]

ความคิดเห็นที่ 169 เรียนคุณ : DonJuan  ในคห.158 ที่กล่าวถึงคุณหมอ คุณไม่ได้เป็นขาประจำอยู่ที่ห้องรัชดาแห่งนี้ คือตัวคุณเองไม่ได้รู้จักหรือสนิทสนมกับหมอในห้องนี้ เลยมีความรู้สึกแปลกๆ หน่ะสิ ที่ทำงาน ก็คือที่ทำงาน บทบาทหน้าที่การแสดงออก ด้วยสีหน้า ท่าทาง กิริยา วาจา ก็เป็นเยี่ยงนั้น ที่นี่กับเพื่อนๆในห้องรัชดา คุ้นเคยกันดีก็ต้องเป็นเยี่ยงนี้ ไม่มีไรหรอกครับ จากคุณ : บ๊อบบี้ฮุย - [ 2 มี.ค. 50 11:12:50 ]

ความคิดเห็นที่ 170 ต้องขออภัย  คุณ  คห.  ที่  121  ที่ผมพาดพิงกล่าวถึงครับ  ท่านเป็นหมอหรือไม่คงไม่ใช่สาระสำคัญอีกต่อไป   ประเด็นอยู่ที่ผมอ่าน  คห.  114  แล้วรู้สึกถึงความหยั่งคิด  มีเหตุมีผล  สงบนิ่ง  วิเคาระห์ไปตามสถานะการณ์  ปราศจากอารมณ์ครับ แต่อ่าน  คห.  121  แล้วรู้สึกสัมผัสได้ถึงอารมณ์บางอย่างที่ผู้เขียนสื่อออกมาซึ่งเป็นความรู้สึกต่างจากอ่าน  คห.  114  ครับ ขออภัยอีกครั้ง  หากกล่าวล่วงเกินละเมิดสิทธิ  แต่รู้สึกเช่นนั้น  เลยกล่าวออกไป  โดยมิได้คิดไตร่ตรองก่อนพิมพ์  พิมพ์ไปแล้วแก้ไขก็ละอายแก่ใจตัวเองไปแล้ว   ผมรับรู้และเข้าใจคำว่าที่ทำงานและส่วนตัว  สถานะไหนควรทำตัวอย่างไร  แต่อยากให้กลับไปอ่าน  คห.114/121  พิจารณาอีกครั้ง  มีอยู่ประการหนึ่งที่เหมือนกันไม่ว่าอยู่ในสถานะไหนก็ตาม  คือ  พื้นฐานอารมณ์  ความคิด  จิตใจ  ครับ  อ่าน  167  ประกอบด้วย  121  จะชัดเจนนะครับ ขออภัยคุณทั้ง  2  ท่านที่กล่าวถึงโดยมิได้รู้จักมักจี่  แต่อ่านคำพูดที่ท่านพิมพ์ไว้  มันมีตะกอนตกอยู่ในจิตใจอย่างที่กล่าวไปครับ ขอบคุณเจ้าของกระทู้อีกครั้ง  เชื่อหรือไม่  ผมไม่สนใจ  ไม่ใช่ประเด็น  แต่ทำให้ผมระวังในการใช้ชีวิตมากขึ้น  นอกจากถังขยะแล้วรถโดยสารที่ผมต้องระวังอีกครับ จากคุณ : DonJuan - [ 2 มี.ค. 50 11:32:24 ]

ความคิดเห็นที่ 171 มันเป็นความคิดเห็นที่ทุกคนสามารถแสดงออกได้ พวกที่คัดค้านนั้น คงต้องรอให้เหตุการณ์มันเกิดกับลูกสาวคุณ หรือคนใกล้ชิดที่คุณรักก่อนกระมัง ส่วนตัวผมเชื่อครับ  เพราะอะไร???? เพราะเพื่อนผมเคยโดนมาแล้ว วันนั้นเขานั่งแท็กซี่มากับลูกสาว(เพื่อนผู้หญิง) คนขับก็ทำแบบเดียวกับที่ จขกท.เล่า แล้วเร่งแอร์ให้แรงขึ้น  ตังเขาเองไม่รู้สึกอะไร เพียงแต่รู้สึกว่ามันมีกลิ่นแปลกๆ แต่ลูกสาวเขาเวียนหัวมากอยากอาเจียร บอกให้คนขับจอด  มันไม่จอด เลยเปิดประตูทั้งที่รถแล่นอยู่   มันเลยต้องจอด เขารีบดันลูกสาวลง  หันมาจะจ่ายค่ารถ มันขับหนีไปเลย คุณจขกท ไม่ต้องน้อยใจครับ บางเรื่องมันเหลือเชื่อ  แต่ก็เกิดขึ้นจริง อย่าไปฟังเสียงนกเสียง...กา เรารู้ว่าเราทำอะไรก็พอ เป็นกำลังใจให้ครับ สังคมไทย....เป็นแบบนี้ อีกหน่อยคงไม่มีใครออกมาเตือนใครแล้ว เฮ้ออออออออออออออออออออ จากคุณ : ปลาทู (guntus1962) - [ 2 มี.ค. 50 13:28:59 ]

ความคิดเห็นที่ 172 กลับเข้ามาให้กำลังใจเจ้าของกระทู้อีกรอบนะคะ เราเข้าใจความรู้สึกของคุณดีค่ะ ถึงแม้ว่าจะทำใจไว้แล้ว และได้ปลอบใจคุณไว้ใน คห.บนๆ ลึกๆในใจของเราเองก็มีความรู้สึกไม่ต่างจากคุณหรอกค่ะ ถ้าใครไม่ประสบเหตุการณ์นั้นด้วยตัวเอง เค้าก็จะไม่มีวันรู้และเข้าใจหรอกค่ะ เพราะสิ่งที่เรานำมาเล่าถ่ายทอดให้คนอื่นฟังนั้น เค้าไม่ได้ประสบกับบริบทสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเรา ณ ขณะนั้น จากคุณ : สงสารน้องออส - [ 2 มี.ค. 50 14:25:36 A:58.136.60.252 X: TicketID:135360 ]

ความคิดเห็นที่ 173 วิชามารมันมีแยะ ระวังไว้ก่อน ฟังหูไว้หูก็ดี ส่วนตัวเชื่อว่าไม่น่าใช่ยาแผนปัจจุบัน จากคุณ : bingbong - [ 2 มี.ค. 50 15:59:01 ]

ความคิดเห็นที่ 174 Re: 167 ลองติดต่อคุณเขาทรายดูซิครับ น่าจะมียาที่คุณว่า เพราะเห็นเอามือไปป้ายใครแล้วหลับ เป็นประจำเลย    บางทีไม่หลับแต่สลึมสลือ พอจะทำตามคำสั่งได้ก็มี  (สั่งเข้ามุม หรือเช็ดนวมก็ได้) ถ้าได้ผลยังไง ผมขอค่าแนะนำ  ซัก 3 พันก็พอ จากคุณ : Ganja - [ 2 มี.ค. 50 16:00:38 ]

ความคิดเห็นที่ 175 ยารมควันเอาไหมครับคุณหมอ? หมายเหตุ ผมกำลังติดตามเรื่องนี้อยู่ครับ มีที่อยู่ของรถแท็กซี่ และเบอร์โทร จะแจ้งให้เพื่อนๆสมาชิกช่วย ติดตามอีกแรง เจ้าของอู่ต้องให้ความร่วมมือ ถ้าคนขับยอมรับว่าวันนั้น เขาขับ ก็แสดงว่าไม่มีอะไร แต่ถ้าหาคนขับไม่พบ(เพราะไม่มีใครับ) ก็แสดงว่ามี อันไม่ชอบมาพากลจริงๆ  (ผมเดาไว้ก่อน) จากคุณ : taxi y2k - [ 2 มี.ค. 50 16:31:03 ]

ความคิดเห็นที่ 176 แฟนสวยไหมครับ จากคุณ : usenet - [ 2 มี.ค. 50 16:44:08 ]

ความคิดเห็นที่ 177 เวนจริงๆครับ ขอให้คนที่คิดจะทำแบบนี้ โดนกระทำกลับไปบ้างเหอะ จากคุณ : ลิงรอรัก - [ 2 มี.ค. 50 20:31:56 ]

ความคิดเห็นที่ 178 น่ากลัวจริงๆเลย สมัยนี้ จากคุณ : Takky_x - [ 2 มี.ค. 50 23:41:31 ]

ความคิดเห็นที่ 179 ผมเดาว่า มันอยากได้แฟนคุณแน่เลยครับ ถ้าคุณไม่ลงตอนนั้นนะ ต่อไปแฟนคุณ ก็จะหลับตาม แย่แน่ๆ ------------------------------------------------------------------- ผมมีเรื่องแทกซี่สยองจะเล่าเหมือนกันครับ  มีวันนึงผมไปแถวบางใหญ่ แล้วจะนั่งรถกลับมาทาง แคราย  ผมเดินไปรอ134 รถก็ยังไม่มา ผมเลยเดินต่อไปอีก จนถึงช่วงมืดๆใต้สะพานลอยรถข้ามสูงๆ (เลยปั้มjetไปสักประมาณ2ป้าย) เริ่มเรื่องนะครับ ในริมถนนมืดๆตอนนั้นเวลาประมาณ23.00น. ผมโบกรถแทกซี่คันนึงขึ้นมา ด้วยความมืดเลยไม่เห็นว่ารถเก่า แต่พอรถมาจอดใกล้ๆ โห รถเก่านี่หว่า เก่ามากด้วย  ผมก็เออๆขึ้นไปไม่เรื่องมาก ขึ้นไปในรถ(รถเป็นรถเก๋งคันเล็กๆมาก คล้ายๆพวก mitsu champ อ่ะ หรือ toyota บางรุ่น)มองดูเบาะรถเป็นเบาะผ้า สีเดิมคงเป็นสีเนื้อนะ แต่เห็นเป็นสีน้ำตาลดำๆสกปรกเลยอ่ะ เป็นคราบๆด่างๆเต็มเลย!!! โคดซกมกแถมเหม็นสาบสุดๆ!!  ยังไม่อยากจะหย่อนตูดลงไปนั่งเลย พอผมมองไปที่คนขับ เป็นผู้ชายวัยกลางคนน่าจะไม่เกิน40 ผมเผ้ายุ่งเหยิงมากสกปรกสุดๆ!!! เสื้อผ้าก็ยับยู่ยี่สุดๆ!!! มองไปที่ ข้างประตู ไม่มีป้ายเหลืองใดๆติดทั้งสิ้น ผมถามคนขับ มันบอกแบบไม่เต็็มใจว่า เด็กๆชอบมาแกะเล่นไปหมดเลย ?? เหอะๆ เชื่อมันดีไหม และคนขับมันคอยมองมาข้างหลังแบบแปลกๆตลอดเลยด้วย ผมคิดว่าถ้านั่งไปกะมันนะ ช่วงจากบางใหญ่ไปก่อนถึงสะพานพระนั่งเกล้านะ มีช่วงเปลี่ยวๆเยอะมาก  ผมคงโดนมันทำอะไรแน่ๆ ท่าทางมันฟ้องมากๆเลย!!! ผมเลยแกล้งบอกว่า ช่วยจอดตรงปั้มข้างหน้าทีขอ แวะซื้อของกลับบ้าน มันก็เข้ามาจอดเยื้องๆกับซุปเปอร์สโตร์ของปั้มJet วึ่งไฟสว่างมากแล้วไง ผมรีบลงมาดู เพราะอึดอัด+เหม็นอับมานาน(คือสรุปผมขึ้นก่อนถึงปั้มเจทประมาณ2ป้ายรถเมล์ พอถึงปั้มjetผมถึงลง) กรูนั่งมาได้ไงเนี่ย รถมันยังกะซากรถชัดๆ ขอบอกว่า กระจังหน้ารถ หายเป็นแถบหายไปหมดเลย !!! เหลือแต่ไฟหน้าริบหรี่ๆ2ดวง กระจังตรงกลางระหว่างไฟหน้าทั้งสองดวง เปิดโล่งโจ้ง สำดำๆโชว์ฝุ่น เหล้กสนิมมากๆ ด้านในรถก็เบาะเก่าสุดๆเป็นคราบสกปรกมากๆ เหม็นอับสุดๆ แถมมีน้ำแอร์หยดอีก เหม็นอับสุดๆ!!!  ป้ายกท.ด้านหลังก็ไม่มีไฟส่อง !!!ขนาดไฟสว่างๆยังมองไม่เห็นเลยครับ เหอๆ ต้องไปดูด้านหน้าแล้วแอบจำไว้ พอคนเยอะผมได้ทีเลยบอกว่า พี่รถสภาพนี้มาขับได้ไงครับเอาเปรียบผุ้โดยสาร ราคาเริ่ม35บาทเหมือนกัน แต่รถพี่นี่ไม่น่าผ่านตรวจสภาพมาวิ่งได้นะ มันบอกว่าผมก็วิ่งแถวนี้มานานไม่มีปัญหา (กุมะเชื่อมิงหรอก รถก่อคดีชัดๆ)แล้วก็บอกพี่ป้ายกท.เหลืองในรถก็ไม่มีมาวิ่งผิดกม.นะ มันก็เงียบๆแต่ทำหน้าโมโห ผมเลยให้ตังแต่ค่าโดยสารมัน ผมให้พี่แค่นี้ละกาน ผมไม่ไปต่อและ แล้วก็มายืนดูรถมันตรงคนเยอะๆ เพราะมีรถกระะมาประมาณ2คัน คนท้ายรถออกมาเข้าห้องน้ำเต็มเลย  ปรากฎว่ามันโมโหมาก ขึ้นรถไปแล้ว มันเบิ้ลรถบรื้นๆๆๆดังลั่น ประมาณ7-8 วิ แล้วมองหน้าผมแบบแ้ค้นมาก แล้ววิ่งรถออกไปอย่างแรง คนก็หันมามองกัน ว่าผมมีเรื่องไรกับมันป่าว  ต่อมาผมโทรไปแจ้งตำรวจ191 ตำรวจยังไม่อยากเชื่อเลยว่า จะมีแทกซี่สภาพนี้มาวิ่ง  รถมันไม่ใช่รถตั้งใจมาวิ่งรับผู้โดยสารเลยครับ สภาพติด-500 รถมันมีไว้เผื่อจะก่อคดีชัดๆ คือว่า ขับบังหน้าเฉยๆ สยองโคดๆ ขนาดผมเป็นผู้ชาย ***ผมยังรู้สึกได้ถึงอันตรายที่จะเกิดกับผมเลยถ้าผมนั่งต่อ***สภาพคนขับก็แย่สุดๆ ไม่ได้หมายถึงหน้าตานะ แต่สภาพมันไม่ใช่คนตั้งใจมาขับรถจริงๆอ่ะ  เคยดูข่าวว่า คนขับแท็กซี่บางคน อย่างเช่นที่ปล้นและจี้ผู้หญิงไปข่มขืน เช่ารถมาเพื่อไว้ก็คดีโดยเฉพาะ พอผมเห็นรถมันรู้เลย ว่าแน่ๆ แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 50 01:07:44 แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 50 00:59:49 แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 50 00:54:42 จากคุณ : Infighter - [ 3 มี.ค. 50 00:33:13 ]

ความคิดเห็นที่ 180 แมวเหมียวพุงป่องเลิกประชดเสียทีเถอะ ถ้าให้ความเห็นที่มันเป็นเหตุเป็นผลหรือความรู้อะไรไม่ได้ก็ไม่ต้องตอบให้รกกระทู้ก็ได้ครับ จากคุณ : เพชรปู - [ 3 มี.ค. 50 01:28:52 ]

ความคิดเห็นที่ 181 เคยแต่โดนแท๊กซี่ทำ ต่ำทรามใส่น่ะค่ะ ตอนนั้นว่าจะพิมพ์บอกในพันทิป  แต่สุดท้ายก็ลืมไปเลย จนตอนนี้จำได้แค่เลขทะเบียน 4 ตัวหลัง ตัวอักษรจำไม่ได้น่ะ น่าจะ xx 1239 (ถ้าจำไม่ผิดนะ เพราะผ่านมาเป็นเดือนแล้ว) เราใจไม่ถึงพอที่จะเปิดประตูรถลงเลยน่ะ  เลยทนๆ พยายามไม่ทำให้คนขับอารมณ์เสีย เพื่อสวัสดิภาพของตัวเอง วันนั้นจะกลับบ้าน ก็เรียกแทกซี่ ก็ถามเขาไปที่นี่ไหม เขาก็ แอะๆ ไอ้เราก็คิดว่า เป็นใบ้มั้งเนี่ย แต่เอาเถอะ ไม่ควรไปเหยียดอะไร (เราค่อนข้างทุกคน ก็ปฏิบัติให้เท่าๆกัน) พอขึ้นรถเสร็จ เขาหันมาคุย แนวว่า มีแฟนยัง เป็นกิ๊กกันไหม  นมใหญ่นะเนี่ย ชวนไปโรงแรม ถามกิ๊กกะแฟนบ่อยไหม  (อ้าว ไม่ได้ใบ้หรอ) ก็นั่งดูท่าทีไปเรื่อย โชคดีที่รถวิ่งในเมือง(รู้สึกปลอดภัยหน่อย) ผ่านแยกคลองตันมาจนทะลุพระโขนง คิดว่า เราบอกจุดหมายไปแล้ว ถ้าอยู่ๆลงเนี่ย อาจจะทำให้เขาไม่พอใจ อาจจะเป็นผลร้ายกับเรา  เลยคุยกลับไปบ้าง  (กลัวเขาล๊อครถไม่ให้ลงน่ะ) แต่ส่วนมากก็ตอบ อะนะ ไม่หรอก ไม่อะ ไม่ไป จะกลับบ้าน พยายามจะโทรหาคนอื่น ให้อุ่นใจ แต่โปรที่ใช้พอนอกเวลา เหลือต่ำกว่า 3 บาท ดันโทรไม่ได้ (ในเครื่องมี 2 บาท) เลยต้องทนฝืนใจ  เพราะใจไม่ถึงที่จะเปิดประตูรถลงเลย กลัวก็จริง แต่คิดว่า เอาวะ อย่างน้อยก็ในเมือง มันคงทำอะไรเราลำบาก เหลือก็แค่ว่า ไม่ให้อารมณ์มันเสียก็พอ พอมาถึงแยกพระโขนง  มันก็พูดขึ้นว่า  เอ๋ เลี้ยงซ้าย หรือ ขวาน๊า  เรารีบสวนทันทีเลย  ซ้ายค่ะ  มันก็บอก ไม่ไปขวาหรอ แถวคลองเตยมีโรงแรมนะ  เราก็บอก ไม่อะ จะกลับบ้าน  มันก็ยังตื้ออีกบอก ไม่เสียเวลาหรอก แค่ 2-3 ชั่วโมงเอง   ให้ตายเหอะค่ะ ชวนจ้ำจี้ตั้งกะขึ้นรถ ยัน ลงรถ แต่ยังดีนะ ที่มันยังเลี้ยวตามที่เราบอก แล้วส่งถึงที่อย่างปลอดภัย (เราไม่ให้จอดหน้าบ้านนะ ยอมเดินอีกนิดเอาเอง กลัวมันมาอีกอะ) เคยคิดว่า เจอยังงี้ เปิดประตูหนีลงเลยจิ  กลัวอะไร ไปผิดทาง  แต่พอเจอเข้าจริงๆ  กลับกลายเป็นว่า กลัวไปหมดเลยค่ะ กลัวว่า ถ้าเปิดประตูไม่ออกล่ะ มันล๊อคไว้ล่ะ มันต้องรู้แน่เลย เราจะหนี เราจะคิดอะไร แล้วเกิดมันไม่พอใจ ทำร้ายเราขึ้นมาจะทำยังไงดี  เงินมือถือก็หมด โทรออกก้อไม่ได้ จะโทรไป 191 มันก็ยังไม่มีเหตุร้าย เขาจะรับแจ้งไหมนะ เกิดอยู่ๆโทรไปบอก ช่วยคุยเป็นเพื่อนให้อุ่นใจที 191 จะรับไหมน่ะ ตอนนั้นกลัวไปหมด ท่าทางก็เหมือนคนเมายาด้วย พูดเสียงเล็กๆ แอะๆ คล้ายคนไม่เต็ม  ดูไม่มียางอาย ไม่สุภาพ  หื่นขึ้นมามากกว่านี้ ก็ไม่รู้จะช่วยตัวเองยังไงดี  ตอนนั้นคิดอย่างเดียวคือ เอาน้ำเย็นเข้าลูบ แล้วดูสถานการณ์ ยังพออุ่นใจเพราะในเมืองใหญ่ และยังอยู่ในเส้นทาง แต่ถ้าออกนอกเส้นทางเมื่อไร ก็คงต้องยอมเสี่ยงสู้แล้วเหมือนกัน จากคุณ : ทาสรักลูกแยม - [ 3 มี.ค. 50 05:17:57 ]

ความคิดเห็นที่ 182 ขอมาเป็นกำลังใจให้คุณ คห.181 แล้วกันนะครับ โชคดีที่ไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นตามมานะครับ อย่าไปกลัวที่ต้องเปิดประตูรถแล้วหนีออกมานะครับ ถ้าเหตุการณ์ตรงนั้นไม่ว่าในรถแท๊กซี่หรือที่ไหนก็ตาม รอจังหวะหรือโอกาสดี ๆ เอาตัวรอดไว้ก่อนครับ ภัยมันจะมารูปแบบไหนเราไม่สามารถรู้ได้เลยครับ ขอบคุณที่เอามาเล่าให้ฟังกันครับผม ผมขอเป็นกำลังใจให้นะครับ ^^ เมื่อวานก็เพิ่งอ่านเจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้เหมือนกัน จำไม่ได้ว่าที่ไหนนะครับ เกี่ยวกับผู้หญิงที่เข็นรถเดินซื้อของในซุปเปอร์คนเดียว พอดีจังหวะที่ผู้หญิงคนนั้นทิ้งรถเข็นเพื่อหันไปเลือกของใส่รถ ก็มีผู้หญิงคนนึงเดินมาจับรถเข็นของเธอ (เหมือนเอายามาทาบริเวณราวเข็นรถ) แล้วเดินไป พอผู้หญิงคนนั้นหันมาแล้วเข็นรถต่อไปซักพัก ก็เริ่มหน้ามืดเวียนหัว และสังเกตุเห็นเหมือนว่าผู้หญิงคนนั้นเดินตามเธอมาห่าง ๆ โชคดีที่เธอรู้ตัวและเข็นรถไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่นทันเวลา เมื่อก่อนปรกติผมก็ไม่ค่อยสนใจที่จะอ่านเรื่องพวกนี้ซักเท่าไหร่หรอกนะครับ แต่การอ่านอะไรพวกนี้ไม่จำเป็นที่เราต้องเชื่อทั้งหมดหรอกครับ อ่านไว้ก็ไม่มีอะไรเสียหายยิ่งอ่านเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ผมว่ายิ่งทำให้เราเป็นคนมีสติรู้ทันคนมากขึ้นเท่านั้นครับผม ขอบคุณสำหรับกำลังใจจากทุกท่านด้วยนะครับ หวังว่าประสบการณ์ของผมและสมาชิกท่านอื่น ๆ ในนี้เป็นประโยชน์กับคุณบ้างนะครับ วิจารณญาณ ทุกคนมีเป็นของตัวเองครับ เคารพทุกความคิดเห็นครับ จากคุณ : Taffeta White - [ 3 มี.ค. 50 11:29:59 ]