ความคิดเห็นที่ 49
ข่าวจาก Breaking News ของพันทิปนี่แหละ เพิ่งอ่านมาเมื่อกี้แล้วเข้ามารัชดาก็เจอกระทู้นี้เลย (19มีค.50 15.40 นาฬิกา)
สนพ.คาดราคาขายปลีกเบนซินในประเทศปรับตัวสูงขึ้นอีก 13:30 น. นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า แนวโน้มราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินในประเทศมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้อีก ถึงแม้ในช่วงต้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมาราคาน้ำมันเบนซินจะปรับเพิ่มขึ้นถึง 4 ครั้งๆ ละ 40 สตางค์ต่อลิตรแล้วก็ตาม
แนวโน้มราคาน้ำมันเดือน มี.ค.50 คาดว่าราคาน้ำมันยังคงผันผวนน้ำมันดิบดูไบและเบรนท์จะเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 55-60 และ 58-63 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ตามลำดับ และราคาน้ำมันในตลาดจรสิงคโปร์ น้ำมันเบนซิน 95 และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว จะเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 68-75 และ 63-70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากกรณีความตึงเครียดโครงการนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐ กับอิหร่าน ปัญหาก่อการร้ายในสามเหลี่ยมไนเจอร์ของไนจีเรีย การเริ่มสั่งซื้อน้ำมันเพื่อสำรองของประเทศต่างๆ เพื่อไว้ใช้สำหรับฤดูท่องเที่ยว รวมถึงการที่โรงกลั่นน้ำมันต่างๆ ในเอเชียหันไปผลิต Naphtha มากขึ้นเพราะให้ผลตอบแทนดีกว่า
นอกจากนี้ราคา LPG ในเดือน มี.ค.50 ปรับตัวลดลงจากเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา 20 เหรียญสหรัฐต่อตัน มาอยู่ที่ระดับ 506 เหรียญสหรัฐต่อตัน เนื่องจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ซึ่งเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ของภูมิภาคมีความต้องการใช้ลดลงเนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่หนาวมากในช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมา และคาดว่าราคา LPG ในเดือน เม.ย.50 จะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 500-510 เหรียญสหรัฐต่อตัน ส่งผลให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงชดเชยอยู่ที่ระดับ 1.72-1.74 บาทต่อกิโลกรัม คิดเป็นเงินชดเชยประมาณ 450 ล้านบาท อย่างไรก็ตามกองทุนน้ำมันฯ มีรายได้จากการส่งออกก๊าซ LPG อยู่ที่ระดับ 3.06-3.23 บาทต่อกิโลกรัม หรือคิดเป็นเงินประมาณ 127-134 ล้านบาทต่อเดือน ณ อัตราแลกเปลี่ยน 35.82 บาทต่อเหรียญสหรัฐ
ด้านฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงยอด ณ วันที่ 12 มี.ค.50 มีเงินสดสุทธิ 4,743 ล้านบาท โดยมีรายรับเดือนละ 4,313 ล้านบาท และรายจ่ายเดือนละ4,294 ล้านบาท คิดเป็นรายรับมากกว่ารายจ่าย 19 ล้านบาท ขณะที่มีหนี้สินค้าง
ชำระ 38,055 ล้านบาท
ส่วนการผลิตพลังงานไฟฟ้าในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา อยู่ที่ระดับ 22,110 ล้านหน่วย เพิ่มขึ้น 2.6% โดยความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุด(Peak) ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ทำลายสถิติ Peak เมื่อปี 49 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 21,064 เมกะวัตต์ จำนวน 4 ครั้ง ประกอบด้วย ครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 มี.ค.50 อยู่ที่ระดับ 21,318 เมกะวัตต์ ครั้งที่สอง(ครั้งสูงสุด) เมื่อวันที่ 14 มี.ค.50
อยู่ที่ระดับ 21,375 เมกะวัตต์ ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 15 มี.ค.50 อยู่ที่ระดับ 21,273 เมกะวัตต์ และครั้งที่สี่ เมื่อวันที่ 16 มี.ค.50 อยู่ที่ระดับ 21,366 เมกะวัตต์ โดยคาดว่า Peak ของปี 50 จะสูงขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 22,567 เมกะวัตต์ ในช่วงปลายเดือน มี.ค.ถึงต้นเดือน พ.ค.50 ซึ่งจะเป็นช่วงที่มีอุณหภูมิสูงสุด
จากคุณ :
ข้าฯหละเบื่อ (dowsuk)
- [
19 มี.ค. 50 15:44:09
]
|
|
|