ความคิดเห็นที่ 1 ดีแล้วครับ ที่ไม่เป็นอะไรมาก รู้สึกว่าสังคมทุกวันนี้มันแย่ลงๆ ยังงัยก็ไม่รู้ จากคุณ : อนุญาตให้แสดงผลผ่านระบบมือถือ - [ 2 เม.ย. 50 04:49:47 A:203.144.187.61 X: TicketID:056485 ]

ความคิดเห็นที่ 2 5555  ไม่ขอออกความเห็น เพราะไม่เห็นกับตา ใครเล่าก่อน ก็ไม่ได้หมายความถูกต้องเสมอไป จากคุณ : taxi y2k - [ 2 เม.ย. 50 05:14:15 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่ได้ไม่เชื่อนะครับ แต่ผมว่า ไอ้เรื่องยาพวกนี้มันมีจริงๆหรือ?   ผมนั่ง taxi บ่อยมากๆ  ไม่เห็นมีอะไรเลย แล้วถ้าคุณ จขกท. ลงจากรถน่าจะจำทะเบียนแล้วแจ้ง จส.100 ไปเลยนะครับ ว่า นั่งรถเค้าแล้วเป็นแบบนี้  ตำรวจน่าจะช่วยอะไรได้บ้าง ป.ล.  หลังๆ เริ่มมีเรื่องพวกนี้บ่อยๆ  น่าจะมีรายการโทรทัศน์ เช่น เรื่องจริงผ่านจอ  มีพิสูจน์ไปเลยครับ ว่าเป็นไงมาไง   แบบนี้อีกต่อไปคนนั่งก็ระแวง คนขับก็เสีย จากคุณ : close2heaven - [ 2 เม.ย. 50 06:06:06 ]

ความคิดเห็นที่ 4 -_- เข้ามารับฟังค่ะ จากคุณ : สงสารน้องออส (ส่งเสียน้องออส) - [ 2 เม.ย. 50 06:57:12 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณมากนะครับคุณshebell ที่มีน้ำใจมาเตือน ผมเชื่อว่าสังคมทุกวันนี้มันแย่จริงๆครับ อย่างที่ความเห็น1บอก ส่วนความเห็นที่2กับ3ก็แล้วแต่จะคิดนะครับทุกคนมีวิจารณญานเป็นของตัวเอง เขามาเตือนก็ให้ระวังตัวไว้ครับ ของแบบนี้ถ้าไม่เจอกับตัวเองจริงๆมันไม่รู้หรอกครับ ไม่งั้นมันจะมีอาชญากรรมมากมายแบบทุกวันนี้เหรอครับ ถ้าตอนนั้นคุณนั่งอยู่ในแท็กซี่แล้วอยู่ๆก็เจออาการแบบที่จขกท.ว่ามาคุณ ถ้าคุณมัวแต่คิดว่าไม่หรอกเราไม่ได้โดนวางยานะ คนขับก็ดูซื่อๆดีเราคงมึนไปเอง หรือไม่ก็ไม่กล้าบอกให้แท็กซี่จอดเพราะเกรงใจเขาคิดว่าเขาคงไม่มีจิตอกุศลกับเราหรอก พอเจอแบบนั้นอาจมีคนมาตั้งกระทู้ว่า "โดนแท็กซี่มอมยามาสดๆเลยค่ะ,ครับ หมดตัวเลย แถมมีรูที่พุงด้วยเพื่อนๆช่วยระวังตัวด้วยนะ" แล้วก็จะมีคนมาตอบกระทู้มาว่า "โอ้ยผมไม่ได้เห็นกับตา,จริงอ่ะเปล่าเนียทำไมผมนั่งมาตั้งนานไม่เคยโดนเลย" อย่างไรก็ขอขอบคุณจิตอันเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ของคุณshebellมากๆนะครับ ที่มีส่วนช่วยให้สังคมเราดีขึ้น มีส่วนในการช่วยให้คนระวังตัวในการใช้บริการไม่เฉพาะรถแท็กซี่แต่ในทุกๆงานบริการที่มีให้เลือกใช้และพึงระวังที่มีอยู่มากมายในปัจจุบันในสังคมที่เต็มไปด้วยความเลวทรามของจิตใจคนครับ ขอขอบคุณมากครับ จากคุณ : pearlda - [ 2 เม.ย. 50 07:40:45 ]

ความคิดเห็นที่ 6 รีบไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานซิครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 2 เม.ย. 50 08:14:46 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผมคิดว่าตอนที่ จขกท บอกว่าคนขับเอามือไปปัดแถวช่องแอร์อ่ะ ถ้าเป็นการปล่อยยาจริง คนขับคนก็ต้องเป็นไปด้วยไม่ใช่หรอครับ มันจะกระจายไปทั่วทั้งรถเลย นอกจากคนขับเอาหน้ากากกันแกสพิษหรือเอาผ้ามาปิดจมูกตัวเอง แบบนี้น่าเป็นไปได้สูง และอีกอย่างรถถ้าเขาตั้งใจทำจริงๆเจ้ากระจกไฟฟ้ามันมีระบบล็อคกันเปิดจากสวิทด้านคนขับอยู่ด้วยถ้าเขากดกระจกทุกบานยกเว้นด้านคนขับจะไม่ทำงานเลยครับ ที่ออกความเห็นมานี่คือพิเคราะห์ความเป็นไปได้กับการที่เราจะตั้งใจทำหรือไม่ครับ แต่หากเขาเป็นมือสมัครเล่นคุณก็โชคดีแล้วครับ มันยากเหลือเกินสมัยนี้คนดีกับคนไม่ดีปนกันแทบแยกไม่ออก ขอให้ทุกท่านพระคุ้มครองปลอดภัยครับ สาธุ จากคุณ : Bas (2.2SEG) - [ 2 เม.ย. 50 08:17:04 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขนาดฟังแล้วยังเหนื่อย เดี๋ยวนี้สังคมเราแยถึงขนาดแล้วเหรอ อย่างไรก็ตามก็ต้องขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่ให้ข้อมุ,ครับ.. จากคุณ : หนุ่ม เมืองนนท์ - [ 2 เม.ย. 50 08:28:34 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เข้ามารับเบอร์ 9 ศุนย์หน้า จากคุณ : LTI Systems - [ 2 เม.ย. 50 08:33:11 ]

ความคิดเห็นที่ 10 โชคดีที่มีสติ เลยรอดมาได้ จากคุณ : Mr.Submarine - [ 2 เม.ย. 50 09:14:31 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แท๊กซี่เลว..!!! จากคุณ : infinitesadness - [ 2 เม.ย. 50 09:21:46 ]

ความคิดเห็นที่ 12 รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม .... จากคุณ : pencom - [ 2 เม.ย. 50 09:28:34 ]

ความคิดเห็นที่ 13 Panic disorder อย่าว่าแต่ในแทกซีเลย บนสะพานลอยคุณก็มีอาการนี้ได้ ส่วนยามอมอย่างว่า ผมเคยสอมถามวิสัญญ๊แพทย์( หมอที่ทำหน้าที่ดมยาสลบขณะผ่าตัด )หลายท่านแล้ว ให้คำตอมตรงกันว่าไม่มี และในกรณีแบบนี้ เป็นไปไม่ได้ครับที่คนขับจะไม่สลบไปด้วยหากเป็นยาสลบจริง จากคุณ : legion - [ 2 เม.ย. 50 09:43:41 ]

ความคิดเห็นที่ 14 คิดชั่งใจอยู่ครับ  ? หากจริง จขกท. ก็โชคดีที่มีสติ แต่ว่า เมื่อปลายเดือนกุมภา มีแท๊กซี่ถูกฆ่า ปาดคอชิงทรัพย์ ไม่เห็ฯมีมครสักคนเอามาบอกกันในนี้ ??? คิดว่า แท็กซี่ 1คน ต้อง เจอ ผู้โดยสารกี่คนต่อวันครับ เทียบกับ อัตรา ที่ ผู้โดยสาร 1คน จะใช้บริการแท็กซี่ในแต่ละวัน ผมเอง สรุป ว่าโอกาสที่ แท็กซี่จะเจอผู้โดยสารทำร้ายจะมากกว่าครับ ในสัดส่วน ที่คน10 คนมีคนร้าย 1คน มีใครเข้าใจผมไหมเนี่ย ? แบบว่า แท็กวี่เค้ายังต้องขับ ไปเรื่อยๆ ขณะที่ผู้โดยสาร เปลี่ยนคันไปเรื่อยๆ จากคุณ : เราคิดมากไปไหม ? (Mr. why?) - [ 2 เม.ย. 50 09:58:48 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ^ ^ ผมเห็นพวกหมอ มาพูดแบบนี้หลายคนแล้ว ตกลงคนพวกนี้ประสาทกันไปเองทุกคนเลยหรืออย่างไร ทำไมต้องพุ่งเป้าไปที่ยาสลบแต่อย่างเดียว มันไม่มีทางเป็นสารอย่างอื่นเลยหรืออย่างไร จากคุณ : ton99 - [ 2 เม.ย. 50 10:00:43 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เบื่อๆ ที่จะ อธิบาย ครับ สังคมไทย สมัยนี้ คนบางส่วน เชื่อง่าย และ ใครท้วงติง อะไรไม่ได้เลย ไม่ต่างจาก เขมร ตื่นข่าวลือ แล้วบุกเผาสถานทูตไทย กลาย เป็นว่า คน ไม่เชื่อ, คนท้วงให้มีสติ  คนต้านกระแส เป็นคนเลวทรามไปหมด ... คนเรา จะเชื่อในสิ่งที่ตัวเอง อยากเชื่อ สายตามองไป เห็นโลกแบน ชัดๆ ใครมาบอก โลกกลม พวกมัน คงโง่ บ้า และ ลบหลู่ แน่ๆ สมควรต้องเอาพวกมันไปฆ่าทิ้ง เอาไปเผาทั้งเป็น ... ก็ ขอให้ โชคดี ครับ และ ขอให้ ทุกคนปลอดภัย  ทั้ง ผู้โดยสาร และ รวมไปถึง แท็กซี่ ที่โชคร้าย ถูกเข้าใจผิด คนนั้น และคนต่อๆไปด้วย ;-) จากคุณ : บางคนที่เศร้าใจ (lexusman) - [ 2 เม.ย. 50 10:03:23 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เรา เข้าใจว่าต้องมีทั้งคนเชื่อและไม่เชื่อค่ะ ยินดีรับฟัง แต่เราไม่ได้รู้สึกสนุกที่เอาเรื่องแบบนี้มาแต่งให้ชาวบ้านเห็นใจอ่ะค่ะ ไม่ได้คะแนน คนขับแท็กซี่ดีๆ เบลก็เหนเยอะ แต่ก็  ร้อยพ่อพันแม่  มันต้องมีทั้งดีและไม่ดี ตอนนั้นเราอยากนอน เพราะเรา ชา มึน บวกกับเราไม่สามารถจำอะไรได้มากนัก ทั้งทะเบียนและชื่อคนขับ บวกกับถ้าไปแจ้งตำรวจก็คงไม่ได้อะไร อยากกลับไปนอน ตกใจ กลัว ใครไม่โดนกับตัวไม่มีทางรู้ ยาอะไรไม่รู้ รู้แต่ว่า มันมาพร้อมกับตอนที่เค้าเอามือ อังแอร์ ครั้งนี้ที่เบลรอดมาได้เพราะเบลเชื่อ คนมีประสบการณ์ท่านก่อนๆ เบลจึงมีสติรับมือกะมันได้ ส่วนใครที่ไม่เชื่อ ก็อย่าประมาท เบลจึงคิดว่าการมาเตือน อาจทำให้คน ส่วนน้อย ที่เชื่อ ได้เอาเปนอุธาหรณ์ แล้วรอดมาได้เหมือนกับเรา แต่ขอความกรุณาอย่ากระแนะ กระแหนกันเลย มันไม่มีเหตุผลที่ต้องโกหก มันไม่สนุก ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ บางคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมไม่ทำแบบนั้น ทำไมไม่ทำแบบนี้  ขอให้ลองได้มาเจอกับตัว ทุกๆอย่างจะเข้าใจได้ด้วยตัวคุณเอง เบลถือว่าที่รอดมาได้เพราะ เชื่อและคิดอย่างมีสติ ใครที่เชื่อแล้วมีสติ จะรอด ขอบคุณค่ะ จากคุณ : shebell2004 (shebell2004) - [ 2 เม.ย. 50 10:11:35 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ยากลุ่มที่ใช้แล้วคนไข้มีอาการใจสั่นหลักๆก็ กลุ่ม sympathomimatic drug เช่นยาแก้หอบ หรือพวกยาคัดจมูก เป็นต้น แต่ยากลุ่มนี้จะทำให้ผู้ป่วย alert ดังนั้น จขกท.จึงกลับมานอนไม่หลับ สงสัยจะเป็นนักมอมมือใหม่ หยิบยาผิดมาใช้ จากคุณ : CELEBREX - [ 2 เม.ย. 50 10:23:55 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่เป็นไรก็ดีแล้วครับ หายเร็วๆก็แล้วกัน ส่วนเรื่องวางยาหรือไม่นั้น ไม่ออกความเห็นดีกว่า จากคุณ : sLiimFit - [ 2 เม.ย. 50 10:31:37 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เข้ามาลงชื่อรับรู้.....เฉย ๆ จากคุณ : JadEiTe & WhiTe sHarK - [ 2 เม.ย. 50 10:33:35 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เข้ามาตอบ คุณ จขกท. โดยเฉพาะ ไม่ได้ว่า คุณโกหก อย่าได้เข้าใจผิด เชื่อได้ว่า คุณรูกสึกเช่นนั้นจริงๆ ประสบเช่นนั้นมาจริงๆ ....... แต่ จะบอกว่าสิ่งที่คุณ เห็น และรู้สึก ไปนั้น มันอาจจะไม่ใช่ ความจริง อย่างที่คุณคิด การเกิด ความรู้สึก อย่างที่บอก อาจจะ ไม่ใช่ จากการวางยา มอมยา แต่ เป็น ความหวาดระแวง ที่ เกิด ขึ้น สอดรับกับ เรื่อง ที่ ระบาด บอกมา เมื่อ subject มีความเชื่อ เช่นนั้น อยู่ เป็นทุนเดิม อยู่แล้ว มีอาการอะไรนิดๆ หน่อย ๆ ก็ เข้าทางความเชื่อ ของ ผู้นั้น ต่อไป หลังจากนั้น  จิต ก็ ดำเนินการไปตามที่ ได้รับรู้มา เช่น ได้รับการบอกเล่ามาอย่างไร ก็เป็นไปตามนั้น คือคุณเห็นจริงๆ แตสิ่งที่เห็น อาจจะไม่ใช่ของจริง บางคนในกลุ่มนี้  ถ้าไปทำสมาธิ หรืออื่นๆ จะ เกิดผลข้างเคียง แทรกซ้อนได้ง่าย กว่า แค่นี้ก่อนนะครับ ย้ำว่า ขอให้โชคดี ทุกๆฝ่าย ในสังคมไทย ปัจจุบัน ที่มีทั้ง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ต่างๆ ให้ซื้อขายกันได้ ตามกระแส มีรูปโป๊ เพื่อการกุศลให้ดู ฯลฯ ;-) จากคุณ : บางคนที่ก็ไม่รู้อะไรนัก (lexusman) - [ 2 เม.ย. 50 10:44:58 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คุณ จขกท เค้าก็เคยเป็นคนหนึ่งแหละ ที่ "นั่งรถแท๊กซี่ บ่อย แต่ไม่เห็นจะเคยเจอเลย" พวกที่บอกว่าไม่เคยเจอกับตัวน่ะ อย่าเจอบ้างก็แล้วไป หรือ เจอแล้วคงไม่เอามาเล่าให้คนอื่นเค้าฟังหรอกนะ เราก็เชื่อนะ สังคมมันดีทั้งดีทั้งเลวนั่นแหละ แต่เราระวังตัว .. ไม่อยากพุงเป็นรู แล้วค่อยมานึกเสียใจ ขอบคุณ จขกท ที่มีน้ำใจมาแชร์ประสบการณ์กันค่ะ จะคอยเตือนใจให้ระวังตัวไว้เสมอ จากคุณ : dee_dee - [ 2 เม.ย. 50 10:49:38 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เข้าใจทั้งเจ้าของกระทู้ และคุณหมอlexusmanค่ะ สุดท้ายก็...เข้าใจตัวเองด้วยเหมือนกัน จากคุณ : สงสารน้องออส (ส่งเสียน้องออส) - [ 2 เม.ย. 50 10:54:26 ]

ความคิดเห็นที่ 24 แจ้งความครับ จำทะเบียนรถทุกครั้ง ตอนขึ้นรถแท็กซี่ อย่าว่าแต่ ผู้โดยสาร กลัวแท็กซี่เลย คนขับแท็กซี่เอง ก็กลัวผู้โดยสารเหมือนกันครับ แถวบ้านผม แท็กซี่โดนผู้โดยสารหลอกไปเชือดที่เป็นข่าวดังมากเมื่อเดือน กพ.ที่ผ่านมา เห็นศพแล้ว กินข้าวไม่ลงเป็นอาทิตย์ ก็เห็นใจทั้งผู้โดยสาร ทั้งคนขับรถ แต่ก็ฟังหูไว้หูครับ ถ้ามันเป็นเรื่องจริง ก็ควรแจ้งความจับให้ได้ จะได้ไม่เป็นภัยกับคนอื่น จากคุณ : พ่อน้องบุ๊ค - [ 2 เม.ย. 50 11:03:05 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ผู้ชายอาจจะไม่สะเทือนเท่าไหร่ แต่เรามาเตือนสาวโดยเฉพาะจ้า เพราะหนุ่มๆน่ะ เปอร์เซนต์ความเสี่ยงมันน้อยกว่าพวกเรา ปกติเราแข็งแรงน๊า ไม่ค่อยวูบน่ะค่ะ แล้วทุกครั้งที่นั่งแทกซี่ดึกๆ ก้ระแวงทุกครั้ง แต่ก้ไม่มีอาการคิดไปเองแต่อย่างใด มีเมื่อคืนนี่แหละ ที่เห็น และรุ้สึกพร้อมกัน ไม่ใช่ว่าคิดในทางแย่อย่างเดียวนะคะ เราคิดเล่นๆว่า หรือเรา หน้ามืดไปเอง แต่บรรยากาศตอนนั้นมันกลางคืน ไม่มีแดด อ่ะ แต่คนเราก็หน้ามืดกลางคืนได้ แต่ เราไม่ได้อยู่ในภาวะร่างกายแบบนั้น เอ้า สาวๆ ไม่เชื่อ แต่ก็ขอให้ระวังกันน๊า เผื่อวันนึงโดนเราจะได้ป้องกันและหลีกหนีได้ อยากจะบอกว่าเมื่อก่อนเราก็เคยขำคนอื่น แย้งเล่นๆว่า แล้วไม คนขับไม่สลบไปด้วยล่ะ แต่ตอนนี้ พูดไม่ออก ตอบไม่ได้  ยาอะไรไม่รู้ ร้ายกาจ จากคุณ : จขกท (shebell2004) - [ 2 เม.ย. 50 11:04:32 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขึ้นรถแล้วควรโทรหาเพื่อนหรือแฟนหรือพ่อแม่ บอกเบอร์ ทะเบียนรถเอาไว้ปลอดภัยไว้ก่อน แล้วถ้าโทรศัพท์มือถือมีกล้องถ่ายรูปก้ถ่ายใบคนขับหน้ารถเอาไว้ก็ได้กลับบ้านแล้วค่อยลบทิ้งก็ไม่น่าจะเสียหายอะไรนะ จากคุณ : tatum_p - [ 2 เม.ย. 50 11:09:51 ]

ความคิดเห็นที่ 27 มานั่งอ่านแล้วก็สงสารคนขับแท็กซี่ดีๆที่ยังมีอีกเยอะเหมือนกัน เราก็เข้าใจอ่ะค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้คนขับแท็กซี่ที่ดีๆตั้งใจทำงานเพื่อครอบครัวหลายๆท่านนะคะ แต่อยากฝากบอกน้าแท็กซี่ที่คอยจ้องจะทำไม่ดีกะเรา อย่าทำหนูเลยน๊า ทำงานมาทั้งเดือนก็เหนื่อยจะแย่แล้ว พวกน้าๆ มาฉกฝึ่บ พวกหนูก็แย่นะคะ เราเข้าใจคนดีๆอีกหลายๆคนที่โดนพาดพิง สงสารเค้าเหมือนกัน เราเองก็จะต้องใช้บริการพวกเค้าเหล่านั้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ ก็ต้องทำใจอ่ะค่ะ แต่อยากบอกว่า     อย่า ทำ กัน เลย จากคุณ : จขกท (shebell2004) - [ 2 เม.ย. 50 11:15:53 ]

ความคิดเห็นที่ 28 วิตกจริต จากคุณ : Furo - [ 2 เม.ย. 50 12:31:34 ]

ความคิดเห็นที่ 29 มีกระทู้เก่าอีกอันที่ยาวเหยียดหลายร้อยความเห็น ลองไปหาอ่านกันดูก่อนก็ได้ อ่านแล้วก็อ่ะนะ จากคุณ : Vancin - [ 2 เม.ย. 50 12:37:59 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ีึคนรัชดา paranoid ตื่นตระหนกมากไปหน่อยหรือเปล่าครับ ระวังไว้น่ะดีแต่ไม่ใช่ระแวง ยิ่งกับเคส conspiracy theory แบบนี้ ถามหมอดมยามาหลายคน กลับไม่มีใครคิดออกว่าใช้ตัวยาไหนได้บ้าง แปลกดี ที่ Taxi เก่งกว่าหมอและนักเคมีทั่วโลก?!?!?!?!? #15 แล้วสารอะไรล่ะครับ ที่มีผลต่อผู้โดยสารเท่านั้น แต่คนขับtaxi ป้องกันได้ทั้งๆที่อยู่ในห้องอับด้วยกัน มันไม่มีสารแบบนั้นในโลกหรอกนะครับ นอกจากคนขับใส่้ gas mask ส่วนไอ้ยากินป้่องกันสลบน่ะ คิดกันไปเองทั้งนั้น ถ้าคิดว่าสารไหนเข้าข่ายก็ช่วยยกมา ไม่ใช่คิดแต่ว่าเป็นยาผีบอกหรือยาสั่ง รู้กันแต่โจรใช้ไสยศาสตร์มนต์ดำ ก็พูดต่อยากล่ะ ผมเชื่อว่าคุณจขกท. มึนจริง เหมือนจะหน้ามืดจริง ไม่ได้โกหกตรงไหน แต่ผมไม่คิดว่ามันจะเกิดจาก taxi วางยาครับ ผมกลับคิดว่าการอ่านกระทู้แนวนี้มากๆ พอมึนๆกลิ่นอับหน่อยหรือมีอาการ hypoglycemiaหน่อยก็ตระหนกพาลเหมาว่าโดนวางยาไปซะง่ายๆได้เหมือนกัน ใช้ตรรกะและเหตุผลกันหน่อยนะครับ ป.ล. hypoglycemia หรืออาการขาดน้ำตาลในเลือด เกิดขึ้นได้ง่ายมาก จากหลายๆสาเหตุ ทั้งหิวข้าว กินข้าวผิดเวลา ใช้แรงหนัก พักผ่อนน้อยไป หรือแม้แต่กินเบียร์มากไป อาการคือ มือสั่น หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม แรงไม่มี แต่ท้องไม่้ร้องหิวข้าวด้วยนะเออ(คนเลยไม่รู้ว่าเกิดจากขาดน้ำตาล) ผมคิดว่ามีโอกาสเกิดจากอาการนี้สูงมากกว่า อาการที่เกิดจากการตื่นตระหนกทั้ง hyperventilation syndrome และpanic disorder เพราะเป็นอาการที่เกิดขึ้นง่ายกับคนทั่วไปมากกว่าและมักมองข้าม(เพราะถ้าสองอาการหลังต้องมีอาการตื่นตระหนกก่อน แต่ hypoglycemia นั่งอยู่เฉยๆ ก็เกิดอาการสั่นผับๆได้เลย) จากคุณ : ระวังแต่ไม่ใช่ระแวง (....4จุด) - [ 2 เม.ย. 50 12:44:28 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ถามแบบสงสัยว่า ... 1. ถ้าคนร้ายสามารถกลั้นหายใจได้นานเกิน 1 นาที ระหว่างปฏิบัติการ สามารถทำได้หรือไม่ในความเป็นจริง ? 2. เมื่อเหยื่อมีอาการ หลับ หรือ สลบ แล้วค่อยจอดรถ เปิดหน้าต่าง ออกมารอซักครู่ ทำได้หรือไม่ ? 3. ผมสงสัยว่า ทำไมเกิดเหตุลักษณะเดียวกันหลายราย ซึ่งผู้บอกเล่า ส่วนใหญ่มีตัวตนที่รับฟังได้ จากคุณ : Mr. Polar Bear - [ 2 เม.ย. 50 12:52:33 ]

ความคิดเห็นที่ 32 แท็กซี่ วายทูเค ไม่ค่อยเชื่อว่า เขาจะวางยาเจ้าของกระทู้ เขาเอาหลังมือ อังช่องแอร์ ก็เข้าใจว่าเขาวางยาเลยเหรอ เพราะอาการแบบนี้ ผมยิ่งทำบ่อยที่สุด เพราะขับรถนานๆ มือมันร้อนจนเหงื่อออก เลยให้แอร์เป่าสักหน่อย อีกหน่อยเถอะคนขี้ระแวง ระแวงไปหมด อีกหน่อยแท็กซี่จะมองกระจก ซ้าย-ขวา-หน้า-หลัง ก็คงไม่ได้ คงคิดว่าแท็กซี่คิดไม่ซื่อไปหมด สงสันรายนี้(เจ้าของกระทู้) ใส่ทองมาเต็มตัวแน่ๆถึงระแวงขนาดนี้  ว่าไปแล้ว ถ้าแท็กซี่จะวางยาคุณ คุณเป็นผู้หญิง แค่คนเดียวจับบีบคอ ปลดทรัพย์เลยไม่ง่ายกว่าเหรอ วางยาปลดทรัพย์ กับ บีบคอปลดทรัพย์ แล้วถีบลงรถ เขาก็จำทะเบียนรถได้อยู่ดีแหละ ผิดเหมือนกัน จากคุณ : taxi y2k - [ 2 เม.ย. 50 13:11:30 ]

ความคิดเห็นที่ 33 มันมีโอกาสเป็นพวกกลิ่นน้ำหอมปรับอากาศในรถหรือเปล่าคะ เพราะเวลาที่ลมแอร์ไปกระทบกับพวกนี้โดยตรงกลิ่นก็จะยิ่งแรงขึ้น บางกลิ่นเราเคยดมเหม็นจนเวียนหัว แต่บางคนอาจว่าหอม..แต่ทุกอย่างเป็นไปได้ เพราะฉะนั้นก็ต้องมีสติทุกครั้งไม่ว่าจะทำอะไร ^^ จากคุณ : ฮิเมโกะ - [ 2 เม.ย. 50 13:11:50 ]

ความคิดเห็นที่ 34 1 ตอบ ทำได้ ครับ ไม่ยาก ,  การ กลั้นใจเกิน หนึ่งนาที 2 น่าจะทำได้ 3 ผมไม่สงสัย และไม่แปลกใจ ครับ ความรู้สึก ความคิดความเชื่อ ของคนเรา เมื่อเจอสิ่งใด ก็ พูดไปตามความเชื่อของตัวได้ ... ผมไม่แปลกใจ ในประเทศไทยของผมนี้  และ ประเทศอื่นๆ เช่น กระเหรี่ยงบางเผ่า เป็นต้น ยังมี คนที่มีตัวตน ทั้งหลาย   มายืนยัน ได้ว่า มีเรื่อง อภินิหาร มหัศจรรย์ ต่างๆ ที่เป็น จริง เช่น จตุคาม ฟีเว่อร์   มีคนถ่ายภาพ วิญญาณ ได้ และนำมาจัดแสดง ด้วย มีคนซื้อภาพนั้นๆ ไปกราบไหว้ มากมาย ... มีเหล็กไหล ที่ ยิงฟันแทง ไม่เข้า , แต่ ห้ามทดลอง เพราะ ทดลอง แล้วจะไม่ ขลัง , โดยมากตาย ตอนทดลอง เพราะ ไปลบหลู่ แต่ ให้ซื้อ ไว้  โดยไม่ต้องทดลอง ขอให้เชื่อ  , จะได้ผล เมื่อ โดน เหตุจริงๆ   และ คนก็ เชื่อ ซื้อกัน ชุดละ เป็น ล้าน ... ประเทศเรา มี แม่ ชี บินไป ปัดระเบิด ปรมาณู ให้ไปตก ที่ฮิโรชิมา ซึ่ง มีคนรู้ เรื่องนี้ หลายคน  เข้านิมิต เห็นได้ ฯลฯ และ ยืนยันได้ ... เรามีคนที่ติดต่อ กับ มนุษย์ต่างดาว ได้ .. เรามี ยา รักษาโรคเอดส์ ได้ ผล อย่างมาก แต่ขอสงวนไว้ ไม่บอก สูตร เพราะกลัวฝรั่งลอกเลียนแบบ ขอให้จ่ายเงิน ซื้อยามารักษา อย่างเดียว ซึ่ง ปัจจุบัน ยานั้นๆ คนที่ใช้ ก็ หมดตัว และตายไปกันมากแล้ว แต่ คนอื่นๆ ก็ยังเชื่อกันอยู่ และ ยายังขายได้เรื่อยๆ คร่าวๆ นะครับ อันนี้ ก็แล้ว แต่จะพิจารณา ;-) จากคุณ : บางคนที่ก็งงงง (lexusman) - [ 2 เม.ย. 50 13:17:24 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เพื่อนผมบางคนมันนั่งรถผมยังวิงเวียนคลื่นไส้ บางคนไม่ออกอาการอะไร ลองดูนะครับสภาพของแท๊กซี่ที่เจอเป็นอย่างไร เก่า ใหม่ หรือเปล่า บางทีเราอาจคุ้นกับรถใหม่ๆ และน้ำหอมปรับอากาศบางกลิ่นก้อแรงจนเราเวียนหัว ประกอบกับถ้าเหนื่อยๆมา ก้อจะผสมความเวียนหัวเข้าไป ผมว่าระวังตัวไว้เป็นเรื่องดีครับ แต่ไม่อยากให้แตกตื่นจนทำให้ไม่กล้าขึ้นรถ เอาเป็นว่าถ้าคิดว่าจะไม่มีสติให้ลงจากรถเลยครับ ตอนลงก้อให้ลงตรงคนเยอะๆนะครับ แล้วจดทะเบียนเอาไว้ก่อนเพื่อเป็นข้อมูล ถ้ายังมีสติพอลองบอกคนขับแล้วกันว่ารถคุณทำให้เวียนหัวเผื่อเขาไม่ใช่คนร้ายเขาจะได้ปรับปรุง ลองดูว่าเป็นรถเช่าหรือรถส่วนบุคคล ถ้าเป็นพวกมิจฉาชีพส่วนใหญ่จะเป็นรถเช่านะ ให้โทรไปร้องเรียนกับทางศูนย์เขาได้ว่ารถที่ท่านนั่งทำให้เวียนหัว เกรงจะมีอะไรไม่ชอบมาพากล แล้วตอนนี้ได้แจ้งลงบันทึกประจำวันแล้ว เขาจะได้เริ่งดำเนินการไม่ให้เสียชื่ออู่เขาแล้วเขาจะได้ระวังตัวด้วย แต่อย่างว่านะครับเอาเข้าจริงเราก้อได้แต่มาโพสต์ในนี้แล้วเรื่องก้อเงียบไป ไม่ได้แก้ที่ต้นตอเลย จากคุณ : peggo - [ 2 เม.ย. 50 13:33:19 ]

ความคิดเห็นที่ 36 อย่างู้นงี้เลยนะ จริงหรือไม่จริง ไม่มีใครพิสูจน์ได้ จขกท เค้าเตือนมาด้วยความหวังดี ส่วนตัวผมเอง ไม่ค่อยได้นั่ง taxi แต่ก็ทำให้เราระมัดระวังมากขึ้นเวลาจำเป็นต้องใช้บริการ ผมไม่เห็นความจำเป็นที่หลายๆคนในที่นี้ มาประชดประชัน กันเลย จากคุณ : LAPD21 - [ 2 เม.ย. 50 13:41:48 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ถาม จขกท ทำไมไม่พูดเรื่องแจ้งความครับ ถ้าคุณมั่นใจ รออะไรครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 2 เม.ย. 50 14:02:59 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เห็นด้วยกับคุณlapd21ครับ ทุกวันนี้ คนร้ายมีวิธีการใหม่ๆมาตลอด ใครเคยโดนก็โชคร้าย ใครไม่เคยโดนก็ระวังไว้ก่อนก็ดี  และท่านต่างๆที่ไม่เคยโดนเหตุการณ์แบบนี้ ก็อย่าสรุปว่าเรื่องนี้ไม่มีจริงนะครับ จากคุณ : cherkerry - [ 2 เม.ย. 50 16:22:31 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เราเข้ามาแสดงความเห็นใจคุณเบลเจ้าของกระทู้นะคะ ดีแล้วค่ะที่คุณไม่เป็นอะไร โดยส่วนตัวแล้วเราไม่ค่อยได้มีโอกาสได้นั่งแท็กซี่ แต่เราอ่านเรื่องพวกนี้บ่อยนะ เผื่อว่าวันไหนรถเราเสียหรือไม่อยู่ เรามีความจำเป็นต้องนั่งแท็กซี่ เราจะได้ระวังตัว ดีกว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลย จากคุณ : nutmars - [ 2 เม.ย. 50 16:23:23 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เห็นด้วยกับ คห.30 อาการที่กล่าวมานั้นคล้ายอาการhypoglycemia ประกอบกับมีความตกใจ วิตก เกรงว่าจะประสบอันตราย ก็อาจจะทำให้มีอุปทานมาประกอบ ถ้าอยากทราบจริงๆลองไปตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาล หรือไปแจ้งความเพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้นำตัวส่งตรวจก็ได้ จะได้ทราบว่าปัจจุบันนี้มิฉาชีพใช้วิธีการใดบ้าง  เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น จากประสบการณ์ของผม  บ้างครั้งผู้ให้ข้อมูลหรือถ้อยคำอาจจะไม่ใช่ความจริงเสียที่เดียว  แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเค้าโกหก เพราะอาจเกิดจากอุปทานหรือความเข้าใจผิดของเค้าเองก็ได้ ดังนั้นการตรวจพิสูจน์จึงเป็นหลักฐานที่มีน้ำหนักมั่นคงน่าเชื่อถือที่สุด...และเป็นที่ยอมรับในกระบวนการยุติธรรม หากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในรถไฟฟ้า...อาจจะไม่คิดว่าเป็นอย่างนี้ก็ได้...เพราะจิตอาจจะปรุงแต่งตามความวิตกในสภาวะเช่นนั้น ทำให้ร่างกายตอบสนองไปตามความวิตก ที่กล่าวมาทั้งหมดไมได้หมายความว่า จขกท. เค้าโกหกนะครับเพียงแต่ให้แง่คิด...ยังไงการตั้งมั่นอยู่ในความไม่ประมาทนั้นดีที่สุดแล้ว...เพราะไม่ว่าแท็กซี่หรือผู้โดยสารก็ระวังซึ่งกันอยู่แล้ว... หากคิดว่าไม่ปลอดภัยให้พกมือถือไว้และโทรหาครอบครัวหรือคนสนิทว่าเรากำลังอยู่ในแท็กซี่ เลขที่......กำลังเดินทางจาก.....ไป.....ตอนนี้อยู่ที่......อีกกี่นาที่จะถึง......พอคนขับได้ยินเช่นนั้นหากเป็นมิฉาชีพก็จะได้ไม่กล้าลงมือ...ไม่มีคนรับสาย แบตหมด หรือไม่มีสัญญาณก็พูดไปเถอะครับเพราะคนขับเค้าไม่ได้มารู้กับเรา  ปลอดภัยไว้ก่อนครับ แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 50 16:31:26 จากคุณ : อินทร์นิล - [ 2 เม.ย. 50 16:25:23 ]

ความคิดเห็นที่ 41 หมอไม่ได้ฉลาดไปทุกเรื่อง แต่หมอหลายคนชอบคิดว่าตัวเองเก่งกว่าคนอื่นที่ไม่ได้เป็นหมอ ผมว่าสมัยนี้หมอหลายคนกับช่างในศูนย์ที่คนเจอ เริ่มจะวิเคราะห์ปัญหาได้ไม่ค่อยต่างกันแล้ว ก่อนหน้านี้ผมเห็นพวกหมอเห็นดีเห็นงามไปกับพวกแป๊ะ ตอนนี้ทำไมพวกหมอถึงเริ่มมากลับลำกันแล้วละครับ กลุ่มคนที่เรียนสูงรู้สูง  ดูเหมือนว่าจะชวนเชื่อได้ยาก แต่จริงๆแล้วการชวนเชื่อคนกลุ่มนี้  ก็ทำได้ไม่ยากกว่าคนกลุ่มอื่นเลยสักเท่าไหร่ เพราะก็ว่ากันในเรื่องข้อมูลอยู่ดี เรื่องโลกกลมโลกแบน ฝ่ายที่เชื่อว่าโลกกลมในสมัยนั้น มันพวกตำราจ๋าคร่ำครึเลยนะครับ พวกที่คิดอะไรใหม่ๆในสมัยโน้นนี่เข้าข่ายพวกนอกรีต ถ้าจับมาเทียบในกระทู้นี้  ผมดูแล้วจะกลายเป็นว่า ฝ่ายหมอจะเชื่อว่าโลกแบนเสียมากกว่า ในกระทู้นี้ ผมก็แค่สงสัยอยู่ว่า Taxi วางยาจริง หรือ คนนั่งประสาทไปเอง ผมมันพวกเชื่ออะไรยาก  ฝ่ายหมอก็อ้างแบบตำราจ๋ามาเลย ส่วนฝ่ายคนที่โดน  ผมว่าก็เป็นไปได้ที่ประสาทไปเอง ถ้ามีคนโดนแล้วหนีไม่รอดจริงๆ  สุดท้ายโดนชิงทรัพย์หรือข่มขื่น คราวนี้มันจะเพิ่มความน่าเชื่อได้อีกมาก คุณ 4 จุด ผมเห็นคุณก็เถียงแบบนี้มาตลอดว่า  ไม่มีทางเป็นไปได้ คนที่เจอแบบนี้  ประสาทกันไปเอง โดยใช้การอ้างอย่างเดียว   บอกตามตรงว่าผมไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ สิ่งต่างๆที่พูดมาโน้มน้าวให้ผมเชื่อได้ 30-60% ของเก่าเรื่องยาป้าย ผมก็ยังไม่ได้ข้อสรุปว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้แบบชัดๆสักที ตัวอย่างแรกคือ  ผู้หญิงเดินไปซื้อของที่ตลาดตอนช่วงเย็น แต่มีคนไปพบว่า  ไปยืนไม่ได้สติอยู่อีกที่นึง ถามว่า ผู้หญิงคนนี้โดนอะไรมา ถ้าบอกว่าโดนยาทางอากาศ    ก็มีเรื่องน่าสงสัยว่า ระหว่างทางไปตลาดจนถึงตลาดเป็นที่เปิด  การที่จะส่งตัวยาทางอากาศได้ มันต้องเอายามาโป๊ะให้สูดใกล้ๆ  ถามว่าริมถนนคนเดินพลุกพล่าน โจรมันจะเอายามาโป๊ะได้อย่างไร หรือว่าโจรมันจะเอามาให้กินที่ริมถนนหรือที่ตลาด? ตัวอย่างที่สอง นางสาว B นัดคุยกับ นาย C และ D โดยมีนางสาว A มารอเป็นเพื่อน นางสาว B พอนาย C และ D มาได้สักพัก  นางสาว A จึงของแยกตัวกลับ หลังจากนั้นเพื่อนนางสาว A อีกคน   ได้มาเจอนางสาว A เดินอยู่กับ นาย D แบบผิดปกติ เลยเข้าไปทัก   นาย D เห็นท่าไม่ดีเลยหนีไป นางสาวA อยู่ในสภาพเดินได้แต่ไม่มีสติพูดจาไม่รู้เรื่องอย่างนั้นอีกพักใหญ่ๆ  ถึงจะเริ่มได้สติ ถามว่านางสาว A  ไปโดนอะไรมา แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 50 18:21:06 จากคุณ : ton99 - [ 2 เม.ย. 50 18:20:04 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ไม่รู้ว่าคนขับ มอมยาโดยตัวเองไม่เมายาด้วยได้งัย แต่เพื่อนเรา โดนกลางวันแสกๆ และไปกัน 3 คน มันคงไม่ Panic พร้อมกัน 3 คนตอนกลางวันแสกๆ หรอกนะ เพื่อนเราไปกินข้าวเที่ยงกับเพื่อนที่ออฟฟิศ  พอกินเสร็จ นั่งแท็กซี่กลับออฟฟิศใกล้ๆ อนุสาวรีย์ชัยฯ   มันบอกว่านั่งแป๊ปเดียว รู้สึกมึน  อยากหลับ  หายใจไม่ออก อาการคล้ายๆ จขกท.  ทั้ง 3 คน หันมามองหน้ากัน แล้วให้แท็กซี่จอด  รีบลงจากรถทันที อ้อ  ขอบอกว่าทั้ง 3 คนเคยเป็นพยาบาลวิชาชีพค่ะ บางอย่าง เราฟังหูไว้หูก็ดีนะ  เผื่อจะเอามาใช้ยามคับขันได้ จากคุณ : Makit - [ 2 เม.ย. 50 18:20:38 ]

ความคิดเห็นที่ 43 คนที่โดนมาจริงๆขอบอกว่าเห็นใจครับ ขอให้อย่าได้เจอะเจออีกเลย คนที่ออกมาบอกหัวชนฝาว่าไม่เชื่อ ก็ขอให้เจอกันตัวเองหรือคนที่คุณรักซักวันครับ เพราะบางคน คนอื่นเตือนด้วยความหวังดีกลับมองแง่ร้าย ต้องเจอแบบประสบการณ์ตรงถึงจะซึ้งสะใจ จากคุณ : จะจัดห้ายยยยย - [ 2 เม.ย. 50 19:43:24 A:58.9.152.214 X: TicketID:137813 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ไม่เจอกับตัวเอง ก็ไม่รู้หรอกครับ ผมบอกได้แค่นี้แหละ ~ จากคุณ : DelighTedPooH - [ 2 เม.ย. 50 19:45:48 ]

ความคิดเห็นที่ 45 จะบอกว่า วิธีที่ทุกท่านแนะนำให้โทรสัพท์คุยกะเพื่อน เราเอง ปฏิบัตมาโดยตลอด แต่คราวนี้เราไม่ได้ทำเพราะ อย่างที่บอก มันใกล้นิดเดียวก็จะถึงแล้ว เพราะเราลงจากรถแท็กซี่อีกคันนึงที่ไปส่งเพื่อนในซอย ตัวเราจึงกะว่าจะต่อแทกซี่ไปแค่ใกล้ๆนี่เอง แล้วพอขึ้นรถก็เหนอย่างที่กล่าวมาข้างต้น พร้อมกับอาการ ไม่มีเวลาแม้แต่จะหยิบมือถืออ่ะค่ะ ส่วนเรื่องแจ้งความที่หลายคนสงสัย ตอนนั้นคือเราไม่ไหวแล้ว อยากนอน ชา สั่น กลัวด้วย บวกกับเราไม่ได้สูญเสียอะไรและจำอะไรเกี่ยวกับมันไม่ได้เลย ระบบตำรวจไทยอ่ะนะ ก็ต้องเข้าใจ เราไม่มีข้อมูลอะไร เค้าก็คงทำไรไม่ได้ เวลานั้นเลยไม่คิดจะไปแจ้งความอ่ะค่ะ ปกติ เราเป็นคนมีสติ จำเลขสี่หลักได้แม่น แต่สถานการณ์จริงตอนนั้น มันเบลอออออออออออออออออออออออ ไม่มีสมองแม้แต่จะจำอะไรทั้งสิ้น ก็อยากให้ระวังกันนะคะสาวๆ ไม่เชื่อก็ฟังไว้หน่อยก้ดี เผื่อเจอเข้าจริงๆ จะได้แก้ไขได้นะค๊า จากคุณ : shebell2004 - [ 2 เม.ย. 50 19:55:54 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ^ ^ พูดแบบนี้ ประเภทเดียวกับ "ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่" นั่นแหละ ผมสงสัยนิดเดียว 1) ถ้าแน่ใจ  ทำไมไม่แจ้งความ ?? 2) ถ้าไม่แน่ใจ ทำไมเอามาโพสเตือนคนอื่น มาอ้างว่าเตือนคนอื่นทำไม ในเมื่อตัวคุณเองยังไม่รู้จักปกป้อง ไม่รู้จักใช้สิทธิที่ควรจะใช้ ..... แจ้งความ ซิครับ !! จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 2 เม.ย. 50 19:58:43 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ระบบตำรวจไทยอ่ะนะ ก็ต้องเข้าใจ เราไม่มีข้อมูลอะไร เค้าก็คงทำไรไม่ได้ เวลานั้นเลยไม่คิดจะไปแจ้งความอ่ะค่ะ >>>>>>>>> ถามจริงๆ เถอะครับ กลัวโดนข้อหา "แจ้งความเท็จ" ใช่ไหม ? จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 2 เม.ย. 50 20:02:41 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ผมสงสารแท็กซี่อีกหลายคน ที่จะเสียหายจากข้อกล่าวหา เลื่อนลอย ไร้เหตุผล อย่างนี้ ! จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 2 เม.ย. 50 20:07:26 ]

ความคิดเห็นที่ 49 อย่าทะเลาะกันเลย คราวหน้าไว้รอเราถูกข่มขืนจริงๆ จะเอามาอ่านเพื่อยืนยันละกัน มันเจ็บลึกๆในใจ  เรามั่นใจ 100 เปอร์เซนต์ว่าใช่  เลยเอามาบอกให้ทุกคนทราบ เรื่องแจ้งความ เราพูดไปหลายรอบแล้ว  คุณ ช่างกล-หนุ่มคะ พรุ่งนี้ช่วยพาไปแจ้งความหน่อยสิ คนอื่นไม่เชื่อเราไม่โกรธเลย แต่คุณทำไม ต้องมาจ้องจะว่าเรื่องนี้ งั้นพรุ่งนี้ไป โรงพักกัน จากคุณ : shebell2004 - [ 2 เม.ย. 50 20:09:01 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ผมขอมาเป็นกำลังใจให้คุณshebellครับผมว่าคุณมีเจตนาดีในการโพสกระทู้นี้ครับ แต่ว่าไปๆมาๆดันกลายเป็นกระทู้ให้มาทะเลาะกันซะอย่างนั้น ผมว่าเลิกแสดงความเห็นผ่านกระทู้นี้อีกเถิดครับ จะเป็นการสร้างความแตกแยกในสังคมเสียเปล่าๆ อย่างที่ว่ามาครับทุกท่านล้วนมีสิทธในการที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อ ในสิ่งที่เราได้รับผ่านสื่อมาผมต้องขอโทษที่ก่อให้เกิดความแตกแยกไม่ลงรอยทางความคิดของคนในเวปนี้ และต้องขอโทษคุณshebellที่เปลี่ยนเจตนาของคุณในการที่จะเตือนผู้อื่น ให้กลายเป็นการสร้างความแตกแยกในกลุ่มบุคคลที่รับรู้ข่าวสารผ่านเวปนี้ ของโทษทุกๆท่านครับ ขอให้ผมโพสตอบกระทู้นี้เป็นคนสุดท้ายนะครับ ขอความกรุณาครับเพื่อหยุดความแตกแยกของคนไทย แม้จะเป็นกลุ่มบุคคล กลุ่มหนึ่งครับ จากคุณ : pearlda - [ 2 เม.ย. 50 21:19:01 ]

ความคิดเห็นที่ 51 #43 พอเถียงไม่ได้ก็แช่งเลยเหรอครับ ง่ายดีเนอะ บัตรผ่าน #คุณton99 การที่โต้แย้งกันมันก็ต้องอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริงด้วยครับ ผมก็ยกเหตุผลมาแล้ว ว่าไม่มีหมอคนไหนรู้่จักสารที่มีคุณสมบัติแบบที่คุณว่าเลย(แบบที่คนใช้ไม่โดนด้วยและได้ผลเร็วสุดๆ แค่ป้าย เร็วกว่าฉีดเข้าเส้นเลือดอีก?) หากคุณคิดว่ามันมีจริง ก็ลองยกสิ่งที่คิดว่าใกล้เคียงมาหน่อย ไม่งั้นมันก็ไม่ต่างจากเรื่องไสยศาสตร์ที่พิสูจน์ไม่ได้ พอคนไม่เชื่อก็หาว่าโต้แบบเดิมๆ ผมก็แย้งกลับว่าที่เล่ามามันก็ซ้ำๆกันกับใน fw mail ไม่ได้มีหลักฐานอะไรชัดเจนเลยเช่นกัน คุณก็เล่ามาแค่แม่บ้านโดนและเล่าต่อมา คนอื่นไม่เชื่อเพราะไม่มีสิ่งใดมีมูลให้เชื่อเลยก็กระแนะกระแหนกลับ แล้วจะให้เชื่อได้อย่างไรล่ะครับ การที่คุณบอกว่าหมอไม่ได้เก่งไปทุกเรื่องน่ะใช่(แต่เรื่องสารระเหย ยาสลบไปเกี่ยวอะไรกับเรื่องรถเรื่องช่างที่คุณยกมาล่ะครับ?) แต่เรื่องที่หมอเรียนมาโดยตรงเราก็ต้องรับฟัง ผมเองก็ไปค้นหาอ่านเพิ่มเติมมา ก็ยังหาไม่เจอเลยสำหรับ ยา หรือสารระเหยที่เข้าข่าย ออกฤทธิ์เร็วสุดๆ แต่ป้องกันง่าย(เพราะคนขับไม่โดน) ราคาไม่แพง(เพราะชิงทรัพย์ไม่กี่พัน)ใช้ง่าย(แบบแค่ใส่อุปกรณ์ง่ายๆก็ใช้ได้ ไม่ต้องเตรียมสารเอง) หรือใช้ผ่านผิวหนังได้(กรณียาป้าย) ไม่เจอเลยครับ ถ้าคุณเจอก็ช่วยบอกหน่อย ขนาดยานอนหลับ/ยาสลบที่แรงที่สุดที่หมอใช้ ก็ต้องใช้การกินแล้วจะออกฤทธิ์ภายใน5นาที ส่วนแก็สหรือสารระเหยกล่อมประสาทที่ออกฤทธิ์รุนแรงมากๆ มันก็อันตรายจนเกินกว่าที่คนขับจะกล้าลองใช้โดยไม่มีเครื่องป้องกันแน่นอน(gas mask) เพราะแค่การกลั้นหายใจน่ะ ไม่สามารถป้องกันสารระเหยรุนแรงพวกนี้ได้เลยครับ ถ้าใครเคยเจอสารระเหยจังๆจะเข้าใจดีว่าขนาดสารระเหยทั่วไปที่ไม่ร้่ายแรง ก็ยังต้องหาอะไรมาปิดจมูกและตา ไม่งั้นน้ำหูน้ำตาไหล แสบจมูกจนทำอะไรไม่ไ่ด้เลยครับ ส่วนการป้ายผ่านผิวหนังก็ออกฤทธิ์ช้ามากๆ และก็น่าสงสัยว่าทำไมคนป้ายไม่โดนเองนอกจากใส่ถุงมือยางตอนป้าย(เด่นมาก) และที่สำคัญ ไม่มีสารเคมีตัวไหน ต่อต้านการออกฤทธิ์ของยาสลบ/สารระเหยโดยตรงได้ เพราะไม่มีทางที่จะแย่งการจับ receptorได้หมด 100% แบบใช้ป้องกันก่อนเลยไม่โดนเอง แบบนี้ยังไม่มีใครค้นพบครับ #50 ผมเข้่าใจเจตนาของเจ้าของกระทู้ แต่ไม่ต้องการให้เกิดความตื่นตระหนกหวาดระแวงโดยใช่เหตุ เพราะตอนนี้ในสังคมเรากำลังอ่อนไหว แตกตื่นหลายๆเรื่องได้ง่าย เชื่อหลายๆเรื่องได้ง่าย การที่ผู้คนจะหวาดระแวงกันมากขึ้น ก็จะเป็นการทำร้ายสังคมให้มันไม่สงบสุขทางอ้อมน่ะแหละครับ ผมก็โต้แย้งไปตามความรู้ที่ได้ยิน ได้ฟัง ได้อ่่าน ได้พอเรียนรู้มา ถ้ามันผิดก็โต้แย้งกัน ปริศนาจะได้ไขกระจ่าง ไม่ใช่ว่าเอะอะ ก็ให้เป็นความลับ โทษ conspiracy theory ไสยศาสตร์มนต์ดำไปเรื่อย มันก็ไม่ต่างจากพวกที่ตักน้ำส้วมมากินกัน หรือขูดขอหวยกันหรอกครับ แต่คนเล่นเนท ไปเชื่อเรื่อง กินน้ำขวดพลาสติกใช้ซ้ำแล้วตาย กินpepsi แล้วตาย หรือโดนแมงมุมใต้ฝาส้วมกัดตายแทน ผมเชื่อว่าหลายๆคนเกิดอาการอย่างที่เล่าจริงจากด้วยหลายๆสาเหตุที่ผมพอนึกออกด้วยความรู้พื้นฐานธรรมดาก็หลายสิบสาเหตุแล้ว แต่ไม่เชื่อว่าเกิดจากการวางยาเพราะมันเป็นการคิดในแง่ร้ายเกินไปโดยปราศจาก clue หรือเงื่อนงำใดๆเลยครับ การทีคุณจะมาสาปแช่งหรือประชดคนที่ไม่เชื่อ ก็คงไม่ถูกต้อง เพราะคุณเองก็ไม่ได้มีหลักฐานใดๆ นอกจากความเชื่อที่คิดสาเหตุขึ้นมาเองของคุณ จริงไหมครับ คุณจขกท. ความไม่ีรู้ก่ิอเกิดความกลัว และความกลัวก่อเกิดความตื่นตระหนก และความตื่นตระหนกของคนจำนวนมากมันก็จะทำให้สังคมไม่สงบสุขครับ ย้ำรอบที่สิบกับคำว่า ระวัง แต่ไม่ใช่ ระแวง ครับ หลายคนในนี้กำลังหวาดระแวงโดยใช่เหตุกันเกินไปแล้ว เพิ่มเติมเรื่องสารระเหย ที่บางคนคิดว่าใช้ยาป้องกันล่วงหน้าได้ http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X5197284/X5197284.html แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 50 22:21:43 แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 50 22:15:57 แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 50 22:08:04 แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 50 22:01:12 จากคุณ : ....4จุด - [ 2 เม.ย. 50 21:59:03 ]

ความคิดเห็นที่ 52 แล้วพวกแท็กซี่ที่เคยทำอย่างงี้แล้วโดนตร.จับ เค๊าไม่ได้สารภาพกะตร.เหรอว่าใช้ยาอะไร ส่วนตัว...ญาติเราก้อเคยโดนนะ เดินฯอยู่ในห้างก้อวูบไปเลย รุสึกตัวอีกทีของหายหมดเลย จากคุณ : ตกลงมันยังงัย (ดม-ฟัด-คึก) - [ 2 เม.ย. 50 22:23:21 ]

ความคิดเห็นที่ 53 แค่จำสีได้ เดี๋ยวนี้ก็ช่วยได้มากแล้วละค่ะ เพราะ จะแยกได้ว่า เป็นของบริษัทไหน เพื่อตรวจสอบได้ แล้วก็ระบุ สถานที่ ที่ขึ้น ก็หาได้ไม่ยากแล้วล่ะ จากคุณ : giang_au - [ 2 เม.ย. 50 23:02:25 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ขอบคุณความหวังดีของเจ้าของกระทู้ ขอบอกไว้ก่อนนะครับ คิดว่าคุณพูดความจริงครับ แต่ความจริงที่คุณพูดคือสิ่งที่คุณคิดว่าเป็นจริง ได้ยินเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้ว เหมือนกับทุกท่านในที่นี้ ที่เคยได้ยินไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง แต่แปลกครับ ยังไม่เคยมีแท๊กซี่คนไหนโดนจับได้เลย ทั้งๆที่มันเกิดบ่อยขนาดที่คนทั่วไปเคยได้ยิน มีโพสต์ในพันทิปก็บ่อย จนกว่าจะมีการจับกุม และ แสดงออกมาว่า ยาที่ใช้เป็นอะไร ผมไม่ขอเชื่อครับ ที่ลวงไปปล้นทรัพย์หรือข่มขืนก็มีเยอะครับ แต่โดนมอมยา แจ้งความ จนไปถึงจับผู้ร้ายได้ ยังไม่เคยได้ยินครับ เรื่องการเอามือมาอังแอร์ ผมเห็นเป็นประจำครับ เข้าใจว่าเพื่อทดสอบว่ามันเย็นหรือร้อนเกินไปหรือไม่ จากคุณ : อวิรุืทธ์ - [ 2 เม.ย. 50 23:54:47 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เออ คือ เข้าใจมั้ยว่า เจ้าของกระทุ้ก็รู้สึกแย่พอละ เจอประสบการณ์ตกใจมา แล้วก็มาบอกเล่า มาตักเตือน เล่าให้เป็นวิทยาทาน เป็นประสบการณ์ แล้วทำไมต้องมาลงความเห็นแย้งซะ จะเป็นจะตายอะไรขนาดนี้ ถ้าไม่เห็นด้วยก็ผ่านไปสิ ไม่ต้องมาลงความเห็นอะไรหรอก! เขาก็แค่มาเล่าเป็นประสบการณ์ ไปกระโตกกระตากกันอยุ่ได้ ประสาท! จากคุณ : [JUSTIN] - [ 3 เม.ย. 50 00:28:16 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เชื่อๆไว้ก่อนละครับสำหรับผม เวลาคับขันจริงๆมันก็มีประโยชน์ เดี๋ยวนี้ผมก็เตือนคนที่บ้านไม่ให้นั่งแท๊กซี่คนเดียว หรือถ้ารู้สึกแปลกๆให้รีบขอลงทันที ผมไม่รู้หลักอะไรมาเถียงหรอกครับว่ามันต้องใช้สารนี้ๆ แต่ว่าถ้ามันมีจริงๆคนที่เดือดร้อนคือตัวผมและคนรอบข้าง รับฟังไว้ดีกว่าปฏิเสธว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้นะครับผมว่า จากคุณ : amtap - [ 3 เม.ย. 50 00:35:07 ]

ความคิดเห็นที่ 57 สงสัยนิดเดียวว่า จ่ายเงินไป40บาท+ใกล้จะถึงบ้านแล้ว อีกนิดเดียวเอง ถ้าบ้านมันใกล้ขนาดนั้น (เสียแค่40กว่าบาทเอง)ทำไมต้องนั่งแท๊กซี่ด้วยล่ะเนี่ย จากคุณ : panda on line - [ 3 เม.ย. 50 01:33:04 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เปรียบไปก็เหมือน คนไปนอนโรงแรม แล้วกลัวผี เพราะเคยไมด้ยินมาว่า นอนโรงแรมแล้วผีหลอก ทั้งๆที่โรงแรมที่ตัวเองไปนอน ไม่เคยมีผีซักตัว สังเกต หลายรายแล้ว คนที่มาเล่าเรื่องแบบนี้ มักจะได้ยินได้ฟัง ได้อ่าน เรื่องแบบนี่มาแล้วทั้งนั้น จึงพาลวิตกกังวล อะไรนิดหน่อย ก็พาลคิดว่าตัวเองจะโดนแบบนนั้น นึกถึงกระทู้ ก่อนที่อยู่บนกระทู้แนะนำเป็นเดือน   ที่เมารถแต่บอกว่าโดนมอมยา ไม่รู้ตามคนขับแท๊กซี่มาหรือยัง  นึกแล้วยังขำไม่หาย จากคุณ : <<TH.MaR.>> - [ 3 เม.ย. 50 01:41:06 ]

ความคิดเห็นที่ 59 คุณ คห ที่57 คะ สงสัยอะไรเหรอ บ้านเราอยู่ห่างจากที่เรียกแท้กซี่ไปอีกประมาน 4 ป้ายรถเมล์แล้วต้องเข้าซอยด้วย  เวลา ตีสองกว่า คุนจะให้เราเดินกินลม หวานๆเล่นไปเรื่อยๆเหรอคะ พอตัดสินใจจะให้เค้าจอดก้ใกล้จะถึงบ้านแล้ว มิเตอร์ก็ยังไม่ทันขึ้น เลยให้ๆเค้าไปน่ะแหละ 40 บาท สงสัยอะไรอีกมั้ยคะ ตอนแรกกะจะมาโพสเตือนแล้วก็ปล่อยไปเรื่อยๆ แต่มีทั้งคนที่เชื่อและไม่เชื่อ พวกเชื่อก้ขอบคุน ไม่เชื่อก้ไม่เปนไร แต่พวกที่มาแย้งข้างๆ คูๆน่ะ มันน่า... จากคุณ : shebell2004 - [ 3 เม.ย. 50 01:41:36 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 3 เม.ย. 50 05:14:10 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เมื่อคืน ได้ไปสัมภาษณ์ พวกขับแท็กซี่มา  ได้ความว่า เดี๋ยวนี้ มีบางกลุ่ม ไม่ชอบพวกแท็กซี่ เพราะไปขัดผลประโยชน์ของพวกเขา เลยพยายามทำทุกวิถีทาง ที่จะให้พวกแตกซี่แตกพวกแตกกลุ่ม ไม่สามารถรวมตัวกันได้  เลยมีกลุ่มหน้าม้าบางกลุ่มบางพวกรับจ้าง  มาทำทุกวิถีทาง ที่จะให้พวกแท็กซี่เสียภาพพจน์ ผมฟังๆเขาเล่ามา  มันจะเข้าเค้าพอสมควร เพราะมีหลายๆ ตัวอย่างที่เขายกมาเล่า พอสืบไปสืบมา มันเป็นเรื่องโจ๊กทั้งเพ  เช่น มีข่าวว่า แท็กซี่ จี้ชิงทรัพย์ผู้โดยสาร ได้เงินไป แสนบาท ส่วนตัวเจ้าของเงินถูกถีบลงข้างทางแถวๆกองขยะ พอเจ้าหน้าที่สอบไปสอบมา กลายเป็นว่า ผู้หญิงคนนั้น เอาเงินไปบำเรอผู้ชายจนหมดกลัวแม่ตีเลยใส่ร้ายแท็กซี่ ว่าเขาจี้ชิงเงินไป อีกราย ขึ้นแท็กซี่หนีโรงเรียนเพื่อไปเที่ยวกับผู้ชายแล้วโทรบอกทางบ้านว่าถูกแท็กซี่จี้ตัวไปกักขังไว้ ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน ขอให้แจ้งความด้วย ตำรวจคราญหาทั่วเมือง แต่แล้วไปนอน กก อยู่กับผู้ชายในบังกะโลโน่น โธ่เอ๋ย  กรรมของแท็กซี่แท้ๆ จากคุณ : taxi y2k - [ 3 เม.ย. 50 06:08:47 ]

ความคิดเห็นที่ 62 เข้ามาดูอีกรอบ เห่อๆๆ จากคุณ : 2.2SEG - [ 3 เม.ย. 50 08:23:09 ]

ความคิดเห็นที่ 63 คุณ Markit คห.42 ครับ ผมว่าในกรณีคุณน่ะมาจาก อาหารแน่นอนครับอย่าไปโทษแทกซี่เลย ส่วนใหญ่พวกที่พบว่ายืน เบลอๆ ไม่รู้ตัวมักจะเกิดจากรับประทานเข้าไปครับ พวกมิจฉาชีพอาจจะถือโอกาสตอนเผลอใส่ยาไปในอาหารแต่ไม่ใช่จากการสัมผัส หรือ ให้ดมในแทกซี่แน่นอนครับ จากคุณ : CELEBREX - [ 3 เม.ย. 50 13:40:26 ]

ความคิดเห็นที่ 64 คุณ 4จุด  คุณแย้งมาว่าไม่ได้ๆอยู่ลูกเดียว ผมไม่ได้บอกว่าให้เชื่อ ผมแค่ถามว่าพวกโจรมันใช้วิธีไหนถึงทำได้แบบนี้ ในเมื่อคนไม่ยอมใช้ปัญญาคิดที่จะพิสูจน์กัน เรื่องหลายๆเรื่องมันก็เป็นเรื่องลี้ลับอยู่เหมือนเดิม ทั้งๆที่เรื่องลี้ลับหลายเรื่อง ถ้าเอาวิทยาศาสตร์ไปจับจริงๆ สุดท้ายมันก็ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนทุกที แต่ถ้ามัวอ้างตำราแบบไม่คิดจะประยุกต์อะไร แล้วก็มาเถียงแบบหัวชนฝาแบบเดียว ผมว่ามันเสียศาสตร์เปล่าๆ ตกลงว่าวิทยาศาสตร์วันนี้สรุปว่าผีมีจริงได้หรือยัง? จากคุณ : ton99 - [ 3 เม.ย. 50 15:08:53 ]

ความคิดเห็นที่ 65 #64 ผมไม่ได้บอกว่า สิ่งที่ผมยังไม่เจอมันไม่มีจริงแน่ๆ แต่ผมไม่เชื่อสิ่งทีแทบจะ่ไม่มีเงื่อนงำใดๆให้สงสัยเลยครับ ไม่งั้นผมก็มาตั้งกระทู้ลอยๆมาเรื่องนึงว่าผมเจอคนสะกดจิตคนให้ัยื่นตังค์ให้ได้โดยการแค่จ้องหน้าประสานสายตาสิบวินาที โดยจะมีจุดสังเกต คือมองหน้า่เราแล้วจะยิ้มๆ แล้วก็มาบอกว่าให้่ระวัง คนที่มองหน้าเราแล้วยิ้ม คนก็แตกตื่นกลัวมีคนมาจ้องหน้า พอใครบอกไม่เชื่อไม่มีใครเคยทำได้ ไม่มีการทดลองหรืองานวิจัยไหนทำได้ ผมก็แย้งว่า ของที่ไม่มีใครเคยเจอไม่ใช่จะไม่มีจริง(แบบผี) ฉะนั้น ต้องเชื่อผมแม้ว่าผมจะไม่มีหลักฐานเงื่อนงำอื่นๆ(เช่นพยานแวดล้อม หลักฐานการแจ้งความ ฯลฯ) ให้คนอื่นเห็นเลย คุณต้นหมายความว่าแบบนั้นหรือเปล่าครับ? คุณกำลังเอาไสยศาสตร์มาปนกันนะครับ สิ่งสำคัญไม่ว่าจะเป็นไสยหรือวิทย์ ก็คือเงื่อนงำ หรือพยานหลักฐานแวดล้อม หากมันไม่มีเลย มีแต่เรื่องเล่า ไม่มีหลักฐานอย่างอื่นหรือข้อมูลที่ชวนให้เชื่อได้ว่าเป็นจริง ก็ยากที่จะเชื่อได้ง่ายๆ และหากการเชื่อในสิ่งนั้นทำให้คนจำนวนมากเดือดร้อน(taxiโดนคนระแวง ชักดาบค่าโดยสารแบบในกระทู้ก่อน/การตื่นตระหนก) ผมว่ามันก็จำเป็นที่จะต้องมีการเตือนกันให้คิดมากกว่านี้นะครับ แต่แปลกดีที่คุณต้นเลือกที่จะเชื่อไว้ก่อน พิสูจน์ทีหลัง ทั้งๆที่เรื่องที่ชวนให้เชื่อ มันยากที่จะเชื่อจริงๆ พอๆกับเรื่องผีเลยทีเดียว(ผมเชื่อว่ามี แต่ไม่เชื่อว่าที่คนเล่าส่วนใหญ่จะเจอของจริง) ถามจริงๆว่าคุณเตือนเพื่อนๆคุณให้ระวังผีหลอก เวลาเดินทางผ่านวัดกลางคืน เหมือนกับที่คุณเตือนให้ระวังยาป้ายไหมครับ? อ้อ ผมไม่ได้เถียงข้างๆคูๆอย่างเดียวนะครับ ผมก็พยามช่วยกันคิดแล้วไง ว่าอาการแบบที่เกิดมันเกิดจากอะไรได้บ้าง แล้วก็ชี้ข้อสงสัยเรื่องการวางยาว่ามีจุดอ่อนตรงไหน สารเคมีไหนทำได้ไม่ได้ แต่กลับไม่เห็นใครโต้แย้งกลับอย่างเป็นหลักการเลย มีแต่แช่งกลับขอให้ญาติๆเจอบ้าง หรือไม่ก็ยกเรื่องผีมาเทียบกับอาชญากรรมซะงั้น ถ้าคุณต้นคิดว่ามันทำได้จริงก็ช่วยกันคิดหน่อยสิครับ ว่าพอมีวิธีไหนได้บ้าง ไม่ใช่เอาแต่ยกเรื่องแม่้บ้านโดนยาป้ายมา แล้วก็บอกว่ามันมีจริงๆ ใครไม่เชื่อเป็นพวกหัวแข็ง ฯลฯ จากคุณ : ....4จุด - [ 3 เม.ย. 50 17:09:06 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ผมว่าเจ้าของกระทู้พูดจริง แต่อาการที่ว่าไม่ใช่อาการโดน taxi มอมหรอกครับ น่าจะจับมาพิสูจน์กันจะๆเลย คราวหน้าถ้า จขกท ขึ้น taxi แล้วเจออีกรีบจำเบอร์รถหรือจดไว้ แล้วบอกให้เค้าจอดแล้วแจ้งตำรวจสกัดจับด่วนเลย จะได้เอารถคันนั้นมาพิสูจน์ว่าอะไรกันแน่ที่ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้วิงเวียน เคยสังเกตกันมั๊ยกว่า 10 กระทู้ในนี้ที่มาเล่าๆกันจะบอกว่าโดน taxi มอมและบอกให้ taxi จอดและลงมาได้ แต่ไม่มีซักรายที่โดนมอมไปแล้วและไปแจ้งความและมาเล่าให้ฟัง แปลกๆๆ จากคุณ : NAN_KUNG - [ 3 เม.ย. 50 22:37:07 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ไม่อยากจะขัดแย้งกับความเชื่อของใครนะครับ...ปรกติก็เข้าห้องรัชดาประจำเพราะจะถอยรถใหม่.... จากประสบการณ์การทำงานของผมที่ทำงานเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมที่ต้องมีการพิสูจน์พยานหลักฐาน  นั้น มีหลายคดีที่ผู้เสียหายอ้างว่าโดนมอมยาด้วยวิธีการแปลกๆเช่นโดนป้าย  สูดดมในสถานที่จำกัด/เปิดโล่ง  มึนงงไม่ทราบสาเหตุ  ส่วนใหญ่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเกิดจากสารเคมีใด  แต่จากการสืบพยานมักพบว่าผู้เสียหาย ดื่มสุรามาก่อน  มีโรคประจำตัว  เครียด  อดอาหาร  ขาดวิตมิน  หรือหลายๆอย่างที่มีผลกระทำต่อการทำงานของร่างกาย   ประเภทโดนวางยาเท่าที่พบมักเป็นตัวยาประเภท โดมิกุม diazepam  แต่พบน้อยมากเพราะหาซื้อยากและวิธิการใช้ต้องผสมเครื่องดื่ม ประเภทสูดดม โปะสลป  เคยเห็นแต่ในหนัง...ชีวิตจริงยังไม่เคยครับ ประเภทป้ายนี้...ด้วยความเคารพต่อความเชื่อนะครับ...นอกจากน้ำมันพรายแล้ว...ผมว่าไม่น่าจะเป็นไปได้...การดูดซึมตัวยาทางผิวหนังไม่น่าจะออกฤทธิ์ได้เร็วถึงเพียงนั้น...อีกทั้งปริมาณที่ใช้คงต้องเยอะมากๆ  และที่สำคัญยังไม่เคยทราบเลยว่ามีตัวยา หรือ สารเคมีชนิดไหนที่มีผลออกฤทธิ์ได้เช่นนั้น เคยคุยกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ตรวจที่มาเบิกความก็ไม่พบว่ามีสารเคมีใดที่สามารถออกฤทธิ์เช่นว่านี้อยู่จริง ที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ได้ต้องการโต้แย้งกับใคร...แต่อยากได้หลักฐานที่พิสูจน์ความมีอยู่จริงของข้อกล่าวอ้างเช่นกัน  เพราะจะเป็นประโยชน์แก่เจ้าหน้าที่ในการสืบสวนมาก  และเป็นประโยชน์แก่ประชาชนทั่วไปในการป้องกันมิฉาชีพ...แต่การไม่ประมาทก็เป็นการป้องกันตัวที่ดีที่สุดนะครับ หมายเหตุ  คดีที่มีการวางยาโดยโจทก์นำพยานแวดล้อมมาสืบประกอบและศาลเชื่อ เอาที่ดังๆคือคดี พญ.หญิง....ถูกสามี นพ.ชาย....ฆ่าหั่นศพ...แถวย่านมหาลัยดังกลางกรุง...(ที่ใช้...เพราะอาจสะเทือนใจต่อญาติผู้ตาย) คดีนี้เป็นการใช้นิติวิทยาในการปะติปะต่อเรื่องราวและพฤติการในการกระทำความผิด โดยศาลเชื่อว่าจำเลยได้ใช้ยา โดมิกุม ผสมในอาหารให้ผู้ตายทาน หลังจากนั้นผู้ตายจึงมีอาการเหม่อลอย  ที่จำเลยอ้างว่าผู้ตายเมาน้ำพั้นช์ ศาลไม่เชื่อ!!! จากคุณ : อินทร์นิล - [ 3 เม.ย. 50 23:25:29 ]

ความคิดเห็นที่ 68 เข้ามาอ่านเฉยๆ จากคุณ : เอ-อุบล - [ 4 เม.ย. 50 03:31:32 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ช่างกล-หนุ่ม ที่บ้านเขาขับแท๊กซี่ วันๆได้แต่หาเรื่องตีชาวบ้านเขาไปทั่ว เขาเลยมีปัญญาคิดได้แค่นี้ไง จขกท. จากคุณ : ปญอ (refugee) - [ 4 เม.ย. 50 14:48:10 ]

ความคิดเห็นที่ 70 แล้วคุณ taxi y2k หาแท็กซี่ทะเบียน ทม 1142 เจอรึยังอะครับ ถ้าเจอจะได้จับมาพิสูจน์ให้รู้กันไปเลย จากคุณ : อ้วน (Ronald_Doy10) - [ 5 เม.ย. 50 01:44:56 ]

ความคิดเห็นที่ 71 พอชี้ตรงประเด็นกันก็เงียบหายกันหมดเลยแฮะ จากคุณ : ....4จุด - [ 5 เม.ย. 50 11:40:27 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เค้าไม่อยากทะเลาะกันค่ะ คุน 4จุด จากคุณ : shebell2004 - [ 5 เม.ย. 50 21:32:15 ]

ความคิดเห็นที่ 73 #72 ผมหมายถึงคุยกันในเชิงวิชาการครับ ไม่ได้ชวนทะเลาะ เพราะผมคิดว่าผมและ#67 ชี้ตรงประเด็นข้อสงสัยในเรื่องนี้่แล้ว(ไม่ใช่สงสัยจขกท. แต่สงสัยเรื่องการรมยาว่าทำได้จริงไหม) ถ้าใครมีข้อมูลออะไรก็มาแชร์กัน จะได้ป้องกันอาชญากรรมได้จริงๆไงครับ ดีกว่าปล่อยให้เป็นเรื่องลึกลับเหมือนกับผีสางต่อไปพอโต้แย้งกันก็จบที่ไสยศาสตร์กันซะงั้น จากคุณ : ....4จุด - [ วันจักรี 08:17:20 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ค่ะ จากคุณ : shebell2004 - [ 7 เม.ย. 50 03:10:30 ]

ความคิดเห็นที่ 75 สิ่งที่คุณไม่รู้ ไม่ได้แปลว่ามันไม่มีค่ะ ขอบคุณคุณเบลที่เล่าให้ฟังค่ะ เรื่องแบบนี้ ระวังไว้ไม่เสียหาย จะมีจริงหรือไม่ เราเองก็ไม่รู้หรอกค่ะ ยาอะไรนั่น แต่ถ้าไม่รู้จักระวัง ไม่มีสติ สุดท้ายก็แพ้ภัยตัวเอง เรายอมเป็นคนตื่นตูม อย่างที่ใครเขาเรียก ดีกว่าเป็นคนผยอง แล้วโดนข่มขืน ปาดคอตาย ไม่คุ้มเลย... จากคุณ : บุ้งเฉยๆก็ได้ - [ 8 เม.ย. 50 07:50:01 ]

ความคิดเห็นที่ 76 #75 เปรียบเสมือนเราต้องกลัวผีไว้ก่อนใช่ไหมครับ จากคุณ : ....4จุด - [ 8 เม.ย. 50 14:13:40 ]