ความคิดเห็นที่ 1 สงกรานต์ที่ผ่านมา หลายๆคน คงมีความสุข บ้าง ทุกข์บ้าง กับการเล่นน้ำสงกรานต์ แต่..สงกรานต์ปีนี้สำหรับผม ถือว่า เป็นสงกรานต์ที่น่าประทับใจกว่าทุกปี เพราะ ซูบารุ ให้ยืมเจ้าเลกาซี B4 ซีดาน 2.0R มาลองขับ น้อยครั้งที่ผมได้รับรถยนต์มาทดลองขับ ต่อให้ตัดอคติ ออกไปจนหมดในขณะทดลองขับแล้ว ในขณะใช้งานจริง ก็ยังมิวาย เกิดอาการชื่นชอบเป็นการส่วนตัว เสียดาย ไม่อยากคืน ถวิลหา อยากขับอีก เท่าที่พอจะนึกออกในตอนนี้ มี Lexus GS300, Nissan Murano, Saab 9-3 , Volvo S60 แล้ว คันไหนอีกหว่า?...... แต่คราวนี้ การได้ใช้ชีวิต กับเจ้าซูบารุ เลกาซี 2.0R ซีดาน นั้นเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าและน่าจดจำมากที่สุดครั้งหนึ่งสำหรับผม... แต่ในเมื่อ ได้ลอง เลกาซี กันแล้ว ก็ควรจะลองเวอร์ชัน ยกสูง หรือเจ้า เอาต์แบ็ก ด้วยอีกสักคัน เพื่อให้เข้าใจถึงฟิลลิ่งที่แท้จริง ของรถยนต์ขนาดกลางรุ่นดัง จากค่าย ดาวลูกไก่..... จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 01:05:00 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ซูบารุ เปิดตัว เลกาซี สู่ตลาดโลกมาตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 1989 ในฐานะผู้สืบทอดสายพันธุ์จากตระกูลรถยนต์ครอบครัวรุ่น เลโอเน (LEONE) ที่เคยโด่งดังในอดีต จนกลายเป็นรถยนต์ รุ่นสำคัญอีกรุ่นหนึ่งในประวัติศาสตร์ของฟูจิเฮฟวีอินดัสตรี เพราะถือเป็นก้าวแรกในการขยายขึ้นไปสู่ตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลางระดับ 2,000 ซีซีขึ้นไป ที่ประสบความสำเร็จอย่าง งดงามทั่วโลกทั้งในด้านยอดขายและชื่อเสียง ตลอด 17 ปีที่ผ่านมา โรงงาน GUNMA YAJIMA ในจังหวัดกุมมะ และโรงงาน SIA ในสหรัฐอเมริกา (อดีตโรงงานร่วมทุนกับอีซูซุ ซึ่งปัจจุบัน ถอนตัวไปแล้ว) ซึ่งเป็น 2 โรงงาน ที่ผลิตเลกาซีป้อนตลาดโลก ได้สร้างสถิติยอดผลิตออกขายทั่วโลกรวมแล้วถึง 3 ล้านคัน!! (ตัวเลขล่าสุดเมื่อ 15 มีนาคม 2005) จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 01:06:41 ]

ความคิดเห็นที่ 3 รุ่นปัจจุบัน ถือเป็นรุ่นที่ 4 เปิดตัวมาตั้งแต่ 23 พฤษภาคม 2003 และเพิ่งมีการปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ครั้งใหญ่ ไปเมื่อ 24 พฤษภาคม 2006 ที่ผ่านมา ถือเป็นเลกาซีที่สวยที่สุด และลบทุกจุดด้อยในรุ่นก่อนๆไปได้เยอะมาก จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 01:11:04 ]

ความคิดเห็นที่ 4 การปรับปรุง รูปลักษณ์ภายนอก เน้นไปที่ ชิ้นส่วนตัวถังด้านหน้า ทั้งการเปลี่ยนชุดไฟหน้าใหม่ พร้อมกับชิ้นส่วนตัวถังบริเวณเหนือซุ้มล้อคู่หน้า กระจังหน้า ลายใหม่ แบบปีกเครื่องบิน กันชนหน้าดีไซน์ใหม่ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 01:12:24 ]

ความคิดเห็นที่ 5 .. จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 01:14:22 ]

ความคิดเห็นที่ 6 รุ่นซีดาน ชุดไฟท้ายจะถูกออกแบบให้มีลวดลายใหม่ ลดความสูงลงจากเดิม ไปพร้อมกับออกแบบกันชนหลังขึ้นใหม่ให้มีทับทิมสะท้อนแสงแบบรถยุโรป [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 01:15:00 ]

ความคิดเห็นที่ 7 .. [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 01:16:01 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ... จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 01:16:29 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขนาดตัวถังยังคงเท่าเดิมโดยรุ่นซีดานมีความยาว 4,635 มิลลิเมตร รุ่นแวกอนยาว 4,680 มิลลิเมตร รุ่นเอาต์แบ็ก 4,730 มิลลิเมตร เพิ่มความกว้างให้เท่ากันที่ 1,730 มิลลิเมตร ส่วนรุ่นเอาต์แบ็ก กว้างกว่าเพื่อน 1,770 มิลลิเมตร สูงระหว่าง 1,425-1,475 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อเท่ากันที่ 2,670 มิลลิเมตร ด้วยการขยายความกว้างตัวถังให้มากขึ้น เพื่อจะต่อกรกับมาสด้า อาเทนซา  (1,780 มิลลิเมตร) และฮอนด้า แอคคอร์ด (เวอร์ชันญี่ปุ่น 1,760 มิลลิเมตร) ได้ถนัดขึ้น ทำให้ ลูกค้าที่ซื้อเลกาซี ในญี่ปุ่นทุกรุ่นย่อยจะต้องเสียภาษีรายปีในหมวดของ รถยนต์นั่งมาตรฐาน (หรือที่รัฐบาลญี่ปุ่นเรียกว่ากลุ่ม 3 NUMBER ที่มีขนาดเครื่องยนต์เกิน 2,000 ซีซี และมีความกว้างตัวถังเกิน 1,695 มิลลิเมตร) ซึ่งแพงกว่ารุ่นปัจจุบัน ที่มีหลายรุ่นย่อยยังคงเสียภาษีในกลุ่มรถยนต์นั่งขนาดเล็ก (หรือกลุ่ม 5 NUMBER ขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 2,000 ซีซี กว้างไม่เกิน 1,695 มิลลิเมตร) จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 01:18:00 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ... [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 01:18:55 ]

ความคิดเห็นที่ 11 .... [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 01:22:47 ]

ความคิดเห็นที่ 12 มาดู Outback กันบ้าง [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 01:27:16 ]

ความคิดเห็นที่ 14 บอกแล้วไงว่า อย่าปาด! --------------------- ย้อนประวัติกันสักหน่อยดีกว่า ใครจะเชื่อว่า ซูบารุ เป็นผู้ผลิตรถยนต์ประเภท Crossover Wagon ออกขายเป็นรายแรกในโลก ซูบารุ ส่งเอาต์แบ็กประเดิมตลาดเป็นครั้งแรกในญี่ปุ่นเมื่อ 30 สิงหาคม 1995 โดยใช้ชื่อ เลกาซี GRAND WAGON ยกสูง และเริ่มส่งออกไปบุกเบิกสู่ตลาดสหรัฐอเมริกา และยุโรปในช่วงปี 1996 โดยใช้ชื่อ เอาต์แบ็ก ด้วยความโดดเด่นไม่เหมือนใคร ผสานทั้งรูปแบบสเตชันแวกอนที่สามารถขับไปทำงานได้ กับรูปแบบเอสยูวีสำหรับชีวิตวัน พักผ่อน ทำให้ประสบความสำเร็จอย่างมาก และกลายเป็นผู้สร้างกลุ่มตลาดใหม่ เปิดทางให้ผู้ผลิตอย่างวอลโว นิสสัน ฯลฯ เห็นดีเห็นงามจนต้องหันมาเลียนแบบตาม [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 01:32:36 ]

ความคิดเห็นที่ 15 รูปลักษณ์ภายนอกของรุ่นใหม่ยังคงยึดเส้นสายจากรุ่นแวกอนเป็นหลัก แต่แปลกตาด้วยกันชนหน้าพร้อมไฟตัดหมอกและแผงกันกระแทกใต้กันชนหน้าสีดำ กับโป่งข้างเหนือ ซุ้มล้อ ที่ออกแบบให้ต่อเนื่องรับกับแผงกันสิ่งสกปรกบริเวณขอบประตูด้านล่าง เพิ่มซันรูฟกระจกขนาดใหญ่ กินพื้นที่ไปถึงบริเวณผู้โดยสารตอนหลัง [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 01:37:58 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นแวกอนมาตรฐานแล้ว ขนาดตัวถังจะยาวขึ้นจาก 4,680 เป็น 4,730 มิลลิเมตร เพิ่มความกว้างจากรุ่นมาตรฐาน 1,730 เป็น 1,770 มิลลิเมตร สูง ขึ้นจาก 1,425 เป็น 1,545 มิลลิเมตร แต่คงระยะฐานล้อเท่ากันที่ 2,670 มิลลิเมตร จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 01:46:18 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ... จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 01:48:40 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เรามาดูห้องโดยสาร กันดีกว่า ห้องโดยสารของ เลกาซี MY07 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 01:50:31 ]

ความคิดเห็นที่ 19 Outback [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 01:52:12 ]

ความคิดเห็นที่ 20 (Legacy) เบาะนั่งคู่หน้าของทั้งเลกาซี และเอาต์แบ็ก มีจุดเดนอย่างหนึ่งคือ จะนั่งนานแค่ไหน ก็ไม่รู้สึกปวดหลังเลย อีกทั้งมีความสูง ห่างจากพื้นรถ ในระดับไม่มากนัก กำลังดีๆ ช่วยให้สามารถควบคุมรถได้อย่างคล่องแคล่ว กระฉับกระเฉง ว่องไว แต่เดินทางไกลได้อย่างสบายๆ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 02:01:10 ]

ความคิดเห็นที่ 22 (Outback) ในรุ่นเอาต์แบ็ก จะมีฮีตเตอร์ ซ่อนใต้เบาะ เพื่อจะทำความอุ่น ในฤดูหนาว ทั้ง คู่ มีสัญญาณเตือนไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ที่ร้องดังมาก แค่ ขับช้าๆ เสียงเตือนนี้ก็ยังไม่หยุด.. เพราะทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ รับน้ำหนักใต้เบาะรถ ว่ามผู้โดยสารนั่งอยู่หรือไม่ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 02:05:38 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อย่าเพิ่งปาดดดดดดดดดดดดดดดดด บอกแล้วไงว่าอย่าเพิ่งปาดดดดดดดดดดด ------------------------------ ส่วนทางเข้าออกเบาะหลังนั้น ทำได้อย่างสบายๆ มีที่วางแก้ว แบบซ่อนรูป พับเก็บได้มาให้ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 02:08:38 ]

ความคิดเห็นที่ 24 Outback [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 02:10:28 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ห้องโดยสารด้านหลังของทั้งคู่นั้น นั่งสบายกว่า แอคคอร์ด และ แคมรี รุ่นปัจจุบัน ด้วยการจัดวางตำแหน่งของเบาะนั่ง รวมทั้งความยาวเบาะรองนั่ง ไปจนถึงพื้นที่วางขาที่ดี ในรุ่นเลกาซี B4 มีที่พักแขนตรงกลาง ที่สามารถเปิดช่องทะลุไปได้ถึงห้องเก็บสัมภาระด้านหลัง จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 02:12:04 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ส่วน เอาต์แบ็ก ชุดเบาะนั่งด้านหลัง มีที่พักแขน และจุดยึดเบาะนิรภัยสำหรับเด็ก มาตรฐน ISOFIX [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 02:15:23 ]

ความคิดเห็นที่ 27 นอกจากนี้ ยังสามารถแบ่งพับได้ในอัตราส่วน 60 : 40 เพื่อทะลุไปยังพื้นที่เก็บสัมภาระได้อีกด้วย ตามสไตล์ของรถสเตชันแวกอนที่ดี อีกทั้งเข็มขัดนิรภัยของผู้โดยสาร ตรงกลาง ยังเป็นแบบ 3 จุด พร้อมจุดยึดห้อยลงมาจากเพดานหลังคาเหมือนนิสสัน มูราโน แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 50 02:19:10 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 02:16:30 ]

ความคิดเห็นที่ 28 แผงหน้าปัดของรุ่น เลกาซี B4 2.0R MY07 ในคันที่ทดลองขับนั้น มีการติดตั้งชุดเครื่องเล่น DVD/VCD/MP3 ของ McIntosh มาให้! เช่นเดียวกับ จอมอนิเตอร์ สำหรับรองรับสัญญาณภาพ จากเครื่องเล่น DVD ของ Pioneer ที่ซ่อนไว้ในเก๊ะลิ้นชัก รวมถึง กล้อง กะระยะทั้งด้านหน้า และด้านหลัง และระบบนำร่องผ่านดาวเทียม GPS โดย Garmin จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 02:24:50 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ส่วน Outback นั้น มาในสไตล์เรียบง่าย และเน้นการตกแต่งด้วยสีเงินเป็นหลัก ทั้งคู่ใช้พวงมาลัยแบบ 3 ก้านเหมือนกัน แต่ รุ่น MY07 เปลี่ยนมาใช้พวงมาลัยดีไซน์ใหม่ กระชับมือยิ่งขึ้น ขณะที่รุ่นนี้ยังเป็นรุ่น MY06 อยู่ Outback จะเพิ่มระบบควบคุมความเร็วคงที่อัตโนมัติ Cruise Control มาให้ ขณะที่เลกาซี 2.0R ไม่มี แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 50 02:35:51 แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 50 02:29:31 จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 02:29:10 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ลืมรูป.. [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 02:30:02 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ชุดมาตรวัดทั้งคู่ เมื่อตอนติดเครื่องยนต์ หมุนไปที่สวิชต์กุญแจ ON เข็มต่างๆก็จะกวาดจนสุดไป 1 รอบ นั่นคือ สถานภาพพร้อมทำงานแล้ว จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 02:31:25 ]

ความคิดเห็นที่ 32 และเมื่อเสร็จแล้ว จะขึ้นหน้าจอมาแบบนี้ จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 02:33:00 ]

ความคิดเห็นที่ 33 รุ่น Outback นั้น มาพร้อมกับ ซันรูฟขนาดใหญ่โต กินพื้นที่ไปถึงผู้โดยสารแถว 2 เลื่อนเปิดปิดด้วยไฟฟ้า เป็นรถที่มีซันรูฟขนาดใหญ่โตที่สุดเท่าที่เคยเอามาจอดไว้ที่บ้านเลยทีเดียว แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 50 11:27:13 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 02:40:30 ]

ความคิดเห็นที่ 34 แต่ชุดเครื่องเสียงนั้น...ให้คุณภาพเสียงที่ธรรมดาๆ ไม่มีอะไรเด่นเลย สวิชต์ควบคุมระบบปรับอากาศไฟฟ้า ถูกออกแบบให้กลมกลืนเข้าชุดกัน ยังไม่มีระบบปรับอุณหภูมิแยกฝั่ง ส่วนบริเวณช่องเก็บของพร้อมฝาปิดนั้น ถัดลงมาอีกนิด เป็น Trip meter วัดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง หน่วยเป็น ลิตร/100 กิโลเมตร ระยะเวลาในการเดินทางมาถึงที่หมาย อุณหภูมิภายนอกรถ ฯลฯ ถ้ามีโอกาส อยากให้ลองเปิดที่ฝาช่องเก็บของอันนี้ดูนิดนึง จะพบว่า แค่ช่องเก็บของธรรมดา แต่ซูบารุ จะมีผ้ากำมะหยี่ ปิดหุ้มทับเอาไว้ เก็บงานอย่างเรียบร้อย แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 50 02:55:20 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 02:51:07 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ... [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 02:52:18 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เวลาเรืองแสงยามค่ำคืน จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 02:57:31 ]

ความคิดเห็นที่ 37 แต่ใน เลกาซี B4 2.0R จะมีชุดเครื่องเสียง จาก McIntosh 8-9 ลำโพง มาให้ คุณภาพเสียงนั้นประเสริฐมากๆ ไม่แพ้ Mark Levinson ในเล็กซัส จริงๆ! ดังนั้น ปุ่ม และสวิชต์ต่างๆจึงถูกเปลี่ยนแบบใหม่หมด จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 03:01:50 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ส่วนระบบนำร่อง Garmin ที่ติดมาให้นั้น เป็นออพชันที่ต้องสั่งซื้อพิเศษ เหมือนกับทั้งเครื่องเล่น DVD/MP3 จาก Pioneer ใช้งานค่อนข้างยากกว่า ในแคมรีใหม่ อีกทั้ง ข้อมูลแผนที่ยังไม่อัพเดท คือยังไม่มีสะพานวงแหวนอุตสาหกรรม หรือแม้กระทั่ง สนามบินสุวรรณภูมิ ก็ยังไม่ปรากฎครับ จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 03:05:53 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ส่วนกล้องขนาดเล็กนั้น ติดตั้งไว้ 2 จุด คือกระจังหน้ารถ และด้านหลังของตัวรถ เพื่อช่วยกะระยะให้ดีขึ้นเท่านั้นเอง จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 03:09:53 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ไอเลิ๊ฟ ยู จู๊ฟ ๆ โหดจิงๆ จากคุณ : ratchakorn - [ 20 เม.ย. 50 04:04:11 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ไฟกิเลส ลุกโชน จากคุณ : Tae - [ 20 เม.ย. 50 04:53:14 ]

ความคิดเห็นที่ 42 โอย ฟร้อน McIntosh ตัวนี้งามจริงๆ ปุ่มกับหน้าปัดเหมือนของตัวเครื่องเสียงบ้านเลย จากคุณ : Schizophonic - [ 20 เม.ย. 50 07:07:06 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ที่แปลกไปกว่ารถอื่นๆคือ เลกาซี และเอาต์แบ็ก มีสวิชต์ เปิดไฟ สำหรับเข้าจอด ซึ่งมันก็คือไฟหรี่ดีๆนี่เอง จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 07:58:01 ]

ความคิดเห็นที่ 44 โอ้โห !!! งามจริงๆค่ะ แล้วราคาประมาณเท่าไหร่คะ จากคุณ : เหมียว (dew_monamoji) - [ 20 เม.ย. 50 08:00:35 ]

ความคิดเห็นที่ 45 มาดูพื้นที่ห้องเก็บของกันดีกว่า รุ่นซีดาน ผมลืมถ่ายภาพมา เอาไว้ ถ้ามีโอกาสลองรุ่น 2.5 GT ค่อยทำซ้ำอีกที ไม่เสียหายครับ อิอิ แต่ พื้นที่ห้องเก็บของด้านหลัง ลึก และมีพื้นที่ใหญ่พอสำหรับถุงกอล์ฟ 2 ใบ ครับ มาดูรุ่น เอาต์แบ็กกันดีกว่า พื้นที่ห้องเก็บของด้านหลัง ลึกและกว้างเลยทีเดียว มีแผงปิดบังสัมภาระด้านหลังมาให้ด้วย จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 08:06:38 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ยกพื้นขึ้นมาแล้ว จะมียางอะไหล่ (งงๆอยู่ว่า รองเท้า สลิปเปอร์ ที่อยู่ในซอกด้านหลังตรงนั้น มันมาได้ไงหว่า? อิอิ) จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 08:07:43 ]

ความคิดเห็นที่ 47 สวยจัง ขอบคุณครับพี่จิม จากคุณ : kumandthong - [ 20 เม.ย. 50 08:08:54 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ... [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 08:11:13 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ทั้งคู่ติดตั้งถังลมนิรภัยคู่หน้า เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รายละเอียดต่างๆ รวมทั้งด้านความปลอดภัย ซูบารุ มีเสาหลังคา B-Pillar ที่ใช้แผ่นเหล็ก หนาถึง 8 ชั้น นะครับ!! เรื่องที่เราไม่ค่อยรู้กันพวกนี้ Link ไปหาอ่านเอาได้ใน http://www.subaru-global.com http://www.subaru.co.jp (สเป็กญี่ปุ่น ต่างจากบ้านเรา) http://www.motorimage.net แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 50 11:14:34 แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 50 08:13:57 จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 08:12:47 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ไม่อยากดูแล้ว...ไฟกิเลสมันลุกท่วมแล้ว จากคุณ : มนุษย์อู* - [ 20 เม.ย. 50 08:13:14 ]

ความคิดเห็นที่ 51 พี่ JIMMY สุดหล่อครับ ราคาเท่าไหรครับ ไม่มีเงินซื้อหรอกครับอยากรู้เฉยๆว่ามันแพงเกินจะไข่วคว้า จะได้ทำใจได้ง่ายขึ้นอิอิ จากคุณ : LTI Systems - [ 20 เม.ย. 50 08:16:25 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ***รายละเอียดทางเทคนิค และการทดลองขับ*** ในรุ่นเลกาซี B4 2.0R นั้น ขุมพลังเป็นรหัส EJ20 4 สูบนอน (Boxer) โฟว์แคม (DOHC) 16 วาล์ว 1,994 ซีซี พร้อมระบบแปรผันวาล์ว AVCS 165 แรงม้า (PS) ที่ 6,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 19.1 กก.-ม.ที่ 3,200 รอบ/นาที [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 08:18:51 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ส่วนรุ่น เอาต์แบ็ก 2.5i เป็นเครื่องยนต์ EJ25 4 สูบนอน (Boxer) โฟว์แคม (DOHC) 16 วาล์ว 2,457 ซีซี พร้อมระบบแปรผันวาล์ว AVCS 165 แรงม้า (PS) เท่ากัน แต่มาถึงในรอบต่ำกว่า คือ 5,600 รอบ/นาที่ แรงบิดสูงสุด 23.0 กก.-ม. ที่ 4,400 รอบ/นาที จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 08:25:10 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ทั้งคู่ เชื่อมการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ขั้นบันได E-4AT พร้อมโหมดบวกลบ SPORT SHIFT ให้ผู้ขับเลือกเปลี่ยนเกียร์ได้เอง ผลงานออกแบบจาก PRODRIVE (คันเกียร์ ของ เลกาซี B4 2.0R) จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 08:30:32 ]

ความคิดเห็นที่ 55 คันเกียร์ของรุ่น เอาต์แบ็ก จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 08:31:04 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ส่งกำลังสู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ตลอดเวลา AWD พร้อมระบบกระจายกำลัง ACTIVE TORQUE SPILT-AWD และชุดเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิป VISCOUS LSD จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 08:32:15 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เราทดลองหาอัตราเร่งกันเช่นเคย ครั้งนี้ คนที่มาช่วยผมจับเวลา ก็คือ "น้องกล้วย" หรือ ในชื่อล็อกอิน "น้องชายคนเล็ก" เจ้าเก่านั่นเอง ผมหนัก 90 กิโลกรัม กล้วย หนัก 48 กิโลกรัม นั่ง 2 คน เปิดแอร์   กดคันเร่งจมมิด แล้วปล่อยให้เกียร์ ทำหน้าที่ของมันเอง ตามเคย อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.  มีดังนี้ครับ ครั้งที่        Legacy 2.0R         Outback   1                  12.40               10.74       วินาที 2.                 12.46               10.80       วินาที 3.                 12.58               10.76       วินาที 4.                 12.35               10.72       วินาที   เฉลี่ย             12.44               10.75       วินาที อัตราเร่ง 80-120 กม./ชม. หรือช่วงเร่งแซงทั่วไป มีดังนี้ครับ ครั้งที่        Legacy 2.0R          Outback   1                   9.15                  8.21       วินาที 2.                  9.06                  8.39       วินาที 3.                  9.25                  8.39       วินาที 4.                  9.16                  8.43       วินาที เฉลี่ย             9.28                   8.68      วินาที ----------------------- ความเร็ว 80 กิโลเมตร / ชั่วโมง ที่เกียร์ 4 ใช้รอบเครื่องยนต์ Legacy 2.0 R =  2,000 รอบ/นาที Outback 2.5i   =  2,000 รอบ/นาที ความเร็ว 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ที่เกียร์ 4 ใช้รอบเครื่องยนต์ Legacy 2.0 R =  2,500 รอบ/นาที Outback 2.5i  =  2,250 รอบ/นาที ความเร็ว 110 กิโลเมตร / ชั่วโมง ที่เกียร์ 4 ใช้รอบเครื่องยนต์ Legacy 2.0 R = 2,750 รอบ/นาที Outback 2.5i  = 2,500 รอบ/นาที ----------------------- ความเร็วสูงสุดในแต่ละเกียร์ ทิ้งเกียร์ไว้ที่ D กดคันเร่งสุด ลากจนถึงรอบเครื่องยนต์ตัดเพื่อเปลี่ยนเกียร์ อ่านตัวเลขจากมาตรวัดในรถ เกียร์     Legacy 2.0R        Outback         1            62 @ 6,800        55 @ 6,000 2.         115 @ 6,800     105 @ 6,000 3.         182 @ 6,800     170 @ 6,000 4.         198 @ 5,000     200 @ 5,000 ------------------------------ ความเร็วสูงสุด Legacy 2.0R 4AT 198 กิโลเมตร/ชั่วโมง ที่ 5,000 รอบ/นาที (สเป็กโรงงาน ระบุที่ 201 กิโลเมตร/ชั่วโมง) Outback 2.5i 4AT 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ที่ 5,000 รอบ/นาที (สเป็กโรงงาน ระบุที่ 199 กิโลเมตร/ชั่วโมง) -------------------- 2 รูปนี้ จากชุดมาตรวัดของ เลกาซี B4 แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 50 08:41:45 จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 08:40:56 ]

ความคิดเห็นที่ 58 .. จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 08:42:14 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ส่วนนี่คือรุ่นเอาต์แบ็ก จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 08:44:31 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ... จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 08:44:56 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ตรงหน้าปัด ที่ยังคงมีอยู่ รูปรถแสดงการเปิดประตู, กระโปรงหลัง ว่าบานไหนเปิดอยู่ เป็นเทคโนโลยี่ตั้งแต่ตอนที่บ้านขับ (ตอนนั้นยังเด็กอยู่) รู่น GFT และ รุ่น ST นี่มันผ่านมาแล้วน่าจะไม่ต่ำกว่า 25 ปี ชอบครับ SUBARU ถ้าเงินถึงก็น่าซื้อใช้ครับ จากคุณ : wirojtee (wirojtee) - [ 20 เม.ย. 50 08:59:43 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ถ้าให้พูดกันในเรื่องของอัตราเร่งแล้ว แม้ทั้ง 2 เครื่องยนต์ จะให้กำลังสูงสุด เท่ากัน แต่แน่นอนว่า เครื่องยนต์ EJ25 ในเอาต์แบ็ก ที่ มีแรงม้าสูงสุด มาในรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำกว่า แถมยังมีแรงบิดสูงกว่า ย่อมให้ตัวเลขสมรรถนะออกมาดีกว่า และให้ความสนุกในการขับขี่สูงกว่า แต่ที่น่าประหลาดใจเล็กๆคือ นานแล้วที่ผมไม่ได้ขับรถยนต์ แบบไม่มีระบบอัดอากาศ แล้วยังสัมผัสได้ถึง แรงดึงแบบหลังติดเบาะนิดๆ อย่างที่เลกาซี 2.0R มีให้ ผมมองว่า ทั้ง 2 ขุมพลัง เพียงพอแล้วต่อการใช้งาน สำหรับคนที่ต้องการรถใช้งานธรรมดา การเร่งแซง ไม่ได้อืดอาดอย่างที่คิดเลย ผมยังเร่งแซง ได้โดยไม่ต้องลุ้นให้ใจหายใจคว่ำแต่อย่างใด ยกเว้นเสียแต่ว่า คุณเป็นคนที่คุ้นเคยกับการขับรถที่ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบ การตอบสนองของคันเร่งไฟฟ้านั้น มีช่วงจังหวะ หยุดคิดนิดนึง พอกันๆ กับ คันเร่งไฟฟ้าของ วอลโว แต่ไม่ยืดยาดเท่ากับคันเร่งไฟฟ้าของโตโยต้า คัมรี ระบบกันสะเทือนยังคงอยู่บนพื้นฐานเดิม หน้า-แมคเฟอร์สันสตรัต หลัง-มัลติลิงก์ ในเลกาซีนั้น ให้ความมั่นใจในการขับขี่ในระดับดีมากๆ คันหนึ่งที่เคยลองขับมา มีความนุ่มนวล แต่ไม่หลุดง่ายๆ อย่างไรก็ตาม ช่วงล่างด้านหลัง จะเซ็ตมาในแนวนุ่ม สไตล์รถที่ขายในญี่ปุ่น บางคนอาจรู้สึกว่า มันยวบๆนิดๆ แต่ เมื่อลองคิดถึงการกระจายน้ำหนักต่างๆแล้ว ต้องถือว่า เหมาะสมกันดีแล้ว ถ้าได้ช็อกอัพคู่หลังให้แข็งขึ้นอีกนิดเดียว โดยรักษาบุคลิกความนุ่มและหนักแน่นไว้แบบนี้ได้ จะยิ่งดีขึ้นไปอีก แม้ยางจะเป็นขนาด 225/40R18 (Dunlop Direnza DZ101) พร้อมล้ออัลลอย 18 นิ้วก็ตาม พวงมาลัย ในรุ่นเลกาซี ตอบสนอง ไว เฉียบคม มีระยะฟรีน้อย น้ำหนักกำลังดี ไม่เบาหรือหนักจนเกินไป ชวนให้นึกถึงพวงมาลัยของ BMW ซีรีส์ 3 (ไม่ใช่ 330i อันมีพวงมาลัยหนักอึ้งนั่น) และ มาสด้า MX-5 หากแต่ เซ็ตการตอบสนองให้ไม่คมจัดเท่า 2 รุ่นที่กล่าวมา ส่วน เอาต์แบ็ก ด้วยเหตุที่ มีความสูงเพิ่มขึ้นจากเลกาซีรุ่นปกตินิดหน่อย ระยะห่าง Ground clearance จากพื้นดินถึงพื้นรถ สูง 200 มิลลิเมตร การเซ็ตช่วงล่างจะมาในแนวนุ่มกว่าเลกาซีอีกเล็กน้อย ส่วนหนึ่งอยู่ที่ ความหนาของแก้มยาง (255/60R16 Yokohama Geolander ที่ผมว่าย้วยไปสักหน่อย) ที่ช่วยเพิ่มสัมผัสให้ผู้ขับขี่รู้สึกถึงความนุ่มนวลกว่า อีกทั้งพวงมาลัย จะถูกเซ็ตให้ มีระยะฟรีเพิ่มขึ้น และตอบสนองต่อการเลี้ยวช้ากว่านิดนึง ทว่า บุคลิกภาพรวม ใกล้เคียงกัน ดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ เสริมเอบีเอส และระบบกระจายแรงเบรก อีบีดี ในเลกาซี ให้การตอบสนองที่ดีมาก เหยียบแค่ไหน รถชะลอลงแค่นั้น และชะลอความเร็วให้ลดลงได้รวดเร็วดี แต่หน้าไม่ทิ่มมากนัก ผิดกับตัวเอาต์แบ็ก ที่จะมีอาการหน้าทิ่มมากกว่านิดหน่อย (แต่ในคัน เอาต์แบ็ก เนื่องจากรถเดโมคันที่ได้ทดลองขับนั้น มีสภาพการใช้งานนานแล้ว ดังนั้น อาจมีความไม่สมบูรณ์ของรถ ในหลายประเด็นอยู่บ้าง เช่น อาการเบรกสึก หรือพวกช่วงล่างที่เริ่มมีอาการสั่นคลอน ) ---------------- จะว่าไปแล้ว เลกาซี กับเอาต์แบ็ก นี่มีอะไรแปลกๆเหมอืนกันนะครับ 1. ก้านไฟเลี้ยว เลกาซี อยู่ฝั่งขวา เหมือนรถญี่ปุ่นทั่วไป แต่ เอาต์แบ็ก อยู่ฝั่งซ้าย เหมือนรถยุโรปทั่วไป?? 2. กระจกมองหลัง เอาต์แบ็ก กระจกมองหลัง ธรรมดาๆ ไม่มีอะไรให้ต้องตำหนิ แต่เลกาซี กระจกมองข้างจะหลอกตาเข้ามาพอสมควร คือ มาในสไตล์รถออสเตรเลีย ที่ชอบทำกระจกมองข้างให้มองเห็นรถอยู่ใกล้เข้ามา มากกว่าความเป็นจริง -------------------------- 4 รูปต่อจากนี้ คือทัศนวิสัยจากมุมคนขับครับ แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 50 09:53:40 จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 09:02:52 ]

ความคิดเห็นที่ 63 .. จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 09:04:31 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ... จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 09:04:53 ]

ความคิดเห็นที่ 65 .. ด้านหลัง การถอยหลัง เสาหลังคาไม่ได้บดบังมุมมองมากนัก จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 09:06:04 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เช่นเดียวกับรุ่นแวกอน แม้บั้นท้ายจะยาวกว่าสักหน่อยนึง แต่ ถอยหลังไม่ลำบาก ไม่เจอการบดบังนัก ซาบ 9-5 ยังมีเสาหลังคา ที่บดบังกว่าด้วยซ้ำ จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 09:07:14 ]

ความคิดเห็นที่ 67 **การทดลองอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง*** เรายังคงทำการทดลองอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงกันเช่นเคย และมาตรฐานเดิม ที่ผมทำมาโดยตลอด คือ ขับที่ความเร็วคงที่ 110 กิโลเมตร/ชั่วโมง เปิดแอร์ นั่ง 2 คน เติมน้ำมัน จากปั้มเอสโซ่ แถวพระราม 6 แล้วขึ้นทางด่วน ไปลงเชียงราก เลี้ยวกลับ ขึ้นทางด่วนที่เชียงราก กลับมาเติมน้ำมันที่เดิม จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 09:11:46 ]

ความคิดเห็นที่ 68 คันเล่ง เลี้ยงง่าย ขับสบาย ไม่เมื่อย และยิ่งในรุ่นเอาต์แบ็ก ที่มี Cruise Control ยิ่งสบายกันไปใหญ่ ล็อกความเร็วให้นิ่งเอาไว้ มาดูอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงกัน Legacy B4 2.0R ระยะทางที่แล่นไป บนมาตรวัด  89.1 กิโลเมตร น้ำมันที่เติมกลับเข้าไป            7.653 ลิตร อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย  11.64 กิโลเมตร/ลิตร --------------- Outback 2.5i ระยะทางที่แล่นไป บนมาตรวัด  90.5 กิโลเมตร น้ำมันที่เติมกลับเข้าไป            7.025 ลิตร อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย  12.88 กิโลเมตร/ลิตร จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 09:19:16 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ***สรุป*** Legacy 2.0R สปอร์ตซีดาน ไม่มีเทอร์โบ ราคา 2 ล้านต้นๆ ถ้าได้ลองขับ คุณอาจจะชอบยิ่งกว่า รถยุโรปประกอบในประเทศ ราคา 2 ล้านบาทปลายๆ จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 09:26:04 ]

ความคิดเห็นที่ 70 Outback 2.5i แวกอนยกสูงที่แรงและประหยัดกว่าที่คิด อเนกประสงค์กำลังดี แต่ยังสู้ วอลโว XC70 ไมได้ ในเรื่องเบาะแถวหลัง [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 09:27:55 ]

ความคิดเห็นที่ 71 เลกาซี เป็นหนึ่งในรถไม่กี่คัน ทำให้ผมประทับใจได้มากขึ้นยิ่งกว่า ที่เคยชื่นชอบเมื่อตอนเปิดดูในแค็ตตาล็อก แม้ว่าช่วงล่างด้านหลัง จะนุ่มไปนิด และอยากได้เครื่องยนต์ เทอร์โบ ที่ให้ความร้อนแรงยิ่งกว่านี้ แต่ เพียงแค่รุ่นมาตรฐาน พร้อมเครื่องเสียงแมคอินทอช ค่าตัว 2,149,000 บาท ผมว่าน่าสนใจมาก! ยิ่งถ้าเปรียบเทืยบกับรถยนต์ในระดับราคาเดียวกันหรือสูงกว่า ถ้ากำลังคิดจะซื้อรถยนตืในระดับ 2 ล้านบาท ทั้ง เชฟโรเลต ลูมินา (1.99 ล้านบาท) หรือจะยกขึ้นเป็น วอลโว S60 (2.4 ล้านบาทโดยประมาณ) ข้ามไปถึง BMW ซีรีส์ 3 (2.8 ล้านบาท) เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาส  (2.8 ล้านบาท) เล็กซัส IS250 (2.8 - 3.4 ล้านบาท) อย่าเพิ่งมองข้าม เลกาซีไป เพาะคิดว่า ศูนย์บริการน้อย เพราะเอาเข้าจริงแล้ว ศูนย์บริการกับผู้จำหน่าย ตอนนี้ มีทั้งหมด 5 แห่ง คือ เสรีไทย (สุขา2) เพชรบุรีตัดใหม่ ติวานนท์ หลวงประดิษฐ์มนูธรรม และเชียงใหม่ นั่นน่าจะเพียงพอในช่วงเริ่มต้นอย่างนี้ ช่วงที่ประชากรซูบารุในเมืองไทย ยังมีไม่มากนัก ไปลองขับก่อนเถอะครับ จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 09:43:42 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ... จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 09:45:51 ]

ความคิดเห็นที่ 73 .. จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 09:46:22 ]

ความคิดเห็นที่ 74 สำหรับเอาต์แบ็ก นั้น ผมกลับมองในมุมที่ต่างออกไปเล็กน้อย ในแง่ของงานวิศวกรรม ซูบารุ ไม่เป็นรองใครอยู่แล้ว สมรรถนะการขับขี่ อัตราเร่ง ความนุ่มนวลในการขับขี่ (แม้ว่าคันที่ขับอยู่นี้ จะแข็งไปสักนิดเวลาเจอคอสะพาน แต่อย่างว่า รถเดโมคันนี้ อายุการใช้งานมันนานมากแล้ว) แต่ถ้าในด้านความอเนกประสงค์ของห้องโดยสาร ที่รองรับความต้องการของสมาชิกในครอบครัว เอาต์แบ็กเดิม ยังสู้ วอลโว XC70 ไม่ได้ โดยเฉพาะ เบาะแถวหลัง ของวอลโว ที่มีลูกเล่นเยอะกว่า แถมมีเบาะรองนั่ง ที่สามารถปรับยกขึ้นมาเป็นเบาะนิรภัยสำหรับเด็กได้ และยังพลิกชุดเบาะตรงกลาง ให้กลายเป็นโต๊ะวางของ วางแก้ว ได้เยอะมาก ในตอนเปิดตัว ทั้งคู่ ขายในราคาไล่เลี่ยกัน ตอนนี้ ราคา ของเอาต์แบ็กมาหยุดที่ 2,799,000 บาท แต่ ในเมื่อ ตอนนี้ วอลโว เลิกทำตลาด XC70 ในไทยไปแล้ว คงเหลือแค่ V70 ทั้งเบนซิน 2.0 และ ดีเซล D5 ขับล้อหน้า ดังนั้น ความน่าสนใจของเอาต์แบ็ก จึงเพิ่มขึ้นในทันที และยิ่งถ้ารุ่นปี 2007 มาถึง พร้อมเครื่องเสียง แมคอินทอช เมื่อไหร่ ก็ยิ่งน่าสนใจเพิ่มขึ้นเท่านั้น [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 10:10:25 ]

ความคิดเห็นที่ 75 พี่จิมครับ  ถ้าพี่แวะๆมาแถวๆสนามบินอีกลองแวะมาถ่ายรูปที่แถวๆสนามกีฬา ของพระจอมเกล้าฯลาดกระบังบ้างนะพี่  ผมว่าบรรยากาศดีนะครับ โฆษณาตัวล่าสุดที่เค้าถ่ายไปแล้วออนแอร์ก็ ทรอสที่เป็นสเปรย์ระงับกลิ่นตัวอ่ะ จากคุณ : hippozang - [ 20 เม.ย. 50 10:12:04 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ไว้ถึงตอนนั้น ถ้าจะหาโอกาส ลอง เอาต์แบ็ก อีกสักครั้งนึง ก็คิดว่าน่าจะเห็นอะไรที่ดีขึ้นกว่ารุ่นปัจจุบัน จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 10:13:57 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ขอขอบคุณ คุณอภิชัย ผู้จัดการฝ่ายขายและฝ่ายการตลาด รวมทั้งคุณเปิ้ล ประภาพรรณ บริษัท มอเตอร์ อิมเมจ ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด สำหรับความเอื้อเฟื้อในครั้งนี้ จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 10:30:42 ]

ความคิดเห็นที่ 78 .. จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 10:32:04 ]

ความคิดเห็นที่ 79 .... จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 10:42:02 ]

ความคิดเห็นที่ 80 .. [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 10:43:21 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ... จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 10:44:15 ]

ความคิดเห็นที่ 82 .. [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 10:49:43 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ...รายการต่อไป ลัดคิว สายฟ้าแลบ Toyota PRIUS สิ่งเดียวที่ผมกลัวคือ.... ผมจะขับมันยังไงละเนี่ย?? แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 50 10:55:42 แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 50 10:55:10 จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 10:52:01 ]

ความคิดเห็นที่ 84 .. [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 10:56:28 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ... จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 10:57:26 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ...จบแล้วครับ ขอบคุณที่ติดตาม... จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 10:58:01 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ... จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 10:58:22 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ...จบแล้วครับ ขอบคุณที่ติดตาม... จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 10:59:46 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ขอบคุณนะครับสำหรับรีวิว มาราธอนมากๆ  01:03:07 - 10:59:46 9 ชั่วโมง แม้จะมีแว๊บไปพักผ่อนบ้าง จากคุณ : หมูน้อยเบอร์7 - [ 20 เม.ย. 50 11:00:59 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ขอบคุณครับ จากคุณ : al50ในตำนาน - [ 20 เม.ย. 50 11:04:01 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ยอมรับว่า งวดนี้ ไม่ไหวครับ ขืนไมได้นอนเลย ผมจะขับรถไม่ไหว เลยต้องยอมนอน แล้วมาต่อตอนเช้าให้จบ อีกอย่างคือ วันที่ผมรับเจ้า เอาต์แบ็กมา ขับๆอยู่ รู้สึกว่า มันรุมๆ เหมือนจะเป็นไข้ แล้วก็จริง คือ เริ่มเป็นไข้อ่อนๆ ตอนจะทดสอบอัตราเร่ง เลยตัดสินใจ ทดสอบให้เสร็จ เพราะยังมีสติ ไหวอยู่ ตกดึกกลับบ้าน ทีนี้ ก็ ซัดพาราเข้าไป 2 เม็ด   ตื่นขึ้นมา ไข้เพลาๆลงบ้าง แต่พอขึ้นไปนั่งเจ้าเอาต์แบ็กอีกครั้ง รู้สึกเมหือนไข้มันจะกลับ อาจเพราะผม ไวต่อ กลิ่น และ พอดีว่า เผลอไอแรงๆ ไปครั้งนึง รู้สึกว่า น่าจะไปเปิดเผลในลำคอ ทำให้เชื้อไวรัส มันเลยเข้ามาโจมตีได้ เมื่อคืน ซัดพาราไปอีก 2 เม็ด ทำกระทู้ไป สัปหงกไป แก้ไขข้อความกันไป แล้วก็ไม่ไหว ไปนอนพักยาวๆ ตื่นนึง เช้านี้ เลยพร้อมละ ไม่มีปัญหาหลับในแน่นอน ที่นอน? ห้องรับแขก...แหะๆ แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 50 11:11:08 จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 11:04:29 ]

ความคิดเห็นที่ 92 โห.....ตี 1 ยัน 11 โมง  วันนี้คุณ JIMMY เป็นหมีแพนด้าแน่ๆ... ขอบคุณครับ...อยากขับม่างจังเลย... ลป. มีคำถามครับ ไอ้ช่องที่อยู่ที่กันชนท้ายในรุ่น ซีดาน มันมีไว้ทำอะไรครับ...คือเข้าใจว่า ซูบารุ ไม่น่าจะทำอะไรเพียงเพื่อต้องการความสวยงาม.... จากคุณ : ชื่อมีเป็นพัน ดันมาซ้ำกันได้ - [ 20 เม.ย. 50 11:04:49 ]

ความคิดเห็นที่ 93 เพื่อความสวยงามเป็นหลักครับ จากคุณ : JIMMY - [ 20 เม.ย. 50 11:12:52 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ขอบคุณคร๊าบ... จากคุณ : paemywaymylife - [ 20 เม.ย. 50 11:13:47 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ขอบคุณครับ น่าลองแหะ  อิอิ จากคุณ : BIZZARE - [ 20 เม.ย. 50 11:35:20 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ขอบคุณครับ ^^ จากคุณ : LoLinEo - [ 20 เม.ย. 50 11:39:33 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ขอบคุณครับ จากคุณ : Still Loving You - [ 20 เม.ย. 50 11:47:05 ]

ความคิดเห็นที่ 98 เห็นแล้วนึกถึง IS250 หน่อยๆ เลย จากคุณ : NNY - [ 20 เม.ย. 50 11:51:30 ]

ความคิดเห็นที่ 99 โห กระทู้อ่านแบบมาราธอนเลย ได้ความรู้ดี ขอบคุณครับ จากคุณ : tibby - [ 20 เม.ย. 50 12:14:16 ]

ความคิดเห็นที่ 100 เย้....รอ Sti นะก๊าบบบบบ จากคุณ : ตี้ ณ ถลุง - [ 20 เม.ย. 50 12:15:54 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ขอบคุณครับ จากคุณ : bomz - [ 20 เม.ย. 50 13:23:39 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ขอบคุณครับสำหรับรีวิวดีๆ จากคุณ : noynui - [ 20 เม.ย. 50 13:26:51 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ขอบคุณครับ จากคุณ : REX-REX - [ 20 เม.ย. 50 13:32:51 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ขอบคุณมากครับ น่าสนใจเเฮะ จากคุณ : Lecter the Ripper (Lecter the Ripper) - [ 20 เม.ย. 50 14:00:08 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ขอบคุณคับ จากคุณ : องครักษ์พิทักษ์สาวๆ - [ 20 เม.ย. 50 14:05:57 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ขอบคุณครับ จากคุณ : A.R.T. - [ 20 เม.ย. 50 14:25:47 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ขอบคุณมากๆครับ พี่จิมคุง... จากคุณ : - (tuck2499) - [ 20 เม.ย. 50 14:50:20 ]

ความคิดเห็นที่ 108 งามหยด.... ถ้าเหลือซัก ล้านกว่า ๆ คงขายดีแน่ ๆ จากคุณ : Phat boy slim - [ 20 เม.ย. 50 15:32:08 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ขอบคุณครับ อ่านจบแล้วอยากได้จัง อีก 5 ปี จะยังมีเหลือมือหนึ่งขายไหมหนอ จากคุณ : SubZero Cool - [ 20 เม.ย. 50 15:42:10 ]

ความคิดเห็นที่ 110 เยี่ยมเลยครับ ขอบคุณมาก จะรอดู Prius ต่อ อิอิ... จากคุณ : sLiimFit - [ 20 เม.ย. 50 15:48:37 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ตัว 2.0 วิ่ง 0-100 สู้ Vios ตัวที่แล้วไม่ได้หรอ แล้วเร่งแซงสู้ได้หรือเปล่าเนี่ย จากคุณ : ton99 - [ 20 เม.ย. 50 16:00:10 ]

ความคิดเห็นที่ 112 ขอบคุณมาก จากคุณ : บั้งไฟลาว - [ 20 เม.ย. 50 16:13:03 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ขอบคุณสำหรับบทความคุณภาพอีกแล้วครับท่าน ถ่ายรูปออกมาได้สวยมาก จากคุณ : ขี้ก้างแมน (kekangman) - [ 20 เม.ย. 50 16:27:06 ]

ความคิดเห็นที่ 114 กิเลสมาทันที มีศูนย์ 5 แห่งเองเหรออะ เดี๋ยวเชียร์น้าให้ซื้อดีกว่า จากคุณ : เงินเดือนสามพันขับวอลโว่ - [ 20 เม.ย. 50 17:41:17 ]

ความคิดเห็นที่ 115 Legacy สีขาวกับฉากหลังเป็นสุวรรณภูมิสวยมากๆ เป็นรถญี่ปุ่นเพียงไม่กี่คันที่ผมประทับใจมากๆ จากคุณ : Pholathee - [ 20 เม.ย. 50 17:50:03 ]

ความคิดเห็นที่ 116 เลกาซีเป็นรถที่เฟิร์มมากๆเฟิร์มจริงๆขอยันด้วยคน จากคุณ : น้องชายคนเล็ก - [ 20 เม.ย. 50 19:12:30 ]

ความคิดเห็นที่ 117 สวยมากครับ ชอบๆ แต่ ข้างๆ เหมือน optra ข้างหลังเหมือน focus จัง 555 เครื่องเสียง McIntosh เครื่องเล่น DVD Pionner และ จอภาพ JVC อิอิ น่าคิดจังเลย ทำไม 0-100 มันถึงช้าขนาดนั้น จากคุณ : napatds - [ 20 เม.ย. 50 19:35:59 ]

ความคิดเห็นที่ 118 Legacy ทำไมดูอัตราเร่งค่อนข้างอืดนะครับ แต่ชอบรูปทรงมากเลย สวยบาด 2ล้านนี่ คุ้มคัรบ จากคุณ : Joddy - [ 20 เม.ย. 50 20:46:13 ]

ความคิดเห็นที่ 119 ผมตะหงิดๆกับไอ้จอระบบนำทางนี่แหละ มันดูไม่ลงตัวยังไงก็ไม่รู้ แถมมาที3ยี่ห้อเลย ดูแล้วมันไม่ค่อยจะเข้ากันเท่าไร ถ้าผมซื้อ ขอ mcintosh ตัวเดียวพอแล้วหละ 5 5 5 จากคุณ : แมวตัวอ้วนๆเดินตกท่อ - [ 20 เม.ย. 50 20:49:44 ]

ความคิดเห็นที่ 122 ผมว่าคุณอู่ฉิง ก็เอามาตรฐานตัวเองตัดสินคนอื่นเหมือนกันนี่ครับ มาตรฐานจากความชอบรถยนต์ไม่ใช่ สวยหรือต้องชะตาตั้งแต่แรกพี่เขาก็บอกเหตุมาให้เสร็จสรรพแล้วนี่ครับว่าทำไมถึงเป็นรุ่นที่ควรมีอยู่ในลิสต์ ทุกอย่างมีเหตุและผลรองรับกับคำพูดครับ คุณไม่ชอบก็ไม่เห็นเป็นไรแต่อย่าเสียดทานแบบเหมาเอามาตรฐานตนเองตัดสินใจ จากคุณ : HOMY DEMIO sport mpv - [ 20 เม.ย. 50 21:18:25 ]

ความคิดเห็นที่ 124 ผมไม่ชอบคุณอู๋ฉิงครับ เป็นความเห็นของผม สิทธิของผมครับ จากคุณ : @ฟ้าหม่นไปใกล้ย่ำค่ำ@ - [ 20 เม.ย. 50 21:49:20 ]

ความคิดเห็นที่ 125 คนใช้ Subaru เรื่องอืดไม่สำคัญหลอกครับ ได้feelingในการขับขี่ก็ไม่รู้จะคุ้มยังไงแล้ว  เบื่อๆ อยากแรงก็สั่ง หัวตัด (B4) Legacy turbo  2.0 Gt  250 HP เกียร์ Tip เปลี่ยนที่พวงมาลัย หรือ อยากได้ Legacy Sti 280 Hpเกียร์ธรรมดา  ของครบๆ มาถึงก็ย้ายง่ายๆไม่ต้องดัดแปลง ในราคาไม่กี่แสน   ถูกกว่าคุณซื้อตัว Turboที่ขายในบ้านเราเยอะ   ปล.  ก่อนใครจะชม หรือตำหนิ ติเตียนอะไรขอร้องได้โปรดไปสัมผัส หรือรู้แจ้งเห็นจริงก่อน...... อย่างคุณJIMMY ได้สัมผัส SUBARU  ถึงเค้าจะกล้ามารีวิวให้เราๆ ท่านๆ อ่านครับ    (SUBARUไม่เหมือนรถอื่นครับ  ไม่ลองขับก็จะไม่รู้หลอกว่าSUBARUคืออะไร อย่าพูดแค่ว่าเค้าบอกว่าเป็นรถอย่างนู้น อย่างนี้  หรือฟังคนที่ไม่เคยใช้ หรือไม่ใช้เจ้าของรถพูด) จากคุณ : user (subee) - [ 20 เม.ย. 50 22:12:06 ]

ความคิดเห็นที่ 126 กลับจะกลายเป็นกระทู้กัดกันซะงั้น เฮ้ออออออ!!! เอาเป็นว่า สิทธิของใครก็ของมันแล้วกันนะ ใช้ให้มันถูกที่ถูกเวลาก็แล้วกัน ปล.รถสวยมาก จากคุณ : เดวี่ ครอกเก็ต - [ 20 เม.ย. 50 22:13:13 ]

ความคิดเห็นที่ 127 มาอีกละ พวกวิจารณ์คนอื่นได้ แต่คนอื่นวิจารณ์กลับ มันรับไม่ได้ ถ้า Legacy ราคานี้ กับสมรรถนะขนาดนี้ บอกว่ารอชาติหน้าค่อยเสียเงินซื้อ ก็คงได้ซื้อชาติหน้าจริงๆ แหละ เพราะรถดีราคาถูกแบบอิตาลีคาร์บู ขึ้นต้นด้วย อ. คงหาไม่ได้อีกแล้วในขณะนี้ จากคุณ : Nuay_Int86 - [ 20 เม.ย. 50 22:25:09 ]

ความคิดเห็นที่ 128 ผมอ่านอย่างเดียวพอครับ ดีกว่าคนบางคนอ่านแล้วมีอคติแล้วต้องรีบโชว์พาว อยากรู้จริงๆว่าคุณจะไปเอารถออกมาได้เป่า ได้มีบุญขับรถตั้งแต่ราคาไม่กี่แสนยันนั้งรถคันล่ะ 23 ล้าน เป่าครับ ออกเงินค่าน้ำมันทำแบบไม่ไปขอค่ายรถได้ไหมครับ เขียนไปตามสิ่งที่เห็นได้เป่าครับ ลงทุนถ่ายรถและหาเวลามานั้งโพสให้อ่านฟรีๆได้ไหมล่ะครับ ถ้าทั้งหมดคุณตอบว่า ไม่สามารถ คนอย่างคุณก็โพสไปเสียเนื้อที่ฮารด์ดิสระบบของเว็ปเค้าเปล่าครับ คิดดูดีๆนะครับ อายุคงไม่ใช่น้อยแล้วอย่าทำตัวเหมือนคนไร้ความคิดนะครับ จะไม่ชอบไม่สนใจไม่มีใครว่าหรอกครับ แต่อย่าโชว์ความล่างของคุณออกมาให้มันฆ่าตัวคุณเองดีกว่านะครับ โชคดีต่อโลกเบี้ยวๆใบนี้นะครับ จากคุณ : Max. - [ 20 เม.ย. 50 22:31:29 ]

ความคิดเห็นที่ 129 สวยครับ Impยิ่งสวยกว่าครับ ถ้ามีเงินสองล้านก็น่าซื้อครับ ถ้าไม่มีเงินก็คงต้องรอชาติหน้าครับ คนอื่นที่ชอบเหมือนคุณ Jimmy มีเยอะครับ จากคุณ : Shnause - [ 20 เม.ย. 50 23:00:26 ]

ความคิดเห็นที่ 130 12วิกว่าๆสำหรับอัตราเร่งในตัวsedan 2.0Rนั้นมันมีที่มาที่ไปแหละครับ จริงๆผมว่ามันก็สมควรจะได้แบบนั้นแหละครับ สำหรับรถที่พละกำลังใกล้เคียงCivic 2.0 แต่ต้องแบกน้ำหนักมากกว่ากันเยอะมาก  แถมล้อขนาด18นิ้วที่เท่ห์แต่ออกจะเกินแรงของรถไปหน่อย ถ้าจะเทียบ คงเทียบได้ประมาณTeana 2.0 กับ Accord 2.0มั้งครับ จะช้ากว่าหรือเร็วกว่าก็คงไม่มากนัก อยู่ในข่ายที่ไม่อืดไปกว่าความสามารถเฉลี่ยของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลส่วนใหญ่บน ท้องถนนหรอกครับ ถ้าคุณขับJazz,Vios, Civic ES1.7ได้แล้วไม่คิดว่ามันอืด Legacy 2.0ก็พอๆกัน เพียงแต่มันไม่ได้กินน้ำมัน15กิโลลิตรแบบรถเหล่านั้น แต่ซูบารุชดเชยค่าน้ำมันกับค่าตัวด้วยคุณภาพวัสดุ การประกอบ และการเก็บเสียงที่ทำได้ดีมากสำหรับรถที่ประตูไม่มีกรอบกระจกแบบนี้ และก็อย่าปล่อยให้อัตราเร่งที่ดูแสนจะธรรมดาหลอกให้คิดว่ารถคันนี้ไม่มีอะไร ถึงแม้แรงจีที่กดหลังติดเบาะจะน้อย แต่แรงจีซ้าย-ขวา-ดึงไปข้างหน้า หลอกให้นึกว่าเป็นสปอร์ตซีดานได้ทีเดียวแหละ มุมมองส่วนตัวที่ผมคิดว่าอยากแนะนำสำหรับซูบารุก็คือในตลาดรถกลุ่มนี้ผมคิดว่า ลูกค้าคงต้องการตรงที่รูปทรงของรถที่ตัวเองชอบ ชอบอุปกรณ์ภายในที่ตรงตามแบบที่ตัวเองอยากได้ อย่างของLegacyก็คือโทนทะมึนออกสไตล์เทคโน และเป็นกลุ่มที่ัขับรถเหมือนคนปรกติทั่วไป อาจจะติดตามเรื่องรถ รู้เรื่องรถ เล่นรถ (ถ้าไม่ใช่คนประเภทนี้ก็คงยากที่จะหันมาสนซูบี้) แต่อาจจะไม่รู้จักว่าคลอง5 คืออะไร ถ้าลูกค้าเป็นกลุ่มแบบนี้ผมยังคิดอยู่ว่าเป็นไปได้ไหมถ้าเราจะup เครื่องให้เป็น2.5ลิตร ไม่ต้องมีระบบอัดอากาศในรุ่นsedan และไม่ต้องมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อก็ได้ เพราะสำหรับหลายท่านคงแทบไม่ได้ใช้ และพลังขนาดนี้ไม่ได้มากมายขนาด ที่ว่าระบบขับเคลื่อนล้อหน้าอย่างเดียวจะรับไม่อยู่ ผมอาจจะตกข่าวไป เพราะผมไม่รู้เหมือนกันว่าเดี๋ยวนี้ซูบี้ยังทำเก๋งขับหน้าอยู่หรือเปล่า หรือว่าต้องเป็น symmetrical AWDหมด แต่ถ้ายังทำขับหน้าอยู่ผมว่าก็น่าสน เพราะเปลืองแรงเครื่องน้อยกว่า เปลืองน้ำมันน้อยกว่า และเสียภาษีแบบรถขับเคลื่อนสองล้อ ซูบารุบ้านเรายุคใหม่มีภาพลักษณ์เป็นของเล่นของคนรู้เรื่องรถ ของเล่นของคนแรง คนใช้รถทั่วไปอย่าแตะ(บางคนชอบพูดอย่างงั้น) ทั้งๆที่ความจริงในประเทศอื่นๆซูบารุที่เป็นรถบ้านก็มี อเมริกาเพิ่งรู้จักSTi Turboก็เมื่อไม่นานมานี้ เกาะอย่างฮาวายหาทางวิ่งยากจะตายชักยังมีImprezaไ้ร้เทอร์โบวิ่งทั่วไปบนเกาะ โอวาฮูและเมาวี ผมอยากเห็นซูบารุในไทยวางตัวเองอยู่ระหว่างตลาดรถทั่วไป และตลาดพรีเมียม แต่อาจจะค่อนมาทางรถทั่วไปซะหน่อยในเรื่องราคา เพราะที่เมืองนอกซูบารุเป็น bang for the buck แต่ที่เมืองไทยรู้สึกว่า ต้อง rob the bank for the buck to buy a car. อย่างLegacyที่ผมชอบมากในเรื่องการออกแบบทุกสัดส่วนเป็นการส่วนตัว แต่สำหรับพลัง2.0ลิตร ผมว่ายังน้อยเกินกว่าที่จะสั่งอัตราเร่งได้ดังใจนึก ถ้าใครเท้าหนักเท่าผมคงต้องไปมองรุ่น turboที่มี245แรงม้า ซึ่งจะไม่อืดแน่นอน (และถ้าอยากเสกจาก245เป็น285ก็ไม่ยากเลย) แต่ต้องปล้นแบงค์ไปแลกด้วยราคา3.95ล้านบาท ผมว่่าหลายท่านต้องบอกว่าแพงเป็นบ้า และถ้าบอกว่าราคามันเท่าๆกับ E200Kompressorด้วยแล้วล่ะก็..งานนี้ผู้ใหญ่คิดกันนานครับ อยากรู้ว่ารุ่นเทอร์โบเป็นยังไง เดี๋ยวตาจิมก็คงเอามาบอกกันแหละครับ จากคุณ : หมีไฟฟ้า (V.Putin) - [ 20 เม.ย. 50 23:08:58 ]

ความคิดเห็นที่ 131 ขอบคุณครับคุณ JIMMY จากคุณ : ปอ.2 - [ 20 เม.ย. 50 23:29:58 ]

ความคิดเห็นที่ 132 ผมพอจะดูออก แล้วก็เข้าใจ subaru ไทย ว่า เข้าใจเลือก IMC แบบราคาถูก โดยลงทุนนิดเดียว แต่คนอ่านมีมาก ตรงกลุ่มเป้าหมายซะด้วย โดยการให้ Jimmy มา รีวิวในรัชดา เรียกว่า win-win กันทุกฝ่าย motor image ลงทุนน้อย ได้ผลดีตรงเป้าหมาย Jimmy มีผลงานติดตัวเพิ่มอีกหนึ่งคัน เส้นสายในวงการเพิ่มขึ้น เป็นที่ยอมรับในรัชดามากขึ้น คนอ่าน ได้อ่านฟรี แต่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ต่อให้มารีวิวกันทุกรุ่นในเนทโดย Jimmy ต่อให้พลิกแพลงการตลาดยังไง เอารุ่นนั้น รุ่นนี้มาขาย คิดให้หัวทะลุ แบบความเห็นข้างบนที่แนะนำ ต่อให้เปิดๆปิดๆ showroom ดังที่เห็นๆกันมาสี่ห้าปีที่ผ่านมา subaru ในไทย ก็ทำได้แค่นี้แหละครับ ยอดขายเรี่ยดินต่อไป ตราบใดที่ราคาขายยังแพงระยับเช่นนี้ คนซื้อเค้าไม่สนหรอกว่า โดนภาษีแพง เค้าสนแค่ว่า เงินสองล้านกว่า ได้รถญี่ปุ่นกิ๊กก๊อก option ต่ำ แรงม้าน้อย สู้ไปควบ camry ตัว top มิดีกว่ารึ option เพียบ แรงกว่าอีก 0 บริการตรึม อะใหล่ถูกกว่า หาง่ายกว่า คนส่วนใหญ่ไม่ได้สาดโค้งกันทุก 10 นาที camry ก็เหลือๆ สรุป subaru ในไทย เป็นรถ ไร้อนาคต ต่อไปครับ จากคุณ : โปรดฟังอีกครั้ง - [ 20 เม.ย. 50 23:43:22 A:125.24.167.213 X: TicketID:134033 ]

ความคิดเห็นที่ 133 ขอบคุณครับคุณจิมมี่ ในความเห็นผม ถึงคุณจิมมี่จะมีข้อเสียอยู่ และผมก็ไม่ชอบข้อเสียนั้น.. แต่ความดีนั้นมีมากกว่ามาก โดยเฉพาะความดีที่เป็นประโยชน์ต่อ "รัชดา" เหมือนในกระทู้นี้..  จะดีจะเลวอย่างไร คุณก็ยังได้สร้างประโยชน์ให้กับสังคมแห่งนี้มามากพอสมควร..  ขาดคุณจิมมี่ไป "รัชดา" ก็คงจะหงอยไปน่าดู..  อย่างให้มีคนทำแบบคุณจิมมี่เยอะๆ จังเลย... จากคุณ : SeeFaa555 - [ 20 เม.ย. 50 23:43:26 ]

ความคิดเห็นที่ 134 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 21 เม.ย. 50 00:12:58 ]

ความคิดเห็นที่ 135 อ้าว ลบความเห็น ของผมด้วยเหรอ อะไรกันเนี่ย แค่พยายามจะบอกว่า Subaru Thai ทำยังไงก็ไม่ไปใหนหรอก ยอดขายก็ต่ำติดดินต่อไป Legacy รถ ไม่มีอนาคต แค่นี้ถึงกับลบ #132 เจริญซะ จากคุณ : โปรดฟังอีกครั้ง - [ 21 เม.ย. 50 07:01:18 A:125.24.167.213 X: TicketID:134033 ]

ความคิดเห็นที่ 136 ถ้า Jimmy ไม่ได้ทำการแจ้งลบความเห็น #132 แต่เป็นพรรคพวกคุณ ผมว่า "พรรคพวกคุณ" จะพากันทำให้ Jimmy แปดเปื้อนนะเนี่ย เหตุผลหนึ่งที่รัชดาจะเสื่อม ก็เพราะการกระทำของพรรคพวกคุณเนี่ยแหละ จากคุณ : โปรดฟังอีกครั้ง - [ 21 เม.ย. 50 07:04:18 A:125.24.167.213 X: TicketID:134033 ]

ความคิดเห็นที่ 137 ถ้าประเมินง่ายๆๆแบบผมที่ไม่ค่อยรู้เรื่องรถมาก และผมก็คิดว่ามีคนอีกเยอะที่ไม่ค่อยรู้จัก รู้จักแต่ brand ดังๆๆ ก็เยอะ ผมว่าต่อให้รถรุ่นนี้ดีมากแค่ใหน เหมือนmuranoนั่นแหละ ลดราคา เยอะๆๆ ก็ไม่รู้จะมีคนซื้อซักกี่คน  เช่น subaru เหลือซักล้านกว่า ผมก็ไม่เอา เหมือนcamry กับ teana  เพราะขึ้นกับความชอบมากว่าอย่างอื่น ถ้าไม่เลวงร้ายมาก จนเกินไป พอยอมรับได้ในอย่างอื่น ผมก็เอา camry ครับ ความคิดเห็นส่วนตัวครับ จากคุณ : smecta - [ 21 เม.ย. 50 07:40:49 ]

ความคิดเห็นที่ 139 งามงด ^^ แต่ราคากระแทกจายยย T__T จากคุณ : MoChiRo - [ 21 เม.ย. 50 10:32:50 ]

ความคิดเห็นที่ 140 คงต้องสร้างแบรนด์อิมเมจ อีกเยอะครับ เพราะมีอีกหลายๆ คน ที่ยังรู้สึกว่า ขับ Camry / Accord เท่ห์กว่า Legacy แล้วอีกหลายๆ คนที่มาดู Legacy บอกว่า ราคา 2 ล้านไม่เห็นหรูเลย!!!!! สมรรถนะไม่ต้อง "หรู" อย่างเดียวเท่านั้น รถในเมืองไทยมันราคาสูงคับ ถ้าเทียบกับ รายได้คนไทย การซื้ออะไรสักอย่างต้องคุ้มค่าที่สุด โดยส่วนใหญ่จะเน้นหรูเป็นหลัก ซึ่ง ซูบารุ ไม่มีให้ครับผม จากคุณ : FyGI - [ 21 เม.ย. 50 11:24:52 ]

ความคิดเห็นที่ 142 คนบางพวกก็มองเห็นแค่สิทธิของตัวเอง แล้วก็คิดว่านั่นคือทั้งหมดของระบบ ไม่มีปัญญาคิดให้มากกว่านี้ก็อย่ามาทำตัวป่วนเว็บเลยครับ ไปอยู่ในสังคมที่คุณต้องการเถอะ เห็นกระทู้จิมมี่ก็อย่าพยายามเข้ามาดูเลย เพราะคุณก็คงอารมณ์เสียอยู่เรื่อยไป ขอบคุณ JIMMY ครับ ที่สละเวลา ทรัพย์สินส่วนตัว เพื่อทำรีวิวมาให้ชมกัน มือก็พาย เท้าก็ไม่ราน้ำ จากคุณ : iNFeRNaL - [ 21 เม.ย. 50 12:52:36 ]

ความคิดเห็นที่ 143 ........คุณ JIMMY คุณไม่โต้ตอบ ผมว่าดีและถูกต้องแล้วครับ ****************************** ............. คุณอู๋ฉิง จะบอกอะไรให้ครับ ....... ****** คุณยิ่งโพสต์ คุณจะยิ่งแพ้ครับ...******* จากคุณ : เย็นลมเหนือ - [ 21 เม.ย. 50 13:26:37 ]

ความคิดเห็นที่ 144 ยิ่งโพสเยอะก็ยิ่งน่าสงสาร จากคุณ : FyGI - [ 21 เม.ย. 50 13:59:25 ]

ความคิดเห็นที่ 145 รูปสวยเช่นเคย   รถก็สวย หึหึ  แผงหน้าปัดเป็นสิ่งที่ชอบสุดๆ  มันเป็นอะไรที่สวยเอามากๆ  ชอบบบบ  ส่วนเรื่องคุณอู๋ฉิงนั้น  ผมว่าคุณจะวิจาร์ณว่าดีหรือไม่อย่างไรก็ไปลองขับด้วยตัวเองก่อนดีกว่าครับ  ส่วนชอบหรือไม่ก็สิทธิส่วนตัวครับ  คนเรามีความเห็นและความชอบไม่เหมือนกันทุกคนนี่นะ  แต่ผมดูเป็นผมชอบแล้ว  ถ้าขับดีอีกคงไม่ยอมคืนเหมือนกันแหละ หึหึ  อยากดูริวิว Lexus  IS250 มั่งจัง  เจอตัวจริงสวยมากๆๆเลยง่ะ  ดูแล้วไงๆก็สวยกว่า บีเอ็ม ซีรีย์ 3 อีก เหอๆ จากคุณ : Zejuro - [ 21 เม.ย. 50 15:27:57 ]

ความคิดเห็นที่ 147 น่าเวทนา "อ น่าเวทนา "อู๋ฉิง" จากคุณ : Mangpor number 14 - [ 21 เม.ย. 50 16:01:40 ]

ความคิดเห็นที่ 148 สวิทช์  P ตรงคอพวงมาลัยนั้นเป็น Parking Lamp ครับ ไฟหน้ารถ Subaru จะดับเมื่อถอดกุญแจออก  เป็นการป้องกันการลืมเปิดไฟทิ้งไว้ หากต้องการเปิดไฟหรี่ เพื่อจอดรถในที่เปลี่ยวยามค่ำคืน ให้เปิดสวิทช์ P นี้ครับ  ไฟหรี่หน้าหลังจะติด โดยไฟหน้าปัด และไฟส่องป้ายทะเบียนจะไม่ติดด้วย จากคุณ : Compromiser - [ 21 เม.ย. 50 19:02:00 ]

ความคิดเห็นที่ 149 1. เห็นด้วยกับคุณอู๋ฉิงว่า บางคนอาจจะไม่ชอบ และคุณจิมมี่อาจจะชอบ 2. ไม่เห็นด้วยกับการปาด เพราะทำให้การอ่านเสียอรรถรสและ เห็นใจคุณจิมมีที่นั่งทนโพสอยู่ แล้ว งานกลับออกมาไม่สมบูรณ์ได้เพราะไอ้พวกชอบปาด แถม คุณจิมมี่ได้บอกไป 2 รอบแล้ว ล่างๆ ก็ยังมีอีก เฮ้อ.. 3. เจ้า outback เนี่ย ผมชอบนะ แต่เจ้าเลกาซี่ นี่ ผมมองว่าข้างนอกมันจืดมั่กๆ เลย คอนโซลกลาง เรียบหรูทันสมัยโอเคครับ แต่ 2.7 ล้าน นี่เกินฐานะมั่กๆ ขอ แค่ชมพอ จากคุณ : กะต่อ - [ 21 เม.ย. 50 19:24:52 ]

ความคิดเห็นที่ 151 ^ ^ ผมไม่ได้พูดสักคำว่าโง่ กรุณาอย่ากล่าวหา หรือยัดเยียดอะไรให้ผม จากคุณ : กะต่อ - [ 21 เม.ย. 50 19:52:22 ]

ความคิดเห็นที่ 152 สวยอะพี่จิมมี่ O_o!!~ ...แต่ราคานี่ไม่ไหวจริงๆ งิๆๆ เรื่อง ปาดกระทู้นี่ ผมก็ไม่เห็นด้วยนะครับ เพราะอรรถรสในการชมจะลดลง ซึ่งพี่จิมมี่ก็ได้พิมพ์บอกไปแล้วด้วย สำหรับเรื่องที่พี่จิมมี่บอกว่าดีอย่างโน่น ดีอย่างนี้สารพัดนานา ก็เพราะ พี่ได้สัมผัสและทดสอบรถคันนั้นๆแล้ว และนำมาบรรยายถึงความรู้สึกที่ได้สัมผัสมาว่าเป็นอย่างไร เรื่องซื้อคันนั้นโง่ คันนี้โง่ ผมว่ามันอยู่ที่รสนิยมและความชอบของบุคคลนั้นๆ คนไม่มีเงินอาจบอกได้ว่าคนซื้อเบนซ์โง่ ทำไมไม่ซื้อโตโยต้าแทน ฯลฯ อะไรประมาณนี้ ซึ่งทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับตัวเราทั้งนั้น ถ้ารถคันนั้นซื้อมา หรือใช้แล้วชอบทุกอย่างก็ดีหมดอะครับ เรื่องชื่อกระทู้นั้น มันไม่เกี่ยวอะครับ เพราะที่เข้ามาก็รอชมรีวิวที่พี่เค้าอุตส่าห์ทำมาให้ชมกัน ซึ่งเป็นประโยชน์แกเราๆในการเลือกใช้และประกอบการซื้อรถ หรือเพื่อชมรถที่เราชื่นชอบแต่สถานะการเงินไม่เอื้ออำนวย เรื่องสิทธินั้นถูกต้องครับ ทุกคนมีสิทธิ แต่สิทธินั้นก็ต้องอยู่ในกรอบที่ควรด้วย ไม่ใช่ว่าอะไรๆก็สิทธิๆ นะครับ ยังไงก็แล้วแต่นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวทั้งสิ้น มีอะไรต้องพิมพ์อีกไหมหว่า? ...น่าจะไม่มีแล้วมั้ง =___=;; จากคุณ : dsเด็กป้อมsc - [ 21 เม.ย. 50 21:37:20 ]