ความคิดเห็นที่ 1 ผมคิดเหมือน จขกท. ครับ อยากให้ผู้รู้จริงมายืนยัน ไม่ได้อคติ แต่ผมว่ามันทะ:-)ๆ จากคุณ : Dr. Doggy - [ 29 เม.ย. 50 12:07:44 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ผมเชื่อตัวเองนะ ... ลองกับรถที่บ้าน 2 คัน ความเห็นเหมือนท่านข้างบนล่ะครับ คือ เบนซิน 95 อัตราสิ้นเปลืองต่ำกว่า วิ่งลื่นกว่า จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 29 เม.ย. 50 12:10:04 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ส่วนผมใช้กับ Soluna หยดน้ำ ไม่แตกต่างกันครับ ผมวิ่งไม่เกิน 100 บนทางด่วน แต่ตอนนี้ไม่สน Sohol แล้ว เพราะเอาไปติดกาช แล้ว จากคุณ : K.Senior - [ 29 เม.ย. 50 12:34:05 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อสักครู่ผมก็นั่งดูเหมือนกัน จากการที่ผมเปลี่ยนมาใช้แก๊สโซฮอล์ล 95 (จากเดิมใช้เบนซิน 95 มาตลอด) เนื่องจากราคาถูกกว่ากัน 2.50 บาท และลองหาข้อมูลเพิ่มเติมจากหลายๆเว็บ ถือว่าคุ้มครับ รถของผม นิสสัน ซันนี่ ซูเปอร์ซาลูน ปี 2000 อายุการใช้งาน ก็ 7 ปี ไมล์ 194,xxx  ขับทุกวัน น้ำมันเครื่องใช้ของ โมบิล วัน 5w - 50 มาตลอด วิ่งทางไกล 120 - 140 กม./ชม. อัดเต็มที่มีทั้งคิ๊กดาวน์ และโอเวอร์ไดร์อ๊อฟ บางจังหวะไปถึง160 ก็มี (เส้นทางองครักษ์ - นครนายก และ บ้านนา - แก่งคอย ทางด่วนบูรพาวิถี) เบนซิน 95 เฉลี่ย 12.50 กม./ลิตร ใช้โซฮอล์ล 95 เส้นทางเดิม ลักษณะการขับขี่เหมือนเดิม ได้ 11.75 กม./ลิตร (นั่ง 3 คน) แต่ขับในเมืองส่งลูกไปเรียนและไปทำงานตามปกติ เบนซิน 95 ได้ 9.17 กม./ลิตร ใช้โซฮอล์ล 95 ได้ 8.44 กม./ลิตร  ถ้าคำนวณค่าใช้จ่ายแล้วส่วนต่างของราคา ณ ปัจจุบัน ถือว่าคุ้มค่าครับ เรื่องเครื่องรวน อัตราเร่ง ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด (ทั้ง 2 ชนิด ปั๊มหอย) จากคุณ : อินทรีสยายปีก - [ 29 เม.ย. 50 12:48:13 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่สนแล้วเหมือนกัน ครับ เพราะเปลี่ยนมาใช้จักรยานเสีย 80% จากคุณ : GiveCyclistsRoom - [ 29 เม.ย. 50 12:49:53 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ต้องสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคมากกว่านี้อีกครับ สื่อก็เป็นเพียงแค่องค์ประกอบหนึ่งเท่านั้น ที่จะนำเสนอข้อมูลอะไร ก้อได้ห้ผู้ชม (ดุตอนเบรกโฆษณาก้อได้) ถ้าเน้นเรื่องความประหยัด เมื่อเทียบกับ 95 ธรรมดา ก็ไม่ต้องเอา ความแรงมาเปรียบเทียบ เน้นไปเลยว่าประหยัด และอ้างว่าช่วยชาติ และช่วยค่าการตลาด (ประโยคสุดคลาสสิค) ดี ไม่ดี อย่างไร ผู้บริโภคเท่านั้นที่จะเป็นผู้เลือกเอง เว้นเสียแต่ว่า จะไม่มีให้เลือก แล้วบังคับให้ใช้กัน ก้อจบเห่ จากคุณ : Hacker1 - [ 29 เม.ย. 50 13:08:29 ]

ความคิดเห็นที่ 7 รูปแบบการใช้เอทานอล เอทานอลนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงได้ 3 รูปแบบ • ใช้เป็นเชื้อเพลิงโดยตรง ทดแทนน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซล โดยเครื่องยนต์ของรถยนต์ต้องได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ ให้สามารถต้านทานการกัดกร่อนได้ เนื่องจากเอทานอลสามารถกัดกร่อนโลหะ ยาง และพลาสติกบางชนิดที่ใช้เป็นชิ้นส่วนของเครื่องยนต์และอุปกรณ์ • นำไปผสมกับน้ำมันเบนซิน หรือน้ำมันดีเซลในสัดส่วนต่างๆ ตามการเลือกใช้ของแต่ละประเทศ ซึ่งหากผสมกับน้ำมันเบนซินในสัดส่วนร้อยละ 10 โดยปริมาตร เรียกว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์ (Gasohol) แต่ถ้าผสมในสัดส่วนที่แตกต่างไปจากร้อยละ 10 โดยปริมาตร เช่นผสมในสัดส่วนร้อยละ 85 เรียกว่าน้ำมัน E85 • ใช้เป็นสารเพิ่มค่าออกเทนในน้ำมันเบนซิน เนื่องจากเอทานอลมีค่าออกเทนสูง โดยค่าออกเทนจะเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนของเอทานอลที่ใช้ผสมในน้ำมันเบนซิน จากคุณ : a (aun1967) - [ 29 เม.ย. 50 13:43:06 ]

ความคิดเห็นที่ 8 การผลิตเอทานอล          กระบวนการผลิตเอทานอล ประกอบด้วย กระบวนการเตรียมวัตถุดิบสำหรับผลิตเอทานอล กระบวนการหมัก และการแยกผลิตภัณฑ์เอทานอลและการทำให้บริสุทธิ์ ซึ่งในขั้นตอบการเตรียมวัตถุดิบนั้น ถ้าเป็นประเภทแป้งหรือเซลลูโลส เช่นมันสำปะหลังและธันยพืช จะต้องนำไปผ่านกระบวนการย่อยแป้งหรือเซลลูโลสให้เป็นน้ำตาลก่อน ด้วยการใช้กรดหรือเอนไซม์ ส่วนวัตถุดิบประเภทน้ำตาลเช่นกากน้ำตาลหรือน้ำอ้อย เมื่อปรับความเข้มข้นให้เหมาะสมแล้วสามารถนำไปหมักได้          ในกระบวนการหมัก จะเปลี่ยนน้ำตาลให้เป็นแอลกอฮอล์โดยใช้เชื้อจุลินทรีย์ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ยีสต์ การเลือกใช้ชนิดของเชื้อจุลินทรีย์ที่เหมาะสมกับวึตถุดิบที่นำมาหมัก จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการหมัก ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการหมักคือ เอธิลแอลกอฮอล์หรือเอทานอลที่มีความเข้มข้นประมาณร้อยละ 8-12 โดยปริมาตร          น้ำหมักที่ได้จากกระบวนการหมัก จะนำมาแยกเอทานอลออกโดยใช้กระบวนการกลั่นลำดับส่วน ซึ่งสามารถแยกเอทานอลให้ได้ความบริสุทธิ์ประมาณร้อยละ 95 โดยปริมาตร จากนั้นจึงเข้าสู่กรรมวิธีในการแยกน้ำโดยการใช้โมเลกูล่าร์ซีพ (molecular sieve separation) เอทานอลที่ความบริสุทธิ์ ร้อยละ 95 จะผ่านเข้าไปในหอดูดซับที่บรรจุตัวดูดซับประเภทซีโอไลต์ โมเลกุลของเอทานอลจะไหลผ่านช่องว่างของซีโอไลต์ออกไปได้ แต่โมเลกุลของน้ำจะถูกดูดซับไว้ ทำให้เอทานอลที่ไหลออกไปมีความบริสุทธิ์ร้อยละ 99.5 ส่วนซีโอไลต์ที่ดูดซับน้ำไว้จะถูกรีเจนเนอเรตโดยการไล่น้ำออก เอทานอลความบริสุทธิ์ร้อยละ 99.5 สามารถนำไปผสมกับน้ำมันเบนซินเพื่อใช้ในรถยนต์เครื่องยนต์เบนซินได้ จากคุณ : a (aun1967) - [ 29 เม.ย. 50 13:44:44 ]

ความคิดเห็นที่ 9 น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 แตกต่างจากน้ำมันเบนซิน 95 อย่างไร น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ผลิตจากน้ำมันเบนซินออกเทน 91 ผสมกับเอทานอลซึ่งเป็นตัวเพิ่มค่าออกเทน ทำให้ได้แก๊สโซฮอล์ที่มีออกเทนเท่ากับน้ำมันเบนซิน 95 ที่ใช้สาร MTBE (Methyl Tertiary Butyl Ether) เป็นสารเพิ่มค่าออกเทน สาร MTBE มีข้อเสียคือ ทำให้เกิดการปนเปื้อนกับน้ำใต้ดินและน้ำดื่ม หลายๆ ประเทศจึงมีนโยบายเลิกใช้สาร MTBE นอกจากนี้แก๊สโซฮอล์ ยังมีการเผาไหม้สมบูรณ์กว่าน้ำมันเบนซิน เนื่องจากมีส่วนผสมของเอทานอล ซึ่งมีโมเลกุลของออกซิเจนในเนื้อน้ำมันมาก ส่งผลให้เกิดมลพิษน้อยกว่า น้ำมันเบนซิน และพบว่าทำให้สมรรถนะของเครื่องยนต์ดีขึ้น หรือเท่ากับการใช้น้ำมันเบนซินปกติ จากคุณ : a (aun1967) - [ 29 เม.ย. 50 13:51:11 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ความแตกต่างระหว่างน้ำมันเบนซินออกเทน 95 ทั่วไป กับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 น้ำมันเบนซินออกเทน 95 ทั่วไป = น้ำมันเบนซิน + สาร MTBE (สาร MTBE นำเข้าจากต่างประเทศ) น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 = น้ำมันเบนซิน+เอทานอล (เอทานอลผลิตจากพืชเกษตร เช่น มันสำปะหลัง อ้อย ข้าวโพด)        น้ำมันแก๊สโซฮอล์มีข้อดีอย่างไร ผลดีต่อเครื่องยนต์ o ไม่มีผลกระทบต่อสมรรถนะเครื่องยนต์และอัตราการเร่งไม่แตกต่างจากน้ำมันเบนซิน 95 o สามารถเติมผสมกับน้ำมันที่เหลืออยู่ในถังได้เลยโดยไม่ต้องรอให้น้ำมันที่มีอยู่ในถังหมด o ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินการปรับแต่งเครื่องยนต์         ผลดีต่อประเทศ o ช่วยลดการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ ลดการขาดดุลทางการค้า o ช่วยประหยัดเงินตราต่างประเทศในการนำเข้าสาร MTBE ถึงปีละ 3,000 ล้านบาท o ใช้ประโยชน์จากพืชผลทางการเกษตรสูงสุดและยกระดับราคาพืชผลทางการเกษตร สร้างรายได้ให้เกษตรกร o เครื่องยนต์มีการเผาไหม้ที่ดีขึ้น ทำให้ช่วยลดมลพิษทางอากาศ และแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมโดยสามารถลดปริมาณไฮโดรคาร์บอนและคาร์บอนมอนนอกไซด์ลง 20 - 25 % ทำให้ลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสุขภาพของประชาชน o ทำให้เกิดการลงทุนที่หลากหลายทั้งด้านเกษตรและอุตสาหกรรม o เป็นพลังงานหมุนเวียนจึงถือเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรของโลก ซึ่งเป็นแนวทางพัฒนาประเทศที่ยั่งยืน    ผลดีต่อคุณ o ได้ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ ในราคาที่ประหยัดลง 2.50 บาทต่อลิตร o ช่วยให้เครื่องยนต์เผาไหม้สะอาด สมบูรณ์ยิ่งขึ้น o ได้มีส่วนช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อนร่วมชาติให้ขายผลผลิตได้ในราคาที่สูงขึ้น o ได้ช่วยลดมลพิษทางอากาศ ซึ่งส่งผลถึงชีวิตตนเอง ลูกหลาน และเพื่อนร่วมชาติ จากคุณ : a (aun1967) - [ 29 เม.ย. 50 13:53:03 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ผมคนนึงละที่ไม่เชื่อ ไม่ต้องพูดถึงหลักการ หรือข้อมูลทางเทคนิคทางห้อง LAB ใดๆ ว่ากันที่ภาคปฏิบัติจากประสบการณ์ล้วนๆดีกว่า   จากการทดสอบด้วยรถตัวเอง...นอกจาก น้ำมัน Gas so ห่วย จะเร่งไม่ขึ้นจนเต่ากัดยางได้ แล้ว  มันยังทำให้รถซดน้ำมันมากขึ้นด้วย เพราะต้องเหยียบคันเร่งมากขึ้น คำถามคือ.....ถ้า Gas so ห่วย มีคุณภาพที่ดีกว่า (หรือเทียบเท่า)  เผาไหม้ได้สมบูรณ์กว่าเบนซินจริงๆ  ทำไมทั่วโลกถึงยังไม่มีการเปลี่ยนมาใช้ So ห่วย แทนเบนซิน ครับ ?........อยากทราบจริงๆ แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 50 14:24:14 จากคุณ : CLK BRABUS - [ 29 เม.ย. 50 14:19:22 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คุณ CLK BRABUS คุณรู้จักคำว่า การเมืองมั้ย ทุกวันนี้ไทยนำเข้าเอทานอลจากต่างประเทศเท่าไหร่ มีผลประโยชน์เท่าไหร่ คุณรู้มั้ย ที่ต่างประเทศเค้าก้อกำลังตื่นตัวเรื่องนี้อยุ่ แต่ติดที่ว่าการผลิตเอทานอล มันทำไม่ได้ทุกประเทศ ในประเทศไทยก้อผลิตได้จากหลักๆ คือโรงงานน้ำตาล มีโรงงานที่ขอจดทะเบียนแล้ว 40 กว่าโรง แต่ผลิตจริงไม่กี่โรงงาน เพราะทุกวันนี้รัฐบาลนำเข้าจากบราซิล ลิตรละ 19 บาท เลยนำราคานำเข้าเป็นเกณฑ์ที่ให้ราคาเอทานอลที่ผลิตในไทยเท่ากับราคานำเข้า แต่โรงงานที่ผลิตเอทานอลจะขอราคา 23 บาทขึ้นไป ก้อเลยยังทำอะไรกันไม่ได้   เอทานอลที่จะผลิตได้ จะมาจากพืชที่มีแป้งมากๆ เพื่อสกัดเป็นน้ำตาล แล้วเปลี่ยนเป็นแอลกอฮอล์   แล้วมีกี่ประเทศที่มีพืชที่มีแป้งมากๆ เช่นมันสำปะหลัง อ้อย บ้าง   ไม่เป็นไรหรอกครับ เพราะอีกหน่อย ถ้าคุณไม่เปลี่ยนเป็นแก๊ซ คุณก้อต้องเติม Gas so ห่วย แน่ๆ    ผมก้อเติมทุกครั้ง ไม่เห็นเป็นไรเลย วิ่งปกติ แล้วแต่คุณแล้วกัน จากคุณ : a (aun1967) - [ 29 เม.ย. 50 22:50:11 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ใช้ดี  เร่งดี   เมื่อก่อนใช้ 91  เดี๋ยวนี้ใช้โซฮอร์ 95  ล้วน รู้สึกประหยัดดี จากคุณ : เซี่ยวซุ่น (เซี่ยวซุ่น) - [ 29 เม.ย. 50 22:50:39 ]

ความคิดเห็นที่ 14 คือผมไม่ได้ว่านะ แต่ที่ดูมา ผมว่าท่านพีธีกร bias นิดๆนะ ตอนทดสอบรถก็เหมือนกัน จากคุณ : มนุษย์ถ้ำ - [ 29 เม.ย. 50 22:54:34 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ปตท.เป็นสปอนเซอร์รายการด้วยมั้ยครับ. จากคุณ : HMOM - [ 29 เม.ย. 50 22:56:54 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ผมก็เชื่อตัวเองครับ เคยเอียงไปเชื่อคนในรัชดาว่าใช้โซฮอลล์แล้วกินน้ำมันกว่า และเครื่องอืดกว่า แต่พอเอามาทดสอบเอง ก็ไม่เห็นมันจะ อืด หรือ กินจนเป็นนัยยะสำคัญ ที่บ้านทั้งสองคัน ใช้โซฮอลล์มาแล้วเลยสองปีแล้วครับ คันนึงใช้ตั้งแต่ออกรถใหม่ ตอนออกใหม่ก็เติม 95 ไปสองสามถังเพื่อทดสอบ จากนั้นก็ไม่เติมอีกเลย อีกคันรถอายุ 17 ปีแล้ว เติมเปลี่ยนไปมาหลายรอบเหมือนกัน จนในที่สุดเป็นโซฮอลล์อย่างเดียว จากคุณ : อวิรุืทธ์ - [ 29 เม.ย. 50 23:23:01 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เติมโซฮอลแล้ว - เสียงสตาร์ทเปลี่ยน ต้องบิดกุญแจนานขึ้นอีกหน่อยถึงจะติด - เสียงเครื่องดังขึ้นนิดนึง + เสียงแห้งๆ ไม่นุ่ม - มีอาการน็อคนิดหน่อย - เร่งอืดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด - คำนวนแล้ววิ่งได้น้อยกว่าเบนซิน - แต่กลิ่นไอเสียไม่เหม็น ไม่ได้อคติ แล้วก็ไม่ได้อุปทาน เพราะพี่สาวผมไปเติมอะไรมาผมไม่รู้ แต่เติมแก๊สโซฮอลทีไรผมจับได้ทุกที จากคุณ : [C]oppel2hea[D] - [ 29 เม.ย. 50 23:34:46 ]

ความคิดเห็นที่ 18 รถรุ่นใหม่ๆมันจะมี ecu ควบคุม มันเป็นระบบคอมพิวเตอร์ครับ มันจะจัดการอัตราต่างๆให้ตรงกับเชื้อเพลิง คนที่ใช้ 95 91 ธรรมดาหรือบางทีเปลี่ยนยี่ห้อน้ำมัน ระบบก็คำนวนผิดพลาดได้อย่างที่เห็น พวกอัตราต่างๆมันเลยประหลาดๆ เติมถังสอง สาม มันก็จะเริ่มปรกติครับ ส่วนตัวคิดว่าโซฮอลเหยียบเร่งดีกว่านะแต่กินมากกว่า ผมก็เติม 95 ตลอด จากคุณ : KhunGong - [ 29 เม.ย. 50 23:53:51 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ส่วนนึงอาจจะเป็นพฤติกรรมการขับขี่ของแต่ละบุคคลและรถแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อด้วยครับ สำหรับผมเองนี่ 95 ดีกว่า ได้อัตราเร่งที่ทันใจ และเครื่องเดิมเรียบ แต่ถ้าคนอื่นที่ขับไม่เร็วมาก ค่อยๆไป อาจจะไม่เห็นผลแตกต่างกันกับ 95 จากคุณ : SP (Naicollo) - [ 30 เม.ย. 50 00:44:27 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่ค่อยรู้สึกว่าอืดขึ้นเท่าไหร่ แต่ไม่ประหยัดกว่า91เท่าไหร่เลยไม่ไ่ด้ใช้ จากคุณ : amtap - [ 30 เม.ย. 50 01:01:32 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ส่วนตัวผมไม่เชื่อเรื่องการอ้างอิงต่างประเทศ ถ้าจะยกเขามาสร้างความมั่นใจ ต้องทำด้วยความจริงใจหน่อย บอกเลยได้มั้ยว่าประเทศไหนบ้าง แล้วเขาใช้ E10 หรือ E20 หลายทีแล้วที่อ้างว่าประเทศนั้นประเทศนี้ใช้ เอาเข้าจริงก็เหมือนเรื่องอื่น คือเขาใช้แก๊สโซฮอลก็จริง แต่เขาใช้แก๊สโซฮอลที่ดีกว่าเรา อีกอย่าง บอกตามตรงผมไม่ค่อยเชื่อถือมานานแล้ว ขนาดน้ำมัน 95 บ้านเราผมยังไม่เชื่อเลยว่าอ็อกเทนถึง 95 ทดสอบโดยมีผู้ได้ผลประโยชน์เป็นสปอนเซอร์ ทำใจเชื่อยาก อาจจะเว่อร์ แต่ผมเชื่อสิ่งที่เจอกับตัวมากกว่าสิ่งที่มีคนตัดต่อมาให้ดู จากคุณ : Sand Man - [ 30 เม.ย. 50 01:46:02 ]

ความคิดเห็นที่ 22 แกสโซฮอลที่วิ่งลื่นมีของ บางจาก คาลเท็กซ์ รองมาเจ็ท(อีกหน่อยคงไม่มียี่ห้อนี้แล้ว) รถหลายรุ่นเติมครั้งแรกอาจไม่ประทับใจเพราะว่า ecu คำนวณค่าใหม่ ใช้ไปสัก 2-3 ถัง จะค่อยๆดี(หรือชินก็ไม่รู้) ไปเอง แต่ไม่ถึงกับสั่นสะดุด ของบางจากอัตราเร่งดีตามโฆษณาเลยครับ จากคุณ : นที - [ 30 เม.ย. 50 06:51:21 A:203.113.32.14 X: TicketID:072386 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เห็นในหนังสือพิมพ์ก็ลง จากคุณ : KCrazy16 - [ 30 เม.ย. 50 10:43:12 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เอ๊ะ ทำไมผมดูผิด ขับเรื่อย ๆ เห็นบอกว่า เบนซิน 95 ประหยัดกว่า ไม่ใช่หรอ แต่ถ้าอัดหนัก ๆ โซฮอลล์ถึงจะประหยัดกว่า เห็นเค้าว่างี้ จากคุณ : NaM_pRiG - [ 30 เม.ย. 50 13:25:39 ]

ความคิดเห็นที่ 25 รู้สึกว่าช่วงหน้าร้อนโซฮอลล์หมดเร็วกว่าด้วยอ่ะครับ จากคุณ : sLiimFit - [ 30 เม.ย. 50 15:06:54 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ผมว่าการทดสอบไม่ได้มาตรฐานมากกว่า วิ่งกี่รอบ คนขับกี่คน ส่วนเรื่องโซฮอล์ ใช้เองยังยืนยันว่าไม่แตกต่างจากการใช้แบบไร้สารตะกั่ว ทั้งอัตราเร่งและความสิ้นเปลือง ส่วนข้อมูลเบื้องต้นตาม Link ข้างล่าง http://en.wikipedia.org/wiki/Gasohol จากคุณ : ELANTRAnsport - [ 30 เม.ย. 50 16:56:46 ]

ความคิดเห็นที่ 27 กลับบ้าน ตจว บ่อยๆ ใช้อะไรก็เหมือนกันครับ 1 ถังเป๊ะ ถึงบ้านทีไร ไฟเตือนน้ำมันขึ้นทุกที 600 กม ครับผม จากคุณ : แล้วจะเติมให้แพงกว่าทำไม - [ 30 เม.ย. 50 17:35:28 A:125.25.189.208 X: TicketID:038237 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ไม่ว่าเค้าหรอก รายการนี้เค้าก็ทำหน้าที่ของเค้า สร้างความน่าเชื่อถือของซอฮอล มันก็เหมือนตอนเชียร์ NGV แหละ จากคุณ : kingkiev - [ 30 เม.ย. 50 18:06:27 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 30 เม.ย. 50 19:24:38 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เชื่อตัวเองครับผม เบนซิน 95 เร่งดีกว่า และไม่หมดเร็วเหมือน โซฮอล 95 จากคุณ : mamacup - [ วันแรงงาน 17:29:46 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ผมใช้รถเก่า (โคโรล่า จีทีไอ) ลองโซฮอล แล้วสะดุด ต้องกลับมาใช้ เบนซิน 95 ดังเดิม และจะใช้ไปจนกว่าจะไม่มีให้ใช้ จากคุณ : คำม่วน - [ วันแรงงาน 20:53:38 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ถ้่าเอาตามทฤษฎี ยังไง E10 ก็ไม่มีทางวิ่งได้ดีกว่าและได้ระยะทางไกลกว่า Gasoline แท้ๆครับ เพราะค่าพลังงานความร้อนมันมีน้อยกว่าพอสมควรเลย เหมือนกับบอกว่า เอาเงินสิบบาทไปซื้อขนมมันก็ได้ขนมสิบบาท ถ้าเอาเงิน 8บาทไปซื้อมันก็ไม่มีทางได้เท่ากันนอกจากไปโกงเขาหรือใช้ทริก ที่น่าสงสัยที่ำทำให้ผลการทดลองออกมาแบบนี้่น่าจะเป็น ตัว ECU ที่ควบคุม A/F ratio ถ้ามีการผิดปกติ หรือสั่งจ่ายได้ไม่สมบูรณ์ ผลลัพธ์ก็จะออกมาคนละเรื่องได้เหมือนกัน (เช่น จ่าย gasoline ให้ rich ไปจากปกติ มันก็ย่อมกินน้ำมันมากกว่า และถ้าจ่ายมากไปตอนรอบต่ำก็อืดกว่า) ตามหลักการแล้ว ถ้ารถสมบูรณ์พร้อมด้วยเครื่องยนต์มาตรฐานที่ออกแบบมาใช้กับ gasoline ทั่วไป(ไม่เอาเครื่องยนที่ใช้เอทานอลโดยเฉพาะมาเทียบ เพราะบ้านเราไม่มีขาย) ตัวแปรอย่างอื่นควบคุมไว้ได้หมด การใช้ gasohol(E10)กับ A/F ratio ที่เหมาะสม ทำได้เพียงได้ผลดี(อัตราเร่ง+fuel consumption)เกือบๆจะเทียบเท่า gasoline+A/F ratio ที่เหมาะสม แต่ไม่ได้เท่ากันหรือดีกว่าไปได้ ถ้่าทำได้เท่ากันหรือดีกว่า แสดงว่ามีความผิดปกติบางอย่างที่ทำให้ผลบิดเบือนไปแล้วล่ะครับ ส่วนคนที่แยกไม่ออกว่าใช้ E10 หรือ gasoline 95 ต่างกันตรงไหน ก็ดีใจด้วยเลือกใช้น้ำมันที่ประหยัดที่สุดก็แล้วกัน เพราะคุณก็คงแทบแยกไม่ออกระหว่าง 91 กับ 95 ด้วยเช่นกัน ส่วนการใช้ gasohol ถ้าไม่เอามาตรการทางภาษีมาบิดเบือนให้รู้สึกว่ามันถูก(ทั้งๆที่จริงแล้วต้นทุนต่างกันน้อยมากๆ) ก็พอจะพูดได้ว่าช่วยเหลือคนในชาติส่วนหนึ่ง เพราะเอทานอลที่มาใช้ แม้จะนำเข้าเกินครึ่ง แต่ส่วนที่เหลือก็มาจากในชาติอยู่ดี แต่ก็อย่าลืมว่ามีรถอีกไม่น้อยกว่าสองแสนคันที่ไม่สามารถใช้มันได้เลย และอีกหลายแสนคันที่ต้องเสียเงินปรับแต่งเพื่อให้มันใช้ได้ดี(จูน A/F ratio ในรถรุ่นเก่า) การที่จะบังคับใช้ก็ต้องมองถึงส่วนนี้ด้วยว่า จะบังคับให้คนไทยจำนวนมากเสียเงินอีกเป็นหมื่นต่อคันเพื่อจูนECU(หรือหลายแสนต่อคันเพื่อเปลี่ยนรถใหม่)มันคุ้มค่ากับการที่จะอ้างว่า ช่วยเหลือชาติ(แค่20-30% นะเพราะที่เหลือนำเข้า)งั้นหรือ? ส่วนตัวคิดว่า gasohol เป็นพลังงานทางเลือก ไม่ใช่พลังงานทดแทน และเรายังไม่มีความจำเป็นหรือมีงานวิจัยว่ามีผลร้ายมากพอที่จะต้องเลิกใช้ MTBE ไปเลย(ประเทศในยุโรปส่วนใหญ่ก็ยังใช้ เขาโง่กว่าเราเรอะ?)ก็หวังว่ารัฐบาลต่อไปจะอดทนไม่ยอมทำตามสิ่งที่กลุ่มทุนบางกลุ่มต้องการบังคับใช้ gasohol เพื่อผลประโยชน์แค่บางกลุ่มนะครับ ก็เท่านั้น จากคุณ : ....4จุด - [ 2 พ.ค. 50 13:13:31 ]