ความคิดเห็นที่ 14
ไปดูผลโหวต เห็นด้วย 11 - ไม่เห็นด้วย 8 และถ้าผมโหวตได้ด้วยจะเห็นด้วยอีก 1 เสียง ทำให้เห็นว่าคนที่ใช้เห็นผลดีมีจริง ก็ไม่น่าจะใช้เรื่องเท็จหรือเรื่องไร้ประโยชน์ทีเดียวหรืออุปทานหมู่หรือเปล่าก็ไม่น่าจะใช้ เพราะต่างคนต่างอยู่คนละแห่ง ไม่ได้อยู่รวมกัน สรุปได้ว่าความชื้นที่ปะปนในอากาศทำให้ลมในยางมีผลหลายอย่างตามที่หลายท่านกล่าวเอาไว้ จะเติมลมธรรมดาก็ได้ถ้ามีตัวกรองน้ำดี (แต่หายาก) และเครื่องเติมไนโตรเจนถ้าไม่ดูแลตัวกรองไอน้ำก็คงไม่ต่างจากเติมลมธรรมดาก็ได้ ส่วนประสบการณ์ผม (คงไม่ใช่อุปทานเพราะพูดหลายทีแล้ว) เวลาเติมไนโตรเจนแบ่งเป็นดังนี้ 1.ยางใหม่เติมไนโตรเจนเลย หาความแตกต่างไม่เจอเพราะยางมันใหม่อยู่แล้ว แต่ถ้ารักษาเช็คลมเติมครั้งต่อๆไปด้วยไนโตรเจน อาจทำให้ยางใช้ได้นานขึ้น มีความนิ่ม เงียบนานขึ้น แต่ใช้เวลาพิสูจน์นานจนหลายคนลืม 2.ยางวิ่งลงพื้นได้สัก 10,000 โล แล้วเอาไปเติมไนโตรเจน ครั้งแรกที่เติมเลยรู้สึกนิ่มขึ้น ขนาดยางนิ่มอยู่แล้วมันยังนิ่มกว่าเดิมอีก และใช้ได้นานเหมือนข้อ 1 3.ยางวิ่งลงพื้น 20,000 โล เริ่มแข็ง กระด้างนิดๆ 3.1 คันแรก พอเติมไนโตรเจนวิ่งกระด้างเหมือนหลายคนเป็น แต่วิ่งไปสัก 1,500 โล เริ่มนิ่ม และนิ่มมากขึ้น นิ่มไปเรื่อยจนปัจจุบันวิ่งไปถึง 46,000 โลยังนิ่ม แต่กระด้างขึ้นหน่อย คอยเช็คลมทุกเดือน คันนี้รถนิวแลนเซอร์ ยาง 195/60 ขอบ 15 บริดสโตน RE 88 ยางติดรถ 3.2 คันที่สอง มาเติมไนโตรเจนที่ประมาณ 20,000 โลเหมือนกัน พอเติมเสร็จวิ่งก็กระด้างกว่าเดิมเหมือนกัน คันนี้วิ่งต่อไปอีกประมาณ 2,000 โลถึงเริ่มนิ่ม และตอนนี้นิ่มดี คันนี้วิ่งด้วยไนโตรเจนมาประมาณ 3,000 โลแล้ว รถ ซีอาร์วี 03 ยางโยโก A300 205/70 ขอบ 15 เป็นความเห็นที่ลองใช้และสังเกตมาหลายคัน และไม่ใช่อุปทานแน่ๆครับ
จากคุณ :
นที
- [
29 พ.ค. 50 11:53:36
A:125.27.118.183 X: TicketID:072386
]
|
|
|