แจ้งให้ทราบก่อนนะคะว่าเอา login ของเพื่อนมายืมใช้ จุดประสงค์ที่ตั้งกระทู้ขึ้นมาเพราะอยากจะเล่าให้เพื่อนๆฟังเป็นกรณีตัวอย่าง
หลายๆท่านจะให้ระวังตัวมากขึ้น รวมถึงขอความเห็นเพื่อนๆด้วย
ไม่ได้อยากจะกล่าวโทษหรือเรียกร้องอะไรทั้งสิ้น
มีแต่ความรู้สึกแย่ๆ เสียความรู้สึกยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก -_-"
วันนี้คือวันที่ 31 พ.ค. 2550 ดิฉันได้นำรถเข้าไปเช็คระยะตามกำหนด (60,000 km.) รถของดิฉันคือรถ Honda-City รุ่นปี 2003
ทะเบียน ษฉ 2813 โดยเลขไมล์จดตอนเข้าเช็คอยู่ที่ 59,985 km. เพื่อที่จะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
และตรวจสอบตามรายการที่ศูนย์ได้กำหนดไว้ใน brochure
เนื่องจากบ้านของดิฉันอยู่แถวรามอินทรา ใกล้กับแฟชั่น ไอสแลนด์
ดังนั้นสาขาที่ดิฉันใช้บริการเป็นประจำก็อยู่บริเวณนั้นเหมือนกัน
ดิฉันนำรถไปถึงศูนย์เวลาประมาณ 8:51 และได้ติดต่อพนักงานรับรถว่าจะนำรถมาเช็คระยะ 60,000 km.
พนักงานก็ได้ทำรายการและแจ้งค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 1,700 บาท ซึ่งเป็นราคาปกติที่อยู่ใน brochure
และแจ้งว่ารถจะเสร็จประมาณ 5 โมงเย็น หรือว่าถ้าเร็วกว่านั้นจะโทรแจ้งให้ทราบ เมื่อเรียบร้อยดิฉันก็กลับบ้าน
และเมื่อเวลาประมาณ 13:55 น. ก็ได้รับโทรศัพท์จากพนักงานศูนย์Honda
ดิฉันรับสาย และก็ได้ยินเสียงพนักงานที่โทรมาหยอกล้อกับเพื่อนร่วมงานหัวเราะกันคิกคัก
ไม่ได้ตั้งใจคุยกับลูกค้าสักเท่าไหร่ จนตอนแรกดิฉันเกือบเข้าใจว่าโทรมาแกล้งหรือโทรผิด
แต่ปลายสายก็บอกว่าโทรมาจากศูนย์ Honda ดิฉันจึงยังไม่วางสาย แต่ก็ยังมีเสียงหัวเราะต่อไป
ต้องทิ้งเวลาอยู่สักพัก เพื่อให้พนักงานทางปลายสายรวบรวมสติเพื่อเลิกขำ และมาคุยกับดิฉันให้ดีๆ
ซึ่งพนักงานก็ได้แจ้งว่ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 3 รายการ เนื่องจากตรวจสอบพบว่าเสื่อมคุณภาพ ได้แก่
ฝาปิดถังพักหม้อน้ำ ราคา 32 บาท
ผ้าดิสก์เบรคหน้า ราคา 1,550 บาท
ตัวยึดแกนโช๊คอัพหน้า ราคาข้างละ 174 บาท สองข้าง
ซึ่งรายการสุดท้ายพนักงานแจ้งเพิ่มว่าจะมีค่าแรงเพิ่มด้วยประมาณ 700 บาท ซึ่งดิฉันก็ถามว่าทำไมราคาแพงจัง
พนักงานจึงแจ้งว่าเนื่องจากต้องถอดโช๊คออกมา และต้องมีการปรับหรือถอดพวงมาลัยด้วย และเมื่อรถเสร็จจะโทรแจ้งอีกครั้ง
จับใจความได้ประมาณนี้ เนื่องจากพนักงานบอกว่าจำเป็นต้องเปลี่ยน ดิฉันก็เลย โอเค เปลี่ยนก็เปลี่ยน
เพราะรถเราก็ 60,000 km. แล้ว ย่อมมีอะไหล่เสื่อมเป็นธรรมดา
หลังจากวางสายดิฉันกับที่บ้านก็เลยชวนกันไปไหว้หลวงพ่อโสธร และขากลับค่อยมาแวะรับรถ
ออกจากบ้านประมาณบ่ายสามโมง ระหว่างทางมองปราดข้างทางไปบริเวรซุ้มขายของ
ดิฉันก็สะดุตาแต่ไกลกับแม็กรถที่จอดข้างทางฝั่งตรงกันข้าม (ทางแถวบ้านเป็นสองเลนส์วิ่งสวนคะ)
ว่าอุ้ย แม็กรถเค้าคล้ายๆ รถเราเลย (ดิฉันไปเปลี่ยนแม็กมาคะ ไม่ใช่แม็กจากติดรถ) แอบดีใจ มีคนใช้เหมือนเราด้วย อิอิ
แต่พอรถขับเข้ามาใกล้ขึ้นก็สังเกตุว่าเอ๊ะ ..ทำไมรอยบุบตรงซุ้มล้อก็เหมือนเราด้วย และพอรถผ่านไปก็เห็นตุ๊กตาท้ายรถสองตัว
อ้าว! นี่มันรถชั้นหนิ !!!! -_-"
ทำไมมาจอดอยู่ตรงนี้เนี่ย นี่คือความรู้สึกแรกที่วู๊ปขึ้นมาพร้อมกับบอกคนที่บ้านว่านี่รถเราหนิ
แต่ตาก็ยังเหลือบมองอยู่ว่าใครขับมา ก็เห็นคนสองคนใส่ชุดเหมือนพนักงาน Honda ยืนอยู่ตรงร้านพระเครื่อง
กำลังดูพระกันอยู่ตรงตู้กระจกหน้าร้าน หลังจากนั้นพี่เขยซึ่งเป็นคนขับรถให้ก็กลับรถกลับมา
ส่วนตัวดิฉันเองก็หยิบโทรศัพท์โทรเข้าเบอร์มือถือศูนย์ Honda ที่เพิ่งโทรมาเมื่อตอนบ่ายสองขึ้นมาโทรกลับ
พอพนักงานรับสาย คำถามแรกของดิฉันคือถามว่าปกติเวลาเอารถเข้าซ่อม พนักงานจะมาลอง test drive ที่แถวไหน
พนักงานจึงแจ้งกลับมาว่าวิ่งเข้าถนนปัญญารามอินทราเพื่อวนออกมาถนนใหญ่และกลับเข้าศูนย์
ซึ่งยังอยู่ในเส้นทางที่ดิฉันเจอรถตัวเองจอดอยู่ ดิฉันจึงถามต่อว่ากรณีอะไรบ้างจึงเอามา test
พนักงานบอกต่อเมื่อเจ้าของรถแจ้งว่ามีปัญหา เช่นมีเสียงผิดปกติ จะต้องนำไป test เพื่อหาสาเหตุ
ดิฉันจึงบอกว่าแต่ดิฉันเห็นรถของตัวเองจอดอยู่ที่ข้างทางใกล้ๆ กับฟาร์มปลาบางกอกฟาร์ม
พนักงานจึงถามทะเบียนรถ และแจ้งว่าเนื่องจากวันนี้รถดิฉันมีการเปลี่ยนอะไหล่เพิ่มเติม
จึงต้องนำมาวิ่งเช็คความเรียบร้อยแต่ดิฉันยืนยันว่าเห็นรถตัวเองจอดอยู่ พนักงานเริ่มตกใจและบอกว่าจะแจ้งผู้จัดการให้ทราบ
(ตอนนี้โทรศัพท์นี้ พี่เขยได้กลับรถมาจอดข้างทาง ใกล้รถของฉันที่จอดอยู่ เพื่อดูให้แน่ใจ สักพักพนักงานคงเริ่มผิดสังเกต จึงรีบขับรถของดิฉันออกไป)
หลังจากพนักงานที่รับเรื่องทางโทรศัพท์วางไป ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมาดิฉันก็ได้รับโทรศัพท์จากผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้าของศูนย์ Honda
โทรมาเพื่อขอโทษและทำการชี้แจงว่า ได้สอบถามพนักงานแล้ว
พนักงานแจ้งว่าบริเวณที่จอดเป็นไหล่ทาง(เป็นบริเวณหน้าร้านค้าที่มีที่จอดหน้าร้าน)
" จอดรถเพื่อตรวจสอบพวงมาลัยของรถว่าใช้งานได้ปกติมั้ย ""
ดิฉันจึงบอกว่าแต่ภาพที่ดิฉันเห็นคือพนักงานสองคนยืนอยู่ตรงตู้หน้าร้านพระเครื่องนะไม่ได้อยู่ที่รถ
หรือตรวจสอบรถเลย ผู้จัดการจึงบอกว่าพนักงานแจ้งว่า
""" แค่แวะเอาของไปให้เฉยๆ พอดีว่าเป็นทางผ่าน """"
ดิฉันก็ชี้แจงอีกว่าภาพที่เห็นคือยืนดูพระเครื่องอยู่
ถ้าแค่แวะเอาของก็น่าจะไปตั้งนาน นี่ขนาดดับเครื่องลงไปยืนคุย เมื่อผู้จัดการได้ยินแบบนี้ก็อึ้งๆ ไป
พร้อมตามมาด้วยคำขอโทษและพยายามจะชี้แจงว่าต้องนำรถไปตรวจสอบสภาพก่อนส่งให้ลูกค้า
ดิฉันก็เลยว่าแต่ก็ไม่ควรจะจอดทำธุระตัวเองอย่างนี้ ตอนแรกที่ดิฉันเห็นรถตัวเองจอดอยู่ตรงนี้ตกใจมากๆๆ
และไม่พอใจมากๆ ด้วย ผู้จัดการพยายามชี้แจงต่อและก่อนวางบอกว่าเพื่อเป็นการไถ่โทษจะขอลดค่าแรง
และค่าอะไหล่ให้ดิฉัน 10% ดิฉันจึงถามว่ารถจะเสร็จตอนไหน
ผู้จัดการแจ้งว่าไม่น่าจะนานเพราะเช็คใกล้เสร็จแล้ว
หลังจากนั้นอีกประมาณครึ่งชั่วโมงก็มีพนักงานจากศูนย์โทรมาแจ้งว่ารถเสร็จแล้วพร้อมค่าใช้จ่ายตอนแรกประมาณ 4,700 บาท
และเมื่อดิฉันกลับจากวัดหลวงพ่อก็ได้ไปแวะรับรถประมาณหกโมงกว่าๆ
ไม่มีใครพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นอีก เหมือนไม่เคยรับรู้ ทุกอย่างปกติ
ดิฉันก็ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเพราะเซ็งสุดๆ สุดท้ายค่าใช้จ่ายวันนี้ประมาณ 4,347.84 บาท
พอจ่ายเงินเสร็จ ดิฉันก็ขึ้นรถกลับบ้าน
มองดูเลขไมล์อยู่ที่ประมาณ 60,001 km. (รวมระยะทางทดสอบรถประมาณ 16 km. )
ยังดีที่ไม่ได้เอารถไปใช้ส่วนตัวนอกเส้นทาง + ใช้เยอะๆ เหมือนหลายๆกรณีที่เคยได้ยินมา
แต่รวมๆก็เสียความรู้สึกอยู่มากพอสมควร โดยเฉพาะคำพูดที่ผู้จัดการเค้าบอกดิฉัน ยิ่งฟังกลับรู้สึกแย่ขึ้นไปอีก
ไม่ได้ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นเลยค่ะ
ปล.แก้ไขคำผิดค่ะ
แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 50 22:49:02
แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 50 23:02:31
จากคุณ :
น้องหมาตาสีฟ้า
- [
วันวิสาขบูชา 22:53:37
]