ความคิดเห็นที่ 1 หลายตัวแปลอ่ะครับ บอกรุ่นเครื่องมาเลยดีกว่าครับ ถ้าเป็น VTEC ตระกูล B หรือเครื่องแต๊นที่ 2000cc ที่วางใน 200SX ต่อให้เครื่อง 3000cc ของกระบะ ก็ไม่อาจจะเทียบได้ แต่ถ้า เป็น 3000cc ของพวกฝั่งยุโรป ดีเซล เทอร์โบ พวกนั้นก็มีลุ้น หัวข้อมันกว้างไปหน่อยครับ พูดลำบาก จากคุณ : TonGGy - [ 8 ก.ค. 50 22:00:15 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แล้วแต่ว่าจะวัดความแรงยังไง  ถ้าบรรทุกหนักเพียบทั้งคู่ ตอนออกตัวนี่ ดีเซลแรงกว่าอยู่แล้ว  แต่ถ้ารถเปล่าที่ความเร็วสูง เบนซินย่อมเร่งได้แรงกว่า จากคุณ : หมูน่ารักจริงๆ - [ 8 ก.ค. 50 22:01:46 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่ได้หลอกครับ แค่วาวล์ หรือจำนวนแรงม้า แล้วจะบอกอันไหนแรงกว่าเป็นไปไม่ได้ครับ เหมือนอาหารที่สีแดง แต่มันอาจไม่ได้เผ็ดแบบที่คุณเห็นก็ได้ จากคุณ : BaLL182 - [ 8 ก.ค. 50 22:03:40 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ว่ากันที่แรงม้าสูงสุดอย่างเดียว เครื่องอะไรก็ช่างถ้าแรงม้าเท่ากัน  มันก็แรงเท่ากัน ถ้าว่ากันที่กราฟแรงม้า ต้องเอากราฟแรงม้ามาดู  แล้วเลือกเอาว่าจะพิจารณาช่วงไหน แต่หลักการก็เหมือนกัน  แรงม้ามากกว่ามันก็คือมากกว่า เพราะแรงม้าเป็นหน่วยบอกกำลัง จากคุณ : ton99 - [ 8 ก.ค. 50 22:43:10 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เอามาวางบนรถคันเดียวกัน เกียร์กับระบบส่งกำลังชุดเดียวกัน ดีเซลกินขาด... จากคุณ : zeroAM - [ 8 ก.ค. 50 23:13:49 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าวางในรถตัวเดียวกัน ดีเซลกินขาดครับ กำลังอัดของเครื่องสูงกว่า กำลังงานที่ออกมามากกว่า ถึงแรงม้าจะเท่ากันแต่แรงบิดเครื่องดีเซลมากกว่าเยอะ จากคุณ : ตี๋แก้มป่อง - [ 8 ก.ค. 50 23:25:29 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ^^ ตามนั้นครับ แต่อาจจะไม่ขาดมาก แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นแรงบิดเท่ากันล่ะ งานนี้ดีเซลโดนทิ้งเป็นทุ่งครับ จากคุณ : bigBirdS - [ 8 ก.ค. 50 23:27:02 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แรงบิดดีเซลไม่ใช่แค่มากกว่า แต่ยังมาเร็วกว่ามาก แต่หากเครื่องเบนซินมีแรงบิดเท่าเครื่องดีเซล งานนี้ดีเซลโดนแน่ เพราะรอบเบนซินจัดกว่า ได้แรงม้าออกมามากกว่า จากคุณ : zeroAM - [ 8 ก.ค. 50 23:40:44 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เอาแบบง่ายๆ ที่วางอยู่ในตัวถังเดียวกัน ในToyota Fortuner หรือ Vigo 1. เครื่องยนต์ D-4D คอมมอนเรล 3.0 ลิตร DOHC 16 วาล์ว พร้อมเทอร์โบแปรผันและอินเตอร์คูลเลอร์ กำลังสูงสุด 163 แรงม้า 2. เครื่องยนต์เบนซิน ระบบวาล์วอัจฉริยะ VVT-i 2.7 ลิตร DOHC 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้า เครื่อง2ตัวนี้ ถึงแม้แรงม้าจะใกล้เคียงกัน แต่จากการใช้งานจริง เครื่อง D-4D แรงกว่ามาก เนื่องจากมีแรงบิดที่มากและมีให้ใช้ตั้งแต่รอบต่ำ ปล.ผมเทียบกับเครื่องเบนซิน2700ซีซี เกินกว่าที่เจ้าของกระทู้ถามไป700ซีซี แต่เห็นว่ามีแรงม้าที่ใกล้เคียงกันและวางอยู่ในตัวถังเดียวกัน น่าจะเปรียบเทียบได้ง่ายดีครับ แต่ถ้านำเครื่องที่มีแรงม้าเท่ากัน ไปวางในตัวถังคนละแบบกัน ก็จะมีปัจจัยอื่นๆ ในเรื่องของรูปทรงและน้ำหนักรถเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้การเปรียบเทียบอาจจะไม่ชัดเจนนัก ผมก็เลยขอเปรียบเทียบกับตัวอย่างข้างต้นนี้ละกันครับ จากคุณ : ^Top^ - [ 9 ก.ค. 50 00:04:31 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ตอบคห. 5 ไม่จริงครับ  ถ้าใช้เกียร์-ระบบส่งกำลัง-เฟืองท้ายชุดเดียวกัน จะมีอย่างใดอย่างหนึ่ง ได้เปรียบ อีกอย่างนึง เสียเปรียบ เสมอ เพราะเครื่องเบนซิน จะได้แรงม้าสูงสุดที่รอบสูงราวๆ 6000 RPM +/- ส่วนเครื่องดีเซล จะได้แรงม้าสูงสุดที่รอบสูงราวๆ 4000 RPM +/- ถ้าใช้เกียร์-ระบบส่งกำลัง-เฟืองท้าย ที่ออกแบบมาเหมาะสมกับเครื่องเบนซิน แต่หากมาใช้กับเครื่องดีเซล จะเร่งได้ช้ากว่า และทำความเร็วสูงสุดได้ไม่มากนัก เพราะการทดเกียร์ที่เหมาะกับเครื่องเบนซิน จะทดรอบไว้เยอะ แต่เครื่องดีเซลลากรอบได้ไม่มากนัก รวมทั้งอัตราเร่งรอบของเครื่องดีเซลจะช้ากว่าเครื่องเบนซิน ในทางกลับกัน ถ้าการทดเกียร์ ออกแบบมาเหมาะสมกับเครื่องดีเซล แต่หากเอามาใช้กับเครื่องเบนซิน รถก็จะวิ่งไม่ค่อยออก เพราะแรงที่ผ่านการทดจะเหลือน้อย ไม่มากพอจะปั่นล้อ (ที่แบกโหลดตัวรถอยู่) ให้เร่งความเร็วได้ดีเท่าเครื่องดีเซลครับ สรุปคือ อย่างที่คุณ ton99 บอก  ถ้าถามว่าใครแรงกว่ากัน ต้องตอบว่าเท่ากัน เพราะแรงม้าเป็นหน่วยที่บอกกำลัง / เอาไว้วัดว่า เครื่องยนต์ตัวไหน แรงมาก/น้อยกว่าตัวไหน แต่การเลือกเครื่องยนต์ตัวไหน ไปใช้กับรถประเภทไหน เป็นอีกเรื่องนึงครับ ถึงเครื่องยนต์จะดี/แรงแค่ไหน แต่ถ้าเลือกวางกับรถที่ไม่เหมาะสม ออกแบบการทดรอบ/กำลัง และระบบส่งกำลังไม่ดี ไม่เวอร์ค ก็แรงไม่ออกได้เช่นเดียวกัน จากคุณ : P_Wut - [ 9 ก.ค. 50 00:06:47 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สงสัยผมจะคิดตื้นเกินไป "แรง" หรือไม่ผมนึกถึงเอาไปวิ่งวัดกัน เอาเกียร์ที่เหมาะกับเบนซินนี่หละ ไปชนกับเครื่องดีเซล เครื่องแรงม้าเท่ากัน ยังไงดีเซลก็กิน หาก จขกท หมายถึงหน่วยวัดกำลัง ก็ตัวเลขมันบอกอยู่แล้วว่าเท่ากันอ่ะ แก้ไขเมื่อ 09 ก.ค. 50 00:16:00 จากคุณ : zeroAM - [ 9 ก.ค. 50 00:14:40 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ตอบ คห.6 และ 8 ไม่เสมอไปหรอกว่า ถ้าเอาเครื่อง 2 ตัวนี้ วางในรถคันเดียวกันแล้ว คันที่วางเครื่องดีเซลจะดีกว่าเสมอ ที่ Vigo หรือ Fortuner คันที่วางเครื่อง 3.0 D4D มันแรงกว่าคันที่วางเครื่องเบนซิน 2.7 ก็เพราะว่า 1. รถมันหนักมาก 1.6 - 1.9 ตัน 2. ขับเคลื่อนล้อหลัง / ขับเคลื่อนสี่ล้อ ลองเอาเครื่องแบบนี้ มาวางในรถเก๋งขนาดเล็ก อย่าง Altis สิ จะได้ผลอีกเรื่องนึง เหตุผลก็อย่างที่บอกในคห. 10 ครับ  ถ้าเป็นรถไม่หนักมาก ชุดขับเคลื่อนไม่เปลืองแรงมากนัก  เกียร์คำนวณอัตราทดมาเหมาะสม  เครื่องเบนซินซึ่งรอบจัดกว่า เร่งรอบ/เพิ่ม-ลดรอบเครื่องได้เร็วกว่า  อาจทำเวลาได้ดีกว่าเครื่องดีเซลใหญ่ๆ ช่วงชักยาวๆ อย่างที่ จขกท. ถาม วัดให้เห็นกันชัดๆ ก็ขับรถในทางโค้งเยอะๆ ต้องเพิ่ม/ลดรอบเครื่อง  มีการเปลี่ยนเกียร์ขึ้น-ลงบ่อยๆ ตามลักษณะเส้นทาง เว้นแต่ว่า คันที่วางเครื่องดีเซล ใส่เกียร์ลูกใหม่ ทดให้ต่ำลงไปอีก ต่ำลงจนความเฉื่อยในการเร่งรอบของเครื่องดีเซล มีผลน้อยลงไปมากๆ กรณีนี้ อาจได้ผลใกล้เคียงกัน แก้ไขเมื่อ 09 ก.ค. 50 00:15:52 จากคุณ : P_Wut - [ 9 ก.ค. 50 00:14:43 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้า ๑๖๐ แรงม้าเท่ากันจริง ... งานที่ได้จากเครื่องตัวนั้น เท่ากันครับผม ไม่ต้องตกใจครับ สิ่งที่เครื่องยนต์ ๒ ตัวนั้นทำให้เราได้ จะเท่ากันครับ แต่การที่เครื่อง ๒ ตัวนี้ จะมาได้แรงม้าเท่ากัน แน่นอนว่า เครื่องยนต์ แบบดีเซลจะมีแรงบิดมากกว่า เพราะว่า เครื่องดีเซลลากรอบไปได้ไม่ มากครับ จะสร้างงานให้ได้มากก็ต้่องอาศัยการสร้างแรงให้ได้มากๆ ต่างกะเครื่องเบนซิน ไม่ต้องสร้างแรงบิดมากเท่าไหร่ อาศัยว่าตัวเอง สามารถลากรอบไปได้สูง ในที่สุดก็สามารถสร้างงานออกมาได้เท่า กันเครื่องดีเซล แต่ว่ารอบสูงกว่า แค่นั้นเองครับ ทีนี้ งานที่เรานำไปใช้ จะเป็นตัวกำหนดชนิดของเครื่องครับ ว่าต้่องการ งานที่ได้จากแรงบิด หรือ งานที่ได้จากรอบของเครื่องยนต์ครับผม จากคุณ : สยึมกึ๋ย - [ 9 ก.ค. 50 00:14:58 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผมกับเพื่อนเคยเอา fortuner 3.0 d4d กับ 2.7 vvti แรงม้าพอๆ กัน มาอัดกัน รถดีเซลหนักกว่า ขับ 4 เหมือนๆ กัน d4d ทิ้ง vvti ตั้งแต่ออกตัว ตอนนี้มันขาย 2.7 มาออก D4D smart เพื่อนผมมันไม่ได้อยากแรงหรอก แต่เติมน้ำมันไม่ไหว อิอิ จากคุณ : zeroAM - [ 9 ก.ค. 50 00:36:11 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ตอบ คห.6 และ 8 ไม่เสมอไปหรอกว่า ถ้าเอาเครื่อง 2 ตัวนี้ วางในรถคันเดียวกันแล้ว คันที่วางเครื่องดีเซลจะดีกว่าเสมอ =========================================== เพิ่งเห็นอ่ะ... เสมอไปครับ... เครื่องดีเซลกับเบนซิน หากแรงม้าเท่ากัน ขนาดเครื่องพอๆ กัน วางบนรถคันเดียวกัน ระบบส่งกำลังเซ็ทมาวิ่งควอเตอร์ไมล์เหมือนๆ กัน เครื่องดีเซลจะมีราคาแพงกว่าเครื่องเบนซิน และคันที่วางเครื่องดีเซลจะวิ่งเวลาดีกว่าเสมอ แก้ไขเมื่อ 09 ก.ค. 50 01:33:55 จากคุณ : zeroAM - [ 9 ก.ค. 50 01:22:02 ]

ความคิดเห็นที่ 16 มา confirm ว่าถ้าคำว่า แรง ในที่นี้หมายถึง กำลัง ละก็ เท่ากันครับ เพราะบอกว่าเท่ากัน แต่ถ้ามาถามว่ารถใครที่จะ   กิน   รถใคร ในบอดี้เดียวกัน ก็ต้องตามมาด้วยระยะอีกล่ะครับว่า เท่าไหร่ 50 - 100 - 200 - 400 เมตร ว่ากันไป จากคุณ : EITHER - [ 9 ก.ค. 50 01:37:45 ]

ความคิดเห็นที่ 17 พิจารณา 2 ข้อนี้ 1) แรงม้าสูงสุด จะให้ Top speed ===> แรงม้าเท่ากัน จะได้ top speed เท่ากัน (ไม่ต้องสนใจอัตราทด เกียร์ทด เฟืองท้ายให้มากเรื่อง ) 2) แรงบิด ใช้สำหรับเร่งความเร็ว ตามธรรมชาติ เครื่องดีเซล มีแรงบิดมาเร็วกว่า (ตั้งแต่รอบต่ำ) ตอบโจทย์ข้อนี้ การขับขี่ เครื่องดีเซล มีแรงบิดดีกว่า แรงบิดมาเร็ว จึง elastic ดีกว่า ==> ขับสบายกว่า,  เร่งดีกว่า เนื่องจากสองคันมีแรงม้าเท่ากัน ทั้งสองคันจะทำ top speed ได้เท่ากัน (พิสูจน์จากของจริง MBenz ดีเซล คอมมอนเร็ว จะมี top speed ใกล้เคียงกัน หรือเท่ากับเบนซิน ) จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 9 ก.ค. 50 05:17:49 ]

ความคิดเห็นที่ 18 1) แรงม้าสูงสุด จะให้ Top speed (ไม่ต้องดูเกียร์ทด เฟืองทด ล้อ ฯลฯ ให้มากเรื่องครับ) 2) แรงบิด ใช้สำหรับเร่งความเร็ว เรื่องนี้ อ. ธเนศ เขียนลงหนังสือรถหลายปีแล้ว และคุณ ton99 โพสถามที่พันทิพย์ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 9 ก.ค. 50 05:20:25 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เหมือนกับคำถามตอนเป็นเด็ก   นุ่นหนัก 1 กก. กับเหล็กหนัก 1 กก. อันไหนหนักกว่ากัน คงตอบได้นะครับ   ส่วนแรงบิดเป็นอีกประเด็นนึง จากคุณ : หมาน้อยธรรมดา - [ 9 ก.ค. 50 07:50:16 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอเป็นความรู้หน่อยนะครับ ถ้าบอกว่า เครื่องดีเซลจะดีกว่าเครื่องเบนซิน อย่างที่ข้างบนว่ามา ทำไมพวกรถแข่งทั้ง F1 หรือแรลลี่ (รถเก๋งเล็กนะครับ ไม่ใช่ ปารีส-ดักการ์) จึงมีแต่รถเครื่องเบนซินลงแข่งล่ะครับ (จริงๆ ผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องรถแข่งมากนักนะครับ อาจเป็นเพราะกฏการแข่งขันหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ แต่เท่าที่จำได้ รถที่ได้แชมป์แต่ละสนาม เป็นเครื่องเบนซินล้วนๆ เลย ถ้า F1 ก็ทั้ง Honda Ferrari Renault ถ้าแรลลี่ ก็ Subaru Mitsubishi Ford) จากคุณ : P_Wut - [ 9 ก.ค. 50 09:44:08 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ทำไมโคโรลล่า3ห่วงเก่าๆ วางเครื่อง4AG 20valve (1600cc.ด้วยนะ)ของผมมีแรงม้าเค่160 แรงม้า แรงบิดกะติ๊ดนึง (ในสนาม)ยังกินวีโก้3.0 ปล่อยให้คุณโก้163ม้า ดมกลิ่นยางรถผมละครับ เจ้าหนูจำไมสงสัยจัง ตามความเข้าใจของผม เจ้าของกระทู้ต้องการรู้ว่าแอคคอร์ด2.0กะวีโก้3.0ใครจะวิน ความหมาย คงไม่ใช่วีโก้2.7(เบ็นซิน)กะวีโก้3.0ดีเซลแน่ๆ ตอบไม่ต้องคิดครับว่าพระเอกไอ้โก้ของเราโดนสวน เพราะน้ำหนักมีผลต่อแรงม้า สมมติรถ1ตัน 160ม้า= หมายถึง 160ม้า/ตัน อีกคัน1.5ตัน160ม้า= 106.6 ม้า/ตัน แถมอากาศพลศาตร์อีก คุณคิดว่าใครจะแรงกว่ากันละ (มวยคนละรุ่นเลยละครับ) อีกอย่างนึง แรงม้าที่เขาเอามาโชวกันนะเป้นแรงม้าสูงสุดที่เครื่องทำได้ตั้งแต่0รอบถึงรอบสูงสุดของเครื่อง สมมติถ้าเครื่องตัวนั้นมีแรงม้าสูงสุด160ม้า มาระหว่าง3000-3500รอบ แต่อีกเครื่องมีแรงม้าสูงสุดที่160ม้าเท่ากัน แต่แรงม้านี้มาตั้งแต่2000รอบถึง6000รอบ ท่านๆคิดว่าคันไหนจะรับประทาน ขึ้นอยู่กับว่าม้าใครมารอบต้นๆและอยู่ได้นานกว่ากันต่างหากละครับ ไม่ใช่ว่ามาแป๊บเดียวแล้วตกหาย ไปไหนไม่รู้ ส่วนแรงบิดเห็นผลกันชัดๆก้ไว้ตอนบรรทุกของครับ อยากให้เห็นกราฟแรงม้าเหมือนกันแต่เอามาลงให้ไม่ได้ เพราะไม่ได้เป็นสมาชิก (ยังไม่ได้สมัคร) ที่หลายคนเข้าใจว่าแรงๆนั้นหมายถึงเหยียบปุ๊บดึงปั๊บรึเปล่า ครับ บอกว่าใช่ครับแต่มาแป๊บเดียว แต่เบ็นซิน ไม่ดึงรุนแรงแต่ค่อยๆดึงยาวๆครับ ค่อยๆฉีก ให้ดีเซลบ้าพลังอยู่ข้างหลัง แรงกันจังดีเซลสมัยนี้ คุยกันนักกันหนา แต่ไม่ยักกะมีดีเซล F1คิคิ แซวเล่นขำๆ แต่โปรดนำไปคิด แม้แต่สนามแดรกบ้านเรา ไอ้โก้ไม่เห็นมันจะวิ่งได้เวลาดีกว่าเก๋งเดิมๆ1600(130ม้า)เลยนะครับ มันมีตัวแปรหลายตัวแปรครับนำมาเปรียบเทียบกันคงลำบาก เช่น1 น้ำหนัก 2 อัตตราทด 3แรงบิด 4จำนวนรอบสูงสุดก้ไม่เท่ากัน 5 ฝีมือการดึงพลังของรถมาใช้(อันนี้สำคัญ เบ็นซิลเปลี่ยนเกียร์ที่3-4000รอบเหมือนดีเซลก็แพ้ละครับ) โอยสารพัด ผมจึงยกตัวอย่างเป็นรถแต่ละคันมาให้เห็นๆเลย มันคงไม่มีรถคันไหนที่แรงบิดเท่ากันแรงม้าเท่ากันอัตตราทดเท่ากันจำนวนรอบทำได้สูงสุดเท่ากันน้ำหนักเท่ากัน ทุกอย่างเท่ากัน แต่ตัวแปรคือเบ็นซิลกะดีเซล ให้มาเปรียบหรอกนะครับถ้ามีก็เหมือนกับคนข้างบนที่บอกว่าเหล็ก1กิโลกะนุ่น1กิโลนั่นแหละครับ ขอให้เคลียร์ไปเลยดีไหม๊ครับจขกท.ว่ารถอะไรกะรถอะไร จะได้ฟันธงให้ครับ ท้ายนี้จะวัดความแรงไปวัดกันที่สนามนะทุกคน อย่าเอาความแรงบ้าพลังไปวัดกันบนถนนให้ชาวบ้านเดือดร้อน จากคุณ : GT APEX TWINCAM 20 - [ 9 ก.ค. 50 09:47:51 A:125.27.121.49 X: ]

ความคิดเห็นที่ 22 ท่าน P_Wut คห20 ตอนนี้สนามซูเปอร์คาร์เซอร์กิตของยุโรป ของ Audi ก่ใช้เครื่อง TDi W12 นะคับท่าน ส่วนท่าน GT APEX TWINCAM 20 คห21 ผมเข้าใจว่า ท่าน จขกท. ต้องการเปรียบเทียบรถบอดี้ ยี่ห้อ เดียวกันซะมากกว่าอ่ะคับ ในความเหนของผม ถ้าวัดจากการใช้เก๋งเบนซิล(ไม่มีโบ) กับเก๋งดีเซลโบ (ยี่ห้อและรุ่นเดียวกัน) เก๋งดีเซลโบ ออกตัวเร็วได้ดีกว่ามาก.. ทั้งๆที่ เครื่องดีเซลมีน้ำหนักมากกว่าเครื่องเบนซิลเยอะ แต่แรงม้าใกล้เคียงกัน.. จากคุณ : 1600cc - [ 9 ก.ค. 50 10:10:32 A:202.149.97.251 X: TicketID:103808 ]

ความคิดเห็นที่ 23 จากคุณ : zoohok - [ 9 ก.ค. 50 11:15:53 ]

ความคิดเห็นที่ 24 กระทู้นี้ดีครับ ความรู้เยอะดี จากคุณ : bigBirdS - [ 9 ก.ค. 50 12:01:01 ]

ความคิดเห็นที่ 25 พอๆกัน เพราะ การออกแบบเครื่องจะควบคู่ไปกับระบบ ส่งกำลัง เบนซิน รอบจัด อัตราทดต่ำ ดีเซล รอบต่ำ อัตราทดสูง แต่ เบนซิน จะเสียเปรียบในช่วงรอยต่อระหว่างเกียร์  แต่เดี่ยวนี้ AT 5 speed น่าจะแก้ข้อบกพร่องได้เยอะ จากคุณ : ก้นกบ - [ 9 ก.ค. 50 12:16:33 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ข้อมูลแค่นี้ ยังบอกอะไรได้ไม่ชัดเจนมากครับ เครื่อง 2ตัวนี้ มาวางในบอดี้เดียวกัน ใช่ว่าดีเซลจะวิ่งดีกว่า หรือเบนซินจะวิ่งดีกว่า เพราะปัจจัยสำคัญอีกเรื่องนึง คือ เกียร์ เฟืองท้าย ซึ่งต้องคุยกันอีกยาว  และหลังจากคุยกันจบแล้วเอาไปวิ่งจริงก็ต้องดูรูปแบบการแข่งขันอีกด้วย แต่ถ้าพูดถึงว่า ในรถบ้าน เครื่องยนต์เดิมๆแบบนี้ ต้องบอกว่า สูสีกันครับ แต่พวกคุณๆลืมอะไรไปหรือเปล่าแถวภาคกลางมีแต่ทางตรงยาวๆ มันก็คงบอกอะไรไม่ได้มากนอกจากใครจะมุดได้ถ่อยกว่ากัน ถ้าไปทางใต้หรือทางเหนือ ยังไงๆ วิโก้3.0ก็ไม่ได้กินแอคคอร์ด2.0 แน่ๆครับ ถึงได้ก็หืดขึ้นคอแหละครับ ยิ่งทางเส้น เชียงใหม่-ฝาง หรือเส้นแม่ฮ่องสอนยิ่งเห็นชัด เพราะยังไงๆความเร็วในการเข้า/ออกโค้งของ ACก็เหนือกว่าแน่นอน  เพราะงั้นต้องดูว่าจะเอาไปเทียบกันแบบไหน ส่วน "ตอนนี้สนามซูเปอร์คาร์เซอร์กิตของยุโรป ของ Audi ก่ใช้เครื่อง TDi W12 นะคับท่าน"  ที่เค้าใช้ตัวนี้ก็เพราะ ได้เปรียบเรื่องประหยัดน้ำมันครับ เครื่องเบนซินได้เปรียบดีเซลเรื่องนึงตรงที่ สามารถรีดรอบได้เร็วและมากกว่าเครื่องดีเซลเยอะครับ ตรงนี้เป็นข้อได้เปรียบที่มีผลมากเลยครับยิ่งถ้าไม่มีข้อจำกัดเรื่องจำนวนเกียร์เข้ามาด้วยแล้ว ดีเซลแทบปิดประตูชนะได้เลยในด้านการแข่งที่มีเวลาเข้ามาเกี่ยวข้องมากๆ นี่ยังไม่ได้พูดถึงน้ำหนักของเครื่องที่มากกว่าเกือบๆเท่าตัวนะ ยิ่งถ้าเป็น 1/4ไมล์ จริงอยู่ที่บ้านเรายังเคยมีเครื่องดีเซลที่เฉือนเบนซินเข้าเส้นไปแล้ว แต่ถ้าขุนกันถึงที่สุดจริงๆก็แพ้เครื่องเบนซินอยู่ครับ แต่ถ้าวิทยาการด้านโลหะสูงมากๆ ในวงการF1 ก็อาจจะได้เห็นเครื่องดีเซลก็ได้ แต่ว่าตอนนี้ยังก่อนเพราะเครื่องออดี้tdi 600 แรงม้าที่ใช้แข่งตอนนี้ ก็พึ่งจะแก้ไขเรื่องเกียร์ที่พังบ่อยๆไปได้ไม่กี่ปีนี่เอง ปัญหาใหญ่เลยของเครื่องดีเซลแรงบิดมากๆอยู่ตรงเกียร์ที่จะเอามาใช้นี่แหละครับ จากคุณ : penn's - [ 9 ก.ค. 50 14:01:06 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เอาสมการง่ายๆ แรงม้า = แรงบิด x รอบ กรณีแรงม้าเท่ากัน รอบดีเซลมันต่ำกว่าเยอะแสดงว่า แรงบิดของดีเซลต้องสูงกว่าเบนซิน ดังนั้นดีเซลจึงเร่งได้ดีกว่า กรณีแรงบิดเท่ากัน รอบเบนซินมันสูงกว่าดีเซลเยอะ เบนซินจึงได้แรงม้าออกมามากกว่า จากคุณ : zeroAM - [ 9 ก.ค. 50 14:13:08 ]

ความคิดเห็นที่ 28 แล้วถ้า ดีเซลแรงกว่า ทำไมวีออส เกียร์ธรรมดา(รถผม)ยังกิน วีโก้ 3.0 โบ(เพื่อนผม)เลยอ่ะ...งงครับ จากคุณ : the_art_23@hotmail.com (alre_TK) - [ 9 ก.ค. 50 14:14:35 ]

ความคิดเห็นที่ 29 คห26 อย่าลืมพิจารณาอัตราเร่งขึ้นเขานะครับ เบนซินจะสู้กระบะได้เหรอ? ผมว่าออกจากเชียงใหม่ไปปายพร้อมๆ กัน vigo ถึงปายนั่งกินกาแฟหมดไปสองถ้วย acc ยังมาไม่ถึงเลย ม้าทางเรียบมันขึ้นเขาไม่เป็นอ่ะ 555 แก้ไขเมื่อ 09 ก.ค. 50 14:51:23 จากคุณ : zeroAM - [ 9 ก.ค. 50 14:14:57 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ^ ลองดูได้ครับ แซงขาดฉิว ๆ ประจำครับ เส้นลำปางเนี่ย จิกโค้ง 140-150 กระบะไม่เคยตามทันซักที ถึงจะขึ้นเขา เบนซินลากรอบได้ครับ 5-6 พันรอบ กระบะจะลากได้งัย ผมถือหางเบนซินนะ จากคุณ : JoeRazz - [ 9 ก.ค. 50 16:53:45 ]

ความคิดเห็นที่ 31 จริงๆนะ อย่าเอากระบะไปแข่งกะเบนซินเลย คู่แข่งจริงๆของ accord ทำไมไม่เอา Camry ล่ะครับ จากคุณ : Cool - [ 9 ก.ค. 50 17:31:24 A:203.118.85.105 X: TicketID:112571 ]

ความคิดเห็นที่ 32 คุณก้นกบ คห. 25 ผมคิดว่า คุณตั้งใจจะบอกว่า เบนซิน รอบจัด อัตราทด "สูง" ดีเซล รอบต่ำ อัตราทด "ต่ำ" มากกว่ามั้งครับ จากคุณ : P_Wut - [ 9 ก.ค. 50 18:26:22 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เบนซินแรงพอๆกันครับ เหมือน คห.30 หล่ะ รัับประกันได้ ผมคนหนึ่งหล่ะที่ใช้กระบะเบนซิน ถ้าเป็นเบนซินสำหรับปิกอัพแรงบิดแรงไม่น้อยหน้าดีเซลเหมือนกันี่ เจ้า frontier 2400 120HP(ยกเกียร์เป็น manual) นี่หละ่ แซงเจ้าิโก้บนดอยขุนตาล ผมอัดขึ้นดอยขุนตาล 120 km/hr เพราะนานๆทีจะได้ให้เครื่องวิ่งเต็มกำลังและปลอดภัยด้วย เพราะคงมีที่นี่กระมัังที่ถนนดี เลนกว้าง และขึ้นดอยด้วย สำหรับเชียงใหม่-ปาย-แม่ฮ่องสอน ถนนแคบ ทรุดเป็นช่วงๆ แซงยากเป็นเรื่องธรรมดา แต่ผมใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชมถึง 5 ชมครึ่ง นอกนั้นขึ้นกับตัวแปรอื่นๆ จากคุณ : เท่ห์แต่ไม่หล่อ - [ 9 ก.ค. 50 18:47:20 ]

ความคิดเห็นที่ 34 กระทู้ดีมีความรู้ พูดคุยกันด้วยเหตุผลครับ จากคุณ : aunubis - [ 9 ก.ค. 50 18:49:11 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขออภัยแก้ข้อความครับ แรงบิดเบนซินไม่ได้แรงหรือมากกว่าีดีเซล แต่กำลังและอัตราเร่ง ที่เป็นจุดเด่นเฉพาะของเบนซินทำให้ดูเหมือนแรง แต่ฟังดูเหมือนโม้ แต่ขึ้นกับวิจารณญาณด้วย ยังไงผมก็เป็นคนท้องถิ่น ขึ้นเขาลงห้วยย่อมชำนาญทางกว่า ่ถ้าตามหลังหวานเย็น(รถโดยสารท้องถิ่น คงไม่ต้องสาธยายว่าฉายานี้ได้มาอย่างไร) ฝนตก ถนนมีโคลน+ทราย ต่อให้แซงได้ก็ไม่แน่ว่าจะเจอรถสวน หรือทางทรุด จากคุณ : เท่ห์แต่ไม่หล่อ - [ 9 ก.ค. 50 19:51:30 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เอาแรงบิด*อัตราทดเกียร์ แล้วค่อยมาคุยกันดีกว่ามั้ยอ่ะ เครื่องเบนซิน เกียร์ 1 วิ่งถึงเรดไลน์ได้ราวๆ 60 กม./ชม. เครื่องดีเซล ทดให้ถึงเรดไลน์ที่ 4 พันรอบ ให้ได้ราวๆ 60 กม./ชม. แล้วค่อยเอาแรงบิดลงล้อมาคุยกันดีกว่า พูดแบบนี้ยังไงก็ไม่จบ จากคุณ : athlon1400 - [ 10 ก.ค. 50 05:25:30 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ผมงงจริงๆ ครับ เพราะแรงม้า เป็นหน่วยวัดกำลัง จะเครื่อง สองพัน สามพัน แปดพัน มันก็ไม่เกี่ยวกัน เพราะว่ากันถึงกำลังสูงสุด มิใช่แรงบิด ซูซูกิ เคเจ็ด พันซีซี ร้อยแปดสิบสองแรงม้า ย่อมมีกำลังเครื่องยนต์มากกว่า (แรง) กว่า วีโก้ เครื่องสามพัน ร้อยหกสิบสามแรงม้า อย่างแน่นอน มิพักต้องพูดถึง ฮายาบูสะ จากคุณ : สิงห์แก้ว - [ 10 ก.ค. 50 16:56:53 ]

ความคิดเห็นที่ 38 คห.29 ครับ อย่าว่าแต่ AC เลย เส้น เชียงใหม่-ฝาง หรือ ฮอด-แม่สะเรียง วิโก้ก็ไม่เคยตามไซโคลนดีเซลเทอร์โบโรงงานของผมทันซักทีเหมือนกันครับ ถ้าคนขับคนเดียวกัน วิโก้ตาม AC ไม่ทันแน่ครับ ขออภัยครับผมหลงประเด็นซะเอง เราคุยเรื่องเครื่องไม่ได้เกี่ยวกะช่วงล่างนี่เนาะ  แต่ยืนยันเหมือนเดิมครับ รถตลาด มันไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นเรื่องแข่ง ยังไงก็เบนซินรอบจัด เอาไปกินแน่ๆครับ แก้ไขเมื่อ 10 ก.ค. 50 23:26:09 จากคุณ : penn's - [ 10 ก.ค. 50 23:21:44 ]

ความคิดเห็นที่ 39 อิอิ สบายๆ ครับ ได้มุมมองแปลกๆ ความรู้ใหม่ๆ ... ชอบ ผมก็เพิ่งใช้ดีเซลแบบจริงจังนี่หละ ใช้เบนซินมาตั้งแต่หัดขับมาเป็นสิบปี มาเจอ 160 ม้าของฟอจูนเข้าไปก็ทึ่งเหมือนกัน แต่ก่อนก็ไม่ค่อยเชื่อน้ำยาดีเซลเท่าไหร่ เอาไปวัดกันจริงๆ คงต้องแบ่งประเภทรถอ่ะ จะเอากระบะกับไปยัดโค้งกับเก๋งยังไงก็สู้ไม่ได้ หรือจะไปจัด rally ปาย - แม่มาลัย... ท่าจะมัน จากคุณ : zeroAM - [ 11 ก.ค. 50 15:33:43 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ตัวแข่ง lemans ของ Audi เป็น diesel ใช่หรือเปล่าครับ เห็นว่าได้ที่ 1 ในปีนั้นด้วยนี่ครับ... จากคุณ : เฮียมี่ - [ 25 ก.ค. 50 17:02:50 ]