ความคิดเห็นที่ 48
ถูกผิดอย่าว่ากานเน้อ เป็นการเดาจาก ช่างซ่อมรถข้างถนนก็เท่านั้นเอง 666666
******* เป็นการทดสอบว่าแนวความคิดของค่ายใดจะถูกต้องครับ ช่วงที่ฮอนด้าโตแบบก้าวกระโดดจากรุ่น เวฟ100 ทำให้ค่ายที่เหลือมีส่วนแบ่งต่ำกว่า 10 % ดังนั้น ค่ายที่เหลือจะต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อให้รอดจากกระแสตลาดรถราคาถูก
******* แยมอะฮ่า ไม่ลงมาเล่นรถราคาถูกและเดิมพันกับอนาคตของบริษัทด้วยการเปิดตลาดใหม่ที่ทางฮอนด้าเคยพลาดมาก่อนในรุ่น ลีด125 นั่นก็คือ ตลาดรถสกู๊ตเตอร์แต่เพื่อไม่ให้แสลงใจทั้งคนซื้อและคนขายเลยเรียกตลาดใหม่ว่าออโต้แทน ช่วงแรกที่ออกนูโวมาก็เรียกได้ว่าแทบดับสนิท อุตสาห์ดึงเอาโอเวนมาเป็นพรีเซนเตอร์ก็ถือว่า โชคไม่เข้าข้าง อังกฤษดันตกรอบฟุลบอลโลกไปก่อนซะนี่ (ดาราไทยไม่นับ) แต่ก่อนที่จะตกต่ำไปกว่านี้ ก็ได้มีการทุ่มเงินดึงเอา F4 มาเป็นพรีเซนเตอร์ แล้วเริ่มทำชุดแต่งออกมา ก็เลยเกิดกระแสออโต้ขึ้น และก็ตอกย้ำกระแสนี้ด้วยการออกนังเหมียว มิโอ้ เน้นจับกลุ่มวัยรุ่น รวมถึง มีการทำทีมแข่งออโต้ลงในสนามด้วย จึงทำให้เกิดกระแสออโต้ขึ้นอย่างรวดเร็ว ร้านไหนที่มี นูโว มิโอ้ ขายช่วงนั้นซึ่งเป็นช่วงที่แยมอะฮ่าไม่สามารถเพิ่มไลน์การผลิตได้ทัน ก็มีกำไรต่อคันแบบท้วมท้น และก็ได้ออกตากลม ฟิโน ขึ้นมาย้ำตลาดออโต้อีกรุ่น ซึ่งก็เป็นผลดีกับบริษัททำให้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น แต่ข้อเสียก็คือทำให้รถกึ่งสปอร์ตรุ่นใหม่ทั้ง 2 รุ่นที่ออกมาเอาใจวัยรุ่น แป๊กเหมือนกันครับ
******* ซูซูกิ ไม่กล้าทำแบบแยมอะฮ่า และได้ใช้นโยบาย C&D ค่ายอื่นออกอะไรแล้วขายได้ ทางซูก็ทำตาม ฮอนด้าออกเวฟ100 เน้นตลาดล่าง ซูออก สแมช, ฮอนด้ามีเวฟ125 ตลาดบน ซู ออก เบส125, ฮอนด้าออก โซนิก ซู ออก เรดเดอร์125-150, แยมอะฮ่าออก x1 ซูออกรุ่นดิจิมอน (คาตาน่า) , พอตลาดออโต้โต แยมอะฮ่าออก มิโอ้ ซูออก สเตป เรียกได้ว่า ไม่ว่าค่ายไหนมีรถอยู่ในตลาดไหน ซูก็มีรถอยู่ในตลาดนั้นด้วย ซึ่งในหลักการตลาดแล้ว ยังไงก็ควรจะมีส่วนแบ่งอยู่บ้างไม่มากก็น้อย แต่ทำไมเกือบทุกตลาดที่ขายกันทั่วประเทศ (ยกเว้นภาคใต้ ซึ่งถ้าไม่มีส่วนนี้ช่วยด้วยแล้วละก็ ส่วนแบ่งการตลาดของซูนี่ไม่อยากคิดเลยครับ) ซูถึงล้มเหลวทุกตลาดเลยก็ว่าได้ จะว่าไปฐานะของซูตอนนี้ก็เหมือนจะเจริญรอยตามแยมอะฮ่าสมัยก่อนไม่มีผิด อะไรคือความผิดพลาดของซูกันแน่ระหว่าง คุณภาพของสินค้า, แบรนด์รอยัลตี้, กลุ่มเป้าหมาย, การออกแบบ, การตลาด, การโฆษณา, พรีเซนเตอร์, ตัวบริษัทเอง หรือปังหาภายในบริษัทกันแน่ครับ
*******คุณภาพของสินค้า - ฮอนด้าทำแบบไหน ซูทำแบบนั้นครับ เวฟ100 เป็นรุ่นลดคุณภาพของฮอนด้า แต่ที่ขายได้ก็เพราะ อะไหล่หาง่าย อะไหล่แท้ เทียบ เทียม แต่ง เกลื่อนเมือง คนที่ซื้อไปใช้ก็ยอมรับสภาพได้ ส่วนซู ถึงแม้จะทำรถราคาถูกได้ ช่วงแรกคนซื้อเยอะ แต่เมื่อเกิดปังหา พอเห็นราคาอะไหล่เมื่อเทียบกับของฮอนด้าแล้ว หลายคนเริ่มถอยหนี แถมอะไหล่เทียบ เทียม ยังไม่ค่อยมีใครทำออกมาเลย ดังนั้น เมื่อซื้อรถราคาถูกของฮอนด้าเลยไม่มีปังหาเรื่องอะไหล่ แต่ถ้าซื้อของซู จะมีปังหา ซื้อรถราคาถูกแต่อะไหล่ราคาแพง แถมแฟริ่งเวฟ100 มีปังหาแตกได้เอง เช่น น๊อตยึดบังลมด้านล่างแตกเพราะ สั่น (ส่วนของเวฟ110 ไม่แตกเพราะมีจุดยึดสองจุด เวฟ100 เหลือจุดเดียว) ส่วนของสแมช แฟริ่งจุดยึดด้านหลังแตกทุกคัน นี่ไม่นับรถซูจะมีปังหาโรคประจำตัวทุกรุ่น มากหรือน้อยเท่านั้น
แบรนด์รอยัลตี้ - มีพวกวินหลายคนตอนแรกใช้ซูกันเยอะ ทั้งพวก rc, สแมช, เบส110-125 ทุกคนบอกว่ารถดี แต่เมื่อถึงเวลาซ่อมบำรุงแล้วเอาไปคุยกันกับเพื่อนๆ ในกลุ่มที่วินเปรียบเทียบกันแล้ว ภายหลังคนที่ขับซูทุกคนได้เลือกไปใช้ เวฟ100, โซนิก, มิโอ้ ขับวินกันเป็นแถว กลุ่มเป้าหมาย - ซูจะเน้นกลุ่มเป้าหมายอันไหนแน่ อย่างแยมอะฮ่ารู้ว่าสู้ฮอนด้าไม่ได้ก็เลยเน้นไปที่ตลาดออโต้ตัวเดียวเป็นหลัก ตายเป็นตาย ถ้าไม่ตายก็รอด ผลที่ได้ก็ออกมาแล้ว แต่ซู เน้นทำตลาดทุกกลุ่ม ทำให้ทุกอย่างไม่ว่าการสต๊อกสินค้า, การตลาด, โฆษณา ฯ ต้องแชร์ในทุกกลุ่ม ซึ่งเมื่อเทียบกับฮอนด้าเจ้าตลาดแล้ว ก็เลยทำให้ซูดูด้อยไปในทุกด้านไปโดยปริยายครับ
การออกแบบ - จากการที่ได้ไปทำข่าวในมอเตอร์โชว์, เปิดตัวรถใหม่, อบรมช่างซ่อม ซูในตอนนี้จะออกแบบโดยการเลียนแบบรถที่คิดว่าขายได้ในทุกกลุ่มโดยนำข้อดีของแต่ละรุ่นมาหาจุดเด่นแล้วลอกเลียนแบบ และหาทางทำให้ดีขึ้นกว่ารุ่นที่นำมาเป็นต้นแบบ ซึ่งเรียกได้ว่า ถ้าเทียบกันจุดต่อจุดแล้ว ซูก็ทำได้ดีกว่าจริงครับ แต่ทำไมเมื่อออกมาในภาพรวมเป็นคันแล้ว ถึงได้ออกมาแปลกๆ ในสายตาของคนส่วนใหญ่ ตรงนี้เกิดการผิดพลาดจากการหาข้อมูลกลุ่มเป้าหมายหรือผิดพลาดในการออกแบบก็ไม่รู้ครับ
การตลาด - เพราะซูออกแบบรถหลายรุ่นพร้อมๆ กัน ทำให้งบการตลาดในส่วนนี้ซึ่งมีน้อยอยู่แล้วก็กระจายไปตามรุ่นต่างๆ ทำให้ทำการตลาดได้ไม่เต็มที่ เมื่อเทียบกับฮอนด้าซึ่งมีการทำการตลาดในกลุ่มเป้าหมายเดียวกันอยู่ตลอดเวลาด้วยแล้ว ซูยิ่งดูด้อยลงไปอีกครับ
การโฆษณา - ก็เป็นผลมาจากการที่มีรถหลายรุ่นพร้อมๆ กัน ทำให้ไม่สามารถโฆษณาได้ต่อเนื่อง ลูกค้าไม่รู้จัก ว่าซูมีรถรุ่นนี้ขายด้วย
พรีเซนเตอร์ - ซู หวังในตัว ทาทา แต่กระแส ทาทา ในตอนนั้น ไม่ค่อยดี ก็อาจจะเป็นเหตุทำให้รถขายไม่ดีไปด้วยก็ได้
ตัวบริษัทเอง หรือปังหาภายในบริษัทกันแน่ครับ - ส่วนนี้ก็รู้ๆ กันอยู่ว่า เกิดอะไรขึ้น อย่าว่าแต่ร้านข้างนอกไม่มีอะไหล่ซูขายเลย แม้แต่ศูนย์บริการยังไม่สต๊อกอะไหล่ไว้ด้วย อยากได้ก็ต้องทิ้งรถไว้แล้วเดี๋ยววิ่งไปโรงงานไปซื้ออะไหล่มา ตรงนี้ต้องถามว่า เกิดอะไรขึ้นกับ บ.ขายรถ กับ บ.อะไหล่ ซึ่งส่วนนี้เป็นมานานๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มากแล้วครับ ตั้งแต่สมัยมีศูนย์เกลื่อนเมืองจนปัจจุบัน เหลือศูนย์อยู่ไม่กี่แห่งเท่านั้นเองครับ คนภายในคงตอบได้นะครับว่า เกิดอะไรขึ้น ในช่วงเวลาที่ผ่านมาถึงไม่มีการแก้ไขตรงส่วนนี้เลย
จากคุณ :
monjangja
- [
21 ก.ค. 50 23:10:18
]
|
|
|