Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    รัฐปรับราคาก๊าซหุงต้มต.ค.นี้ +มีผลกับผู้ใช้รถยนต์แต่ยังชดเชยให้ภาคครัวเรือน

    รัฐปรับราคาก๊าซหุงต้มต.ค.นี้ +มีผลกับผู้ใช้รถยนต์แต่ยังชดเชยให้ภาคครัวเรือน

    กระทรวงพลังงาน คิดสูตรปล่อยลอยตัวราคาก๊าซหุงต้มใหม่ ให้ปรับราคาแอลพีจีที่ใช้สำหรับยานยนต์เท่ากับการชดเชย 2.10 บาทต่อกิโลกรัมแทน แต่ยังคงชดเชยให้ภาคครัวเรือน เริ่มใช้ต.ค.นี้ เพื่อรอให้มีการก่อสร้างปั๊มเอ็นจีวี 102 แห่งรองรับ ขณะที่กรมธุรกิจพลังงาน ใช้มาตรการควบคุมการจำหน่ายก๊าซแอลพีจีให้รถยนต์ ไม่ออกใบอนุญาตตั้งปั๊มแอลพีจีเพิ่ม

    แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ถึงนโยบายการลอยตัวราคาก๊าซหุงต้มหรือแอลพีจีว่า ขณะนี้ทางกระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างการหามาตรการที่จะปล่อยลอยตัวราคาก๊าซหุงต้มอยู่ เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับผู้ใช้ก๊าซแอลพีจีในรถยนต์และบ้านอยู่อาศัย โดยจะมีการเสนอมาตรการใหม่ขึ้นมา ที่จะปรับราคาก๊าซแอลพีจีที่ใช้สำหรับรถยนต์ขึ้นไปในระดับที่ชดเชยอยู่ในเวลานี้ที่ 2.10 บาทต่อกิโลกรัมหรือในระดับที่มากกว่า แต่จะยังคงการชดเชยราคาก๊าซหุงต้มให้กับบ้านอยู่อาศัยต่อไป

    แต่หากจะดำเนินการอย่างนั้นได้ ทางกระทรวงพลังงานจะต้องรอให้มีสถานีบริการก๊าซเอ็นจีวีในจำนวนมากก่อน โดยคาดว่าจะดำเนินการได้ประมาณเดือนตุลาคม 2549 นี้ ที่จะมีปั๊มเอ็นจีวีในเขตกรุงเทพมหานครเกิดขึ้นมาประมาณ 102 แห่ง ซึ่งอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปั๊มแอลพีจีที่มีอยู่กว่า 100 แห่ง จากปัจจุบันที่มีปั๊มเอ็นจีวีอยู่ประมาณ 63 แห่ง

    ส่วนกรณีที่มองว่า เมื่อขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีแล้ว จะทำให้กลุ่มแท็กซี่เกิดการชุมนุมต่อต้านนั้น ในจุดนี้มองว่า การจะดำเนินการอะไรจะต้องมีทางเลือกให้กับกลุ่มแท็กซี่ เพราะปัจจุบันทางบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) มีโครงการเปลี่ยนอุปกรณ์ก๊าซแอลพีจีมาเป็นอุปกรณ์ก๊าซเอ็นจีวีโดยติดตั้งให้ฟรีแล้ว และเมื่อสถานีบริการก๊าซเอ็นจีวีพร้อม กลุ่มแท็กซี่จะออกมาต่อต้านไม่ได้ เพราะมีทางเลือกให้แล้ว

    ในขณะที่บ้านอยู่อาศัยที่จะยังชดเชยราคาก๊าซหุงต้มต่อไป เพราะการปรับราคาก๊าซฯขึ้นไปถือเป็นความเดือดร้อน และการจะปล่อยลอยตัวช่วงรัฐบาลรักษาการก็ถือว่าเป็นการไม่สมควร ดังนั้น จึงจำเป็นต้องเลือกปรับราคาก๊าซแอลพีจีในส่วนของรถยนต์ก่อน

    นายจิตรพงษ์ กว้างสุขสถิตย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจสำรวจ ผลิต และก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้ภาครัฐกำลังหาสูตรในการปล่อยลอยตัวราคาก๊าซหุงต้ม ซึ่งอาจจะดำเนินการกับรถยนต์โดยเฉพาะแท็กซี่ที่ใช้แอลพีจีก่อน ขณะที่ภาคครัวเรือนยังคงชดเชยต่อไปเพื่อไม่ให้เกิดความเดือดร้อน ในขณะที่ปตท.ต้องเร่งขยายสถานีบริการก๊าซเอ็นจีเพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับกับปริมาณรถแท็กซี่ที่จะหันมาใช้ก๊าซเอ็นจีวี

    อย่างไรก็ตาม ทางปตท.ได้มีการหารือกับทางกรมธุรกิจพลังงานแล้วว่า เพื่อเป็นการไม่สนับสนุนให้รถยนต์ใช้ก๊าซแอลพีจีเพิ่มมากขึ้น จะมีการควบคุมการออกใบอนุญาตการตั้งสถานีบริการก๊าซแอลพีจีใหม่ และค่อยๆลดจำนวนปั๊มแอลพีจีที่มีอยู่ให้เปลี่ยนมาเป็นปั๊มเอ็นจีวีแทน ซึ่งเวลานี้ได้ดำเนินการไปแล้วกว่า 20 แห่ง และเมื่อถึงสิ้นปีคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 40-50 แห่ง เพื่อเป็นการบบีบให้ผู้ใช้บริการหาปั๊มแอลพีจีได้ยากขึ้น

    แต่ทั้งนี้ ทางภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องร่วมมือกันในการชี้แจงเหตุผลและความจำเป็นให้กับผู้ใช้รถยนต์และกลุ่มรถแท็กซี่ที่ใช้ก๊าซแอลพีจีให้เข้าใจว่า ภาครัฐไม่มีนโยบายในการส่งเสริมการใช้ก๊าซแอลพีจีในภาคยานยนต์ และต้องการให้มาเป็นเป็นก๊าซเอ็นจีวีแทน ซึ่งเวลานี้ทางปตท.รับเปลี่ยนอุปกรณ์ให้กับรถแท็กซี่ฟรีอยู่ ดังนั้น กลุ่มแท็กซี่จะไม่ได้รับความเดือดร้อนจากการปล่อยลอยราคาแอลพีจี

    ส่วนที่ปตท.เป็นห่วง หากรัฐบาลดำเนินการลอยตัวราคาก๊าซแอลพีจีเฉพาะภาคยานยนต์ เกรงว่า กลุ่มรถที่ยังไม่เปลี่ยนมาใช้ก๊าซเอ็นจีวี ยังใช้ก๊าซแอลพีจีอยู่เหมือนเดิม และปั๊มก๊าซแอลพีจีหากยากขึ้น จะหันไปซื้อก๊าซแอลพีจีที่ใช้ตามครัวเรือนมาเทใส่ถังในรถยนต์แทน ซึ่งตรงนี้ถือว่าไม่มีความปลอดภัย เพราะเคยเกิดอุบัติเหตุมาแล้ว ดังนั้น ภาครัฐจะต้องควบคุมในส่วนนี้อย่างเข้มงวด

    นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันนท์ ประธานกรรมการ บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด ให้ความเห็นว่า รัฐบาลน่าจะลอยตัวราคาก๊าซหุงต้มมาตั้งนานแล้ว ไม่จำเป็นว่าจะต้องรอช่วงไหน ไม่ใช่ประเด็นว่ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไม่มีเงิน แต่เป็นเรื่องของความเหมาะสม เรื่องการใช้อย่างไม่มีประสิทธิภาพและไม่มีความจำเป็นต้องมาแยกการชดเชยภาคขนส่งกับภาคครัวเรือน เพราะราคาก๊าซแอลพีจีในตลาดโลกได้ปรับตัวลงมามากแล้ว

    และยิ่งยกเลิกการลอยตัวช้าเท่าไร ยิ่งจะทำให้รัฐบาลสูญเสียภาษี หรือขาดรายได้จากการเก็บภาษีจากน้ำมันเบนซินมากขึ้นเท่านั้น เพราะผู้บริโภคจะหันไปใช้ก๊าซแอลพีจีมากขึ้น แทนที่จะมีรายได้แต่กลับต้องเสียเงินในการนำไปชดเชยเพิ่มขึ้นแทน

    จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2127 02 ก.ค. - 05 ก.ค. 2549

    จากคุณ : echo@off - [ 1 ส.ค. 50 16:53:51 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom