ความคิดเห็นที่ 1 2. NGV ที่ ปตท.บอกว่า ต้นทุนของ NGV จริงๆ แล้วอยู่ที่ 12 บาทกว่า/กก. นั้น จริงๆ แล้ว ตัวก๊าซแค่ 7 บาท/กก. แต่อีก 5 บาทกว่าๆ/กก. เป็นต้นทุนในส่วนของ - ค่าก่อสร้างสถานีจ่ายก๊าซ  (ใน กทม. ค่าก่อสร้างสถานี NGV 1 สถานี สูงถึง 20-30 ล้านบาท) - ค่าขนส่ง (ในระยะ 50 กม.จากสถานีใหญ่) NGV ต้องส่งทางท่อ ซึ่งท่อก๊าซที่มาจากโรงแยกก๊าซ จะอยู่บริเวณรอบนอกกรุงเทพฯ การขนส่งก๊าซจากจุดจ่ายใกล้ๆ ท่อจึงต้องขนส่งทางรถ   ต้นทุน 5 บาทกว่าๆ นี้ based on การขนส่งไปยังปั๊ม NGV ที่อยู่ในรัศมีไม่เกิน 50 กม. จากคุณ : P_Wut - [ 2 ส.ค. 50 15:14:57 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อีกเรื่องนึงที่ผมสงสัย เลยต้องโทรไปสอบถาม สนพ. วันนี้ก็คือ 3. ราคาน้ำมันวันนี้ ถ้าใครไปดูตารางโครงสร้างราคาน้ำมันของล่าสุด (เมื่อวาน) จะพบว่า นอกจากตัวเลข ราคาหน้าโรงกลั่น ค่าการตลาด ซึ่งมันจะเปลี่ยนแปลงทุกวันอยู่แล้ว (เพื่อให้ราคาหน้าปั๊มค่อนข้างคงที่ ไม่ขึ้นๆ ลงๆ กันทุกวัน) เมื่อวานมี "เงินส่งเข้ากองทุนน้ำมัน" เปลี่ยนแปลงครับ โดย เบนซิน 95 กับ เบนซิน 91 เพิ่มอีกอย่างละ 10 สต./ลิตร (จาก 3.46 และ 3.26 เป็น 3.56 และ 3.36 บาท/ลิตร ตามลำดับ) จากการสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่แผนกปิโตรเลี่ยม ก็สรุปมาได้ดังนี้ครับ เหตุที่มีการปรับเพิ่มเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมัน ก็เพราะค่าการตลาดขึ้นมาสูง ทาง สนพ. จะพยายามรักษาราคาหน้าปั๊ม ไม่ให้ขึ้นๆ ลงๆ บ่อยเกินไป ช่วงนี้ ค่อนข้างผันผวน ในระยะเวลาไม่กี่วัน ราคาน้ำมันอาจมีทั้งขึ้น และลงกันมากกว่า 2 เหรียญ/บาร์เรล  ค่าการตลาดก็จะผันผวนมาก   บางวันก็มาก/บางวันก็น้อย สนพ. จะดูติดต่อกันหลายๆ วันหน่อย เช่น 4-5 วัน ถ้ามันลงไปแล้ว ไม่กลับขึ้นมา ก็จะบอกให้ ผู้ค้าน้ำมัน ลดราคาลง หรืออย่างกรณีนี้ ที่ค่าการตลาดสูง แต่ยังไม่ถึงกับสูงจนจะลดราคา 40 สต. ได้ ก็ปรับการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน จาก 3.46 เป็น 3.56 บาท/ลิตร น้ำมันเบนซินธรรมดา กับ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ มีเงื่อนไขอยู่เรื่องนึงคือ ค่าการตลาดของน้ำมันแก๊สโซฮอล์ จะต้องไม่ต่ำกว่า น้ำมันเบนซิน เมื่อราคาหน้าโรงกลั่น ปรับลดลง แต่ไม่มากพอที่จะปรับราคาหน้าปั๊ม สนพ.จะพิจารณาเพิ่มการเก็บเงินเข้ากองทุน เพื่อให้ - ค่าการตลาดของเบนซินไม่สูงเกินกว่าค่าการตลาดแก๊สโซฮอล์ - ให้ราคาขายปลีกหน้าปั๊มคงที่ ไม่ขึ้นๆ ลงๆ บ่อยเกินไป จากคุณ : P_Wut - [ 2 ส.ค. 50 15:19:34 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ข้อมูลดีครับ อย่างน้อยก็สบายใจ 2 เรื่อง 1. ถ้าราคาขึ้นก็คงจะขึ้นอย่างมีเหตุผล 2. สนพ. ก็ทำงานไม่ให้คนไทยด้วยกันดูถูกได้ครับ ขอบคุณสำหรับการสละเวลาหาข้อมูลครับ จากคุณ : ELANTRAnsport - [ 2 ส.ค. 50 15:35:26 ]

ความคิดเห็นที่ 4 รบกวนถาม ตารางนี้ไปเอามาจาก eppo.go.th ป่าวครับ ผมเข้าไปแล้วหาไม่เห็นเจอ จากคุณ : MooHeaven (M๐๐Heaven) - [ 2 ส.ค. 50 15:41:21 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณ ครับ จากคุณ : i_nam - [ 2 ส.ค. 50 15:48:27 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ตอบ คห. 4 หน้าแสดงราคาน้ำมัน http://www.eppo.go.th/retail_prices.html ส่วนข้อมูลโครงสร้างราคาน้ำมัน - เปิด link ข้างบนนั่น แล้วเลื่อนลงมา ขวามือจะเห็นกรอบ background ครับ จะมีโครงสร้างราคาของวันล่าสุดให้โหลด หรือจะไปที่วันอื่นๆ ก็ลงมาอีก 2 บรรทัด - หรือจะไปที่หน้าของปิโตรเลี่ยมเลยก็ได้ครับ ที่ http://www.eppo.go.th/petro/index.html จากคุณ : P_Wut - [ 2 ส.ค. 50 16:03:21 ]

ความคิดเห็นที่ 7 พอดีมีคห. 4 ถาม ก็เลยไป update ค่าการตลาดน้ำมัน รวมทั้งให้กราฟมัน plot trend แบบ linear ของค่าการตลาดโดยเฉลี่ยมาให้ดูด้วย จากคุณ : P_Wut - [ 2 ส.ค. 50 16:16:07 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณครับ ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งในการเพิ่มเงินเข้ากองทุน  เพราะเซงผู้ค้าน้ำมันเหลือเกินที่ไม่ยอมลดราคาทั้งที่  สนพ.ฉลาดโดยการเพิ่มเงินกองทุน  ทำให้ค่าการตลาดใกล้เคียงกับ1.50บาท/ลิตรที่กำหนดไว้    เก็บเงินเข้ากองทุน  ดีกว่าปล่อยให้มคปด.(หมาคาบไปแดก) จากคุณ : Waroncom - [ 2 ส.ค. 50 16:16:49 ]

ความคิดเห็นที่ 9 จากข้อมูลที่ผมทราบ lpgที่ผลิตได้ในประเทศเกินครึ่งมาจากหลุมแก๊สธรรมชาติ ในอ่าวไทย ส่วนน้อยไม่ถึงครึ่งมาจาก การกลั่นน้ำมันดิบ แล้วปริมาณการใช้ lpgในประเทศ คิดเป็น 30% ของปริมาณการผลิตทั้งหมด แต่บอกว่าต้องขึ้น เพราะ lpg ที่ได้จากการกลั่นน้ำมัน โรงกลั่นต้องรับภาระ ผมว่าไม่เห็นจำเป็นต้องขึ้นราคาlpgเลยครับ ปริมาณการใช้ในประเทศคิดเป็น 50% ของปริมาณแก๊สที่ได้จากหลุมแก๊สในอ่าวไทย ส่วนที่เหลือก็ส่งออกได้นี่ครับ ถ้าจะขึ้นในส่วนของ ที่กองทุนน้ำมันชดเชยอยู่ผมเห็นด้วยครับ จากคุณ : pop35 - [ 2 ส.ค. 50 16:26:26 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณๆ : P_Wut มากนะครับที่นำข้อมูลดีๆ มานำเสนออยู่เรื่อยๆ คิดแล้วสยองอ่ะ ถ้าหากมันขึ้นราคาแบบปรู๊ดปร๊าดจริงๆ กรูตายแน่ๆ ปล.แต่ตอนนี้ ก็กำลังประหยัดเงินด้วยการนั่งรถเมล์เกือบทุกวันแล้วนะครับ รถจอดอยู่บ้านไม่เอาไปไหนเลย จากคุณ : ปลาวาฬสีฟ้า..หางกุด - [ 2 ส.ค. 50 18:13:48 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เกลียดตรงที่ ทำไมต้องอุ้มโซฮอล์ ทำไมไม่ทำตามกลไกตลาดจริง? จากคุณ : athlon1400 - [ 2 ส.ค. 50 19:51:56 ]

ความคิดเห็นที่ 12 การ   "เลือกอุ้ม"   นี่แหละครับ คือกลไกตลาด คือต้อนผู้ใช้ไปทางโน้น ต้อนมาทางนี้เพื่อให้ตรงกับที่ตัวเองสนับสนุนไงครับ ถ้าผู้ใช้น้ำมันจะหมั่นไส้แก๊ส ก็จงหมั่นไส้แก๊สโซฮอลล์ และ เอ็นจีวีด้วย อย่างอ้างว่าแก๊สโซฮอลล์หรือเอ็นจีวีช่วยชาตินะครับ เพราะเอาเข้าจริงก็นำเข้าเหมือนกัน และถ้าราคาเท่าๆกันกับน้ำมัน จะยังคงช่วยชาติกันอยู่ไหม จากคุณ : dum.d - [ 2 ส.ค. 50 20:09:52 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขุดได้จากก๊าชในอ่าวไทยจริง แต่ราคาค่าก๊าซในอ่าวไทยก็มีการปรับราคาตามตลาดโลกเหมือนกัน ปตท ไม่ยอมขาดทุนกำไรอยู่แล้วครับ เพราะก๊าซในอ่าวไทยเป็นสัมปทานต่างประเทศครับ ไม่ใช่ของไทย ไทยได้ค่าภาษีและค่าต๋งครับ จากคุณ : K.Senior - [ 2 ส.ค. 50 20:36:19 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขุดทรัพยากรของคนไทย ขายราคาตลาดโลก เพื่อกำไรผู้ถือหุ้น ทีข้าวไหงไม่ยอมให้ขายราคาตลาดโลกบ้างหว่า? ข้าวลิตรละเกือบสองร้อยบาท สนุกกันแน่ๆ นี่แหละครับ PTT พลังไทย เพื่อผู้ถือหุ้น ไม่ใช่เพื่อคนไทยทุกคน อ้อ ปิโตรนาสมาเลเซีย เขาขายน้ำมันราคาถูกให้คนในประเทศใช้ โดยยอมขาดทุนกำไร แล้วเหลือเท่าไรค่อยส่งออก ไม่เห็นว่าปิโตรนาสเขาจะเจ๊งเลย มีแต่เจริญยิ่งขึ้่น ผิดกับบ้านเรา PTT ที่เคยเป็นของคนไทย แต่จะกลับมารีดเลือดปูจากคนไทย เพื่อส่งส่วยให้ผู้ถือหุ้น โดยการขายLPG ที่ขุดได้เองในราคาตลาดโลก ขำกลิ้งจริงๆ(กลิ้งฝุ่นตลบเลย) แค่ความคิดแบบนี้ก็รู้แล้วล่ะ ว่าใครทำเพื่อประชาชนของตัวเองมากกว่ากัน แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 50 20:47:23 จากคุณ : ....4จุด - [ 2 ส.ค. 50 20:43:38 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ใครจะไป บ้าอ่าน ตอนนี้ใช้ ชิวๆ ไปเรื่อยๆ จากคุณ : #23 - [ 2 ส.ค. 50 20:44:46 A:58.64.20.58 X: TicketID:106642 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ราคาขายปลีกที่จขกท.บอกมา น่ะ มันเป็นราคาต่อกิโลครับ ตามตาราง 16.81 บาท/กก. หารด้วย 1.8 กลายเป็น 8.41 บาท/ลิตรครับ คนใช้ LPG ซื้อเป็นลิตรจากปั๊มตกลิตรละ 9-11 บาท ต่อไปไม่ต้องชดเชยอีก68สตางค์ บวกกลับเข้าไป ก็แค่ตกลิตรละ 8.75 บาท เอาล่ะถ้าราคาแก๊สจะขายขึ้นราคาเป็น 15.3 บาท จากเดิม 10.75 ก็เท่ากับขึ้น กก.ละ 4.55 บาท ตกขึ้นลิตรละ 2.28 บาท กลายเป็นราคาขายปลีก 8.41+2.28 = 10.69 บาท ไม่ค่อยมีปัญหากับรถใช้แก๊สเท่าไหร่กับการขึ้นราคาแก๊ส 2 บาทสลึง แต่ทีึ่น่าสนใจก็คือ P_wut ดันแฉออกมาว่ารัดบานดันเก็บภาษีสรรพสามิตจากคนใช้แก๊สเพื่อการหุงต้มด้วยเหมือนน้ำมัน (ปกติการภาษีสรรพสามิตเก็บกับสินค้าซึ่งถือเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย) หรือคิดว่าการต้มอาหารให้สุกแล้วค่อยกินเป็นการฟุ่มเฟือย ดังนั้นที่ถูกต้องคือกินอาหารดิบเป็นคนป่ารึไง ที่ทุกท่านข้างบน(ยกเว้นเจ้าของกระทู้) กล่าวมาถูกต้องครับ แก๊สจากอ่าวไทยแยกเป็น LPG แล้วเหลือล้นจากการบริโภคในประเทศ จึงต้องส่งออก ส่วนแก๊สที่เป็นของเหลือเดนจากการกลั่นน้ำมัน ส่วนใหญ่ขายรวมกับแนฟทาให้โรงงานปิโตรเคมีเอาไปทำเม็ดพลาสติกกับอโรมาติกส์ต่อไป ดังนั้นการขึ้นราคาแก๊สหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการอยากได้ผลกำไรเพิ่มขึ้นของบริษัทเป็นสำคัญ ปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้นตอนนี้ก็คือ ตลาดหุ้นมันขึ้นเอาอ่ะคับ ถ้ามีหุ้นบริษัทพลังงานน้ำมันสารขัณฑ์ขึ้นจากราคา 200 บาทเป็น300บาท โดยสัญชาติญาณของผู้บริหารหัวสี่เหลี่ยมคลุมปี๊บ ก็ต้องหาวิธีทำกำไรให้ขึ้นไปสูสีกับราคาหุ้นที่มันขึ้นไปแบบไร้สาระ สมมุติว่าปีที่แล้วมันฟาดกำไร(ที่เปิดเเผยได้ไม่รวมส่วนตัว)สัก 9หมื่นล้าน ตอนนี้ราคาหุ้นขึ้นไป 150% มันก็ต้องทำกำไรทือ่ๆให้ได้ประมาณ 13.5หมื่นล้าน แล้วมันจาไปเอาจากไหนล่ะทีนี้ ก็ขึ้นราคาพลังงานที่ขายให้พวกคุณไงเล่า P_wut เมื่อก่อนหาว่าผมเพ้อ ที่มาเล่าในนี้ว่ามีบ.พลังงานใหญ่ แอบไปเปิดบริษัทจึกกะดึ๋ย ที่เกาะฟอกเงินเคย์แมนชื่อดัง แล้วตอนนี้เป็นไงยอมรับตอนโดนซักฟอกกลางสภา จากคุณ : x - [ 2 ส.ค. 50 22:22:51 A:210.246.64.150 X: TicketID:052378 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ปิโตรนาสมาเลเซีย เขาขายน้ำมันราคาถูกให้คนในประเทศใช้ โดยยอมขาดทุนกำไร แล้วเหลือเท่าไรค่อยส่งออก ไม่เห็นว่าปิโตรนาสเขาจะเจ๊งเลย มีแต่เจริญยิ่งขึ้่น ผิดกับบ้านเรา PTT ที่เคยเป็นของคนไทย แต่จะกลับมารีดเลือดปูจากคนไทย เพื่อส่งส่วยให้ผู้ถือหุ้น โดยการขายLPG ที่ขุดได้เองในราคาตลาดโลก ขำกลิ้งจริงๆ(กลิ้งฝุ่นตลบเลย) แค่ความคิดแบบนี้ก็รู้แล้วล่ะ ว่าใครทำเพื่อประชาชนของตัวเองมากกว่ากัน จากคุณ : ....4จุด   - [ 2 ส.ค. 50 20:43:38 ] -------------------------------------------------------------- โดนใจอย่างแรง ขายในประเทศมันได้กำไรน้อย เลยอยากส่งขายต่างประเทศดีกว่า ได้ฟาดกำไรจนท้องแตกตายแน่ๆ จากคุณ : ทาคุจัง - [ 2 ส.ค. 50 23:08:00 ]

ความคิดเห็นที่ 18 - เรื่อง LPG ผมไม่ค่อยรู้มากนัก  ท่านใดรู้ว่า ผลิตจากก๊าซธรรมชาติ กี่ล้านลิตร? ผลิตจากการกลั่นน้ำมันกี่ล้านลิตร  ช่วยมาแชร์กันหน่อย  ตอนนี้ผมก็หาได้แต่ปริมาณการใช้ กับปริมาณการผลิต(ตัวเลขรวม) แต่ไม่รู้สัดส่วนครับ - ภาษีสรรพสามิต เก็บกับ LPG ผมไม่แน่ใจว่า เค้าเก็บกันมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่คิดว่านานหลายปีแล้วนะครับ (น่าจะก่อนวิกฤตเศรษฐกิจปี 40 ด้วยซ้ำ) - เรื่องราคา ทำไมต้องถูก ต้องแพง เคยตอบไปแล้ว แนะนำว่า หาอ่านในคลังกระทู้เก่า - ไม่เข้าใจ คห. 15 ??? จากคุณ : P_Wut - [ 3 ส.ค. 50 09:27:53 ]

ความคิดเห็นที่ 19 การเก็บภาษีสรรพสามิตที่ว่า ผมว่าคงเพราะไม่สามารถปล่อยให้ราคาก๊าซตามบ้านกับราคาแก๊สรถยนต์ต่างกันได้ ไม่เช่นนั้นจะมีคนเอาแก๊สถังตามบ้านไปถ่ายใส่รถวิ่ง ปัญหาเรื่องความปลอดภัยจะตามมา ถ้าจำไม่ผิดเมื่อก่อนรัฐอุ้มแก๊สบ้าน ไม่อุ้มแก๊สรถยนต์ เลยเกิดปัญหาอย่างที่ว่า สุดท้ายเลยต้องปล่อยให้เท่ากัน จากคุณ : ELANTRAnsport - [ 3 ส.ค. 50 10:21:35 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ปิโตรนาสมาเลเซีย เขาขายน้ำมันราคาถูกให้คนในประเทศใช้ โดยยอมขาดทุนกำไร แล้วเหลือเท่าไรค่อยส่งออก ไม่เห็นว่าปิโตรนาสเขาจะเจ๊งเลย มีแต่เจริญยิ่งขึ้่น ->  ปิโตรนาสเขาก็ขายตามราคาปกตินั่นล่ะครับ  แต่รัฐบาลเค้าไม่เก็บภาษีต่างหาก  ถ้ารัฐบาลไม่เก็บภาษีต่างๆ  ให้ขายปลีกที่ราคาหน้าโรงกลั่นเลย  ราคาบ้านเราก็จะพอๆ กับที่มาเลเซียนั่นล่ะ จากคุณ : sunsetbeach - [ 3 ส.ค. 50 11:24:12 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ทำไมกระทู้นี้ของผม ถึงถูกเสนอลบล่ะ?? ผิดกฏหรือเปล่า?? จริงๆ ก็เกรงๆ อยู่เหมือนกันว่า โทรไปคุยกับ สนพ. แล้วเอามาโพสต์แบบนี้ จะผิดกฏหมายที่เพิ่งออกใหม่มั้ย?? ใครเสนอลบ ก็ช่วยลงเหตุผลให้หน่อยครับ แต่ถ้าเสนอลบเพราะขวางหูขวางตา อันนี้ค้านหัวชนฝาเลย จากคุณ : P_Wut - [ 3 ส.ค. 50 11:35:00 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ผมทำ  linkให้เพราะกลัวว่ากระทู้นี้จะตกเร็วยังโดนเสนอลบเลยครับ จากคุณ : pop35 - [ 3 ส.ค. 50 13:49:22 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เอ่อ คุณ pop35 ตอนนี้ 15:10 น. กระทู้ของผมได้รับการโหวต "ไม่ลบ" แล้วครับ (ตอนแรก มองหากระทู้ไม่เจอ ก็นึกว่า จะโดนซะแล้ว หุ หุ) แต่กระทู้ของคุณ อาจถูกเสนอลบ เพราะกระทู้ของผมอันนี้ มันยังไม่เก่าเกินไปมั้งครับ? รอให้มันตกหน้า 2 ก่อนก็ได้นะ (มีคนแซวกระทู้ของคุณนะว่า ไม่อยากให้กระทู้ผมตก แต่กระทู้คุณทำให้กระทู้ของคนอื่นตกน่ะ อิ อิ) จากคุณ : P_Wut - [ 3 ส.ค. 50 15:13:29 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ปิโตรนัสเป็นผู้ส่งออกน้ำมันในตลาดโลกนะ จะเอาไทยไปเทียบได้หรือครับ ทำไมไม่เทียบซาอุฯเลยละ จากคุณ : 2 (บอลค้าบ) - [ 3 ส.ค. 50 15:57:55 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ใครเป็นผู้กำหนดราคา หรือตั้งราคาในเมืองไทย จาก product in bangkok จากตารางข้างบน ผู้ขายมีส่วนเป็นผู้ตั้งราคาเองใช่หรือปล่าวครับ จากคุณ : Chaeh - [ 4 ส.ค. 50 00:01:47 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ตอบคุณ Chaeh ครับ ราคาหน้าโรงกลั่น (ช่องแรกในตาราง) จะอิงจากราคาสิงคโปร์ + ค่าขนส่งมาไทยครับ ส่วนที่ว่า ตารางนั้น in bangkok คือเป็นราคาอ้างอิงใน กทม.และปริมณฑล ราคาต่างจังหวัด เค้าจะให้บวกเพิ่มได้ ตามระยะทางที่ห่างออกไปจาก กทม. ครับ ลองหาอ่านดูจาก http://www.eppo.go.th หรือเข้าไปอ่านกระทู้นี้ก็ได้ครับ http://topicstock.pantip.com/ratchada/topicstock/2007/05/V5449994/V5449994.html แต่อาจจะผิดบ้าง ถูกบ้างนะครับ เป็นการแชร์ความเห็นละกัน จากคุณ : P_Wut - [ 5 ส.ค. 50 01:37:56 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอถามแบบไม่รู้เรื่องนะครับ เอาแบบว่าในความเข้าใจของผมเลยนะ รบกวนตอบให้ทีครับ จะรออ่านครับ สมมุติว่ามีหุ้นส่วน 2 คน เปิดร้านขายคอม อยู่มาวันนึง หุ้นส่วนคนนึงอยากซื้อคอมไว้ใช้ เลยจะซื้อจากร้านตัวเองในราคาต้นทุน+ค่าดำเนินการ+กำไรนิดหน่อย แต่หุ้นส่วนอีกคนมาบอกว่า จะขายให้ในราคาเท่าๆกันกับที่ร้านอื่นเค้าขายกัน(ราคาเพิ่มอีก50%) เพราะว่ามันขาดทุนกำไร จริงๆมันก็ถูกที่ควรคิดราคาตามร้านอื่น เพราะเค้าก็ได้กันทั้ง2คน แต่กรณีนี้ ผมว่าถ้าจะขึ้นราคาให้เท่ากับประเทศอื่น แล้วเงินมันเข้ารัฐทั้งหมดไม่ใช่นายทุนมันก็ยังพอรับได้นะ แต่นี่มันเรื่องอะไรที่จะต้องขึ้นราคาเพื่อให้พวกผู้ถือหุ้นมันกำไรมากขึ้น จริงๆมันก็กำไรอยู่แล้ว แค่ขาดทุนกำไร - - ถ้ามันเป็นรัฐวิสาหกิจแบบเดิมนะ แล้วมาบอกว่าจะขึ้นราคาเพราะรัฐขาดทุนกำไรเงินจะได้เอามาบริหารประเทศได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ผมว่าคงไม่มีคนท้วงหรอก(ถ้าเป็นรัฐวิสาหกิจ นโยบายก็คงไม่เหมือนบริษัท รัฐวิสาหกิจไม่ได้มุ่งหวังผลกำไรแต่ทำเพื่อประชาชน บริษัทมุ่งหวังผลกำไรสูงสุดใครจะเป็นไงช่างหัวมันบริษัทได้เป็นพอ) ก่อตั้ง สร้าง บริหารมาตั้งนาน รัฐทำเองได้ ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมจะต้องเอากำไรมาแบ่งให้นายทุนแทนที่จะเข้ารัฐไปเต็มๆ ดีนะที่ไฟฟ้าไม่เข้า ตลาดด้วย ไม่งั้นก็คงรวยกันยิ่งกว่านี้ คนจนก็คงยิ่งจนกว่านี้ ทีพวกที่ขาดทุน ขสมก รฟท ไม่เอามามั่งล่ะ - - มันไม่รู้สึกแปลกๆมั่งหรอครับ ขอถาม จขกท เพื่อมเติมนะครับ พอดีไปอ่านลิ้งข้างล่างนี้มาอ่ะครับ http://topicstock.pantip.com/ratchada/topicstock/2007/05/V5449994/V5449994.html สงสัยว่า ปตท. ก็เป็นบริษัทมหาชนไปแล้ว ทำไมยังผูกขาด เป็นเจ้าเดียวที่ขายก๊าซอยู่อีกล่ะครับ ถึงจะไม่ได้เป็นเอกชนก็เถอะ อย่างนี้มันเอาเปรียบบริษัทอื่นนิครับ ผูกขาด+อภิสิทธิ์อ่ะ เผื่อ กฟผ จะได้ไปหาซื้อก๊าซที่ถูกๆกว่านี้จากเจ้าอื่น แล้วค่า ft ก็จะได้ถูกลงอ่ะครับ ไม่เข้าใจจริงๆ เอารัฐวิสาหกิจอันนี้ไปนี่กระทบหลายอย่างมากๆเลย ทั้งไฟฟ้า ขนส่ง ราคาสินค้าอื่นๆ ก็ขึ้นตามน้ำมัน แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 50 17:10:23 จากคุณ : tont_kub (tont_kub) - [ 6 ส.ค. 50 16:45:57 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ถามมาแบบคุณ tont_kub นี่ น่าตอบให้ครับ  แต่ความเห็นของผม ก็ใช่ว่าจะถูกต้องซะทั้งหมดนะครับ  เอาเท่าที่ผมพอจะคิดเองได้ก็แล้วกัน 1. เรื่องซื้อคอมจากร้านของตัวเอง (ที่เจ้าของมีผู้ถือหุ้นคนอื่นอยู่ด้วย ไม่ใช่ของตัวเองคนเดียว 100%) ผมเห็นด้วยว่า ควรคิดราคาเท่าที่ขายให้คนอื่นๆ  กำไรที่ได้จากคอมเครื่องนั้น ก็ถูกรวมอยู่ในกำไรสุทธิของร้านตอนปลายปี แล้วก็ค่อยไปจัดสรรปันส่วนกันว่า จะเอาไปทำอะไรต่อ จะเอากำไรทั้งหมดไปแบ่งคืนผู้ถือหุ้นตามส่วน หรือจะคืนแค่ส่วนเดียว ที่เหลือเอาไว้ขยายธุรกิจ  การทำแบบนี้ จะสร้างความเป็นธรรม และความน่าเชื่อถือให้แก่หุ้นส่วนทุกส่วน ในทางกลับกัน ถ้าคุณซึ่งเป็นเจ้าของหุ้นส่วนนึง บอกว่า ขอซื้อคอมเครื่องนึง ในราคาพิเศษ  *** ผมขอสมมติเพิ่มเติมแล้วกันว่า ร้านนี้มีหุ้นส่วน 3 คน มีอยู่ 1คนที่เป็นอาจารย์มหาลัยเอกชน ซึ่งจะได้ notebook / computer มาใช้จากมหา'ลัย ไม่ต้องออกตังค์ซื้อเอง  หากหุ้นส่วน 2 คนขอซื้อในราคาพิเศษ หุ้นส่วนคนที่ 3 ครั้งแรกคงยอมล่ะครับ เพื่อรักษามิตรภาพ  แต่ถ้าทำบ่อยๆ ซื้อกันเป็นร้อยๆ เครื่อง แต่ร้านคอมร้านนี้ ขายด้วยราคาทุน ก็เท่ากับว่า หุ้น 2 คนแรกได้ประโยชน์ไปเต็มๆ แล้วถ้าหุ้นที่ 3 เค้าไม่ได้อะไรชดเชยเลย  เค้าจะยอมมั้ยครับ?? หรือเค้าได้ชดเชย แต่เมื่อเทียบเป็นมูลค่าแล้ว น้อยกว่าเมื่อเทียบกับอีก 2 หุ้นเค้าได้ไปอยู่เยอะ คุณว่า หุ้นส่วนทั้ง 3 ของร้านนี้ จะร่วมทำธุรกิจกันอีกนานมั้ยครับ?? 2. เรื่องหลักการกำหนดราคาน้ำมัน ที่ไปอ้างอิงตลาดสิงคโปร์นั้น ลองไปอ่าน คห.ที่ 6-10 ของกระทู้นี้ดูก่อนแล้วกันนะครับ http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V5652397/V5652397.html แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 50 23:14:23 จากคุณ : P_Wut - [ 6 ส.ค. 50 23:13:12 ]

ความคิดเห็นที่ 29 3. เรามาลองสมมติกันมั้ยครับว่า ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงราคาน้ำมันขายปลีก  โดยกำหนดว่า "ให้ราคาหน้าโรงกลั่นทุกโรงในประเทศ ถูกกว่าราคาหน้าโรงกลั่นที่ สิงคโปร์ 10 เหรียญต่อบาร์เรล" (สมมติให้ถูกกว่ากันเยอะหน่อย จะได้เห็นภาพนะครับ) - โอเค โรงกลั่นในเครือ ปตท. ทุกโรงต้องทำตามแน่นอนเพราะเป็นนโยบายของรัฐ  และรัฐก็เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน ปตท. (เกินครึ่ง) หากมีการโหวตเสียงคณะกรรมการบริษัท ให้ยอมรับการกำหนดราคาแบบนี้หรือไม่  ฝ่ายรัฐชนะแน่นอน  แต่หุ้นส่วนที่เหลือเค้าจะพอใจ ยอมรับได้หรือไม่ได้ ผมไม่รู้นะครับ - โรงกลั่นอื่นๆ ในประเทศ ที่ฝ่ายรัฐถือหุ้นส่วนน้อยล่ะครับ เช่น ++ ESSO (Exxon อเมริกาถือหุ้นใหญ่ โดยขึ้นกับสำนักงานภูมิภาคที่สิงคโปร์ กระทรวงการคลังถือหุ้น 12.5%) ++ SPRC (Chevron ถือหุ้นค่อนข้างมาก ส่วน ปตท. อนาคตจะลดการถือหุ้นจากปัจจุบัน 36% เหลือแค่ 25%) ถ้าเค้าจะขายที่ราคาตามที่รัฐกำหนดแบบนั้น ก็คงจำใจขาย รวมทั้ง คงดิ้นหาทุกวิถีทางที่จะไม่ขายน้ำมันให้แก่คนไทย แต่จะส่งออกไปขายต่างประเทศ (แม้ว่าการส่งไปขายสิงคโปร์ จะต้องเสียค่าขนส่งก็ตาม) สมมติว่า ทั้ง 2 โรง บินไปติดต่อรัฐบาลกัมพูชา และเวียดนาม แล้วตกลงขายน้ำมันที่ผลิตจากโรงกลั่นในไทยให้เค้า ด้วยราคาสิงคโปร์ - 3 เหรียญ/บาร์เรล  รัฐบาลทั้ง 2 ชาติ ตกลงซื้อ  เพราะว่าเค้าได้ราคาถูกกว่า ราคาสิงคโปร์+ค่าขนส่งจากสิงคโปร์ไปประเทศเค้า  ส่วนโรงกลั่นในไทยทั้ง 2 โรง ก็ได้กำไรเพิ่มขึ้นอีก 7 เหรียญ/บาร์เรล แล้วใครจะรับผิดชอบ หากปริมาณน้ำมันที่เหลืออยู่ ไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ภายในประเทศล่ะครับ? จากคุณ : P_Wut - [ 6 ส.ค. 50 23:28:34 ]

ความคิดเห็นที่ 30 4. ผมขอมองในอีกมุมนึง นอกเหนือจากพวกเรื่องเศรษฐศาสตร์ การค้าเสรีระหว่างประเทศ นะครับ (จริงๆ มุมมองนี้ ได้เห็นตอนอ่านความเห็นของท่านอื่นๆ ในกระทู้เก่าๆ อีกที ขอมาเล่าความ/ขยายความตรงนี้แล้วกัน) นโยบายการกำหนดราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นของไทย ที่กำหนดสูตรว่า เอาราคาหน้าโรงกลั่นสิงคโปร์บวกค่าขนส่งเนี่ย  เค้าประกาศมาตั้งแต่ปี 2544 แล้วนะครับ (ลองไปอ่านดูได้ที่เว็บ eppo ครับ)  ซึ่ง ณ ปีนั้น น้ำมันราคายังไม่ได้ก้าวกระโดดขึ้นมาสูงขนาดนี้นะครับ  ผมยังจำสมัยหลังวิกฤตต้มย้ำกุ้งใหม่ๆ ที่พาเอาประเทศในย่านอาเซียนและเอเซียบางส่วนฟองสบู่แตกไปด้วย  สมัยนั้น ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก เคยตกลงไปถึง 18-20 เหรียญ/บาร์เรล ตกต่ำจน OPEC ต้องคอยมาออกข่าว มาประชุมร่วมกันเพื่อตกลงร่วมกันว่า จะลดกำลังการผลิตน้ำมันเพื่อพยุงราคา ให้ราคามันพลิกกลับมาเป็นขาขึ้น  ตอนปี 44 ราคาน้ำมันดิบก็กลับมาอยู่ในช่วงขาขึ้นแล้วครับ (แต่ผมบอกตรงๆ ว่า จำไม่ได้ครับว่าตอนนั้นมันกี่เหรียญ/บาร์เรล  เพราะมันอยู่ระหว่างขาขึ้น มันก็ขึ้นมาเรื่อยๆ ทีละนิดๆ ) การกำหนดราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นแบบนั้น ผมว่า มันก็แฟร์นะ ไม่ถือว่าเป็นการได้เปรียบเสียเปรียบอะไรกัน ก็เป็นไปตามหลักสากล / กลไกการตลาดทั่วๆ ไป หลังจากนั้นแล้ว ก็เริ่มเข้าสู่กระบวนการแปรรูป ปตท.ล่ะครับ (จริงๆ เรื่องนี้ผมไม่แม่นนะ ใครรู้ข้อมูลที่ถูกต้อง เห็นว่าผมออกคห.ไว้ผิด ก็ท้วง/แก้ไขได้เลยครับ) ปัญหาคือ เมื่อ ปตท. เปลี่ยนเป็นบริษัทมหาชน เข้าระดมทุนในตลาดหุ้น ไปแล้ว 3 ปี น้ำมันเริ่มแพงขึ้นๆ จนเป็นอย่างทุกวันนี้  ถ้าจู่ๆ รัฐบาล/กระทรวงพลังงาน ขอเปลี่ยนแปลงนโยบาย ไปกำหนดราคาหน้าโรงกลั่นถูกๆ อย่างตัวอย่างที่ผมยกล่ะ  คุณคิดว่า - รัฐบาลไทย มีหน้าไปมองนักลงทุนโลกมั้ยครับ? (หรือคุณคิดว่า เราควรทำอย่างที่ เวเนซูเอล่า ทำ?) - ถ้ามีการแปรรูปรัฐวิสาหกิจอื่นๆ ไปเป็นบริษัทมหาชน เข้าระดมทุนในตลาดหุ้น ลำดับที่ 2 3 4 คุณคิดว่า จะมีใครมาซื้อหุ้นนั้นมั้ยครับ? - หรือ หาก ปตท.ต้องการเพิ่มทุน เพื่อจะไปซื้อสัมปทาน บ่อน้ำมัน / บ่อแก๊สธรรมชาติในประเทศอื่น  จะมีนักลงทุนที่ไหนมาซื้อหุ้นเพิ่มทุนมั้ยครับ? แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 50 23:49:48 จากคุณ : P_Wut - [ 6 ส.ค. 50 23:42:44 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เดี๋ยวผมขอตอบแค่นี้ก่อนนะครับ จะมาต่อวันหลังครับ จากคุณ : P_Wut - [ 6 ส.ค. 50 23:53:20 ]

ความคิดเห็นที่ 32 แต่ว่า LPG ที่เค้าจะขึ้นราคานี่ ก็ได้จากการกลั่นในประเทศ ไม่ได้นำเข้า LPGมาเพื่อเอามาขายคนไทย จริงๆมันควรจะเป็นเหลือใช้ในประเทศแล้วจึงส่งออกไม่ใช่หรือครับ เพราะจริงๆแล้วปริมาณการใช้เยอะ แต่ว่าก็ยังเหลือส่งออก ก็แค่ขาดทุนกำไร ผมว่าเอาน้ำมันมาเปรียบเทียบกันกับ LPG มันไม่ถูกอ่ะ จะเปรียบเทียบกันกับข้าวน่าจะได้นะครับ เกิดจากการผลิตในประเทศ ใช้ในประเทศที่เหลือจึงส่งออก แล้วนี่ทำไมต้องเอาราคาก๊าซในประเทศ ไปอ้างอิงเพื่อที่จะขายราคาตามต่างประเทศล่ะครับ ไม่งั้นข้าวก็คงต้องอ้างอิงราคาจากต่างประเทศให้คนไทยกินข้าวไทยในราคาต่างประเทศ ถึงจะถูกใช่ป่ะครับ คิดแบบบ้านๆอ่ะนะครับ ผิดถูกอย่างไรชี้แจงด้วย เพราะผมเข้าใจว่า lpg เป็นผลพลอยได้จากการกลั่น ถูกรึป่าวครับ ปตท ไม่ควรเข้าตลาดตั้งแต่แรกแล้ว เข้าแล้วก็เป็นซะแบบนี้ อยากได้กำไรสูงสุด แต่มาอ้างว่ารัฐถือเกินครึ่ง ทำเพื่อประเทศ ทำเพื่อประเทศจริงเอามาให้เอกชนถือทำไมอ่ะครับ ทำไมไม่ให้เป็นของรัฐไปเลย 100% ผมว่าคนต้นคิดที่อยากได้ส่วนแบ่ง ปตท มันก็คือคนหวังรวยเอาเปรียบรัฐอ่ะแหละครับ แล้วเป็นบริษัทแล้วทำไมถึงยังผูกขาดอีกล่ะครับ ก็อ้างว่ารัฐถือส่วนใหญ่อีก จะหลอกลวงประชาชนไปถึงไหนอ่ะครับ อย่างแก๊ซโซฮอลนี่ผมว่าใครที่เคยลองใช้ก็รู้ๆกันอยู่ว่า มันอืด วิ่งได้น้อยกว่าเดิมจริงๆ แล้วยังมาโฆษณาชวนเชื่อแบบแดกดันอีกว่า อะไรๆก็โทษแก๊ซโซฮอล เงินส่วนที่เอามาโฆษณาชวนเชื่อน่าจะนำไปพัฒนาประเทศชาติมากกว่านะครับ แต่คงเป็นไปได้ยากแล้ว เพราะเอกชนก็มาครอบงำจนได้ ผิดหรือถูกไม่รู้อ่ะครับ บริโภคข่าว และเข้าใจตามที่บริโภคมาหลายๆแนว ถ้าอันไหนเข้าใจผิดอย่างไร รบกวนอธิบายให้ฟังทีนะครับ ที่ตอบผมมาข้างบน ประเด็นไม่ใช่เรื่องราคาน้ำมันอ่ะครับ รู้สึกที่ตอบผมจะคนละประเด็นอ่ะครับ ที่ผมยกตัวอย่างคอมก็คือLPG หุ้นส่วนสองคนก้คือ 1รัฐ 2ผู้ถือหุ้น ถ้าเป็นหุ้นส่วนกันก็ให้ซื้อในราคาเท่าๆกับที่อื่นก็ถูกต้องแล้ว แต่ประเทศไม่ใช่บริษัท ทำไมถึงต้องให้ประชาชนไปซื้อของแพงข้างนอก แทนที่จะเอาของถูกขายให้ประชาชนที่ราคาต้นทุน+กำไรที่พออยู่ได้แบบปัจจุบัน เหลือแล้วจึงส่งออก หรือผู้ถือหุ้นใหญ่(รัฐ)ต้องการขูดเลือดจากประชาชน? จากคุณ : tont_kub (tont_kub) - [ 7 ส.ค. 50 10:25:32 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขอแวะมาตอบสั้นๆ ก่อน 1. สงสัยผมจะหลงประเด็นไปเอง พอดีเห็นคุณ tont อ้างอิงกระทู้นั้น ซึ่งมันเกี่ยวกับราคาน้ำมันนะครับ ส่วนราคา LPG นี่ ตามที่ผมบอกไว้ในกระทู้นี้ ก็คือ เค้าตั้งราคาหน้าโรงกลั่นโดยเฉลี่ยระหว่าง ราคาตลาดโลกตอนนั้น กับราคาต้นทุน (หรือไงเนี่ย) ของส่วนที่กลั่นแยกออกมาจากก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยครับ สรุปคือ ราคา LPG ตอนนี้ ไม่ได้อ้างอิงกับราคาหน้าโรงกลั่นสิงคโปร์เลยครับ fix อยู่ที่ 315$/Ton แต่ที่เค้าจะปรับราคาขึ้นไป  โครงสร้างเค้าก็ยังไม่สรุปนะ ผมเลยยังให้ความเห็นเพิ่มเติมอะไรไม่ได้ครับ 2. เรื่องข้าว จริงๆ ผมก็ไม่รู้เรื่องมากนักนะครับ แต่จากที่ฟังข่าว ขอให้เป็นข้อสังเกตแทนละกัน  ถ้ามีใครรู้ว่า ความเข้าใจผมไม่ถูกต้อง ช่วยรบกวนแก้ไข - แจ้งข้อมูลจริงด้วยครับ เห็นข่าวว่า รัฐบาลจะลดการแทรกแซงราคาข้าว (คงจะใช้วิธีจำนำข้าว อย่างที่ได้ยินกันบ่อยๆ มั้งครับ) ให้น้อยลงๆ เรื่อยๆ  ผมตีความได้ว่า ก่อนหน้านี้ - ราคาข้าวในตลาดโลก มันแกว่งขึ้นๆ ลงๆ บางช่วงก็ถูกซะจนชาวนาเดือดร้อน ขายขาดทุน  รัฐก็เลยต้องแทรกแซงโดยรับจำนำปริมาณข้าวส่วนที่ผลิตเกินไปเก็บไว้ เพื่อพยุงราคาข้าวในตลาดให้สูงขึ้นมา - ถ้าราคาข้าวในตลาดโลกมันสูง จนชาวนาไม่เดือดร้อน รัฐคงไม่ยุ่งหรอกมั้งครับ สรุปได้ว่า ตลอดช่วงที่ผ่านมา ราคาข้าวที่เราซื้อ มีแต่สูงตามจริง กับสูงเกินจริง ไม่มีโอกาสต่ำตามจริง  แต่รัฐบาลก็ต้องทำเพื่ออุ้มชาวนาให้อยู่รอดต่อไปได้ครับ แต่จากนี้ไป รัฐบาลจะพยายามลดการแทรกแซงนี้ลง จะปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด โดยอาศัยการใช้เครื่องมือของ ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า เป็นตัวช่วยคาดการณ์ราคาและปริมาณความต้องการของสินค้าเกษตรทั้งหลาย ซึ่งรวมถึงข้าวด้วย กลุ่มเกษตรกรก็ต้องคอยดูกันเองว่า ฤดูหน้าควรปลูกมากปลูกน้อยเท่าไหร่ มั้งครับ? จากคุณ : P_Wut - [ 7 ส.ค. 50 12:13:05 ]

ความคิดเห็นที่ 34 คำว่า ผลพลอยได้ ไม่ใช่ แปลว่า เราไม่คาดหวังกำไรจากมันนี่ครับ คำว่า ผลพลอยได้ หมายถึง มันไม่ใช่ผลิตผลตัวหลัก ของกิจการที่เราทำ เป็นเหมือนส่วน หรือเศษที่เหลืออยู่  แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม หากเมื่อเวลาเปลี่ยนไป ราคามันสูงขึ้น เพราะมีคนค้นพบเทคโนโลยี่ที่เอามันไปผลิตเป็นสินค้าชั้นดีได้  (หรือพูดอีกนัยนึงก็คือ ผลพลอยได้นี่ มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น)  แล้วทำไมเรายังจะต้องกดราคาให้มันต่ำๆ แล้วเอามันไปเผาเป็นเชื้อเพลิงอย่างเดียวล่ะครับ? เรื่องแปรรูปเข้าตลาดหลักทรัพย์ โดยหลักการ ผมยังเห็นด้วยเหมือนเดิม เพียงแต่ - ขั้นตอนการแปรรูป การกระจายหุ้น ในกรณีของ ปตท. ไม่เหมาะสม ไม่รัดกุม สุดท้าย กลายเป็น ลูกค้ารายใหญ่ของธนาคาร / สถาบันการเงินที่รับหน้าที่กระจายหุ้น ได้ไปเป็นส่วนใหญ่ อย่างที่เป็นข่าวปรากฏออกมา - เรื่องราคาหุ้นที่สูงอย่างทุกวันนี้ ก็เป็นเพราะสถานการณ์ในเวลาต่อมา  ตอนแรกๆ ก็ยังเห็นแกว่งขึ้นๆ ลงๆ ช่วง 35-45 บาทแหละครับ - ไม่ว่าจะแปรรูปอย่างไร หรือจะไม่แปรรูปก็ตาม  ผมก็ยังไม่เห็นด้วยที่จะให้ขายทรัพยากรของประเทศ ให้ประชาชนในยุคสมัยนั้นๆ ในราคาถูกๆ ใช้กันอย่างฟุ่มเฟือย ไม่เห็นค่าของมัน   ที่ทุกวันนี้ เราเดือดร้อนจากค่าน้ำมัน เพราะส่วนหนึ่งก็คือ เราไม่มีทางเลือกอื่นๆ ให้เลือกกัน ที่คุณบอกว่า แก๊สโซฮอล์ นั้นจริงๆ แล้วไม่ได้ประหยัดเลย ถูกต้องครับ ใช้แก๊สโซฮอล์แล้วจะสิ้นเปลืองกว่าเดิม  ตอนนี้คุณยังอาจจะรู้สึกว่า ไม่คุ้มที่จะใช้ / โดนรัฐบิดเบือนทำราคาแก๊สโซฮอล์ให้ถูก / ตั้งราคาเบนซินธรรมดาให้แพง ทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง แต่ถ้าอีกปีสองปี ราคาน้ำมันเบนซินมันขึ้นไปเป็น 4-50 บาท/ลิตร  ถึงเวลานั้น แก๊สโซฮอล์อาจจะถูกลงไปอีก (เพราะวัตถุดิบเราสามารถหามาได้จากหลายๆ อย่าง ไม่ใช่ต้องขุดเอาน้ำมันดิบจากใต้พื้นโลกมาทำ)  คุณอาจจะเต็มใจใช้แล้วก็ได้  ช่วงนี้มันช่วงเริ่มต้น มันต้องให้อุตสาหกรรมแก๊สโซฮอล์ตั้งลำได้ก่อนนะครับ - การที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกแพงขึ้นอย่างทุกวันนี้ ทำให้ทุกๆ ประเทศหันกลับมาตระหนักอีกครั้ง ถึงการหาแหล่งพลังงานทางเลือก รวมทั้ง กลับไปเริ่มพิจารณาว่า การผลิตพลังงานด้วยวิธีทางอื่น เริ่มมีความคุ้มที่จะทำหรือยัง (อย่างเช่น แก๊สโซฮอล์ เป็นต้น) อย่าลืมว่า ยังไงๆ น้ำมันก็จะหมดจากโลกไปในวันใดวันหนึ่ง (ข้อมูลล่าสุด น่าจะเหลือแค่อีก 50-60 ปีเท่านั้น)  การที่พวกเราต้องเดือดร้อนเพราะน้ำมันแพง ก็เพราะเราอาจจะอยู่ในช่วงรอยต่อสำคัญของการเปลี่ยนการใช้ทรัพยากรของโลกจากพวกฟอสซิล ไปเป็นตัวอื่นน่ะครับ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ พวกเราเกิดช้าไป น่าจะเกิดก่อนหน้านี้สัก 1 ช่วงอายุคน จะได้ไม่ต้องมาลำบากลำบนกับน้ำมันแพงๆ แบบนี้ แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 50 12:32:32 จากคุณ : P_Wut - [ 7 ส.ค. 50 12:28:50 ]

ความคิดเห็นที่ 35 "แต่ประเทศไม่ใช่บริษัท ทำไมถึงต้องให้ประชาชนไปซื้อของแพงข้างนอก แทนที่จะเอาของถูกขายให้ประชาชนที่ราคาต้นทุน+กำไรที่พออยู่ได้แบบปัจจุบัน เหลือแล้วจึงส่งออก หรือผู้ถือหุ้นใหญ่(รัฐ)ต้องการขูดเลือดจากประชาชน? " ทรัพยากรธรรมชาติภายใต้เขตแดนประเทศไทย ล้วนแต่เป็นสมบัติของชาติ คำว่า ชาติ ในที่นี้ คุณหมายถึงเฉพาะ คนในยุคหนึ่งๆ เท่านั้นเหรอครับ? ผมไม่แน่ใจว่า ที่หลายๆ คนออกมาแสดงความเห็นกับ ปตท.เนี่ย - เพราะ ปตท.กำไรเยอะเกินไป (ในสายตาของคุณ) - หรือเพราะคุณเดือดร้อนจากราคาน้ำมันแพง?? สมมติมี คนกวาดถนนของกทม.สักคนนึง รับผิดชอบงานกวาดถนนสัก 1 เส้น  ถนนเส้นนี้มีแต่บริษัท/Office เสียส่วนใหญ่  แต่มีร้าน 7-11 เปิดอยู่ร้านนึง งานของคนกวาดถนน ต้องอยู่แต่ริมถนนแทบทั้งวัน ไม่มี office ให้นั่ง ไม่มีห้องน้ำให้เข้า คนกวาดถนนแต่ละคนต้องหาทางออกกันเอาเอง คนกวาดถนนก็ต้องดื่มน้ำ  คนปกติต้องดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร แต่คนกวาดถนนอาจต้องการถึงวันละ 3 ลิตร เพราะเสียเหงื่อมาก น้ำดื่มที่บรรจุขวดขายใน 7-11 สมัยนี้ ก็ ขวดละ 7 บาท ขนาด 600 cc หรือถ้าขวด 1.5 ลิตร ก็น่าจะซัก 15 บาท นั่นหมายความว่า ถ้าต้องซื้อน้ำดื่มบรรจุขวดให้พอในแต่ละวัน เค้าต้องเสียเงินถึง 30 บาท นี่เฉพาะค่าน้ำนะ ยังไม่รวมค่าข้าว 3 มื้อเลย  ถ้าไม่มีทางเลือกทางอื่น คงเป็นเรื่องที่ทุกข์ทรมานสุดๆ ที่ทำงานทั้งชีวิตก็แค่ซื้อข้าวกิน กับซื้อน้ำดื่ม แต่คงไม่มีคนกวาดถนนคนไหน ไปซื้อน้ำดื่มบรรจุขวดขาย  เค้าคงหากินจากก๊อกน้ำประปาจากอาคารตึกแถวแถวนั้นแทน หรือขอไปกดน้ำจากตู้น้ำเย็นใน Office แถวนั้น พวกเราเอง เคยมีใคร anti ไม่ซื้อน้ำดื่มพวกนั้นมากินมั้ยครับ? พวกเราเอง เคยมีใครโวยวายมั้ยครับว่า น้ำดื่มพวกนี้มันราคาแพงเกินจริง เฉลี่ยแล้วลิตรละตั้ง 10 บาท ทั้งๆ ที่น้ำประปาที่ขายกันตามบ้านแต่ละบ้าน คิดกันเป็นลูกบาศก์เมตร ๆ ละ 2-3 บาทเอง (1 ลบ.ม. = 1000 ลิตร)? พวกเราเอง เคยมีใครตั้งคำถามมั้ยครับว่า บริษัทน้ำดื่มพวกนี้ เอาน้ำมาจากไหน ขุดน้ำบาดาลซึ่งเป็นน้ำใต้ดิน เป็นทรัพยากรของชาติอย่างนึง ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่งที่เป็นเจ้าของพื้นที่ผิวดินเหนือบ่อบาดาลนั้น ตกลงที่โวยวายกัน จริงๆ แล้วเพราะ ปตท. กำไรเยอะ หรือเพราะราคาน้ำมันมันแพงครับ? ที่ anti ปตท.กัน แล้วพาไปซื้อน้ำมันยี่ห้ออื่น (ต่างชาติ) เติมกัน ทั้งๆ ที่มันก็ขายราคาเดียวกัน ต่างกันที่เจ้าของเป็นคนต่างชาติคนอื่นๆ มากกว่าคนไทย / รัฐ  คิดว่า ตรรกะนี้ ถูกหรือผิด? จากคุณ : P_Wut - [ 7 ส.ค. 50 12:47:30 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ตอบไปตอบมา ก็ติดลมบนเหมือนเคย เกือบชั่วโมงแล้วเนี่ย ยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลย คุณ tont ลองค้นหากระทู้ในรัชดา จะใช้คำว่า โซฮอล์ ปตท หรือ P_Wut ก็ได้ครับ  (เลือกอ่านกระทู้เฉพาะเกี่ยวกะน้ำมันแล้วกัน เพราะผมเองก็ตอบเกี่ยวกับรถไว้เยอะมากครับ) ผมเคยให้คห. ไว้อีกหลายๆ มุม แต่รวมๆ กันแล้ว โดยแนวคิดแล้วก็ประมาณเนี้ยครับ จากคุณ : P_Wut - [ 7 ส.ค. 50 12:50:58 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอต่ออีกนิดนะครับ ผมว่าที่คนออกมาพูดถึง ปตท. กันเยอะก็เพราะ ทั้ง2อย่างที่คุณP_Wut บอกอ่ะครับ คือเดือนร้อนจากราคาน้ำมันขึ้น+พาราคาของอุปโภคบริโภคขึ้นเยอะตาม+ทำให้ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเยอะขึ้นแบบก้าวกระโดดทั้งๆที่รายรับก้ขยับขึ้นในอัตราเท่าเดิม แต่ที่สำคัญก็คือ ปตท. กำไรเริ่มเยอะขึ้นแบบก้าวกระโดดครับ ในขณะที่ราคาน้ำมันเริ่มขึ้น กำไรของ ปตทก็ขยับขึ้นตาม มันเลยทำให้คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้น่ะครับ ผมว่า ถึงราคาน้ำมันขึ้น แต่กำไร ปตท ขยับขึ้นจากปีก่อนแค่นิดหน่อย(เทียบจากขนาดธุรกิจ)ซักหลักร้อยล้าน พันล้าน ก็คงไม่มีคนมาบ่นถึงหรอกครับ แต่นี่มันเห็นๆไงครับ ว่าค่าใช้ที่เพิ่มขึ้นของประชาชนมันไปตกอยู่ที่ใคร ที่พากันโวยวาย ปตท อีกอย่างก้คงเพราะ ถ้าไม่เข้าตลาดหลักทรัพย์ ราคาอาจจะไม่มาขนาดนี้ กำไรปตทก็อาจจะไม่มาขนาดนี้ เพราะ นโยบาย มันคงไม่เหมือนกัน ผมว่าต่างกันโดยสิ้นเชิง ในมือรัฐก็คงทำเพื่อประชาชนรัฐอาจจะออกนโยบายอะไรก็ทำได้เต็มที่ ไม่ต้องคำนึงถึงผู้ถือหุ้นมากนัก เมื่ออยู่ในมือนักลงทุนก็ต้องเพื่อตัวเองให้ได้กำไรสูงสุดรัฐจะควบคุมอะไรก็คงไม่ได้มาก ทำไปโดนก็หลายๆฝ่ายโจมตี คิดแบบมนุษย์เงินเดือนตาดำๆคนนึงอ่ะครับ ไว้ว่างๆคุณ P_Wut รบกวนอธิบายหน่อยนะครับ เพราะจริงๆแล้วผมเองก็ไม่ชอบความคิดนี้เหมือนกันที่ทำให้นับวันก็ยิ่งเกลียด ปตท. จากคุณ : tont_kub (tont_kub) - [ 7 ส.ค. 50 13:25:58 ]