ถอยหลังเข้าซองจอดรถ ยามห้างก็บอกให้ถอย ๆ
(ก็ไม่อยากจะโทษยามอ่ะนะ) หมุนพวงมาลัยมากไปหน่อย
ล้อหน้าซ้าย ไปโดนกันชนรถข้าง ๆ บังเอิญเจ้าของรถ
อยู่แถวนั้น ว่าเราใหญ่เลย
เรากับเขาลงมาดูรถกัน เขาบอกว่าล้อรถเราไปถูกกันชนรถเขา
(โอโฮ แต่กันชนของพี่เขาลายไปหมดเลย ก็มีรอยดำ ๆ เป็นเส้น ๆ อยู่ประมาณ 2 - 3 เส้น)
เราก็เอาว่ะ รถเรามีประกัน เรียกประกันให้มาเคลียร์กันเองแล้วกัน
(ด้วยคิดเองว่า เรื่องไม่ใหญ่ เพราะตอนลงรถไปดูแผลที่กันชน
เจ้าของรถคันดังกล่าวก็ไม่พูดว่าอะไร เพราะเขาพยายามหารอยที่เฉี่ยวก็หาไม่เจอ
เพราะไม่รู้ว่าอันไหนเป็นอันไหน เพราะรอยเยอะมาก)
แล้วเราก็มั่นใจว่าไม่มีส่วนอื่นของรถเราที่ไปโดยรถเขานอกจากยาง เพราะรถเราสูงกว่า
ไม่น่าจะมีอะไร แล้วเราก็ไม่เถียงเลย กำลังรอใช้โทรศัพท์จากพี่สาว (เพราะเราไม่มีโทรศัพท์)
แล้วพี่สาวเราก็เป็นเจ้าของรถด้วย แต่ตอนนั้นลงไปซื้อของ
ซักพัก(ประมาณ10 นาที) พี่เราก็กลับมาที่รถ
เราก็เล่าให้ฟัง พี่สาวก็เดินไปดูที่รถคันนั้น แล้วคุยกับยามที่อยู่ในเหตุการณ์
ถามหาเจ้าของรถคันนั้น ยามบอกว่าเดินหายไปไหนไม่รู้
เรารออยู่ประมาณ 30 นาที
เจ้าของรถคันนั้นก็ยังไม่กลับมา เราก็เลยคุยกับยามที่อยู่ในเหตุการณ์
ซึ่งทำงานอยู่บริเวณนั้นว่าจะทำอย่างไรดี เพราะทุกคนมีความเห็นเหมือนกันคือ
ยางเฉี่ยวกันชน แต่ไม่มีรอยอะไร (เนี่ยะผิดมากที่คิดเอาเอง ทำให้รู้เท่าไม่ถึงเหลี่ยมเขา)
ก็เลยคุยกันเอาเอง (อีกแล้ว) ว่าคงไม่เป็นไรมั้ง เจ้าของรถลงมาดูรถแล้ว แล้วเดินหายไป
คงไม่มีอะไร จึงได้พูดกับยามในห้างว่าจะกลับแล้ว โดยไม่ได้ตั้งใจหนีแต่อย่างใดแน่นอน
โดยที่เราไม่ได้โทรแจ้งประกัน และแจ้งความแต่อย่างใด
ด้วยคิดว่าไม่มีอะไร (คิดเองอีกแล้ว)
ผลก็คือ
ผ่านไปห้าเดือน (จนลืมไปแล้ว) มีจดหมายจากสำนักงานทนายความ ให้จ่ายค่าซ่อม
และค่าเสียโอกาสเป็นเงินสองแสนกว่าบาท จากเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น
อึ้งค่ะ เลยแจ้งบริษัทประกันให้จัดการ โดยเราก็เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง
ประกันก็ดีมากค่ะ (อยากบอกชื่อบริษัท จัง) บอกว่าถ้าเกิดขึ้นจริง เขาก็จะจัดการให้
โดยเราต้องบอกความจริงกับเขาค่ะ ห้ามปิดบัง แค่นั้นเอง
เขาก็จะได้คุยกับคู่กรณีได้ถูกต้องค่ะ
แต่ประกันแจ้งให้ทราบว่า ได้โทรไปที่สำนักงานทนายดังกล่าวแล้ว และจะขอคุยกับเจ้าของรถ
แต่ทนายไม่ให้ติดต่อค่ะ ประกันเลยถามว่าแล้วทางโน้นจะเอาอย่างไง
ทนายก็ไม่พูดอะไรค่ะ ก็บอกแต่เพียงว่าก็ได้รับมอบหมายให้มาทวงเงินสองแสนตามหนังสือนั่นแหละ
ทางประกันก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็เลยไม่ทำอะไรต่อค่ะ
ปัจจุบัน เราได้รับหมายศาลค่ะ ในคำร้องอ่านแล้วจี๊ดมากค่ะ
กล่าวหาว่าเราชนแล้วหนี แล้วได้ทวงถามค่าเสียหายกับเราหลายครั้งแต่เราผัดผ่อนตลอด
(สาบานได้ นอกจากจดหมายแล้ว เราไม่เคยได้รับการติดต่ออีกเลย)
เขาทุกข์ทรมานกับการไม่มีรถใช้ระหว่างซ่อมอย่างมาก ขอค่าเสียโอกาสด้วยค่ะ
เขาแนบสำเนาใบแจ้งความด้วยค่ะว่าเราชนเขาแล้วหนี
(จะเป็นลม นั่งรอพี่เขาเกือบชั่วโมง)
แล้วดูท่าทางเราต้องไปขึ้นศาลอีกหลายยกแน่
เพราะดูสถานการณ์แล้ว ทางเขาคงอยากให้เรื่องถึงศาลแน่
ดูจากสำเนาบัตรของเจ้าของรถเป็นข้าราชการระดับสูงค่ะ เป็นผู้หญิง อายุมากแล้วค่ะ
ฟังจากประกันแล้ว ประกันบอกว่าวันเกิดเหตุ เราคงไม่แสดงท่าทางนอบน้อมเขา
เพราะเขาเองคงคิดว่าเขาใหญ่มาก เราเป็นชาวบ้าน คงไม่ประสีประสาเรื่องกฏหมาย
ก็คงจริงนั้นแหละ เรากลับบ้านเลย แล้วลืมไปเลย (ไม่น่าเลย)
เล่ามาซะยาว หลังจากได้คุยกับประกัน และตำรวจแล้ว
มีข้อแนะนำเพื่อน ๆ ค่ะ ว่า
ถ้าเกิดกรณีดังกล่าวข้างต้น (เจ้าของรถหายตัว)หรือจะคล้าย ๆ ก็ได้ ให้จดทะเบียนรถ ชื่อผู้เห็นเหตุการณ์ และอะไรก็ได้ ที่ดูจะเป็นประโยชน์
แล้วรีบชิงไปลงบันทึกประจำวัน ที่สน.พื้นที่ไว้ก่อน (โดยไม่ต้องมีคู่กรณีก็ได้) แจ้งไว้เลยอันนี้ตำรวจบอกเอง เพื่อป้องกันเขาหาว่าเราหนี
ส่วนเรื่องอื่น ๆ จะทยอยมาเล่าให้ฟังค่ะ
ตื่นเต้นจัง ไม่เคยขึ้นศาลซะด้วย
เพื่อน ๆ ท่านใด มีประสบการณ์ มาเล่าให้กันฟังบ้างนะค่ะ
จากคุณ :
w2care 
- [
17 ก.ย. 50 01:33:36
]
นึกว่าไม่มีอะไร ผ่านไป 9 เดือน ดันมีหมายศาลมาที่บ้าน
... เข้ามาดู