ความคิดเห็นที่ 20
... ที่บอกว่ารถ 400cc คันละ 50,000 บาทก็ซื้อได้แล้วนั้น ผมก็เห็นเยอะแยะครับ แต่จะเป็นรุ่นไหนปีไหนนั้น คงไม่ขอพูดถึง แต่...ผมมั่นใจครับว่าต่อให้มีการจดทะเบียนได้ง่ายกว่านี้ คนที่เล่นรถใหญ่ก็ไม่ได้จะเพิ่มมากกว่านี้เท่าไหร่ครับ ไม่มีผลรวมต่อธุรกิจมอเตอร์ไซค์ภายในประเทศอย่างแน่นอนครับ เพราะผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์ส่วนใหญ่กว่า 99.99% (วัดจากยอดจดทะเบียนรถในประเทศวัดเทียบรถนำเข้า) นั้นซื้อรถมอเตอร์ไซค์มาเพื่อการใช้งานในชีวิตประจำวันและเพื่อการใช้งานในเชิงธุรกิจ และที่สำคัญนะครับ ค่ายรถยักษ์ใหญ่ทั้งสี่ค่ายนั้น ไม่มีใครรวมหัวกันหรอกครับ คุณเคยเห็น มาสด้า จับมือกับ โตโยต้า หรือ ฮอนด้า จับมือกับมิตซูบิชิมั้ยครับ ในโลกธุรกิจนี้ ยี่ห้อที่แข่งขันกันในสินค้าประเภทเดียวกัน ต่างถือเป็นคู่แข่งทางการค้าด้วยกันทั้งนั้นครับ แค่ต่างฝ่ายต่างทำธุรกิจแบบไม่สาดโคลนเข้าใส่กันก็ถือว่าหาได้ยากแล้ว นี่จะให้รวมหัวกันทั้งสี่ค่าย ผมอยากให้ลองคิดดูดีดีครับ
... ผมเนี่ยแหละครับตอนที่สภาพการเงินแย่สุดๆในชีวิต ผมก็เลือกที่จะขี่รถ 250cc เก่าๆแต่งแล้วแต่งอีก ใครจะว่าไงก็ไม่สนใจและไม่เคยอายอดีตที่แย่ๆ เมื่อผมเริ่มดีขึ้นมีโอกาสได้ทำงานเก็บตัง ก็หารถมาขี่ มีทะเบียนมั่งไม่มีทะเบียนมั่ง แล้วแต่โอกาส แต่ผมมีสิ่งหนึ่งที่ผมยึดถือไว้ตลอดเวลาครับว่า ผมไม่มองเข้าข้างตัวเอง หากผมรู้ตัวว่าผิด ตัวผมจะลีบๆ หลบได้หลบ เลี่ยงได้เลี่ยง พร้อมบอกกบตัวเองเสมอว่า ณ ตอนนี้ ... รถเราผิดกฎหมายเข้ามาด้วยวิธีไม่ถูกต้อง เราไม่ควรจะเรียกร้องอะไรให้มันมากมาย เพราะมันเหมือนเราจะเขวี้ยงงูไม่พ้นคอ เพราะฉนั้น เมื่อเจอด่านก็ยกมือไหว้มันตั้งแต่ อปพร. ปอเต๊กตึ้ง พี่จ่า นายดาบ ยัน ผู้กำกับ เพราะอะไรเหรอครับ เพราะในใจก็รู้อยู่แล้วว่ารถเรานั้นมันเข้ามาผิดกฎหมายประกอบเป็นคันไม่ได้เสียสรรพสามิตไม่ได้เสียภาษี แค่มีถนนให้วิ่งและรอดจากการจับกุมบ้างหรือจะโดนบ้างมันก็สบายที่สุดแล้ว
... เมื่อโตขึ้นเก็บเงินได้ในใจก็อยากจะได้แต่รถมีทะเบียน จะได้ "ยืดอกพกเล่ม" ไปไหนมาไหนได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวใครจะว่าว่าเป็นรถเถื่อน ของแบบนี้มันจะแปรผันตามรายได้จริงๆครับ ตั้งแต่เด็กๆบ้านพี่ผมเป็นโกดังนำเข้ารถสิบล้อ ลูกน้องพี่ผมก็มียัดพวกรถใหญ่เอาเข้ามาขี่กันเยอะๆแยะก่อนปี 38 จนมาถึงช่วงเศรฐกิจตกต่ำจนผมแทบจะไม่มีเงินใช้ แต่ใจยังรักรถใหญ่ก็ดั้นด้นไปเอาซากที่จอดเน่าไว้ก่อนปี 38 มาขี่และบูรณะตามฐานะที่มีในเวลานั้น เวลาผ่านไปก็ค่อยๆขยับมาเรื่อยตามความฝันและตามเงินที่เก็บได้ในแต่ละช่วงชีวิต จากเด็กโง่ๆขี่รถใหญ่ก๊องๆแก๊งๆ มันก็ต้องใช้เวลาก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาครับ
... ส่วนใหญ่คนที่จะออกมาร้องเรียนเรื่องพวกนี้จะเป็นคนที่พึ่งเริ่มเล่น กำลังเก็บตังอยู่ หาข้อมูลจากในเนทเป็นส่วนใหญ่ ฟังคนนู้นทีคนนี้ที อันไหนจริงอันไหนเท๊จก็ไม่รู้ กำลังอยู่ในช่วงเก็บเงิน หรือได้แต่ค่ารถไม่พอค่าทะเบียน มักจะออกมาเรียกร้องกันในเนท แต่หารู้มั้ยว่า พวกพี่ๆหรือกลุ่มที่เขาเล่นรถกันจริงๆเนี่ย ต่างรู้ดีว่าอะไรคืออะไร อยู่กันอย่างสุภาพ ไม่มีออกมาร้องเรียนอะไรให้มันแว้งเข้าหาตัวเอง
... ต้องขอบพระคุณเจ้าหน้าที่ส่วนมากท่านยังใจดีอยู่เยอะครับ เวลาเห็นกลุ่มรถใหญ่วิ่งผ่านหากเราสุภาพกับท่าน ไม่ทำตัวให้ชาวบ้านในพื้นที่เดือดร้อน หรือเวลาโดนจับไม่กวนท่านจริงๆ ส่วนใหญ่ก็รอดกันนะครับ สังคมไทยยังมีทางอ้อมเสมอครับ
... โลกมันเปลี่ยนไปแล้วครับ จากปี 38 ที่เริ่มใช้กฎหมายห้ามนำเครื่องติดเฟรมเข้ามา บวกลบกับปี 50 มันก็ 12 ปีมาแล้วนะครับ ยังปรับตัวและมองให้กว้างๆยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นกันไม่ได้อีกเหรอครับ ...
... คำว่าคุณภาพชีวิตนั้นมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับ XJR หรือ Fino ครับ แม่บ้านญี่ปุ่นมีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยการใช้ Scooter 50cc ไปจ่ายตลาดตามกฎจราจร เช่นเดียวกับคุณครูประจำจังหวัดขี่รถ wave ไปสอนหนังสือให้ความรู้แก่เด็กในจังหวัด ภายใต้ความเร็วที่เหมาะสมกับรถที่ใช้งาน ตรงกันข้ามกับ ไอปื๊ดขี่ NC ไอ ป๊าดขี่ CBR แล้วสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านและผู้ที่ใช้ถนนร่วมกัน เพราะรถตัวเองนั้นประสิทธิภาพยอดเยี่ยม ขี่ได้ฉวัดเฉวียนไปมา เบรคสั่งได้ดั่งใจ มันคงไม่ได้หมายความว่าใช้แล้วคุณภาพชีวิตจะดีขึ้นนี่ครับ
... ผมมองว่าการมีคุณภาพชีวิตที่ดีในการใช้รถมอเตอร์ไซค์นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับ Fino , Airblade , KSR , Smash หรือ XJR , CBR , ZXR หรือ 999R แต่อย่างใดครับ แน่นอนการขี่รถเล็กรถใหญ่มันต่างกันอยู่แล้ว แต่อุบัติเหตุมันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะรถเล็กหรือรถใหญ่ มันเกิดจากความประมาทของเราเองและความประมาทของผู้อื่น รวมถึงทักษะในการควบคุมรถที่เราใช้งานมากกว่าครับ ก็ไม่เพราะอุบัติเหตุจากรถมอเตอร์ไซค์พวกบิ๊กไบค์ในญี่ปุ่นเหรอครับทีทำให้พวกเราได้ใช้รถประมูลกันปีละเป็นร้อยๆคัน ?
... สุดท้ายนี้ผมอยากจะให้มองอะไรที่มีเหตุผลและวิเคราะห์ข้อมูลที่ไม่อิงตัวเองให้มากจนเกินไป วงการรถใหญ่มันมากด้วยข่าวลือครับ เสียงลือเสียงเล่าอ้าง เยอะแยะ อยากให้ฟังมาแล้วคิดก่อนที่จะเอาไปพูดต่อครับ นึกถึงใจเขาใจเราบ้าง สังคมรถใหญ่จะดีกว่านี้เยอะเลยครับ :-)
ด้วยความเคารพความเห็นทุกความเห็นครับ
อยู่เมืองไทยนี่สบายที่สุดในโลกแล้วครับ :-)
จากคุณ :
เตียเป๋งลิ้ม
- [
29 ก.ย. 50 00:36:30
]
|
|
|