ความคิดเห็นที่ 1 โดยรวมอะไหล่ อุปกรณ์ทั่วไปไม่ต่างกัน อะไหล่ใช้ร่วมกันได้ รุ่นนี้(ปี2000) จะมีต่างกันก็ตรงกระจังหน้าและไฟท้าย ล้อแมกซ์ลายใหม่ ส่วนภายในก็เป็นเบาหนังแท้ ลายไม้ บางคนเปรียบว่าเป็นรุ่น เซฟิโร่น้อย ดูหรูกว่ารุ่น98 สรุปตัว 2000 สวยกว่า ถ้าหาจริงๆราคาหนีกันพอสมควร แต่ถ้าสู้ 2000 สวยกว่าเยอะ จากคุณ : อนาคตของชาติ - [ 9 ต.ค. 50 11:40:39 ]

ความคิดเห็นที่ 2 B14 เริ่มต้นที่ปี 95 ด้วยเครื่อง 1500 ซีซ๊ เครื่องยนต์ GA15DE 105 แรงม้า เป็นรุ่น EX Saloon และตัว 1600 ซีซี เป็นเครื่องยนต์ GA16DE 120 แรงม้า ต่อมาปี 97 มีการไมเนอร์เชนจ์ โดยเปลี่ยนเครื่องยนต์เหลือแค่พิกัดเดียวคือ  1600 ซีซี แต่รหัสเครื่องเป็น GA16DNE 110 แรงม้า โดยเพิ่มจุดสังเกตุคือมีไฟเบรคที่ฝากระโปรงหลัง ต่อมาปี 98 มีการไมเนอร์เชนจ์อีกครั้งเป็นรุ่นไฟท้าย 2 ชั้น เครื่องยนต์เดิม ต่อมาปี 99 มีการไมเนอร์เชนจ์อีกครั้งเป็นรุ่นตูดดำ และหน้ากระจังแนวตั้งเครื่องยนต์เดิม และโฉมสุดท้าย คือปี 2000 เป็นรุ่นไฟท้าย 3 ชั้น โฉมกระจังเหมือนเดิมและเครื่องยนต์เดิม ตัวที่น่าเล่นที่สุด เพราะราคาถูกและเครื่องยนต์ดีและแรง น่าจะเป็นโฉมปี 95-96 รุ่น Super Saloon เครื่องยนต์ 1600 ซีซี 120 แรงม้า  เพราะไม่มีปัญหาจุกจิกเรื่องแอร์โฟร์วเสีย เนื่องจากเครื่องตัวนี้สามารถถอดแอร์โฟร์วมาล้างได้ ถ้าเป็นตัวอื่นนอกจากเครื่องตัวนี้แล้ว จะต้องเปลี่ยนแอร์โฟร์วสถานเดียว เบิกห้างตัวละ หมื่นฝ่าๆ ซื้อมือสองเชียงกง ราคาประมาณ 2-4 พัน และแต่สภาพ ดวง และเจอช่างดีแค่ไหนครับ จากคุณ : เก๋งเก่า - [ 9 ต.ค. 50 13:19:25 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าสู้ราคาไหว น่าเล่นปี2000 ไฟท้ายสามชั้น คริสตัล เพราะจะได้ออฟชั่นเยอะกว่า ถ้าราคาประมาณ 2แสนกลางๆ สภาพดีๆ น่าเล่นครับ รูปทรงดูหรูกว่า รุ่นอื่นในช่วงปีเดียวกัน ถ้ามี ABS จะมี disc 4 ล้อมาด้วยนะครับ อะไหล่ช่วงล่างและเครื่องยนต์ ใช้ร่วมกันได้ตั้งแต่ B14 รุ่นแรกปี95 ส่วนอะไหล่ตัวถังใช้ร่วมกันได้หลายชิ้นหาไม่ยาก ส่วนไฟหน้า ไฟท้าย อาจหายากหน่อย ถ้าจะติดแก๊สใช้ได้ทั้ง หัวฉีดและแบบดูด เพียงแต่ควรหาช่างที่รู้จักและเคยติดแก๊ซให้ B14 จริงๆ หากติดตั้งได้สมบูรณ์B14 จะเป็นรถที่ใช้แก๊ซได้ดีมากๆ คันนึงเลยครับ แต่ถ้าเป็นผู้หญิง ไม่ชำนาญเรื่องการปรับจูนแนะนำเป็นระบบหัวฉีด ทีเดียวจบเลย แต่แพงหน่อยครับ มีอะไรหลังไมค์มาคุยกัันได้ครับ ผมเองก็ใช้รุ่นนี้เหมือนกัน จากคุณ : Toptp - [ 9 ต.ค. 50 14:35:36 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ก่อนหน้านี้เคยสนใจอยู่ครับ เป็นรถที่ดีทีเดียวบำรุงรักษาง่ายครับ แต่ต้องดูแลเรื่องความร้อนหน่อยครับ หากความร้อนเกินเครื่องจะพังได้ครับ รู้สึกว่า จะเกี่ยวกับตาน้ำข้างเครื่องอะไรเนี่ยล่ะครับ แล้วเรื่องแอร์ไม่ค่อยเย็นน่ะครับ แต่รู้สึกว่าจะมาจากตัวแอร์เองมันมีฮีตเตอร์ครับ เลยไม่ค่อนเย็น สรุปแล้วเป็นรถดีน่าใช้ดีครับ ราคาไม่แรงเท่าไร ความสวยก็สวยดีครับ แต่งนิดๆก็งามแล้ว. จากคุณ : vanas - [ 9 ต.ค. 50 15:41:06 ]

ความคิดเห็นที่ 5 รุ่นปี2000 อะไหล่ใหม่จะถูกกว่ารุ่นแรก แรก แอร์โฟร์ก็ไม่ค่อยมีปัญหาเหมือน ตัวที่ยังใช้เครื่องรุ่เก่า ที่ยังไม่ตามท้ายด้วยDNE สรุปแล้วตัว 2000 หน้าเล่น จากคุณ : ISHAG (ishag) - [ 9 ต.ค. 50 16:27:43 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ...ขอถามเพิ่มเติมอีกนิดค่ะ... ในราคาที่เท่ากันประมาณ 250-300 k ระหว่าง Cefiro A32 ปี 97-98 กับ Sunny Super Saloon ปี 2000 ตัวไหนน่าสนใจกว่ากันคะ ทั้งสองตัวนี้ถ้าต้องมาซ่อมบำรุงต่อนี่ จัดงบไว้ 20 k พอไหมคะ จาก จขกท จากคุณ : จขกท - [ 10 ต.ค. 50 08:05:37 A:192.44.136.113 X: TicketID:154254 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ชอบตัวไหนล่ะครับ..กินน้ำมันต่างกันเยอะนะครับสองตัวนี้..ถ้าเงินเดือนน้อยแนะนำซันนี่ครับ..ผมก็ใช้อยู่..ทนยังกะแรด12ปีแล้วก็มีรวนบ้างตามสภาพ จากคุณ : indian pirates - [ 10 ต.ค. 50 10:56:32 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สำหรับรถมือสอง หลังจากซื้อรถมา จะมีค่าใช้จ่ายตามมาหลายอย่างเช่น 1. ควรเปลี่ยนถ่ายของเหลวทั้งหมดในระบบ เพื่อเริ่มต้นนับ 1 กันใหม่ 2. ควรเปลี่ยนยางรถยนต์ เพราะรถที่จะขายเท่าที่มีประสบการณ์จะพบว่ายางจะหมดอายุแล้ว หรือดอกยางเกลี้ยงแล้ว 3. ควรเช็คสภาพระบบเบรค ผ้าเบรคหน้าห-หลัง น้ำมันเบรค สายเบรค ถ้าหมดหรือใกล้หมด ก็ควรเปลี่ยน 4. ระบบรองรับช่วงล่าง โช๊ค-สปริง ถ้ารถยังไม่ถึง 10 ปี อย่างมากก็โช๊คเสีย แต่สปริงยังดีอยู่  แต่ถ้ารถอายุมากกว่า 10 ปีแล้ว ควรเช็คสปริงว่าล้าหรือยัง ถ้ามีอาการระยะห่างระหว่างล้อกับซุ้มล้อแต่ละข้างไม่เท่ากัน ควรเปลี่ยนสปริงพร้อมเปลี่ยนโช๊คเสียทีเดียว จะได้ไม่ต้องเสียค่าแรง 2 ต่อ ถ้าทำทั้งหมดตามนี้ ราคา 20K คาดว่าจะเอาไม่อยู่ครับ ปล. ถ้าจะติดแก๊ส ผมแนะนำระบบหัวฉีดเท่านั้น สำหรับ B14 และ A32 ซึ่งค่าติดตั้งสำหรับ B14 จะอยู่ที่ 34-36K ส่วน A32 จะอยู่ประมาณ 45-50K เพราะเป็นรถ 6 สูบครับ จากคุณ : เก๋งเก่า - [ 10 ต.ค. 50 17:32:25 ]