ความคิดเห็นที่ 1 BMW 320 มั้งจำไม่ค่อยได้ เครื่องดีเซลใช้งานนานกว่าเบนซิล จากคุณ : sagurahi - [ 11 ต.ค. 50 12:05:43 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เครื่องดีเซลเลยนะครับ หลักๆ ที่ดีกว่าเบนซินก็คือ ๑. ความทนทาน ๒. แรงบิดที่สูงในรอบที่ต่ำ ๓. การประหยัดเชื้อเพลิง เยอะครับ เดี๋ยวนี้มีเยอะครับ สังเกตตัวอักษรท้ายรุ่น d / TDI / CDI ครับผม จากคุณ : สยึมกึ๋ย - [ 11 ต.ค. 50 12:20:35 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ^ ^ ว๊าวววว S๑๘๐ น่าซื้อโคตรๆ จ่ายภาษีเท่า Civic เลย ฮ่าๆๆ จากคุณ : สยึมกึ๋ย - [ 11 ต.ค. 50 12:41:24 ]

ความคิดเห็นที่ 5 MB ตอนนี้เครื่อง 1.8 เยอะแยะมาตั้งนานแล้วนะ C180 E200 CLK230 พวกนี้เครื่อง 1.8 kompressor เสียภาษีรายปีถูกกว่า Civic 2.0 อีก จากคุณ : ton99 - [ 11 ต.ค. 50 13:20:27 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ในยุโรป อากาศหนาวมาก ซึ่งเครื่องยนต์เบนซิน มันไม่ค่อยชอบอากาศหนาวซะด้วยซิ ดังนั้น ในยุโรป จึงนิยมรถดีเซลมากกว่าเบนซิน ส่วนเมกา มีอากาศหนาวอยู่ไม่กี่รัฐทางตอนเหนือ แต่ก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมคนเมกันถึงนิยมรถเบนซินทั้งประเทศ และต้องมีความจุมหาศาลเข้าว่า นอกจากเหตุผลว่า นำ้มันเบนซินราคาถูก เหตุผลอื่นึกไม่ออก? จากคุณ : ถึงจะเล็ก แต่สั้น - [ 11 ต.ค. 50 13:23:44 A:125.27.233.173 X: TicketID:149505 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าวัดกันที่ประสิทธิภาพเชิงกล (พลังงานกลที่ได้ออกมา เมื่อเทียบกับพลังงานจากการเผาไหม้น้ำมันที่ใส่เข้าไป) เครื่องดีเซล ได้ประสิทธิภาพสูงกว่า เครื่องเบนซินครับ คุณสมบัติของน้ำมันดีเซล ที่ติดไฟช้ากว่า ทำให้สามารถออกแบบเครื่องยนต์ที่ให้อัตราส่วนกำลังอัดที่สูงกว่าได้ ซึ่งอัตราส่วนกำลังอัดนี้ เป็นตัวนึงที่บอกได้ว่า ประสิทธิภาพเชิงกลจะมากหรือน้อย โดยส่วนใหญ่ เครื่องเบนซิน อัตราส่วนกำลังอัดไม่เกิน 10:1 หรอกครับ (เครื่องธรรมดา ไม่ใช่เครื่องที่อัดไอดีเข้าเครื่อง) แต่เครื่องดีเซล ถ้าธรรมดา ไม่อัดอากาศ ได้ถึง 22:1  แม้ว่าสมัยนี้ โดยมากจะเป็นเครื่องเทอร์โบ กำลังอัดจะลดลงเหลือ 18:1 แต่ก็ยังให้กำลังแรงม้า/แรงบิดเทียบต่อน้ำหนักเครื่องยนต์สูงกว่าอยู่ดี สมัยก่อน เครื่องดีเซลไม่นิยมใส่ในรถเก๋ง เพราะรอบเครื่องไม่สูง = รถเก๋งทำความเร็วสูงมากไม่ได้ / เครื่องยนต์สั่นแรง และเสียงดัง = คนขับรถเก๋งไม่ชอบ ข้อดีของเครื่องดีเซล ได้แก่ แรงบิดสูงที่รอบต่ำ กับความประหยัดน้ำมันกว่า  คนใช้รถเก๋งไม่ค่อยได้ประโยชน์จากตรงนี้มากนัก ก็เลยไม่เป็นที่นิยม แต่เดี๋ยวนี้ เทคโนโลยี่สูงขึ้น มีทั้งเทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์  ระบบจ่ายเชื้อเพลิงก็เป็นแบบคอมมอนเรล หัวฉีดจ่ายน้ำมันควบคุมด้วยสมองกล คล้ายๆ หัวฉีดน้ำมันเบนซิน ในเครื่องเบนซินหัวฉีด  ก็เลยสามารถทำให้รีดแรงม้า / รอบเครื่องได้มากขึ้น + ยิ่งประหยัดน้ำมันขึ้นไปอีก รวมทั้งออกแบบเครื่องดีเซลให้สั่นน้อยลง เสียงดังน้อยลงใกล้เคียงเครื่องเบนซินกว่าสมัยก่อน เลยไม่แปลกที่จะมีคนนิยมรถเก๋งดีเซลมากขึ้น  ผู้ผลิตก็หันมาออกรถเก๋งหรูๆ เครื่องดีเซลมากขึ้น จากคุณ : P_Wut - [ 11 ต.ค. 50 14:09:11 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 11 ต.ค. 50 22:58:03 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เครื่องดีเซล ของค่ายยุโรป เล่นพัฒนาไปซะเยอะ เมื่อเทียบกับ fuel efficiency ของเครื่องเบนซิน ฉีดพอร์ตธรรมดาๆ  แบบนี้เบนซิน โดนแน่   ถ้าจับมาเจอกับ เบนซิน ฉีดตรง ผมว่า เบนซินคงไม่กินกว่าแบบถล่มทลาย และดีเซล ก็ยังได้เปรียบที่ว่า ค่าความร้อน ในน้ำมัน  เยอะกว่าเบนซิน และ เครื่องออกแบบมา ต่างกันรึเปล่า ถ้าจับมาวิ่งแช่ความเร็ว 120km/h เก๋งเครื่องดีเซล ที่ว่าประหยัดๆ  เจอบ้วนทิ้งของ  Civic 1.8 ก็คงมีหนาวกันบ้าง แต่ถ้าใช้งานมีโหลด วิ่งขึ้นเขา ... แบบนี้ Civic 1.8 อาจจะเสร็จ ตอนรีดกำลัง ต้องใช้รอบขึ้นสู้  เพราะแรงบิดน้อย จากคุณ : ถัง - [ 11 ต.ค. 50 23:16:26 ]

ความคิดเห็นที่ 10 และดีเซล ก็ยังได้เปรียบที่ว่า ค่าความร้อน ในน้ำมัน  เยอะกว่าเบนซิน มันคืออะไรอ่ะครับ อธิบายหน่อยครับ  อยากรู้ครับ จากคุณ : Future is on my hand - [ 11 ต.ค. 50 23:59:36 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เครื่องดีเซลรุ่นใหม่ โดยเฉพาะในเยอรมัน พัฒนาไปเยอะมากครับ ทั้งด้านการเผาไหม และสมรรถภาพของเครื่องยนต์ มันไม่ใช้ดีเซลควันดับ กลิ่นแรงเหมือนรถเมลบ้านเราแล้วครับ คุณลองดูเครื่องกระบะสมัยนี้สิครับ นอกจากนี้เครื่องดีเซลยังพัฒนาเข้าแนวพลังงานทางเลือกใหม่ด้วย แต่บ้านเรายังติดภาพของเครื่องดีเซลยุคก่อนหน้านี้อยู่ ที่ต้องอยู่กับรถกระบะ รถบรรทุกหนัก จากคุณ : One Kiss - [ 12 ต.ค. 50 11:43:18 ]

ความคิดเห็นที่ 12 น้ำมัน ดีเซล 1 กรัม มีค่าความร้อนมากกว่า น้ำมันเบนซิน ถ้าจุดได้หมด  100% น้ำมันดีเซลจะได้งานมากกว่า หรือ งานเท่ากัน  ใช้น้ำมันน้อยกว่า จากคุณ : ถัง - [ 12 ต.ค. 50 22:15:40 ]