ความคิดเห็นที่ 1 แก้ไขรุ่นรถค่ะ อันบนมันอ่านไม่ออก Corona ปี 96, Sunny 2000, Protege 2003 จากคุณ : ฮ.นกฮูก ตาโหล - [ 18 ต.ค. 50 10:28:41 A:192.44.136.113 X: TicketID:154254 ]

ความคิดเห็นที่ 2 รถมือ2 ไม่มีคำตอบตายตัว ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาของเจ้าของเดิมว่าดีแค่ไหน แต่ถ้าเจ้าของกระทู้มี ตัวเลือกตามที่บอกมา แน่นอน ย่อมเป็นรถปี 2003 ถ้าซื้อแล้วแนะนำให้เข้าไปเช็คทุกอย่างก่อนนำมาใช้ และถ้าเจ้าของกระทู้ไม่ถนัดในการดูรถมือ2 ก็ซื้อมือ1ไปเลย แต่ถ้าติดเรื่องข้อจำกัดเรื่องการเงิน แล้วต้องการซื้อรถมือ 2 แนะนำว่า ให้พาคนที่ดูรถเก่งๆ และดูเป็นไปร่วมในการตัดสินใจซื้อด้วย จะดีมากๆ^^ จากคุณ : BMWTurboman - [ 18 ต.ค. 50 10:46:48 ]

ความคิดเห็นที่ 3 รถเก่าจัด อัตราการซ่อมค่อนข้างสูง เปรียบเสมือนคนแก่ที่ต้องคอยฉีดยา จะซ่อมมากซ่อมน้อยแค่ไหน ไม่มีใครบอกได้ อยู่ที่เจ้าของเก่าดูแลมากน้อยแค่ไหน แต่ยังไงซะ รถญี่ปุ่น ก็ยังมีอัตรค่าใช้จ่ายดูแลน้อยกว่ารถยุโรปแน่ๆชัวร์ๆ ก็ลองดูรถแต่ละคันก่อน โคโรน่าปี96 ราคาต่างกับซันนี่ปี2000มากแค่ไหน ถ้าแค่ไม่กี่หมื่น 2หมื่น3หมื่น เลือกซันนี่ดีกว่า อายุต่างกัน4ปี อัตตราการใช้งานปีละ2หมื่นกม.สำหรับบางคนๆอาจจะเป็นแสนกิโลก็คูณกันเข้าไป จากคุณ : เหล่านั้งเคียวห่วย - [ 18 ต.ค. 50 11:03:32 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ซื้อรถมือสอง ถ้าไม่รู้ประวัติรถ หรือ คนขับ ก็ต้องวัดดวงกันครับ ผมก็ใช้ Corona ปี 96 มือสอง พอดีรู้จักกับคนขับ เห็นมากับตาตั้งแ่ต่เค้าเริ่มซื้อ รู้ว่าดูแลรถมาดีมากๆ เลยซื้อมาได้อย่างสบายใจ ที่สำคัญ Corona ปี 96 ก็ยังเห็นวิ่งกันเกลื่อนถนน แต่ละคันก็ยังดูดีไม่แพ้ รุ่นใหม่ๆเลยนะครับ จากคุณ : Lambert K. - [ 18 ต.ค. 50 11:04:51 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอตอบแบบง่ายๆครับ  ดูสภาพภายนอกภายในแล้วชอบ หมายถึงไม่มีชนหนักหรือทำสีจนเกินไป  เมื่อตกลงชอบแล้ว ราคา OK  สิ่งที่ต้องมาทำทั้งหมดเพื่อริ่มต้นเหมือนรถใหม่ๆคือ 1. ถ่ายของเหลวทั้งหมด เช่น น้ำมันเครื่อง เกียร์ น้ำหม้อน้ำ น้ำมันเพลา(ถ้ามี)          เพิ่มเติมเรื่องเกียร์ถ้าให้ดีให้ทางศูนย์ล้างเกียร์ทั้งหมดก็ดีมากเลย     2. เปลี่ยนสายพานหมดทุกเส้นที่มี     3. เปลี่ยนปั้มน้ำ วาวส์น้ำ     4. เช็คโช๊ค ช่วงล่าง ลูกหมาก (ถ้าเสียไปถามหามือ 2 ก็ประหยัดไปอีก)     5. เปลี่ยนใส้กรองน้ำมัน(ทั้งเครื่องเบนซิน หรือ ดีเซล)  อันนี้ส่วนใหญ่มองข้ามไปมาก     6. ล้างตู้แอร์ เช็คระบบแอร์ทั้งหมด(ถ้าให้ดีเป็นโอริงทุกอันก็ยิ่งดี )    ที่เหลือก็ตามอาการหรือนิสัยของรถแต่ละรุ่นครับ  ซื้อรุ่นไหนก็ศึกษาหาข้อมูลลักษณะนิสัยของรถที่ชอบเสียอะไรบ่อยๆ  แค่นี้ก็น่าจะใช้รถไปได้อย่างสบายใจโลดดดด จากคุณ : bawon - [ 18 ต.ค. 50 11:06:58 ]

ความคิดเห็นที่ 6 พอสภาพรถถึงเวลาซ่อใมใหญ่แล้ว  คุณอาจจะเจอเข้าอู่เดือนละสามครั้ง  จ่ายครั้งละเกือบหมื่น เป็นอย่างนี้สักครึ่งปี  รถจะกลับมาไว้ใจได้ที่สุด นี่คือสภาพเลวที่สุดที่ผมเจอมา จากคุณ : นายลุงหมี - [ 18 ต.ค. 50 11:15:22 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เราคนนึงหล่ะ เข็ดแล้วรถมือสอง ซื้อมาแสนสอง ใช้ไปห้าปี จ่ายค่าซ่อม สองแสน ตัดสินใจขายได้ แปดหมื่นห้า  ตอนนี้ใช้รถป้ายแดงสบายใจกว่าเยอะ จากคุณ : นกน้อยต้อยตีวิด - [ 18 ต.ค. 50 11:15:33 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อาการจุกจิก มาจากการซ่อมไม่หมดครับ ลองซ่อมทั้งคัน เปลี่ยนทุกชิ้นสิครับ อาการจุกจิกจะหายไป ผมพูดจริงๆ ไม่ได้กวนนะครับ จริงอยู่ มันจะเสียเงินมาก แต่ เราจะได้รถในสภาพที่เรียกว่า ป้ายแดงยังได้เลยครับ แต่ ถูกกว่าซื้อป้ายแดง แน่ๆ ครับผม จากคุณ : สยึมกึ๋ย - [ 18 ต.ค. 50 11:21:32 ]

ความคิดเห็นที่ 9 รถผมซื้อมาแสนหนึ่งหมื่น  ซ่อม+ติดแก็สไปราวๆแสน รวมทำสี ใช้มา4ปีตอนนี้ถ้าจะขายผมก็อาจขาดทุนราวๆแสนสอง ผมว่าคุ้มอะครับ   ถ้าเป็นรถใหม่คงขาดทุนหลายแสนหละ จากคุณ : หัวหยิกหน้ากร้อคอสั้นฟันเหยิน - [ 18 ต.ค. 50 11:25:27 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เห้นด้วยกับคุณ ยึ๋มกึ๋ยครับ ก่อนซื้อ หาคน(ช่างเลยดีกว่า) ไปดูละเอียด จุดสำคัญๆ ให้เรียบร้อยเลย ไม่พอใจอย่าซื้อ !!! เอาแบบ คิดว่า ซื้อมา ซ่อม น้อยที่สุดในชีวิต เท่านั้นคับ พอซื้อมาก้อเผื่อเงิน จัดการส่วนที่จำเป็น เหมือน #5 นั่นแระ ไม่ให้เกินนั้น จากคุณ : MachineGun - [ 18 ต.ค. 50 11:58:18 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ผมใช้มือสองครับมาแล้ว 1 ปี 6 เดือน ไม่มีอะไรต้องซ่อมเลย บี14ปี 95 ไม่มีต้องซ่อม มีแต่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ น้ำมันเครื่อง เติมน้ำยาแอร์ เปลี่ยนสายพาน ส่วนเรื่องจุกจิกไม่มี มีที่รอซ่อมอยู่ก็แค่ปะเก็นครอบจานจ่ายที่มีน้ำมันซึม กับ ยางครึ่งวงกลมที่มีน้ำมันซึมบ้าง(จริงๆำก็ยังไใม่ซ่อมหรอก เห็นซึมๆอย่างงี้ น้ำมันเ้ครื่ิองไม่พร่องเลยครับ) จากคุณ : pinestand - [ 18 ต.ค. 50 12:14:21 ]

ความคิดเห็นที่ 12 รถปี 2003 อายุ 4 ปี ยังไม่น่าจะมีรายการซ่อมใหญ่ๆหรอก.... จะกังวลไปทำไม...ชิ้นส่วนเคลื่อนไหว  ก็ต้องมีอายุการใช้งาน ถือว่าเป็นเรื่องปกติ... ...แล้วรถบนท้องถนน อายุ 4 ปี ขึ้นไป  มีกี่คัน... ถ้าซ่อมจุกจิก อะไหล่แพง ค่าแรงโหด.... มันน่าจะถูกขายทิ้ง  หรือจอดทิ้งไปหมด.... แล้วทำไมยังมีวิ่งๆกันอยู่ บางคัน  ยังผ่อนไม่หมดด้วยซ้ำไป...( 60  , 72 งวด  5 ปี , 6 ปี ) ถ้ามีปัญหาจุกจิกในช่วงผ่อน รถคงขายไม่ออก จากคุณ : พ่อน้องไอ (ibara) - [ 18 ต.ค. 50 12:48:44 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คุณอาจจะเจอเข้าอู่เดือนละสามครั้ง  จ่ายครั้งละเกือบหมื่น เป็นอย่างนี้สักครึ่งปี บางคนถอดใจขายทิ้งตอนนี้ ใครซื้อต่อ เหมือนดดนหวยครับ จากคุณ : tiger hello - [ 18 ต.ค. 50 13:10:56 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อะไหล่แพง ค่าแรงโหด  อันนี้มือหนึ่งหรือสองไม่ต่างกันครับ แต่โดยมากมือสองมันต่างกันมือหนึ่งหลายๆแสน คุณก็คิดเองแล้วกันว่ายอมจ่ายเพิ่มอีกหลายๆแสน ตอปีแรกราคาหายไปปีละเกือแสน   เอาเงินส่วนต่างเป็นค่าซ่อมดีหรือเปล่า ? ส่วนซ่อมถูกก็หาซ่อมอู่ทั่วไปซิครับรถเกิน 5 ปีโดยมากไม่เข้าศูนย์กันหลอกครับ ที่สำคัญคันแรกซื้อใหม่แล้วชนเข้ามาจะเสียใจกว่าหรือเปล่า จากคุณ : dir/w - [ 18 ต.ค. 50 13:20:59 ]

ความคิดเห็นที่ 15 จาก 3 คัน ที่เสนอมา ผมเชียร์ Corona ครับ สนับสนุนเหตุผล 1. แบรนด์ติดตลาด 2. ปล่อยง่าย ขายคล่อง 3. อะไหล่ หาง่าย (เพราะร้านค้าสั่งเอาเข้ามาไว้ Support Taxi) ขนาด Corona รุ่นหน้ายิ้ม (ST171 ) เกือบ 20 ปีที่แล้ว ยังหาอะไหล่ได้ง่ายเลย 4. ไม่เคยมีคนบ่น (แม้กระทั่งช่าง) ให้ฟังว่า รุ่นนี้จุกจิก จากคุณ : คนจันทบุรี - [ 18 ต.ค. 50 14:27:21 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ต้องถามตัวเองก่อนว่ามีเงินพร้อมสำหรับจะซื้อป้ายแดงหรือไม่ ถ้ามีเงินพร้อมหมายถึงซื้อสด หรือดาวน์และผ่อนได้ไม่ลำบาก แนะนำให้ซื้อป้ายแดง แต่ถ้าคิดแล้วว่าซื้อป้ายแดงลำบากแน่ ควรที่จะซื้อมือสองดีกว่าซึ่งมีหลายเกรดหลายราคาให้เลือกได้รถดีหรือไม่ดีก็ว่ากันไป ส่วนที่ว่าซื้อรถมือสองค่าซ่อมมากกว่าราคาที่ซื้อ ข้อนี้ไม่เถียง แต่ก็มีรถไว้ใช้งานใช่ไหม ส่วนจะซ่อมมากซ่อมน้อยก็ไม่ใช่ประเด็นหลัก เพราะรถยนต์คือเครื่องมือที่มนุษย์สร้างขึ้น ทำใหม่ให้มันดียังไงก็ได้ ประเด็นหลักอยู่ที่ เพราะไม่มีเงินพอที่จะซื้อป้ายแดง จึงจำเป็นต้องใช้รถมือสอง ต่างหาก ยกเว้นท่านที่นิยมรถมือสอง ส่วนตัวที่ผมคิดไว้ตอนนี้ไม่อยากจะซื้อรถป้ายแดงอีก เนื่องจากไม่พร้อมเรื่องการเงิน อยากใช้เงินไปในทางอื่น เช่นซื้อที่ดิน สร้างบ้าน หรือทำในสิ่งที่ชอบ แต่ก็ยังอยากจะได้รถเก๋งดีดีสักคัน ดังนั้นทางเลือกของผมคือรถมือสอง ไม่เกี่ยงรุ่นหรือยี่ห้อแต่ก็ต้องอยู่ในงบประมาณที่ตั้งไว้และเผื่อซ่อมอีกจำนวนหนึ่ง นั่นหมายถึงว่าเมื่อจ่ายเงินซื้อรถแล้วจะไม่มีผลกระทบในทางการเงินของตนเองและยังมีรถใช้งานได้อีกคัน แถมยังได้ทำในสิ่งที่ตนเองชอบอีกด้วย ขึ้นอยู่กับว่ามีความมั่นใจในตนเองมากน้อยแค่ไหน เป็นตัวของตัวเองมากน้อยแค่ไหน ถ้ารู้จักตนเองดีแล้วจะเป็นคนที่มีความสุขมากต่อการใช้ชีวิตในปัจจุบัน ครับ จากคุณ : chem chem - [ 18 ต.ค. 50 14:43:47 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาแชร์ความคิดเห็นค่ะ จริงๆแล้ว ไม่ได้มีเจตนาจะว่ารถมือสองนะคะ เพียงแต่ตั้งชื่อกระทู้ประชดความกลัวของตัวเองไปอย่างนั้น (-_-") สาเหตุหลักๆที่ตั้งกระทู้ถาม ก็เพื่อประเมินว่าตัวเองจะรับได้ไหม กับการซ่อมบ่อยๆ ตอนนี้ที่คิดไว้ก็ ถ้าไม่บ่อยขนาดเดือนละครั้ง แต่ละครั้งจ่ายหลายๆพันก็พอรับไหวอ่ะค่ะ จากคุณ : จขกท - [ 18 ต.ค. 50 21:08:40 A:125.24.97.89 X: TicketID:154254 ]

ความคิดเห็นที่ 18 -- รถปี 95 ซื้อป้ายแดง ดูแลมากับมือ เข้าศูนย์ตลอด -- ช่วง 5 ปีแรก แทบไม่มีอะไรเลย ซ่อมบำรุงตามระยะครับ หลังจากนั้น ช่วงที่หนักๆเลยก็ปีที่ 6 กับ 7 ที่พวกระบบแอร์ ช่วงล่าง ได้เวลาเสียแล้ว ช่วงนี้จ่ายหนักหน่อย -- หลังจากนั้น ก็จะมีเรื่อยๆล่ะครับ ตกเฉลี่ยเดือนนึง 4 - 5 พันบาท แต่บอกไว้ก่อนว่า ผมเป็นประเภทรู้มาก เรื่องมาก มีนู่นนิด มีนี่หน่อย ก็ต้องซ่อมทันที ไม่ชอบปล่อยทิ้ง แบบ "เอาไว้ก่อนน่า รถมันยังวิ่งได้" ผมจะเปลี่ยน หรือซ่อมทันที และผมใช้ของแท้ ของใหม่ ทุกชิ้นน่ะครับ ค่าใช้จ่ายเลยสูงครับ ส่วนเรื่องตายกลางทาง อันนี้อยู่ที่การดูแลครับ ... รถผมสิบกว่าปี ไม่เคยตายกลางทางแม้แต่ครั้งเดียวครับ พวกนี้ ส่วนมากมันจะเตือนก่อนตลอดครับ ถ้าเราสนใจมัน หาสาเหตุให้มัน และแก้ไขมัน ก็ไม่มีปัญหาครับ ี จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 18 ต.ค. 50 21:40:01 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นด้วยกับ คห 16 เลยค่ะ ในฐานะที่เป็นผู้หญิง ขอแนะนำว่า ถ้าสะดวกที่จะดาวน์ และผ่อน ให้ซื้อรถใหม่ไปเลยค่ะ ตัดปัญหาไปหลายเรื่อง (ยกเว้นเจอแจ็คพอต) แต่ถ้าไม่สะดวกเรื่องการเงิน ก็ต้องซื้อมือสอง - เลือกยี่ห้อ เลือกรุ่น โดยหาข้อมูลจากหลาย ๆ ที่ - เลือกรถ โดยดูจากในเน็ต หรือคนรู้จัก หรือเต๊นท์ - หาคนที่มีความรู้ไปช่วยดูด้วย ตรวจสอบทุกอย่าง - และสิ่งสำคัญ ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ เลือกนะคะ - เมื่อได้รถมาแล้วก็ทำการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง สิ่งที่ควรเปลี่ยน เช่น ซีล ช่วงล่าง ฯลฯ เก็บให้หมดนะคะ แล้วเวลาใช้ก็ดูและเค้าหน่อยนะ ถ้าเรารักเค้า เค้าก็จะรักเรา และอยู่กับเรานาน ๆ จากคุณ : ตุลย์ - [ 19 ต.ค. 50 11:10:06 A:192.168.4.210 X:203.172.175.174 TicketID:019598 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 19 ต.ค. 50 18:26:15 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ญี่ปุ่นยี่ห้อดังๆ มือสองยังเบาใจเสียอะไรหาของหาคนซ่อมได้ ข้อสำคัญอย่าซื้อรถแปลกๆ ที่มันจุกจิกก็คือซ่อมนู่นเสร็จเสียตรงนี้ต่อ คือมันจะทยอยกันพัง ธรรมชาติคนซื้อมือสองคือประหยัด มาถึงจะเปลี่ยนของหมดทุกชิ้นมันก็กระไรอยู่ ไอ้ที่ว่าเสียจุกจิกมันเลยเกิด จากคุณ : x - [ 20 ต.ค. 50 01:03:25 A:210.246.64.163 X: TicketID:052378 ]