ความคิดเห็นที่ 1 เสียบแบตแล้วบิดลูกบิด123456ไปทางขวาให้เข็มชี้ตรงกลาง พอเข็มตก ก็บิดเพิ่มให้เข็มชี้ขึ้นอีก เข็มตกก็บิดอีก สมัยเคยทำงานสนามเด็กเล่นเค้่าบอกมางี้นะ จากคุณ : lustful - [ 7 พ.ย. 50 10:56:37 ]

ความคิดเห็นที่ 2 -อย่าชารจ์โดยตรงกับรถ โดยไม่ถอด สายออก -อย่าลืมเปิดฝา ที่เติมน้ำกลั่น ด้วย -ดุVolt ให้ถูกต้อง สำคัญๆ เวลาผมชารจ์ เมื่อเมตก ก็บิดขึ้น 12Vส่วนใหญ่ไม่เกิน เบอร์3ซักที เน้น นาน แต่ไม่กำลังสูง ครับ คุณ  lustful  หายหรือยังครับ จากคุณ : otto - [ 7 พ.ย. 50 12:16:45 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ของผมใช้ 123456 เนี่ยปรับครั้งเดียว จะเอาแอมป์มากไปก็ไม่ดีมันจะร้อน น้อยไปมันจะเข้าช้า จริงๆผมคิดว่าถ้าต้องพ่วงแบตหลายลูก ก็ต้องปรับแอมเยอะ ลูกเดียว ผม เอาประมาณ 3-4 แล้วพอเวลา เกจ์วัดไฟมันตก ถึงขีดล่างเลยหรือเกือบๆถึง โดย ชารต์ประมาณ 1 คืน ก็ถือว่าเต็ม แค่นี้ ที่ผมใช้ คนอื่นว่ายังไง ที่ดีกว่า ก็เชิญว่ามา ตามสบายครับ จากคุณ : นึกชื่อดีๆก็ซ้ำ - [ 7 พ.ย. 50 12:32:40 A:125.26.74.48 X: TicketID:063276 ]

ความคิดเห็นที่ 4 หุหุ จะเข้ามาบอกว่า ... ผมใช้ UPS ชาร์ทแบตรถยนต์อ่ะ ซื้อตัวเดียว ใช้งานได้ ๒ ทางเลย ๑. แปลงไฟในรถเป็น ๒๒๐V ๒. ชาร์ทแบตรถยนต์ แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 50 13:04:40 จากคุณ : สยึมกึ๋ย - [ 7 พ.ย. 50 13:02:51 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อะไรผมหายอ่ะครับ จากคุณ : lustful - [ 7 พ.ย. 50 13:08:41 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขึ้นอยู่กับแอมป์ ของแบตครับ ถ้าแบต 40AH หมุนจนเข็มมิเตอร์ชี้ที่เลข 10 ก็ใช้เวลาชาร์จประมาณ 4 ชั่วโมงครับ จากคุณ : INK-JET - [ 7 พ.ย. 50 13:25:17 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ^ ^ เกิน ๔ ชั่วโมงครับท่าน ... เพราะว่า เวลาชาร์ท แบตมันไม่สามารถ รับกระแสทั้งหมดไปเก็บไว้ได้หรอกครับ มันมีการสูญเสียครับ แต่หลักการคร่าวๆ มันเป็นแบบที่ท่านว่าเอาไว้เด๊ะเลยครับ เพราะว่า แบตรถมันเป็น แอมป์ต่อชั่วโมงครับ จากคุณ : สยึมกึ๋ย - [ 7 พ.ย. 50 13:33:22 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 7 พ.ย. 50 13:49:44 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ตั้งค่าเท่าไหร่ ให้ดูที่ข้างกล่องแบตเตอรี่เขาจะบอกไว้ แต่ถ้าตอนเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้วไม่ได้เอากล่องกลับมา ให้เอาขนาดแบตเตอรี่หารด้วย 12-15 แล้วใช้ค่านั้น จากคุณ : ELANTRAnsport - [ 7 พ.ย. 50 14:29:48 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ผมถึงบอกว่า "ประมาณ 4 ชั่วโมง"   และความจุแบตเป็น "แอมป์ชั่วโมง" ครับ ไม่ใช่ "แอมป์ต่อชั่วโมง" จากคุณ : INK-JET - [ 7 พ.ย. 50 14:54:56 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ลองเข้าไปอ่านเรื่องเกี่ยวกับการชาร์ทแบต แบบกรดตะกั่วได้ที่นี่ครับ ละเอียดดี http://www.batteryuniversity.com/partone-13.htm จากคุณ : สมภพ - [ 7 พ.ย. 50 16:13:31 ]

ความคิดเห็นที่ 12 แอมป์-ชาร์จ ใช้ขนาดแบตฯ หารด้วย 10 ครับ เช่น แบตฯขนาด 60  AH หาร 10 ==> 6 Amp ก็หมุนปุ่ม Output Current 1-2-3-4-5-6 จนได้แอมป์ = 6 พอชาร์จเต็ม แอมป์จะตกลงมาเหลือ 1/2 คือ 3 แอมป์ ครับ หมุนปุ่มนี้เพียงครั้งเดียว ตอนเริ่มชาร์จเท่านั้น ไม่ใช่ว่า แอมป์ตก แล้วคอยหมุนเติมเรื่อยๆ ครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 7 พ.ย. 50 19:37:05 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าแบต 40AH หมุนจนเข็มมิเตอร์ชี้ที่เลข 10 ก็ใช้เวลาชาร์จประมาณ 4 ชั่วโมงครับ >>>>>>>>> วิธีคิดเลขนั้นถูกแล้ว แต่วิธีชาร์จแบบนี้ ผิด ไม่ควรใช้แอมป์-ชาร์จ สูงขนาดนี้ครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 7 พ.ย. 50 19:40:49 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ^ การชาร์จแบตฯ รถ เราใช้ไฟฟ้าเข้าไปทำให้ปฏิกิริยาเคมีคืนตัว จะเห็นได้จาก ถ.พ. น้ำกรด ค่อยๆ เปลี่ยนไป การเร่งแอมป์สูงกว่าปกติ ความเร็วปฏิกิริยาเคมีไม่ได้เร็วขึ้นตามสัดส่วนของแอมป์ที่สูงขึ้น ครับ จากคุณ : ช่างกล-หนุ่ม - [ 7 พ.ย. 50 19:47:56 ]

ความคิดเห็นที่ 15 การชาร์แบต นั้น ชาจเจอร์ต้องออกแบบ แรงดัน และกระแสชาร์จให้สัมพันธ์ กับชนิด และ model ของแบตครับ โดยทั่วไปปัจจัย ที่ทำให้อายุการใช้งาน ของแบตเตอร์รี่ สั้น หรือ ยาว ขึ้นกับปัจจัย 4 ประการครับคือ 1 กระแสที่ใช้ในการชาร์ โดยทั่วไปจะมีการใช้กระแสชาร์จ 2 แบบ คือ c10 กับ c20 โดยส่วนมากจะใช้ c10 ครับ ชาร์จเจอร์ ที่ดีควรเป็นแบบ costance voltage with limit current ครับ 2. แรงดันที่ใช้ในการชาร์จ ต้องดู กราฟคุณลักษณะของแบตเตอร์รี่จากผู้ผลิตครับว่า แรงดัน flote charge เท่าไหร่ แรงดัน equaliเท่าไหร่แล้วปรับชาร์จเจอร์ให้มีแรงดันไม่เกินสูงสุดของแรงดัน float ครับ 3. อุณหภูมิในการใช้งานครับ 4. อัตราการชาร์ ดิจชาร์จครับ ชาร์จเจอร์ที่ดีที่ถนอมแบตเตอร์รี่ ต้องมีคุณสมบัติตามที่กล่าวมาข้างต้นครับ แต่ดูจากรูปแล้วชาจเจอร์ตัวนี้คง ไม่เข้าเงื่อนไขการชาร์จแบตแบบรักษาอายุการใช้งานครับ จากคุณ : บอย - [ 7 พ.ย. 50 20:35:08 A:202.28.62.245 X: TicketID:134378 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอขอบคุณทุกๆท่านครับ จากคุณ : เหล่านั้งเคียวห่วย - [ 7 พ.ย. 50 21:47:12 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เครื่องชาร์จพวกนี้ มิเตอร์บอกค่ากระแสชาร์จเป็นเอซีแอมป์ครับ วงจรข้างในเป็นฮาร์ฟเวฟเรคติไฟร์ กระแสที่ชาร์จจริงจึงมีแค่ครี่งหนี่ง โดยหลักการคิดหากแบตหมดจริงๆคิดอย่าง คคห 6 ได้ แต่จะได้ไฟแค่ครี่งเดียว ทำให้ในทางปฎิบัติต้องชาร์นานกว่านั้นอย่างที่คุณหยึมว่าไว้ในคคห 7 หากมีเวลามากชาร์จช้าดีคำนวณแบบคคห 6 (x 2) ใช้กระแสต่า ชาร์จค้างคีนซัก 8-10 ชั้วโมง ไม่ต้องห่วงว่าไฟจะเกินเพราะหากแรงดันมันเท่ากันแล้วมันก็ชาร์จไม่เข้า เป็น float charge นั่นเอง จากคุณ : Craftsman - [ 8 พ.ย. 50 09:14:01 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เครื่องชาร์จแบตแบบนี้หาซื้อที่ไหนครับ จากคุณ : k.bom - [ 8 พ.ย. 50 11:39:33 ]

ความคิดเห็นที่ 19 มีตามร้านขายเครื่องมือเครื่องกล  ช่างชั้นนำทั่วไป ครับ จากคุณ : otto - [ 9 พ.ย. 50 19:48:33 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ซี้อคลองถมเยอะแยะ ไม่ถืง 1000 บาท จากคุณ : KU_EE - [ 9 พ.ย. 50 23:09:51 ]