ก่อนตัดสินใจติด LPG ก็ยังไม่มั่นใจเท่าไหร่ กังวลว่ารถจะไหม้ เครื่องจะพัง ฯลฯ
แต่มาคิดๆดู รถเราก็เก่าแล้ว (ก่อนติดแก๊สวิ่งไป 248,746 กม.แล้ว) ถ้าขายก็ได้แค่แสนเดียว
(Toyota Corolla 1.6 SELimited ปี 1990 1600 cc เกียร์ธรรมดา เครื่อง 4A-F คาร์บูเรเตอร์)
เอาวะพังก็ซื้อใหม่ มีทองตุนอยู่ 70 บาทพอจะซื้อ VIOS ได้(หุๆ ทอง 70 บาท ตอนนี้ซื้อ Civic ได้แล้วครับท่าน)
ค่าติดตั้ง 18,000 บาท พร้อมปั๊มติ๊กเพื่อใช้แทนปั๊มกระเดื่่องอันเดิม และเสริมสเปเซอร์หนา 1 นิ้วกันท้ายห้อย
หลังจากติดตั้ง LPG จนถึงตอนนี้ก็วิ่งมาแล้ว 14 เดือนกว่าๆ เป็นระยะทาง 30,720 กิโลเมตร สรุป
เติม LPG ไป 29,564 บาท ได้มา 3,011.18 ลิตร (เฉลี่ย 9.82 บาท/ลิตร)
เติม เบนซิน91ไป 6,290 บาท ได้มา 234.17 ลิตร (เฉลี่ย 26.86 บาท/ลิตร)
รวมเติมไป 35,854 บาท ได้มา 3,245.35 ลิตร (เฉลี่ย 11.05 บาท/ลิตร)
คิดเป็นอัตราสิ้นเปลืองได้ 9.47 กิโลเมตร/ลิตร หรือ 1.17 บาท/กิโลเมตร
เดิม ถ้ายังไม่ติด LPG รถผมกินน้ำมันเฉลี่ย 9.7 กิโลเมตร/ลิตร ดังนั้นคงต้องเติมเบนซิน 3,167 ลิตร
ราคาเบนซิน91ในช่วง 14 เดือนที่ผ่านมาเฉลี่ย 26.86 บาท/ลิตร ก็คงต้องเติมน้ำมันเป็นเงิน 85,068 บาท
(แสดงว่ารถผมกินน้ำมันเบนซิน 2.77 บาท/กิโลเมตร เมื่อใช้ LPG+น้ำมัน จะประหยัดได้ 1.6 บาท/กิโลเมตร)
คิดๆดูก็น่าจะคุ้มดีนะ ค่าใช้จ่ายลดไป 85,068 - 35,854 = 49,2xx บาท
หักค่าติดตั้งไป 18,000 บาท ก็ยังเหลือเงินอีก 3 หมื่นกว่าบาท แต่...
หลังจากที่ติด LPG มา รถผมต้องเผชิญกับปัญหาในเรื่องความร้อนมาตลอด
แค่ 3 วัน หม้อพักน้ำก็แห้งแล้วต้องเติมกันบ่อยๆ ขับไปก็กังวลไปว่าน้ำในหม้อพักมันยังเหลือเยอะไหม
สุดท้ายต้องเอาถังน้ำเล็กๆขนาด 1 ลิตร มาพ่วงด้วย จึงแก้ปัญหานี้ได้ ตอนนี้ขับได้เป็นเดือนน้ำก็ยังไม่แห้ง
ดังนั้นผมขอยกความเสียหายต่อไปนี้ให้กับการติดแก๊สก็แล้วกัน
(ทั้งๆที่อุปกรณ์ในห้องเครื่องรถของผมมันอาจจะได้เวลาหมดอายุของมันแล้วก็ได้)
1. ปะเก็นฝาสูบรั่ว เลยจัดการเปลี่ยนไปอีกหลายรายการ ได้แก่ ปะเก็นไอดี ปะเก็นไอเสีย ยางตีนวาล์ว
ซ่อมหม้อน้ำรั่ว วาล์วน้ำพร้อมโอริง ท่อยางน้ำล่าง ท่อยางปั๊มน้ำ โอริงจานจ่าย ฯลฯ รวม 5,890 บาท
2. น้ำมันเครื่องซึมออกมา เลยจัดการเปลี่ยนไปอีกหลายรายการ ได้แก่ ซีลราวลิ้น ซิลข้อเหวี่ยงหน้า ฝาหม้อน้ำ
น้ำยาทาแคร๊ง ปั๊มติ๊ก(ปีเดียวรั่วซะแล้ว) โซลินอยตัดน้ำมัน(ปีเดียวรั่วเหมือนกัน)
สายน้ำมันเบนซิน(ปีเดียวแข็งกรอบซะแล้ว) ฯลฯ รวม 3,455 บาท
ดังนั้น จึงประหยัดไปเพียง 2 หมื่นกว่าบาทเท่านั้นเองครับ
ก็ได้แต่หวังว่านับจากนี้ไป ขอให้ประหยัดได้กิโลเมตรละ 1.60 บาท ตลอดไปด้วยเถิด
อ้อ ปีหน้าลอยตัว LPG แล้ว แต่ก็น่าจะยังประหยัดกว่าอยู่ดี ถูกกว่ากันซัก 1.2 บาท/กิโลฯ ก็ OK แล้วครับสำหรับผม
สำหรับท่านที่เริ่มท้อกับราคาน้ำมันที่ขึ้นเอาขึ้นเอา ก็ลองพิจารณาผลการใช้งานของผมดูครับ
ซึ่งถ้าติดตั้งเป็นระบบหัวฉีด อาจไม่มีปัญหาแบบผมก็ได้
แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 50 22:58:26
แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 50 22:56:59
จากคุณ :
ss2498
- [
12 พ.ย. 50 22:50:33
]