ความคิดเห็นที่ 1 เอ้อ  ..  เข้ามาอึ้ง แต่เห็นด้วยอย่างแรงครับ จากคุณ : สามทับหนึ่ง - [ 19 พ.ย. 50 15:29:16 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เห็นด้วยครับ ค่าภาษีต่อปีของชั้น 3 น่าจะเป็นที่พอรับได้ของทุกคน และน่าจะดีแก่ผู้ทำประักันเองด้วย จากคุณ : Soul To Squeeze - [ 19 พ.ย. 50 15:30:47 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เจิม ๆ จากคุณ : MaENi~ - [ 19 พ.ย. 50 15:31:50 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เขามาดม  เอ้ย เข้ามาชม นาน ๆ จะเจอเจ้าของกระทู้ชื่อนี้ซักที.. จากคุณ : Mr-32 - [ 19 พ.ย. 50 15:32:11 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผมว่าแล้วแต่สมัครใจดีกว่าครับ ผมเองทำประกันชั้น1ตลอด รถเพื่อนมันให้เราช่วยขับพอถามว่ามีประกันป่าว มันบอกไม่มี ก็ไม่กล้าขับครับ ไม่มั่นใจ จากคุณ : เกิดมาจน - [ 19 พ.ย. 50 15:32:59 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ... #5 การบังคับให้ทำชั้น 3 ไปเลยก็เหมือนการ upgrade ความรับผิดชอบที่รถทุกคันควรมีต่อสังคมไงครับ ถ้าคุณทำชั้น 1 ก็แปลว่า นอกจากคุณรับผิดชอบต่อสังคมแล้ว คุณยังสร้างความอุ่นใจต่อตัวเองด้วย ( มีคนซ่อมรถเรา ถ้าเราขับรถไปชนคนอื่น ) จากคุณ : Mr. Fusion - [ 19 พ.ย. 50 15:39:40 ]

ความคิดเห็นที่ 7 กับมอเตอร์ไซค์นี่เหมือนเป็นปัญหาโลกแตก เคยมีคู่กรณีซักสี่ครั้งได้มั้ง ถ้าเขาไม่ผิดแบบให้มีข้อโต้เถียงได้ เขาจะไม่ยอมรับ เขาก็จะลากให้เสียเวลาที่สุดเท่าที่จะทำได้ ให้เราหงุดหงิดแล้วยอมประมาทร่วม ฝ่ายนั้นก็สบายตัว เคยเจอครั้งนึงที่มอเตอร์ไซค์มีประกันชั้นสาม เขาไม่หนี ผิดว่าตามผิด ถูกว่าตามถูกไป ถามเขาก็บอกว่าประกันก็ไม่แพงมาก พันกว่าบาทสองพัน แต่ขับแล้วสบายใจ แต่ยังไงก็เห็นด้วยว่า ถ้าคิดจะขับรถ ต้องมีความรับผิดชอบด้วย ไม่ใช่มีรถ มีใบขับขี่ก็ออกมาขับได้ พอเกิดอุบัติเหตุก็ไม่ต้องรับผิดชอบ ทุกวันนี้ถึงได้ขับอย่างไร้ระเบียบ ไร้ความกลัวอย่างทุกวันนี้ไง จากคุณ : SP (Naicollo) - [ 19 พ.ย. 50 15:41:56 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ... เข้ามาแปะไว้ก่อนเดี๋ยวจะตามมาอ่าน จากคุณ : pinestand - [ 19 พ.ย. 50 15:47:27 ]

ความคิดเห็นที่ 9 บริษัทรับประกัน รวยตาย.. จากคุณ : ใบผ่าน - [ 19 พ.ย. 50 15:51:09 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ... จริง ๆ ผมอยากให้มีการบังคับให้รถทุกคัน มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพที่ถ่ายจากในรถไปนอกรถ ทางด้านหน้า ด้านหลังด้วยครับ แบบเปิดไว้ตลอด 24 ชม. ด้วย เพราะถ้ามีอุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้น ภาพพวกนี้จะใช้เป็นหลักฐานได้ว่า ใครผิดใครถูก ถ้ารถที่เกิดเหตุ 2 คันยังสรุปไม่ได้อย่าลืมว่ารถคันอื่น ก็มีภาพบันทึกไว้เช่นกัน และส่งผลให้การโจรกรรมรถโจรตามห้างต่าง ๆ น่าจะลดลงด้วย เพราะ โจรเองก็ต้องนึกไว้เสมอเลยว่ารถทุกคันมีกล้องหมด ขโมยคันนี้ แต่จะทำยังไงกับกล้องของรถอีกเป็นสิบ ๆ คันที่จอดเรียงรายกัน จากคุณ : Mr. Fusion - [ 19 พ.ย. 50 15:51:34 ]

ความคิดเห็นที่ 11 งง กับ Mr.Fusion จากคุณ : Mr.Fusion - [ 19 พ.ย. 50 15:53:21 A:61.19.125.98 X: TicketID:159872 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นด้วยค่ะ คนใช้รถจะได้ไม่ต้องมาอ้างว่า "จน" เพื่อปัดความรับผิดชอบ จากคุณ : Im onair - [ 19 พ.ย. 50 15:54:49 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ... #9 บริษัทประกันภัยคงไม่รวยหรอกครับ เพราะ ถ้ามีการบังคับทำ มันก็เหมือนเป็น mass production ล่ะครับ ถ้าทำเยอะ ๆ ภาครัฐก็คงต่อรองให้ลดเบี้ยประกันลง จากคุณ : Mr. Fusion - [ 19 พ.ย. 50 15:55:56 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับ....เป็นการรับผิดชอบต่อสังคมอย่างหนึ่ง . . . . ว่าแล้ว ต้องรีบไปทำประกันก่อน...ขาดมานานแว้วววว จากคุณ : ต้นก๊าบ - [ 19 พ.ย. 50 15:59:34 ]

ความคิดเห็นที่ 15 กฎหมายแบบนี้ มันน่าทำมากกว่า   ลงไปยืนเคารพธงชาติ ตอน 18.00น. ด้วยซ้ำไป มีปัญญา ขี่รถ แต่ไม่มีปัญญา ทำประกันประเภท 3  ก็ไปขี่ควายเถอะ /// จากคุณ : ข้าวก่ำ - [ 19 พ.ย. 50 16:01:06 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ติดกล้องในรถเป็นความคิดที่ดีมากเลยผมว่า จากคุณ : kumandthong - [ 19 พ.ย. 50 16:02:22 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ชอบรูปอ่ะ เห็นด้วยครับ อย่างยิ่งเลย ถ้ายังไม่ประกันก็ไม่สามารถต่อทะเบียนได้ เกิดอุบัติเหตุ ใครไม่มีประกันก็เล่นทางกฎหมายให้หนักเลย จากคุณ : Pigwidgeon - [ 19 พ.ย. 50 16:06:03 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ความคิดเห็นที่ 15   กฎหมายแบบนี้ มันน่าทำมากกว่า   ลงไปยืนเคารพธงชาติ ตอน 18.00น. ด้วยซ้ำไป *************-ขอยืมมาใช้ด้วยนะ-********** จากคุณ : mod15 - [ 19 พ.ย. 50 16:08:13 ]

ความคิดเห็นที่ 19 1 เสียง..ครับ จากคุณ : klombox - [ 19 พ.ย. 50 16:20:43 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เพิ่มรายได้ให้รัฐ แต่คุณภาพเท่าเดิม จากคุณ : keab (keab_h) - [ 19 พ.ย. 50 16:22:33 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ... เข้ามาดู เห็นด้วยคับบบบ ท่าน จากคุณ : ต้นงิ้วน่ารัก - [ 19 พ.ย. 50 16:24:19 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ก็ดีครับ .... จากคุณ : ห้ามจอด - [ 19 พ.ย. 50 16:29:22 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขยายความรับผิดชอบของ พรบ. ก็ดีครับ แต่อย่าให้แพงมากหละ เพราะ พรบ. ก็ใช้ว่าจะทำกันครบทุกคัน จากคุณ : ELANTRAnsport - [ 19 พ.ย. 50 16:42:52 ]

ความคิดเห็นที่ 24 จากคุณ : แก่ม แก๊ม - [ 19 พ.ย. 50 16:45:19 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เพราะแบบนี้ไงผมถึงทำชั้น 1 มาตลอด รถ 5 ปีแล้ว ส่วนมากเวลาโดนชนคู้กรณี ไม่มีตัง ( เบื่อจังเลย ) จากคุณ : บอย - [ 19 พ.ย. 50 16:46:13 A:222.123.80.23 X: TicketID:117318 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ผมอยากให้รถที่มีประกันชั้น 1-3 ยกเว้นไม่ต้องทำ พรบ. มากกว่า ไม่ต้องจ่ายซ้ำซ้อน จากคุณ : kaizerboy (kaizerboy) - [ 19 พ.ย. 50 16:55:58 ]

ความคิดเห็นที่ 27 Mr. Fusion คุณเสนอสิ่งที่ถูกต้อง และผมเห็นด้วยครับ เมื่อกฎหมายบังคับให้รับผิดชอบต่อชีวิตและร่างกายแล้ว ก็ควรจะบังคับให้รับผิดชอบต่อทรัพย์สินด้วยครับ อย่าตอบว่าไม่มีเงิน เพราะค่าเบี้ยประเภท3 3พันกว่าบาทต่อปีไม่มี แล้วค่าซ่อมรถ  อย่าไปหวัง หนับหนุน หนับหนุน จากคุณ : คนบ้าบิต - [ 19 พ.ย. 50 16:58:31 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เข้ามา... ตุ้บๆ จากคุณ : แก่ม แก๊ม - [ 19 พ.ย. 50 16:58:43 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ก้อเห็นด้วยนะครับ  อาจไม่ต้องเป็นประกันชั้น 3 แต่ให้ครอบคลุมทรัพย์สินของผู้เสียหายอยู่ใน พรบ ไปเลยทีเดียว ปล.   รอ ป๋าหยึม มาคัดค้าน กรทู้นี้ อิอิ จากคุณ : ieang kung - [ 19 พ.ย. 50 17:03:34 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ... #29 ผมอยากได้เหตุผลของคนที่คัดค้านเหมือนกันครับ อยากฟังว่ามีเหตุผลอะไรที่เป็นข้อเสีย ( นอกจากที่ต้องจ่ายเงินมากขึ้นในแต่ละปีตอนเสียภาษีรถประจำปี ) จากคุณ : Mr. Fusion - [ 19 พ.ย. 50 17:13:26 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เห็นด้วยอย่างแรงครับ มิสเตอร์ฟิวส์ แต่คงจะยากสำหรับประเทศที่เคยขี่ควายมาก่อน รากหญ้ารากแก้ว คงจะร้องโวยวายแน่ๆ จากคุณ : ลุงเต่า - [ 19 พ.ย. 50 17:21:34 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ... #31 ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องย้อนถาม รากหญ้ารากแก้ว ล่ะครับ ว่าถ้ามีรถที่ไหนก็ไม่รู้วิ่งมาชนรถของ ท่านรากหญ้ารากแก้ว แล้วคนที่มาชนไม่มีตังจ่ายนะ แบบว่าจนครับ ถือซะว่าท่านรากหญ้ารากแก้วฟาดเคราะห์ ซ่อมรถเองละกัน ถามว่า ถ้าเลือกได้ท่านรากหญ้ารากแก้ว อยากให้รถคันนั้นมีประกันชั้น 3 หรือเปล่าล่ะครับ?? จากคุณ : Mr. Fusion - [ 19 พ.ย. 50 17:27:54 ]

ความคิดเห็นที่ 33 .                                                                                                                                                                                    มากดโหวตให้                                                                                                                                                                                           . จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร - [ 19 พ.ย. 50 17:35:01 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ไม่เห็นด้วยทุกประการ กะการรีดเงินจากประชาชน เอาไปจ่ายให้บริษัทเอกชนครับ ผมยินดีจ่าย ถึงไม่มีเงินสดให้เดี๋ยวนั้น ผมก็มีที่ดินพอที่จะขายพอที่จะเอามาชดเชย ได้แน่ๆ และพร้อมจ่ายแน่ๆ ถ้าผมเป็นคนผิด แต่ .. ผมไม่เห็นด้วยกะการออกกฎใดๆ ก็ตามที่บังคับให้ประชาชนทั่วไป ต้องตกเบี้ยล่างทางธุรกิจ ถูกบังคับดูดเงินเอาไป เลี้ยงบริษัทเอกชน การจะให้ประชาชนจ่ายเงินให้เแกชนทุกกรณี ต้องมาจากความ สมัครใจเท่านั้น ไม่ใช่ออกกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมมาบังคับ หากจะบังคับจริงๆ (เชื่อว่า สส. คงอยากทำแบบนั้น เพราะมีเอี่ยวด้วย) ขอให้เปิดช่อง เอาไว้ให้ผม และอีกบางคน นำทรัพย์ ไปค้ำไว้ หากไม่มีเหตุ ก็ไม่ต้องเสียเบี้ยรายปี จะกี่ล้าน ก็ว่ากันไป แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 50 17:52:13 จากคุณ : สยึมกึ๋ย - [ 19 พ.ย. 50 17:42:09 ]

ความคิดเห็นที่ 35 รถยนต์ผมทำประกันชั้น 1 ตลอดครับ ส่วนมอเตอร์ไซค์ไม่มีประกันแล้วครับ เพราะค่าเบี้ยแพงเกินไป ถ้าราคามันยุติธรรมมีหรือผมจะไม่สน จากคุณ : Mr.Submarine - [ 19 พ.ย. 50 17:44:05 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ... #34 เป็นแนวคิดที่ดีอีกวิธีครับ งั้นก็ใช้บัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ที่เลือกวิธีจะใช้เงินส่วนตัวของตนเองค้ำประกัน เช่น ถ้า ประกันชั้น 3 ภาคบังคับ ตั้งวงเงินไว้ 2 แสน ใครไม่อยากจ่ายค่าประกันรายปี ก็มีสิทธิเลือกได้อีกวิธี โดยเอาเงิน 2 แสนในธนาคารที่ตนฝากอยู่ มาค้ำแทนการทำประกันภัยได้ แต่เงินจำนวนนี้จะโดน Hold ไว้นะครับ คือถอนมาใช้ไม่ได้เลย ถ้ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นก็จะนำเงินก้อนนี้มาจ่ายให้ผู้เสียหาย ระหว่างที่โดน Hold ไว้ ก็ยังได้รับดอกเบี้ยเหมือนเดิมนะครับ หลักฐานที่นำมาใช้คือ ใบรับรองการ Hold เงิน เพื่อค้ำประกันอุบัติเหตุชั้น 3 จากทางธนาคาร แก้ไข : พิมพ์ตกไปนิดหน่อย แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 50 18:13:41 จากคุณ : Mr. Fusion - [ 19 พ.ย. 50 18:03:16 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ... แต่ข้อเสียของวิธี Hold เงินไว้ ก็มีนะครับ คือคนที่วางเงินไว้ที่ธนาคาร ไม่มีประสบการณ์ในการคุมราคาซ่อมแบบบริษัทประกันไงครับ ค่าซ่อมจาก 2 หมื่น อาจจะกลายเป็น 3 หมื่น อะไหล่ที่เสียหาย อาจจะเป็นของเทียม แต่ตอนเคลมกับคุณเขาขออะไหล่ของแท้ ถ้าจะมีวิธีนี้ก็ควรจะต้องมีใครสักคนที่ยอมรับจากคู่กรณีมาเป็นคนคุมราคาให้ จากคุณ : Mr. Fusion - [ 19 พ.ย. 50 18:08:05 ]

ความคิดเห็นที่ 38 นอกจากไทย เวียดนามและประเทศเพื่อนบ้านเรา การทำใบขับขี่โดยเฉพาะจักรยานยนต์..เข้มงวดมาก และทำยากกว่าใบขับขี่รถยนต์ ซึ่งจุดนี้เราเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง บวกกับราคามอเตอร์ไซด์ในประเทศนั้นๆราคาสูงมาก ดาวน์รถยนต์ในไทยได้เลย ทำให้ทั้งจำนวนรถและผู้ฝ่าฝืนกฏ มีน้อยตามไปด้วย สำหรับแนวคิดบังคับใช้ประกันชั้น 3 นั้นดิฉันเห็นด้วย.. และเห็นด้วยกับคุณสยึมกึ๋ย ..ว่าอาจมีปัญหาเรื่องบริษัทเอกชนผู้ทำประกัน เลยคิดว่า น่าจะแก้ปัญหาที่ต้นเหตุมากกว่า คือเข้มงวดเรื่องการออกใบขับขี่และการต่ออายุใบขับขี่ โดยเฉพาะจักรยานยนต์ จากคุณ : นางฟ้าคล้ายนางมาร - [ 19 พ.ย. 50 18:09:44 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เห็นด้วยครับ ผมมองว่าเกิดประโยชน์มากกว่าผลเสียนะครับ จากคุณ : leodive - [ 19 พ.ย. 50 18:10:00 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เห็นด้วยครับ และควรจะแก้ที่ต้นเหตุด้วยโดยการตั้งชมรมการขับขี่ปลอดภัย ตามกฎจราจร ทั้งมอเตอร์ไซค์และรถยนต์ ก่อนที่จะทำใบขับขี่ต้องเข้าอบรม 1 วันเต็ม แล้วจึงเอาใบรับรองที่ผ่านการอบรบไปยื่นที่ขนส่งจึงจะดำเนินการทำใบขับขี่ต่อไป จากคุณ : G600 - [ 19 พ.ย. 50 18:29:58 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ... แนวคิดนี้ถูกต้องแล้วครับ....รถยนต์-รถจักรยานยนต์ ที่วิ่งอยู่บนถนนทุกคัน ควรที่จะต้องมีการประกันภัย...มันเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อส่วนรวม เหมือน พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ....ที่ช่วยรับผิดชอบต่อคนเจ็บได้ ... จากคุณ : nunimitr - [ 19 พ.ย. 50 18:31:11 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ... การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ด้วยการปลูกจิตสำนึก และอบรมให้ความรู้ในการขับขี่ เป็นสิ่งที่ดีครับ แต่มันก็ต้องใช้ระยะเวลานานเหมือนกันนะครับ และก็ต้องไม่ลืมว่า ถึงแม้จะมีวินัยในการขับขี่ แต่ชื่อก็บอกอยู่แล้วครับว่า "อุบัติเหตุ" คือสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ทันตั้งตัว "สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง" และบังเอิญก็ไม่มีใครบอกได้ว่านักปราชญ์ จะมีเงินจ่ายให้คู่กรณีซะด้วยสิครับ ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดได้ย่อมดี แต่ถ้าเกิดเหตุขึ้นก็ต้องมีการรับประกันว่าจะมีทางออกที่ดีให้กับผู้ที่เสียหายด้วยครับ จากคุณ : Mr. Fusion - [ 19 พ.ย. 50 18:46:26 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ถ้าทำกันหมด ราคาประกันชั้น 3 อาจจะเหลือ พันเดียวต่อปีก็ได้ แต่ก็ระวังดาบ 2 คมด้วยนะครับ เพราะสิ่งที่สำคัญกว่าคือวินัยจราจร ว่าแต่ใครโขมยล็อคอิน Mr. Fusion มาครับเนี่ย จากคุณ : BMT830 - [ 19 พ.ย. 50 19:05:45 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ผมว่านะครับ ผมเห็นด้วย แต่ผมว่าถ้าจะให้ดี การบังคับกฏหมายอย่างจริงจัง น่าจะเห็นผลมากกว่าครับ จากคุณ : บุญมีแต่กรรมบัง - [ 19 พ.ย. 50 19:06:44 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เห็นค้วยครับ จากคุณ : eiu - [ 19 พ.ย. 50 19:21:18 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ชนเฉี่ยว แล้วหนี มีหรือไม่มี...ก็เกิดขึ้นได้มันอยู่ที่กมล.. ยิ่งบังคับ ยิ่งตามจิก ก็ยิ่ง กระเด็น เหมือนบูมเมอร์แรงขว้างแรงกลับเร็ว กลับในด้านตรงข้าม น้ำเชี่ยว ใจคน บังคับกันยาก โอล่ะหนอ แคมรี่ยังโดนทุบ คนจนมักไม่ได้หนี คนหนีได้มักไม่จนอย่างนาย..เป็นต้น จะเที่ยวมาบังคับโน่นนี่มันก็ไม่ใช่ บางคนมีรถหลายคันยังไม่ทัน ทำประกันเขาก็ประกันชีวิตไป มันขึ้นกับนิสัยคนเหมือนเรื่องอื่นในชีวิตล่ะ ลองถามตัวคุณใครมาตั้งกฏเกณฑ์บังคับคุณก็ไม่ชอบ ความดื้อมีทั่วไป ไม่ต้องซื้อต้องหา ลักหลบซ่อนเหมือนอย่างอื่น จากคุณ : ใจคนยากแท้หยั่งถึง - [ 19 พ.ย. 50 19:24:21 A:125.26.52.210 X: TicketID:130166 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เข้ามาเห็นด้วยค่ะ จากคุณ : สูงสุดสู่สามัญ - [ 19 พ.ย. 50 20:22:41 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เข้ามาเอาความรู้ค่ะ ^^ จากคุณ : ซาลาเปา ขาว อวบ เอ็กซ์ - [ 19 พ.ย. 50 20:25:05 ]

ความคิดเห็นที่ 49 คุณฟิวชั่น หมายถึง ... อย่างน้อยที่สุด ควรบังคับให้ทำประกันชั้น 3 ใช่ไหมคะ ... ถ้าเป็นแบบนั้นก็เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ ... จากคุณ : Moody-Angle - [ 19 พ.ย. 50 20:33:57 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ เมื่อไม่นานมานี่(ไม่เกิน2-3เดือนที่ผ่านมา)   เพื่อนของผม2คนก็โดนเหตุการถูกชน(โดยเพื่อนผมเป็นฝ่ายถูก) คู่กรณีเบี้ยวไม่ยอมจ่ายเอาดื้อๆ    ทั้งๆที่มีปัญญาขับรถเก๋งแต่ไม่มีปัญญาจ่ายค่าเสียหาย   ใครไม่เคยโดนเหตุการแบบนี้รับรองได้ว่าไม่รู้สึกหรอก อาจจะจริงที่มีคนที่ดีมีความรับผิดชอบที่ขับรถอยู่ในท้องถนนโดยไม่มีประกันและพร้อมที่จะจ่ายถ้าตัวเองเป็นฝ่ายผิด แต่ก็มีมากมายเหมือนกันที่มีข้ออ้างสาระพัดที่จะไม่ยอมจ่ายทั้งๆที่ตัวเองเป็นฝ่ายผิด ดังนั้นการที่รถทุกคันจะต้องมีประกันแบบที่จะต้องจ่ายในกรณีที่ตัวเองเป็นฝ่ายผิดจะดีที่สุด ตัวผมและครอบครัว  รถที่ใช้มีประกันทั้งหมดทุกคัน   อย่างต่ำก็เป็นประกันประเภท3 เห็นประโยชน์ของการมีประกันก็คือ   ไม่ต้องเสียเวลามากในกรณีที่ไม่ได้มีการชนอย่างรุนแรงจนถึงจะต้องไปสถานีตำรวจ แค่รอเจ้าหน้าที่ประกันมาเคลม   แล้วก็จบสำหรับฝ่ายเรา จากคุณ : เสือปลาขี้เมา - [ 19 พ.ย. 50 20:57:21 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ... #49 คุณเข้าใจถูกแล้วครับ ขั้นต่ำคือประกันภัยชั้น 3 จากคุณ : Mr. Fusion - [ 19 พ.ย. 50 21:00:32 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เห็นด้วย จากคุณ : ss2498 - [ 19 พ.ย. 50 21:05:50 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เห็นด้วยครับ แต่ต้องบังคับใช้เป็นกฏหมายอย่างเคร่งครัด และหากรถคันไหนไม่ทำ ก็ไม่ให้ออกวิ่งบนถนน หรือหากแอบวิ่งโดนจับได้ก็จะยึดเข้าหลวง เพื่อประมูลขายนำเงินเข้า กองทุนชดเชยค่าซ่อมค่ารักษาพยาบาล ที่เกิดจากรถที่ไม่ยอมทำ ป 3 จากคุณ : oj_nui - [ 19 พ.ย. 50 21:25:42 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ อย่าคิดว่าจะเป็นการให้บริษัทประกันมีรายได้เลยครับ นึกว่าประกันความเสี่ยงเพราะเฉี่ยวชนกันแต่ละที คุ้มกว่าไปซ่อมเองครับ กดให้ 1 โหวต จากคุณ : dum.d - [ 19 พ.ย. 50 21:36:32 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เห็นด้วยแต่เป็นไปได้ยาก สมัยนี้รถสองล้อ ดาวน์ถูก ออกง่าย รถออกมาแบบถูกกฎหมายน้อย ถ้าชนก็หนี เรื่องจะจ่ายประกันเพิ่ม ไม่มีทาง เพราะพรบ.ยังไม่คิดจะต่อเลย จนพรบ.ต้องจ่ายรวมกับทะเบียน  และคงไม่ค่อยมีใครประกันแน่ เพราะสองล้อไม่ชนกับสองล้อ(ซ่อมถูก) แต่ไปชนรถใหญ่(ซ่อมแพง) มีปัญหาก็หนี แล้วถอยรถใหม่ ถ้าติดแบล็กลิสต์ ก็ให้คนอื่นในบอกออกให้ ไม่รู้จักจบ ส่วนรถกระบะส่งของ(เก่าๆ ไม่ใช่เต้าของขับ)เค้าไม่สนหรอกครับ วิ่งใช้ งานได้ก็พอจะเสียตังค์เพิ่มไปทำใม ถ้าจะให้รถในประเทศไทย ดีเหมือนต่างประเทศ ต้องมีกฏหมายเข้มงวด ,ตำรวจจราจรเถรตรง และใบขับขี่ต้องสอบยากกว่านี้ อีกอย่าง คนในที่นี้มีไม่กี่คน  ถ้าเทียบกับคนจน + คนที่ไม่จนแต่ชอบของถูก + คนชอบเอาเปรียบ ถ้าเค้าโหวตมารับรอง ไม่ผ่านแน่ ปล. คนจนมีทุกประเทศ  แต่กฏหมายที่เข้มงวดมีไม่กี่ประเทศครับ จากคุณ : keab (keab_h) - [ 19 พ.ย. 50 21:37:36 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ... #53 ผมก็มีแนวความคิดแบบคุณครับ ถ้ารถคันไหนทะเบียนหมดอายุ ไม่ยอมเสียภาษีรถประจำปี ถ้าตรวจเจอ จะยึดรถคันนั้นไว้ ไม่ให้วิ่งต่ออีก ( ไม่ใช่แค่ให้ใบสั่ง แล้วก็ปล่อยให้ขับต่อได้ แบบนี้ไม่ได้ ) จนกว่าจะไปทำเรื่องให้ถูกต้อง จะโดนปรับที่ขนส่ง หรือ โดนอะไรก็ว่าไป แล้วค่อยมาเอารถคืนได้ เพราะการต่อทะเบียน(เสียภาษีประจำปี) สามารถทำได้ก่อนครบกำหนดถึง 3 เดือน ถ้าปล่อยให้เลยกำหนดนี่แสดงว่า แย่แล้วล่ะครับ จากคุณ : Mr. Fusion - [ 19 พ.ย. 50 21:37:58 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เห็นด้วยอย่างยิ่ง เจอมาแล้ว..มอไซด์ชนท้ายเรา..มันผิด..ก็โมเมว่าเป็นฝ่ายถูก..เมื่อถึงโรงพักในที่สุด ก็ไม่มีเงินค่าปรับ..ไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อมให้เรา..แถมจะขอค่ายา(แก้ถลอกปอกเปิก)กะเราอีก..ไอ้ชั่ว..เสียเวลาไปค่อนวัน   จากคุณ : Ice Blue Civic - [ 19 พ.ย. 50 22:16:45 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ขอหน่อยนะ..สิ่งที่ผมเห็นตอนนี้นะคับ..คนไทยรวมทั้งผมมีความเข้าใจและเข้าถึงกฏหมาย..ข้อบังคับ..กฏกระทรวงต่างๆ..หรือ..พรบ..ผมว่าหลายคนยังไม่เข้าถึงอย่างจริงจัง..ส่วนมากเราก็จะทราบจากตำรวจ...ประกัน..หรือ..บอกต่อกันมา...ว่าอย่างนี้ถูกอย่างนี้ผิด...อย่างนี้ทำได้อย่างนี้ทำไม่ได้...แต่สิ่งที่ขาดหายไปคือความรับผิดและชอบของบุคคลที่กระทำคับ...ส่วนเรื่องที่จขกท.ตั้งไว้..เห็นด้วยคับ...ด้วยความเคารพคับ...ไม่เห็นตอบ คห 28 เลย...555ล้อเล่นนะคับ จากคุณ : song hey khuan - [ 19 พ.ย. 50 23:11:57 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เห็นด้วย... กับ คห 34 เป็นการเพิ่มรายได้ให้ภาคเอกชน ที่บอกว่าถ้าทำเยอะ ๆ ก็จะมีการลดเบี้ยให้ (คห 13) อย่าลืมว่าค่าโทรศัพท์ ก็นาทีละแค่ 25 ตังค์ ผู้บริหารยังรวยกันซะ อย่าบอกนะว่าจะมีการจัดตั้งเป็นองค์การหรือตัวแทนรัฐ ขึ้นมาเก็บเบี้ยแทน คล้าย ๆ บังคับจ่ายประกันสังคม กับการรักษาที่เลือกปฏิบัติ และสุดแสนจะรันทด! การมาบังคับทำตรงนี้เหมือนเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ รอให้เกิดเหตุก่อน แล้วดูว่ามีเงินรองรับความเสียหายนั่นหรือเปล่า การปลูกฝังจิตสำนักในการขับขี่ตากหากที่ควรทำ นั่นคือออกกฎหมายให้เข้มงวดกว่านี้ ชนแล้วพิสูจน์ได้ว่าใครผิด อ้างว่าจนไม่มีตังค์จ่าย คดียอมความไม่ได้ ไปนอนในคุกโน่น ขโมยรถ จับได้จำคุก ไม่ต่ำกว่า 20 ปี ไม่มีการลดโทษ เอาให้จริงจัง ใครมันจะกล้า จากคุณ : แม่ปังคุง - [ 19 พ.ย. 50 23:56:25 A:203.146.63.184 X: TicketID:136874 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ... #59 "...ขโมยรถ จับได้จำคุก ไม่ต่ำกว่า 20 ปี ไม่มีการลดโทษ เอาให้จริงจัง ใครมันจะกล้า ... " งั้นโทษของการค้ายาเสพติด คือ ประหารชีวิต ผมยังเห็นมีคนค้ายาอยู่เลยครับ เพราะฉะนั้นการขโมยรถ คงไม่ต้องพูดถึงนะครับ ว่าจะมีคนกล้าหรือเปล่า "...ชนแล้วพิสูจน์ได้ว่าใครผิด อ้างว่าจนไม่มีตังค์จ่าย คดียอมความไม่ได้ ไปนอนในคุกโน่น..." การติดคุกของคนที่ขับรถชนรถคนอื่นเสียหาย  ติดคุกแล้วไงล่ะครับ เขาไม่มีเงิน เลยต้องไปนอนในคุก รถของอีกฝ่ายที่โดนชนยังพังอยู่ดีล่ะครับ บางคนเขาก็ไม่ได้มีเงินมาซ่อมรถนะครับ ก็หวังว่าอีกฝ่ายจะมารับผิดชอบ แต่นี่กลายเป็นว่าคนที่ไม่ผิด ก็ต้องมารับเคราะห์ไปด้วย โดนชน รถพัง ตังก็ไม่มี จากคุณ : Mr. Fusion - [ 20 พ.ย. 50 00:43:06 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ว่าจะไปทำชั้น 3 พลัส ซะทีเหมือนกัน แต่ต้องรอให้รถซ่อมเสร็จก่อน  วันพฤหัส.. รถไม่ใช่ชื่อผม  โดนไปคราวนี้เกิน20k เจ้าของ(เตี่ย)จะคิดได้ยังผมก็ขี้เกียจถามละ  ทำเลยดีกว่า ชนมาเบาะๆทีนึงก็โดนตั้งเท่านี้แล้ว  แรงกว่านี้จะเท่าไหร่ ทำไมชอบเสียน้อยเสียยาก  เสียมากเสียง่ายกันจัง จากคุณ : แมงแกลบ - [ 20 พ.ย. 50 01:24:18 ]

ความคิดเห็นที่ 62 นานๆ เข้ามาห้องนี้ทีนึง ก็เจอกระทู้เด็ด คนดังซะแล้ว เข้ามาเห็นด้วยจ้า ต้องเซฟกระทู้ไว้เป็นที่ระทึก เอ้ย ระลึกซะหน่อย แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 50 02:14:45 จากคุณ : nuiorji - [ 20 พ.ย. 50 02:13:37 ]

ความคิดเห็นที่ 63 นานๆที แต่ลึกล้ำนะ เขาน่ะ จากคุณ : เห็นชอบในความคม ลึก (Hallza) - [ 20 พ.ย. 50 03:25:39 ]

ความคิดเห็นที่ 64 เห็นด้วย จากคุณ : REX-REX - [ 20 พ.ย. 50 06:16:29 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ถ้าบังคับทำ ก็ต้องมีพรบ. บังคับใช้ กับผู้ที่มีรถ แต่ถ้ามองในแง่ของผุ้ที่ใช้รถเก่า และบางครอบครัวอาจจะไม่มีเงินในการทำประกันนั้นก็ได้ เงินจำนวน1ซึ่งบางครอบครัว อาจต้องเก็บหอมรอมริบไว้เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย ค่าเทอมลูก หรือใช้เมื่อยามเจ็บป่วย ก็มีครับ ดังนั้นการบังคับให้เสียตังเป็นจำนวนมากๆต่อปี ครอบครัวที่มีรถเก่า(เพราะจำเป็นต้องใช้) อาจส่งผลกระทบถึงหลายคนในครอบครัวของเขาก็ได้ครับ  แล้วถ้าผมถามว่าจะมีประกันชั้น 4 ขึ้นมาแล้วเงื่อนไขครอบคลุมอย่างสมเหตุสมผลมันควรจะมีอะไรบ้าง จากคุณ : acc 90 carb. (acc 90 carb) - [ 20 พ.ย. 50 08:52:38 ]

ความคิดเห็นที่ 66 http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V6040777/V6040777.html เห็นด้วย ไปต่ออันนี้อีก จากคุณ : C5 HDI - [ 20 พ.ย. 50 08:53:03 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ตามนั้นครับ เห็นด้วยครับ.. จากคุณ : หนุ่ม เมืองนนท์ - [ 20 พ.ย. 50 08:54:43 ]

ความคิดเห็นที่ 68 เห็นด้วยอย่างยิ่งครับผม จากคุณ : 447 - [ 20 พ.ย. 50 09:04:35 ]

ความคิดเห็นที่ 69 เห็นด้วยกับเรื่องประกัน และเรื่องกล้องวงจรปิดในรถ... ผมอยากติดจังเลยแต่หาติดไม่ได้ครับ จากคุณ : w@@n - [ 20 พ.ย. 50 09:40:50 ]

ความคิดเห็นที่ 70 เราเห็นด้วยค่ะ  ยิ่งถ้าคนทำประกันกันมากขึ้น  เราว่าค่าเบี้ยมันจะยิ่งถูกลงนะคะ   แทนที่จะต้องจ่ายค่าเบี้ยแพงแบบเมื่อก่อน จากคุณ : สงสารน้องออส (ส่งเสียน้องออส) - [ 20 พ.ย. 50 10:07:32 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ไม่เห็นด้วยเรื่องบังคับทำ ป.3 ทุกคัน (ถ้าเฉพาะรถที่จดทะเบียนใน กทม อันนี้โอเค เห็นด้วย) เพราะมีรถอีกจำนวนมากที่ใช้งานน้อย หรือส่วนใหญ่ใช้งานในต่างจังหวัด ระดับ ตำบล อำเภอ ไม่ได้เข้าเมือง (หรือนานๆที) ถ้าจะแก้ปัญหาชนแล้วไม่จ่าย  หาทางอื่นอีกดีไหม อย่างออกกฎหมาย เช่น ไม่ต้องทำ ป.3 ก็ได้ แต่ถ้าไปชนคนอื่น แล้วไม่มีจ่าย ต้องโดนยึดรถไว้ก่อน  จ่ายค่าเสียหายหมดเมื่อไหร่ ค่อยเอารถไปได้ (ให้คนเสียหายเซ็นยินยอมเอารถออก) หรือบังคับเอารถเข้าไฟแนนซ์ (วงเงินแค่ค่าเสียหาย) แล้วให้เจ้าของรถไปผ่อนจ่ายกับไฟแนนซ์เอง จากคุณ : P166 - [ 20 พ.ย. 50 10:26:13 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ขอแถมด้วยละกันครับ ประวัติดี ขอลดเบี้ยด้วยนะ เพราะอยู่ ตจว.ขับรถมา 10 กว่าปี แล้วไม่มีประวัติชน จากคุณ : pinestand - [ 20 พ.ย. 50 10:34:51 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ... #71 ไม่อยากทำประกัน ก็มีทางเลือกให้ ( ใน #36 ) คือนำเงินของคุณเองมาค้ำแทนได้ ระหว่างที่นำเงินส่วนตัวมาค้ำไว้ ก็ได้ดอกเบี้ยด้วยนะครับ ถ้าขยายแนวความคิดของคุณ P166 ไป อย่างนั้นก็ไม่ควรทำ "พรบ" ด้วยสิครับ เพราะรถพวกนั้นใช้งานน้อย คงไม่ไปชนผู้คนที่ไหนหรอก คุณเห็นด้วยเหรอ? "... แต่ถ้าไปชนคนอื่น แล้วไม่มีจ่าย ต้องโดนยึดรถไว้ก่อน  จ่ายค่าเสียหายหมดเมื่อไหร่ ค่อยเอารถไปได้..." การมีประกันชั้น 3 เป็นเครื่องรับรองว่ามีใครสักคนมาค้ำจุนผู้เสียหายอย่างแน่ ๆ ครับ อย่าลืมว่าถ้าคนที่ขับรถมาชนคุณแล้วไม่มีเงินจ่าย คุณเองก็ไม่มีเงินซ่อมรถเหมือนกัน ถ้ามีการปล่อยให้ผ่อนจ่าย กว่าจะหมดเอาสัก 3 ปี แบบนี้ คุณที่เป็นฝ่ายเสียหายรอไหวหรือครับ? หรือบางเคส ผู้ก่อเหตุไม่จ่าย แล้วหายตัวไปดื้อ ๆ ก็มีนะครับ ถ้าเทียบกับการมีประกันชั้น 3 อย่างน้อย ๆ 1 เดือน รถของผู้เสียหายก็น่าจะกลับมา ใช้งานได้แล้ว จากคุณ : Mr. Fusion - [ 20 พ.ย. 50 11:10:12 ]

ความคิดเห็นที่ 74 เห็นด้วยครับ จากคุณ : OmO_M@Y - [ 20 พ.ย. 50 11:45:09 ]

ความคิดเห็นที่ 75 สมควรอย่างยิ่ง คนมีรถ ก็ควรจะมีความรับผิดชอบในเหตุที่จะเกิดด้วย ค่าเบี้ย เพิ่มไม่กี่บาทถือว่า คนมีรถ ควรจะมีกำลังที่จะต้องจ่ายตรงนี เพิ่มเติม.. รถที่มีประกัน ชั้น 3 เป็นอย่างต่ำ ก็ไม่จำเป็นต้องบังคับทำ พรบ. ให้เสียเงินซ้ำซ้อน โดย อาศัยความร่วมมือ กับ กลุ่มบอริษัทประกัน แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 50 12:14:37 จากคุณ : ก้นกบ - [ 20 พ.ย. 50 12:09:52 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ก็เห็นด้วยนะครับ ในต่างประเทศอย่างเช่น US ก็บังคับใช้กันนานแล้ว โดนตำรวจเรียกตำรวจก็จะขอดูบัตรของบริษัทประกันนอกเหนือจากใบขับขี่ มีเพื่อนบางคนลักไก่ไม่ทำประกันโดนจับได้ต้องเสียค่าปรับกันอาน จากคุณ : zeroAM - [ 20 พ.ย. 50 12:10:37 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ยกมืออีกเสียงครับ แต่อยากให้ทำพร้อมกับ พรบ.ไปเลย หรือว่าตอนต่อภาษีประจำปี จะได้เสียทีเดียว คนไทยมักไม่อยากจะเสียอะไรหลายต่อ ต่อเดียวพอให้จบ จากคุณ : oasus - [ 20 พ.ย. 50 12:22:36 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ก็ดีนะครับ จากคุณ : kang&aew - [ 20 พ.ย. 50 12:26:50 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ชู 2 มือ.. หนับหนุน Idea คุณฟิวสั้นฮับ... จากคุณ : Level II - [ 20 พ.ย. 50 12:27:47 ]

ความคิดเห็นที่ 80 คห.71 ครับ ถ้าคุณต้องการอย่างนั้น  เวลาเกิดเรื่องขึ้นมาจริง คุณอาจจะร้องไห้เพราะไม่มีรถไปทำงานหาเงินมาให้เขาก็ได้นะครับ และกฎหมายอย่างนั้นก็ออกไม่ได้ด้วยครับ เพราะขัดรัฐธรรมนูญ ครับ จากคุณ : Hallza - [ 20 พ.ย. 50 12:29:05 ]

ความคิดเห็นที่ 81 เข้ามาโหวตให้อ่ะคะ จากคุณ : Minnie B - [ 20 พ.ย. 50 12:41:36 ]

ความคิดเห็นที่ 82 เห็นด้วยกับนายฟิวครับ... รถทุกคันต้องทำประกันภัย จะชั้นไหนก็ได้... โหวตให้ด้วยนะ.. จากคุณ : อิสสระ - [ 20 พ.ย. 50 12:44:16 ]

ความคิดเห็นที่ 83 มาตั้งกระทู้ด้วยเหรอ มิสเตอร์ฟิว จากคุณ : แมวหลังบ้าน - [ 20 พ.ย. 50 13:12:22 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ประกันชั้นสาม น่าจะเป็นภาคบังคับไปเลย เห็นด้วยกับท่าน ฟิวส์ จากคุณ : ลำไผ่ บ้านท่า - [ 20 พ.ย. 50 13:20:44 ]

ความคิดเห็นที่ 85 เข้ามาอ่านหาความรู้ จากคุณ : nong-grapeka - [ 20 พ.ย. 50 13:21:39 ]

ความคิดเห็นที่ 86 เข้ามาดู คุณฟินชั่น จากคุณ : โอ๊ะเอ๊ะ - [ 20 พ.ย. 50 13:24:46 ]

ความคิดเห็นที่ 87 เห็นด้วยกับ Mr.Fusion  ครับ "เพราะการที่คนเราจะขับรถสักคันวิ่งไปมาบนท้องถนนได้นั้น ควรจะมีศักยภาพในการรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลอื่นได้ด้วย" จากคุณ : pigart (pigart) - [ 20 พ.ย. 50 13:46:55 ]

ความคิดเห็นที่ 88 เห็นด้วยกับ bot นักกฎหมายอย่างคุณฟิวชั่นทุกประการครับ จากคุณ : Saiyajin - [ 20 พ.ย. 50 14:06:08 ]

ความคิดเห็นที่ 89 เห็นด้วยทุกประการค่ะ =) จากคุณ : หัวใจข้างซ้าย พวงมาลัยข้างขวา - [ 20 พ.ย. 50 14:51:15 ]

ความคิดเห็นที่ 90 เห็นด้วย ถ้ารัฐบาล สามารถลดภาษีประจำปี  ภาษีน้ำมัน  ภาษีนำเข้ารถยนต์  ให้ถูกกว่านี้หน่อย เอาเป็นว่า  ในส่วนของภาษีนำเข้าให้ พอดีจ่ายค่าประกันชั้น 3 สัก 7-10 ปีก็พอ ไงก็ยังเงินเข้ารัฐอีกเหลือๆ จากคุณ : PiGsPy - [ 20 พ.ย. 50 14:58:17 ]

ความคิดเห็นที่ 91 เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ นึกถึงใจเขาใจเรา ถ้ามีคนมาชนคุณแล้วบอกว่าไม่ตัง ต่างคนต่างซ่อมละกัน โดยที่คุณไม่ผิดคุณจะรู้สึกอย่างไร ผมขี่มอเตอร์ไซค์ และทำประกันชั้น 3 ไว้ด้วย ถ้ามีชั้น 1 คงทำไปแล้ว เบี้ยถูกหรือแพงแล้วแต่บริษัท ถูกๆก็พันหก แต่มีรับแค่ไม่มีบริษัทครับ จากคุณ : JavaV - [ 20 พ.ย. 50 15:01:26 ]

ความคิดเห็นที่ 92 เห็นด้วยคร๊าบบ จากคุณ : janeko - [ 20 พ.ย. 50 15:04:16 ]

ความคิดเห็นที่ 93 คห.80  มันขัดกับรัฐธรรมนูญตรงไหนอ่ะครับ... ทำผิด ไม่มีปัญญาชดใช้ ให้ยึดทรัพย์ เป็นหลักค้ำประกันการใช้หนี้ หรือบังคับขายทอดตลาด เพื่อทำการใช้หนี้ เป็นคดีแพ่ง.....งง ครับ ขัดรัฐธรรมนูญยังงัย กับแค่ไม่มีรถใช้ เค๊าไม่ได้ห้ามเดินทาง หรือห้ามโดยสารรถสาธารณะ หรือห้ามเข้าใกล้ยานยนต์เกินกว่า 3 เมตรอะไรสักหน่อยนิครับ. ถ้าไม่มีรถไปทำงานแล้วต้องร้องไห้เลยเหรอ................... แล้วคนที่ไม่มีรถส่วนตัวอาศัยรถสาธรณะ เค๊าต้องร้องไห้วันละ 2 รอบด้วยป่าว........ เคยมีรถแล้วไม่มีรถ แล้วจะตาย ผมเรียกว่าจมไม่ลงนะครับ..... รักจะสดวกสบายมีรถขับ ควรต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวมดว้ยอ่ะครับ... แบบนี้ที่เมืองนอก กฏหมายบังคับ กรณีขับรถชนคนตาย ยึดใบขับขี่ตลอดชีพ ห้ามขับรถอีก ก็ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยสิครับ... จากคุณ : ชายอิสระ..... - [ 20 พ.ย. 50 15:20:35 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ตกใจมากเลยอ่ะตอนเข้ามาอ่าน ไม่นึกไม่ฝันว่าจะเป็น Mr. Fusion มาตั้งกระทู้ (เข้ามาจากกระทู้ vote เลยไม่เห็นชื่อคนตั้ง) เข้ามาแล้วก็ขอออกเสียงหน่อยก็ดี หลักๆคือผมเห็นด้วยครับ เจตนารมณ์ของข้อเสนอที่ว่านั้นถูกต้องทุกประการครับ ควรมีความคุ้มครองให้ผู้เสียหาย แต่ปฏิบัติจริงน่าจะยาก เพราะคนไทยไม่เข้าใจ  อยากประหยัดไว้ก่อน ความคิดแรกของผมในกรณีนี้คือ บางคนที่เขามีโอกาสชนต่ำ หรือเขาเป็นคนดีอยู่แล้ว(ชนแล้วจ่าย) เขาคงไม่อยากจะทำอ่ะครับ เช่น ผมซื้อกระบะมาขับรถขนส้มจากไร่ของผมไปตลาด ไม่เคยใช้มากกว่านั้น แถวบ้านผมรถน้อย ผมขับรถดี เกิดมาไม่เคยชน ผมคงไม่อยากจ่าย และอีกอย่างผมคิดว่าคนที่ชนแล้วไม่มีจ่ายน่าจะมีเป็นส่วนน้อย การที่จะเอาข้อบกพร่องของคนส่วนน้อยมาใช้บังคับกับคนส่วนใหญ่ผมไม่แน่ใจว่าจะถูกหลักนิติศาสตร์หรือรัฐศาสตร์หรือไม่น่ะครับ แล้วถ้าจะให้มีจริงๆจะเอาวงเงินค่าซ่อมกันที่ไม่เกินกี่บาท แสนนึงมากไปมั๊ย    บางคนว่ามาก  บางคนว่าน้อย ถ้าจะให้ลดวงเงินลงเพื่อลดค่าเบี้ย สมมติว่าแค่ซ่อมไม่เกินสองหมื่น จ่ายเบี้ยปีละไม่ถึงพันจะได้จ่ายค่าเบี้ยกันไหว เกิดผมไปชนเบนซ์ซะตรูดแหกสองหมื่นคงไม่พอ และอีกอย่าง ถ้าค่าซ่อมกำหนดไว้น้อยๆ มันก็อาจจะไม่สมประโยชน์เนื่องจาก ถ้าค่าซ่อมแค่สองหมื่นผมก้คงไปหามาจ่ายได้ แบบนี้ไม่มีประกันผมก็พอจ่ายไหว แต่ถ้ากำหนดวงเงินค่าซ่อมไว้แพงๆ เบี้ยก็สูงตามไปด้วย จ่ายค่าเบี้ยกันไม่ไหว(หรือไม่อยากจะจ่าย)อีก อู๊ย  ปวดกาบาล... จากคุณ : Major Chip Hazard - [ 20 พ.ย. 50 15:31:56 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ใครไม่เคยเจอกับตัวเองคงไม่ทราบความรู้สึกนะครับ    ที่ถูกชนแล้วอ้างว่าเป็นลูกจ้างเค้าไม่มีเงิน(รถนายจ้างก็ไม่ทำประกัน)  บลา  บลา  บลา   อีกสารพัดที่จะกล่าวอ้างทำให้ผู้เสียหายต้องเดือดร้อน   จ่ายมาแค่ห้าพันบาท  ผมต้องจ่ายส่วนต่างอีกเป็นหมื่น  ตามทวงก็อ้างว่าขายของไม่ดีให้ทีละพันสองพัน  จนผมเอือมไปเองครับ  ผมเห็นด้วยที่ต้องบังคับให้รถทุกคันต้องทำประกันครับจะได้มีผู้รับผิดชอบ ผู้เดือดร้อนก็น้อยลง หากรถผู้ก่อเหตุเป็นฝ่ายผิดเจ้าของรถก็ซ่อมเองครับ  แต่รถผู้เสียหายบริษัทประกันจะเข้ามารับผิดชอบแทน  ผมคิดว่าเบี้ยประกันต้องถูกกว่านี้แน่นอน หากเป็น กม.ให้ทุกคันต้องทำ จากคุณ : jackkub - [ 20 พ.ย. 50 15:39:46 ]

ความคิดเห็นที่ 96 เห็นด้วย แต่สำหรับคนมีเงิน พอจะมีเงิน พอหมุนเงินได้ เพราะทำไว้ก็เป็นการคุ้มครองให้กับทุกฝ่ายด้วย ไม่เห็นด้วย กับคนยากจนที่เค้าทั้งชีวิตมีรถคันเดียวไว้ทำมาหากิน เกิดว่าไปชนใครเค้าก็ซวยตายเลย เคยมีรถคันนึงมาชนเรา คือเราประกันชั้น ๑ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่รถเค้าไม่ประกันอะไรเลย เค้ายืนนิ่งๆแล้วอ้อนวอนเรา แต่เราก็ไม่รู้ทำไง ค่าซ่อมรถเราแพงด้วย ก็จำต้องรอให้ประกันมาจัดการไปดีกว่า พอประกันเคลียร์เสร็จ เราก็ขับรถออกมา เราแอบมองกระจกหลังเห็นเค้ายืนเศร้าๆริมฟุตบาธ เค้าบอกว่าทั้งชีวิตมีรถคันเดียวแล้วขับรถออกมาตามเมีย เมียหนีเค้ามา แล้วเบรคเค้าคงไม่ดี เพราะคันหน้าเราเบรคกระชั้นชิด เราก็เบรคตาม รถเราเบรคอยู่ แต่รถเค้าที่อยู่ข้างหลังเบรคไม่อยู่ สุดท้ายคือชนเรา  คือเค้าไม่มีเงินเลย แต่งตัวปอนๆ รถก็เก่าๆ แบบรถคันนี้เป็นเหมือนชีวิต สงสารเค้ามาก แต่เราก็จ่ายค่าซ่อมรถตัวเองไม่ไหวหรอก เราก็ต้องขอเงินพ่อแม่อยู่ เราก็เห็นใจแต่ก็คงไปยื่นมือช่วยเค้าโดยไม่คิดค่าอะเไรไม่ได้ เพราะเราทำประกันไว้ อย่างนี้เราผิดมากไหม? นึกทีไรก็.... อ่าน่ะ เลยคิดว่าที่คุณฟิวพูดมา มันจะดีกับคนที่พอมีเงิน แต่คนที่ไม่มีเงินล่ะ? แบบทั้งชีวิตทำมาหากินอยู่กับรถคันเดียว โดนค่าทำประกันชั้น ๓ ไปถึงจะไม่กี่พัน บางคนเค้าก็แย่น่ะ อยากให้ทำแบบประกันสังคมไปดีกว่า คือ เป็นแบบประกันสังคมรถให้ทุกคนที่มีรถมาร่วมด้วยช่วยกัน จ่ายกันคนละ ๔๐๐ ต่อปี โดยใครที่ทำประกันกับเอกชนไว้ ให้มาหักค่าจ่ายประกันสังคมรถ ๔๐๐ บาทไป โดยอาจะทำเป็น พ.ร.บ แยกไปต่างหาก เวลามีอุบัติเหตุให้่ตำรวจกับประกันมาดูเหตุการณ์เป็นคนตรวจสอบ อย่างน้อยๆ คนมีประกันชั้น ๑ ยังไงก็ได้สิทธิ์คุ้มครองจากเอกชนอยู่แล้ว แต่คนมีประกันสังคมรถก็จะได้ไปผ่อนกับทางประกันสังคมรถเอก อาจโดนหักไปยังไงก็ต้องมาคิดกันอีกที จากคุณ : Archimandrite - [ 20 พ.ย. 50 15:44:19 ]

ความคิดเห็นที่ 97 แล้วถ้าเกิดทำประกันแล้วบ.ประกันเจ๊งขึ้นมาเราจะต้องทำยังไงดีคะ จากกระทู้http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V6028330/V6028330.html จากคุณ : ริมบึง - [ 20 พ.ย. 50 15:53:49 ]

ความคิดเห็นที่ 98 เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ จากคุณ : extrajeab - [ 20 พ.ย. 50 16:15:12 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ความคิดเห็นที่ 15   กฎหมายแบบนี้ มันน่าทำมากกว่า   ลงไปยืนเคารพธงชาติ ตอน 18.00น. ด้วยซ้ำไป *************-ขอยืมมาใช้ด้วยนะ-********** จากคุณ : รวยสาหัส - [ 20 พ.ย. 50 16:25:22 ]

ความคิดเห็นที่ 100 เห็นด้วยครับ!! จากคุณ : hunterp - [ 20 พ.ย. 50 16:48:58 ]

ความคิดเห็นที่ 101 Vote ครับ จากคุณ : TG_KEN - [ 20 พ.ย. 50 16:55:57 ]

ความคิดเห็นที่ 102 คห.93 ชายอิสระ ผมไม่เถียงเรื่องกฎหมาย สมมติคุณทำมาหากินโดยใช้รถตลอด ขนส่งอะไรก็แล้วแต่ รายได้ ได้มาจากรถ แต่ในตอนนั้นคุณเกิดเรื่อง บังเอิญไม่มีเงินพอจ่าย จนต้องถูกยึดรถ   ผมถามหน่อยว่าระหว่างไปหางานใหม่ทำ หรือไปเช่ารถมาดี   ทั้ง2วิธีนี้เป็นวิธีที่ควรทำมั้ย สำหรับคนที่กำลังหาเงินใช้หนี้  เพิ่มรายจ่ายที่ไม่น้อยมาในยามเป็นหนี้ทั้งๆมันไม่ควรจะเสียในส่วนนี้  มีรถอยู่แต่ใช้ไม่ได้ เป็นคุณ ชายอิสระ คุณจะร้องไห้มั้ย   คิดอะไรให้รอบคอบ ไม่ใช่เอาแต่หาเรื่องเถียง จากคุณ : Hallza - [ 20 พ.ย. 50 17:00:18 ]

ความคิดเห็นที่ 103 #73 Mr Fusion เรื่อง พรบ เห็นด้วยที่บังคับให้ทำ  เพราะเกี่ยวกับชีวิตคน ซึ่งต้องรักษาโดยเร่งด่วน จะรอไม่ได้ ยังอยากให้ออกกฎมากกว่านี้  โดยยึดรถไว้ก่อนด้วยซ้ำ ให้เจ้าของรถจ่ายค่ารักษาในส่วนเกิน พรบ คุ้มครอง ถ้าไม่มีจ่ายก็ให้เอารถเข้าไฟแนนซ์ก่อน หรือ ขายทอดตลาดไปเลย เรื่องยึดรถก่อน  มีเงินจ่ายค่อยเอารถออก ก็กำหนดเวลาไว้ครับ เช่น ไม่เกิน 90 วัน มิฉะนั้นจะขายทอดตลาด เอาเงินไปให้ผู้เสียหาย  ส่วนที่เหลือก็คืนเจ้าของรถไป คล้าย #94 ครับ ต้องดูโดยส่วนรวมทั้งประเทศ ถ้าบังคับทำ ป.3 สำหรับรถทะเบียน กทม. เท่านั้น อันนี้ผมเห็นด้วย 100% จากคุณ : P166 - [ 20 พ.ย. 50 17:23:54 ]

ความคิดเห็นที่ 104 สมมติว่าเป็นเจ้าของรถหลายคันมาก นั่นคือมีเต้นท์รถมือสอง ระยะระหว่างรอขายนั้นมีเรื่องต้องขับไปใช้งาน เช่นเช็คสภาพ พาไปให้ลูกค้าดู พาไปซ่อม ไปหาอะไหล่ เขาจะต้องทำประกันชั้น 3 ด้วยเหรอคุณไม่งั้นเอารถออกมาใช้ไม่ได้ งั้นสิงั้นก็ไม่ต้องขายกันพอดี จบอาชีพเลย และคนที่มีรถเพื่อขนส่งเกษตรระหว่างไร่ ก็เช่นกัน ทำประกันทุกคันคงไม่ไหว และคนที่มีรถเก่ามากแล้ว(ซึ่งมีอีกหลายคนในประเทศนี้ที่ใช้รถหลายสิบมือ เพราะที่นี่ไม่ใช่อเมริกา หรือออสเตเรีย) คุณต้องยอมรับว่ามีรถเก่าที่นำเข้ามาจำนวนไม่น้อยมาให้ใช้ต่อ ตามสภาพเศรษฐกิจและเมื่อมีการเคลมประกันนั้นชั้นสามมักซ่อมให้แต่ต้องรอคิวจากอู่ซ่อมที่เขาผูกขาดกัน ต้องรอคิว ถามว่าอู่ซ่อมรถเพียงพอหรือไม่สำรับที่คุณบอกนาทีนี้คุณต้องรับว่าเรายังไม่พร้อมในหลายด้าน จะทำอะไรคิดดู ดี ดีประชาชนส่วนใหญ่ด้วย อีกอย่างเตรียมพร้อมกับเงินหมุนเวียนมหาศาลหรือยัง ตั้งเล่นกันสนุกก็ไม่ว่าอะไรแต่ทำได้มั้ยมันระยะยาว *****ขอให้เรื่องนี้ไม่ใช่นโยบายของรัฐบาล สาธุ จากคุณ : มาส่ายหน้า - [ 20 พ.ย. 50 17:26:36 A:125.26.55.62 X: TicketID:130166 ]

ความคิดเห็นที่ 105 #102   โดนยึดรถถ้าอยากเอารถออก ก็ต้องหาเงินมาจ่ายครับ จะหยิบยืม  กู้มา เอารถเข้าไฟแนนซ์ ก็แล้วแต่ ยิ่งใช้รถทำมาหากิน ยิ่งต้องขับระวังมากด้วยซ้ำ รถเกิดอุบัติเหตุ ต้องเข้าอู่ขาดรายได้ แถมต้องเสียเงินซ่อมอีก ทำผิดก็ต้องรับผิดชอบในส่วนที่ตัวเองก่อครับ ไม่อยากเสี่ยงเองก็จ่ายค่าทำประกัน ให้ บ.รับความเสี่ยงไป คล้ายทำผิด แล้วไม่มีเงินประกันตัว ก็นอนคุกครับ จะขาดรายได้อย่างไง ไม่สนครับ จากคุณ : P166 - [ 20 พ.ย. 50 17:33:43 ]

ความคิดเห็นที่ 106 เห็นด้วยนะคะ  แต่เชื่อว่ามันจะต้องเกิดกรณีเหมือนประกันสังคมน่ะค่ะ จากคุณ : ก็อยากเป็นคนน่ารักอยู่หรอก - [ 20 พ.ย. 50 18:07:03 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ค่าน้ำมันที่ใช้กันผมว่าแพงกว่าค่าทำประกันอีกครับ ควรบังคับนะครับ เราเน้นแต่ความสะดวก มักง่าย มากเกินไปแล้ว จากคุณ : bloodsteam - [ 20 พ.ย. 50 18:11:29 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ... #104 เจ้าของรถหลายคัน ก็ถ้ามีปัญญามีรถหลาย ๆ คัน ไม่น่ามาบ่นเรื่องนี้นะครับ ถ้าอย่างนั้น ก็คืนทะเบียนไปสิครับ ไม่ต้องเสียค่าภาษี, ค่าประกัน แต่ ถ้าคืนทะเบียนไปแล้ว ห้ามนำรถมาวิ่งบนถนนหลวงนะ จะให้ลูกค้าทดสอบวิ่ง , จะซ่อม ก็บนที่ดินส่วนตัวไปสิครับ ให้ลูกค้าลองวิ่งรอบเต้นท์รถของตัวเองไป ถ้าจะวิ่งไปซื้ออะไหล่ ก็ใช้การลากจูง หรือ ใช้บรรทุกมาแบกไปครับ เรื่องอู่ ทำไมจะไม่พอล่ะครับ ขอให้มีเงินอู่เขาก็ซ่อมให้แน่นอนครับ จากคุณ : Mr. Fusion - [ 20 พ.ย. 50 18:15:11 ]

ความคิดเห็นที่ 109 เห็นด้วยครับ "เพราะการที่คนเราจะขับรถสักคันวิ่งไปมาบนท้องถนนได้นั้น ควรจะมีศักยภาพในการรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลอื่นได้ด้วย" จากคุณ : Mangpor number 14 - [ 20 พ.ย. 50 18:27:04 ]

ความคิดเห็นที่ 110 มีปัญญามีรถหลายคันเพื่อการซื้อขาย คุณลองคำนวนดู หากคุณมีรถเข้า-ออกต่อปีมากกว่า 50 คัน คุณทำประกันทุกคัน ตายกันพอดี วิ่งบนถนนส่วนตัว พูดเป็นนิทาน ต้องซื้อที่สร้างถนน งั้นทำบ้านจัดสรร ไม่ดีกว่าเหรอ หรือทำนาไป ปัญญามี แต่จ่ายถูกที่เฉพาะที่มีปัญหา หรือคุณรวยมากช่วย คนจนๆ มาจ่ายค่าทำประกันชั้นสามมั้ยล่ะ เอาสัก 10 คนพอไม่มาก และไม่เรี่ยราดอวดร่ำรวย ทั้งที่มีจริงหรือไม่ก็ไม่ทราบได้ คุณพูดแค่ให้เข้ากับความคิดคุณกลับขึ้นไปอ่านน่ะที่คุณพูดมา คุณต้องตั้งกฏอีกกี่ข้อเพื่อรองรับเรื่องนี้ คุณต้องทำนี่ นั้น โน่น จากคุณ : พวงมาลัยพาวเยอร์เวอร์ - [ 20 พ.ย. 50 18:37:35 A:125.26.55.62 X: TicketID:130166 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ความคิดเห็นที่ 15   กฎหมายแบบนี้ มันน่าทำมากกว่า   ลงไปยืนเคารพธงชาติ ตอน 18.00น. ด้วยซ้ำไป *************-ขอยืมมาใช้ด้วยนะ-********** คห 110 คือตัวอย่างของเต้นท์ ที่คิดว่าไม่ต้องรับผิดชอบสังคม แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 50 19:25:58 จากคุณ : สมป๊อป - [ 20 พ.ย. 50 19:23:51 ]

ความคิดเห็นที่ 112 #110   ขอไว้อาลัยให้กับความคิดคุณจริงๆ จากคุณ : บ้านน้อก...บ้านนอก - [ 20 พ.ย. 50 20:23:45 ]

ความคิดเห็นที่ 113 เข้ามาดูคนไม่เห็นด้วย จากคุณ : ~@แมงม่วนแมน@~ - [ 20 พ.ย. 50 20:28:26 ]

ความคิดเห็นที่ 114 เห็นด้วยอย่างแรงครับ ! จากคุณ : ZORO_007 - [ 20 พ.ย. 50 20:31:37 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ใครที่ไม่มีปัญญาจ่ายค่าประกันชั้นสาม ซึ่งเน้นความคุ้มครองความรับผิดชอบต่อผู้อื่นบนท้องถนน ผมเห็นว่ายังไม่สมควรจะออกมาขับรถบนนถนนสาธารณะ เพราะบุคคลผู้นั้นยังไม่มีปัญญาที่จะรับผิดชอบต่อผู้ใช้รถใช้ถนนท่านอื่นได้ จากคุณ : zeroAM - [ 20 พ.ย. 50 21:27:16 ]

ความคิดเห็นที่ 116 ความคิดเห็นที่ 104   สมมติว่าเป็นเจ้าของรถหลายคันมาก นั่นคือมีเต้นท์รถมือสอง ระยะระหว่างรอขายนั้นมีเรื่องต้องขับไปใช้งาน เช่นเช็คสภาพ พาไปให้ลูกค้าดู พาไปซ่อม ไปหาอะไหล่ เขาจะต้องทำประกันชั้น 3 ด้วยเหรอคุณไม่งั้นเอารถออกมาใช้ไม่ได้ งั้นสิงั้นก็ไม่ต้องขายกันพอดี จบอาชีพเลย ***** ***** ***** ถ้ารถทุกคันมันมีประกัน(ก็เหมือนต่อทะเบียนมาแล้ว) มันจะต้องไปลงทุนอะไรเพิ่ม  ลองคิดดูดีๆ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ และคนที่มีรถเพื่อขนส่งเกษตรระหว่างไร่ ก็เช่นกัน ทำประกันทุกคันคงไม่ไหว และคนที่มีรถเก่ามากแล้ว(ซึ่งมีอีกหลายคนในประเทศนี้ที่ใช้รถหลายสิบมือ **** **** **** แล้วตอนเกิดอุบัติเหตุ จะรับผิดชอบไหวเหรอ รึปล่อยตามมีตามเกิด เป็นเพราะทำบุญมาแค่นี้ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ เพราะที่นี่ไม่ใช่อเมริกา หรือออสเตเรีย) คุณต้องยอมรับว่ามีรถเก่าที่นำเข้ามาจำนวนไม่น้อยมาให้ใช้ต่อ ตามสภาพเศรษฐกิจและเมื่อมีการเคลมประกันนั้นชั้นสามมักซ่อมให้แต่ต้องรอคิวจากอู่ซ่อมที่เขาผูกขาดกัน ต้องรอคิว ถามว่าอู่ซ่อมรถเพียงพอหรือไม่สำรับที่คุณบอกนาทีนี้คุณต้องรับว่าเรายังไม่พร้อมในหลายด้าน จะทำอะไรคิดดู ดี ดีประชาชนส่วนใหญ่ด้วย อีกอย่างเตรียมพร้อมกับเงินหมุนเวียนมหาศาลหรือยัง ตั้งเล่นกันสนุกก็ไม่ว่าอะไรแต่ทำได้มั้ยมันระยะยาว ++++++++แล้วถ้ารถมันประกันทุกคัน อู่ประกันมันก็เยอะกว่านี้นะ++++++ *****ขอให้เรื่องนี้ไม่ใช่นโยบายของรัฐบาล สาธุ ********** จากคุณ : มาส่ายหน้า - [ 20 พ.ย. 50 17:26:36 A:125.26.55.62 X: TicketID:130166 ] แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 50 21:53:30 จากคุณ : mod15 - [ 20 พ.ย. 50 21:50:40 ]

ความคิดเห็นที่ 117 เห็นด้วยค่ะ เราว่า คนมีรถยนต์ จ่ายค่าน้ำมันแพงๆ อย่างตอนนี้เนี่ย น่าจะมีเงินจ่ายค่าประกันปีละไม่กี่หลักพันนะคะ จากคุณ : Halimeda Lover - [ 20 พ.ย. 50 22:21:54 ]

ความคิดเห็นที่ 118 ...เข้ามาดู ปล. ครั้งแรก ที่เห็น Mr.Fusion ตั้งกระทู้!! ปล.2 เดี๋ยวจะกลับมาแสดงความคิดเห็นครับ.. จากคุณ : gooroozz - [ 20 พ.ย. 50 23:04:26 ]

ความคิดเห็นที่ 119 เคยอ่านข่าว ไฟไหม้บ้าน5-6หลังเพราะต้นไฟมาจากบ้านเดียวมั้ย แบบนั้นเจ้าของก็ไม่มีปัญญาจ่ายหมือนกัน ต้องบังคับให้เค้าทำประกันด้วยมั้ย ถ้าคิดบนพื้นฐานเดียวกัน เพราะบ้านหลังนึง 10ปีผ่านไป ระบบไฟฟ้า ก็เรื่มเสื่อม สายไฟเริ่มกรอบ ไหนจะแก็ซ ไหนจะอะไร อย่างบ้านผม อยู่สี่คน มีรถ5คัน อีกคันนึงเป็นโฟววีล เอาไว้ลุยน้ำท่วม กับเที่ยวต่างหวัดนานๆที แบบนี้ไม่แฟร์น่ะ แล้วที่บอกให้ค้ำเงินไว้ รถดีๆบางคัน 7-8หมื่นเอง ค้ำสองแสน ตายสิครับ "เพราะการที่คนเราจะขับรถสักคันวิ่งไปมาบนท้องถนนได้นั้น ควรจะมีศักยภาพในการรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลอื่นได้ด้วย" ก็ผมมีน่ะ คุณอย่าเอาคนส่วนน้อยมาเป็นที่ตั้งสิ ถ้าผมชนผมก็จ่าย แต่รถที่ผมไม่ค่อยใช้ จะให้มาเสียตังปีละ4-5พัน ตกเดือนละ400 non senseมากครับ แค่เสียภาษีก็รู้สึกว่าไม่คุ้มแล้วเดือนๆนึงวิ่งไม่กี่โล แต่ก็ช่างมัน ถือว่าให้ส่วนรวม   ถ้าสันดานคนมันจะหนี ถึงบังคับให้มันมีประกันมันก็หนีอยู่ดี เพราะปีหน้าไม่ยากเสียเบี้ยแพง ที่บางคนมาบอก ไม่เคยเจอคนจนชนแล้วเบี้ยวไม่รูหรอก ถามว่า คุณก็ดำเนินคดีตามกฏหมายไปสิ ฟ้องไปสิ อาจจะนาน อาจจะเสียเวลา แต่ถ้ามาบังคับเพราะเรื่องแบบนี้ คุณว่าเห็นแก่ตัวไปไหม? จากคุณ : Roninkung - [ 20 พ.ย. 50 23:25:09 ]

ความคิดเห็นที่ 120 เห็นด้วยครับ กับการบังคับทำประกันชั้น 3 กับรถทุกประเภท! --- ส่วน คห 104 & 110 ถ้าคุณเป็นผู้ประกอบก็อาจมีการยกเว้นหรือลดหย่อนเป็นกรณีพิเศษก็ได้ (หรืออาจมีวิธีอื่นอีก) เพียงแต่ขอให้โอนรถให้เป็นของบริษัทให้ถูกต้องด้วยนะครับ จากคุณ : lekhaew - [ 20 พ.ย. 50 23:30:44 ]

ความคิดเห็นที่ 121 คห 119 ถ้างั้นก็ให้มีการซื้อประกันเป็นรายครั้งไปเลย ดีไหมครับ เช่น รายวัน หรือรายสัปดาห์ จากคุณ : lekhaew - [ 20 พ.ย. 50 23:37:31 ]

ความคิดเห็นที่ 122 ผมหล่ะไม่เข้าใจอยู่อย่าง ... ทำไมคนส่วนมากในนี้ ถึงอยากเอาเงินไป เลี้ยงเอกชน !!! จากคุณ : สยึมกึ๋ย - [ 21 พ.ย. 50 00:00:28 ]

ความคิดเห็นที่ 123 เห็นด้วยครับ ถ้าคุณมีเงินซื้อรถ ไม่ว่าจะสดหรือผ่อน คุณก็ต้องมีเงินซื้อประกันชั้น 3 ด้วย ส่วนมากคนที่ไม่ทำประกันเลย เพราะไม่มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม + เสียดายรายจ่ายที่คิดว่าไม่จำเป็น  เรื่องแบบนี้ใครไม่โดนกับตัวไม่รู้หรอก จากคุณ : aui2222 (aui2222) - [ 21 พ.ย. 50 00:03:18 ]

ความคิดเห็นที่ 124 ผมไม่เห็นด้วย เป้นหนี้ โดนฟ้อง ไม่จ่าย ก็ยึดทรัพย์ ไม่มีทรัพย์ให้ยึด ก้อคงไม่มีเงินจริงๆ เวลาพอมีอีกสิบปี คงลืมตาอ้าปากมีของให้เราตามยึดได้บ้างหล่ะน่า ผมว่า ถ้าจะบังคับแบบนี้  ก้คงไม่ต่างจากการออกระเบียบ ควบคุมฐานะ ศีลธรรมของคนขับรถหล่ะครับ ถ้าไม่ถึงเกณฑ์ ไม่มีเงินพอ ไม่มีศีลธรรมถึงเกณฑ์ ไม่มีสิทธิขับรถ  ประเทศไทย เผด็จการไม่พอเหรอครับ ไม่มีใครตั้งใจ ขับชนหรอกครับ ถ้าตั้งใจ กรรมชี้เจตนา อาญารออยู่ครับ เผลอๆคดีฉ้อโกงประกัน จะเพิ่มแบบรถหายหล่ะทีนี้ หรือไม่ต้องตั้งกรมประกันอุบัติเหตุ มาเป็นผู้รับประกันภัยไปเลย ลดเบี้ยให้ต่ำๆ เฉลี่ยกันไป ทำได้หรือไม่ ดังนั้น ไม่เห็นด้วยกับจขกท เห็นด้วยกับสยึ๋มกึ๋ยส์ เจตนาดี เข้าใจครับ แต่ผมไม่เห็นด้วยในวิธีการอย่างแรง แก้ไขเมื่อ 21 พ.ย. 50 00:41:59 จากคุณ : gotjz (gotjz) - [ 21 พ.ย. 50 00:33:36 ]

ความคิดเห็นที่ 125 คุณสยึมกึ๋ย คห.122 ครับ คุณกำลังมองผลข้างเคียงครับ  ไม่ได้มองใจความน่ะครับ จากคุณ : Hallza - [ 21 พ.ย. 50 00:58:46 ]

ความคิดเห็นที่ 126 ตกใจเลยว่าเป็นกระทู้ Mr. Fusion ตอนแรกนึกว่าเป็นคน เรื่อยๆ เรื่องทั่วไป พอมานั่งอ่านข้อความของกระทู้ แล้วยอมรับความคิดของ Mr. Fusion นะ ผมเห็นด้วย กับเรื่องนี้ เพราะผมคนนึงที่ประสบกับปัญหากับเรื่องนี้แล้วต้องเสียค่าจ่ายกับเรื่องนี้อย่างเจ็บปวดเลย......สำหรับ ก็คิดคล้ายๆกับความคิดเห็นของหลายๆความคิดเห็นละครับ...ถ้ามีความรับผิดชอบพอเกี่ยวกับเรื่องรถก็น่าจะมีความพร้อมพอที่จะประกันชั้น3ไปเถอะครับ บางคนอาจจะบอกไม่มีเงิน..เงินน่ะผมคิดว่ายังไงมันก็น่าจะไม่ลำบากต่อจากรายปีแบบนี้หรอกครับ .ถ้ามีเงินในส่วนตรงนี้ก็ต้องบริหารควบคุมเงินในส่วนตรงนี้ด้วยดีกว่านะครับ..สำหรับบางความคิดที่ว่า มันขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของคนบางคนชนคนอื่นแต่ไม่มีประกันนี้ แล้วชดใช้มันก็ดี..ครับแต่ส่วนใหญ่ที่ได้ฟังและประสบมาด้วยตัวเองนี้.............ถ้าไม่โดนกับตัวไม่รู้หรอกครับ.......... จากคุณ : Skyman - [ 21 พ.ย. 50 01:08:29 A:161.246.50.147 X:161.246.1.35 ]

ความคิดเห็นที่ 127 คือ ถ้ามองจากเจตนาของกระทู้นี้ ขออนุญาตขยายความ เพิ่มเติมครับว่า แรกที่อ่าน เข้าใจได้ทันทีว่า มีเจตนาดีครับ หากทำได้จริงจะเป็นชดใช้เบื้องต้นต่อเจ้าของยานพาหนะที่ได้รับความเสียหายโดยการกระทำของคนจน หรือของผู้ที่ไม่มีความรับผิดชอบ คนเบี้ยวหนี้ คนหัวหมอ หรือซุกทรัพย์สินเก่ง ผู้มีอิทธิพล  หรือโดยการปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ  ซึ่งอาจจะทำหรือทำให้เราได้รับผลกระทบ เสียสิทธิ เสียรูปคดี ในการใช้สิทธิเรียกร้องทางแพ่งต่อคนจน คนไม่รับผิดชอบ คนเบี้ยวหนี้ ดังกล่าวข้างต้นได้ ( ผู้ใช้อำนาจนิติบัญญัติ คงต้องพิจารณาแก้ไขกฎหมายแพ่งกันใหม่แล้วนะครับ กฎหมายวิธีพิจารณาความด้วย  ซึ่งคงต้องถกในเรื่องหลักคิด และหลักฏหมายทั้งหมดด้วยกระมังครับ เพราะดูๆมา เห็นได้ว่า การใช้สิทธิบังคับชำระหนี้จากจำเลย ทำได้ยากและใช้เวลานานเต็มที) อย่างไรก็ตาม ผมยังสงสัยว่า การบังคับให้ทำประกันเพื่อช่วยให้มีบรรเทาชดใช้ ความเสียหายต่อทรัพย์สิน ไม่ใช่ต่อชีวิต ร่างการ อนามัยเหมือนที่มี พ.ร.บ ออกมาแล้วนั้น   จะมีผลกระทบทำนองใด หรือเป็นการเพิ่มภาระอันไม่ควรต่อผู้อื่น(ผม)  ซึ่งเป็น หรืออาจเป็นผู้ที่ไม่เคย  หรือไม่แน่ว่า หรืออาจแน่ชัดในภายหน้าว่า ไม่มีส่วนหรือกระทำความผิด อันเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ยานพาหนะของบุคคลอื่นใดเลย  หรือไม่ เพราะทันทีที่อ่านใจความของกระทู้นี้  ผมยังรู้สึกตะหงิดๆในใจ ไม่พอใจขึ้นมาในทันที แต่ผมยังหาคำตอบเหตุผลที่ดีให้กับตัวเอง ที่นำเสนอความเห็นของผมต่อทุกท่านยังไม่ได้ ไม่รู้ว่า มุมมองผมไม่แตกฉาน ความรู้เกี่ยวข้องไม่พอหรือไม่ เลยไม่สามารถเรียบเรียงเหตุผลให้ได้ดังใจตัวเอง หรืออาจเพราะอารมณ์แรกที่ผุดขึ้นในใจ อันเป็นที่มาของความเห็นที่คัดค้าน ก็เพราะ ผมไม่อยากทำ   เพราะไม่อยากเสียเงินอีก ( แม้ว่า ค่าเบี้ยประกันแบบนี้ อาจน้อยกว่าค่าข้าวบางมื้อของผม หรือของบางท่านก็ตาม)  หรือ  เพราะไม่คิดว่าจะขับชนใคร เพราะไม่เคยขับชนใคร   มีแต่โดนชน  หรือเพราะผมเชื่อว่า ถ้าอย่างแย่ที่สุด แม้เกิดเหตุสุดวิสัยไปขับชนใครเค้าเข้า ผมก้ทำประกันชั้นหนึ่งไว้อยู่แล้ว ตลอดมา และกับรถทุกคน และผมไม่คิดเบี้ยว เพราะไม่เคยเบี้ยวใคร  และอยู่ในฐานะ(ที่เชื่อว่า) มีเงินพอที่จะจ่ายได้ ถ้าไม่ชนจนตาย โดนพิพากษาให้จ่ายเกินสิบล้าน หรือขับชนรถราคาแพงสุดขั้ว ชนิดทำประกันชั้นบวกหนึ่ง วงเงินประกันก็ไม่เพียงพอคุ้มครองความวินาศที่เกิดขึ้น ดังนั้น  แรกความรู้สึกต่อความเห็นนี้ จึงเป็นความรู้สึกเห็นแก่ตัว(อย่างแน่นอน) และไม่พอใจที่ทำไมจะต้องมาบังคับผมให้ทำประกันแบบนี้ด้วย  ผมนิสัยเสียคือไม่ชอบถูกบังคับ  ผมจึงไม่เห็นด้วยครับ ผมจะพยายามคิดรวบรวม และขออ่านความเห็นท่านอื่นดูก่อน ไว้จะมาเรียนชี้แจงใหม่ เผื่อจะได้ความคิดดีๆทีพอจะสนับสนุนความคิดของผม และพิมพ์เรียบเรียงออกมาเป็นเหตุเป็นผลได้มากกว่านี้ครับ อย่างไรก็ตาม ผมอยากเห็นผู้มีความรู้ ช่วยชี้ผลกระทบทั้งทางบวก ทางลบ ในภาพกว้าง และในส่วนของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ส่วนข้อเปรียบเทียบเรื่องจากต่างประเทศ รบกวนยกตัวอย่างประเทศอื่นๆที่มีสภาพฐานะ เศรษฐกิจ สังคม ใกล้เคียงแบบประเทศไทย เช่น ยุโรปตะวันออก เอเชีย อเมริกาใต้ และมีการบังคับทำประกันทรัพย์สิน(ยานพาหนะ)แบบนี้ด้วย จะเห็นภาพได้ดีมากเลยครับ   สำหรับอเมริกา ยุโรป ไม่เอาแล้วครับ มันไม่เหมือนเรา แค่ความคิด ก็ไม่เหมือนกันแล้ว  เรายิ้มให้ลูกมัน มันหาว่าเราขู่ให้ลูกมันกลัว ฮ่าๆๆ โดนด่าเลยเรา  และมีอย่างที่ไหน ทนายเดินเคาะบ้าน จะฟ้องคดีให้ แต่ของแบ่งเปอร์เซนต์ ทำแบบนี้ที่เมืองไทย โดนมรรยาททนายความตายเลย อิอิ อดคิดไม่ได้ บังคับให้ทำประกันชีวิตด้วยน่าจะดี คนจนตายเพราะไม่มีเงินรักษามีมากมาย  สวัสดิการของรัฐก้ไม่ได้ดีอะไร  เอาเงินเบี้ยประกันหกสิบล้าน คงช่วยคนป่วยใกล้ตายได้อีกเยอะ ไม่จน ไม่เจ็บ ไม่เคยกังวลเรื่องค่าห้องพัก คงไม่รู้ แก้ไข: พิมพ์ตกหล่น และเรียบเรียงใหม่ ให้พออ่านง่ายขึ้นครับ แก้ไขเมื่อ 21 พ.ย. 50 02:02:00 แก้ไขเมื่อ 21 พ.ย. 50 01:52:10 จากคุณ : gotjz - [ 21 พ.ย. 50 01:34:32 ]

ความคิดเห็นที่ 128 มาปักธง จากคุณ : LR3 - [ 21 พ.ย. 50 03:07:21 ]

ความคิดเห็นที่ 129 อยากให้รัฐเก็บเงินประกัน สำรองเผื่อไว้สำหรับบริษัทประกันที่ใกล้เจ๊งด้วยครับ ผู้บริโภคจะได้ไม่เดือดร้อน จากคุณ : Ohm CEM - [ 21 พ.ย. 50 04:52:25 ]

ความคิดเห็นที่ 130 กรณีที่ท่าน Fu เสนอ ไม่มีปัญหา และแนวคิดที่ดี แต่อย่างที่บาง คห.ข้างบนได้กล่าว ผมว่า เอาเงินเพิ่ม บวก ความผิดชอบเพิ่มของ บ.รับประกัน ลงไปใน พรบ.ที่ทางรัฐบังคับต้องทำ ไม่ว่า คุณจะทำประชั้นอะไร มันดูแปลกพิกล จากคุณ : MAD Magazine - [ 21 พ.ย. 50 06:24:13 ]

ความคิดเห็นที่ 131 เข้าชื่อเสนอกฎหมายกันเลยครับ รอให้มีรัฐบาลใหม่ก่อน แล้วเอาคนในเวบนี่แหละ ให้คนที่รู้กฎหมายร่างพระราชบัญญัติเสนอ ผมเห็นด้วย และพร้อมที่จะลงชื่อครับ จากคุณ : MIVA - [ 21 พ.ย. 50 07:49:19 ]

ความคิดเห็นที่ 132 คุณที่คิดว่ามีความรับผิดชอบต่อสังคมนักหนา คุณไม่คิดล่ะว่า ปัจจจุบันคนส่วนใหญ่พื้นฐานสังคมมีรายได้ต่อหัวเท่าไร คุณมาบวกลบคูณหารกันดู ประกันชีวิต+พรบ+ผ่อนรถ+ผ่อนบ้าน+ภาษี และคุณจะซ้ำเติมให้ประกันภับชั้นสามอีก ถ้ารับผิดชอบกันจริง ใครขอวานคุณเพิ่มรายได้ต่อหัวให้ประชาชนเหล่านั้นด้วย ออ..พวกที่ปกป้อง Mr.Fusion ไม่ลืมตารู้จักเขาดีแค่ไหน เท่าเรามั้ย หึหึ ตลอดเวลาที่เข้ามานี่...เข้ามาดู(ถูก)คนนั่นเอง หมดศรัทธาเลย แค่คนความคิดไม่ตรงตัวเอง ถ้าใจคับแคบวันหลัง อย่ามาตั้งกระทู้ เข้าใจว่าสร้างพาวเวอร์อวดสาว คนยังไงที่เชื่อคุณ จากคุณ : คนไม่หัวใจเลวร้ายกว่าหุ่นยนต์ - [ 21 พ.ย. 50 08:37:25 A:125.26.50.32 X: TicketID:130166 ]

ความคิดเห็นที่ 133 ควรจะทำอย่างน้อย...ชั้น 3 โหวต........................................ ตัดปัญหาที่ตามมาหลายๆอย่าง.......... และควรปรับปรุงมาตรฐานบ.ประกันด้วย......... เบล็คลิสต์......ก็ประกาศโดยด่วน..................... อย่าให้ชาวบ้านหลงเข้าไปใช้ให้เกิดเรื่อง........เช่นสัมพันธ์....... โดยเฉพาะ....สคบ...ทำงานให้เหมือนคนทำงานหน่อย............. อย่าเอาแต่...แ_กเงินเดือน...แต่ทำอะไรไม่ได้.................... ถ้าทำไม่ได้ก็ยุบไปเลย.............................................. สำหรับองค์กรที่ปกป้องผลประโยชน์ชาวบ้าน...อย่างองค์กรนี้ จากคุณ : sagurahi - [ 21 พ.ย. 50 08:47:40 ]

ความคิดเห็นที่ 134 ผมว่าบังคับอย่างต่ำต้องชั้น 3ไปเลย จากคุณ : www (nawinh) - [ 21 พ.ย. 50 09:10:00 ]

ความคิดเห็นที่ 135 เห็นด้วยนะ สำหรับเงินที่จ่าย พรบ. ไปก็เปลี่ยนมาเป็นประกันชั้น 3 ไปเลย จะได้ไม่ต้องจ่ายซ้ำซ้อน จากคุณ : Thewinner - [ 21 พ.ย. 50 10:02:25 ]

ความคิดเห็นที่ 136 ... #119 "...เคยอ่านข่าว ไฟไหม้บ้าน5-6หลังเพราะต้นไฟมาจากบ้านเดียวมั้ย แบบนั้นเจ้าของก็ไม่มีปัญญาจ่ายหมือนกัน ต้องบังคับให้เค้าทำประกันด้วยมั้ย ถ้าคิดบนพื้นฐานเดียวกัน เพราะบ้านหลังนึง 10ปีผ่านไป ระบบไฟฟ้า ก็เรื่มเสื่อม สายไฟเริ่มกรอบ ไหนจะแก็ซ ไหนจะอะไร..." ถ้าบ้านที่ว่าผ่อนกับทางธนาคารอยู่ เขาบังคับให้คุณทำประกันอัคคีภัยแน่นอนครับ "...อย่างบ้านผม อยู่สี่คน มีรถ5คัน อีกคันนึงเป็นโฟววีล เอาไว้ลุยน้ำท่วม กับเที่ยวต่างหวัดนานๆที แบบนี้ไม่แฟร์น่ะ แล้วที่บอกให้ค้ำเงินไว้ รถดีๆบางคัน 7-8หมื่นเอง ค้ำสองแสน ตายสิครับ..." รถคันละ 7-8 หมื่น แต่ถ้าไปชนเกิดอุบัติเหตุ ค่าเสียหายอาจเป็นหลาย ๆ แสนบาท ก็ได้นะครับ "เพราะการที่คนเราจะขับรถสักคันวิ่งไปมาบนท้องถนนได้นั้นควรจะมีศักยภาพในการรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลอื่นได้ด้วย" ก็ผมมีน่ะ คุณอย่าเอาคนส่วนน้อยมาเป็นที่ตั้งสิ ถ้าผมชนผมก็จ่าย แต่รถที่ผมไม่ค่อยใช้ จะให้มาเสียตังปีละ4-5พัน ตกเดือนละ400 non senseมากครับ แค่เสียภาษีก็รู้สึกว่าไม่คุ้มแล้วเดือนๆนึงวิ่งไม่กี่โล แต่ก็ช่างมัน ถือว่าให้ส่วนรวม   ก็มีเพื่อนสมาชิกเขาเสนอว่าให้นำเงินฝากในธนาคารมาค้ำได้ไงครับ คุณก็ไม่ต้องเสียเงินค่าเบี้ยประกันแล้ว เพราะคุณบอกเองว่าคุณมีศักยภาพในการรับผิดชอบ ถ้าชนก็มีจ่าย เพราะฉะนั้นถ้ามีเงินเยอะก็เอาเงิน ไปฝากค้ำประกันแทนการเสียเบี้ยสิครับ ได้ดอกเบี้ยจากทางธนาคารด้วยนะ ถ้าสันดานคนมันจะหนี ถึงบังคับให้มันมีประกันมันก็หนีอยู่ดี เพราะปีหน้าไม่ยากเสียเบี้ยแพง ที่บางคนมาบอก ไม่เคยเจอคนจนชนแล้วเบี้ยวไม่รูหรอก ถามว่า คุณก็ดำเนินคดีตามกฏหมายไปสิ ฟ้องไปสิ อาจจะนาน อาจจะเสียเวลา แต่ถ้ามาบังคับเพราะเรื่องแบบนี้ คุณว่าเห็นแก่ตัวไปไหม? คุณเองก็ยังบอกในส่วนนี้เลยครับว่ามัน "อาจจะนาน อาจจะเสียเวลา" ผมเองก็เคยบอกไว้ใน #73 แล้วว่าฟ้องไปใช้เวลานานมาก แล้วผู้เสียหายก็ต้องเสียเวลาอย่างยิ่ง ฟ้องแล้วก็ต้องมานั่งลุ่นว่าอีกฝ่ายจะมีจ่ายไหม แล้วถ้าอีกฝ่ายไม่มีเงินมาจ่ายให้ขอผ่อน 3 ปี ทางผู้ที่โดนชนก็ไม่มีเงินซ่อมรถของตัวเองเหมือนกัน แบบนี้ฝ่ายผู้เสียหายไม่แย่กว่าหรือครับ? จากคุณ : Mr. Fusion - [ 21 พ.ย. 50 10:57:26 ]

ความคิดเห็นที่ 137 ... อ้อ ... ประกันอัคคีภัย บ้านผมเองก็ทำครับ เบี้ยอยู่ที่ประมาณ 1500 บาท ต่อ 3 ปี ด้วยนะ ปีละแค่ 5 ร้อย วันละ 1 บาทกว่า ๆ เอง แก้ไขเมื่อ 21 พ.ย. 50 11:01:14 จากคุณ : Mr. Fusion - [ 21 พ.ย. 50 11:00:01 ]

ความคิดเห็นที่ 138 ดีครับ จริงๆมันก็เหมือนการอัพเกรดพรบ.ไปอีกขั้นนึง จากคุณ : sLiimFit - [ 21 พ.ย. 50 11:01:06 ]

ความคิดเห็นที่ 139 คิดให้ดีน่ะต้องใช้เงินจำนวนเท่าไหร่ในการทำกฏหมายนี้ขึ้นมา ออ...คนที่ มีความรู้ทางกฏหมายที่ว่าเรียนจบกันหรือยัง? รับรองได้ถ้าพวกคุณคิดร่าง มีคนไม่น้อยที่คิดไม่เหมือนคุณมั่นใจเหรอว่าเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศและเงินจำนวนอีกเท่าไหร่ที่เป็นตังค์นอนสำรับคนที่ไม่ประมาถไม่เคยมีเหตุการณ์นั้น เสียเปล่าแก่พวกประกันชีวิต แล้วไอ่ที่จอดเฉยๆมันก็ต้องเสียน่ะคุณ เงินในระบบคงโดนสูบกันอร่อยพุงกางอีกหลายคน ไม่แน่อาจตกอยู่ กับคนแถวนี้ แค่ประกันสังคมธรรมดาจัดการกับปัญหาให้ได้ก่อนเหอะ อ้างตัวกันเป็นคนชั้นสูง หักประกันคนชั้นสามัญ 5-7% พอเขาเรียกร้องค่าทดแทนพวกบอกไม่มีเงินจ่าย เดิมประกันสังคมอายุ 55 ปีได้คืน ปัจจุบันอ้างว่า คนมีอายุเฉลี่ยสูงขึ้นกลับแก้ร่างให้เพิ่มเป็น 60- 70 ปี จะให้เขาทำงานจนหมดแรง ให้พวกคุณชั้นสูงดูดจนตายไปเลยใช่หรือไม่??ระบบพื้นฐานของประเทศเบื้องต้นแค่นี้คุณยังไม่พร้อม จะเสนอให้ลอกกฎหมายเมืองนอก มาใช้ไม่รู้จักตัว พอเพียงแม้แต่น้อย คนที่เรียนกฏหมายเมืองนอกมา มีตั้งกี่คนเขายังไม่ลอกกฏหมายอื่นมาใช้เลยคุณ กฏหมายมันต้องสอดคล้องกับพื้นฐานของประเทศนั้นๆ ไม่ใช่เบาไปตามเขาทุกอย่างออ...ลองกลับ ไปถาม พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ของคุณว่าพื้นฐานมาจากอะไร บ้านนอกหรือไม่ และ Mr. Fusion จะเถียงมั้ยว่าคุณก็บ้านนอกเหมือนเรา นี่จะเป็นการตอบโต้ครั้งสุดท้ายกับหัวข้อนี้เพราะเห็นว่าเราคงสู้คุณ จขกท ไม่ได้ แต่การสู้ครั้งนี้ เพื่อคนส่วนมากที่พื้นฐานของประเทศที่เขาไม่ได้อ่านกระทู้คุณ ออ ลืมไป..ฝากพระราชดำรัสของพระบิดาหนึ่งข้อคือ "จงเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว" จากคุณ : ขอความเป็นเพื่อนคืนจาก จขกท.ด้ - [ 21 พ.ย. 50 11:03:00 A:125.26.50.32 X: TicketID:130166 ]

ความคิดเห็นที่ 140 ... #122 "ผมหล่ะไม่เข้าใจอยู่อย่าง ... ทำไมคนส่วนมากในนี้ ถึงอยากเอาเงินไป เลี้ยงเอกชน !!! " ก็คุณเสนอวิธีที่ไม่ต้องนำเงินไปเลี้ยงเอกชนมาแล้วนี่ครับ นำเงินฝากของคุณเองไปค้ำไง คุณเสนอมาเองนะ ใน #34 จากคุณ : Mr. Fusion - [ 21 พ.ย. 50 11:04:54 ]

ความคิดเห็นที่ 141 ผมชอบตรงนี้นะ ก็มีเพื่อนสมาชิกเขาเสนอว่าให้นำเงินฝากในธนาคารมาค้ำได้ไงครับ คุณก็ไม่ต้องเสียเงินค่าเบี้ยประกันแล้ว เพราะคุณบอกเองว่าคุณมีศักยภาพในการรับผิดชอบ ถ้าชนก็มีจ่าย เพราะฉะนั้นถ้ามีเงินเยอะก็เอาเงิน ไปฝากค้ำประกันแทนการเสียเบี้ยสิครับ ได้ดอกเบี้ยจากทางธนาคารด้วยนะ เพราะว่าเรื่องบางเรื่องเป็นเรื่องความรู้สึก ถ้าคุณเสียตังค์ทุกปีๆเพื่ออะไรที่ไม่มีอะไรเลย ความรู้สึกของคนก็ไม่อยากเสีย concept เหมือนวางเงินค้ำประกัน การเก็บขยะเวลาขึ้นไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวบางที่ หากคุณไม่ขนขยะกลับออกมาเค้าก็จะเอาเงินส่วนที่ค้ำประกันนั้นไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการขยะในพื้นที่นั้น แต่ว่าข้อที่ต้องคิดต่อก็คือแล้วการบริหารจัดการเงินก้อนนี้หละจะให้ใครทำ ทำอะไรยังไงต่อดี ???? จากคุณ : pinestand - [ 21 พ.ย. 50 11:06:41 ]

ความคิดเห็นที่ 142 ... #124 "...เป้นหนี้ โดนฟ้อง ไม่จ่าย ก็ยึดทรัพย์ ไม่มีทรัพย์ให้ยึด ก้อคงไม่มีเงินจริงๆ เวลาพอมีอีกสิบปี คงลืมตาอ้าปากมีของให้เราตามยึดได้บ้างหล่ะน่า..." อายุความบังคับคดียึดทรัพย์อยู่ที่ 10 ปี ครับ ถ้าเลยไปแล้วก็ยึดไม่ได้แล้วครับ แล้วถามว่าใช้เวลาตั้ง 10 ปี แล้วคุณไม่เห็นใจผู้เสียหายหรือครับ ต้องรอมากกว่า 1 ปี แล้วรถยังไม่ได้ซ่อมนี่ผมว่าแย่เหมือนกันนะ "...ผมว่า ถ้าจะบังคับแบบนี้  ก้คงไม่ต่างจากการออกระเบียบ ควบคุมฐานะ ศีลธรรมของคนขับรถหล่ะครับ ถ้าไม่ถึงเกณฑ์ ไม่มีเงินพอ ไม่มีศีลธรรมถึงเกณฑ์ ไม่มีสิทธิขับรถ  ประเทศไทย เผด็จการไม่พอเหรอครับ ไม่มีใครตั้งใจ ขับชนหรอกครับ ถ้าตั้งใจ กรรมชี้เจตนา อาญารออยู่ครับ ..." ก็อุบัติเหตุ ก็คือไม่เจตนาไงครับ แต่ถ้าชนแล้วขอความมั่นใจให้ผู้เสียหายว่า ยังไงซะมีคนมาค้ำจุนให้คุณนะ ส่วนถ้าเจตนา อาญารออยู่ นั่นถูกแล้วครับ "...เผลอๆคดีฉ้อโกงประกัน จะเพิ่มแบบรถหายหล่ะทีนี้ หรือไม่ต้องตั้งกรมประกันอุบัติเหตุ มาเป็นผู้รับประกันภัยไปเลย ลดเบี้ยให้ต่ำๆ เฉลี่ยกันไป ทำได้หรือไม่...." สมัยก่อนผมจำได้ว่า พรบ. จะอยู่ที่ 1 พันต้น ๆ นะ ( รถเก๋ง ) ตอนนี้เหลือ 7 ร้อยมั้ง ( แล้วยังมีพวกคูปองเติมน้ำมันฟรีแถมให้อีก 2 ร้อยด้วยซ้ำ ) ( ภาครัฐก็ต่อรองให้ลดลงได้นะครับ ) เรื่องฉ้อโกง ถ้าเจตนา อาญาก็รออยู่ไง ( คุณบอกเองนะ ) จากคุณ : Mr. Fusion - [ 21 พ.ย. 50 11:18:50 ]

ความคิดเห็นที่ 143 ... #127 ถ้าประกันชั้น 3 เป็นภาคบังคับ ก็จะเป็นการคุ้มครองชีวิตไปด้วยครับ ส่วน พรบ. เดิม คุ้มครองแค่ชีวิต กับ ค่ารักษาพยาบาล เท่านั้น ถ้าบังคับชั้น 3 เป็นภาคบังคับ พรบ.เดิมก็ยกเลิกครับ จากคุณ : Mr. Fusion - [ 21 พ.ย. 50 11:24:25 ]

ความคิดเห็นที่ 144 ถ้าเราประกันภัยรถไม่ว่าชั้นอะไรก็ผนวก พรบอยู่แล้ว ส่วนท่านที่ไม่ชอบให้ใครบังคับก็ไม่ต้องประกันก็ได้รอเจอตำรวจจับ เหมือนหลายๆคนที่ไม่ชอบถูกบังคับให้ใส่หมวกกันน๊อคก็ไม่ต้องใส่ รอเจอตำรวจก็ถูกจับก็เท่านั้นเอง เป็นบ้าไปแล้วไม่ชอบถูกบังคับ ยิ่งตอนนี้น้ำมันขึ้นราคาทุกวันถ้าไม่มีปัญญารับผิดชอบต่อสังคม ก็ไม่ต้องขับรถก็หมดเรื่อง บางท่านอ้างว่าบ้านมีกันอยู่ 4คน มีรถ 5คัน ก็ให้แต่ละคนรับผิดชอบคันที่ตัวเองขับสิครับไม่เห็นยาก ส่วนคันที่เป็น ขับ4ใช้ร่วมกันทั้งบ้านก็หาร 4 ไปไม่น่ามีปัญหา ซื้อรถได้ซื้อน้ำมันได้ประกันชั้น3ไม่มีปํญญาจ่าย ยังมีหน้ามาแสดงความคิดเห็น ผมเคยไมทำงานต่างจังหวัดต่างอำเภอด้วย ทั้งอำเภอมี พท.ไม่เกิน 2 ต.ร.ก.ม.มอร์เรอร์ไซค์วิ่งกันขวักไขว่ชนกันทุกวัน ไม่มีใครใช้จักรยานเลยไม่รู้จะแข่งกันจนไปถึงใหน จากคุณ : แพรมรกต - [ 21 พ.ย. 50 11:24:35 ]

ความคิดเห็นที่ 145 อ้อ ลืมไปเห็นด้วยกับ mr fus ครับ จากคุณ : แพรมรกต - [ 21 พ.ย. 50 11:25:53 ]

ความคิดเห็นที่ 146 ... #127 ผมไม่แปลกใจหรอกครับ ถ้าตั้งกระทู้นี้แล้วมีคนคัดค้าน เพราะเป็นธรรมดาที่มนุษย์ย่อมจะต้องรักษาผลประโยชน์ของตนเอง เพียงแต่ถ้าจะคัดค้าน ผมก็ขอเหตุผลที่นำมาคัดค้าน คุณทำประกันชั้น 1 ไว้ก็ดีแล้วไงครับ แสดงถึงความรับผิดชอบที่มีต่อสังคม แล้ว ยังเป็นการสร้างความอุ่นใจให้ตนเองด้วย ว่าถ้าเราขับรถไปชนใคร มีคนมาจ่ายค่าเสียหายให้อีกฝ่าย แล้ว ยังมาซ่อมรถให้เราด้วยนะ จากคุณ : Mr. Fusion - [ 21 พ.ย. 50 11:30:50 ]

ความคิดเห็นที่ 147 พอดีทำงานบ.ประกัน ในความเป็นจริง ถึงท่านจะทำ พรบ.และประกันชั้น 1 2 3 ด้วย แต่ถึงเวลาเกิดเหตุ ตัว บ.ประกัน จะให้ใช้ พรบ.เบิกค่ารักษาพยาบาลก่อน ถ้า พรบ.ไม่พอถึงจะไปเบิกกับประกันได้ แต่พรบ.จะให้เต็มที่คนละ 1 แสน บาด นั่นหมายถึงสาหัสเจียนตายเลยนะ  ฉะนั้นเมื่อเวลาเกิดเหตุคุณไม่สามารถเบิกค่ารักษากับประกันชั้น 1 2 3 ก่อนได้ เพราะ บ. ประกันจะโยนให้ไปเบิกกับ พรบ.ก่อน  ข้อสังเกตุ คือ เมื่อเราเกิดอุบัติเหตุจากรถยนต์แล้วเราได้รับบาดเจ็บเข้าโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลจะถามเราก่อนเสมอว่า ทำ พรบ.ไว้กับ บ. ใด จากคุณ : ......ยืมเค้ามาใช้ (newjunngam999) - [ 21 พ.ย. 50 11:45:59 ]

ความคิดเห็นที่ 148 ... #132 "...คุณที่คิดว่ามีความรับผิดชอบต่อสังคมนักหนา คุณไม่คิดล่ะว่า ปัจจจุบันคนส่วนใหญ่พื้นฐานสังคมมีรายได้ต่อหัวเท่าไร คุณมาบวกลบคูณหารกันดู ประกันชีวิต+พรบ+ผ่อนรถ+ผ่อนบ้าน+ภาษี และคุณจะซ้ำเติมให้ประกันภับชั้นสามอีก ถ้ารับผิดชอบกันจริง ใครขอวานคุณเพิ่มรายได้ต่อหัวให้ประชาชนเหล่านั้นด้วย ออ..พวกที่ปกป้อง Mr.Fusion ไม่ลืมตารู้จักเขาดีแค่ไหน เท่าเรามั้ย หึหึ ตลอดเวลาที่เข้ามานี่...เข้ามาดู(ถูก)คนนั่นเอง หมดศรัทธาเลย แค่คนความคิดไม่ตรงตัวเอง ถ้าใจคับแคบวันหลัง อย่ามาตั้งกระทู้ เข้าใจว่าสร้างพาวเวอร์อวดสาว คนยังไงที่เชื่อคุณ ..." ประกันชีวิต --- อันนี้ยังไม่มีกฎหมายบังคับนะครับ ผ่อนรถ+พรบ. --- อันนี้บังคับอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณผ่อนรถยนต์ ไฟแนนซ์บังคับให้คุณทำประกันชั้น 1 นะครับ คุณเป็นคนจ่ายซะด้วยสิ ผ่อนบ้าน --- ธนาคาร ก็บังคับให้คุณทำประกันอัคคีภัยด้วยครับ ค่าเบี้ยประกันภัยรวมอยู่ในค่างวดแต่ละเดือนนั่นเอง ภาษี --- ถ้าวางแผนภาษีดี ๆ ก็ลดเงินที่จะต้องจ่ายได้นะครับ ผมคงไม่ได้ดูถูกคนนะครับ คนเราความคิดไม่ตรงกันได้ครับ เป็นเรื่องปกติเพียงแต่น่าจะถกเถียงถึงเหตุผลที่มี ผมคงไม่ต้องมาอวดสาวหรอกครับ เพราะตัวผมเองก็มีแฟนอยู่แล้ว จากคุณ : Mr. Fusion - [ 21 พ.ย. 50 11:50:57 ]

ความคิดเห็นที่ 149 ... #147 ถ้าปรับขั้นต่ำที่รถทุกคันทำต้องเป็นชั้น 3 ตัว พรบ. ก็ไม่ต้องจ่ายไงครับ ถ้าเกิดเหตุขึ้นก็จะเบิกกับชั้น 3 เต็ม ๆ หมดเลย ไม่มีพรบ. มาเกี่ยวแล้ว ( พูดง่าย ๆ คือ พรบ.เดิม จะคุ้มครองเพียงชีวิต แต่พรบ.ใหม่จะคุ้มครอง ชีวิตและทรัพย์สินของผู้เสียหายที่ประสบภัยจากรถด้วย) จากคุณ : Mr. Fusion - [ 21 พ.ย. 50 11:54:28 ]

ความคิดเห็นที่ 150 ... แล้วจากการทำแบบนี้ ประกันชั้น 1 ก็จะเป็นเพียงการซื้อสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมมาจากประกันชั้น 3 ที่เป็นภาคบังคับแล้วนั่นเอง ( เพิ่มเติมในประกันชั้น 1 ก็เช่น คุ้มครองในชีวิตและการซ่อมรถฝ่ายตัวเอง, มีการช่วยประกันตัวในกรณีตกเป็นผู้ต้องหา, คุ้มครองรถหาย เป็นต้น ) แก้ไขเมื่อ 21 พ.ย. 50 12:00:26 จากคุณ : Mr. Fusion - [ 21 พ.ย. 50 11:56:52 ]

ความคิดเห็นที่ 151 ผมเห็นด้วยนะกับแนวคิดบังคับทำชั้น3 แต่รายละเอียดก็ค่อยว่ากันอีกที(หากมีจริงๆ) เช่นค่าเบี้ยน่าจะลดลง (เพราะจำนวนคนทำประกันจะต้องมากขึ้น) ฯ จากคุณ : die before - [ 21 พ.ย. 50 12:02:52 ]

ความคิดเห็นที่ 152 มันไม่ยุดิธรรมครับ แต่ทางออกที่ดีที่สุดในปัจจุบัน สรุปว่าเห็นด้วยครับ (ก็แค่เพิ่มเบี้ย พรบ และความคุ้มครองเท่าประกันชั้น 3) จากคุณ : Just Comment - [ 21 พ.ย. 50 12:13:03 ]

ความคิดเห็นที่ 153 "ผมคงไม่ได้ดูถูกคนนะครับ"ลองย้อนขึ้นไปอ่านกระทู้คุณอย่าแก้ไขน่ะ มีคำว่าคนจนกี่คำและที่ตอบเรยกมาได้เลย"เจ้าของรถหลายคัน ก็ถ้ามีปัญญามีรถหลาย ๆ คันไม่น่ามาบ่นเรื่องนี้นะครับ" ใช้คำว่ามีปัญญา คำอย่างนี้ที่บ้านเรียกจิก เพื่อนเกย์เราเขาใช้ พอดีมีเพื่อนเกย์เยอะ สงสัยคงไม่เข้าใจความหมาย ออกฏหมายที่ยกมานั้น คุณจบที่ไหนมา บอกคนแฟนคลับคุณหน่อยสิ หวังว่าคงไม่โกหกเขา สถาบันใดกันแน่ ที่จบจริงแต่ไม่เคยกล่าวถึงอย่างนี้เรียกว่าลืม..น่ะคุณและสถาบันที่กล่าว ว่าเคยเรียนนั้นแค่เคยเข้าไปแล้วจบหรือยัง "ผมคงไม่ต้องมาอวดสาวหรอกครับ เพราะตัวผมเองก็มีแฟนอยู่แล้ว" อ่ะน่ะ..ขนาดเดือนนี้เดือนเกิดแฟนคุณ คุณยังเที่ยวออกมาเบียดสาวๆ ให้แฟนเจ็บช้ำป่าวประกาศหึงไปทั่ว นอนหลับทั้งน้ำตาหรือเปล่ายังไม่รู้ได้ การกระทำสองแง่สองง่าม เช่นนี้แล้วเหมาะหรือไม่ที่คิดจะทำเรื่องใหญ่ ระดับชาติ เอาเวลาที่คุณฟุ้งซ่าน ไปปลอบขวัญแฟนคุณดีกว่า หรือไม่ ก็ไปจัดการกับ "เรื่องบนเตียง" ของคุณให้ดี และคนที่เป็นสาวกไม่ลืมตา ถามว่า 2-3 ปีที่ผ่านมากับการเข้ามาดูของ เจ้าของกระทู้นั้นได้ทำให้คุณรู้จักตัวเขาดีขึ้นแค่ไหน...ก็แค่ที่เขาให้รู้ มันก็ไม่ต่างจากบัตรผ่านอย่างเรา ที่มาดูโดยไม่มาร์ค หรือใคร ใคร ที่คุณ ด่าเขา และอมยิ้มปิดปากของเขาที่บูชาคล้ายเครื่องรางอันศักดิ์สิทธินั้นน่ะ มันก็สมัครมาจากเบอร์อีเมลย์เหมือนบัตรผ่านเช่นกัน จากคุณ : ความเสื่อมทางอารมย์ - [ 21 พ.ย. 50 12:30:00 A:125.26.50.32 X: TicketID:130166 ]

ความคิดเห็นที่ 154 ... "....คิดให้ดีน่ะต้องใช้เงินจำนวนเท่าไหร่ในการทำกฏหมายนี้ขึ้นมา ออ...คนที่มีความรู้ทางกฏหมายที่ว่าเรียนจบกันหรือยัง? รับรองได้ถ้าพวกคุณคิดร่าง มีคนไม่น้อยที่คิดไม่เหมือนคุณมั่นใจเหรอว่าเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศและเงินจำนวนอีกเท่าไหร่ ที่เป็นตังค์นอนสำรับคนที่ไม่ประมาถไม่เคยมีเหตุการณ์นั้น เสียเปล่าแก่พวกประกันชีวิต แล้วไอ่ที่จอดเฉยๆมันก็ต้องเสียน่ะคุณ เงินในระบบคงโดนสูบกันอร่อยพุงกางอีกหลายคน ไม่แน่อาจตกอยู่กับคนแถวนี้ แค่ประกันสังคมธรรมดาจัดการกับปัญหาให้ได้ก่อนเหอะ อ้างตัวกันเป็นคนชั้นสูง หักประกันคนชั้นสามัญ 5-7% พอเขาเรียกร้องค่าทดแทนพวกบอกไม่มีเงินจ่าย เดิมประกันสังคมอายุ 55 ปีได้คืน ปัจจุบันอ้างว่าคนมีอายุเฉลี่ยสูงขึ้นกลับแก้ร่างให้เพิ่มเป็น 60- 70 ปี จะให้เขาทำงานจนหมดแรง ให้พวกคุณชั้นสูงดูดจนตายไปเลยใช่หรือไม่?? ระบบพื้นฐานของประเทศเบื้องต้นแค่นี้คุณยังไม่พร้อม จะเสนอให้ลอกกฎหมายเมืองนอก มาใช้ไม่รู้จักตัว พอเพียงแม้แต่น้อย คนที่เรียนกฏหมายเมืองนอกมา มีตั้งกี่คนเขายังไม่ลอกกฏหมายอื่นมาใช้เลยคุณ กฏหมายมันต้องสอดคล้องกับพื้นฐานของประเทศนั้นๆ ไม่ใช่เบาไปตามเขาทุกอย่างออ...ลองกลับ ไปถาม พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ของคุณว่าพื้นฐานมาจากอะไร บ้านนอกหรือไม่ และ Mr. Fusion จะเถียงมั้ยว่าคุณก็บ้านนอกเหมือนเรา นี่จะเป็นการ ตอบโต้ครั้งสุดท้ายกับหัวข้อนี้เพราะเห็นว่าเราคงสู้คุณ จขกท ไม่ได้ แต่การสู้ครั้งนี้ เพื่อคนส่วนมากที่พื้นฐานของประเทศที่เขาไม่ได้อ่านกระทู้คุณ ออ ลืมไป..ฝากพระราชดำรัสของพระบิดาหนึ่งข้อคือ "จงเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว"...." "...แล้วไอ่ที่จอดเฉยๆมันก็ต้องเสียน่ะคุณ..." ... ถ้ารถคุณจอดเฉย ๆ ไม่ได้ใช้แบบนั้นก็ขายไปเถอะครับ ได้เงินค่ารถ และหมดภาระด้วย อย่าลืมนะครับว่ารถยนต์มันเป็นทรัพย์ที่เสื่อมค่า ไม่อย่างนั้นก็ยกเลิกทะเบียนรถคันนั้นไปครับ หมดภาระทางภาษี ค่า พรบ.ไป จอดไว้เฉย ๆ มูลค่าของรถมันไม่เพิ่มขึ้นแน่นอน ในทางบัญชี  ทรัพย์ประเภทรถยนต์ ถ้าหักค่าเสื่อมผ่านไป 5 ปี มูลค่าทางบัญชีมันก็เป็น 0 (ศูนย์) แล้วครับ เรื่องประกันสังคมนั่นก็เป็นร่าง( draft )อยู่น่ะครับ คุณยายของผมก็คนต่างจังหวัดครับ เรื่องบ้านนอกหรือเปล่าผมว่าคงไม่ใช่ประเด็นนะครับ เพราะถ้าเอามาเป็นประเด็นได้ งั้น พรบ.ผู้ประสบภัยจากรถ ก็ไม่ควรมีด้วยซ้ำเพราะเป็นการเพิ่มภาระให้กับคนที่มีรถ ชนกันตาย รถเสียหาย ก็ช่างเถอะ คนจังหวัดเดียวกันเดี๋ยวก็คุยกันได้ เบี้ยวกันบ้าง เล่นไล่จับลูกหนี้ เล่นวิ่งหนีเจ้าหนี้ สนุกดี ( เห็นด้วยไหม ) จับได้ก็ให้ค่าทำศพสัก 1000 นึงละกัน มีเท่านี้ล่ะ นึก ๆ ซะว่าฟาดเคราะห์ ชาติที่แล้วคงทำบุญมาน้อย ได้ 1000 นึงก็บุญแล้ว (แบบนี้คงไม่ดีมั้งครับ) "....ออ ลืมไป..ฝากพระราชดำรัสของพระบิดาหนึ่งข้อคือ "จงเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว"...." ... ที่ผมนำเสนอมา ก็คือ การรับผิดชอบต่อสังคมไงครับ แล้วความรับผิดชอบต่อสังคมนี่ คือ ประโยชน์ต่อส่วนรวม นั่นเอง ลองอ่านดูในตอนแรกก็ได้ครับ ( ผมไม่ได้ edit ข้อความด้วย ) "...เพราะการที่คนเราจะขับรถสักคันวิ่งไปมาบนท้องถนนได้นั้น ควรจะมีศักยภาพในการรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลอื่นได้ด้วย..." คำกล่าวนี่ไม่ใช่ประโยชน์ต่อส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว หรือครับ??? จากคุณ : Mr. Fusion - [ 21 พ.ย. 50 12:37:48 ]

ความคิดเห็นที่ 155 ก็ โอ น่ะ ครับ VOTE ด้วย จากคุณ : EdgeMaNizTa (EdgeMaNizTa) - [ 21 พ.ย. 50 12:44:54 ]

ความคิดเห็นที่ 156 โดยส่วนตัวแล้วเห็นด้วย...ปกติจะไม่ตอบในกระทู้.. แต่ที่ต้องเข้ามาตอบเพราะต้องการเตือนคุณ คคห.132 ว่า กรุณาอย่านำพระราชดำรัสมาตีความเพื้อหวังผลสนับสนุนข้อโต้แย้งของคุณ ไม่บังควรด้วยประการทั้งปวงครับ.. จากคุณ : หมู4X - [ 21 พ.ย. 50 12:47:32 ]

ความคิดเห็นที่ 157 ... ผม search คำว่า "คนจน" ดูแล้วครับ ใน ความคิดเห็นที่ผมเขียนไว้ พบ 2 ครั้งคือ #0 แต่อันนี้ผมลอกหัวข้อของกระทู้นั้นมานะครับ หัวข้อนั้นขึ้นต้นแบบนั้นจริง ๆ อีกอันคือ #136 อันนี้ผมก็คัดลอกข้อความคำพูดของคนอื่นมาเช่นกันครับ ถ้าคุณขยันหาข้อมูลเก่งขนาดนั้นคงไม่ยากหรอกครับที่จะรู้ว่าผมจบจากที่ไหนมา เรื่องของผมกับแฟน เราก็เข้าใจกันดีนี่ครับ จากคุณ : Mr. Fusion - [ 21 พ.ย. 50 12:49:05 ]

ความคิดเห็นที่ 158 เรียนท่าน Mr. Fusion คือ ผมรู้ล่วงหน้าเลยว่า จะมีคนทำได้แบบผมน้อยมาก เพราะขนาดรถ ยังต้องผ่อนเอาเลย ถ้ากฎข้อนี้ผ่าน บ.ประกันจะรวยมหาศาลครับ เพราะ ว่ามีกฎหมายไปเอื้อให้เกิดประโยชน์กับเขา ถ้ารัฐบาลทำเอง ผมจะไม่บ่นซักคำเลยครับ แต่นี่เอาไปให้บริษัทเอกชน ถ้าสนับสนุน ต้องสนับสนุนให้หมดครับ เช่นแม่แช่มขายก๋วยเตี๋ยว ต้องบัง คับทุกคนไปกินด้วย ตาแม้นขายกล้วยแขก ก็ต้องออกกกฎบังคับไปกิน ด้วยเพื่อความเท่าเทียม เห็นไม๊ว่า มันวุ่นแค่ไหน มันขัดรัฐธรรมนูณตั้งแต่ต้นแล้วครับ ที่ไม่ให้ความเสมอภาคครับผม ผม ถึงแปลกใจไงว่า ทำไมถึงอยากเลี้ยงเอกชนกันนัก จากคุณ : สยึมกึ๋ย - [ 21 พ.ย. 50 12:56:33 ]

ความคิดเห็นที่ 159 ... #153 TicketID:130166 ผมรู้ว่าคุณมีอมยิ้มนะ ทำไมไม่ใช้อมยิ้มมาตอบล่ะครับ จากคุณ : Mr. Fusion - [ 21 พ.ย. 50 13:02:37 ]

ความคิดเห็นที่ 160 ... #158 ถ้าภาครัฐจะมาทำในส่วนนี้ ผมก็ ok นะครับ ( หมายถึงว่า มาทำหน้าที่ในการประกัน และ เงินค่าเบี้ยประกันก็เข้ารัฐ ) แก้ไขเมื่อ 21 พ.ย. 50 13:04:56 จากคุณ : Mr. Fusion - [ 21 พ.ย. 50 13:04:07 ]

ความคิดเห็นที่ 161 การที่คนเราจะขับรถสักคันวิ่งไปมาบนท้องถนนได้นั้น ควรจะมีศักยภาพในการรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น ต่อชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลอื่นได้ด้วย ผมเห็นด้วยกับข้อความนี้ครับ จากคุณ : tunedbypae - [ 21 พ.ย. 50 13:04:48 ]

ความคิดเห็นที่ 162 เรียนคุณ Hallza... แหม...คุณก็ว่าไปนู่น  ในที่นี้เค๊ากำลังพูดถึงคนที่ชอบอ้างว่าไม่มี ไม่จ่าย กันนี่ครับ... ส่วนกรณี ถ้ามีไม่พอจ่าย แต่พร้อมที่จะรับผิดชอบ โดยจะทะยอยจ่ายหรืออย่างไรก็แล้วแต่ มันก็คงไม่ต้องถึงกับยึดรถกันทันทีทันใดมิใช่หรือ.. แล้วถ้าหากว่า การประกอบอาชีพโดยใช้รถยนต์เป็นอุปกรณ์ ก็แสดงว่ารถยนต์ก็ก่อให้เกิดรายได้ ผมก็เห็นสมควรทำนะครับ แล้วจะนำค่าประกันไปบวกอยู่ในต้นทุนประกอบการหรืออย่างไรก็แล้วแต่จะสดวก... ประกันชั้น 3 นะครับ มันคงไม่ได้มากมายถึงขนาดทำให้ผลประกอบการขาดทุนจนถึงกับต้องเลิกกิจการหรอก ถือว่าเป็นการบริหารความเสี่ยง และผมก็ไม่เชื่อด้วยว่า ในรายที่บอกว่าไม่มีตังค์ซื้อประกันเพราะมันแพง ทีวี หรือสเตอริโอที่บ้านมันจะถูกกว่าเงินค่าประกัน... แล้วที่ผมแสดงความเห็นออกไป ถ้าคุณมองว่าผมไม่คิดอะไรให้รอบคอบ เอาแต่หาเรื่องเถียง ก็สุดวิสัยครับ แล้วแต่มุมมองครับ.........ถือซะว่า ผมขออภัยคุณใน คำตอบนี้ละกัน.. แต่ผมก็ยังยืนยันว่า คนเราทำอะไรก็ต้องรับผิดชอบ จะมาอ้างเหตุผลใดก็แล้วแต่ เพื่อจะไม่รับผิดชอบ ผมถือว่าแย่ครับ. ถามว่าถ้าเป็นผม ผมจะร้องไห้มั๊ย??? ผมไม่ร้องไห้หรอกครับ แต่ถ้าผมบอกไม่มี ไม่จ่าย แล้วไม่ต้องรับผิดชอบ... คนที่โดนชน เค๊าจะร้องไห้มั๊ยล่ะครับ.. จากคุณ : ชายอิสระ..... - [ 21 พ.ย. 50 13:06:52 ]

ความคิดเห็นที่ 163 ตปท. เค้าทำประกันให้รึ่มๆ ไม่ห็นบ่น แต่ผมชอบแนวคิดติดกล้องนะคุณฟิวชั่น เพราะสมัยนี้กล้องมันถูก ฮาร์ดดิสก์ถุกลง อัดได้เยอะ ฮาดแวรืถูก น่าสนนะครับ จากคุณ : HeavyToon - [ 21 พ.ย. 50 13:07:44 ]

ความคิดเห็นที่ 164 ผมว่าบางคนพยายามจะตีรวนเบี่ยงประเด็นยังไงก็ไม่รู้แหะ ไม่เห็นด้วยก็ไม่เห็นด้วยสิครับ ผมว่าไม่เห็นต้องมาลงเรื่องส่วนตัวกันเลย กฏหมายอะไรมันก็ยังไม่ได้ออกมาเฉยๆ แค่มานั่งคุยกัน สมมติกัน เสนอแนะกัน ไม่เห็นต้องใช้อารมณ์กันเลย ค่อยๆคุยกัน ด้วยข้อเท็จจริง ความเห็นอย่างสุภาพก็ได้นิครับ ป.ล. ผมว่าถ้าคู่ไหนมีความแค้นไรกันส่วนตัว คุยกันหลังไมค์กันไปเถอะครับ จากคุณ : bloodsteam - [ 21 พ.ย. 50 13:09:18 ]

ความคิดเห็นที่ 165 เห็นด้วย จากคุณ : zoohok - [ 21 พ.ย. 50 13:11:07 ]

ความคิดเห็นที่ 166 เอ่อ.....ต้องขออภัยทุกท่านด้วยครับ ถ้าหากทำให้กระทู้เบี่ยงประเด็น หรือเกิดการเข้าใจผิด... เข้าสู่ประเด็นกระทู้..  ผมเห็นด้วยกับที่ จขกท เสนอให้มีการทำประกันครับ. จากคุณ : ชายอิสระ..... - [ 21 พ.ย. 50 13:23:57 ]

ความคิดเห็นที่ 167 โอ๊ย ที่บ้านมีรถหลายคน งี้ต้องเสียเงินเยอะสิ บางคันไม่ค่อยได้วิ่งก็ต้องเสีย คุ้มหรอ? ไอ้หอกครับ รู้ก็รู้ว่าไม่ค่อยได้วิ่ง แทนที่จะขายทิ้ง เก็บไว้ทำหอกอะไรครับ ปัญหาหอกๆ แบบนี้คนทั่วไปใครได้ยินก็สมน้ำหน้าครับ จากคุณ : amigo - [ 21 พ.ย. 50 14:37:10 ]

ความคิดเห็นที่ 168 คนต้องใช้รถขนของเหมือนกัน แม่ค้า พ่อค้าเค้าซื้อของสดในตลาด เค้าก็ต้องใช้รถถูกมั้ยครับ พวกนี้เค้าก็ไม่มีรถเหมือนกันแล้วเขาทำไง เขาจ้างรถรับจ้างครับ ไม่ต้องเอาใครไกลหรอก แม่ค้าขายข้าวแถวบ้านผมนี่ล่ะ ฐานะก็ไม่ได้ดีเด่อะไรเลย อ้างนู่นอ้างนี่ โห เหมือนจะมีเหตุผลเนอะ จากคุณ : amigo - [ 21 พ.ย. 50 14:40:19 ]

ความคิดเห็นที่ 169 โห....กลายเป็นกระทู้แนะนำไปซะแล้ว ผมถึงบอกไว้ตั้งแต่ที่แรกว่าแล้วแต่สมัครใจดีกว่าครับ คนที่ทำงานผมเองมีฐานะไม่ขัดสนซื้อรถล้านกว่าเงินสดยังไม่ทำประกันเลยครับ นานาจิตตังครับ จากคุณ : เกิดมาจน - [ 21 พ.ย. 50 14:44:33 ]

ความคิดเห็นที่ 170 กระทู้เริ่มยาวแล้ว อ่านแล้วมึนๆ ยังไงถ้ามีคนช่วยสรุปข้อดี และข้อเสียให้ด้วยก็จะขอบคุณมากๆ เลยนะครับ จากคุณ : lekhaew - [ 21 พ.ย. 50 15:43:48 ]

ความคิดเห็นที่ 171 คุณ มร. ฟิวชั่น ลงเขตไหนครับ เดี๋ยวผมเลือกเลย จากคุณ : ชาเขียว - [ 21 พ.ย. 50 15:56:39 ]

ความคิดเห็นที่ 172 คุณ amigo จากคห.168 คุณต้องย้อนไปอ่าน ตั้งแต่ คห.71  คห.80  คห.93  คห.102  แลคห.162 อ่านและจับใจความให้ดีๆ  แล้วจะรู้ว่าไม่มีใครอ้างนู้นอ้างนี้ จากคุณ : Hallza - [ 21 พ.ย. 50 15:57:29 ]

ความคิดเห็นที่ 173 คุณ ชายอิสระ ถ้าคุณอ่าน และพิจารณาข้อคห.ของผมตั้งแต่ต้นแล้วคุณจะรู้ว่าผมคิดเห็นยังไง ถึงได้บอกว่าให้รอบคอบก่อนเถียงน่ะครับ จากคุณ : Hallza - [ 21 พ.ย. 50 16:07:16 ]

ความคิดเห็นที่ 174 คุณ Hallza, ผมน่ะอ่านตั้งแต่หัวกระทู้ครับ เวลาอ่านกระทู้ผมอ่านจากบนลงล่างครับ ทำความเข้าใจใหม่ครับ จากคุณ : amigo - [ 21 พ.ย. 50 16:51:32 ]

ความคิดเห็นที่ 175 ไม่จำเป็นที่คุณต้องสนใจว่าเราเป็นใครรู้แต่ว่าเรารู้จักคุณ และณ.วันนี้"เราไม่ชอบคุณ"เนื่องจากเราตั้งใจจะมาตอบแบบทั่วไปตั้งแต่แรก แต่คุณกับใช้คำรุนแรงนี่เป็นแค่เล็กน้อยในชีวิตคนถ้าอยากอยู่ที่สูงคุณต้องเจออะไรอีกมากมายที่อาจจะรุนแรงกว่าที่คุณได้รับจากที่เราบรรจงให้วันนี้ ถ้าอ่านดี ดี จะพบแต่คำถามเปิดจากเรา ถ้าคำถามนั้นที่คุณเติมคำตอบให้มันเองแล้วมันทำร้ายจิตใจคุณมาก ก็ขอโทษด้วยเพราะคงไม่มีใครชอบให้มาว่ากล่าว และเราเช่นกันและที่เราไม่เห็นด้วยไม่ได้ใช้อารมย์ มันเป็นสิทธิที่พึงตอบหรือไม่ใช่? และเรื่องของคุณถ้าอยู่ในบอร์ดนี่นานๆ ไม่จำเป็นต้องค้นหาให้เสียเวลา เพียงแค่จำได้ ก็พอจะรู้เรื่องราวอย่างดีเพราะคุณดัง ตอนแรกก็คิดว่า คุณก็ดีน่ะ เข้ามาดูอย่างเดียว ไม่เคยว่าใคร แต่วันนี้ไม่ใช่เราได้มาเต็มๆ เพราะฉะนั้นนี้เป็นส่วนน้อยที่เราจะเอาคืน และบอกไว้จะไม่ทำใครถ้าใครไม่มายุ่งวุ่นวายกับเราก่อน เพราะโลกไซเบอร์ก็เสมือนโลกจริง คุณดังในโลกนี้ เพียงแค่เวปเดียว ควรจำเหตุการณ์นี้ไว้ว่า มันไม่ใช่คุณเป็นที่รักของทุกคนในโลก และมันก็ไม่ใช่คนส่วนมากที่ชอบคุณ คุณเคยโดนมามากกว่านี้น่ะ ถ้าจำไม่ผิด นั่นก็ไม่ได้ทำให้คุณเลิกเล่นพันทิพย์ ก็เข้าใจคุณก็เล่นต่อไป ไม่ได้ว่าอะไร เราก็เล่นต่อไป แต่อย่ามาวุ่นวายกันอีก เพราะเราจำดีว่าใครทำอะไร ไว้บ้าง วันหลังจะทำอะไรคิดดี ดี จากคุณ : คุณเสียอีกคนที่เคยชื่นชม - [ 21 พ.ย. 50 17:17:26 A:125.26.50.32 X: TicketID:130166 ]

ความคิดเห็นที่ 176 ... อันนี้คงไม่เกี่ยวกับกระทู้ที่ผมตั้ง แต่ก็คงขอใช้สิทธิพาดพิง จาก #153 เรื่องที่ผมจะจบที่ไหน มันก็เป็นข้อมูลส่วนตัวของผมล่ะครับ ไม่จำเป็นต้องมานั่งป่าวประกาศให้คุณรู้ ( เอาเป็นว่าปริญญาที่ผมมี มากกว่า 1 ก็แล้วกัน ) ผมดูที่คุณเคยตอบ ๆ ผ่าน ๆ มาคุณเองก็ไม่ได้บอกข้อมูลส่วนตัว รวมถึง คุณเองก็ไม่ได้เอ่ยถึงสถาบันของตัวเองเหมือนกัน แต่ผมหวังว่าคุณเองก็คงไม่ลืม.... ใช่ไหมครับ? ผมเองลองดูกระทู้ที่คุณเคยเข้า ๆ ไปแล้วก็พบว่า คุณเองก็เป็นคนที่มีความเครียดสูงเหมือนกัน คาดว่าคงจะเกิดปัญหารุมเร้ารอบด้าน กระทู้ที่คุณเข้า ๆ ไปในห้องเฉลิมไทย, Blue planet, ห้องกระต่าย เป็นกระทู้ที่ช่วยให้ผ่อนคลายได้ดี ว่าง ๆ ก็ไปเที่ยวสิครับ จะได้ผ่อนคลายบ้าง เห็นคุณเข้ากระทู้แนะนำที่เที่ยวเยอะนะ ไม่เป็นไรหรอกครับ คนเราเครียดกันได้ ผมเข้าใจ ผมก็เป็นอมยิ้ม Mr. Fusion อย่างนี้ล่ะครับ คุณ TicketID:130166 เองก็น่าจะใช้อมยิ้มนะ สมาชิกอมยิ้มไม่ได้สมัครยากเท่าไหร่หรอก ลองสมัครสมาชิกดูสิครับ ( ตอนนี้ Pantip ให้สมัครแบบไม่ต้องแนบหลักฐานผ่านเว็บ แต่คุณคงต้องเข้ากรุงเทพฯ มาสมัคร ) ( ดูภาพประกอบได้เลย ) แล้วนั่งนึกชื่อ Login ที่คุณจะตั้งดู ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าคุณจะตั้งชื่อ Login ว่าอะไร จากคุณ : Mr. Fusion - [ 21 พ.ย. 50 17:17:59 ]

ความคิดเห็นที่ 177 ... #175 ผมเข้าใจข้อที่คุณว่าดีครับ ผมเองก็เข้าใจว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะให้คนทุกคนมาชอบผม มีคนชอบ ย่อมมีคนไม่ชอบ เป็นเรื่องธรรมดาครับ จากคุณ : Mr. Fusion - [ 21 พ.ย. 50 17:21:31 ]

ความคิดเห็นที่ 178 "คาดว่าคงจะเกิดปัญหารุมเร้ารอบด้าน" เป็นนักจิตวิทยาตั้งแต่เมือไหร่ เที่ยวคิดว่าใครเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ สงสัยคงเอาไปเทียบกับตัวเอง *_* จากคุณ : อย่าคิดแทนคนอื่น - [ 21 พ.ย. 50 17:30:02 A:125.26.50.32 X: TicketID:130166 ]

ความคิดเห็นที่ 179 สงสัยคนห้องกระต่าย ห้องกล้อง ห้องเฉลิมไทย คงมีความเครียดสูงจนอยากจะระบายกับคนอื่นเหมือนเราแล้วมั้งถ้าอย่างนั้น -*- จากคุณ : อย่าเหมาว้อยย - [ 21 พ.ย. 50 17:32:47 A:125.26.50.32 X: TicketID:130166 ]

ความคิดเห็นที่ 180 ... คุณ TicketID:130166 ผมลองอ่าน ๆ ข้อความแรก ๆ ที่คุณเอ่ยถึงเรื่องเต้นท์รถ เรื่องนี้ถ้าเจ้าของรถเดิมขายรถมาให้ มันก็จะมีประกันที่ติดรถ มาด้วยอยู่แล้วล่ะครับ ยกเว้นซะว่าใน 1 ปี ยังปล่อยรถไม่ได้ อันนั้นคุณก็ต้องยอมรับนะครับว่า มันก็เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ ก็เหมือนพวกค่าล้างรถ, ค่าภาษีประจำปีของรถ ซึ่งคุณสามารถนำไปบวกกับผู้ซื้อตอนขายรถได้นี่ครับ เพียงแต่ตอนที่ยังขายไม่ได้คุณต้องออกเองไปก่อน ก็เท่านั้นเอง จากคุณ : Mr. Fusion - [ 21 พ.ย. 50 17:33:37 ]

ความคิดเห็นที่ 181 ^ ออกก่อน เห้อออ...น่านน่ะดิ เงินหมุนเวียนก็ลดลง คนซื้อที่มีเงินน้อยก็ลำบากขึ้น ....คุณเอยมันมีอะไรอีกแยะในวงการนี้ที่คุณไม่รู้ดีพอ และอีกหลายอาชีพไม่เฉพาะเต้นน่ะที่คุณไม่รู้วิถีชีวิตลึกๆเขา ด้วยวัยของคุณ ดูจากคำพูดคงไม่เกิน 30 ไม่ถึงขั้น เพราะงั้นมันไม่ควรที่คุณออกมาฟันธงหรือสนับสนุน อะไรที่มันไม่เป็นกฏหมาย ถ้าจะทำจริงต้องมีประชามติยกใหญ่ ออ ที่เข้าห้องกระต่าย เราเลี้ยงมานานแล้วไปดูคนอื่นเขาบ้างว่าเขาเลี้ยงยังไง เพราะเรามีแค่ตัวเดียวและไม่คิดจะเพิ่ม เห็นของเขาน่ารักดีและคนก็ใจดีไม่วุ่นวายก็เท่านั้น ส่วนห้องเที่ยวกับกล้องน่ะ เราชอบเที่ยวและมีโอกาสไปบ่อยอยู่แล้วแต่เราชอบภาพที่ถ่ายทอดมาจากแต่ล่ะคนมากกว่า จากคุณ : วันนี้พิมพ์มากชักเบื่อ - [ 21 พ.ย. 50 17:43:16 A:125.26.50.32 X: TicketID:130166 ]