ความคิดเห็นที่ 1 ผมยังขับบ้านไปทำงาน หาเงินไม่ได้ จากคุณ : กระเพาไก่ไข่ดาว - [ 20 พ.ย. 50 08:28:18 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แม่ป๋มบอกว่าซื้อบ้านเก็บไว้มีแต่ผุพัง ต้องเสียเงินซ่อมแซม ลงทุนกับยานพาหนะที่พาเราออกไปหาเงินดีกว่า ผมเลยมีแค่บ้านหลังเล็กๆแต่รถหลายคันไว้ตากแดดตากฝน 555 ขำตัวเอง จากคุณ : คิดถึงใบตอง - [ 20 พ.ย. 50 08:32:41 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ที่ซื้อรถแต่ไม่ซื้อบ้านเพราะสักพักผู้ปกครองคงโอนให้ครับ จากคุณ : Arsho - [ 20 พ.ย. 50 08:35:14 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ตอนนี้อาศัยอยู่กะพี่ชาย.. ส่วนรถก็ผ่อนลมไว้..เพราะจอดแน่นิ่งอยู่ที่สงขลา คิดถึงน้องยาริส จากคุณ : TsuTaYa - [ 20 พ.ย. 50 08:37:38 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ซื้อรถไว้ขับหาเงินมาซื้อบ้านครับ รถมันถูกบังคับผ่อนหมดไวกว่า ส่วนบ้านมันผ่อนนานนนนนนมากกกกก เลยต้องดูดีดีว่าเราจะอยู่ตรงไหนแน่ๆ ถึงจะซื้อ จากคุณ : เด็กแคสติ้ง - [ 20 พ.ย. 50 08:50:18 ]

ความคิดเห็นที่ 6 รถสิมีแต่พัง บ้านไว้ให้คนเช่าได้(ถ้ามีหลายหลัง) จากคุณ : lustful - [ 20 พ.ย. 50 08:51:23 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 20 พ.ย. 50 08:51:57 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แล้วแต่เหตุผลและความจะเป็นมากกว่าครับ บางคนบ้านเล็ก แคบ แต่มีแคมรี่ ซีอาร์วี เนื่องจากมันเป็นหน้าตาที่ต้องติดต่อธุรกิจการค้า นัดเจอที่อื่นที่ไม่ใช่บ้าน สร้างความเชื่อถือ พอได้งานได้เงินไปเรื่อยๆ ก็ค่อยกลับมาสร้างบ้าน บางทีก็ซื้อบ้าน เพราะรถยนต์มีแต่จะโทรมลง ซื้อบ้านไว้ถ้าเราไม่อยู่ก็ปล่อยเช่า ขายก็ได้กำไร แต่ก็จะยังไม่ได้ซื้อรถเพราะต้องผ่อนบ้านนาน นานาจิตตังครับ อยู่ที่ปัจจับรอบด้าน ทั้งเงินและอายุ.. จากคุณ : Aha (Ahabox) - [ 20 พ.ย. 50 08:54:30 ]

ความคิดเห็นที่ 9 กระทู้นี้ดีครับ มีสาระ สิบกว่าปีก่อน ตอนที่ผมจะออกรถใหม่ คิดอยู่นานเลยครับ ว่าจะซื้อรถหรือบ้านก่อนดี  แต่สุดท้ายเลือกรถครับ ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นยังต้องเช่าคอนโดอยู่เลย   เหตุผลตอนนั้น มันสู้อารมณ์ไม่ได้ครับ   ข้อสำคัญ ตอนนั้นยังไม่แต่งงานครับ เลยมองว่าบ้านไม่สำคัญ (หลอกตัวเอง...)  นอนไหนก็นอนได้  รถสำคัญกว่า ไปไหนมาไหนสะดวก (ไปเที่ยวสะดวก......... หลอกตัวเองอีก...555) ไปทำงานก็ยิ่งสบาย ทั้ง ๆ ที่ค่าจอดรถที่ตึกก็แพงแสนแพง ก็ทำเป็นมองข้ามไป........... นี่แหละครับ ทำไมผมถึงเลือกรถ ก่อน บ้าน ถึงตอนนี้ มองย้อนกลับไปแล้ว โห ถ้าเป็นเราเป็นพ่อเป็นแม่ ลูกคิดยังงี้สงสัย ด่าตายเลยครับ........... จากคุณ : wegnep - [ 20 พ.ย. 50 09:04:03 ]

ความคิดเห็นที่ 10 บางคนมีอาชีพที่ต้องย้ายที่ทำงานเรื่อย ๆ ก็อาจจะไม่คุ้มในการซื้อบ้าน ก็เช่าเอา แต่รถนี่ไปไหนไปด้วย จากคุณ : ปัญญาสาร - [ 20 พ.ย. 50 09:10:19 ]

ความคิดเห็นที่ 11 บางคนบอกว่าซื้อบ้านผ่อนนานกว่ารถเยอะ ผ่อนบ้าน 25 ปี หรือนานกว่านั้น  ผ่อนรถ 4-7ปี บางคนอาศัยบุพการีอยู่ จากคุณ : acc 90 carb. (acc 90 carb) - [ 20 พ.ย. 50 09:10:28 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เราซื้อรถก่อน(พ่อซื้อให้) แต่ถ้าซื้อเองก็คงซื้อรถก่อนอยู่ดี เพราะรถมันช่วยหาเงินให้เราได้ หรือในการสมัครงานงาน เราคิดว่าคนที่มีรถก็น่าจะได้เปรียบกว่าในบางตำแหน่ง ตอนนี้เราทำงานอยู่ กทม.  ค่าเช่าหอกับค่าที่จอดรถก็ 2,500 บาทแล้ว (อยู่ 2 คน กับเพื่อน) ก็เสียดายเงินตรงนี้เหมือนกัน คิดว่าจะอยู่อีกสัก 1-2 ปี ก็จะกลับไปทำงานที่ชลบุรีแล้วก็ซื้อบ้านที่ชลบุรีค่ะ จากคุณ : เซ่อซ่าแต่น่ารัก - [ 20 พ.ย. 50 09:36:00 ]

ความคิดเห็นที่ 13 หลังบ้านผม เป็นบ้านเช่า มีห้อง 12 ห้อง 8 ห้อง มีรถ 2 ห้อง มีรถ 2 คัน ป้ายแดงซะด้วย แล้วจะทำอย่างไร เพราะที่บ้านเช่าไม่มีที่จอดรถให้ ก็จอดกันทั่วไปครับ ข้างถนน หน้าบ้านคนอื่น ทางเลี้ยว ขวางตรงไหนได้ ขวางหมด ไม่สนใจ ผมเองบางครั้งมีธุระรีบๆ เจอพวกนี้จอดขวาง เอารถออกไม่ได้ ไปตามที่ห้องก็ไม่อยู่  ผมต้องนั่งแท็กซี่ไป ผมควรจะทำอย่างไรกับคนเหล่านี้ดีครับ จากคุณ : tunedbypae - [ 20 พ.ย. 50 09:37:11 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ... เข้ามาอ่าน จากคุณ : โป๊งโป๊งชึ่ง - [ 20 พ.ย. 50 09:41:56 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ในชีวิต อาจมีรถหลายคัน แต่อาจมีบ้านแค่หลังเดียว รถคันนึง ใช้เงินจริงๆ ปีละประมาณแสน (ลงทุนเริ่มต้น 6-8 แสน ใช้ไป 4-5 ปี ขายต่อเหลือ 3-4 แสน แสดงว่า หมดเงินไปปีละไม่ถึงแสน) อันนี้ไม่พูดถึง ค่าใช้จ่ายอย่างอื่นนะ แต่บ้านหลังนึงนี่หลายล้าน ผ่อนกัน 15 ปี 20 ปีโน่น รวมดอกเบี้ยก็เกือบเป็น 2 เท่าของราคาเริ่มต้น  ปีนึงใช้เงินหลายแสนนะครับ จากคุณ : P_Wut - [ 20 พ.ย. 50 09:45:11 ]

ความคิดเห็นที่ 16 แค่มีที่ให้ซุกหัวนอน ที่ไหนก็นอนได้แล้ว จากคุณ : team321return (team321return) - [ 20 พ.ย. 50 09:45:41 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ส่วนใหญ่ต้องขับรถไปทำงานครับ บ้านเช่าอยู่เดือนละ 3-4 พัน พอไหว แต่ถ้าเช่ารถเป็นเดือน คงแย่ มันสะดวกกว่ากันเยอะนะครับ จากคุณ : ลำไผ่ บ้านท่า - [ 20 พ.ย. 50 09:47:56 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ผมเองมีรถก่อนมีบ้าน เพราะ 1. ต้องใช้รถทำงานครับ ด้วย ตน.หน้าที่ มีความจำเป็นมาก ก็เพื่อเอามันหาเงินมาเยอะๆ ไว้ซื้อบ้าน 2. หมู่บ้านใหม่ๆ สมัยนี้ ถ้าไม่มีรถก็จะเข้าออกลำบาก ถ้าเอาเข้าออกง่าย บ้านก็มักจะแพง ซึ่งเทียบทำเลแล้ว ราคาอาจต่างกันเป็นแสน ทำให้ซื้อรถได้ 1 คัน ใช้ประโยชน์เพิ่มได้ 3. ตอนจะซื้อบ้าน ถ้าไม่มีรถเข้าไปตระเวณดู ยอมรับได้เลยครับว่าลำบากมาก อ้างอิงข้อ 2 4. สุดท้าย รถผ่อนแค่ 4 ปี บ้านผ่อน 30 ปี ก็เร่งผ่อนอันหมดเร็วก่อน แล้วค่อยเริ่มผ่อนอันนานๆ กว่ารถจะเสื่อมสภาพ เงินเดือนก็คงขึ้นแล้ว ผ่อนทั้งบ้านและรถพร้อมกัน พอหายใจคล่องครับ ทั้งหมดเป็นความคิดส่วนตัวผมจากประสบการณ์ครับ ไม่มีผิดหรือถูก จากคุณ : Abacadabra - [ 20 พ.ย. 50 09:49:31 ]

ความคิดเห็นที่ 19 Rep#13 ^ โทรเรียกรถลาก สน. มาลากไป แล้วให้เจ้าของรถไปเคลียร์เองที่ สน. ให้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอาเอง ตามประเด็น จขกท. งานหลายอย่าง ใช้ชีวิตอยู่ในรถ มากกว่าอยู่ในบ้าน หรือใน Office เป็นคุณๆ จะซื้ออะไรก่อน หรือถ้าอยากจะเลือก อยู่ในรถกระป๋อง 25 วัน แล้วกลับไปนอนในบ้านคฤหาส 5 วัน เป็นผมๆ เลือกจ่ายเงินความสบาย 25 วันดีกว่า แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 50 10:00:27 จากคุณ : SysOp - [ 20 พ.ย. 50 09:58:43 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เหมือนความคิดที่ 9 ครับ ตอนเรียนจบทำงานได้ 3-4 ปี ก็คิดๆ เหมือนกันว่าจะซื้อบ้านหรือรถดี พี่ๆ แนะนำให้ซื้อบ้านทาวน์เฮ้า แต่สุดท้ายซื้อรถมือสองและอยู่หอพักไปก่อน 3 ปีต่อมา เงินเดือนเยอะขึ้น ก็เลยซื้อบ้านเดี่ยวราคาล้านนิดๆ (ช่วงปี 45 บ้านราคาถูก) ทำงานมาอีก 4 ปี ซื้อรถป้ายแดงที่แพงกว่าตอนซื้อบ้าน... เจ้ามือสองคันแรกก็ยังอยู่ อีกสัก 4 ปีข้างหน้าจะมองหาบ้านหลังใหม่แล้วเก็บหลังเดิมไว้เป็นสมบัติให้ลูกๆ ... นานาจิตตังครับ ... ดูตามความเหมาะสมแล้วกัน จากคุณ : โจ (JoGeotech) - [ 20 พ.ย. 50 10:00:05 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เพราะบ้านมีปัจจัยในการเลือกที่ละเอียดกว่ามั๊ง ทั้งทำเล ราคา สิ่งแวดล้อม ระยะทาง......... บางท่านตัดสินใจซื้อบ้าน ในราคาที่สามารถรับได้ แต่มีโอกาสอยู่บ้านเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ ที่เหลือทำงานต่างจังหวัด เหนื่อยไม่มีเวลาดูแลบ้าน หาคนช่วยดูแลยังไม่ได้................... เลือกรถดีกว่า เป็นเจ้าของได้ในระยะเวลาไม่นานเหมือนบ้าน หรือบางท่านไม่ถนัดขับรถ เขาอาจเลือกที่อยู่อาศัยก่อน.... จากคุณ : ...นิยม - [ 20 พ.ย. 50 10:04:38 A:124.120.0.64 X: ]

ความคิดเห็นที่ 22 เลือกบ้านนานกว่าเลือกรถ บ้านแพงกว่ารถ บ้านเปลี่ยนไม่ได้บ่อยเหมือนรถ จากคุณ : Hallza - [ 20 พ.ย. 50 10:06:53 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ผมซื้อบ้านก่อนรถแต่บ้านก็ไม่ใช่ชื่อผมเป็นชื่อแฟน ส่วนรถตามหลังบ้านไม่นานเพราะไปกลับลำบาก จากคุณ : todkey - [ 20 พ.ย. 50 10:11:39 ]

ความคิดเห็นที่ 24 สำหรับเราโชคดีที่ไม่ต้องซื้อบ้าน  เพราะมีบ้านอยู่แล้ว  บ้านราคาแพงกว่ารถจริงๆค่ะ    เปรียบเทียบตัวเรากับเพื่อนบางคนแล้วรู้สึกว่าตัวเองโชคดีกว่าเค้ามากๆ    ที่ไม่ต้องซื้อบ้านแต่ได้บ้านและที่ดินเป็นมรดกตกทอดมาจากท่านพ่อ... ตอนสมัยเรียนจบใหม่ๆ เพื่อนเราทำงานหนักมาก  ซื้อบ้าน  ซื้อรถ และข้าวของเครื่องใช้  ทำงานตัวเป็นเกลียว  เพื่อเอาเงินไปผ่อนบ้าน ผ่อนรถ  โห...เห็นแล้วเหนื่อยแทนจริงๆ ขนาดเรามีบ้านยังรอมาตั้งนานกว่าจะตัดสินใจซื้อรถ   เพราะกะว่ารอเรียนจบโทก่อน   ตอนแรกพ่อบอกให้ซื้อเหอะ  เดี๋ยวพ่อเป็นคนผ่อนให้เอง แต่เราบอกพ่อว่า  ให้เรียนจบก่อนดีกว่า   ซึ่งก็คิดไม่ผิดจริงๆค่ะ  เพราะพ่อตายก่อนเราเรียนจบอีกนะนั่น   -_-' จากคุณ : สงสารน้องออส (ส่งเสียน้องออส) - [ 20 พ.ย. 50 10:34:57 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อยู่ที่มุมมองของคน และการคิดของคนครับ อันนี้คือเคสของคนไม่มีบ้านแต่มีรถนะครับ 1 คนที่ออกรถเพราะว่ามันสร้างรายได้ให้เขาได้ อันนี้อย่างไรก็ต้องออกรถ เช่น เซลล์วิ่ง ตจว พ่อค้าขายของ 2 ส่วนอีกกลุ่มหนึ่ง ก็จะเป็น กลุ่มคนที่ซื้อความสะดวกสะบาย หน้าใหญ่กลัวความลำบาก ความอดทนต่ำ 3 กลุ่มนี้ จริงแล้วไม่ควรนับ จะเป็นกลุ่มที่อยู่บ้านพ่อแม่ ชีวิตนี้ไม่คิดเรื่องบ้าน เกิดมามีบุญ ไม่ต้องดิ้นรน ตามหลักการแล้ว บ้านที่อยู่อาศัยคือปัจจัย 4 ท่านไม่มีไม่ได้ ถ้าคิดว่าไม่สำคัญ อยู่อย่างไรก็ได้ ขอชูคอในรถป้ายแดง มันได้หลังอาดีนารีน นั่งแล้วภูมิใจสุดๆ ก็คงต้องปล่อยเขาไป ส่วนใหญ่แล้ว จะรู้สึกตัวเมื่อตัวเองแก่ ไม่มีแรงทำงาน แล้วก็จะกลับมาคิดว่า รู้งี้ซื้อบ้านตรงนั้น ซื้อที่ตรงนี้ ไว้ดีกว่า เพราะความสุขที่ยั่งยืนในวัตถุคือ ปัจจัย 4 นั่นเอง ได้อยู่บ้านที่อบอุ่น ทำเลดีๆ อากาศดีๆ ได้กินอาหารดีๆมีคุณประโยชน์ ได้ใส่เสื้อผ้ามีคุณภาพ ได้เข้าโรงพยาบาลที่มีการบริการดีๆ จากคุณ : คิดเองโตแล้ว - [ 20 พ.ย. 50 10:57:10 A:125.25.191.119 X: TicketID:159166 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ถ้าเมืองไทยมีระบบขนส่งมวลชนที่ดี ผมจะไม่ซื้อรถ และจะซื้อบ้านให้แพง แต่เพราะเมืองไทยไม่มีระบบที่ว่า ผมจึงซื้อรถราคา 1 ล้าน ซื้อบ้านราคา 6 แสน จากคุณ : ถึงจะเล็ก แต่สั้น - [ 20 พ.ย. 50 11:08:42 A:203.113.106.28 X: TicketID:149505 ]

ความคิดเห็นที่ 27 บ้านมีให้ซุกหัวนอนอยู่แล้ว (ถึงจะไม่ใช่ชื่อเราก็เถอะ) ไม่รู้จะซื้อทำไม ซื้อมาก็ต้องคอยดูแลรักษา ให้คนเช่า ก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรของเราเสียหายป่าว ต่อเติม ตกแต่ง ก็เงินทั้งนั้น แถมไม่ได้ไปอยู่อีก มันก็ยิ่งโทรมขึ้นทุกวัน ต่อให้ซื้อบ้านอยู่ พ่อแม่ก็ไม่เห็นด้วยหรอก เค้าอยากให้เราอยู่กะเค้ามากกว่า แต่ถ้าไม่มีบ้านอยู่เลยสิน่าคิด ถ้าตอนนี้เราไม่มีบ้านอยู่ ต้องเช่าเค้าอยู่ คงจะซื้อคอนโดที่ใกล้ๆที่ทำงานก่อน แล้วค่อยเก็บเงินซื้อรถ บ้านหนะ อนาคตพ่อแม่ก็โอนให้เราเอง เลยไม่ได้รู้สึกว่ามีความจำเป็นต้องซื้อ ตอนนี้กะลังเล็งจะซื้อที่ดินเก็บเอาไว้ดีกว่า จากคุณ : mickey..boyคัมแบ๊ค - [ 20 พ.ย. 50 11:21:37 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ผมมีรถในชื่อผมเอง แต่ไม่มีบ้านเป็นชื่อผมเอง เพราะบ้านน่ะ ตอนซื้อ ต้องใส่ชื่อแม่ เอ๊ย ภรรยาที่เคารพครับ...... จากคุณ : หมอเถื่อน - [ 20 พ.ย. 50 11:22:58 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ซื้อรถก่อนบ้านเหมือนกันครับ คือ ตอนนั้นครอบครัวแฟนเพิ่งซื้อบ้านก็เลยเข้าไปอยู่เลย กลัวบ้านมันเหงา พอแยกบ้านก็เลยต้องมีรถใช้ มีบ้านเป็นของตัวเองสองหลัง แต่เป็นชื่อเมียทั้งคู่ เหอๆ แถมตอนไปโอนเสียภาษีอีก ไอ้เชียะเอ๊ย ที่หมื่นๆล้านไม่เสีย (ถูกก.ม.) มีรถอีกก็ชื่อเมียอีก ชีวิตพอเพียงจิงๆผมนะ ฮา ที่เป็นของตัวเองก็เงินในบัญชี จากคุณ : Double07 - [ 20 พ.ย. 50 11:23:15 ]

ความคิดเห็นที่ 30 สเต็ปส่วนตัวที่ทำมาเป็นอย่างงี้ เรียนจบตรี ------> เก็บตังค์ 3 ปี แล้วไปเรียนต่อ เรียนกลับมาแล้ว ---------> ทำงาน 2 ปี (ใช้หนี้บุพการี ที่ยืมเงินไปจ่ายค่าเรียนที่เมืองนอกครึ่งนึง) หมดหนี้ ---------> เก็บตังค์อีก 1 ปี ได้ฤกษ์ถอยป้ายแดงมา 1 คัน ปัจจุบัน ----------> ต้องผ่อนรถ 3 ปี อนาคต ----------> หมดหนี้รถ จะซื้อบ้านหรือคอนโดต่อ สรุป ------------> มีหนี้เรื่อยไป เฮ้อออออออออ... เราว่ามันอยู่ที่เหตุผล ภาระ และข้อจำกัดของแต่ละคน อย่างเรา เราแพลนไว้อย่างงี้มาตั้งแต่เรียนจบตรีแล้ว ซึ่งมันก็เป็นไปตามที่วางไว้นะ เพราะตราบใดที่เรายังมีบ้านพ่อบ้านแม่อยู่ เรื่องซื้อบ้านก็เป็นเรื่องสุดท้ายเลย แต่ยังไงก็ตั้งใจว่าจะต้องซื้อเป็นของตัวเองให้ได้อยู่แล้ว :) จากคุณ : KJ - [ 20 พ.ย. 50 11:24:15 A:202.183.217.56 X: TicketID:154991 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เป็นผม ผมเลือกบ้านก่อนนะ เพราะมันแพงอ่ะดิถึงต้องซื้อก่อน เชื่อว่าหลายๆคนในนี้คงยังไม่แก่ตัวกัน แต่ผมเห็นหลายคน ตอนเป็นหนุ่มเป็นสาวเอารถก่อน สุดท้ายแก่ตัว ก็ต้องกล้ำกลืนผ่อนบ้านหลังเล็กๆกันขี้แตกขี้แตน เป็นหนี้ประเภทที่ว่าลูกโตยังไม่หมด กับบางคนที่รีบเอาบ้านก่อนตั้งแต่ยังหนุ่มๆ สุดท้าย 40 กว่าๆ เขาก็มีบ้านหลังใหญ่อยู่ตอนนั้นหน้าที่การงาน จะเอารถสักคันไม่ใช่เรื่องยากแล้ว ตอนนั้นเขาก็มี บ้าน+รถ ไม่มีหนี้อีกต่างหาก อีกอย่างอายุการใช้งานรถมันสั้นกว่าบ้านเยอะนะครับ ประมาณ 10 ปีก็ต้องหาใหม่แล้ว หนุ่มๆคุณอาจอยู่รถได้ ดูดี แต่แก่ๆไป คุณมีรถไม่มีบ้านอยู่นี่น่าสังเวชสิ้นดี แก่ๆแล้วคงอยากที่จะอยู่บ้านมากกว่ารถนะครับ ซื้อบ้านทีเดียวจบ แต่ซื้อรถทีเดียวไม่เคยจบ แต่ถ้ากรณีที่ว่าใช้รถทำมาหากิน ก็อีกเรื่อง แค่มุมมองส่วนตัวนะครับ ผมถือคติว่า ถ้าไม่ได้ใช้รถทำมาหากิน ถ้าคุณเริ่มจากรถ สุดท้ายคุณจะไม่ได้อะไรเลย แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 50 11:27:02 จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน - [ 20 พ.ย. 50 11:26:03 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ยังไม่มีเมียเลยไม่คิดซื้อบ้าน จากคุณ : ดก - [ 20 พ.ย. 50 11:26:42 A:10.7.100.203 X:203.148.187.139 TicketID:159675 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ถ้าไม่มีบ้าน ก็แสดงว่า ยังมีที่ซุกหัวนอน ไม่งั้น ... ท่านไม่มีปัญญา หารถมาได้หรอก เพราะ ไม่งั้นจะเอารถไปจอดที่ไหน แล้วจะนอนที่ ไหนกัน จากคุณ : สยึมกึ๋ย - [ 20 พ.ย. 50 11:57:37 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ผมมี e-car เก่าๆ คันหนึ่งผ่อนหมดนานแล้ว (ชื่อตัวเอง) กับบ้าน (ชื่อตัวเอง) แต่ยังผ่อนอยู่อีก 10 ปี แต่ที่สำคัญบ้านที่ว่าตั้งแต่ซื้อมาไม่เคยจ่ายเงินเลย เพราะให้เค้าเช่าหนะ ส่วนตัวผมก็อยู่กับ พ่อ-แม่  ตอนนี้กำลังดูคอนโด กะให้เค้าเช่าเหมือนกัน บ้านถึงแม้นานวันเข้ามันจุผุ จะผังอย่างงัยเราก็ยังซ่อมใหม่ได้  ขายต่ออย่างงัยยยก็ได้ราคา  ไม่มีตกรุ่น  ไม่มีเรื่องอะไหล่หายาก   ** ทรัพย์สิน  กับ หนี้สิน ต้องแยกให้ออกนะคุณ P_Wut คห.15 จากคุณ : หนุ่มเมืองเพชร (หนุ่มเมืองเพ็ด) - [ 20 พ.ย. 50 12:02:13 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ซื้อรถก่อนเพราะ ผ่อนหมดก่อนครับ แต่ถ้าบ้านกว่าจะผ่อนหมด พอดีแก่ จากคุณ : pinestand - [ 20 พ.ย. 50 12:31:21 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ผมเองเพิ่งตัดสินใจซื้อบ้านเอาแบบดีๆ ไปเลย ทำเลดีๆ ถูกใจ ตอนนี้ใช้รถเก่า(ซื้อมาตั้งแต่ป้ายแดงเครื่องคาร์บิวฯ ยุคสุดท้าย ตอนนี้อายุรถ 14 ปีแล้ว) แต่ก็ยังวิ่งได้ดี จนแฟนผมต้องเลิกกับผมเพราะเรื่องซื้อบ้านดีเกินไป เพราะผมคงไม่มีเงินเหลือพอที่จะใช้ชีวิตคู่เลี้ยงดูเขาแล้ว จากคุณ : wrsp (wrsp) - [ 20 พ.ย. 50 12:56:04 ]

ความคิดเห็นที่ 37 บ้าน นานวันยิ่งแพง และ อยู่ห่างออกจากตัวเมืองไปเรื่อย ตอนนี้แล้วบางใหญ่ บางบัวทอง ยังมีทาวเฮ้าส์ต่ำกว่าล้าน เหลืออีกหรือเปล่าครับ  แค่ 4 ปี ราคา ขึ้นไปเกือบเท่านึง ได้มั่ง เพราะมีรถไฟฟ้าด้วย ขึ้นราคากันใหญ่เลย แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 50 13:23:28 จากคุณ : แมวดำ (แพทอ้วน) - [ 20 พ.ย. 50 13:15:40 ]

ความคิดเห็นที่ 38 มันก็แล้วแต่เหตุผลของแต่ละคนค่ะ รายละเอียดและความจำเป็นมันเยอะเกินกว่าที่จะบอกได้ว่าซื้อบ้านดีกว่าซื้อรถ หรือซื้อรถดีกว่าซื้อบ้าน ส่วนเราก็ซื้อรถก่อนค่ะ เพราะบ้านก็เช่าอยู่แห่งหนึ่ง และก็อาศัยผู้มีอุปการะคุณอยู่อีกแห่งหนึ่ง และในอนาคตอันใกล้ก็จะเลิกเช่าแล้วไปอาศัยผู้มีอุปการะคุณอีกคนหนึ่งเพิ่มค่ะ เลยไม่มีความคิดจะซื้อบ้านเลย ชอบอยู่บ้านฟรี ที่ผ่านมาก็ใช้รถคุ้มนะคะ ใช้ขนเสื้อผ้าไปซักที่บ้าน ทำ thesis ต้องขนหนังสือประมาณ 2 กระเป๋า เครื่องคอมฯ แม้กระทั่งปริ้นซ์เตอร์ไปๆ มาๆ กรุงเทพต่างจังหวัดทุกอาทิตย์ ถ้าไม่มีรถก็คงลำบากเหมือนกัน จากคุณ : Im onair - [ 20 พ.ย. 50 13:17:39 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ซื้ออะไรก็ตาม ดูตัวเองเป็นหลักครับ แต่โดยส่วนตัวแล้วถ้าไม่ทำงานที่เกี่ยวกับการที่ต้องใช้รถ เช่น เป็นเซลล์ติดต่อลูกค้า หรือทำการค้าขาย หรือพูดง่ายๆก็คือมีรถไว้แล้วใช้รถทำงานหาเงินให้เราก็สมควรแล้วครับที่จะซื้อรถก่อนบ้าน                          แต่ถ้าเป็นประเภท ทำงานบริษัท ไม่ได้ไปต่างจังหวัดหรือพบปะลูกค้าบ่อยๆ มีรถแค่ไว้ขับไปที่ทำงาน แล้วจอดไว้เฉยๆตากลมตากฝน พอเลิกงานก็แค่ขับกลับบ้าน ......อย่างนี้ผมว่าควรจะซื้อบ้านก่อนจะดีกว่า                           ต้องแยกให้ออกเลยครับว่าอะไรเป็นหนี้สินอะไรเป็นทรัพย์สิน อย่างเปรียบเทียบง่ายๆบ้านราคา 1,000,000 กับ รถราคา 1,000,000 เข้าไฟแนนท์เหมือนกัน คุณจะผ่อนบ้านในราคาที่ถูกว่าเพราะการผ่อนบ้านจะเป็นแบบการลดต้นลดดอกไปในตัว ในขณะที่รถยนต์ดอกเบี้ยเท่ากันทุกปี              สมมติว่าคุณผ่อนบ้านไป 5 ปี ครบ 5 ปีบ้านยังมีราคาที่สูงกว่าตอนที่เราซื้ออีกนะจะบอกให้ อย่างผมนี้บ้านราคา 1ล้านกว่าๆรวมดอกเบี้ย ตอนนี้ราคาพุ้งไปที่ 1.3-1.4แล้วครับ แต่ถ้่าเป็นรถ OK คุณจะโก้ได้เพียง 3-4 ปี แล้วสัจธรรมก้จะบังเกิดกับตัวคุณ รถที่คุณใช้ก็จะเริ่มเสื่อมสภาพ บางคนเกียร์เสียซ่อมเป็นแสน หรือไอนู้นไอนี้เสีย ไม่รวมค่าน้ำมันที่คุณจ่ายไปทิ้งเปล่าๆเพราะทุกวันนี้ราคาน้ำมันแพง พอตกรุ่นคุณก็จะเริ่มเซ๊ง ก็เริ่มจะคิดขายต่อ ....ทีนี้หละครับคุณก็จะช่ำใจอีกครั้งเมื่อรถที่คุณรักตอนซื้อมาราคาเป็นล้าน พอขายราคาไม่ถึงครึ่งของที่จ่าย ..หายโก้ไปเลยละทีนี้ เท่ากับว่าถ้าคิดจะซื้อรถในระยะยาว มีแต่เสียเป็นแสนๆเลย......             บางคนก็จะบอกว่าบ้านอยู่ไปเดี๋ยวก็โทรม จริงแล้วถ้าเราดูแดดีมันก็ไม่โทรมมากหรอกครับ แถมเวลาที่เราต้องซ่อมแซมค่าใช้จ่ายก็ไม่มากหรอกรับ ซ่อมรถพูดตรงๆยังเสียแพงกว่าอีก ..ตรงนี้ต้องคิดให้ดีๆนะครับ             สรุป ยังไงซะถ้าซื้อบ้านก่อนผมว่าก็ดีกว่าซื้อรถนะ ถ้าคุณพึ่งเริ่มต้นชีวิตการทำงาน เพราะบ้านยังไงซะก็ให้ที่พักพิงแก่เรายามเราทำงานเหนื่อยๆ รถนั้นเชื่อผมเถอะขับๆไปเดี๋ยวก็ตกรุ่น ยิ่งนานก็ยิ่งกลายเป็นเศษเหล็ก ถ้่คุณรับได้ที่จะใช้รถเก่าๆไปก็ไม่ว่า แต่ถ้ารับไม่ได้ทำไงหละ ก็ขายแล้วก็เป็นหนี้กํบรถใหม่ๆที่คุณคิดว่าโก้   ........แล้วมันก็เป็นหนี้ไม่รู้จักจบจัยสิ้นซะที  ในขณะที่บ้าน ต่อให้ผ่านไปนานแค่ไหนราคามันก็ไม่ตก           ดังนั้น ผมว่าซื้อบ้านก่อนรถดีที่สุดครับถ้าคุณเริ่มต้นชีวิต.............เพราะอย่างน้อยบ้านก็เป็นอะไรที่เราภูมิใจสร้างมากับมือเรา มั่นคงกว่าในระยะยาวครับ จากคุณ : giftsee_a - [ 20 พ.ย. 50 13:23:29 ]

ความคิดเห็นที่ 40 แล้วแต่ความจำเป็นจริงๆครับ ใจผมอยากได้รถที่สุด แต่ตอนนี้ไปจองบ้านแล้ว ^_^ เรามีบ้านเป็นของตัวเอง บ้านสามารถเอามาเล่นอะไรได้อีกเยอะครับ ไม่มีเงินก็เอาบ้านเข้าได้ ราคาก็ไม่ตก รถซื้อ มือสอง ถูกๆก็พอ จากคุณ : redskipper - [ 20 พ.ย. 50 13:37:14 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ได้สมบัติเก่ามา 1 หลัง จากแม่แฟน เป็นบ้านชั้นเดียว แต่ทำเลไม่ค่อยดี พอมีลูกก็เลยขยับขยายซื้อบ้านเดี่ยว หลังใหญ่หน่อย ทำเลดี อยู่ใกล้แม่ตัวเอง ไหว้วานให้แม่ดูลูกตอนลูกเลิกเรียน หรือเรากลับบ้านดึกได้ รถยังไม่ได้ซื้อเพราะทุ่มเงินซื้อบ้านไปหมดแล้ว อีกหลังก็ให้เค้าเช่าไป ไปใหนมาใหนก็ขับมอเตอร์ไซค์ ไม่ลำบากมาก ประหยัดน้ำมัน ไม่ทำให้รถติดอีกต่างหาก วันใหนอยากได้รถจริงๆ อาจจะขายหลังเก่า ตอนนี้พอใจอยู่เท่านี้ครับ แต่ที่ไม่พอใจเท่าไหร่ คือคนที่มีรถ แต่ไม่มีที่จอด ชอบมาจอดขวางหน้าบ้านคนอื่น ทำให้เค้าเข้าออกลำบากนี่แหละ ตอนอยู่หลังเก่าเจอบ่อยมากๆ เพราะซอยแคบ แต่อยู่ที่ใหม่ไม่มีแล้ว ซื้อบ้านหลังนี้เพราะถนนมันกว้างนี่แหละ ปล. บ้านเราจอดรถได้ 2 คัน ...แต่ไม่มีรถให้จอดซักคัน 55..5 จากคุณ : Joey_AJ - [ 20 พ.ย. 50 13:51:03 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ใหม่ผ่อนเด๋วก็หมด หมดแล้วเด๋วก็เก่า เก่าแล้วก็ซ่อม ซ่อมไม่ไหวก็หาใหม่ ใหม่ผ่อนเด๋วก็หมด หมดแล้วเด๋วก็เก่า เก่าแล้วก็ซ่อม ซ่อมไม่ไหวก็หาใหม่ ใหม่ผ่อนเด๋วก็หมด หมดแล้วเด๋วก็เก่า เก่าแล้วก็ซ่อม ซ่อมไม่ไหวก็หาใหม่ ใหม่ผ่อนเด๋วก็หมด หมดแล้วเด๋วก็เก่า เก่าแล้วก็ซ่อม ซ่อมไม่ไหวก็หาใหม่ ใหม่ผ่อนเด๋วก็หมด หมดแล้วเด๋วก็เก่า เก่าแล้วก็ซ่อม ซ่อมไม่ไหวก็หาใหม่ ใหม่ผ่อนเด๋วก็หมด หมดแล้วเด๋วก็เก่า เก่าแล้วก็ซ่อม ซ่อมไม่ไหวก็หาใหม่ ใหม่ผ่อนเด๋วก็หมด หมดแล้วเด๋วก็เก่า เก่าแล้วก็ซ่อม ซ่อมไม่ไหวก็หาใหม่ ใหม่ผ่อนเด๋วก็หมด หมดแล้วเด๋วก็เก่า เก่าแล้วก็ซ่อม ซ่อมไม่ไหวก็หาใหม่ ใหม่ผ่อนเด๋วก็หมด หมดแล้วเด๋วก็เก่า เก่าแล้วก็ซ่อม ซ่อมไม่ไหวก็หาใหม่ อ่ะตังค์หมด แก่แล้วด้วย สุดท้ายไม่เหลืออะไรนอกจากรถเก่าๆ แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 50 14:24:57 จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน - [ 20 พ.ย. 50 14:23:30 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ต้องใช้รถทำงาน จากคุณ : iamfluke - [ 20 พ.ย. 50 14:40:45 ]

ความคิดเห็นที่ 44 จริงๆอิจฉา คนมีบ้าน มีครอบครัวนะ เรามันอยู่กับที่ได้ไม่นาน ต้องชีพจรลงเท้าไปเรื่อยๆ ก็เลยต้องเลือกรถ ไว้ก่อน จากคุณ : Cc. - [ 20 พ.ย. 50 15:09:53 ]

ความคิดเห็นที่ 45 รถใช้ทำงาน บ้านใช้นอน หากจะซื้อบ้านก่อนรถคงต้องเลือกบ้านที่ก่อให้เกิดงานได้ ครับ จากคุณ : hotel california (hotel california) - [ 20 พ.ย. 50 15:13:30 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ของแบบนี้ไม่มีสูตรตายตัวครับ บางคนนั่งรถเมล์ไปทำงานสบายๆ ถ้าให้มาซื้อรถก่อน ก็คงไม่ make sense แต่ถ้าต้องใช้รถวิ่งทำงานหาเงิน จะปล่อยให้โอกาสในการทำกินหายไป เพราะติดข้อจำกัดว่าต้องมีบ้านก่อน ก็คงไม่ make sense เช่นกัน หรืออีกมุม บางคนมองว่าบ้านเป็นสินทรัพย์ระยะยาว ไม่เสื่อมค่า ส่วนรถนั้นซื้อมาปุ๊บ ก็เสื่อมค่าปั๊บ บางคนมองว่าบ้านผ่อนเป็นชาติกว่าจะหมด แถมโดนดอกเข้าไปรวมแล้วก็เป็นเกือบเท่าตัวของราคา แต่รถมันไม่เท่านั้น ผ่อนกันสี่ห้าปีก็หมด ดอกแค่หลักแสน นานาจิตตังครับ ไม่มีใครผิดหรือถูก จากคุณ : iNFeRNaL - [ 20 พ.ย. 50 17:15:42 ]

ความคิดเห็นที่ 47 อ่านแล้ว อยากเรียนจบไวๆแล้วทำงานหาเงินให้ได้บ้านได้รถแบบพวก พี่ๆบ้างจัง แต่ก็น่าคิดเนอะเอาไหนก่อนดี บ้านรอแม่โอนให้รถสมัยนี้ถ้าไม่มีก็ลำบาก ค่ารถเมล์รถมอไซค์วินก็แพงเอาการ มีบ้านก็ยังต่อยอดได้ แต่ละท่านมีมุมมองที่ให้ข้อคิดดีจังแต่อ่านไปอ่านมาก็ สับสนตัวเอง555+ เพราะมันจำเป็นทั้งคู่เลยงะ มั้ง จากคุณ : รักคนเขียนให้อ่าน - [ 20 พ.ย. 50 17:19:33 A:61.7.145.8 X: TicketID:157433 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เพราะบ้านใกล้ทีทำงานไม่มีปัญญาซื้อ ต้องซื้อบ้านไกลออกไป ถ้าซื้อบ้านก่อน  แล้วจะมาทำงานลำบากมาก ให้นั่งรถ 3-4 ต่อมาทำงาน  ก็ม่ายไหว อีกอย่างบ้านมันผ่อนกันยาว เกือบครึ่งชีวิต ถ้าไม่ได้ที่ชอบจริงๆ ก็รออีกนี๊ดดีกว่า จากคุณ : Makit - [ 20 พ.ย. 50 17:50:36 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ซื้อรถก่อนครับ เพราะตอนนี้ตัวคนเดียว ไม่มีภาระอะไรมากนอกจาก พ่อแม่,รถ และห้องเช่า สายงานก็มองว่าอนาคตดี รายได้ตอนนี้ก็พอประมาณ ถึงแม้จะเอามาตากแดดตากลม แต่มันก็ทำให้ชีวิตเรามีความสุข ได้ใช้มันพาเราไปเที่ยว ทำให้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้น เพราะเิกิดมาทั้งที มีช่วงชีิวิตนึงที่เราจะต้องตักตวงความสุขให้กับตัวเราเองก็คือช่วงนี้แหละ หลังจากนี้คงจะต้องทำงานเก็บเงินมาซื้อบ้าน ดูแลครอบครัว เพราะมันคงเป็นค่าใช้จ่ายระยะยาวมาก ชีวิตเราก็มีชีวิตเดียว ทำให้ตัวเองมีความสุขแบบไม่เดือดร้อนคนอื่น น่าจะดีนะครับ อย่าไปซีเรียสกับชีวิตให้มากนัก จากคุณ : ^oio^ - [ 20 พ.ย. 50 17:54:53 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เห็นด้วยกับ 39 และ 42 จากคุณ : tunedbypae - [ 20 พ.ย. 50 19:47:35 ]

ความคิดเห็นที่ 51 1 อายุยังน้อยค่ะ ยังเรียนไม่จบ...(จะจบปีนี้ละ) 2 รถที่บ้านซื้อให้ค่ะ เพราะมันจำเป็นจริงๆ อย่างเช่นเวลาต้องไปฝึกงานต่างจังหวัดเป็นต้น 3 คงไม่ได้ซื้อบ้านเร็วๆนี้แน่ค่ะ เพราะ         3.1 อยู่บ้านพ่อแม่ก็ดีอยู่แล้ว บางหลังไม่มีใครอยู่ด้วยซ้ำ(ที่บ้านย้ายที่ทำงานบ่อยค่ะ)         3.2 อนาคต 6-7 ปีถัดไป ยังไม่แน่เลยค่ะ ว่าจะได้ไปทำงานต่อที่ไหน ได้ไปเรียนที่ไหน และได้ไปอยู่ถาวรที่ไหน (ดูล่องลอยเนอะ) จริงๆอยากกลับบ้านไปทำงานอยู่ใกล้ๆกะพ่อแม่ค่ะ แต่รัฐบาลไม่อำนวย จากคุณ : สูงสุดสู่สามัญ - [ 20 พ.ย. 50 20:12:04 ]

ความคิดเห็นที่ 52 อยู่กับพ่อแม่ จากคุณ : หัวหอม++หัวเหม็น - [ 20 พ.ย. 50 20:33:13 ]

ความคิดเห็นที่ 53 คนสมัยนี้ ซื้อรถก่อนบ้าน ทั้งนั้นแหละครับ เพราะรถเปลี่ยนได้เรื่อยๆ แต่บ้านอยู่กันนานๆ จากคุณ : BaLL182 - [ 20 พ.ย. 50 20:54:31 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ซื้อรถก่อนคับ ไว้หาเงินเพื่อมาซื้อบ้านอีกที รถเป็นบททดสอบแรก เพื่อดูว่าคุณมีความสามารถในการซื้อบ้านรึเปล่า ถ้าสอบบทแรกไม่ผ่าน บทที่สองก้อสอบตกอยู่แล้วคับ บ้าน ยากกกกกกก กว่ารถเยอะมากคับ ยากกว่าเกือบ 10 เท่า จากคุณ : ผมรู้คุณก็ใช้ - [ 20 พ.ย. 50 20:58:26 ]

ความคิดเห็นที่ 55 step เรา : - เรียนจบ - ทำงาน ทำงาน ทำงาน และเก็บเงิน - ซื้อรถป้ายแดง เพราะไม่มีความรู้เรื่องซ่อม ดูแลรถ - อยู่บ้านกะพ่อแม่ เลยไม่เดือดร้อน เรื่องนี้เท่าไหร่ - ใช้รถที่ซื้อมา ทำงาน ทำงาน ทำงาน หาเงินจนผ่อนหมด - เก็บเงินก้อนหนึ่ง กำลังซื้อบ้าน - เก็บเงินอีกก้อน อยากเรียนต่อโท ต้องวางแผนชีวิตพอสมควร โชคช่วยนิดหน่อย เหนื่อย .. แต่ภูมิใจค่ะ ^^ จากคุณ : believe - [ 20 พ.ย. 50 21:17:56 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ทำไม รถ 1 ล้าน ผ่อนแค่ 4 ปี ทำได้ แต่บ้าน 1 ล้าน กลับต้องผ่อน 20 ปี ถ้าจะผ่อนแค่ 4 ปีทำไม่ได้หรือ จากคุณ : เหินหาว (เหินหาว) - [ 20 พ.ย. 50 22:15:30 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ประสบการณ์ตรง เพื่อนผม ปัจจุบันผ่อนรถ 2 คัน ซีรี่ย์ 3 ตัวใหม่กับซีวิคโฉมปัจจุบัน ผ่อนเดือนละ 50,000 โบนัสออกแต่งบีเอ็มไปสี่แสน ให้แม่ใช้เดือนละสองหมื่น ที่เหลือใช้ส่วนตัว เพื่อนๆก็ถามว่าทำไมมันไม่ซื้อบ้าน มันบอกว่าอยู่กับแม่น่ะดีแล้ว ซื้อบ้านแม่ก็ต้องอยู่กับมันอยู่ดี ก็เลยตัดใจอยู่บ้านแม่ซะเลย 555 จากคุณ : CaVoK (Kritnsk) - [ 20 พ.ย. 50 23:17:27 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ถ้าจะสร้าง ครอบครัวของตัวเอง ก็ต้องมีบ้านเป็นของตัวเอง หรือที่อยู่ที่เราหาเองได้ตามแต่การเงินของแต่ละคน ถ้าตัวคนเดียว  เช่าหออยู่ก็ไม่มีปัญหา แต่ชีวิตจะไร้จุดหมาย เพราะจุดสุดท้ายของทุกคน คือสร้างความมั่นคง ให้กับตัวเองและครอบครัว มีรถหรูๆไม่ได้สร้างอนาคตให้กับตัวเองเลย(ยกเว้นที่บอกว่าใช้รถหาเงินจริงๆ พวกกระบะ รถตู้ เซล)ไม่นานก็ต้องซื้อรถใหม่อีก อีกพวกที่บอกไว้เพื่อหน้าตาเนี่ยอย่าเอามารวมเลย เพราะถือว่าต้องมีเหลือแล้วจริงๆถึงจะคิดถึงหน้าตา ถ้าไม่เหลือจริงเรียกดันทุรัง สุดท้ายจริงๆแล้วทุกคนย่อมอยากมีบ้านเป็นของตัวเองแน่ๆ แต่การเงินของแต่ละคนไม่เท่ากัน ทำให้ไม่กล้าคิดที่จะไปกู้ ถึงกู้ก็อาจไม่ผ่าน แต่การซื้อรถง่ายกว่ามาก ทั้งๆที่ราคาแทบจะครึ่งนึงของบ้านแล้ว  ก็แล้วแต่คนแหละครับ ผมว่าคนคิดได้ เขาจะซื้อทั้งบ้านทั้งรถ แต่  ซื้อบ้านให้แพงที่สุดที่หาได้(เพราะหมายความว่าทำเลต้องดีต่อไปมีแต่      ราคาขึ้น เป็นการลงทุนอย่างนึง)      ซื้อรถในราคาที่ถูกที่สุดที่จะตอบสนองเราได้(เพราะราคามันลงทุกวัน) จากคุณ : [kv] - [ 20 พ.ย. 50 23:43:37 ]

ความคิดเห็นที่ 59 อาจเป็นเพราะชีวิตโดยส่วนใหญ่อยู่บนท้องถนนมากกว่าอยู่บ้าน แต่ละวันออกจากบ้านไปทำงานแต่เช้ามืด กลับถึงบ้านดึกแล้ว เฉลี่ยใช้บ้านแค่เป็นที่ซุกหัวนอน ไม่ทันไรต้องรีบตื่น ไปทำงานอีกแล้ว  เลยขอเลือกรถที่นั่งแล้วสะดวกสบาย ไม่ใช่แค่นั้น ขอเพิ่มความปลอดภัยอีกด้วยเลยราคาแพงไปอีก แต่ไม่ใช่ว่าเราจะไม่อยากได้บ้านดีๆราคาสูงๆนะคะ อยากได้ค่ะ อยากได้มาก ก็ใช้เจ้ารถคันนี้นี่แหละหาเงิน ผ่อนดาวน์บ้านในฝันอยู่เลย  ต้องเอาทีละอย่างค่ะตามความจำเป็น จากคุณ : ทะเลสีฟ้าจัง - [ 21 พ.ย. 50 00:54:23 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ขับรถราคาเกินล้าน Fortuner <--- ก็ยังไม่ใช่ชื่อตัวเองอยู่ดี ชื่อ ผู้มีพระคุณ เอามาขับ เพราะไม่มีคนขับ แหะๆ ยังไม่มีบ้านเป็นชื่อตัวเอง <--- ไม่รู้จะไปซื้อบ้านที่ไหน มีแต่คอนโดแล้วกัน..ชื่อตัวเอง ที่ดินชื่อตัวเองบ้าง..เล็กน้อยค่ะ จากคุณ : giang_au - [ 21 พ.ย. 50 01:19:26 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ชอบขับรถครับ และจำเป็นต้องใช้รถในการไปทำงาน ส่วนเรื่องบ้าน...อยู่กับพ่อแม่ได้ครับ เลยไม่ดิ้นรน ยังไงบ้าน พ่อแม่ก็ยกให้เราอยู่วันยังค่ำครับ ที่สำคัญทำงาน.ไกลบ้าน  อยู่ที่พัก บริษัทอยู่ฟรีครับ ไม่ต้องจ่ายสักบาท .. เลยเลือกรถครับ จากคุณ : ป๋า...บ้าพลัง - [ 21 พ.ย. 50 04:05:16 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ผมสิครับ ซื้อบ้าน(คอนโด 60 ตร.ม.) ก่อนรถ ผ่อนไปเรื่อยๆ ดอกก็แพง ระยะผ่อนก็ยาาาาาาว พอจำเป็นต้องซื้อรถขึ้นมา บ้านก็ยังผ่อนไม่หมด แถมยังต้องผ่อนรถอีกต่อด้วย แทบตาย ถ้าเป็นไปได้ ผมเลือกรถก่อนดีกว่าครับ เพราะผ่อนได้หมดเร็วกว่าบ้าน ปล. แต่มีบ้าน(คอนโด)ก่อนก็ดีอยู่อย่าง มีที่จอดรถที่แน่นอน ไม่ต้องไปจอดนอกสถานที่ จากคุณ : Aufklarung - [ 21 พ.ย. 50 11:20:53 ]

ความคิดเห็นที่ 63 สำหรับผมซื้อรถก่อนครับ เพราะใช้รถหาเงินได้ รถหมดค่อยหามาซื้อบ้านอีกที จากคุณ : AirCraf[t] - [ 22 พ.ย. 50 18:42:12 ]

ความคิดเห็นที่ 64 รถคือ จิตวิญญาณ ไม่มี รถ ก็ มีแต่ชีวิต ไม่มีจิตวิญญาณ ทำอะไรไม่ได้ อยู่ไปวันๆ .. ดังนั้น ฉันจึง รักรถเท่าชีวิต จากคุณ : My_Aris - [ 23 พ.ย. 50 01:07:07 ]