ความคิดเห็นที่ 1 คนที่ทำงานอยู่ในโรงงานผลิตรถยนต์ก็ตกงานกันทั่วประเทศสิครับ เป็นแสนๆคนนะนั่น จากคุณ : aon035 - [ 21 พ.ย. 50 13:07:36 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าไม่เก็บเลยก็ดีครับ รถจะถูกลงมาก แต่ ... ประเทศไทยจะขาดทุนกะต่างชาติ มากขึ้นอีกจม เพราะว่า จะมีการนำเข้ารถมากกว่าเดิมอีกโขครับผม จากคุณ : สยึมกึ๋ย - [ 21 พ.ย. 50 13:09:13 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ฝันร้ายของชาวกทม จะยืดออกจากแค่เช้าวันจันทร์ กลายเป็น all day all night and every day จากคุณ : นักศึกษาโดนรีไทร์น่าเวทนา - [ 21 พ.ย. 50 13:16:08 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มาสด้า 3 จะเหลือคันละ 2 แสนเอง GT จะเหลือแค่  ไม่กี่ล้านเอง ผมมั่ว  คิดไม่ถูก  แต่รู้ว่าราคารถถูกลงมากๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : ลำไผ่ บ้านท่า - [ 21 พ.ย. 50 13:17:05 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เอาที่พอจะเป็นความจริงได้ ก็ช่วงปี 1995-1996 สมัยนั้นมีนโยบายลดภาษีรถนำเข้า ทำให้มีรถดีๆ คุณภาพสูงกว่าในประเทศเขามามาก แต่เนื่องจากเป็นนโยบายระยะสั้น เลยทำให้รถที่นำเข้าไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร ประกอบกับเกิดเหตุการณ์ปี 2540 ทำให้ระบบต่างๆล้มกันไปหมด เอาเป็นว่าถ้าเกิดทางเลือก เกิดช่องทางแข่งขัน มากขึ้น อย่างไรก็เป็นประโยชน์กับผู้บริโภค แต่แน่นอนผู้ผลิตรถก็ต้องทำงานหนัก แต่ก็ถือว่าเป็นการพัฒนาตัวเอง ซึ่งผมมองว่าเป็นเรื่องที่ดี จากคุณ : ELANTRAnsport - [ 21 พ.ย. 50 13:22:08 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แล้วเราจะได้เห็นรถแปลกๆที่เราไม่เคยได้เห็นเฉกเช่นตอนปี1990 แค่ปรับโครงสร้างภาษีสารพัดสารเพรถต่างแดนทะลักทะลวงเข้ามาเพียบไม่ว่าจะเป็นฮอนด้าพรีลูด โตโยต้าMR-2 โอเปิ้ลคาลิบร้า โตโยต้าเซร่า หรือแม้แต่BMW e36 325Iทำเครื่องเพื่อขายประเทศไทยโดยเฉพาะ เพื่อให้ผ่านด้านราคา จากคุณ : เหล่านั้งเคียวห่วย - [ 21 พ.ย. 50 13:36:36 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าจะทำต้องมีกฏหมายที่ใช้ร่วมกันหลายข้อครับเช่น - กำหนดอายุการใช้รถ - เก็บเงินค่าเข้าพื้นที่ส่วนในของกรุงเทพแบบสิงคโปร์ - ค่าภาษีต่อปีสูงขึ้น - จำกัดจำนวนรถจดทะเบียนของแต่ละบุคคล ถึงจะจำกัดจำนวนรถในท้องถนนได้ จากคุณ : kiatte - [ 21 พ.ย. 50 13:44:51 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อาจจะเห็น M-B E class, BMW 5 Series, Audi A6 เป็นรถแท๊กซี่เต็มบ้านเต็มเมือง เหมือนกับ Toyota Limo ได้ จากคุณ : Schwedenkreuz - [ 21 พ.ย. 50 13:56:35 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ตาม 4 แยก จะมีรถชนกันมากขึ้น เบนซ์ ชนกะเฟอร์รารี่ เร้นท์โรเวอร์ ชนกะ พอร์ท R8 ชนกะ ซีรี่ย์ 7 ลัมโบ ชนกะลัมโบ  5 5 5 จากคุณ : FOXTROT - [ 21 พ.ย. 50 14:02:05 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ถนนกลายเป็นที่จอดรถ จากคุณ : ระกา69 - [ 21 พ.ย. 50 14:10:11 A:125.24.85.161 X: TicketID:160481 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ..... เป็นๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เป็นไปไม่ด้ายยยยยยยยยยยยยยยย ..... จากคุณ : นายสมถุย - [ 21 พ.ย. 50 14:35:08 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นด้วยกับความเห็น เจ็ด มากๆ จากคุณ : A.R.T. - [ 21 พ.ย. 50 15:03:05 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อย่างนี้ก็ดีเลย จะได้ชนมอ'ไซค์โง่ๆ แถวห้าแยกวัชรพล รามอินทรา แบบไม่ต้องเสียดายรถ เป็นอะไรกันก็ไม่รู้ ชอบฝ่าไฟแดงดีนัก (แค่คิดนะ) จากคุณ : หนุ่มเมืองเพชร (หนุ่มเมืองเพ็ด) - [ 21 พ.ย. 50 16:01:14 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ...ไม่เป็นไรหรอกมั๊ง กทม ไม่ใช่ ประเทศไทยเป็นแค่ จ.หนึ่ง ผมไปอยุ่ บ้านเกิดผมก็ได้ ... จากคุณ : ZANIKU - [ 21 พ.ย. 50 16:19:20 ]

ความคิดเห็นที่ 15 แค่นี้กรุงเทพก็รถติดจนเวลาเข้าเมืองทีต้องเดินทาง ด้วยสารพัดวิธีการแล้วค่ะ ถ้าเป็นอย่างนั้นตายแน่ ไม่ไหวคุณภาพชีวิตแย่มาก หนึ่งในสาเหตุหลักตอนนี้ก็เพราะปริมาณรถที่ไม่สอดคล้องกับ พื้นที่ถนนนี่แหละ ว่าแล้วก็ขอให้ขับรถคนเดียวน้อยๆ ลงหน่อยก็ดี รับโดยสารคนอื่นไปด้วย ช่วยชาติๆ จากคุณ : ริมยมนา - [ 21 พ.ย. 50 16:27:50 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ประเทศไทย อิ๋บอ๋ายทันที ขาดดุลการค้าบักโกรก จากคุณ : REX-REX - [ 21 พ.ย. 50 16:46:59 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เกิด หิมะตกในไทย จากคุณ : Hallza - [ 22 พ.ย. 50 02:05:55 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ผมก็จะได้มีเฟอร์รารี่ขับกับเขาซักที สอง-สามล้านก็ซื้อได้แล้ว จากคุณ : [STYX] - [ 22 พ.ย. 50 07:30:00 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ประเทศก็จะล้มจมไงครับ เงินไหลออกนอกประเทศหมด ใจผมก็อยากให้มัน 0 เปอร์เซนต์ แต่ถ้ามองเรื่องการขาดดุลการค้า ปล่อยมันไปอย่างนี้แหละ จากคุณ : Climate change - [ 22 พ.ย. 50 17:19:25 A:124.179.120.38 X: TicketID:073233 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เกิดแล้วตายอีกหลายชาติ คงไม่ได้เห็นหรอกครับ ผลประโยชน์ทับซ้อนมันเยอะ ตั้งแต่ รัฐมนตรี เรื่อยมา จนมาถึงผู้ผลิตบางราย ที่เอาเปรียบคนไทยมานาน คงไม่ยอมหรอกครับ เพราะเค้าต้องเสียผลประโยชน์ ที่ได้หลอกกินเงินภาษีฟรี ที่คนไทยไม่รู้อีกหลายคนว่า เราจ่ายภาษี ให้รัฐ แต่จริงๆ ใครจะรู้เบื้องลึกบ้างว่า แท้จริงแล้ว เราจ่ายแพง กว่าสองเท่า สามเท่า ให้กับคนกลุ่มนึง เท่านั้น และเงินส่วนน้อยเท่านั้นถึงจะเข้ารัฐจริงๆ ดังนั้นผมจึงว่า ตายอีกหลายชาติก็ไม่ได้เห็นครับ เพราะคนกลุ่มนั้นคงไม่ยอมคายอ้อยที่อยู่ในปากหรอกครับ          เราคนไทย ก็ต้องก้มหน้าก้มตาซื้อรถแพงต่อไป ไม่มีทางจะได้เห็นรถราคาถูกในบ้านนี้เมืองนี้กันหรอกครับ นอกเสียจากคุณจะเป็นผู้นำรัฐบาลคนใหม่ หรือ ได้ยกทีสส แล้วเปลี่ยนกฏหมายเข้าไป แก้ไขเรื่องภาษี 0 % แบบที่คุณว่า คุณถึงจะได้เห็น ความเป็นจริงแล้ว ถ้าคุณเป็นคนกลุ่มนั้น คุณก็คงไม่อยากเสียผลประโยชน์ในมือ เป็นพันล้าน หมื่นล้าน แน่ เงินไม่เข้าใครออกใคร ใช่มั๊ยครับ จากคุณ : bokenger - [ 22 พ.ย. 50 18:12:51 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ความเห็นของผม ค่ารถรวมภาระภาษีสูงมาก ภาระตกไปสู่ ประชาชน ซึ่งต้องทำงาน และ เมื่อตัดสินใจมีรถ เมื่อกำลังการชำระเงินมีจำกัด ก็ต้องพึ่ง ไฟแนนซ์ ซึ่งเท่ากับ ขอให้ประชาชน จ่ายเงินเป็นแสนๆ บาทต่อรถหนึ่งคัน โดยจ่ายดอกเบี้ยให้กับไฟแนนซ์ ซึ่งเป็นเงินสูงมาก ซึ่งปัจจุบัน สถาบันการเงิน ถือหุ้นโดย คนกลุ่มหนึ่ง การประกันภัย ถือหุ้นส่วนใหญ่โดยคนกลุ่มหนึ่ง รัฐบาลหลายสมัย ก็นำเงินภาษีไปใช้ลงทุนสิ่งต่างๆ ถนน สะพาน ป้ายบอกทาง ซึ่ง การสร้างป้ายบอกทางในกรุงเทพฯ คนกรุงชื่นชมการจัดการทางเดินรถเหล่านี้อย่างไร ขับรถอยู่ทุกวัน เราก็รู้ดี การทำถนน แยกกลับรถ และสาธารณูปโภค ไฟฟ้า ตำรวจจราจร การจัดการมลพิษอากาศ คนกรุงเราอาศัยดำเนินชีวิตอยู่ทุกวัน เราก็รู้ การเดินทางไป ตจว ถนนทางหลวง เลน ซ้าย กลาง ขวา ก็เห็นอยู่ คุณภาพถนนกับการใช้ความเร็ว เวลานี้ ตำรวจก็นิยม ยิงเรดาร์กัน ได้กันคันละ 400 อยู่แล้ว การเดินทางโดยรถเมล์ รถตู้ รถสองแถว มอเตอร์ไซด์ การข้ามถนน ทุกวันนี้ มันสุดยอดแค่ไหน รัฐเคยสำรวจความคิดเห็น และปรับปรุงอย่างเป็นระบบจริงจังจนถึง ระดับเป้าหมาย ที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตบนถนน สู่ระดับเดียวกับเมืองในประเทศพัฒนาแล้วอย่างไรครับ การภาษีเก็บรถแพง ตามแนวคิด ดึงเงินคนที่มีกำลังซื้อ เพื่อ ช่วยนำภาษีไปสู่มวลชนในสังคมร่วมกัน ขอพูดในฐานะ ใช้ชีวิตอยู่ ตปท มาก่อน ว่า เราเกินเยียวยาไปมาก รถ ตปท ราคาต่ำ แต่ประชาชน เลือกใช้ รถไฟฟ้า เพราะรวดเร็วกว่ามาก แต่ ในเมืองไทย ถนนหนึ่งสาย ถูกสร้างตามแนวคิดวิศวกรรมความปลอดภัยทางเดินรถ ใช้เงินภาษีมากมาย โดยเก็บจาก คนใช้รถ แต่ต้องตอบสนอง เลนซ้ายสุดต่อ กลุ่มอิทธิพลแต่ละเขต ในการจอดมอเตอร์ไซด์รับจ้าง ทั้ง รถสองแถวสัมปทาน และ รถวิ่งเถื่อน รถตู้ที่ป้ายรัฐ และป้ายดำ รถจอดเพื่อซื้อของร้านค้า คนขายของเดินเท้า และ คนที่ต้องมาเดินบนถนน เพราะทางเดินเท้ามีแต่แผงขายของ เลนที่เหลือ คือ รถติด รถช้าวิ่งขวา และอื่นๆ ดูเหมือนผมตอบยาวเยอะ แต่จริงๆ แล้วปัญหาหนักกว่านี้เป็นล้านเท่า การเก็บภาษี เรื่องรถนี้ ชัดเจนในมุมมองของผมว่า ผิดวัตถุประสงค์ มานานแล้ว ไม่มีความยุติธรรมกับคนที่จะซื้อ เนื่องจาก ปัจจัยกล่าวถึงการออกแบบรถนั้นซับซ้อน แต่เพียงแค่ประเด็นทางการออกแบบวิศวกรรมเรื่องเดียว ว่า รถขับหน้า กับ ขับหลัง ราคาก็แตกต่างกันมากมายแล้ว รถกระบะแน่นอนว่าปลอดภัยสู้รถเก๋งไม่ได้ ระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ก็เช่นกัน และรถประกอบในประเทศ ความเป็นจริง ก็ต้องยอมรับว่าถูกตัดออปชั่นและคุณภาพวัสดุไป ด้วยทั้งหมดที่กล่าวมา ผมขอสรุปย้อนกลับไปตอบ จขกท ว่า หากลด ภาษีเหลือ 0% กับรถนำเข้า คนส่วนใหญ่จะเลือกรถที่ยี่ห้อดังตอนแรกเพื่อภาพลักษณ์สังคม แล้วเมื่อชินกับการขับรถภาพลักษณ์แล้ว ก้อจะหันมาใช้รถเพื่อสนองจุดประสงค์การทำงานและความปลอดภัยมากที่สุด ดังนั้น รถประกอบนอก คนจะเห่อแบรนด์ ต่อ รถที่ไม่สนองความต้องการผู้ใช้ได้เต็มที่ น้อยลง ซึ่งจะทำให้รถประกอบในประเทศ หมดช่องว่าง เอากำไรอย่างที่เป็นอยุ่ตอนนี้ เพราะต้องแข่งการประกอบให้สู้ รถนำเข้าได้ และ ถือข้อได้เปรียบจากการขนส่งที่ประหยัดกว่า ดังนั้น รถประกอบใน คุณภาพจะดีขึ้น ในระดับราคาที่เขยิบสูงขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่ รัฐ จะสูญเสียรายได้มหาศาล นิยามที่ว่าเพื่อป้องกันการจ้างงาน และ อุตสาหกรรมผลิตรถในประเทศ เป็นคำสวยหรูที่ คนมีการศึกษา ใช้ เพื่อคงรายได้มหาศาลนั้นไว้ครับ จะลบล้างสมมติฐานนี้ ต้องเอาตัวเลขมายันดู ว่า แล้ว รถประกอบนอก นำเข้ามา ค่าขนส่ง ค่าสต้อค ค่าต้นทุนอีกเป็นพันรายการ จะจบราคาที่ไม่คิดภาษีนำเข้า ไว้ที่เท่าไหร่ และ ระยะเวลาการได้รถ กับ ดีมานด์สั่งซื้ออีก การส่งมอบรถเดี๋ยวนี้ คนซื้อจะเอาวันที่ไปเลือกที่โชว์รูมด้วยซ้ำไป ดังนั้น ผมสรุปว่า เรื่องนี้ เพื่อรัฐจะได้คงมหาศาลไว้ แล้วเอาเงินไปใช้วัตถุประสงค์อื่น ที่เงินส่วนใหญ่ไม่ได้เกี่ยวกับ การดำเนินกิจการเดินรถเพื่อมวลชน และ/หรือ นำไปใช้เพื่อพัฒนาให้ชีวิตคนในสังคมดีขึ้นจาก ส่วนเสียหายที่เกิดขึ้นจาก การเดินรถทุกวันนี้ของประเทศ สิ่งที่วิเคราะห์นี้ คือ อดีตข้อเท็จจริงที่ทำไว้เห็นชัดแจ้งจนถึงปัจจุบัน ส่วนปัจจุบันและอนาคต รัฐกำลังทำอะไร ผมไม่รู้ทั้งหมด และไม่วิจารณ์ครับ เกี่ยวกับ หลายความเห้นว่า คนจะออกรถเยอะเต็มเมือง ขอแย้งไว้นะครับ เพราะผมคิดนอกกรอบ บอกว่ารถเต็มเมือง เพราะคนออกรถเยอะน่ะ ผมไม่เห็นด้วยครับ ธรรมชาติของคนเราไม่อยู่กับสภาพแวดล้อมห่วยๆได้นานหรอกครับ เพราะบริษัทในเมือง ให้รายได้และความมั่นคงดีกว่า คนก็เลยต้องเข้าเมือง คนเข้าวัยทำงาน ก็สมควรมีรถ เป็นเรื่องธรรมดา สีลม สาธร สุขุมวิท หรือ จุดอื่นๆ เหล่านี้ ปัญหาคือ เป็นเรื่องของรัฐจัดสรรผังเมือง สำหรับคนทำงานแล้วครับ เหมือนทุกวันนี้ ขอให้คนกลุ่มทำงาน ไปใช้รถไฟฟ้า เขาก็นิยมใช้กัน ปัญหาคือ ไม่ได้คุมผังเมืองให้จริงจังถูกต้องหรือไม่ มากกว่า ไทคูนห้างสรรพสินค้า แต่ละคน เงินหนา เพื่อนนักการเมืองทั้งนั้น ย่านทำเลทองใครมี ก็ปั่นราคา กันไป แล้วผลคือ รถติด เพราะคนแห่ไปทางนั้น เป็นปัญหาเรื่องการจัดการและผังเมืองครับ ไม่ควรโทษประชาชน เพราะทุกวันนี้คนเขาก็ย้ายออกไปอยู่ลำลูกกา บางบัวทอง แล้ว ต้องผลาญน้ำมัน มากมาย วิ่งเข้าไปทำงานที่เดิม ก็เพราะ ความเลวของคนบริหารบ้านเมืองรุ่นพ่อแม่เรานี่ล่ะครับ บริษัทใหญ่ๆ แต่ละตึกมีคนเข้าออกแค่ไหน ก็คำนวนได้หมด ที่จอดรถเท่าใด ก็รู้ ประเมินได้ แต่กลายเป็น พยายามทำทุกทางเพื่อให้ทำเลตรงนั้น คนเข้าออกตึกมากๆ จะได้คิดราคาค่าเช่า พท. ตึกได้มาก ตึกในเมือง จึงมั่วหมด เป็นทั้ง ร้านค้า ร้านข้าว สนง ตลาดนัด ไอทีช้อปปิ้ง และทุกอย่างตราบเท่าที่ทำได้ เราไม่ได้กำลังมีชีวิตที่ดีนะครับ อยู่ใน กทม น่ะ เพราะคนบอกว่ากำลังจัดการ เขาก็บอกว่าทำได้เท่านี้ล่ะ เพราะมันเละมานานแล้ว ดังนั้น ผลที่จะเกิดเมื่อทำให้รถนำเข้า 0% คือ รถดีๆ จะเห็นวิ่งในเมืองตรึม รถไม่ดีจะไปวิ่งรอบนอกครับ รถนำเข้าอยู่รอบนอกคือ จอดอยู่บ้าน ส่วนที่รถติด มันก็ติดเหมือนเดิมน่ะครับ จากคุณ : Mole (Mole) - [ 23 พ.ย. 50 13:49:46 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ว่าด้วยการจ้างงานและการลงทุนนะครับ ต้องคิดว่า รัฐเก็บภาษี เพื่อ นำรายได้มาพัฒนาระบบทางเดินรถสาธารณะ รัฐเก็บภาษี เพื่อ ไปใช้กิจการประโยชน์อื่น รัฐเก็บภาษี เพื่อ อะไร มีรั่วไหลอย่างไร จุดใด เก็บภาษี ที่ รถนำเข้าอย่างโอเวอร์ นี้ ข้อดีคือ ข้อเสียคืออะไร ลดภาษีส่งผลลด demand  คนใช้รถ ซื้อรถ รถประกอบในประเทศ ส่งผลต่อ  การจ้างงาน  การลงทุนปัจจุบัน  การขยายการลงทุน  การส่งออก หรือ อะไร เก็บภาษี 1 เก็บภาษีตัวนี้ ไม่ได้ช่วยให้ เมืองไทยมีระบบจราจร และทางเดินรถ ดีขึ้น ใช่หรือไม่ ( ผมเห็นตามที่ผมตอบเอง ดั่งข้างต้น ) 2 เก็บภาษีตัวนี้ ช่วยขยายการลงทุน และ คงอุตสาหกรรม ฐานการผลิตของต่างชาติไว้ ในประเทศ 3 เก็บภาษีตัวนี้ ช่วยด้านการส่งออก ( ผมว่าไม่เกี่ยวเลย ) ไม่เก็บภาษี 1 ไม่เก็บภาษีตัวนี้ ประชาชน จะได้ทางเลือกที่เหมาะสมขึ้น กับคุณภาพชีวิตจากรถที่ราคาถูกลง ( คิดเป้นกลาง ไม่ได้โลภอยากได้นะครับ ผมว่าจริง ) 2 รถประกอบใน คุณภาพจะดีขี้นในอัตราสูงกว่าราคาที่เพิ่มขึ้น ณ ตอนนี้ ( รถเดี๋ยวนี้ ก็แพงจนจะเอาราคาไปชนตลาดบนหมดแล้ว และราคาอัพทุกโมเดลเชนจ์ด้วย ) 3 อัตราเงินเฟ้อในประเทศสูงเกินไป ต่อเนื่องกัน จนราคารถดิ่งลงมาเทียบกับรายได้แล้ว และราคาน้ำมันก็ถีบตัวสูงมาก การเก็บภาษีแบบนี้ ถือเป็นการเอาเปรียบประชาชนโดยตรงอยู่แล้ว เพราะคนที่ตัดสินใจซื้อบางครั้งมีเหตุปัจจัยจำเป็น แล้วทำไมต้องรับภาระนี้ รวมถึงต้องจ่ายดอกเบี้ยมากมายให้กับสิ่งนี้ ต้องมีสาเหตุประเด็นว่าทำไมต้องเก็บ เพื่อปกป้องอะไร และ เมื่อไหร่จะเลิกเก็บได้ ซึ่งไม่เห็นมีคำตอบ การเลิกเก็บ จะทำให้ตลาดนี้ เสรีมากขึ้น และยกระดับการแข่งขันในประเทศ 4 อาจส่งเสริมให้ เกิดฝีมือแรงงานขั้นสูงขึ้น เพราะวิศวกรรมยานยนต์ค่ายตะวันตก ซับซ้อนและก้าวหน้าได้รับการยอมรับกว่าฝั่งตะวันออกอยู่ระดับหนึ่ง อาจมีการสร้างเครือข่าย อู่ตกแต่ง ปรับแต่งรถ ที่หลากหลาย กว่าทุกวันนี้ 5 ค่าอะไหล่ รถค่ายตะวันตก จะมีราคาสมเหตุผลมากกว่านี้มาก จากคุณ : Mole - [ 23 พ.ย. 50 14:12:54 ]

ความคิดเห็นที่ 23 กรุงเทพฯ จะกลายเป็นลานจอดรถขนาดมหึมา ไง ครับ จากคุณ : Honda (wave_i) - [ วันลอยกระทง 17:04:17 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 25 พ.ย. 50 08:12:41 ]