ความคิดเห็นที่ 1 หนังสือจากกระทรวงพลังงาน 1 จากคุณ : tunedbypae - [ 25 พ.ย. 50 20:09:43 ]

ความคิดเห็นที่ 2 หนังสือจากกระทรวงพลังงาน 2 จากคุณ : tunedbypae - [ 25 พ.ย. 50 20:10:06 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อ้ายเฮียเอ๊ย..มรึงเก็บค่าชดเชยเข้ากองทุนอย่างเดียวไม่ได้ไงฟะ มรึงจะเอาฮาปายถึงหนายไอ้....เฮีย จากคุณ : newjunngam999 - [ 25 พ.ย. 50 20:23:52 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เข้ามารุมด่า จากคุณ : รวยสาหัส - [ 25 พ.ย. 50 20:26:27 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เค้าทำถูกแล้ว แต่คนที่ไม่เข้าใจ มองอะไรสั้นๆ คิดถึงแต่ตัวเอง เท่านั้น ที่คิดว่าเค้าเลว จากคุณ : P_Wut - [ 25 พ.ย. 50 20:40:04 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เค้าจะยกเลิก LPG ไงครับเลยค่อยๆทยอยระงับ จะให้เปิด NGV ให้หมดครับ จากคุณ : MADARAZZZ - [ 25 พ.ย. 50 20:50:18 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เวงกรรมคนไทย ใช้NGVปตทผูกขาดอยู่รายเดียวเดี๋ยวขึ้นราคาเองโกยเองภายหลังประชาชนก็แย่สิ แล้วกำไรก็ไปตกอยู่กับนายทุนในปตทสมัยทักษิณเป็นนายก ไม่รู้ตะกุนใครซื้อหุ้นไว้บ้างเซ็งอ่ะนักการเมือง จากคุณ : แท็กซี่ - [ 25 พ.ย. 50 20:55:42 A:125.25.72.221 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 ยังดีนะที่ศาลท่านไม่ให้ทักษิณไม่เอาการทางพิเศษ การไฟฟ้า การประปา ฯลฯขายหุ้นให้นายทุนจอมชั่วไปด้วย ไม่งั้นคงได้จ่ายค่าน้ำค่าไฟฯลฯให้พวกนายทุนเอากำไรเข้ากระเป๋าสบายๆแน่ๆ เพราะยังไงๆ คนไทยก็ต้องใช้ จากคุณ : แท็กซี่ - [ 25 พ.ย. 50 20:58:45 A:125.25.72.221 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 จม. จากคุณ : mod15 - [ 25 พ.ย. 50 21:03:34 ]

ความคิดเห็นที่ 10 จม.ส่วนหัว จากคุณ : mod15 - [ 25 พ.ย. 50 21:04:23 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ตรงไหน ที่สั่งห้าม อ่านกันรึยังล่ะ จากคุณ : mod15 - [ 25 พ.ย. 50 21:05:34 ]

ความคิดเห็นที่ 12 .คำตอบที่ 18       ในหนังสือไม่ได้ห้ามการเปิดปั๊ม แต่ให้มีการทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ก่อน กรณีนี้สืบเนื่องมาจากการขอเปิดปั๊มแก๊สที่อ.บางละมุง ที่มีการประท้วงเพราะคนสร้างข้ามขั้นตอน ไม่ขออนุญาต ก่อสร้าง ไม่ทำประชาพิจารณ์ ประกอบกับการเสียประโยชน์ของเจ้าของปั๊มเก่าที่ตั้งอยู่ก่อน ทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นมา แต่ในหนังสือวรรคแรกบอกไว้น่าเกลียดมาก ที่ว่าการใช้แก๊ส lpg ในรถยนต์เป็นการใช้ที่ไม่ถูกต้องและคุ้มค่า การที่เราใช้แก๊สที่ในประเทศเราผลิตได้เองโดยไม่ต้องไปพึ่งน้ำมันที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ มันไม่ถูกต้อง และไม่คุ้มค่าตรงไหน ^ ^ ข้อความจากลิงค์ที่ จขกท.เอามา แก้ไขเมื่อ 25 พ.ย. 50 21:13:22 จากคุณ : mod15 - [ 25 พ.ย. 50 21:09:36 ]

ความคิดเห็นที่ 13 นิยามของปิยะสวัด - NGV พลังงานภาคบังคับ - LPG พลังงานที่น่ารังเกียจ จากคุณ : tigerpoll - [ 25 พ.ย. 50 21:34:27 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ช้าไปแล้วมั้งครับ ในเมืองชลบุรีเปิดต้องหลายปั๊มแล้ว แต่จะออกนอกเมืองไปนิดๆ แต่ก็ไม่ถึงกะไกลมาก ลูกค้าตรึม!!!!!!!! จากคุณ : dowsuk - [ 25 พ.ย. 50 21:43:07 ]

ความคิดเห็นที่ 15 โดยหลักแล้ว NGV เหมาะในการใช้กับรถมากกว่า LPG นะครับ ในด้านเทคนิคดีกว่า LPG หมดทุกอย่าง ยกเว้น จุในถังได้น้อยกว่า จากคุณ : ปังปอนด์ป่วน - [ 25 พ.ย. 50 21:46:42 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ^ ^ อธิบายให้เป็นหลักวิชาการหน่อยได้มั๊ย จากคุณ : mod15 - [ 25 พ.ย. 50 21:50:33 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ก็LPG พี่เค้าจะส่งออกนอก ราคาดีกว่า ได้ราคาตลาดโลก ขายคนในประเทศราคามันถูกไปไม่คุ้มค่าไงครับ จากคุณ : อาชาสีหมอก_offer - [ 25 พ.ย. 50 21:51:57 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คุณ p_wut ทำงานอยู่ในธุรกิจพลังงานใช่มัยครับ ถ้าใช่ช่วยอธิบายนิดนึงว่าข้อดีข้อเสีย ระยะยาวของการที่คนไทยจะโดนผูกขาดการขาย NGV โดยบริษัทเดียวมันจะมีผลดีอะไรกับประเทศชาจิและประชาชนบ้าง จากคุณ : NAN_KUNG - [ 25 พ.ย. 50 21:52:25 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ผมว่าลอยตัว LPG ไปเลยซะก็ดี ไม่แฟร์กับคนใช้น้ำมันที่ต้องเอาเงินไปอุ้ม จากคุณ : KhunGong - [ 25 พ.ย. 50 22:13:25 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ผมสนแค่นี้ครับ - ถังไหนจุเยอะกว่า - ถังไหนหนักกว่ากัน LPG/NGV - อันไหนถูกกว่าในระยะยาว - ค่าติดตั้ง อันไหนถูกกว่า - ณ ตอนนี้ และแนวโน้ม ต่อไปอีก 6 เดือน  อันไหนแพงกว่ากันครับ ขอแค่นี้พอแล้วครับ  เท่าที่อ่านๆ ใน นสพ. ต่างๆ ไม่เห็นมันจะบอกไว้เลย  บอกแต่ ผักบุ้งอะไรไม่รู้  อยากทราบแค่นี้ครับ  ขออนุญาตรบกวนเจ้าของกระทู้และท่านผู้รู้ท่านอื่นๆด้วยนะครับ ผมคนใช้ครับ  ไม่อยากให้ ปตท./รัฐบวม/รัฐ ทำมะนวยหัวควน มาคิดแทนคนใช้  ครับ จากคุณ : NuyPond - [ 25 พ.ย. 50 22:35:47 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อ่านจดหมายกันดีๆครับ และขอเข้าใจหัวใจของคนมีบ้านติดปั๊ม LPG ด้วยนะครับ ถ้าให้เลือกซื้อบ้านที่ราคาเท่ากัน คุณคงไม่เลือกหลังที่ติดปั๊ม LPG จากคุณ : A31 - [ 25 พ.ย. 50 22:39:29 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ลอยตัว LPG ก็ตายกันลูกเดียวละงานนี้  แค่ระงับไม่เอาเงินจากกองทุนน้ำมันไปอุดหนุน 1.29 บาทต่อ กก. แม่ค้าข้าวแกงปากซอยก็จ้องจะขึ้นราคาจานละ 5 บาทแล้ว ( ราคา LPG ในประเทศ 300 เหรีญกว่าๆ ส่งออก 600 เหรีญกว่าๆ ต่อตัน ถ้าปลอยลอยตัวไม่ขึ้นไปอีกเท่าตัวเลยหรือ  ) ถ้าแก้ให้ตรงจุดไปลดค่าการตลาดของปั๊มแก๊ส  3.567 บาทต่อลิตรลงดีกว่า  ได้กำไรน้อยก็คงไม่มีปั๊มใหม่ๆเกิดขึ้นหรอก จากคุณ : r1sph - [ 25 พ.ย. 50 23:24:27 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอตอบคห.18 นะครับ ก่อนอื่น ผมขอบอกก่อนว่า ผมไม่ได้ทำงานในสาขาพลังงานครับ ผมทำงานสายปิโตรเคมี - สายพลังงาน เอาปิโตรเลียมไปกลั่นไปแยกให้ได้เป็นสินค้า เพื่อให้ได้พลังงาน - สายปิโตรเคมี เอาปิโตรเลียมไปกลั่นไปแยะให้ได้เป็นสินค้า เพื่อนำไปทำพวกพลาสติกต่างๆ ครับ แต่ว่า ผมก็พอจะตอบคำถามของคุณ Nan-Kung ได้นะครับ มองในแง่ ความคุ้มค่าในเชิงเศรษฐศาสตร์  สิ่งที่เราต้องการจากทั้ง LPG และ NGV รวมถึงน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งหลาย ที่เอาไปเติมรถ ทั้งเบนซิน ดีเซล แก๊สโซฮอล ไบโอดีเซล  เราเติมเข้าไปเพื่อจะเปลี่ยนตัวเชื้อเพลิงเหล่านั้นให้ไปเป็นพลังงานกล ขับเคลื่อนเพลา-ล้อให้หมุนไป ทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ ถ้าเทียบบรรทัดฐานเดียวกัน  ให้รถ 2 คันวิ่งไปได้ด้วยความเร็วเท่าๆ กัน ระยะทางเท่าๆ กัน  คุณคิดว่า เราควรเอาของที่ราคาถูก หรือของที่ราคาแพง มาทำเป็นพลังงานให้รถ 2 คันนั้นวิ่งครับ? หรือรถ 2 คันนั้น คันนึงเติมเชื้อเพลิงราคาแพง อีกคันเติมเชื้อเพลิงราคาถูก  คุณว่า คันไหนน่าจะเป็นคันที่ใช้เชื้อเพลิงได้คุ้มค่ากว่ากันครับ? ทุกวันนี้ LPG ที่ขายกันในตลาดระดับโลก ราคามันขึ้นไปราวๆ 700 เหรียญต่อตันแล้ว ถ้าคิดออกมาเป็นเงินบาท ก็ราวๆ กก.ละ 23.8 บาท (เฉพาะราคาแก๊สอย่างเดียวนะครับ ยังไม่รวมภาษีต่างๆ และค่าการตลาดของผู้ค้าแก๊ส) ในขณะที่ ราคาขายที่เมืองไทยขายเป็นแก๊สหุงต้ม และ LPG เติมรถทุกวันนี้ ราคามันแค่ราวๆ 320 เหรียญต่อตัน หรือคิดเป็นเงินไทย ก็ราวๆ กก.ละ 10.89 บาท (ข้อมูลนี้ ลองหาดูได้จากเว็บ www.eppo.go.th http://www.eppo.go.th/retail_prices.html http://www.eppo.go.th/petro/price/pt-price-st-2007-11-23.xls ) ราคาในไทยปัจจุบันนี้ จาก กก.ละ 10.89 บาท พอรวมภาษีและค่าการตลาดแล้ว จะขึ้นไปเป็น 16.81 บาท/กก.  หรือพอเอาไปคำนวณราคาต่อลิตร ก็จะตกราวๆ 9.2-9.3 บาท/ลิตร ซึ่งก็คือ ราคาที่รถใช้ LPG เติมกันตามปั๊ม แต่ถ้าราคาในไทยปัจจุบันนี้ เป็นราคาตามตลาดโลกจริงๆ จาก กก.ละ 23.8 บาท/กก. เมื่อรวมภาษีและค่าการตลาด จะตกอยู่ราวๆ 30 บาท/กก. หรือคิดเป็นลิตร ก็ราวๆ 17-18 บาท/ลิตร จริงๆ แล้ว มันก็ยังถูกกว่าน้ำมันอยู่หลายบาทนะ  มันก็สมควรที่จะได้รับการสนับสนุนให้ใช้เป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์แทนน้ำมันอยู่นี่นา  แล้วทำไมรัฐถึงไม่สนับสนุน ผมกล้าฟันธงเลยว่า ถ้า ณ วันนี้ คนไทยจ่ายค่า LPG ตามราคาจริงๆ  คุณจะเลือกใช้พลังงานอะไร ก็ตามสบาย ราคาทุกอย่างมันจะขึ้น-ลง ตามแต่ปริมาณที่มีขาย vs ความต้องการซื้อของคนใช้ ปัญหาคือ ตอนนี้ LPG มันเป็นก๊าซหุงต้มที่เอาไปใช้แทบกับทุกครัวเรือน  การที่มันเอาไปใช้กับทุกครัวเรือน แสดงว่า ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศได้ใช้  เมื่อประชาชนส่วนใหญ่ได้ใช้  ถ้า รัฐ / ปตท. ซึ่งเป็นผู้ได้รับสัมปทานให้ขุดก๊าซธรรมชาติจากใต้แผ่นดินไทย หรือจะไปทำสัญญาซื้อมาจากประเทศเพื่อนบ้านในราคาที่คุ้มค่าก็ตาม  จะกลั่นแยก LPG ออกมา แล้วขายให้คนไทยส่วนใหญ่เหล่านั้นใช้ในราคาที่ถูกกว่าตลาดโลกครึ่งหนึ่ง ผมก็เห็นด้วยนะ และคิดว่า ภาครัฐที่ทำแบบนี้ ก็สมเหตุสมผล เพราะประชาชนคนส่วนใหญ่ของประเทศ ล้วนได้รับประโยชน์จากราคา LPG ที่ถูกผิดปกติกันถ้วนหน้า (คล้ายๆ กรณีน้ำมันในมาเลเซีย ที่เค้าขายถูกนี่แหละ) แต่ถ้ามีคนส่วนน้อยอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนกลุ่มที่ - ใช้รถยนต์เครื่องยนต์เบนซิน (จำนวนรถในถนน ก็น้อยกว่ารถอีกส่วนที่เป็นดีเซล) - เอาไปดัดแปลงติดระบบแก๊ส LPG (ยิ่งน้อยเข้าไปอีก) - บางคนถือโอกาส ดัดแปลงเครื่องให้แรงๆ สะใจตัวเอง ถึงมันจะเปลืองการใช้ LPG ก็ช่างหัวมัน เพราะถือว่า ซื้อได้ถูก มาพบช่องโหว่ตรงนี้ แล้วตักตวงเอาประโยชน์ที่รัฐทำเพื่อคนส่วนใหญ่ เติม LPG ราคาถูกผิดปกติครึ่งนึง ไปใช้เพื่อประโยชน์ของตัวเอง ผมขอบอกตามตรงว่า ไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไหร่ ผมขอพักแค่นี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวขอไปอาบน้ำแล้วเดี๋ยวจะกลับมาตอบต่อให้จนจบที่คุณถามมา (เผื่อว่า ตอบเสร็จ แล้วก็จะขอนอนก่อนแล้ว จะคุยอะไรกันเพิ่ม ก็ต่อวันพรุ่งนี้) จากคุณ : P_Wut - [ 25 พ.ย. 50 23:38:20 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คือ พี่จะบอกว่า ราคาที่เราใช้อยู่ มันราคาอุ้ม? จากคุณ : Natt_ac121 - [ 25 พ.ย. 50 23:49:39 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เบื่อ มาน จากคุณ : <<TH.MaR.>> - [ 25 พ.ย. 50 23:57:56 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เอาแบบนี้คับ คุณ P_wut ถ้าเห็นว่า LPG เป็นพลังงานที่คนส่วนใหญ่ของประเทศต้องใช้โดยรัฐต้องเข้ามาบังคับราคาขายหน้าโรงกลั่น ผมเสนอดังนี้เลยคับ - ให้ยกเลิกราคาบังคับของ LPG เป็นการค้าขายโดยเสรี ไม่ต้องผูกขาดอยู่ที่โรงกลั่นของและในเครือ ปตท. ใครอยากนำเข้า LPG เข้ามาขายก็ได้ล - ในเมื่อมันแก๊สหุงตจ้ม ทำอาหารซึ่งเป็นความจำเป็น รัฐไม่ควรเก็บภาษีใดๆจากแก๊ส LPG ครับ ทั้งสองอย่างนี้ จะทำให้ราคาขายปลีกแก๊ส LPG มีการแข่งขัน และไม่ได้มีราคาเพิ่มขึ้นมากมายแต่ประการใด ข้อสำคัญการที่เราใช้เชื้อเพลิงแตกต่างจาก ที่ฝรั่ง(ผู้มีกำลังเงินมากกว่า)ในพาหนะยานยนต์งานเดินทางหรือขนส่ง เพราะความต้องการเชื้อเพลิงเพื่อการหุงต้มจะไม่ก้าวกระโดดแบบยานพาหนะในตลาดโลก มันจะช่วยให้เรารอดพ้นจากสงครามการแย่งราคาน้ำมันได้แน่นอน แต่ ปตท.ต้องทำใจซักหน่อย ว่าการผูกขาดพลังงานในตลาดยานพาหนะจะพังทลายลง เพราะความได้เปรียบของการมีโรงกลั่นของตนเองจะหมดไป แต่ถือเป็นการทำเพื่อคนส่วนใหญ่ก็แล้วกัน จากคุณ : x - [ 26 พ.ย. 50 00:07:17 A:210.246.64.223 X: TicketID:052378 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ชักงง... มารอฟังคุณP_Wut ต่อดีกว่า จากคุณ : สูงสุดสู่สามัญ - [ 26 พ.ย. 50 00:07:38 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อย่างน้อยประเทศก็ลดการนำเข้าน้ำมันไม่ใช่หรือครับ ในทางตรงข้าม ถ้าเราสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้ LPG ที่เราผลิตได้เองในประเทศ มันไม่ดีตรงไหนครับ แต่นี่กลับทำตรงข้าม ทำอย่างกะว่าคนใช้ LPG เป็นพวกเอารัดเอาเปรียบคนทั้งประเทศ ไม่ทราบว่าที่พวกใช้LPGเอารัดเอาเปรียบหน่ะ ใช่เอารัดเอาเปรียบรายได้ของ ปตท.ใช่ไหมครับ ถึงได้โจมตีขนาดหนัก ผมดูข่าวทางทีวีหลายๆช่องก็พูดทำนองเดียวกัน การเอาสื่อมาล้างสมองคน มันอาจจะใช้ได้ในบางยุค แต่ปัจจุบันข่าวสารที่ไม่ได้มาจากสื่ออาชีพมีเยอะ มันไม่ง่ายที่จะล้างสมองกันแล้ว คนบางคนไปแต่งเครื่องเอาแรงเพื่อผลาญ LPG นี่เทียบแล้วกี่%กันครับ คนที่เลือกไปติด LPG เพราะไม่ไหวกับค่าน้ำมัน เพื่อลดค่าใช้จ่าย ถ้ามันไม่จำเป็นไม่มีใครไปติดหรอกครับ เสี่ยงก็เสี่ยง เสียเงินค่าติดอีกตั้งหลายหมื่น จะติดมาเพื่อเอาแรงหรือครับ จากคุณ : แพนด้าขาโหด - [ 26 พ.ย. 50 00:12:41 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ผมว่า 17-18 บาท/ลิตร มันก็ถูกกว่าน้ำมันอยู่ดี และสมมติว่า CNG ได้รับความนิยมมากขึ้นผมก็ไม่เชื่อว่า CNG จะไม่ขึ้นราคาตาม Demand ที่มากขึ้นแน่นอน มองแล้วยังไง ปตท.ก็มีแต่กำไร ส่วนเรื่องเปิดให้มีการทำตลาดแบบเสรี อันนี้ไม่มีความเห็น จากคุณ : Asklepios - [ 26 พ.ย. 50 00:24:16 ]

ความคิดเห็นที่ 30 กลับมาต่อครับ ก่อนจะไปเรื่อง NGV ผมขอตอบแต่ละ คห. ก่อนนะครับ คห.24  จะเรียกว่า ราคาอุ้มหรือเปล่า ตอบไม่ถูกครับ ผมขอใช้คำว่า "ราคาที่ต่ำกว่าความเป็นจริง" คห.26 จุดประสงค์ของคุณที่ทำแบบนั้น เพื่อให้ประชาชนยังซื้อ LPG ไปใช้ในครัวเรือนในราคาใกล้เคียงราคาปัจจุบันใช่มั้ยครับ?  จริงๆ ก็มีความเป็นไปได้ / เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจ  แต่ปัญหาที่จะตามมาคือ 1. ภาษีที่รัฐเคยเก็บจาก LPG จะหายไป  ผมเองก็ไม่ทราบว่า ภาษีส่วนนี้ คิดเป็นกี่เปอร์เซนต์ของรายได้รัฐทั้งหมด  ถ้าน้อย ก็อาจจะมีผลเพียงเล็กน้อย ถ้ามาก ก็อาจจะเป็นการไปสร้างปัญหาใหม่แทน (เก็บภาษีอย่างอื่นเพิ่มเติม) 2. การที่น้ำมันเชื้อเพลิงชนิดอื่น มีการเก็บภาษี แต่ LPG ไม่เก็บ มันจะบิดเบือนเหมือนกันนะ  คล้ายๆ กับว่า LPG ตีตั๋วเด็ก ราคาที่ประชาชนซื้อได้ถูก 2 เด้งอันเนื่องมาจากราคาจริงๆ มันก็ถูกอยู่แล้ว แล้วยังถูกเพราะรัฐยกเว้นภาษีตัวนี้ ลองคิดต่อมาว่า ถ้ายังคงสภาพไว้แบบที่ว่า แล้วจะเกิดอะไรขึ้น  ปริมาณการใช้ LPG ในประเทศจะเพิ่มขึ้น  จนถึงจุดหนึ่งที่ LPG ที่ผลิตในประเทศไม่พอขาย ต้องนำเข้ามาแทน  ซึ่งเมื่อถึงวันนั้น แม้ว่าราคาที่นำเข้า จะเท่าๆ กับราคาที่ประชาชนซื้อได้จริง ไม่มีใครต้องมารับผิดชอบส่วนต่างราคาเหมือน ณ วันนี้ (320 vs 700) แต่จะเห็นได้ว่า ก็ต้องนำเข้าจากต่างประเทศอยู่ดี และเมื่อน้ำมันมีคนใช้น้อยลงๆ รัฐก็ได้ภาษีจากส่วนของน้ำมัน น้อยลงๆ ไปด้วยครับ คห. 28  ผมได้แจ้งไปแล้วว่า ปริมาณ LPG ที่ผลิตได้ในประเทศ มาจากการแยกจากก๊าซธรรมชาติ 60% มาจากการกลั่นน้ำมัน 40%  ดังนั้น ยังไงๆ ก็ต้องมีส่วนนึงที่นำเข้า  นอกจากนี้ ถ้าดูตามคำตอบที่ผมตอบ คห.26 ไป จะพบว่า สักวันนึง ก็ต้องเริ่มนำเข้า LPG เข้ามามากขึ้นๆ เรื่อยๆ นึกออกมั้ยครับว่า เมื่อเราหันไปใช้ LPG กันมากขึ้นๆ  ราคามันก็จะขึ้น ส่วนราคาน้ำมันก็จะลง ส่วนต่างจะน้อยลง  นอกจากนี้ ในกระบวนการผลิต ไม่ใช่ว่า แต่ละโรงสามารถปรับกระบวนการกลั่นให้สามารถแยก LPG ได้เยอะๆ และน้ำมันน้อยๆ ได้นี่ครับ โดยมากมันจะมีความยืดหยุ่นอยู่บ้าง แต่ไม่มากนักครับ  ลองดูที่นี่ http://www.eppo.go.th/petro/ThaiOilPrices.html ในข้อ 7 มันจะมีบอกอยู่ว่า แต่ละโรงกลั่น ผลิตอะไรได้มากน้อยแค่ไหน  สัดส่วนอาจปรับเปลี่ยนได้บ้าง แต่ก็ไม่ได้กว้างมากนัก ดังนั้น  ยิ่งต้องการ LPG เยอะมากขึ้นเท่าไหร่  คุณก็จะต้องนำเข้าน้ำมันดิบมากลั่นมากขึ้น แล้วเหลือน้ำมันส่งออกไป  พูดโดยสรุปคือ เมื่อน้ำมัน-ก๊าซตัวไหน มีคนหันไปใช้มาก ราคาจะแพงขึ้น น้ำมันที่คนเบือนหน้าหนี ก็จะราคาตกลง จากคุณ : P_Wut - [ 26 พ.ย. 50 01:46:12 ]

ความคิดเห็นที่ 31 คห. 28 ผมยังตอบไม่ครบนะ  ย่อหน้า 2 โอเค เอาเป็นว่า ผมขอยังไม่พูดถึงตรงนั้นแล้วกัน เอาใหม่นะครับ  สมมติว่า ทุกคนที่หันไปใช้ LPG ก็ล้วนแต่เป็นคนที่รายได้น้อย เดือดร้อนจากภาวะน้ำมันแพง  แม้จะใช้ LPG ก็ยังรักษาวินัยการประหยัดพลังงานอย่างเข้มงวด  ไม่มีการใช้อย่างฟุ่มเฟือยก็ตาม และราคา LPG ที่คนไทยทั้งประเทศซื้อ ก็เป็นราคาเดียวกับที่ราคาส่งออกไปขายต่างประเทศ  มีการจัดเก็บภาษีต่างๆ ตามปกติ  รัฐไม่สูญเสียรายได้จากส่วนนี้ไป  ประชาชนยังคงได้รับประโยชน์จากการที่ราคา LPG ที่ยังต่ำกว่าราคาน้ำมันเบนซินอยู่ระดับหนึ่ง แต่คำถามคือ การใช้ LPG ที่ ณ ปัจจุบันมีราคาสูง เพราะตัวมันสามารถเป็นวัตถุดิบไปผลิตอย่างอื่นได้ ไม่ใช่การนำไปเป็นเชื้อเพลงเพื่อให้ได้พลังงานความร้อนมาใช้งานอย่างเดียว  คุ้มมั้ยที่จะทำแบบนั้น  โดยเฉพาะหากเทียบกับ NGV?? ลองมาดู NGV ดูบ้างนะครับ  คุณสมบัติของ NGV ที่เป็นข้อจำกัดทำให้ราคามันไม่สูงมากนักนั้น  ก็คือ มาจากการที่มันเป็นก๊าซมวลเบา  ก๊าซมวลเบา เวลาเราจะเก็บมันปริมาณมากๆ  เราต้องใช้วิธีอัดด้วยแรงดันสูง ให้มันลดปริมาตรลงเหลือเล็กหน่อย  หรือไม่ก็ต้องลดอุณหภูมิมันลงมา เพื่อให้มันลดปริมาตรเล็กลง (ตามกฏทางธรรมชาติของก๊าซ)  ความยุ่งยากตรงนี้ ก็เลยเป็นอุปสรรคในการขนส่งมันไปยังที่ต่างๆ  วิธีการขนส่งมันที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด คือ การขนส่งทางท่อ (ในขณะที่เชื้อเพลิงจากฟอสซิลแบบอื่น ที่เป็นของเหลว หรือแม้แต่ LPG จะขนส่งโดยทางรถ หรือเรือเป็นส่วนใหญ่) ในเมื่อการขนส่งทางท่อ เป็นทางที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากที่สุด  ก็เลยทำให้มันไม่สามารถจะขนส่งไปที่ไกลๆ จากพื้นที่ที่มีก๊าซมากนัก  เพราะยิ่งไกล ค่าวางท่อก็ยิ่งแพง พอไกลถึงขอบเขตนึง ก็จะเริ่มไม่คุ้มที่จะส่งไป   ผมเข้าใจว่า พื้นที่เขตประเทศไทย-พม่า-มาเลย์ มีแหล่งก๊าซธรรมชาติอยู่เยอะกว่าพวกเชื้อเพลิงฟอสซิลชนิดอื่นๆ  ผิดกับอินโด/บรูไน ที่แถบนั้นจะมีน้ำมันดิบมากกว่า อีกอย่างนึงก็คือ NGV องค์ประกอบส่วนใหญ่ของมันคือ มีเทน (มีถึง 72%) ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้ เทคโนโลยี่ปัจจุบันยังไม่มีหนทางที่จะนำมันไปเป็นวัตถุดิบผลิตอย่างอื่นได้ นอกจากการนำมาเป็นเชื้อเพลิงอย่างเดียว จากเหตุผลเรื่องตัวมันเป็นเชื้อเพลิงได้อย่างเดียว และเรื่องการขนส่งลำบาก เอาไปทำอย่างอื่นไม่ได้  แต่แถวบ้านเราดันมีเยอะ = ราคาถูก  เมื่อเชื้อเพลิงฟอสซิลชนิดอื่นๆ มีราคาแพงขึ้นๆ  แต่ NGV ไม่ได้แพงตามขึ้นไปด้วย  เราก็เลยน่าจะหันมาใช้ NGV เป็นเชื้อเพลิงให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้  ซึ่งทุกวันนี้ ก็ใช้ไปเยอะแล้วนะ แต่ส่งให้ กฟผ. ผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้าเป็นส่วนใหญ่  แต่การที่ ภาครัฐและปตท. หันมาส่งเสริมให้ใช้กับภาคขนส่งด้วย  แสดงว่า - มันคงมีเหลืออยู่พอสมควรนั่นแหละ - แถบบ้านเรามีมาก ลดการเสียเงินตรา ซื้อเชื้อเพลิงจากฟอสซิลนำเข้ามา เพราะถ้าจะว่ากันตามจริง  ของที่ขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการส่งทางท่อ  แต่กลับเอามาใช้ในรถยนต์  ผมว่า มันก็ยังไม่คุ้มค่า/ได้ประสิทธิภาพสูงสักเท่าไหร่  แต่อาจจะเพราะราคามันยังถูกอยู่กว่ากันมากมั้ง ลองคิดดูว่า หากเทียบกับ LPG  อันนี้ตันละ 700 เหรียญหรือ 24 บาท/กก.  ในขณะที่ NGV แค่กก.ละ 8.50 บาทเอง  ถูกกว่ากันเหลือแค่ 1 ใน 3 เท่านั้น  โอเค แม้ว่าราคา 8.50 นี้ไม่ใช่ราคาถาวร เป็นราคาโปรโมชั่นช่วงแรก  ถ้าจะปรับราคาขึ้นไปให้มีกำไร ไม่ขาดทุน จะต้องขายที่ กก.ละ 12 บาท ก็ยังถูกกว่า LPG ถึงครึ่งนึง หรือถูกกว่าน้ำมัน ที่ราคาลิตรละ 30 บาท  ถึง 60% เชียวนะครับ (น้ำมัน 1 ลิตร วิ่งได้ราว 10 กม.  เทียบกับ NGV 1 กก. ก็วิ่งได้ราว 10 กม.กว่าๆ  ผมตีเป็นว่า น้ำมัน 1 ลิตร = NGV 1 กก.แล้วกัน) จากคุณ : P_Wut - [ 26 พ.ย. 50 02:24:31 ]

ความคิดเห็นที่ 32 คห. 11 ตรงไหน สั่งห้าม จั่วหัวมาเห็นลิ้นไก่ซะขนาดนั้นยังไม่เข้าใจอีกเหรอนี่ ..... ========================= ปตท. จะหากำไรเพิ่มจากการขาย CNG ที่ขนส่งเอาไปขายที่อื่นลำบาก แล้วจะมาขายให้คนไทยด้วยกัน ก็ไม่ว่า ..อะไร แต่ขอให้มันจริงใจหน่อย =================== เห็นแต่หลักฐานด่าปตท.มาแยะ คนที่สนับสนุน ปตท. ถ้ามีหลักฐานสนับสนุนและการอธิบายชัด ๆ จะดีมากครับ จะได้คุยได้สนุกหน่อย จากคุณ : กลายใต้ - [ 26 พ.ย. 50 02:55:28 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ใช้ gas ต่ำกว่าราคาที่ควรจะเป็นแปลว่าอะไร ครับ แปลว่า ตลาดโลก กิโลละ 25 เราก็ควรจะต้องใช้ 25 บาทด้วยงั้นเหรอ ?? ชาวตะวันออกกลางที่ผลิตน้ำมันเองได้ ทำไมเค้าได้ใช้น้ำมันในประเทศถูกว่าคนอื่น ?? ================================ ทรัพยากรธรรมชาติเป็นของประเทศ  เป็นของคนทุกคน  แล้ว คนถือหุ้น 49%  ในปตท.เป็นใคร ถึงได้ดูดเอาทรัพยากรเราเองมาขายให้เรา  แล้วกำไรเค้าเอาไป   =========================== กลุ่ม ปตท 8 บริษัท แค่ 9 เดือนฟันกำไรไป 150,000 ล้าน (หนึ่งแสนห้าหมื่นล้าน)   ประทานโทษ ปรัชญาของรัฐวิสาหกิจเค้าตั้งมาเพื่อ บรรเทาความทุกข์ร้อนของประชาชน เศรษฐกิจเป็นแบบนี้ คนไทยย่ำแย่ แต่กลุ่ม ปตท. กำไรล้นฟ้า ถ้า ปตท. จริงใจในการขาย CNG ช่วยชาติ ไม่อยากให้ CNG ต้องทิ้ง และ LPG ก็ยังส่งออกเอากำไรได้ แน่จริงก็ประกาศไปเลยว่า  ปีนี้ไม่ปันผล  จะเอา 100,000 ล้านมาสนับสนุน การสร้างปั๊ม CNG ซิ  อย่ามาโยนขี้ให้ LPG และประชาชน =============================== จากคุณ : กลายใต้ - [ 26 พ.ย. 50 03:26:39 ]

ความคิดเห็นที่ 34 รัฐบาลไม่น่าทำอย่างนี้เลยนะครับ เพราะตอนนี้เองคนกำลังแย่กับปัญหาเรื่องพลังงาน ปั๊ม ngv มีไม่พอทั้งใน กทมและต่างจังหวัด รัฐบาลควรที่จะแบ่ง zone ว่า ภายใน 3 ปีนี้ zone กทม อาจจะห้ามเพิ่ม ปั๊ม lpg แต่ต่างจังหวัดที่ไกลจาก กทม. เกิน 150-200 km น่าจะยินยอมให้สร้างโดยมีข้อแม้ว่าจำนวน ปั๊มต่อ ขนาดพื้นที่ควรจะจำกัดเช่น 3 ปั๊มต่อ 1 ตารางกิโลเมตร เพราะตอนนี้ ปตท. ยังไม่มีความสามารถในการสร้าง ปั๊ม ngv ได้เพียงพอต่อความต้องการขอคนที่ต้องการจะใช้ ไม่เชื่อลองไปเช็คดูได้ที่หลายครั้งพบว่าต้องรอคิวเติม ngv เกิน 30 นาทีและพบว่าหมดปล่อยมาก ถ้าอีกสัก 3ปี ปตท. ทำปั๊มพอค่อยคิดวิธีในการจัดการใหม่เช่นลดค่าการตลาดของ ปั๊ม lpg ออกกฏหมายลดภาษีให้กับ รถ ngv พิเศษจากโรงงาน เพิ่มภาษีให้รถ lgv เพิ่มการตรวจตามด่าน ในรถที่ติดตั้งเพิ่ม lpg แต่ไม่ยอมแจ้ง เพราะในตอนนี้ ทำอย่างกับต้องการให้ประชาชน ใช้ น้ำมัน gasoholอย่างนั้นนะ เพราะติด ngv แต่ไม่สามารถหาที่เติมที่สะดวกได้ อยากให้คิดทบทวนให้ดีดีกับการทำอะไรออกไปแล้วตัวเองยังไม่พร้อมจะทำมันจะกระทบกับคนอื่นหลายอย่างนะครับท่าน จากคุณ : แฟนพันธุ์แท้หมีแพนด้า (แฟนพันธุ์แท้หมีแพนด้า) - [ 26 พ.ย. 50 03:28:44 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ผมไม่ถูกกับรมตคนนี้จริง ๆ ๆ จากคุณ : FATsnoringPIG - [ 26 พ.ย. 50 06:23:41 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เข้ามาโหวต ดันให้ประชาชนครับทราบ จากคุณ : Zenbe - [ 26 พ.ย. 50 07:14:11 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เฮ้อ.... จากคุณ : REX-REX - [ 26 พ.ย. 50 07:14:25 ]

ความคิดเห็นที่ 38 กำลังหาหนังสือฉบับนี้อยู่พอดี ขออนุญาต save นะคะ จากคุณ : จิบไวน์ชมจันทร์ - [ 26 พ.ย. 50 07:17:53 ]

ความคิดเห็นที่ 39 แบบนี้คงต้องขอเล่นกับคุณ "P_Wut"  บ้างนะครับ   (ไม่ว่ากันน๊า) ประการแลกบอกว่า คนไทยจน  ๆ ในประเทศใช้ LPG  ต่ำกว่าราคาที่มันควรจะเป็น แบบนี้ผมยกตัวอย่างเทียบบ้างได้ไหมครับ เอาเป็นอะไรดีล่ะ  ขอเป็นทุเรียนแล้วกัน   ในตลาดโลกทุเรียนคงไม่ใช่กิโลละ 20 บาท  เหมือนในบ้านเราแน่ ๆ ดังนั้นตามตรรกะของคุณ "P_Wut" คนไทยจน ๆ ในประเทศควรจะซื้อทุเรียนที่กิโลเท่ากับตลาดโลกไหมครับ เพราะทั้ง LPG และทุเรียนได้จากการผลิตภายในประเทศเหมือนกัน แล้วเรื่องโกหกต่าง ๆ ของคุณ "ปิยะสวาท" เอาเรื่องแรกก่อนนะครับ 1.เอาเงินที่ได้จากขายน้ำมัน 2 บาท มาแบกราคาก๊าซ LPG ขอตอบว่า  - ตอนนี้ผู้ซื้อ LPG ทุกคนเสียภาษี 2 บาท / 1 ลิตร (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ)   นอกจากนี้ ถ้าจะยกเลิกเอาราคาน้ำมันมาชดเชย LPG ผู้ใช้ LPG ทุกคนยอมเสียส่วนต่างตรงนี้ครับ ดังนั้นคุณ ปิยะสวาท ควรหยุดสะตอแบรี่เรื่องนี้ได้แล้ว 2.ปตท.ขาดทุนจากการขายก๊าว LPG ในประเทศ  เพราะราคาต่างจากความเป็นจริง ขอตอบว่า - ปตท.ขาดทุนจริง ๆ ครับ  แต่ไม่ได้ขาดทุนจากต้นทุนการผลิต  แต่ขาดทุนกำไร ผมเข้าใจที่ว่าตลาดโลกราคา LPG อยู่ที่ 26 บาท โดยประมาณ จากคุณ : yuyu (YUYU-001) - [ 26 พ.ย. 50 08:21:42 ]

ความคิดเห็นที่ 40 แล้ว ปั้มท์ CNG ไม่ต้องทำประชาพิจารณ์เหรอครับ จากคุณ : CK5 - [ 26 พ.ย. 50 08:23:43 ]

ความคิดเห็นที่ 41 แพงหน่อยก้อดีครับ แท๊กซี่ตีผี มันจะได้ขับกันช้าๆ ประหยัดหน่อย ทุกวันนี้มันเติมกันถูกไปครับ แท๊กซี่มันถึงคะนองกันอย่างนี้ บางคันเคยคุยให้ฟังเลยว่า มันโม ปรับ แต่ง มา แรงโคตรๆ แรงกว่าพวกใช้น้ำมันอีก ถูกก้อถูก เช่าไม่กี่เดือน เบื่อก้อย้ายอู่ เช่าคันใหม่ ซะงั้น... จากคุณ : Voravutt - [ 26 พ.ย. 50 08:44:57 ]

ความคิดเห็นที่ 42 อยากให้คนมาใช้ NGV ทำได้แค่ปากพูด กับมือที่เอามาจิ้มคีย์บอร์ด อยากให้มาติดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่ไม่คิดหรอกว่ามันไม่มีปั๊มจะเติ๊มมมมมมมม... เราเชื่อว่าทุกคนอยากติดนะคะ ไม่ใช่ไม่อยากแต่ในความจริงมันทำไม่ได้ไง ตอนเช้าก็ต้องรีบไปทำงาน แน่นอนล่ะแท็กซี่ก็ต้องรีบออกมาวิ่ง ยังมีอีกหลายคนที่รีบเหมือนกัน พอมาถึงมาถึงปั๊มมีรถจอดรอสัก 15 คน ต้องใช้เวลาอีกเท่าไรกว่ารถของเราจะได้เติมคะ พอตกบ่ายก๊าซก็หมดแล้ว เอาเหล็กมากั้น... เวรกรรม ใครอยากเชียร์ อยากติด ก็เชิญเถอะค่ะ แล้วอีกอย่างทุกคนต้องคิดถึงแต่ตัวเองทั้งนั้นแหละค่ะ ในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ใครจะมาช่วยเราได้คะ นอกจากตัวเราเอง ปตท. มาช่วยเราหรอคะ ถามหน่อย... ชาวบ้านเค้าไม่เข้าใจคำพูดที่เป็นหลักการเค้าคิดแต่ว่า อะไรมันก็แพง ทำยังไงจะให้รายได้กับการใช้จ่ายมันสอดคล้องกัน คิดถึงใจเขาใจเราบ้างค่ะ ไม่ใช่คิดว่าคนที่คิดแบบคุณ คิดถึงแต่ตัวเอง !! จากคุณ : amgoingcrazy - [ 26 พ.ย. 50 08:46:16 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เห็นด้วยกับคุณ P_Wut ครับ จากคุณ : เกิดมาจน - [ 26 พ.ย. 50 09:06:40 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ....... จากคุณ : w@@n - [ 26 พ.ย. 50 09:13:17 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ก็ว่ากันไป จากคุณ : LAPD21 - [ 26 พ.ย. 50 09:23:37 ]

ความคิดเห็นที่ 46 วันนี้งานเยอะอาจอยู่เล่นกับคุณ "P_Wut" ได้ไม่นานนะครับ มาเรื่อง CNG ต่อนะครับคุณ "P_Wut" คุณ "P_Wut" อย่าทำตัวเหมือนคุณ "ปิยะสวาท"นะครับบอกความจริงควรบอกให้หมด  ไม่ใช่บอกเฉพาะด้านที่ดีนะครับ ก๊าซ CNG ที่ได้จากในอ่าวไทยนั้น  เป็นก๊าซที่ไม่ได้มาตราฐาน (จำไม่ได้ว่าค่าชื่ออะไร   "O2" หรืออะไรซักอย่าง  ให้ผู้รู้ท่านอื่นมาบอกแล้วกันนะครับ) ซึ่งทำให้ ปตท.ไม่สามารถส่งออกไปขายต่างประเทศได้   จึงหันมาขายคนในประเทศแทน พูดง่าย ๆ คือ LPG คุณภาพดี  ขอส่งขายเอากำไรให้ผู้ถือหุ้น กับเอาโบนัสให้ตัวเองตอนสิ้นปี แต่ CNG ต่างประเทศเค้าไม่เอา  งั้นหลอกขายในประเทศแล้วกันไม่เสียหายได้กำไรเหมือนกัน แต่ช่วงเริ่มต้นไม่มีคนใช้ CNG   แกล้งขายขาดทุนwxก่อน   เดี๋ยวพวก กิ น ห ญ้ า  ทั้งหลายหันมาใช้เยอะ ๆ แล้วค่อยขึ้นราคาเอากำไรที่หลัง จากคุณ : yuyu (YUYU-001) - [ 26 พ.ย. 50 09:24:36 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ผมถามหน่อยน่ะครับ ว่า 1.ถ้าขาย NGV แยะๆ กำไรเข้าประเป๋าใคร ใครได้ประโยชน์มากกว่ากัน เพราะอะไร   2.LPG เวลานี้ต้องยอมรับว่า มันเป็นประโยชน์ต่อ ประชาชนคนไทยตาดำๆ มากกว่าพลังงานชนิดอื่นๆ เป็นพลังงานทางเลือกที่เหมาะสม สามารถเอื้อมถึงได้ง่าย    ถ้าส่งออกต่างประเทศให้หมด ใครเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์มากกว่า  ประชาชนหรือเปล่าครับ เงินที่เป็นกำไรได้ใครครับ ช่วยตอบหน่อยน่ะครับ จากคุณ : klinsee (klinsee) - [ 26 พ.ย. 50 09:31:27 ]

ความคิดเห็นที่ 48 คุณ amgoingcrazy พูดถูกที่สุด ทุกวันนี้เอาตัวเองให้รอดก็พอแล้ว จากคุณ : falsi - [ 26 พ.ย. 50 10:08:37 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ความจริงรัฐบาลไม่น่าจะอุ้มราคาน้ำมันและก๊าซนะผมว่า อุ้มยังไงก็โดนด่า ปล่อยลอยตัวไปเลยดีกว่า จะไปอุ้มทำไมไม่เข้าถ้า เอาตามราคาตลาดโลกไปเลย ปีนึงๆ นำเข้าแค่ 900,000,000,000 บาทเอง อุ้มให้โดนด่าทำไม ราคา lpg ก็เหมือนกัน ปล่อยลอยตัวไปเลย จะได้เลิกด่า อบต.ก็นะ ถ่ายงานไปให้แล้วก็เหมือนไม่ได้ถ่าย อะไรก็ไม่รู้ เวลาอบรมให้ก็ไม่เข้า มาเซ็นซื่อแล้วก็หาย พ.ร.บ. ตัวนี้พึ่งแก้ไขครับ เขาบอกว่า การจะขอประกอบกิจการ แก๊ส lpg จะต้องทำประชาวิจารณ์กันก่อน ไม่ใช้ห้ามอนุญาตครับ อนุญาตได้ เปิดได้ แต่ต้องทำประชาวิจารณ์กับชาวบ้านในระแวกนั้นเสียก่อน ถ้าชาวบ้านเห็นสมควร อบต.หรือเทศบาลจึงจะอนุญาตได้ครับ ทางสำนักงานพลังงานพึ่งจัดประชุมกันมาครับ แต่ที่ยังมีปัญหาจริงๆก็ที่ปั๊มน้ำมันเปิดคู่กับปั๊มแก๊สนี่แหละ ไม่มีกฏหมายระบุไว้ จะทำให้หลายๆปั๊มเปิดอยู่ด้วนกัน เพราะกฏหมายหรือ พ.ร.บ. น้ำมัน และ พ.ร.บ. การค้าน้ำมัน ไม่ได้ห้ามเอาไว้ หลายท่านที่ไม่ได้รู้ พ.ร.บ. เกี่ยวกับน้ำมัน แต่ก็ออกมาโจมตีท่านซะแล้ว โดนเฉพาะ อบต. และเทศบาล ที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง ช่วยทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ด้วย การออกใบอนุญาตต่างๆ อย่าดึงไว้นานครับ ผมรู้นะว่าท่านดึงเรื่องไว้ทำไม คนเดือดร้อนคือผู้ประกอบกิจการต่างๆ บางครั้ง ถ้าเขาไม่.......ท่าน(โปรดเติมเอาเอง) ท่านก็แจ้งตำรวจมาจับเขาซะดื้อๆ ตอนนี้ผมแนะนำผู้ประกอบกิจการที่มาขอรับคำปรึกษาให้ฟ้อง อบต. และเทศบาลในกรณีที่ถูกจับ เพราะ อบต. หรือเทศบาลไม่ยอมออกใบอนุญาตให้ ทั้งที่ยื่นขอมาเป็นปี ใครอยากทราบรายละเอียด พ.ร.บ. ตัวนี้ ขอรับได้ที่ สำนักงานพลังงานจังหวัดทุกจังหวัดครับ จากคุณ : ฟ้าสีหมอก (ฟ้าสีหมอก) - [ 26 พ.ย. 50 10:38:32 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ก่อนจะตอบต่อไป ขอออกตัวไว้สักนิดนึงนะครับ ผมแสดงความเห็น ไม่ว่าจะเห็นด้วย กลางๆ หรือไม่เห็นด้วย กับความเห็นของใครก็ตาม จุดประสงค์ ก็คือ ถกกันให้ทุกๆ คนที่เข้ามาอ่านกระทู้ เห็นอะไรที่มันกว้างขึ้น รับรู้ข้อมูลเพิ่มขึ้น ถ้าอะไรที่ผมยังไม่รู้ ผมก็อยากรู้เพิ่มเช่นกัน ผมเปิดรับตลอดเวลา แต่ถ้าอะไรที่ท่านยังไม่รู้  ท่านจะเปิดรับ หรือไม่เปิด เป็นเรื่องของท่าน ผมไม่เกี่ยว และไม่ขอละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของท่าน แต่ถ้าใครคิดจะมาทะเลาะกับผมด้วย  ผมขอเชิญไปที่กระทู้อื่นๆ ได้เลยครับ เพราะผมไม่ได้คิดจะมาทะเลาะกับใครที่นี่ ผมไม่ได้เป็นคนของรัฐบาล กระทรวงพลังงาน / สนพ. ผมไม่ได้เป็นคนของ ปตท. หรือโรงกลั่นน้ำมันใดๆ ทั้งสิ้นในประเทศไทย ผมทำงานในบริษัทที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงานเลยแม้แต่น้อย ผมไม่ได้เล่นหุ้น ไม่ได้ซื้อหุ้น ปตท. / ปตท.สผ. ด้วยตัวเองเลย แต่ยอมรับว่า ซื้อกองทุน LTF เพื่อลดหย่อนภาษี  ซึ่งทางผู้บริหารกองทุนเค้าจะไปซื้อหุ้นตัวไหน เป็นเรื่องของเค้า ผมไม่เกี่ยวครับ ผมแค่รอเวลาที่เงินผมจะสามารถขายคืนออกมาได้ โดยไม่ต้องเสียภาษี แค่นั้นครับ ที่ผมมาตอบ เพื่อจะแสดงให้ทุกคนที่เข้ามาอ่าน  ได้เห็นมุมมอง ความคิดเห็นอีกมุมหนึ่งเท่านั้นครับ ส่วนเรื่องการแสดงความเห็นเพิ่มเติมอีก (ที่โพสต์ไปนั้น ยังไม่จบ แต่เมื่อคืนไม่ไหวแล้วครับ ง่วงมาก) ดูท่าแล้วจะต้องใช้เวลามาก  ผมคงไม่สามารถมาตอบตอนกลางวันนี้ได้ เดี๋ยวเย็นๆ จะมาตอบให้อีกที  และจะพยายามตอบให้ครบๆ ทุกคำถาม ระหว่างนี้ ใครมีคำถามอะไรก็โพสต์มาเลยครับ แล้วก็ถ้าเป็นไปได้ ลองเข้าไปในคลังกระทู้เก่า อ่านกระทู้นี้ดูก่อนนะครับ  กระทู้ที่เบอร์ V5449994 ครับ ผมเคยตอบไว้มาเยอะแล้ว รวมทั้งกระทู้ที่ยังไม่เข้าคลังกระทู้เก่า แต่เกี่ยวกับ LPG ที่ผมเคยตอบไว้ ก็น่าจะมีเหลือ (แต่อาจหายากหน่อย  ผมตกใจเหมือนกันที่พอหากระทู้ที่ผมตอบไว้ ด้วย smart search มันขึ้นไปถึง 800 กว่าๆ คำตอบ/กระทู้แล้ว หุ หุ) รวมทั้งกระทู้ที่ผู้ตอบ คือ คุณ sunsetbeach และคุณ Ta 999 ครับ  ลองอ่านดูนะครับ ปล. เรามาคุยกัน ถกกัน เพื่อเพิ่ม "สติปัญญา"  ไม่ใช่เพื่อเพิ่ม "ศัตรู" จากคุณ : P_Wut - [ 26 พ.ย. 50 10:53:25 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ห้ามไม่อยู่หรอก ตอนนี้ผมเห็นหลายคันแล้ว ที่เอาถังแก๊สบ้านใส่ท้ายรถ วิ่ง กันเฉยๆ ไม่มีปั๊มก็ไม่แคร์ ตราบใดที่แก๊สบ้านยังมีขาย จากคุณ : สยึมกึ๋ย - [ 26 พ.ย. 50 10:57:50 ]

ความคิดเห็นที่ 52 สรุปสุดท้ายคนที่เถียงกันไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยซักกะบาทครับ คนที่ได้ประโยชน์จริงๆมีไม่กี่คนหรือกลุ่มเล็กๆครับ และเป็นพวกที่มีอำนาจในการสั่งการหรือตัดสินใจใดๆในประเทศครับ เถียงกันไปก็ไม่มีประโยชน์ครับ คงไม่มีใครทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริงหรอกครับ มันก็เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองทั้งนั้น...จะ NGV หรือ LPG มันก็พลังงานทางเลือกทั้งคู่ตอนนี้ใช้ได้ก็ควรใช้ครับ มันจะถูกตอนนี้แล้วแพงในอนาคตผมว่ามันก็ยังดีกว่าราคาน้ำมันในปัจจุบันครับ นี่แหละครับโลกของทุนนิยม... จากคุณ : altisboy (altisboy) - [ 26 พ.ย. 50 12:14:00 ]

ความคิดเห็นที่ 53 http://topicstock.pantip.com/ratchada/topicstock/2007/05/V5449994/V5449994.html ลองไปเปิดคลังกระทู้ดูแล้ว ถึงรู้ว่า ยังใช้ไม่ได้ แต่ว่าผมมี address มันอยู่ เปิดดูแล้ว มันยังเปิดอ่านได้ครับ  (แสดงว่าที่เข้าไม่ได้ เฉพาะหน้า index มันเท่านั้น) จากคุณ : P_Wut - [ 26 พ.ย. 50 12:26:48 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ผมเบื่อคับ คนไทยเราจ้อง จะกัดคนไทยด้วยกันอย่างเดียว งั้นต่อไปผมต้องซื้อข้าวกินในราคาตลาดโลกด้วยดิ เพราะส่งออก ได้เงินเยอะกว่า กระทรวงพานิชย์ ก็ต้องลอยตัวข้าวและพืชผักผลไม้ทุก ชนิดด้วยดิคับ ผมเบื่อมากๆ กับ คิดไกล ๆ แล้วถ้าต่อไป ราคา ngv มันขึ้น ครึ่งหนึ่งของน้ำมันดีเซล ล่ะ คุณจะว่าไง ที่ผ่านมาแสดงว่ามาเลเซีย รัฐบาลเค้าเลว ที่ขายน้ำมันราคาถูกไม่คิดถึงอนาคตอันไกล ๆ ใช่มั้ยคับ ผมไม่รุ้หรอกนะว่า อะไรแต่...ถ้าเจอ รมต. คนนี้ อยากต่อยปากมันสักที คนไทยเราพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เงินจากคนไทยด้วยกัน นี่แหละ อ้างโน่นอ้างนี่ เบื่อ จากคุณ : ท่านวัช - [ 26 พ.ย. 50 12:33:16 A:192.168.0.161 X:210.1.24.250 TicketID:146741 ]

ความคิดเห็นที่ 55 http://topicstock.pantip.com/ratchada/topicstock/2007/08/V5668654/V5668654.html http://topicstock.pantip.com/ratchada/topicstock/2007/08/V5672367/V5672367.html จากคุณ : P_Wut - [ 26 พ.ย. 50 12:41:26 ]

ความคิดเห็นที่ 56 พอดีอ่านเจอเรื่องคุณภาพของ NGV รู้สึกว่าทาง ปตท ยังพูดให้ข้อมูลบางอย่างไม่หมดครับ http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V6055805/V6055805.html ถ้ามีปัญหาแบบกระทู้ที่อ้างอิงจริง ผมว่ามันคงไม่สะดวกแน่ถ้าผู้ใช้รถต้องคอยปรับแต่งให้เข้ากับแหล่งก๊าซที่เติม จากคุณ : WeArePry (WeArePry) - [ 26 พ.ย. 50 12:42:28 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ถ้าคิดแบบ P_Wut ว่าไว้ ผมคิดว่าคนใช้Gasohol ราวๆ70% เอาเปรียบมากที่สุดครับ เพราะคนใช้Gasoholในปัจจุบันส่วนใหญ่ก็เป็นคนใช้เบนซิน ในสมัยอุ้มน้ำมันดีเซล+เบนซิน น่ะแหละ(เทียบปริมาณการใช้งานได้ว่าตอนนั้นกับตอนนี้ต่างกันกี่เท่า ส่วนต่างก็คือคนเปลี่ยนไปใช้) แล้วทำไมคนใช้Gasohol ไม่ต้องจ่ายหนี้ที่ตัวเองร่วมก่อในตอนนั้น กลับผลักภาระให้กับคนใช้เบนซินถึง เกือบๆ 4บาทต่อลิตร? คนที่จำเป้นต้องใช้เบนซิน95ต่อไป(เพราะรถเก่า เครื่องไม่รองรับฯลฯ)เหมือนโดนคนที่หนีไปใช้ Gasohol ชักดาบหนี้ตัวเองครับ เรื่องการใช้การอุดหนุนที่ไม่เท่าเทียมมันแฝงอยู่ในทุกอย่างแหละครับ ถ้าคุณจะอ้างเรื่องคนใช้ LPG ได้รับการอุดหนุนมากกว่าคนอื่น ก็อย่าลืมยกให้มาครบทุกอย่างด้วย (กองทุนที่คุณซื้อได้ลดหย่อนภาษีก็ถือว่ารัฐอุดหนุนคุณมากกว่าคนที่ไม่ซื้อแล้วนะครับ) ส่วนCNG น่ะถูกจริง ของเหลือจริง แต่ทำไมไม่ทำตามกลไกตลาดล่ะครับ? ของดีราคาถูกใครๆก็อยากใช้ แม้จะมีข้อด้อยบ้าง(จุได้น้อย น้ำหนักถังมาก กำลังเครื่องตกลง 20%แบบแก้ไขไม่ได้) แต่ถ้าราคาถูกมากมันก็กลบได้หมด แต่ถ้าบังคับให้ใช้แล้วหมกเม็ดข้อมูล โดยชี้ำนำผิดๆ ก็แปลว่ากำลังดูถูกสมองของประชาชนชาวไทยอยู่น่ะแหละ ยิ่งกับโฆษณาแนวๆเดียวกับgasohol อยากรู้จักAgency ที่ทำโฆษณา hard sell ห่วยๆแบบนี้เสียจริง ว่าทำออกมาได้อย่างไร จากคุณ : ....4จุด - [ 26 พ.ย. 50 13:03:39 ]

ความคิดเห็นที่ 58 พอเถอะคุณ P_WUT อย่ามาเข้าข้าง ปตท.กับกระทรวงพลังงานเลย นโยบายlpg ของรัฐมีอะไรแอบแฝงอยู่รึเปล่า   รัฐบาลเสนอข่าวเกินจริงหรือเปล่า ข้อมูลที่รมต.พลังงานออกมาแถลงข่าว บางอย่างไม่ตรงกับความเป็นจริง  อย่างเช่นเคยออกมาบอกว่าlpgเราต้องนำเข้าจากต่างประเทศ มาจากการกลั่นน้ำมัน ทั้งๆที่แท้จริงมาจากหลุมก๊าซธรรมชาติในบ้านเราเป็นส่วนใหญ่  ส่วนน้อยได้มาจากการกลั่นน้ำมันครับ และรมต.เคยออกมาบอกว่า ngvที่เราใช้เป็นของไทย 100% ทั้งๆที่ความจริงแล้วngvที่ใช้ในบ้านเรา 25%นำเข้ามาจากพม่าครับ   ผมมีความคิดเห็นอีกอย่างว่า LPG เราควรงดการส่งออกไปเลยครับ ผลิตภายในประเทศใช้ในประเทศโดยคุมราคาให้เหมาะสม เน้นให้คนไทยใช้ในภาคครัวเรือนเราจะได้มีพลังงานใช้อย่างยั่งยืนและนานขึ้น ส่วนภาคการขนส่ง  รัฐบาลควรใช้การรณรงค์มากกว่า โดยการให้ข้อมูลที่แท้จริงมาชี้แจงเปรียบเทียบ ผมย้ำว่าข้อมูลที่แท้จริงครับ ไม่ใช่ออกมาให้ร้ายกับlpgแล้วมาชูว่าngvดีเลิศ ทุกอย่าง  รณรงค์ให้ใช้ ngvแทน  เพราะถ้าลอยตัว lpgแล้วมีการส่งออกด้วย บ.น้ำมัน โดยเฉพาะ ปตท.และผู้ถือหุ้นรวยเละแน่ๆครับ จากคุณ : pop35 - [ 26 พ.ย. 50 13:25:46 ]

ความคิดเห็นที่ 59 คนที่ได้ประโยชน์จริงๆในการลอยตัว LPG คือ ปตท.และบริษัทผลิตน้ำมันครับ ประชาชนไม่ได้อะไรเลยครับ ผมไม่ได้สนับสนุนให้คนใช้lpgนะครับ แต่ผมไม่ชอบนโยบายของรัฐบาล เกี่ยวกับข้อเท็จจริงของlpg ที่มี ปตท.หนุนหลังอยู่และมีผลประโยชน์ทับซ้อนอยู่ต่างหากครับ จากคุณ : pop35 - [ 26 พ.ย. 50 13:29:37 ]

ความคิดเห็นที่ 60 คุณ P_WUT ครับ ความจริงคือ ปตท. =กระทรวงพลังงาน ผลประโยช์นทับซ้อนครับ ผมไม่เชื่อความบริสุทธ์ใจของกระทรวงพลังงานครับ คุณก็รู้อยู่แก่ใจครับ จากคุณ : pop35 - [ 26 พ.ย. 50 13:40:10 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ขอพูดตรงนี้เลยนะครับ คุณ P_WUT จากสภาพเศรษฐกิจและการเมืองบ้านเราตอนนี้ ซึ่งจะมีการเลือกตั้งอีกไม่กี่วันข้างหน้า นโยบายพลังงานควรให้รัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งเป็นผู้ตัดสินใจครับ รัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งควรอยู่เฉยได้แล้วครับจะหมดวาระแล้ว คุณ P_WUT คุณ ดูไม่ออกหรือว่าท่าน รมต.กระทรวงพลังงานตอนนี้เร่ง มุบมิบผลักดันนโยบายพลังงานทุกอย่าง ทุกวิธีทาง เพื่อเอื้อผลประโยชน์ให้กับ ปตท.ครับ คุณดูไม่ออกจริงๆหรือครับ การลอยตัวlpg ในส่วนที่กองทุนน้ำมันชดเชยอยู่ผมเห็นด้วยครับ แต่ถ้าลอยตัวตามตลาดโลกแล้ว ใครได้ประโยชน์ครับ ประชาชนได้อะไรครับ ทุกวันนี้ข้าวของก็แพงจะแย่อยู่แล้ว ลอยตัวแล้วทำให้สินค้าแพงขึ้นประชาชนเดือดร้อน กันทุกที่แน่ๆครับ ผลิตภัณท์ผลิตได้ในประเทศคนไทยต้องได้ใช้ในราคาไม่แพงและเหมาะสมครับ อย่าเอาเรื่องวินัยพลังงานมาอ้างเพื่อจะส่งออกlpgฟาดกำไรเข้ากระเป๋าผู้ถือหุ้น คนเขารู้ทันปตท.กันเยอะแล้ว ครับ คนที่ติด lpg และ ngvนั้นเพราะเขาสู้ค่าน้ำมันไม่ไหวครับ คุณP_WUT เขา ไม่มีเงินจะเติมน้ำมันแล้วครับ  และบางคนเขามีความจำเป็นต้องใช้รถครับ คนมีรถไม่ใช่คนรวยทุกคนนะครับ เขาเดือดร้อนครับถึงติดแก๊ส ถ้าน้ำมันไม่แพงก็ไม่มีใครอยากติดแก๊สหรอกครับ สำหรับ LPG ในภาคขนส่ง ควรใช้การรณรงค์มากกว่า โดยการให้ข้อมูลที่แท้จริงมาชี้แจงเปรียบเทียบ ระหว่าง lpg กับ ngv โดยใช้หลักทางวิชาการครับ ไม่ใช่มาให้ข้อมูล บิดเบือนใส่ร้ายกันแบบนี้ครับ และ ตัวngvเองต้องมีความพร้อมมากนี้ครับ ต้องมีปั๊ม จำนวนมากให้พอเพียงกับความต้องการใช้ครับ ไม่ใช่ว่าปั๊มก็ไม่พอเติมแล้วจะมาบังคับให้ใช้กันอีก ของทุกอย่างย่อมมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันครับ สิ่งที่คุณ P_WUT พูดมาก็เป็นความคิดเห็นอีกแง่มุมหนึ่งครับ แต่ควรรอให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเป็นผู้ตัดสินใจดีกว่าครับ และในสภาวะเศรษฐกิจ ของประเทศเราตอนนี้และอีก 1-2ปีข้างหน้า การลอยตัวราคา LPG ให้เท่ากับราคาในตลาดโลก ไม่ควรทำอย่างยิ่งครับ จากคุณ : pop35 - [ 26 พ.ย. 50 14:35:48 ]

ความคิดเห็นที่ 62 พวกโรงงานพลาสติกกลัวไม่มีวัตถุดิบครับ จากคุณ : หัวหยิกหน้ากร้อคอสั้นฟันเหยิน - [ 26 พ.ย. 50 14:43:12 ]

ความคิดเห็นที่ 63 สมมติว่ากระทรวงพลังงานและปตท. อ้างว่าแอลพีจีขาดแคลนหรืออาจจะขาดแคลนในอนาคต เมื่อคนหันมาใช้มากๆจึงต้องขึ้นราคาเพื่อสกัดคนใช้อันนี้จริงหรือครับ สกัดคนใช้ในรถนะได้แต่ในครัวเรือนละครับ และเมื่อขาดแคลนแล้วจะส่งออกทำไม สมมติว่าถ้าลดการใช้แอลพีจีได้จะทำยังไงครับ จะผลิตน้อยลงไหมแล้วก็เก็บสำรองไว้ใช้ในยามขาดแคลน คงไม่หรอกมั๊งพอคนใช้น้อยลงก็เร่งนำส่งออกมากขึ้นเพื่อผลกำไร แล้วจะมาอ้างว่าขาดแคลนได้อย่างไร จากคุณ : dum.d - [ 26 พ.ย. 50 15:34:00 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ก่อนจะตอบตามประเด็นที่ถาม ผมขอเอาข้อมูลเท่าที่ผมมีและเคยตอบบ้างแล้ว copy มาโพสต์ให้อ่านก่อนแล้วกัน "จริงๆ แล้ว ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า เค้าจะปรับราคายังไง คำว่า "ลอยตัว" น่าจะหมายถึง ให้มันขึ้นๆ ลงๆ ได้ตามสถานการณ์ เหมือนกับราคาน้ำมันอย่างทุกวันนี้ แต่จะให้ราคามันอยู่ประมาณไหน  ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ  สิ่งที่ผมรู้ก็คือ ปริมาณ LPG ที่ผลิตได้ในไทยทั้งหมด 1. มาจากการแยกจากก๊าซธรรมชาติ โดย ปตท. ราวๆ 55% 2. มาจากการกลั่นน้ำมัน โดยโรงกลั่นน้ำมันทุกโรง รวมกัน ราว 40% 3. มาจากอื่นๆ (ผมก็ไม่รู้ว่ามาจากไหน แต่สงสัยว่า คงมาจากพวกโรงปิโตรเคมีล่ะมั้ง) อีก 5% ในส่วนของปริมาณการบริโภค 4. ภาคครัวเรือนใช้เป็นแก๊สหุงต้ม สูงถึง 45% 5. ภาคอุตสาหกรรมใช้เป็นเชื้อเพลิง15% 6. ภาครถยนต์ใช้เป็นเชื้อเพลิง 15%   (3 ปีหลังโตเร็วมาก สัดส่วนของภาคนี้ ปี 2004-2007 = 6.4 , 7.8 , 12.4 , 14.5 (เฉพาะ 3 ไตรมาส)) 7. ภาคอุตสาหกรรมใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตอีก 15% 8. เหลือส่งออกอยู่ไม่ถึง 10% แล้ว http://www.eppo.go.th/info/stat/T02_04_02.xls ราคา LPG ที่ตลาดสิงคโปร์ตอนนี้ มันสูงขึ้นไปถึง 700 US$ ต่อตันแล้ว แต่ราคาที่รัฐไทย กำหนดให้ทุกโรงแยกก๊าซ และทุกโรงกลั่นขาย คือ 320 US$ ต่อตัน ถ้าปริมาณการใช้ LPG จะสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนผลิตไม่ทัน ส่วนที่คงจะลดลงเหลือ 0% ก่อนก็คือ ส่งออก คาดกันว่า คงไม่เกิน 2 ปีนี้  จะเร็วหรือช้า ขึ้นกับว่า ราคาน้ำมันเป็นอย่างไร ยิ่งแพงขึ้นมากๆ แต่ราคา LPG ไม่ปรับตาม คนก็หันมาติด LPG มากขึ้น เป็นเรื่องธรรมชาติ   ปัญหาจะเกิดขึ้นก็ตอน LPG ตันแรกที่นำเข้ามาเพื่อไม่ให้ตลาดในประเทศขาดแคลน ใครจะรับผิดชอบส่วนต่าง 700 - 320 = 380 US$ นี้ - รัฐรับเอง โดยลดภาษีลง ให้ราคาในประเทศกับราคานำเข้า พอๆ กัน ประชาชนไม่รู้ว่า LPG ที่ตัวเองซื้อ มาจากผลิตในประเทศหรือนำเข้า - รัฐไม่รับ แต่ให้กองทุนน้ำมันรับ  ซึ่งถ้าใช่ คนจ่ายก็คือ คนที่ใช้น้ำมันเบนซิน / ดีเซล / แก๊สโซฮอล / ไบโอดีเซล - ฯลฯ" จากคุณ : P_Wut - [ 26 พ.ย. 50 15:49:33 ]

ความคิดเห็นที่ 65 จากที่คุณ P_Wut กล่าวว่าราคา LPG ที่ตลาดสิงคโปร์มันไปถึง 700 US ผมว่าต้องดูครับทำไมถึงต้องราคานั้น แล้วราคาที่ขายกันในประเทศที่ 320 US นั้นเป็นราคาที่ขาดทุนหรือไม่ อย่าไปอ้างอิงกับราคาที่เมืองนอกเลยครับมันก็จะเหมือนกับน้ำมัน ดูที่ต้อนทุนการผลิตที่แท้จริงดีกว่าถ้าเห็นว่า 320 US มันขาดทุนก็ลองดูว่าเท่าไหร่ที่เหมาะสม (รวมไปถึงกำไรที่เหมาะสมด้วยไม่ใช่เพื่อเอาไปไว้ปั่นหุ้นของตัวเอง) ประเทศเราสามารถผลิตได้เองก็อย่าไปอิงเมืองนอกครับ ในส่วนที่บอกว่าส่วนต่างใครจะรับผิดชอบ ผมว่าพูดแบบนี้ก็ไม่น่าจะถูกนะเพราะถ้าดูตามที่บอกไว้ตอนแรกครับว่ามันต้องดูที่ต้นทุนที่แท้จริงบวกกำไรที่ต้องการมากกว่า ผมว่าถ้าปตท.ได้รายได้น้อยลงแต่ยังมีกำไรที่จะดำเนินธุรกิจไปได้แบบธรรมาภิบาลผมว่ามันคงไม่ต้องมีใครมารับผิดชอบครับ จากคุณ : altisboy (altisboy) - [ 26 พ.ย. 50 16:25:45 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ผมขอยกคำตรัส ของในหลวงมาให้ฟังนิดนึงนะครับพอดีได้ดูข่าวทางทีวีพอดี ท่านยกตัวอย่างการสร้างเขื่อนป่าสักชลสิทธ์ ถึงแม้ว่าการสร้างเขื่อนจะเสียงบ ประมาณจำนวนมากกว่า 20,000 ล้านมั้งครับจำไม่ค่อยหรือมากกว่านั้นมีแต่ขาดทุนในการสร้าง แต่สิ่งที่ได้มามันไม่ใช่เงินครับแต่มันให้ชีวิตกับคนที่ยากไร้ที่ปีๆนึงเค้าแล้งเค้าไม่มีน้ำใช้ ในการเกษตร และป้องกันมากน้ำท่วมในหลายๆจังหวัดและอื่นๆอีกมากมายที่ได้จากเขื่อน โดยสิ่งที่ได้กลับมานั้นไม่ใช่เงินทองแต่ท่านให้ประชาชนตาดำๆของท่านให้ได้ มีประโยชน์สุงสุด ผมแค่อยากจะบอกว่าอยากให้รัฐมองอย่างในหลวงบ้างครับ ทำเพื่อประชาชนในประเทศบ้างครับอย่างมองเห็นแต่กำไรอย่างเดียวครับ ปล.เป็นเสียงประชาชนคนนึงที่เหมือนกับหลายๆคนในประเทศไทยครับ จากคุณ : tae66tae - [ 26 พ.ย. 50 16:35:19 ]

ความคิดเห็นที่ 67 อย่าลืมเรื่อง การเก็บ CNG ต้องใช้แรงดัน 200 Bar LPG ใช้แรงดัน 10 Bar ถามว่าการที่จะต้องอัดแก๊ซแรงดัน 1 Bar ให้มีแรงดัน 200 Bar เนี่ย จะต้องใช้ไฟฟ้ามากกว่า จาก 1 Bar ไป 10 Bar เท่าไหร่ ไฟฟ้ามาจากไหน ก็มาจากการเผาไหม้ LPG เพราะฉะนั้นยิ่งใช้ NGV มาก ก็จะต้องใช้ LPG มากขึ้นไปด้วย โรงไฟฟ้ามีประสิทธิภาพในการเปลี่ยนเชื้อเพลิงให้เป็นพลังงานมากที่สุดก็ 40% เครื่องยนต์อีก 20%ซึ่งกำลังเครื่องจะตกไปอีก 20%กลายเป็น 16% รวมแล้วถ้าใช้ NGV จะมีประสิทธิภาพแค่ .4*.16=.064 หรือ 6.4% เท่านั้นเอง เอา LPG มาใช้เลยไม่ดีกว่าหรอครับได้ตั้ง 20% แน่ะ จากคุณ : นัด (อาตี๋เล็ก) - [ 26 พ.ย. 50 16:48:11 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ผมขอตอบคำถามบางประเด็น ที่เป็นปลีกย่อย ไปก่อนนะ บอกตามตรงว่า คำถาม/ความเห็นของแต่ละท่าน มันค่อนข้างกระจัดกระจายครับ เรื่องราคา LPG ที่สิงคโปร์จะเป็นเท่าไหร่ แล้วมันเกี่ยวกับราคาในประเทศเราอย่างไร  มันเกี่ยวข้องกันตรงนี้ครับ ณ วันนี้ เรายังมี LPG เหลือส่งออกอยู่  ก็แปลว่า ปริมาณการผลิตในประเทศ (ไม่ว่าจากทางไหนก็ตาม) ยังมากกว่า ปริมาณการบริโภคในประเทศ แต่ถ้าวันนึงในระยะ 1-2 ปีนี้ ปริมาณการบริโภคในประเทศสูงขึ้น จนที่ผลิตได้ในประเทศ ไม่เพียงพอ เริ่มขาดแคลน  เราลองมาคิดดูว่า จะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง - ปั๊มแก๊สจะเริ่มมีเหตุการณ์แก๊สหมด  ไม่สามารถให้บริการได้ตลอดทั้งวัน เพราะแต่ละปั๊มจะเริ่มถูกจำกัดโควต้าการขาย - เวลาแก๊สหุงต้มในบ้านหมด โทรไปสั่งทีนึง ต้องรอ 2-3 วัน ไม่ใช่มีมาส่งได้ภายในวันนั้น เพราะมีคิวบ้านที่แก๊สหมดแล้วรอไปส่งต่อคิวอยู่ก่อนแล้ว - ราคาแก๊สในตลาดมืดจะเริ่มสูงขึ้น  กลางวันปั๊มแก๊สบอกหมดแล้ว ต้องรอพรุ่งนี้ แต่จริงๆ มีเหลือแต่เค้ากักตุนไว้ แล้วมาลักลอบเปิดขายหลังเที่ยงคืนในราคาที่สูงขึ้นอีก 2-3 บาท - พอคุณวางหูหลังสั่งแก๊สเสร็จ อีกไม่เกินครึ่งนาที โทรศัพท์จะดังขึ้น แล้วบอกคุณว่า เรามีแก๊สขายให้คุณ ส่งให้ได้ในทันที แต่ราคาแพงกว่าถังละ 100 คุณเอามั้ยคะ? ราคาในตลาดมืด หรือราคาเกินกว่าที่รัฐประกาศ จะมากหรือน้อย ขึ้นกับว่า แก๊สมันขาดแคลนแค่ไหน - ถามว่า จะมีผู้ค้าแก๊สรายไหน / พ่อค้ารายไหน นำเข้า LPG มาขายให้คนไทยเพื่อไม่ให้ขาดแคลนมั้ย?  คำตอบคือ ไม่มี ก็เห็นๆ อยู่ว่า มันขาดทุนตั้งกว่าครึ่งนึง นำเข้าตันละ 700  แต่ขายคนไทยได้แค่ตันละ 320 ถ้าใครคิดหาวิธีแก้ปัญหาเรื่อง ขาดแคลน LPG ได้ ก็ลองมาช่วยกันคิดดูครับ จากคุณ : P_Wut - [ 26 พ.ย. 50 17:29:14 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ผมว่ามันก็ยังไม่ใช่คำตอบอยู่ดีครับ เพราะการที่ขายราคา 700 US เพราะเผื่อขาดแคลนในอนาคตนี่ผมว่าไม่น่าใช่ครับมันก็เข้ากฎของ demand กับ supply ครับ คุณ P_Wut บอกแต่ในเรื่องของอนาคตซึ่งผมเองก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ผมก็อายุ 33 แล้วถ้าผมตายไปผมก็ยังเชื่อว่า ก๊าซในประเทศไทยก็ยังไม่หมดครับ จากที่คุณเองก็บอกมาว่าเรายังมี LPG เหลือส่งออกนั่นแสดงว่าฝั่ง Supply ยังมีเหลือเพียงพอที่จะขายครับ และผมเชื่อว่าสิงคโปร์เองคงไม่สามารถมีก๊าซได้เพียงพอใช้ในประเทศเหมือนเมืองไทยเราครับ... จากคุณ : altisboy (altisboy) - [ 26 พ.ย. 50 17:49:20 ]

ความคิดเห็นที่ 70 เรื่องกำไร ปตท. ที่คุณกลายใต้ถามมา  ผมและหลายคนเคยตอบไปหลายครั้งแล้วว่า กำไรจากปตท. ไม่ได้มาจากธุรกิจด้านน้ำมัน แต่มาจากธุรกิจด้านก๊าซธรรมชาติ (สำรวจ-ผลิต) และปิโตรเคมี เพื่อให้มีความกระจ่างเรื่องนี้มากขึ้น ผมขอยกผลประกอบการของบริษัทในตลาดหุ้นที่ทำธุรกิจทางด้านน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นหลักมาให้ดูนะครับ ผมขอแนะนำให้ไปดู link ดังต่อไปนี้นะครับ  มันเป็น link ของบริษัทที่มีกิจการทางด้านโรงกลั่นน้ำมัน/ขายน้ำมันเป็นหลัก (แต่เป็นบริษัทลูกของ ปตท. ด้วย) บางจาก http://www.set.or.th/set/newsdetails.do?filename=dat%2Fnews%2F200711%2F07038178.t07&headline=MD%26A+%BC%C5%A1%D2%C3%B4%D3%E0%B9%D4%B9%A7%D2%B9%CA%D4%E9%B9%CA%D8%B4%C7%D1%B9%B7%D5%E8+30+%A1%D1%B9%C2%D2%C2%B9+2550&type=H&symbol=BCP&time=1194589440000&language=&country= TOP http://www.set.or.th/set/newsdetails.do?filename=dat%2Fnews%2F200711%2F07037991.t07&headline=%B9%D3%CA%E8%A7%A7%BA%A1%D2%C3%E0%A7%D4%B9%E1%C5%D0+MD%26A+%E4%B5%C3%C1%D2%CA+3+%BB%D5+2550&type=H&symbol=TOP&time=1194572700000&language=&country= RRC http://www.set.or.th/set/newsdetails.do?filename=dat%2Fnews%2F200711%2F07037230.t07&headline=%A4%D3%CD%B8%D4%BA%D2%C2%E1%C5%D0%C7%D4%E0%A4%C3%D2%D0%CB%EC%A7%BA%A1%D2%C3%E0%A7%D4%B9%CA%D3%CB%C3%D1%BA%E4%B5%C3%C1%D2%CA+3%2F2550&type=H&symbol=RRC&time=1194229500000&language=&country= ทั้ง 3 บริษัท ผมเปิดดูผลประกอบการแล้ว พอจะสรุปได้ว่า บางจาก (มีทั้งโรงกลั่นและขายปลีกน้ำมัน) มีรายได้ตลอด 9 เดือนแรกของปี 2550 ราว 67,000 ล้านบาท กำไรสุทธิราว 1,300 ล้านบาท  ถ้าคิดเป็น % ออกมาก็ตก 1.9% ไทยออยล์ (มีแต่โรงกลั่นทั้งกลั่นน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่นและ by product อื่นๆ) มีรายได้ตลอด 9 เดือนแรกของปี 2550 ราว 200,000 ล้านบาท กำไรสุทธิราว 14,500 ล้านบาท  ถ้าคิดเป็น % ออกมาก็ตก 7.25% โรงกลั่นน้ำมันระยอง (มีแต่โรงกลั่นน้ำมันอย่างเดียว  ใกล้จะรวมกับ ATC แล้ว) มีรายได้ตลอด 9 เดือนแรกของปี 2550 ราว 121,000 ล้านบาท กำไรสุทธิราว 7,400 ล้านบาท  ถ้าคิดเป็น % ออกมาก็ตก 6.11% ก่อนจะไปถึง ปตท. อยากถามทุกท่านว่า อัตรากำไรระดับ 2-7% ของรายได้เช่นนี้ เป็นการทำธุรกิจที่เอากำไรเกินควรมั้ยครับ? มองอีกแบบนึงก็ได้ครับว่า ถ้าบริษัทเหล่านี้ ไม่หวังกำไรเลย ราคาน้ำมันจะถูกลงไปสักเท่าไหร่  ผมขอคิดที่ 5% แล้วกันนะครับ ง่ายดี น้ำมันเบนซิน ที่ราคาหน้าโรงกลั่นก่อนคิดภาษีและค่าการตลาดทั้งหลาย จาก 21-22 บาท/ลิตร จะถูกลงไปราว 1 บาท เหลือ 20-21 บาท/ลิตร พอคิดรวมภาษีต่างๆ และคงค่าการตลาดไว้ตามเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ราคาหน้าปั๊มจะถูกลงจากตอนนี้ 28-33 บาท ลงไปแค่ 1.2-1.3 บาท/ลิตร หรือราวๆ 4% เหลือ เกือบๆ 27- เกือบๆ 32 บาท จากคุณ : P_Wut - [ 26 พ.ย. 50 17:52:03 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ท่านที่เติมน้ำมันทุกวันนี้ ครั้งละ 1,000 บาท จะถูกลง 40 บาท ท่านที่ใช้น้ำมันเดือนละ 10,000 บาท จะน้อยลงเดือนละ 400 บาท ผมยังหาข้อมูลบริษัททางปิโตรเคมี มาเปรียบเทียบว่า กำไรกี่ % ไม่ได้นะครับ  ถ้ามีใครหามาได้ ก็ช่วยโพสต์ link และคำนวณ อัตรากำไรสุทธิ (กำไรสุทธิหารด้วยรายได้รวม) มาให้ดูหน่อยนะครับว่า ธุรกิจทางปิโตรเคมีนั้น เค้ากำไรประมาณกี่เปอร์เซนต์ หรือถ้าในงบการเงินของ ปตท. มีแยกเป็นกลุ่มธุรกิจอยู่ด้วย เอาตัวนั้นตรงๆ ตัวมาโพสต์ให้ดูเลย ยิ่งดีครับ จากคุณ : P_Wut - [ 26 พ.ย. 50 17:54:41 ]

ความคิดเห็นที่ 72 สวัสดี คุณ "P_Wut"   ผมคงไม่ได้มาหาเรื่องชวนทะเลาะหรอกนะครับ แค่ยกตัวอย่างมาแหย่เล่นเท่านั้นเอง เข้าเรื่องดีกว่า ตามตัวอย่างที่คุณยกมาใน คห.ที่ 68 ผมอ่านแล้วฮา มาก ๆ ครับ   โดยเฉพาะตรงส่วนนี้ - เวลาแก๊สหุงต้มในบ้านหมด โทรไปสั่งทีนึง ต้องรอ 2-3 วัน ไม่ใช่มีมาส่งได้ภายในวันนั้น เพราะมีคิวบ้านที่แก๊สหมดแล้วรอไปส่งต่อคิวอยู่ก่อนแล้ว - ราคาแก๊สในตลาดมืดจะเริ่มสูงขึ้น  กลางวันปั๊มแก๊สบอกหมดแล้ว ต้องรอพรุ่งนี้ แต่จริงๆ มีเหลือแต่เค้ากักตุนไว้ แล้วมาลักลอบเปิดขายหลังเที่ยงคืนในราคาที่สูงขึ้นอีก 2-3 บาท - พอคุณวางหูหลังสั่งแก๊สเสร็จ อีกไม่เกินครึ่งนาที โทรศัพท์จะดังขึ้น แล้วบอกคุณว่า เรามีแก๊สขายให้คุณ ส่งให้ได้ในทันที แต่ราคาแพงกว่าถังละ 100 คุณเอามั้ยคะ? ฮาตรงไหนรู้ไหมครับ  ผมว่าประเทศที่คุณยกตัวอย่างมา  คงเป็นประเทศแถว ๆ ดาวอังคารนะครับ คือตัวกระผมเองก็ไม่ได้รับประทานหญ้าเป็นอาหารหลักซะด้วย  อาจจะมีทานบ้างเป็นบางมื้อ ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นจริง ๆ  คุณ  "P_Wut" จะทำยังงัยครับ ผมว่า  ผมมีทางจัดการกับคนพวกนี้ได้ครับ ถึงแม้จะทานหญ้าบ้างก็ตาม ส่วนที่ 2 คุณ "P_Wut" ไม่ต้องกังวลเรื่องผลิตก๊าซ LPG ไม่พอใช้ในประเทศหรอกนะครับ ตราบใดที่ สมองของ รมต.พลังงาน มีหัวคิดได้แค่รอยตัว LPG ตราบนั้น ปตท.ยังผลิต LPG ได้เพียงพอต่อการใช้ในประเทศแน่นอนครับ ทำไมหน่ะรึครับ..?  ก็เพราะว่าเรายังไม่มีพลังงานที่มาทดแทนน้ำมันไงครับ ปตท.ก็ยังคงต้องกลั้นน้ำมันดิบต่อไปเรื่อย ๆ ครับ จากคุณ : yuyu (YUYU-001) - [ 26 พ.ย. 50 18:07:35 ]

ความคิดเห็นที่ 73 LPG VS NGV VS 95 VS GH เอาให้มันมึนกันไปข้าง ถ้ามีจิตสำนึกว่าพลังไทย เพื่อไทย กันจริงๆ ปัญหาคงไม่ต้องมาเถียงกันอย่างนี้หรอกครับ คนไทยป่ะน่ะ......... จากคุณ : wit - [ 26 พ.ย. 50 18:20:19 A:58.9.3.114 X: TicketID:154143 ]

ความคิดเห็นที่ 74 คุณ altisboy คห. 69 - เรื่องใกล้จะขาดแคลน ในประเทศไม่พอใช้ ถ้ารัฐปล่อยให้ประชาชนหันไปเติม LPG แทนน้ำมัน ยังเป็นเช่นที่ผ่านมา ไม่ขึ้นราคา LPG ไม่จำกัดปั๊มเกิดใหม่  ผมคิดว่า มีความเป็นไปได้สูงมาก จากภาพข้างล่างนี้ คือ ตารางที่ผมโหลดมาตาม คห. 64 ปริมาณการส่งออก LPG จากที่เคยส่งออกได้ 700 - เกือบ 1000 ตันต่อปี ลดลงเหลือ 576 ตันในปีที่แล้ว  และปีนี้ ตามการประมาณของผมเอง (เพราะข้อมูลในไฟล์แค่ 9 เดือน ผมก็ลองประมาณต่ออีก 3 เดือน) เหลือแค่ 300 ตัน หรือแค่ 8% เท่านั้น อัตราการเติบโตของภาครถยนต์ โตถึง 34.5% ในปี 2005 และ 51.6% ในปี 2006 ส่วนปีนี้ 9 เดือนก็ยังโต 29.7% อีก 3 เดือนผมให้เท่าเดิมละกัน ก็ราวๆ 30% จากคุณ : P_Wut - [ 26 พ.ย. 50 18:20:29 ]

ความคิดเห็นที่ 75 มาต่อนะครับ   ไม่อยากต่อเลย ช่วง OT ผมนะเนี๊ย เจ้านายรู้เดี๋ยวโดน  อู้บ่จ้าง   สิ่งที่ รมต.คนปัจจุบัน กับปตท.ทำกับ CNG คืออะไรรึครับ คือการโฆษณkโกหกว่า  CNG  มีราคาถูก และเป็นพลังงานทางเลือกที่ดีที่สุด ทั้ง ๆ ที่ความจริง ปตท.แบกภาระขาดทุนจาก CNG อยู่เกือบ 6  บาท (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) การผลักดันในคนมาใช้ CNG  ที่ดีจริง ๆ ควรบอกผลดี และผลเสียจากข้อมูลทั้งหมดในคนทั้งประเทศเข้ารับรู้รับทราบครับ  ไม่ใช่บอกแต่ข้อมูลโกหก คนไทยไม่โง่ครับ  บอกมาเดี๋ยวเขากลับไปคิดเองได้ว่า  จะใช้หรือไม่ใช้ ส่วนเรื่องโยนบาป  ให้คนใช้รถยนต์ LPG ว่าเป็นภาระ กับกลุ่มคนใช้น้ำมัน อันนี้ยิ่ง ทุ เ ร ศ สุด ๆ ครับ ท่าน รมต.คนนี้บอกว่า  นำรายได้จากน้ำมันมาช่วยราคาก๊าซ LPG  2 บาท (ประมาณการนะครับ) ความจริง ไม่จำเป็นเลยครับ ต่อให้ไม่มาอุ้ม คนใช้ LPG พร้อมให้ปรับขึ้นได้ทุกเมื่อ แต่ที่ผลกระทบจริง ๆ มันตกที่ภาคครัวเรื่อนมากกว่า แต่ รมต.คนนี้กับตั้งใจบิดเบือนข้อเท็จจริง แต่โยนบาปให้กลุ่มรถใช้ LPG เจตนาต้องการให้คนใช้น้ำมันรู้สึกไม่ดี ต่อกลุ่มคนใช้แก๊ส LPG ชัด ๆ  นี่หรือครับ รมต.ของประเทศไทย คุณ "P_Wut"  คิดว่าอย่างไรครับ จากคุณ : yuyu (YUYU-001) - [ 26 พ.ย. 50 18:25:14 ]

ความคิดเห็นที่ 76 การส่งออกที่ลดลงมันก็ไม่ได้หมายความว่าจะเกิดการขนาดแคลนหรอกครับ อาจจะเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่นมีการใช้ในประเทศมากขึ้น เลยลดการส่งออกลง หรืออาจจะเกิดจากแหล่งรับซื้อจากต่างประเทศอาจจะไปซื้อจากแหล่งผลิตอื่น ลองดูตัวเลขฝั่งที่เป้น Supply สิครับจะเห็นได้ครับว่าตัวเลขแทบไม่ได้ลดลงเลยผมเข้าใจว่าทางปตท.เองคงจะมีการคำนวนเรื่องของอัตรการผลิตที่เหมาะสมอยู่แล้วครับไม่ใช่มีเท่าไหร่ผลิตเท่านั้น ผมทราบครับว่าก๊าซปริโตเลียมเป็นพลังงานที่ใช้แล้วหมดไปครับ แต่ยังไงผมก็ยังเชื่อว่าในอีกหลายปีข้างหน้ารถในเมืองไทยทั้งหมดก็ยังไม่มีใครหันมาใช้ก๊าซกันทุกคัน และยังมีใช้จนกว่าผมตายอีกไม่รู้กี่สิบปีครับ จากคุณ : altisboy (altisboy) - [ 26 พ.ย. 50 18:35:59 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ไปยาวออกนอกประเด็น LPG  CNG ตัวเลขเริ่มจะมากขึ้น คนอ่านเริ่มจะง ๆ แต่ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว  สรุปดังนี้ว่า ========================== 1. คุณ P Wut บอกว่ากำไรไม่กี่ % สำหรับ ขายปลีก  .. พูดอีกก็ถูกอีก ก็แน่ละ ปตท.ไม่ได้กินแกลบ ที่จะให้ประชาชนได้เห็นว่า เช่น ตอนนี้รับเบนซิน 95 หน้าโรงกลั่นมา 20 บาท , เมื่อบวกภาษีแล้ว มีต้นทุน 29.80 ก็เลยขาย 30 มีกำไร 20 สตางค์ต่อลิตร อย่างนี้คงง่ายเกินไป .. ===// เค้าก็ไปบวกมาตั้งแต่กำไรจากโรงกลั่นแล้ว ไม่อย่างนั้นโรงกลั่นไทยออย กำไรก่อนแปรรูปแค่พันล้าน จะขึ้นมาเป็น เกือบจะ 30,000 ล้านต่อปีเหรอ ============================== 2. ไอ้กำไร จากการขายน้ำมันไม่เท่าไหร่  ==>  ใช่ ถูกต้อง ! แต่ 150,000 ล้านกำไรจาก ปตท.น่ะมาจากแก็ซซะเป็นส่วนใหญ่  ==> ใช่ถูกต้อง ! แต่แก็ซน่ะ มันไปไหน  กว่า 50% ขายผูกขาดไปกฟผ.  แล้วแปรเปลี่ยนมาเป็นกำไร โดยคิดตังค์กะคนใช้ไฟ .. ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน  .. ถ้าไม่ใช่คนไทย //exlaim ================================= 3.  ประชาชนคนไทย  จะจ่ายแพงเท่าไหร่ ไม่ว่า ถ้ากำไรเข้ารัฐ ไปหมด ดีซะอีก คนไทยจ่ายแพง เข้ารัฐหมด จะได้ประหยัด ๆ กันบ้าง   แต่ที่เจ็บใจคือ   ไม่ว่าเราจะประหยัดมาก ประหยัดน้อย น้ำมันถูกหรือแพงอย่างไร  ประชาชนแย่อย่างไร ปตท. ก็ยังฟันกำไรคงที่คงวา  และมีแต่เพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ 150,000 ล้านที่เป็นกำไร  ครึ่งหนึ่ง ไปเข้ากระเป๋าใครไม่รุ  แล้วไอ้ใครไม่รู้นี่มันเป็นใคร เหรอ ถึงได้เอากำไรจากการดูดเอาทรัพยากรคนไทย ดูดเงินคนไทยด้วยกันเอง ในส่วนที่เป็นพลังงานในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งน้ำมัน แก็ส และ ไฟฟ้า จากคุณ : กลายใต้ - [ 26 พ.ย. 50 19:46:24 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ผมเห็นด้วยกับ คุณ yuyu นะ คุณ P_wut ตอบคำถาม คุณ yuyu ดีกว่า ครับ จากคุณ : khun_kit - [ 26 พ.ย. 50 19:59:23 ]

ความคิดเห็นที่ 79 คุณ กลายใต้ พูดอีกก็ถูกอีก มันคิดว่า คนไทยกินหญ้าหรือไงวะเนี่ย จากคุณ : khun_kit - [ 26 พ.ย. 50 20:02:26 ]

ความคิดเห็นที่ 80 จากข้อความของคุณ P_WUT "ในส่วนของปริมาณการบริโภค 4. ภาคครัวเรือนใช้เป็นแก๊สหุงต้ม สูงถึง 45% 5. ภาคอุตสาหกรรมใช้เป็นเชื้อเพลิง15% 6. ภาครถยนต์ใช้เป็นเชื้อเพลิง 15%   (3 ปีหลังโตเร็วมาก สัดส่วนของภาคนี้ ปี 2004-2007 = 6.4 , 7.8 , 12.4 , 14.5 (เฉพาะ 3 ไตรมาส)) 7. ภาคอุตสาหกรรมใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตอีก 15% 8. เหลือส่งออกอยู่ไม่ถึง 10% แล้ว" ผมขอบอกอีกครั้งว่า สำหรับ LPG ในภาคขนส่ง ควรใช้การรณรงค์มากกว่า โดยการให้ข้อมูลที่แท้จริงมาชี้แจงเปรียบเทียบ ระหว่าง lpg กับ ngv โดยใช้หลักทางวิชาการครับ ไม่ใช่มาให้ข้อมูล บิดเบือนใส่ร้ายกันแบบนี้ครับ และ ตัวngvเองต้องมีความพร้อมมากนี้ครับ ต้องมีปั๊ม จำนวนมากให้พอเพียงกับความต้องการใช้ครับ ไม่ใช่ว่าปั๊มก็ไม่พอเติมแล้วจะมาบังคับให้ใช้กันอีก ของทุกอย่างย่อมมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันครับ สร้างปั๊มให้พอก่อน ลดค่าติดตั้งให้ถูกกว่าปัจจุบันเปิดทางให้เอกชนรายอื่น นำเข้าถัง ngvได้โดยอิสระ ไม่ใช่ผูกขาดแต่ปตท.เจ้าเดียวครับ คุณP_WUT การที่ขายราคา 700 US เพราะเผื่อขาดแคลนในอนาคตนี่ไม่ใช่ทางแก้ปัญหานะครับ ถ้าเป็น กระทรวงพลังงานคิดได้แต่แบบนี้ยุบกระทรวงไปเลยครับ ไม่มีประโยชน์ อย่าเอะอะเอาเรื่องอนาคตมาอ้าง lpgไม่ได้ขาดแคลนง่ายๆครับ ถ้ามีการสนับสนุนให้ใช้ ngvมากขึ้น ปริมาณการใช้lpgในรถยนต์ก็จะลดลงเองครับ ถ้าจะที่ขายราคา 700 US เพราะเผื่อขาดแคลนในอนาคตนี่ เอาอะไรคิดครับ ผมยินดีใช้แก๊สlpg ราคา 700 US ต่อตันหรือมากกว่า เมื่อlpgในประเทศถูกนำมาใช้จน ขาดแคลน จนต้องนำเข้า ดีกว่าจะต้องใช้ lpg ราคา 700 US ต่อตันโดยการอ้างว่าเผื่อขาดแคลนในอนาคตครับ แล้วรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง รมต.กระทรวงพลังงานที่ประชาชนไม่ได้เป็นคนเลือกเข้ามาบริหารบ้านเมือง มีสิทธิ์อะไรที่จะนำlpgซึ่งเป็น สมบัติของคนไทย ทั้งชาติมาเก็บเกี่ยวหาผลประโยชน์ครับ คุณ P_WUT จากคุณ : pop35 - [ 26 พ.ย. 50 20:14:13 ]

ความคิดเห็นที่ 81 เพิ่งมาเจอกระทู้นี้ เมื่อกี้เพิ่งตอบไปกระทู้ด้านบน เรื่อง LPG กะ NGV เหมือนกัน และด้วยความเคารพ P_Wut ของผม (แอบชื่นชอบมานานเพราะตอบทุกเรื่องที่เกียวกับ Fortuner ได้ถูกใจผมดี) ผมขอแย้งอีกคนครับว่า ปตทไม่น่าหวังผลกำไรเป็นแสนล้าน แล้วกำไรที่ได้ไปอยู่ที่กลุ่มคนบางกลุ่ม แน่นอนก็คือพวกผู้ถือหุ้น แล้วเค้าได้หุ้นนั้นมากันตอนไหน ใครได้ไปบ้าง ตรงนี้ไม่ขอเอยถึงเพราะเดียวกลายเป็นโต๊ะราชดำเนิน แต่ถ้าจะบอกว่าประชาชนก็มีสิทธิ์ถือหุ้นนะ ไปช้อนซื้อที่ตลาดหลักทรัพย์ก็ได้ แล้วตอนนี้หุ้นมันดีดไปถึงไหนแล้วละ (300-400 บาท) จะเอาปัญญาที่ไหนไปซื้อ แล้วที่สำคัญตอนกระจายหุ้น ทำไมไม่ให้ตาสีตาสา หรือเอามาแจกพวกเราละ ทำไมได้แต่เฉพาะคนบางกลุ่ม คิดแล้วสงสารประเทศไทย โดนคนโกงทั้งปีทั้งชาติ ก็ขอให้กรรมตามสนองไวๆ เหมือน Hi Speed Internet ละกัน ผมรอวันนั้นของพวกมันอยู่ จากคุณ : เกลียด ปตท - [ 26 พ.ย. 50 20:23:52 A:124.122.141.11 X: TicketID:141315 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ชอบประโยคนี้ของคุณ "pop35"  จริง ๆ ครับ ที่ว่า "แล้วรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง รมต.กระทรวงพลังงานที่ประชาชนไม่ได้เป็นคนเลือกเข้ามาบริหารบ้านเมือง มีสิทธิ์อะไรที่จะนำlpg   ซึ่งเป็น สมบัติของคนไทยทั้งชาติมาเก็บเกี่ยวหาผลประโยชน์ครับ จากคุณ : yuyu (YUYU-001) - [ 26 พ.ย. 50 20:23:54 ]

ความคิดเห็นที่ 83 เพิ่งมาเจอกระทู้นี้ เมื่อกี้เพิ่งตอบไปกระทู้ด้านบน เรื่อง LPG กะ NGV เหมือนกัน และด้วยความเคารพ P_Wut ของผม (แอบชื่นชอบมานานเพราะตอบทุกเรื่องที่เกียวกับ Fortuner ได้ถูกใจผมดี) ผมขอแย้งอีกคนครับว่า ปตทไม่น่าหวังผลกำไรเป็นแสนล้าน แล้วกำไรที่ได้ไปอยู่ที่กลุ่มคนบางกลุ่ม แน่นอนก็คือพวกผู้ถือหุ้น แล้วเค้าได้หุ้นนั้นมากันตอนไหน ใครได้ไปบ้าง ตรงนี้ไม่ขอเอยถึงเพราะเดียวกลายเป็นโต๊ะราชดำเนิน แต่ถ้าจะบอกว่าประชาชนก็มีสิทธิ์ถือหุ้นนะ ไปช้อนซื้อที่ตลาดหลักทรัพย์ก็ได้ แล้วตอนนี้หุ้นมันดีดไปถึงไหนแล้วละ (300-400 บาท) จะเอาปัญญาที่ไหนไปซื้อ แล้วที่สำคัญตอนกระจายหุ้น ทำไมไม่ให้ตาสีตาสา หรือเอามาแจกพวกเราละ ทำไมได้แต่เฉพาะคนบางกลุ่ม คิดแล้วสงสารประเทศไทย โดนคนโกงทั้งปีทั้งชาติ ก็ขอให้กรรมตามสนองไวๆ เหมือน Hi Speed Internet ละกัน ผมรอวันนั้นของพวกมันอยู่ จากคุณ : เกลียด ปตท - [ 26 พ.ย. 50 20:26:28 A:124.122.141.11 X: TicketID:141315 ]

ความคิดเห็นที่ 84 กระทู้นี้คุณ P_WUT ก็ยังยกตัวเลขในการทำนายเดิมๆของคุณโดยยกอัตราการเติบโตของสามสี่เดือนแรก มาำทำนายการเติบโตของปีต่อๆไป โดยไม่ได้ดูปัจจัยอย่างอื่นเลย ผมคิดว่าการทำนายของคุณไม่ค่อยจะถูกต้องตามหลักสถิตินะครับ ผมเคยยกกราฟในช่วงสิบกว่าปีของการใช้งานมา คุณก็บอกเชือไม่ได้ ต้องดู เฉพาะ 3-4เดือนของปีล่าสุด อ้าวแบบไหนมันน่าเชื่อถือกว่ากันล่ะ? ไม่ได้มองปัจจัยกำลังการผลิตหรือปัจจัยการเก็งกำไรจนเกิด demand เทียมขึ้นมาเลย เอาเป็นว่าคุณเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจจริงๆเลยหรือว่า PTT จะขึ้นราคา LPG เพื่อปกป้องความมั่นคงทางพลังงาน เพื่่อไม่ให้ขาดแคลนจริงๆ หรือไม่ใช่แค่กลยุทธ์ในการหากำไรเพิ่มของ PTT โดยเห็นช่องว่างราคาขายระหว่างในประเทศและตปท.? ตอนนี้เหมือนกับว่าคุณกำลัง contradict โดยใช้ความเชื่อที่ว่า PTT มีความตั้งใจเพื่อความมั่นคงทางพลังงานเพื่อคนไทย แล้วย้อนหาเหตุผลให้ PTT มากกว่า แก้ไขเมื่อ 26 พ.ย. 50 20:53:32 จากคุณ : ....4จุด - [ 26 พ.ย. 50 20:42:56 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ยาว ขี้เกียจอ่าน รู้ว่า เอ็นจีวีมันน่าจะดีสำหรับรถมากกว่า ราคาถูกกว่า แต่ปริมาณปั๊มมีน้อย ถังหนักจุได้น้อย ใช้เวลานานในการเติม ค่าติดตั้งแพง แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่ผมจะยังไม่ใช้เอ็นจีวี อย่างอื่นไม่ต้องมาชักแม่น้ำทั้งห้า ผมไม่มีเวลามาเข้าคิวรอเติมแก๊ส ทำทุกอย่างให้พร้อมมากกว่านี้แล้วจะมีคนใช้เอง ทำทางเลือกให้เขาก่อน ถ้ามีทางเลือกแล้วยังไม่เอาจะบังคับก็ไม่ว่าเลย อย่ามามัดมือชกกันแบบนี้ นายปิยะสวัสดิ์ต้องเข้าคิวเติมแก๊สเหมือนประชาชนทั่วไปใหม จากคุณ : -- - [ 26 พ.ย. 50 21:06:44 A:203.155.9.153 X: TicketID:124519 ]

ความคิดเห็นที่ 86 อ่านคห.85 แล้วนึกได้ ผมว่าเค้าคงใช้น้ำมันอ่ะครับ เผลอๆ เติมน้ำมันแล้วเบิกหลวงด้วยมั้งน่ะ แก้ไขเมื่อ 26 พ.ย. 50 21:43:23 จากคุณ : CK5 - [ 26 พ.ย. 50 21:38:25 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ถ้าจะให้ใช้ NGV ก็ไปเตรียมความพร้อมให้เรียบร้อยก่อนเถอะครับ ตอนนี้แก๊สไม่พอ  ปั๊มน้อย  รอนาน หมดไว ตอนจะติดแก็สผมก็หาข้อมูล ระหว่าง LPG และ NGV ในเมื่อ NGV ติดไปแล้วผู้ใช้รถไม่สะดวก ก็ต้องเลือก LPG ครับ  เพราะผมคงไม่สามารถรอเติม NGV ทุก 2 วันได้ และมีข้อนึงที่สงสัย รถ รมต.ทุกคันตอนนี้มีรถของ รมต.ท่านไหนติด NGV บ้าง โดยเฉพาะ รถท่านปิยะสวัสดิ์ ใช้อะไรเป็นเชื้อเพลิงครับ จากคุณ : อาชาสีหมอก_offer - [ 26 พ.ย. 50 21:45:34 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ยกมือนับหนุ่นครับ P_WUT   ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกะ ปตท.  ถามว่าถ้าปตท ไม่แปลรูป แต่พวกบังตะวันออกกลางมันยังขึ้นราคา คุณคิดว่าคุณจะได้ใช้น้ำมันถูกกว่านี้หรือครับ จากคุณ : electrician - [ 26 พ.ย. 50 22:40:30 ]

ความคิดเห็นที่ 89 บังไม่ได้ขึ้นราคาคับ แต่พวกเก็งกำไรน้ำมันล่วงหน้าในตลาดนิวยอร์คเอย(NYMEX) สิงค์โปร์เอย(SIN)(ตลาดนี้มี พวกทำธุรกิจขาใหญ่น้ำมันเมืองสารขัณฑ์แอบเล่นส่วนตัวด้วย) เป็นคนชี้นำราคาครับ เราจึงเห็นได้ว่า น้ำมันไม่ได้ขาดแคลน มีให้ใช้เสมอ แต่ราคาขึ้นไปเรื่อยๆ จากคุณ : x - [ 27 พ.ย. 50 02:42:05 A:210.246.64.251 X: TicketID:052378 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ความคิดเห็นที่ 88 มีส่วนได้ส่วนเสียกับ ปตท.หรือเปล่าครับ และช่วยเช็คข้อมูลก่อนโพสด้วยครับ เป็นคนไทยใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องด้วยครับ จากคุณ : POP35 (pop35) - [ 27 พ.ย. 50 11:49:01 ]

ความคิดเห็นที่ 91 แก๊สถูกขุดในแผ่นดินไทย แต่ ไม่เหมาะสมให้คนไทยใช้ คงเหมาะแต่การส่งออก เพื่อ ปากท้องของใคร..... จากคุณ : ก้นกบ - [ 27 พ.ย. 50 12:43:02 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ที่ อคติ ต่อ LPG         เสมอมา น่ะ                 เอาอะไรเติมเครื่องตัว จากคุณ : tik - [ 27 พ.ย. 50 14:48:41 ]

ความคิดเห็นที่ 93 กลับมาละครับ  หลังจากเสียเวลารวบรวม / สรุป / จัดกลุ่มประเด็นที่กระจัดกระจาย  แล้วไปหาคำตอบจากข้อมูลที่มี และข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติม ผมขอตอบคำถาม/ความเห็นทั้งหลายที่โพสต์ไว้ในกระทู้นี้ (เหนือคำตอบของผมรอบนี้)  ตามข้อความที่ผมจะทยอยโพสต์ต่อไปนี้ ผมไม่ยืนยันว่า ข้อมูล / ความเข้าใจ / เหตุผลต่างๆ ที่ผมนำมาลงไว้ เป็นความจริง / ความถูกต้อง 100% หรือไม่ เพราะผมไม่ใช่คนที่ทำงานในวงการพลังงาน  (แค่ข้างเคียง) ผมไม่ใช่คนของ ปตท. กระทรวงพลังงาน หรือหน่วยงานภาครัฐใดๆ เลย ข้อมูลทุกอย่าง ผมหาได้จากในเน็ต / เว็บไซต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งสิ้น รวมทั้งข้อมูลบางอย่างที่มีคนส่งมาให้ผมอ่าน-เก็บไว้ ดังนั้น หากใครพบว่า มันไม่ถูกต้อง ผมเข้าใจผิด อ้างอิงมาผิด  รบกวนช่วยตรวจสอบให้ด้วย พร้อมทั้งช่วยแนะนำด้วยว่า ข้อมูลที่ถูกต้องของคุณ คือ อะไร อ้างอิงมาจากที่ไหน ด้วยนะครับ  เผอิญผมเป็นคนที่ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ ถ้าไม่มีหลักฐานหรือข้อพิสูจน์ มีแต่คำพูดลอยๆ มาอ้าง แล้วเรื่องการตอบ/โพสต์ความเห็นแนวประชดประชัน เสียดสี หยาบคาย  คุณสามารถทำได้ มันเป็นสิทธิ์ของคุณ แต่ผมขอสงวนสิทธิ์ที่จะอ่าน สงวนสิทธิ์ที่จะนับเป็นคำถาม ที่ผมจะพยายามหาคำตอบมาให้ ปล. ถ้าใครคิดว่า กระทู้นี้มีค่า ช่วยกันโหวตด้วยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : P_Wut - [ 27 พ.ย. 50 16:47:42 ]

ความคิดเห็นที่ 94 A) โครงสร้างราคาน้ำมัน / เงินกองทุนน้ำมัน ข้อมูลที่ผมมี มาจากเว็บ eppo  การกำหนดราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่น อิงกับราคาสิงคโปร์ มีขึ้นตั้งแต่ปี 2544 โดยสรุปก็คือ  ราคาหน้าโรงกลั่น ดูจากราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ตลาดสิงคโปร์ + ค่าขนส่ง หลังจากนั้นแล้วก็มาบวก ภาษีต่างๆ เงินที่เก็บเข้ากองทุนน้ำมัน กองทุนอนุรักษ์พลังงาน และค่าการตลาด ได้เป็นราคาขายปลีกที่หน้าปั๊ม รายละเอียดเพิ่มเติม - http://www.eppo.go.th/petro/ThaiOilPrices.html - http://www.eppo.go.th/petro/pt-SingPrice.html - http://www.eppo.go.th/petro/price/pt-price-st-2007-11-27.xls - http://www.eppo.go.th/petro/price/index.html (ดูโครงสร้างราคาขายปลีกน้ำมันย้อนหลังตั้งแต่ปี 2002) ขอตอบเพิ่มเติมสำหรับบางความเห็นในกระทู้นี้ - เงินที่เก็บเข้ากองทุนน้ำมันทุกวันนี้ เบนซิน 3.70-4 บาท/ลิตร  แก๊สโซฮอล เก็บเพียงเล็กน้อย ดีเซล 1.5 บาท/ลิตร นั้น  แท้ที่จริงแล้ว  เงินที่เก็บเข้ากองทุน จะถูกแยกออกเป็นสองส่วนหลัก คือ 1. ชดเชยราคา LPG กก.ละราว 1 บาท อันนี้ ทำมานานแล้ว เท่าที่จำได้ สมัยราคาน้ำมันระดับปกติ จะเก็บเข้ากองทุนน้ำมันจากทั้งเบนซินและดีเซล อย่างละ 1.50 บาท (ตัวเลขไม่ confirm นะครับ รู้แค่ว่า เก็บเท่าๆ กัน)     ถ้าย้อนไปดูตั้งแต่ปี 2002 ใน link ที่ 4  ตลอด 2 ปี 2002 - 2003 ยังเก็บแค่ 0.50 บาท/ลิตรเท่านั้น 2. ใช้หนี้จากการที่เคยอุ้มราคาน้ำมันช่วงปลายรัฐบาลทักษิณ 1  หนี้ที่เกิดขึ้น ยอดรวมราว 90,000 กว่าล้านบาท กองทุนต้องยืมเงินมาจากแหล่งเงินทุน ดังนั้น นอกจากจะต้องหาเงินมาคืนหนี้ (เงินต้น) แล้ว ยังต้องเสียดอกเบี้ยอีกด้วย การอุ้มราคาในช่วงนั้น ก่อให้เกิดผลเสียแบบ 2 เด้งถึงทุกวันนี้ - เด้งแรก คือปริมาณการใช้ไม่ลดลงตามที่ควรจะเป็น (ถ้าราคาสูงตามจริง คนจะประหยัดกว่านี้)  เมื่อปริมาณใช้สูงมาก ก็ต้องเสียเงินอุ้มมาก - เด้งที่สอง คือ ดอกเบี้ย การกู้เงินไปอุ้มไว้ก่อน แล้วมาใช้หนี้คืนทีหลัง ไม่มีใครใจดีให้กู้ฟรีๆ ไม่เสียดอกเบี้ย  ดังนั้น นอกจากหนี้เงินต้นแล้ว ยังมีดอกเบี้ยด้วย ยิ่งใช้คืนหมดช้าเท่าไหร่ ดอกเบี้ยก็จะยิ่งมาก  หนี้จากการอุ้มเกือบแสนล้านนั้น ส่วนน้อยที่เป็นน้ำมันเบนซิน ส่วนใหญ่มาจากการใช้น้ำมันดีเซล  ซึ่ง โอเคล่ะว่า เพราะน้ำมันดีเซลใช้ในภาคขนส่งเยอะ แต่อีกส่วนหนึ่งก็คือ รถส่วนบุคคลที่ใช้น้ำมันดีเซล  และหนี้ส่วนที่เกิดจากการอุ้มเบนซินนั้น หมดไปนานแล้ว  ที่เหลืออยู่ทุกวันนี้ คือ หนี้จากการอุ้มดีเซลครับ  ถ้าดูจากเงินที่เก็บเข้ากองทุน (เก็บจากน้ำมันทั้ง 6-7 ชนิด) ณ เวลานี้ คนที่จ่ายมากสุด คือ คนที่เติมเบนซิน 95 91 แล้วตามด้วยดีเซล คนที่เติมแก๊สโซฮอล์จ่ายน้อยหน่อย  ไม่ต้องถามว่า ทำไมต้องทำแบบนี้ ผมตอบให้ได้เลยว่า  เพราะต้องการให้คนหันมาใช้แก๊สโซฮอลมากขึ้น  รวมทั้งแก้ปัญหาเอทานอลล้นตลาด  ขอเตือนความจำสักนิดนึงว่า  เรื่องการชักชวนให้มีคนตั้งโรงงานผลิตเอทานอลมากมาย จนทุกวันนี้เกิดปัญหาเอทานอลล้นตลาด รมว.คนนี้ไม่ใช่คนทำ เป็นรมว.สมัยทักษิณ ที่ตอนนั้น จะบังคับให้เลิกขาย 95 ด้วยซ้ำ  เนื่องจากกระทู้นี้ เน้นไปในเรื่อง LPG จะลอยตัว  ผมขอหยุดประเด็นราคาน้ำมันไว้แค่นี้ก่อนนะครับ จากคุณ : P_Wut - [ 27 พ.ย. 50 16:51:55 ]

ความคิดเห็นที่ 95 B) โครงสร้างราคา LPG / ปริมาณการผลิต / ปริมาณการบริโภค / การจัดหา LPG มาเพิ่มหากขาดแคลน เท่าที่ผมทราบ ราคา LPG ในประเทศ ณ วันนี้ กำหนดตายตัวที่ 16.81 บาท/กก. โดยเป็นภาษี ค่าการตลาดอยู่ราว 4-5 บาท เป็นราคาหน้าโรงกลั่น 10-11 บาท/กก. หรือถ้าคิดเป็นเหรียญต่อตันก็ 320 US$ ปริมาณ LPG ที่ผลิตได้ มาจากโรงแยกก๊าซ 55% จากน้ำมัน 40% อื่นๆ 5%  ทั้งหมดนี้ ถูกใช้ในประเทศ 90% ส่งออก 10% --> ลดลงจากปี 2004 ที่เคยส่งออกอยู่ 25% อยู่เยอะทีเดียว ถามว่า ปริมาณที่ส่งออกได้น้อยลง เกิดจากปริมาณการใช้ที่เพิ่มขึ้นในภาครถยนต์อย่างเดียวใช่หรือไม่  คำตอบคือ ไม่ใช่ครับ  ต้นเหตุการเพิ่มมาจากภาคอื่นด้วย  แต่ภาครถยนต์มีผลมากกว่าเพื่อน จากแต่ก่อน ภาครถยนต์มีปริมาณการใช้น้อยที่สุด ใน 4 ภาคนั้น (ครัวเรือน อุตสาหกรรม รถยนต์ วัตถุดิบการผลิต) ตอนนี้ภาครถยนต์กำลังจะแซงขึ้นมาเป็นอันดับ 2 แล้ว ** ขอตอบคุณ 4 จุดสักเล็กน้อย   กระทู้ก่อนนั้น ผมเอาตัวเลขรายเดือนมาจริงๆ ครับ  แต่ไม่ใช่ครั้งนี้ ผมเพิ่งได้ข้อมูลใหม่มา ตัวเลขในตารางนั้น เป็นตัวเลขรวมของแต่ละปีแล้ว   ตัวเลขอัตราการเพิ่ม (Growth) ก็เป็นรายปีเช่นกัน  ยกเว้น ปี 2007 เป็นตัวเลขแค่ 9 เดือนแรก  ถามว่า ตัวเลขระดับ 9 เดือน ถือว่ามากพอมั้ยที่จะประมาณการไปถึงสิ้นปี ? วิธีการประมาณถึงสิ้นปี ของผม ผมก็ไม่รู้ว่า เค้าทำกันอย่างไรให้น่าเชื่อถือมากๆ  ของผมทำแบบง่ายๆ 2 วิธีให้ดูเปรียบเทียบกัน - วิธีแรก คือ เอาปริมาณการผลิต (หรือปริมาณการบริโภค) 9 เดือนแรก มาหาร 3 แล้วคูณ 4  ทำแบบง่ายๆ ตรงๆ เลยครับ - วิธีที่สอง ผมเอาตัวเลขในช่อง Growth Rate มาคูณกับปริมาณการผลิต (หรือปริมาณการบริโภค) ของทั้งปี 2006 และก็เอาผลทั้ง 2 วิธี มาลอง recheck กันเองดู ก็พบว่า ได้ตัวเลขใกล้เคียงกัน ผมขอยืนยันว่า ข้อมูลรอบนี้  ไม่ใช่เอา Growth 3-4 เดือนสุดท้าย มาต่อกราฟออกไปครับ เป็นข้อมูลระดับ 9 เดือน ค่อนปีเข้าไปแล้ว แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 50 16:59:39 จากคุณ : P_Wut - [ 27 พ.ย. 50 16:56:31 ]

ความคิดเห็นที่ 96 เรื่องภาวะขาดแคลน  ผมไม่ได้หมายถึงว่า หาก LPG ที่ผลิตในประเทศไม่เพียงพอแล้ว จะขาดแคลน  ไม่ใช่อย่างนั้นครับ แต่ปัญหาคือ ราคาที่ต้องนำเข้ามา มันสูงมาก จนไม่จูงใจให้มีการนำเข้า มีบางท่านบอกว่า ก็ไปเพิ่มกำลังการผลิตสิ  ไม่เห็นยากเลย  คำตอบแบบนี้ เด็ก ม.1 ก็ตอบได้ครับ ผมอยากจะย้อนถามไปว่า  ถ้ากำลังการผลิต LPG ในประเทศทุกวันนี้ มีเหลืออยู่  ผู้ผลิตเค้าไม่อยากจะผลิตให้ได้ LPG เต็มที่ เพื่อเอาส่วนที่เกินจากโควต้าขายในประเทศ ไปส่งออกได้ราคาดีๆ เหรอครับ? จากตารางเดิม จะเห็นได้ว่า ปริมาณการผลิต LPG มันก็เพิ่มขึ้นทุกปีครับ ไม่ได้คงที่หรือลดลงเลย LPG 55% ของการผลิต มาจากโรงแยกก๊าซ (GSP = Gas Seperation Plant)  คุณลองเดาดูซิว่า ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตได้จากโรงแยกก๊าซ เป็นแบบไหน? -  LPG เป็นส่วนใหญ่ ก๊าซธรรมชาติและ by product อื่นๆ เป็นส่วนน้อย -  ก๊าซธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่  LPG และ by product อื่นๆ เป็นส่วนน้อย ตัวผมเองคิดว่า เป็นแบบที่ 2  LPG เป็นผลพลอยได้ ไม่ใช่ตัวหลัก  สมมติว่า (สมมติจริงๆ นะ เพราะผมไม่มีไอเดีย รอคนอื่นมาให้ข้อมูลเพิ่มละกัน) ของที่ผลิตได้จากโรงแยกก๊าซ เป็นก๊าซธรรมชาติ 90% เป็น LPG 10% อื่นๆ ไม่ต้องเอามาคิด หมายความว่า  ถ้าคุณจะเอา LPG เพิ่มขึ้นมา 1 ตัน คุณจะต้องขุดเอาก๊าซขึ้นมา และหาคนมารับซื้อต่ออีก 9 ตันเสียก่อน  ไม่งั้น เอาขึ้นมาก็สูญหมด เพราะมันเป็นก๊าซ มันเก็บไม่ได้ / ไม่คุ้มค่าที่จะเก็บ LPG 40% ของการผลิต มาจากโรงกลั่นน้ำมัน (Refinery) คุณทราบมั้ยครับว่า โรงกลั่นที่เค้ากลั่นน้ำมันดิบ 100 ลิตร จะได้เป็น LPG กี่ลิตร ข้อมูลจาก eppo เรื่อง การกำหนดราคาเชื้อเพลิงของไทย ในข้อ 7 มีตารางให้ดูด้วยว่า แต่ละโรงกลั่นในไทย มีสัดส่วนการผลิตได้เป็นน้ำมันแต่ละชนิด มากน้อยแค่ไหน จากคุณ : P_Wut - [ 27 พ.ย. 50 17:04:00 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ไทยออยล์ บางจาก เอสโซ่ ระยอง 4 โรงนี้ สามารถแยกเป็น LPG ได้แค่ 3 - 4% เท่านั้น แต่ 4 โรงนี้ มีกำลังการกลั่นน้ำมันรวมกันคิดเป็น 83% มีเพียงสตาร์เท่านั้น ที่สามารถกลั่นได้ LPG ที่ระดับ 10% แต่ก็มีกำลังการกลั่นเพียง 17% เมื่อเทียบกับกำลังการกลั่นรวม ถ้าคุณต้องการ LPG เพิ่ม 1 ลิตร  โรงกลั่นต้องกลั่นน้ำมันดิบเพิ่มอีก 20 ลิตร (มีสตาร์ที่เดียวที่กลั่นเพิ่มแค่ 10 ลิตร) กำลังการกลั่น ณ ปัจจุบัน เพิ่มได้มากน้อยแค่ไหน?  น้ำมันส่วนที่กลั่นได้เพิ่ม เอาไปขายใคร ถ้าไม่คุ้มค่าในการผลิต ใครรับผิดชอบ/รับซื้อไป ถ้าการผลิตเพิ่ม เป็นภาวะชั่วคราว เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอะไรก็ตาม ก็คงสั่งให้ทำได้/ช่วยได้  แต่มันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาในระยะยาว ปัญหาในปัจจุบันนี้ คือ ราคา LPG ที่ถูกกว่าความเป็นจริง  ส่วนต่างระหว่างราคา LPG และน้ำมันที่ห่างมากเกินความเป็นจริง ก่อให้เกิดปัญหาตามมาหลายอย่าง -  การใช้ LPG อย่างไม่ประหยัด เพราะใครๆ คิดว่า มันถูก -  ราคา LPG ที่ต่ำกว่าความเป็นจริง ไม่จูงใจให้เกิดการเพิ่มอัตรากำลังผลิต ผมขอสมมติตัวอย่างง่ายๆ  โรงกลั่นน้ำมันในไทยตอนนี้ นอกจากไทยออยล์ บางจาก ระยอง ที่อยู่ในเครือ ปตท.แล้ว ยังมี Esso กับ SPRC (ในเครือ Chevron-Caltex) เครือ ปตท. อาจสั่งให้เพิ่มกำลังผลิตได้ ถ้ารัฐบาลสั่ง  แต่ Esso กับ SPRC ไม่ใช่ บริหารโดยผู้ลงทุนจากต่างประเทศโดยตรง  เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ที่ 2 โรงนี้ ผลิต LPG แค่นี้ เพราะเค้า "สามารถผลิตได้แค่นี้จริงๆ" หรือ "อยากจะผลิตแค่นี้ / คุ้มที่จะผลิตแค่นี้" การจะเดินโรงกลั่นน้ำมัน เพื่อผลิตน้ำมันนั้น มีตัวแปรมากมาย ตั้งแต่ ระบบ/ส่วนการผลิตต่างๆ ในโรงกลั่น ว่า ส่วนไหนกลั่นอะไร ได้เท่าไหร่  รวมทั้ง วัตถุดิบที่ซื้อมาผลิต ถ้าฝ่ายบริหารโรงกลั่น เค้าเห็นราคาน้ำมันชนิดต่างๆ และคำนวณแล้วพบว่า โรงกลั่นในไทย ควรผลิตน้ำมันมากสุด ผลิต LPG ให้น้อยที่สุด  รัฐจะทำอะไรเค้าได้ ? -  การเพิ่มการบริโภค LPG ที่สูงมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด ผิดธรรมชาติ/กลไกตลาด 3 ปีย้อนหลัง อัตราการบริโภคในภาครถยนต์ (Growth rate Demand ในบรรทัด Automotive) เพิ่มขึ้น 35% , 52% , 30%  (2005 , 2006 , 2007) สิ่งที่เป็นตัวเร่งก็คือ ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นๆ เทียบกับ LPG ที่ราคาถูกกดให้คงที่ไว้  ส่วนต่างยิ่งมากเท่าไหร่ อัตราการเพิ่มก็จะมากเท่านั้น (ถ้ารัฐไม่หาทางหน่วงเหนี่ยวไว้) ลองย้อนกลับไปดูสมัยก่อน ที่ราคาน้ำมันแค่ 7-9 บาท ก่อนวิกฤตปี 40 สมัยนั้น ความนิยมใช้ LPG ยังจำกัดวงแคบอยู่ โดยมากเป็นแท๊กซี่ หรือสมัยปลายทักษิณ 1 ที่เริ่มอุ้มราคาน้ำมัน ตอนนั้น ราวๆ 14-16 บาท (ปี 2547 = 2004) ภาครถยนต์ใช้ LPG แค่ 225,000 ตัน (รวมทั้งแท๊กซี่และเก๋งส่วนบุคคล) แต่ในปี 2006 ทั้งปี เพิ่มขึ้นเป็น 459,000 ตัน หรือคิดหยาบๆ ก็เพิ่มเป็น 2 เท่าในเวลาแค่ 2 ปี !! อะไรก็ตาม ที่เป็นการพยายามฝืนตลาด / กลไกตลาด ล้วนแต่มีผลเสียที่มากกว่า ตามมาทั้งสิ้น -  การพยายามฝืนรักษาอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา สมัยปี 2539 - 2540 -  การอุ้มราคาน้ำมันให้ถูกกว่าความเป็นจริง แล้วมีผลเสีย 2 เด้งที่ผมบอกไปแล้ว -  การพยายามรักษาอัตราแลกเปลี่ยนให้อยู่ที่ 36-37 บาท แต่แล้วก็ฝืนไม่ไหว ทุกวันนี้ก็ลอยขึ้นมาอยู่ที่ 33-34 บาท โดยที่แบงค์ชาติเกิดผลขาดทุนไปหลายหมื่นล้าน ผมขอสมมติขึ้นมาก่อนว่า  ถ้า ณ วันนี้ -  คนไทยซื้อแก๊สใช้ ไม่ว่าจะภาคครัวเรือน หรือรถยนต์ ในราคาราวๆ 30 บาท/กก. หรือ 17 บาท/ลิตร  ใกล้เคียงกับตลาดโลก -  หรือ คนไทยทุกคน ยอมรับได้ว่า ภาคครัวเรือนซื้อถูกแบบเดิม ภาครถยนต์ซื้อราคาแพงใกล้ๆ 17 บาท/ลิตร  จะไม่มีการลักลอบทำโดยผิดกฏหมาย และไม่ปลอดภัย (แล้วมีผลสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น) หากกำลังการผลิตในประเทศไม่พอ  มีการนำเข้าด้วยราคา 6-700 US$ ต่อตัน  ก็คงไม่มีปัญหาอะไร  ใครจะเป็นคนนำเข้า ก็คงไม่จำเป็นต้องสนใจ หรือแม้แต่โรงกลั่นในประเทศจะขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นก็ตาม ปตท. / กระทรวงพลังงาน จะรณรงค์ปากเปียกปากแฉะ ให้คนหันไปเติม NGV แค่ไหน ตั้งราคาถูกแค่ไหนก็ตาม  ปริมาณคนใช้ / ความนิยม / ปริมาณปั๊ม ก็คงเป็นไปตามกลไกตลาด -  ตั้งราคาถูกมาก / ปั๊มเพียบ แต่ละปั๊มไม่เคยหมด  คนก็คงใช้เยอะ -  ตั้งราคาแพง / ปั๊มน้อย มีปัญหาหมดปั๊มบ่อย  คนก็คงใช้น้อย หันไปใช้ LPG กันมากกว่า สุดท้าย คนจะมีทางเลือกเติมเชื้อเพลิง ทั้งน้ำมันหลายๆ ชนิด LPG NGV ตามแต่คนชอบ / คิดว่าคุ้มค่า แต่ในความเป็นจริง ณ เวลานี้ มันไม่ใช่แบบนั้น ถ้าปล่อยให้ปัญหาแบบนี้ เป็นต่อไป  ให้มันถึงเวลานั้น แล้วเกิดปัญหาที่ร้ายแรงกว่านี้  แล้วจะทำกันยังไง เรื่องโดนด่าเนี่ย คงไม่เท่าไหร่หรอก เพราะเมืองไทยเราที่ผ่านมา มีปัญหาอะไรก็ตาม ก็มักจะคิดแก้ปัญหาช้ากว่าที่ควรอยู่แล้ว มาโดยตลอด ประเทศอื่นๆ ในโลกนี้ เค้าเริ่มคิดหาแหล่งพลังงานใหม่ๆ กันแล้ว เวียตนามก็เริ่มคิดจะตั้งโรงงานผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานนิวเคลียร์กันแล้ว แต่เมืองไทยยังมานั่งประท้วงโรงงานผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินอยู่เลย ทั้งๆ ที่การป้องกันปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี่สมัยนี้ ทำกันได้แล้ว ขอยืนยันความเห็นส่วนตัวผมเองไว้ ณ ที่นี้ด้วย เกี่ยวกับราคา LPG ว่า -  ไม่เห็นด้วย ที่จะให้ LPG ภาคครัวเรือนลอยตัวขึ้น -  ภาครถยนต์ ควรซื้อ LPG ที่ราคาสอดคล้องกับราคาตลาดโลก แต่คิดว่า ในทางปฏิบัติจริง สำหรับคนไทยแล้ว ไม่สามารถจะแยกราคาซื้อ LPG ได้ ไม่ว่าจะเข้มงวดแค่ไหนก็ตาม จากคุณ : P_Wut - [ 27 พ.ย. 50 17:11:36 ]

ความคิดเห็นที่ 98 C) โครงสร้างราคา NGV / คุณภาพ NGV / ปัญหาการใช้ NGV ในภาคปฏิบัติ / NGV ผูกขาดโดย ปตท. / ราคา NGV ที่เหมาะสม ผมเองเคยโทรไปสอบถามที่ สนพ. ด้วยตัวเองมาแล้ว  ทางนั้นเค้าก็ตอบผมตามตรงว่า ต้นทุน NGV มันอยู่ที่ 12 บาท/กก. โดยเป็นค่าแก๊ส 7 บาท และค่าขนส่ง 5 บาท ค่าขนส่งในที่นี้ คือ ค่าอะไร?  คำตอบก็คือ ค่าขนส่งที่รวมการจัดหารถหัวลาก / สร้างคอนเทนเนอร์บรรจุถังเก็บ NGV และขนส่งจากสถานีจ่ายก๊าซที่อยู่ใกล้ท่อส่งใต้ดิน ไปยังปั๊มย่อยๆ ตามริมถนนสายต่างๆ ในระยะรัศมี 50 กม.จากสถานีจ่ายก๊าซ อย่างที่ผมเคยบอกไปว่า  NGV เป็นก๊าซมวลเบา การจะเก็บมันต้องอัดด้วยแรงดันสูงๆ หรือลดอุณหภูมิลงต่ำมากๆ (เป็นของเหลวได้ที่ระดับติดลบร้อยกว่าๆ องศาเซลเซียส) ดังนั้น วิธีการขนส่งที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด คือ การขนส่งทางท่อ  แต่การจะก่อสร้างท่อจากสถานีจ่ายก๊าซ ตรงไปยังปั๊มต่างๆ เป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่า   ถ้าในภาพรวมทั้งหมดแล้ว  การขนส่งด้วยรถ + การเพิ่มความถี่ในการแวะปั๊ม  มีความคุ้มค่ามากกว่า ก็คงต้องทำเช่นนี้   คุณอย่าลืมว่า NGV ที่ 12 บาท/กก. 1 กก. พาให้รถวิ่งไปได้ราว 10 กม. ค่าเชื้อเพลิงตก กม.ละ 1.2 บาท  (อันนี้คิดจากราคาจริงแล้ว ราคาปัจจุบันถูกกว่านี้) เทียบกับ LPG ที่ 17 บาท/ลิตร 1 ลิตรพาให้รถวิ่งไปได้ราว 10 กม.  ค่าเชื้อเพลิงตก กม.ละ 1.7 บาท แพงกว่า NGV 40% ค่าน้ำมันเบนซินหรือดีเซล ลิตรละ 28-32 บาท  1 ลิตรพาให้รถวิ่งไปได้ 12 กม. ค่าเชื้อเพลิงตก กม.ละ  2.33 - 2.67 แพงกว่า NGV 100-133% (แพงกว่า 1-1.33 เท่าตัว) เรื่องคุณภาพ NGV ที่มีบางท่านบอกว่า ก๊าซ NG ที่ได้จากอ่าวไทย/พม่า/มาเลย์ก็ตาม คุณภาพไม่ดี ส่งออกขายต่างประเทศไม่ได้  ปตท. ก็เลยพยายามยัดเยียดขายให้คนไทย ผมขอย้อนถามว่า  "แล้วคุณไปสนใจอะไรกับคุณภาพก๊าซ  ตราบเท่าที่มันยังใช้ในรถยนต์ได้ และมีราคาถูก คุ้มค่าในเชิงเศรษฐศาสตร์" ถ้าเราจะถกกันเรื่อง คุณภาพ NGV ดีพอหรือไม่ ที่จะมาใช้ในรถยนต์  มันจะเป็นอีกเรื่องนึง  แต่ถ้ามันเป็นเรื่องก๊าซคุณภาพต่ำ ส่งออกไม่ได้ เลยขายให้คนไทย ผมยังเห็นว่า  "ถ้ามันถูก คุ้มค่า ไม่ก่อให้เกิดปัญหากับการใช้ในรถยนต์ ทั้งเครื่องเบนซิน และดีเซล"  ผมเห็นด้วย 100% เรื่องปัญหาการใช้ NGV ในภาคปฏิบัติ  ผมยอมรับว่า NGV ในปัจจุบัน ยังไม่ค่อยเวิร์คสำหรับทุกๆ คนที่ใช้รถยนต์ส่วนบุคคลจริงๆ  ทั้งเรื่อง -  ถังมีน้ำหนักมาก แต่จุได้น้อย -  ทำให้ต้องเติมบ่อยๆ แวะปั๊มบ่อยกว่าเดิม 3-4 เท่าเมื่อเทียบกับน้ำมัน -  ต้องลงทุนเพิ่มอีก 5-6 หมื่นบาทต่อคัน (แต่เทียบกับ LPG แล้วก็มากกว่าแค่ 3-4 หมื่น กรณีเทียบกับระบบดูด หรือไม่เกิน 2 หมื่น กรณีเทียบกับระบบหัวฉีด) คนที่ใช้ NGV ได้คุ้มค่า ต้องเป็นคนที่ -  ใช้รถมากๆ วันละระดับ 100 กม.ขึ้นไป -  บ้าน/ที่ทำงาน / เส้นทางที่ผ่านประจำ อยู่ใกล้ๆ สถานีจ่ายก๊าซ (ไม่ใช่ปั๊มรายย่อยนะ)  หรือใกล้ปั๊มย่อย ถ้ามีปั๊มเยอะจนเพียงพอแล้ว แต่ถ้าจะย้อนถามว่า แล้วทำไม ปตท. / รัฐ ถึงไม่เตรียมพร้อมในเรื่องนี้  ผมก็ไม่ใช่คนวางแผน ไม่ได้รู้เรื่องมาก่อน  แต่ผมขอเดาคำตอบไว้ (อย่างน้อยก็ถูกแน่ๆ เป็นเรื่องนึงในหลายๆ สาเหตุแล้วกัน) ก็คือ ไม่มีใครคาดคิดว่า ราคาน้ำมันดิบ - น้ำมันสำเร็จรูปในปี 2007 จะกระโดดขึ้นไปถึง 100 US$  ถ้า 3-4 ปีก่อน เค้าทำนายได้ไว้ล่วงหน้า  รับรองว่า -  LPG จะเริ่มมีการลอยตัว/ ปรับโครงสร้างราคา ก่อนหน้านี้แล้วมาระยะหนึ่ง เพื่อสกัดการเพิ่มของจำนวนรถ LPG มาก่อนหน้านี้แล้ว -  วันนี้มีปั๊ม NGV ผุดขึ้นเต็มไปหมด  ปตท. จะมีรถหัวลาก และตู้คอนเทนเนอร์จัดส่ง NGV ไปตามปั๊มอย่างเพียงพอ  จะไม่มีปัญหาเรื่องปั๊มแก๊สหมด รอคิวนาน ฯลฯ -  มีผู้ผลิตรถยนต์ออกรุ่นที่ใช้ NGV ออกมาจากโรงงานผลิต  ตอบสนองความต้องการรถใช้เชื้อเพลิงราคาถูกของผู้บริโภค ปัญหาเรื่องความนิยมใช้ NGV นี้ เปรียบเสมือนคำถาม "ไก่กับไข่ อะไรเกิดก่อนกัน" -  ถ้าไม่มีปั๊ม  ก็ไม่มีคนเอารถไปติด / ไม่มีผู้ผลิตผลิตรถออกขาย -  ถ้าไม่มีรถติด  ก็ไม่มีคนลงทุนตั้งปั๊ม -  ถ้ารถติด NGV ไม่นิยม ผู้ผลิตก็ไม่ผลิตรถติด NGV ออกจากโรงงานมาขาย ผมเองเคยคิดด้วยซ้ำว่า  รถหลายๆ รุ่นที่ขายไม่ค่อยออก เช่น Mitsubishi Lancer ที่ยอดขายน้อย ทางโรงงานน่าจะติดระบบ NGV มาให้จากโรงงาน พร้อมมีสวิทช์เลือกใช้เชื้อเพลิง / โหมดการขับขี่ -  ขับในเมือง ขับเดินทางความเร็วคงที่ ใช้ NGV -  เร่งแซง หรือตอนขับเร็วมากๆ ใช้น้ำมันเบนซิน ผมเชื่อว่า น่าจะมีผู้บริโภคนิยมซื้อไปบ้างเหมือนกัน โดยเฉพาะคนที่อาศัย/ทำงานอยู่ใกล้แนวท่อส่งก๊าซ / สถานีจ่ายก๊าซ เช่น ระยอง / ชลบุรี / ชานเมืองรอบกทม. คำถามเรื่อง NGV ถูกผูกขาดโดย ปตท.  จะมีปัญหาอะไรในอนาคตหรือไม่?  ผมขอตอบดังนี้ครับ ถ้าภาครัฐสามารถแก้ปัญหาราคา LPG ที่ผูกกันอยู่ระหว่างภาคครัวเรือนและภาครถยนต์ได้  อาจจะโดยปล่อยลอยตัวทั้งคู่ หรือแยกราคาจากกัน แล้วเข้มงวดเรื่องการลักลอบเติม -  NGV จะไม่มีทางตั้งราคาขายแพงกว่าราคา LPG ตามจริง (ณ วันนี้ราคาราว 17 บาท/ลิตร) -  ในอนาคตอาจมีคนคิดเรื่องการใช้เชื้อเพลิงได้ทั้ง 2 ชนิดโดยใช้อุปกรณ์เดียวกัน  อุปกรณ์ทั้งหมดเป็นอุปกรณ์ระบบ NGV แต่ปรับเปลี่ยนวาล์วจ่ายก๊าซบางตัว / แยกให้มี 2 ชุด   ให้คนใช้สามารถเลือกได้ว่า จะใช้อะไร หรือมีอะไรให้เติม ให้เหมาะสมแก่ช่วงเวลา / การตั้งราคา จากคุณ : P_Wut - [ 27 พ.ย. 50 17:13:33 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ผมยังเหลืออีกประเด็นเดียวในเรื่อง ปตท. / กำไรเป็นหมื่นล้าน / ผู้ถือหุ้น / อคติ ที่ยังไม่ได้หาคำตอบมาให้  เพราะไม่แน่ใจว่า หาคำตอบมาแล้ว แสดงความเห็นแล้ว - จะถูกหรือไม่ เพราะไม่ได้ตามเรื่องหุ้น / กำไร / การแปรรูป สักเท่าไหร่ - หามาแล้ว ตอบแล้ว แล้วไง?  คนที่อคติกับ ปตท. ก็อคติอยู่ดี ไม่มีวันเปลี่ยนกันง่ายๆ เพราะอคติ เป็นอารมณ์ ไม่ใช่เหตุผล ขอตอบแค่นี้ก่อนครับ จากคุณ : P_Wut - [ 27 พ.ย. 50 17:20:40 ]

ความคิดเห็นที่ 100 คนที่ไม่เคยคิดจะช่วยตัวเอง เวลามีปัญหาก็นึกอยู่อย่างเดียวว่าจะให้คนอื่นช่วยอุ้มยังไง นั่งงอมืองอเท้ารอว่าคนอื่นจะจุนเจือยังไง ประเทศมันถึงเจริญแบบนี้ไง แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 50 18:14:40 จากคุณ : Ta 999 - [ 27 พ.ย. 50 18:02:00 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ขอบคุณ คุณ "P_Wut" ที่ตอบคำถามของผมอย่างตรงไปตรงมาครับ ในเรื่องคุณภาพของ NGV  ถ้า ปตท.บอกข้อมูลตรงไปตรงมาแบบคุณ "P_Wut"  ก็คงจะดีนะครับ "เรื่องคุณภาพ NGV ที่มีบางท่านบอกว่า ก๊าซ NG ที่ได้จากอ่าวไทย/พม่า/มาเลย์ก็ตาม คุณภาพไม่ดี ส่งออกขายต่างประเทศไม่ได้  ปตท. ก็เลยพยายามยัดเยียดขายให้คนไทย ผมขอย้อนถามว่า  "แล้วคุณไปสนใจอะไรกับคุณภาพก๊าซ  ตราบเท่าที่มันยังใช้ในรถยนต์ได้ และมีราคาถูก คุ้มค่าในเชิงเศรษฐศาสตร์" ถ้าเราจะถกกันเรื่อง คุณภาพ NGV ดีพอหรือไม่ ที่จะมาใช้ในรถยนต์   มันจะเป็นอีกเรื่องนึง  แต่ถ้ามันเป็นเรื่องก๊าซคุณภาพต่ำ ส่งออกไม่ได้ เลยขายให้คนไทย ผมยังเห็นว่า  "ถ้ามันถูก คุ้มค่า ไม่ก่อให้เกิดปัญหากับการใช้ในรถยนต์ ทั้งเครื่องเบนซิน และดีเซล"  ผมเห็นด้วย 100% ผมละเบื่อ ปตท.กับคุณ รมต.พลังงานคนเก่งจริง ๆ โกหกออก TV ทุกวัน บอกมาตรง ๆ ก็จบ  มั่วแต่โกหกอยู่ได้ คนไทยนิสัยตรงไปตรงมา  อยากได้ขอกันดี ๆ ก็ได้อย่ามาโกหก จากคุณ : yuyu (YUYU-001) - [ 27 พ.ย. 50 20:22:08 ]

ความคิดเห็นที่ 102 อีกเรื่องนะครับคุณ "P_Wut" ถ้าจะหากำไรของ ปตท.จริง ๆ  ให้ไปดูที่โรงกลั้นครับ   ไม่ใช่ดูที่ราคาขายน้ำมันของปตท. เพราะมีไอ้พวกถูก ปตท.หลอกเอาข้อมูลกำไรจากขายน้ำมันให้ดูว่า มีกำไรเพียง 3 - 4 % เท่านั้น แต่จริง ๆ มันกำไรมาตั้งแต่โรงกลั้นแล้ว   เบื่อไอ้พวกถูก ปตท.หลอกแล้วยังเสนอหน้ามาออกหน้าแทน ปตท.อีก จากคุณ : yuyu (YUYU-001) - [ 27 พ.ย. 50 20:30:59 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 28 พ.ย. 50 07:16:17 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ผมว่ารัฐบาลน่าจะลอยตัว LPG ให้เต็มที่เลยขึ้นเป็น อีกลิตรละ 5 -6 บาทไปเลย(กิโลละ 10 บาทนะครับ) แล้ว NGV ก้อขึ้นตามแผนแต่ทีแรกสิครับ ปีนี้เป็น 50 % ของดีเซล  ปีหน้าเป็น 50 % ของเบนซิน ปี52 60% ของเบนซิน ปี 53 เป็น 70% ของเบนซิน แล้วเอากำไรอันมหาศาลของ ปตท. มาสร้างปั้ม NGV ให้ทั่วประเทศนำเข้า NGV จากทุกทิศไม่ว่าจะเป็น พม่า อีหร่าน ซื้อให้หมด ทุกที่แล้วไม่ต้องไปโฆษณาว่า  NGV ช่วยชาติ นะครับ  ปลดล็อค LPG ให้เสรีมีอิสระเหมือน NGV(ไม่ต้องว่าแล้วนะเพราะเลิกชดเชยแล้ว) แล้วมาดูกันว่าประชาชนจะใช้อะไร ให้เกียรติประชาชน ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการตัดสินใจ คนเราไม่ชอบการบังคับนครับ จากคุณ : pae[peter] - [ 28 พ.ย. 50 08:27:54 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ตรงนี้ยังเถียงกันอยู่ เออ... กรมธุรกิจพลังงานประกาศลอยตัว lpg แล้วครับ ตามหนังสือลงวันที่ 27 พย. ปรับราคาเดือนละครั้ง ครับ จากคุณ : Ta 999 - [ 28 พ.ย. 50 09:01:29 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ตอบ คห. ที่ 102 คุณ YuYu "ถ้าจะหากำไรของ ปตท.จริง ๆ  ให้ไปดูที่โรงกลั้นครับ   ไม่ใช่ดูที่ราคาขายน้ำมันของปตท. เพราะมีไอ้พวกถูก ปตท.หลอกเอาข้อมูลกำไรจากขายน้ำมันให้ดูว่า มีกำไรเพียง 3 - 4 % เท่านั้น แต่จริง ๆ มันกำไรมาตั้งแต่โรงกลั้นแล้ว" 1. ปตท. ไม่มีโรงกลั่นน้ำมันครับ  มีแต่โรงแยกก๊าซครับ 2. Thaioil ตัวย่อในตลาดหุ้นว่า TOP ตาม link ที่ 2 ในคห.ที่ 70 ของผม  มีธุรกิจหลักเป็นโรงกลั่นน้ำมันเป็นหลัก (ผมทราบว่า มีโรงกลั่นน้ำมันหล่อลื่นด้วย แต่ไม่รู้ว่า กำไรต่างๆ นั้น ถูกรวมอยู่ในหุ้น TOP นี้ด้วยหรือไม่ - ถ้ารวมอยู่ด้วย กำไรสุทธินั้น ก็รวมถึงกำไรจากโรงกลั่นน้ำมันหล่อลื่นด้วย - ถ้าไม่รวม กำไรสุทธินั้น ก็คงจะมาจากโรงกลั่นน้ำมันอย่างเดียว) TOP  ไม่ได้มีธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน  มีปั๊มเป็นของตัวเองเพียงปั๊มเดียว ที่ถนนบางนา-ตราด กม. 14 (คิดว่าใช่นะ เคยเห็นอยู่ที่เดียว จำได้ว่า เค้าตั้งปั๊มนั้น ทดลองธุรกิจ แล้วหยุดไป) ใช้โลโก้เป็น "นอแรด"  ทุกวันนี้ น้ำมันที่ผลิตได้ขายส่งให้ผู้ค้าปลีกน้ำมันทั้งหมด  หลักๆ คงเป็น ปตท. ดังนั้น ผมขอเอา กำไรสุทธิ 7% จากรายได้รวมนี้ เป็นบรรทัดฐานเบื้องต้นว่า ธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน (ไม่รวมธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน) กำไรมากน้อยแค่ไหน RRC (link ที่ 3 ในคห. 70 ของผม) ก็เช่นกัน แต่เดิม โรงกลั่นน้ำมันนี้ ถือหุ้นใหญ่และบริหารโดยเครือเดียวกับ Shell  ก่อตั้งขึ้นสมัยที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงกลั่นน้ำมันจากรัฐบาลอานันท์ ปันยารชุน (จำไม่ได้ว่า สมัย 1 ก่อนพฤษภาทมิฬ หรือสมัย 2 หลังพฤษภาทมิฬ  รู้แค่ว่า ปี 2536 ที่ผมเรียนจบและมาทำงานที่มาบตาพุด มันยังสร้างไม่เสร็จดี) ปัจจุบัน Shell ขายหุ้นให้ ปตท.หมดแล้ว และกำลังอยู่ระหว่าง merge รวมกับ ATC (อะโรเมติกส์ ไทยแลนด์ อีกบริษัทนึงในเครือ ปตท.) ผมเลยไม่แน่ใจว่า กำไร 6.11% จากรายได้รวมนั้น  ควรหรือไม่ที่จะนำมาเป็นข้อมูลอ้างอิงว่า เป็นกำไรจากธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันแต่เพียงอย่างเดียว ถ้าอยากจะดูว่า กำไรจากโรงกลั่นน้ำมัน และกำไรจากธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน รวมกันแล้ว ได้กำไรมาก/น้อยแค่ไหน  ผมคิดว่า ดูได้จาก บริษัท บางจาก ปิโตรเลี่ยม จำกัด (มหาชน) BCP (link แรกในคห. ที่ 70 ของผม) เพราะ BCP มีทั้งโรงกลั่นที่เป็นของตัวเอง และเครือข่ายปั๊มน้ำมันทั้งที่เป็นของตัวเอง หรือแต่งตั้งผู้ประกอบการรายย่อยให้ดำเนินกิจการขายน้ำมันในยี่ห้อ "บางจาก" กำไรสุทธิในรอบ 9 เดือนแรกของปี 2550 นี้ คิดเป็น 1.9% ของรายได้รวม ส่วนโรงกลั่นอื่นๆ เช่น ESSO , SPRC (สตาร์ในเครือ Chevron Caltex) ผมหาข้อมูลไม่ได้ เพราะไม่ได้อยู่ในตลาดหุ้น ผมคิดว่า คำตอบข้างบนนี้ ทั้งหมด ได้ตอบคำถามของคุณแล้ว  ถ้าผมโง่จริง ถูกเค้าหลอกมา ก็ช่วยทำให้ผมตาสว่างหน่อยนะครับ แก้ไขเมื่อ 28 พ.ย. 50 09:45:40 จากคุณ : P_Wut - [ 28 พ.ย. 50 09:41:14 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ผมขอเข้ามาฟังความรู้ของคุณ YUYU ด้วยคน อย่าดีแต่ปาก... มัน "มุสา" นะ จากคุณ : zeroAM - [ 28 พ.ย. 50 11:34:11 ]

ความคิดเห็นที่ 109 คุณ P_Wut อธิบายได้กระจ่างเลยครับ.....นับถือ โหวต....ครับ จากคุณ : เกิดมาจน - [ 28 พ.ย. 50 12:06:29 ]

ความคิดเห็นที่ 110 คุณ P_Wut อธิบายได้ดีมากเลยครับ จากคุณ : sunsetbeach - [ 28 พ.ย. 50 12:48:28 ]

ความคิดเห็นที่ 111 คุณ P_Wut อธิบายได้ดีมากเลยครับ และขอชื่นชมความอดทนของคุณ คุณ P_Wut ที่ตอบคำถามโดยไม่กระทบกระเทียบประชดประชัน เสียดสี หยายคาย กลับไปครับ นับว่าเป็นคนที่ดีมากๆ ตอนนี้คงต้องรอฟังข้อมูลจากคุณ YUYU-001 แล้วละครับ ว่าจะกลับมาแก้ต่างยังไง ยังไงก็รอฟังคำตอบจากทั้งสองท่านครับ การขัดแย้งกันอย่างมีข้อมูลเป็นองค์ประกอบที่อ้างอิงได้ โดยไม่หยาบคายและเสียดสี เป็นเรื่องที่ดีและไม่เสียหายครับ มีแต่เป็นประโยชน์ต่อพวกเราชาวรัชดา อย่างยิ่งครับ 1Vote ครับ จากคุณ : LTI Systems - [ 28 พ.ย. 50 13:53:59 ]

ความคิดเห็นที่ 112 รัฐจะกำหนดให้ใช้พลังงานอะไรก็ได้  กำหนดราคาเท่าไหร่(แบบตลาดโลก , ตลาดในประเทศ หรือแบบกะดิน) ได้ทั้งนั้น แต่ขอให้รัฐกำหนดค่าแรงให้สัมพันธ์กับรายจ่ายของประชาชนตาดำๆ นี้บ้างล๊ะกัน นี่หลายปีมาแล้วที่ๆ ทำงานไม่เคยปรับเงินเดือน และคำว่าโบนัสมันเป็นไงแทบจำไม่ได้แล้ว  ได้แต่ทำใจว่ายังดีที่มีงานทำ จากคุณ : น้ำปู๋ - [ 28 พ.ย. 50 14:40:01 ]

ความคิดเห็นที่ 113 BCP ก็ ปตท. ถือหุ้นนี่ ???? จากคุณ : renton - [ 28 พ.ย. 50 14:59:55 ]

ความคิดเห็นที่ 114 พอดี วันนี้ค่อนข้างจะว่าง ก็เลยคงมาตอบได้เรื่อยๆ อีกทั้งวันก่อน หายไปนาน เจอถามมาอีกเยอะแยะ คำถามกระจัดกระจาย เลยกลายเป็นว่า ผมต้องเสียเวลามานั่งตอบยาวเหยียด ผมเลยขอไล่ตอบทุกคำถาม แบบติดๆ กันไปเลยนะครับ ตอบคห. 112 คห.ลักษณะนี้ของคุณ ก็คล้ายๆ กับคห.อีกหลายๆ ความเห็นที่มักจะบ่นว่า ราคาน้ำมันใช้ราคาเดียวกับตลาดโลก แต่เงินเดือนไม่เห็นจะขึ้น หรือไม่เห็นจะสูงเหมือนต่างประเทศเลย ผมไม่รู้จะตอบยังไงนะครับเรื่องนี้  ทุกประเทศในโลกนี้ ณ เวลานี้ก็ประสบปัญหาเดียวกันนี้  ประเทศอื่นๆ ที่ราคาน้ำมันก็กระโดดถีบตัวสูงขึ้นไปเหมือนๆ บ้านเรา  มีที่ไหนบ้างที่เค้าปรับฐานเงินเดือน รายได้ตามอัตราการขึ้นของราคาน้ำมันได้บ้างล่ะครับ? ประเทศไทยเราห่วยเอง ห่วยซ้ำๆ ซากๆ ด้วย - ไม่เคยคิดจะพึ่งพาพลังงานประเภทอื่นมาก่อนหน้านี้  พึ่งแต่น้ำมันอย่างเดียว - โรงไฟฟ้าจะตั้งเพิ่มอีกหลายแห่ง แต่ถูกประท้วงไม่เข้าท่า โดยที่ไม่สนใจรายละเอียดโครงการต่างๆ ที่เค้าเสนอ - แถม 3 ปีหลังมานี้ ดันมีปัญหาการเมืองอีก ประเทศไทยแทบจะหยุดความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจมา 3 ปีเต็มแล้ว นับตั้งแต่การเลือกตั้งสมัย 2 ของรัฐบาลทักษิณ ต้นปี 2548 ประเทศอื่นๆ เค้ายังหาหนทางแก้ไข ชะลอ บรรเทาปัญหาจากราคาน้ำมันแพงได้บ้าง พร้อมทั้งยังปรับตัว ปรับฐาน มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสวนกระแสราคาน้ำมันแพงได้บ้าง แต่ประเทศเราดันมัวแต่ทะเลาะเบาะแว้ง แย่งอำนาจกัน  คนในประเทศถูกชักนำ จูงจมูกให้เข้าใจผิดๆ มีทัศนคติผิดๆ เพียงเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มตัวเอง เฮ้อ...รู้สึกจะไปไกลละ เดี๋ยวยาว พอแค่นี้แล้วกันครับ จากคุณ : P_Wut - [ 28 พ.ย. 50 15:59:56 ]

ความคิดเห็นที่ 115 คห. 113  คำถามของคุณหมายถึงอะไรครับ? โรงกลั่นในประเทศส่วนใหญ่ ถ้า ปตท.ไม่ถือหุ้นใหญ่ ก็ต้องมีหุ้นเกือบครึ่งนึง มียกเว้นแค่ ESSO เท่านั้น ที่ไม่มี ปตท.ถือหุ้น มีแค่กระทรวงการคลัง ถือหุ้นอยู่ 12.5% (ก่อนหน้าวิกฤตปี 2540 เคยถือหุ้นถึง 25% แล้วขายให้คนอื่นไป นัยว่า เพื่อหาเงินมาใช้หนี้สินของประเทศ อันเกิดจากวิกฤตปี 2540) จริงๆ ผมก็ไม่เคยไปเปิดไล่ดูหรอกว่า ปตท. มีบริษัทในเครือ กี่บริษัท แต่ที่เคยเห็นโครงสร้างเค้ามาจากการเปิดเว็บ หรือหาอ่านเอาจากเอกสารอื่นๆ  ปตท.มีธุรกิจในสาขาสำคัญๆ ดังนี้ - ธุรกิจสำรวจแหล่งปิโตรเลียม (ปตท.สผ.) - ธุรกิจผลิตก๊าซธรรมชาติ (ปตท.บริษัทแม่เองโดยตรง) - ธุรกิจปิโตรเคมี  อันนี้ผมรู้จักเยอะหน่อย ในมาบตาพุดมีอยู่หลายโรง เช่น บ.ปิโตรเคมีแห่งชาติ (NPC) บ.ไทยโอเลฟินส์ (TOC) บ.อะโรเมติกส์ไทยแลนด์ (ATC) แล้วไม่นานนี้ เพิ่งจะ takeover บริษัทผลิตเม็ดพลาสติกไปอีก 2 บริษัทมั้ง คือ BPE และ HMC  อ้อ เกือบลืม มี IRPC รวมอยู่ด้วย - ธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน  กลุ่มนี้ โดยมากเป็นโรงกลั่นที่มีอยู่แล้ว แต่มีการปรับโครงสร้างหนี้ช่วงหลังวิกฤตปี 2540 ได้แก่ ไทยออยล์ บางจาก RRC (โรงกลั่นระยอง) - ธุรกิจค้าปลีกน้ำมันและน้ำมันหล่อลื่น ก็พวกปั๊ม ปตท.ทั้งหลาย (รับน้ำมันจากโรงกลั่นส่งไปขายปลีกตามปั๊ม) ที่มีคนชอบเอากำไร ปตท.ปีละหลายแสนล้านมาโจมตี คือ เค้าเอาจากตัวเลข "กำไรสุทธิของบริษัท (ปตท.) และบริษัทย่อย (บ.อื่นๆ ที่ ปตท.ถือหุ้นทั้งหมด)" มาอ้างว่า กำไร ปตท.นั้นเยอะมาก ผมก็ไม่รู้ว่า มาตรฐานทางบัญชี การรายงานผลประกอบการ (รายได้รวม / กำไรสุทธิ) เค้ากำหนดกฏเกณฑ์อย่างไร  แต่คิดว่า น่าจะเป็นแบบนี้ (เพราะผมคิดเอาเองว่า มันสมเหตุสมผลแล้ว) - กำไรจากบริษัทแม่เอง นับ 100% ทั้งรายได้และกำไร - กำไรจากบริษัทอื่นๆ ที่ ปตท.ไปถือหุ้น ทั้งหุ้นใหญ่ (มีส่วนบริหาร) และหุ้นน้อย (ไม่ได้บริหาร)  นับมากหรือน้อย ตามสัดส่วนการถือหุ้น บริษัทมีตั้งเยอะแยะ แต่ละบริษัทขายของได้รายได้เป็นพันล้าน หมื่นล้าน รายได้รวมเมื่อคิดตามสัดส่วนการถือหุ้นทั้งหมด มันก็ต้องเยอะอยู่แล้ว  กำไรที่แต่ละบริษัทย่อยๆ เยอะบ้าง น้อยบ้าง รวมๆ แล้วมันก็เยอะมากเป็นธรรมดา  แต่มันต้องไปดูต้นตอมาว่า กำไรมาจากธุรกิจไหน คุณจะให้ธุรกิจระดับแสนล้าน สินทรัพย์รวมๆ กันหลายแสนล้าน กำไรรวมกัน แต่ละปีแค่ 1 บาทหรืออย่างไร? ผมคิดว่า เวลาจะดูว่ากำไรมากหรือน้อย ควรดูเทียบกับรายได้อย่างที่ผมทำให้ดูนั่นแหละ เหมาะสมแล้ว  เพราะสินค้าที่เค้าขายคือน้ำมัน ซึ่งเราจ่ายเงินซื้อไปเท่าไหร่ หักลบภาษีที่รัฐได้ เงินกองทุนที่โปะไปโปะมาต่างๆ  จะเหลือว่า ราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่น+ค่าการตลาด บริษัทกลั่นน้ำมัน/ค้าปลีกน้ำมัน ได้รวมกันไปเท่าไหร่  แล้วกำไรกี่ % ถ้าลดกำไรส่วนนั้นลงมา  เราจะซื้อน้ำมันได้ถูกลงแค่ไหน มีนัยสำคัญหรือไม่ ที่มีคนเปรียบเปรยว่า ก่อนแปรรูป กำไรนิดหน่อย พอแปรรูปแล้ว กำไรหลายหมื่นล้าน??? คุณต้องไปดูว่า ที่พูดมา อ้างมา เอากำไรต่ำๆ ปีไหนมาให้ดู  ถ้าเอาช่วงเวลาปี 2540-2543 มาพูด  แบบนี้มันก็ไม่แฟร์อยู่แล้ว  คนที่ยกมาเทียบ จงใจสร้างภาพให้ดูโอเวอร์เกินจริง - ปี 2540-2543 เป็นปีที่เพิ่งผ่านวิกฤตเศรษฐกิจ ค่าเงินบาทไม่มีเสถียรภาพ  บางช่วง 50 กว่าบาท บางช่วง 40 กว่าบาท  ถ้ามีหนี้สินต่างประเทศเยอะ ยังไม่มีการปรับโครงสร้างหนี้ เวลาคิดเทียบเป็นหนี้สินเงินบาท มันก็จะดูมากเกินจริง  แล้วมันจะกำไรมากได้ยังไง กำไรน้อย มันก็สมเหตุสมผลแล้ว - ช่วงระยะเวลาเดียวกันนั้น เป็นช่วงที่เศรษฐกิจทั่วโลกได้รับผลกระทบจากฟองสบู่แตก ที่เริ่มต้นจากประเทศไทย (พิมพ์ไป ก็เจ็บใจไป พูดถึงทีไร เจ็บใจทุกที)  แล้วลามไปอาเซียนทั้งย่าน  ลามไปถึงเกาหลี  การหดตัวของเศรษฐกิจ ทำให้ปริมาณความต้องการใช้น้ำมันตกต่ำ  ราคาน้ำมันดิบเคยตกลงไปถึงระดับ 18-20 US$ (แค่ 1 ใน 5 ของปัจจุบัน) ราคาน้ำมันสำเร็จรูปก็ต่ำพอกัน  โรงกลั่นน้ำมันทั่วโลกประสบปัญหาขาดทุนจากการที่ค่าการกลั่นต่ำมาก จนไม่คุ้มที่จะเดินโรงกลั่นผลิตน้ำมัน  ภาวะแบบนี้ แล้วมันจะทำให้ผลประกอบการ ดีได้อย่างไร??? นอกจากนี้ เพราะภาวะธุรกิจกลั่นน้ำมัน และขายน้ำมันที่ไม่สร้างผลกำไรอย่างจูงใจทั่วโลก ช่วงนั้นนี่แหละ ที่ทำให้มีปัญหาราคาน้ำมันแพงมาถึงทุกวันนี้ โดยปกติ กำลังการผลิตน้ำมันทั่วโลก จะมีการเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาที่ผ่านไป  เพราะมันเป็นสินค้าจำเป็น ใช้กันทั่วโลก  การจะลงทุนสร้างโรงกลั่นใหม่ ณ ช่วงเวลาไหน เค้าจะดูจากอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะบอกถึงอัตราความต้องการบริโภคน้ำมันของโลกเป็นสัดส่วนกันไป ทีนี้ พอช่วงนั้นมันตกต่ำมาก ณ เวลานั้นไม่มีใครคาดคิดว่า เศรษฐกิจโลก จะโงหัวขึ้นเมื่อไหร่ จะโตมากน้อยแค่ไหน  พวกที่ทำธุรกิจโรงกลั่น ก็เริ่มมองหาธุรกิจอื่นๆ ที่ทำกำไรได้ดีกว่าธุรกิจกลั่นน้ำมัน  ซึ่งธุรกิจปิโตรเคมี ก็เป็นธุรกิจนึงที่พวกนายทุน/ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ หันมาหากันมากขึ้น คุณลองคิดดูว่า แทนที่จะมีการเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันดิบ เพื่อส่งต่อมากลั่นเป็นน้ำมันสำเร็จรูป  ดันไปสร้างโรงงานปิโตรเคมี ซึ่งจะแย่งวัตถุดิบพวกปิโตรเลี่ยมแข่งกับโรงกลั่นน้ำมันด้วย  ทุกวันนี้ กำลังผลิตน้ำมันดิบ/น้ำมันสำเร็จรูป ถึงมีเหลือเกินกว่าความต้องการบริโภคของโลกไม่มากนัก  พวกกองทุนเก็งกำไรถึงสามารถเก็งกำไรราคาน้ำมันได้ไงครับ  แค่ไปกู้เงินจากที่ไหนที่ดอกเบี้ยถูกๆ มาสั่งซื้อน้ำมัน (ส่งเรือไปรับ แล้วลอยกลางทะเลทิ้งไว้) ให้ราคาน้ำมันมันสูงขึ้นๆ ไปก่อน แล้วค่อยขาย แล้วก็ไปซื้อล็อตต่อไป เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ยิ่งตอนไหน มีข่าวความขัดแย้งเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ หรือความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศที่เกี่ยวข้องกับการผลิต การส่งออกน้ำมันดิบ-น้ำมันสำเร็จรูป  ราคาก็จะกระฉูดขึ้น ทีละเหรียญสองเหรียญ บางทีก็สาม-สี่เหรียญ ทุกวันนี้ พวกผมที่ทำงานด้านโรงงานปิโตรเคมีก็ปวดหัว เวลาจะติดต่อผู้รับเหมารายใหญ่ไม่ว่าจะในประเทศ หรือต่างประเทศ  ติดต่อว่าจ้างให้มาขยายโรงงาน เห็นราคาที่เสนอมาแล้วก็จ้างไม่ลง  เพราะคิดราคาแพงมากๆ  เพราะพวกเค้าก็เห็นบ่อเงินบ่อทองอยู่ในตะวันออกกลางเหมือนกัน  แล้วใครอยากจะมาเหนื่อยรับค่าจ้างถูกๆ มาทำงานในไทย ผมไม่แน่ใจว่า ผมเข้าใจถูกต้องทั้งหมดหรือไม่ แต่คิดว่า คร่าวๆ น่าจะตามนี้น่ะแหละ จากคุณ : P_Wut - [ 28 พ.ย. 50 16:42:40 ]

ความคิดเห็นที่ 116 จากข้อความของคุณP_WUT "ขอยืนยันความเห็นส่วนตัวผมเองไว้ ณ ที่นี้ด้วย เกี่ยวกับราคา LPG ว่า -  ไม่เห็นด้วย ที่จะให้ LPG ภาคครัวเรือนลอยตัวขึ้น -  ภาครถยนต์ ควรซื้อ LPG ที่ราคาสอดคล้องกับราคาตลาดโลก แต่คิดว่า ในทางปฏิบัติจริง สำหรับคนไทยแล้ว ไม่สามารถจะแยกราคาซื้อ LPG ได้ ไม่ว่าจะเข้มงวดแค่ไหนก็ตาม " สรุปคือมันเป็นไปไม่ได้ใช่ไหมครับ เลยต้องลอยตัว lpg ทั้งหมด คุณจะอธิบายยังไงก็แล้วแต่ ผมจะบอกตรงนี้เลยนะครับ ข้อมูลที่ผมได้มาจาก บุคคลที่ทำงานร่วมกับ ปตท.เขาบอกเลยว่า บริษัท ปตท.นั้นทำทุกวิธีทางเพื่อให้ได้กำไรสูงสุด ยอมให้ผลประโยชน์ทุกอย่างกับคนที่มีอำนาจสั่งการเพื่อผลกำไรของตนเอง แต่ผมบอกตรงนี้ไม่ได้ว่าเรื่องอะไรครับ แต่บอกเลยว่า ปตท.นะร้ายกาจครับ อันนี้เป็นชีวิตจริงครับ ข้อมูลตารางที่คุณP_WUT เอามาอธิบายนั้นเป็นข้ออ้างของปตท.ที่จะหาทางลอยตัวlpg ให้ได้ครับ เหตุผลลึกๆที่เป็นเรื่องจริงของ ปตท.เกี่ยวกับการลอยตัวlpg คือ เป็นกลยุทธ์ในการหากำไรเพิ่มของ ปตท. โดยเห็นช่องว่างราคาขายระหว่างในประเทศและต่างประเทศครับ โดยอ้าง ขึ้นราคา LPG เพื่อปกป้องความมั่นคงทางพลังงาน เพื่่อไม่ให้ขาดแคลน เพราะตราบใดที่ยังมีการส่งออก lpgอยู่และถ้าประชาชนหันมาใช้ ngvมากขึ้นทำให้ ปริมาณการใช้lpgในประเทศลดลง และมีเหลือส่งออกมากขึ้น ปตท.ก็ได้กำไรมากขึ้นครับ ถ้าป้องกันขาดแคลนก็ควรงดส่งออกไปเลยครับ ผลิตเองใช้เองในประเทศครับ คุณP_WUT ช่วยตอบคำถามผมด้วยครับ คุณ  ดูไม่ออกหรือว่าท่าน รมต.กระทรวงพลังงานตอนนี้เร่ง มุบมิบผลักดันนโยบายพลังงานทุกอย่าง ทุกวิธีทาง เพื่อเอื้อผลประโยชน์ให้กับ ปตท.ครับ คุณดูไม่ออกจริงๆหรือครับ และคุณไม่คิดเลยหรือครับ ว่า รมต.ท่านอาจมีผลประโยชน์ กับ ปตท.อยู่ คุณอย่าลืมว่าอีกไม่กี่วันจะเลือกตั้งแล้ว อีกไม่กี่เดือนเรา จะมี รมต.พลังงานคนใหม่ที่มาจากประชาชน ทำไม รมต.ท่านนี้ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งและกำลังจะหมดหน้าที่ในอีกไม่กี่วัน ถึงได้รีบร้อนกำหนดนโยบาย lpg นัก ทำไมไม่รอรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งครับ คุณคิดไม่ได้หรือครับ ข้อมูลทั้งหลายที่คุณโพสมาผมว่าเอาไว้รอให้ รมต.คนใหม่มาตัดสินใจดีกว่าครับ รมต.กระทรวงพลังงานที่ประชาชนไม่ได้เป็นคนเลือกเข้ามาบริหารบ้านเมือง มีสิทธิ์อะไรที่จะนำlpgซึ่งเป็น สมบัติของคนไทย ทั้งชาติมาเก็บเกี่ยวหาผลประโยชน์ครับ จากคุณ : pop35 - [ 28 พ.ย. 50 21:24:28 ]

ความคิดเห็นที่ 117 ผมอธิบายแบบชาวบ้านๆ อ่านแล้วน่าจะเข้าใจง่ายนะครับ แต่ เป็นเรื่องจริง เป็นชีวิตจริงครับ   ส่วนคุณ P_WUTอธิบายแบบนักวิชาการ ข้อมูลแน่นดีมากครับ ถ้านักการเมืองบ้านเราเป็นแบบประเทศที่พัฒนาแล้ว มีการเลือกตั้งโดยไม่มีการซื้อ เสียง มีฝ่ายค้าน มีองค์กรอิสระเข้ามาตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล เหตุผลของคุณใช้ได้เลยครับ จากคุณ : pop35 - [ 28 พ.ย. 50 21:35:08 ]

ความคิดเห็นที่ 118 จาก นสพ.ไทยรัฐครับ http://www.thairath.co.th/news.php?section=economic&content=69690 ผู้บริโภคร้องสินค้าขาดตลาด รัฐเล็งลดเงินเข้ากอง ทุนน้ำมันอุ้มดีเซลรอบ3 [27 พ.ย. 50 - 04:21] นางวัชรี วิมุกตายน รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ กรมได้อนุมัติให้ ผู้ประกอบการน้ำมันปาล์มบรรจุขวดขึ้นราคาเพดานอีกขวด (ลิตร) ละ 5.50 บาท เป็น 43.50 บาท จากเดิม 38 บาท ขณะที่ผู้ประกอบการขอปรับราคาเพดานมาที่ 45.50 บาท แต่ให้ปรับเป็น 2 ช่วง โดยช่วงแรกให้ปรับขึ้นเป็น 41 บาท ซึ่งมีผลแล้ว และหลังวันที่ 1 ม.ค. 51 ให้ปรับขึ้นตามเพดานสูงสุด 43.50 บาท เพราะต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้นจริง โดยน้ำมันปาล์มดิบลิตรละ 30-33 บาท จากปีก่อน 14-15 บาท นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มจะอนุมัติให้ผู้ประกอบการน้ำมันถั่วเหลืองบรรจุขวด และผลิตภัณฑ์นมขึ้นราคาด้วย เพราะถั่วเหลืองมีราคาสูงขึ้นเป็นเท่าตัว จากกิโลกรัมละ 8 บาท มาอยู่ที่ 16 บาท และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เตรียมปรับขึ้นราคาน้ำนมดิบอีกกิโลกรัมละ 2 บาท เป็นกิโลกรัมละ 16.50 บาท จาก 14.50 บาท แต่จะขึ้นเท่าไหร่ ต้องขอดูต้นทุนที่เพิ่มขึ้นก่อน “นมเป็นกลุ่มที่มีต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะวัตถุดิบนำเข้าอย่างนมผง ผู้ประกอบการแจ้งว่า แนวโน้มจะปรับเพิ่มขึ้นเป็นตันละ 5,000 เหรียญสหรัฐฯ จาก 4,000 เหรียญ ส่วนปีก่อน 2,000 เหรียญเท่านั้น ทำให้ผู้ประกอบการหันมาใช้น้ำนมดิบมากขึ้น แต่ปัจจุบันราคาน้ำนมดิบก็ปรับขึ้นตามอีก ผู้ประกอบการจึงต้องขอปรับขึ้นราคา” ด้านนายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ในวันที่ 30 พ.ย.นี้ จะเชิญผู้ประกอบการกลุ่มน้ำมันถั่วเหลือง แบตเตอรี่ มาสอบถามสถานการณ์และสต๊อกสินค้า สิ่งที่กังวลคือ การกักตุนสินค้า แต่จะให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบสินค้าที่อยู่ ระหว่างการขอปรับขึ้นราคาว่ากักตุนเพื่อฉวยโอกาสขายในราคาใหม่หรือไม่ “ยังไม่ได้รับรายงานว่าผู้ประกอบการกักตุนสินค้า แต่จะส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบอย่างเข้มงวด รวมถึงก๊าซหุงต้ม เพื่อป้องกันการกักตุน ส่วนผลิตภัณฑ์นม ที่มีแนวโน้มปรับขึ้นราคาคงไม่มีปัญหาในการดูแล เพราะอยู่ในบัญชีสินค้าควบคุม สามารถใช้มาตรการทางกฎหมายได้ และเร็วๆนี้จะเพิ่มกลุ่มนมเปรี้ยวเข้ามาอยู่ในบัญชีสินค้าควบคุม เพราะราคาเปลี่ยนแปลงบ่อย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงพาณิชย์ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคจำนวนมากว่า หลังจากที่มีข่าวกรมการค้าภายในจะอนุมัติให้สินค้าหลายชนิดปรับขึ้นราคาไปแล้วนั้น ขณะนี้เกิดภาวะขาด แคลนสินค้าบางรายการแล้ว โดยเฉพาะในห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ เช่น ผลิตภัณฑ์นมสำหรับเด็กบางยี่ห้อ ซึ่งจากการสอบถามพนักงานได้รับคำตอบว่า ผู้ผลิต (ซัพพลายเออร์) ยังไม่มาส่ง และบางรายก็ส่งล่าช้า จึงทำให้ไม่มีสินค้ามาจัดบนชั้นวางสินค้า ขณะที่น้ำมันปาล์มบรรจุขวดได้ปรับขึ้นราคาไปเป็นขวดละ 41 บาทหลายวันแล้ว ก่อนที่กรมจะให้ปรับขึ้นได้ ส่วนผลิตภัณฑ์นม จากการที่กระทรวงเกษตรฯให้ปรับขึ้นราคาน้ำนมดิบไปแล้ว 2 ครั้ง ประมาณกิโลกรัมละ 2 บาท ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์นมปรับขึ้นราคาอย่างมาก เช่น นมเปรี้ยวดัชมิลล์ ขนาด 250 มิลลิลิตร แพ็ก (4 กล่อง) ละ 38 บาท จาก 27 บาท ขนาด 180 มิลลิลิตร แพ็กละ 28 บาท จาก 17 บาท นมโฟร์โมสต์ 250 มิลลิลิตร แพ็ก (6 กล่อง) ละ 55 บาท จากเดิม 47 บาท เป็นต้น นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รมว.พลังงาน กล่าวว่า จะรอสถานการณ์น้ำมันตลาดโลกอีก 1-2 วันเพื่อตัดสินใจว่าสมควรลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงส่วนของดีเซลหรือไม่ เพราะค่าการตลาดดีเซลใกล้ระดับศูนย์ หากราคาน้ำมันตลาดโลกปรับขึ้นต่อเนื่องอาจทำให้ผู้ค้าปรับราคาขายปลีกเพิ่มขึ้นอีก “วันนี้กองทุนน้ำมันยังมีหนี้ 2,300 กว่าล้านบาท ถ้าลดการเก็บเงินเข้ากองทุน จะทำให้การใช้หนี้ล่าช้าออกไป ที่ผ่านมาก็ลดไปแล้ว ดีเซลลิตรละ 60 สตางค์ เหลือเก็บเงินเข้ากองทุน 90 สตางค์ หากตลาดโลกขึ้นลิตรละ 6-7 บาท เราลดไป 60 สตางค์ ถ้าไม่จำเป็นจริงก็อยากเก็บเงินไว้ใช้ยามฉุกเฉินกรณีเกิดสงครามชั่วคราว ซึ่งถ้าเรามีเงินเหลือเยอะ ผมคงไม่รอจนป่านนี้ คงลดไปหมดแล้ว” สำหรับการทยอยลอยตัวก๊าซหุงต้มวันที่ 1 ธ.ค.นี้ ขั้นแรกจะปล่อยในส่วนที่กองทุนน้ำมันอุ้มอยู่ที่กิโลกรัมละ 1.29-1.30 บาท หรือปรับขึ้นถังละ 19-20 บาท (ถัง 15 กก.) จะลดความไม่เป็นธรรมต่อผู้ใช้น้ำมัน ที่การเก็บเงินเข้ากองทุนทุกลิตรจะมีส่วนหนึ่งที่ต้องไปอุ้มผู้ใช้ก๊าซหุงต้ม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สัปดาห์นี้ผู้ค้าน้ำมันจะปรับราคาขายปลีกเพิ่มอีก โดยเฉพาะดีเซลอย่างต่ำลิตรละ 40-50 สตางค์ ซึ่งจะทำให้ดีเซลใกล้แตะลิตรละ 30 บาท ทำให้ต้นทุนค่าโดยสารเพิ่มขึ้นอีก จึงเป็นไปได้ที่รัฐอาจลดการเก็บเงินดีเซลอย่างต่ำ 30 สตางค์ ขณะที่นายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม รมช.คมนาคม กล่าวหลังประชุมร่วมกับคณะกรรมการพิจารณาอัตราค่าเรือโดยสารว่า ที่ประชุมมีมติให้ผู้ประกอบการเรือโดยสารปรับค่าโดยสารขึ้นได้ในวันที่ 1 ม.ค. 51 ทำให้เรือด่วนทุกประเภทในแม่น้ำเจ้าพระยา และเรือในคลองแสนแสบ ปรับขึ้นระยะละ 1-2 บาท และเรือข้ามฟากปรับขึ้น 50 สตางค์. จากคุณ : pop35 - [ 28 พ.ย. 50 22:41:10 ]

ความคิดเห็นที่ 119 "สำหรับการทยอยลอยตัวก๊าซหุงต้มวันที่ 1 ธ.ค.นี้ ขั้นแรกจะปล่อยในส่วนที่กองทุนน้ำมันอุ้มอยู่ที่กิโลกรัมละ 1.29-1.30 บาท หรือปรับขึ้นถังละ 19-20 บาท (ถัง 15 กก.) จะลดความไม่เป็นธรรมต่อผู้ใช้น้ำมัน ที่การเก็บเงินเข้ากองทุนทุกลิตรจะมีส่วนหนึ่งที่ต้องไปอุ้มผู้ใช้ก๊าซหุงต้ม " ในส่วนของการลอยตัวในส่วนที่กองทุนน้ำมันชดเชยอยู่ผมเห็นด้วยครับ แต่ถ้าลอยตัวเท่าตลาดโลกแล้วคนไทยได้อะไรครับ นี่ขนาดLPG ยังไม่ลอยตัวนะครับ จากข่าวข้างบนถ้าlpg ลอยตัวเท่าตลาดโลกจะเกิดอะไรขี้นครับ คำตอบ ปตท.อ้างวินัยพลังงาน ลอยตัวlpg ป้องกันขาดแคลน ได้หน้า ดูดี แถมได้กำไรเพิ่มอีก  สิ่งที่ประชาชนได้ รายจ่ายเพิ่มขึ้นข้าวของแพงขึ้น ครับ จากคุณ : pop35 - [ 28 พ.ย. 50 22:57:54 ]

ความคิดเห็นที่ 120 สรุปให้ง่ายๆครับ ลอยตัวก๊าซ LPG ถอดภาษีสรรพสามิตรจากก๊าซ LPG ด้วย ราคาจะไม่เพิ่มขึ้นครับ อีกอย่างในตลาดโลก ราคา CNG กับ LPG สูสีกัน แต่ที่ P-WUT พูดผิดแน่นอนคือบอกว่าโรงกลั่น RRC เป็นของเชลล์ จริงแล้ว ปตท.ซื้อโรงกลั่นเชลล์ไปสองปีแล้วเอาหุ้นเข้าตลาดให้ชาวบ้านมารับแทนโดย ปตท.ได้โรงกลั่นไปฟรีๆครับ เพราะขายหุ้นให้ชาวบ้าน RRC ได้เงินมากกว่าที่ไปซื้อมาจากเชลล์ราวสามเท่า อีกข้อนึงก็คือ พนักงานระดับออฟฟิสของเชลล์ได้ย้ายไปเป็นพนักงานประจำของปตท.หมดแล้วครับ ตั้งแต่หลายปีก่อน โดยเหลือแค่การดำเนินงานในชื่อเชลล์นี้ เพียงปตท.ขอใช้ชื่อเชลล์ไว้ ป้องกันไม่ให้เห็นว่าดำเนินงานผูกขาดพลังงานในไทย เหมือนกับ JET ที่ ปตท.ไล่ซื้อไปทั้งหมด จากคุณ : x - [ 29 พ.ย. 50 00:37:55 A:210.246.64.166 X: TicketID:052378 ]

ความคิดเห็นที่ 121 คุณ P_Wut ครับ....ขอถามสั้นๆ ครับ "ตกลงคุณเห็นด้วยกับ นโยบายด้านพลังงานของ รมต. และ ปตท. ใช่ไหมครับ" นโยบาย ขี้นราคา lpg เพราะ ไม่ต้องการให้กองทุนน้ำมันมาอุ้มราคา lpg ตรงนี้ ผมรับได้.........แต่ รับไม่ได้กับการขึ้นราคา lpg ให้เท่ากับตลาดโลก เพื่อป้องกันการขาดแคลน lpg เป็นเหตุผลที่ใช้ไม่ได้ครับ  ถ้าจะขึ้นราคาให้เท่ากับตลาดโลก ปตท ต้องให้กำไรส่วนนี้ทั้งหมดเข้ากับรัฐ สิครับ ไม่ใช่ นำกำไรเข้าตัวเองแล้วมาอ้างเหตุผลแบบนี้ นโยบายเรื่องแก๊สโซฮอลล์ เกิดขึ้นจากต้องการพลังงานทดแทน และช่วยเหลือราคาผลผลิตเกษตรกร.........แต่ปัจจุบันนี้ ราคาแก๊สโซฮอลล์ที่ต่ำกว่าเบนซิน เพียงเพราะเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันต่ำกว่ากัน  นั่นแสดงว่า ตกลงประชาชนซื้อแอลกอฮอลล์เท่ากับราคาน้ำมันเหรอครับ?    ทั้งเกษตรกรชาวไร่ผู้ผลิตวัตถุดิบก็ไม่ได้มีรายได้ที่ดีขึ้นกว่าเดิม ที่คุณ P_Wut เสนอข้อมูลมา มันก็แค่ข้อมูลที่ทาง ปตท.เสนอ.........ทำไม คุณ ไม่หาข้อมูลจากแหล่งอื่นบ้างล่ะครับ รมต.กระทรวงพลังงานที่ประชาชนไม่ได้เป็นคนเลือกเข้ามาบริหารบ้านเมือง มีสิทธิ์อะไรที่จะนำlpgซึ่งเป็น สมบัติของคนไทย ทั้งชาติมาเก็บเกี่ยวหาผลประโยชน์ครับ จากคุณ : pop35   - [ 28 พ.ย. 50 21:24:28 ] จากคุณ : khun_kit - [ 29 พ.ย. 50 00:54:07 ]

ความคิดเห็นที่ 122 เยอะจัดจนขี้เกียจอ่านละครับ เลยมะขอตอบอะไรมากกว่านี้แต่ในเรื่องของ โรงกลั่นที่ทางคุณ P_Wut บอกมานั้นมันถือเป็นบ.ในเครื่อของปตท.ทั้งหมด ล่ะครับ ยกเว้นบางจากไว้นิดนึง ทฤษฎีกระเป๋าซ้ายกระเป๋าขวายังใช้การได้ดี ครับในการตอบเรื่องผลกำไรด้านการค้าน้ำมันของปตท.ครับ ดูตาม link นี้ ได้ครับ http://www.pttplc.com/th/ptt_core.asp?page=ap_af ปล.ผมว่าบางจากนี่ที่ได้กำไรน้อยเพราะเรื่องของการบริหารการจัดการมี ปัญหาครับ เพราะดูเทียบกันง่ายๆจากงบกำไรขาดทุนของในส่วนของโรง กลั่นของทางบางจากเมื่อเทียบกับไทยออยล์ ต่างกันมากครับ - กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีของ บางจาก ประมาณ 3% - กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีของ ไทยออยล์ ประมาณ 10% แล้วถ้าดูในส่วนของการตลาดแล้วยิ่งไปกันใหญ่ แต่บังเอิญไม่มีตัวเลขของปตท.มาเทียบดูเพราะขี้เกียจหาแล้วครับ การที่มีข้อมูลเยอะๆก็เป็นสิ่งที่ดีครับแต่บางทีต้องวิเคราะห์ให้ออกครับ ผมเองก็ดูไม่ค่อยเป็นหรอกครับ ถ้าให้แม่นจริงๆต้องพวกนักบัญชีเลย แน่นอนสุด..แหะๆ... ส่วนเรื่องก๊าซก็ปล่อยให้เป็นไปตามคำสั่งของผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ที่หาผลประโยชน์กันต่อไปครับเถียงกันไปก็เมื่อยนิ้วเปล่าๆ... จากคุณ : altisboy (altisboy) - [ 29 พ.ย. 50 03:12:20 ]

ความคิดเห็นที่ 123 ตอบคุณ x คห. 120 ในคห. 107 ของผม ซึ่งโพสต์และแก้ไขล่าสุดตั้งแต่ 9.45 น.เมื่อวาน ผมได้บอกไปแล้วว่า RRC Shell ได้ขายให้เป็นของ ปตท.ไปแล้ว แต่ยอมรับว่า จำไม่ได้ว่า ขายไปเมื่อไหร่  (แม้แต่ตอนที่รวมกับ SPRC แล้วตั้งเป็น ARC ก็ยังงงๆ อยู่ว่า มันทำกันแบบไหน ทำไมมันรวม-มันแยกกันง่ายจัง) แต่ที่คุณบอกว่า จะให้ยกเลิกเก็บภาษี LPG เนี่ย ผมไม่เห็นด้วยครับ เรื่องที่คุณ pop35 เล่าในคห. 116 ถ้าเป็นข้อมูลวงใน (เรื่องการพยายามทำทุกวิถีทางให้ ปตท. ได้กำไรสูงสุด) อย่างนั้น อันนี้ก็อีกเรื่อง ผม no comment ส่วนที่คุณตั้งข้อสังเกตว่า รมว.คนนี้ ทำทุกอย่างเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ ปตท.นั้น ผมขอมองอีกมุมนึงครับ ถ้าเป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้ง เค้าไม่มีวันทำอะไรแบบนี้แน่นอน เพราะมันกระทบกับคะแนนเสียงที่เค้าจะได้ ประชาชนทุกคน ไม่ว่าจะยากดี มีจน โง่เขลา เบาปัญญา หรือฉลาดหลักแหลมแค่ไหน แต่ก็มีแค่ " 1 เสียง" เท่ากัน เค้าต้องทำเพื่อให้ " 1 เสียง" ส่วนใหญ่พอใจ โดยไม่สนใจหรอกว่า การทำแบบนั้น เป็นการทำที่ถูกต้องหรือไม่ จริงๆ มีหลายตัวอย่างแล้ว ผมขอยกตย.ง่ายๆ ก็คือ ที่ทักษิณสั่งให้กองทุนน้ำมันอุ้มราคาน้ำมันเป็นหนี้ไปเกือบแสนล้าน ช่วงปีสุดท้ายของสมัยทักษิณ 1 (2547) ผมขอให้ข้อสังเกตอีก 2 อย่าง ซึ่งตรงข้ามกับที่คุณ pop35 ตั้งคำถามไว้ในคห. 116 นี้ 1. ลองไปอ่านในกระทู้นี้ดูครับ  ดูว่าคนที่เค้ามองอีกแบบนึง เค้ามองอย่างไร http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I6071100/I6071100.html#20 กระทู้ทั้งกระทู้นั้น ถ้าไม่เข้าใจศัพท์เทคนิค ก็ไม่เป็นไร แค่อ่านจับความเห็นคร่าวๆ ก็พอ 2. คุณบอกว่า รมว.คนนี้ ทำทุกอย่างเพื่อเอื้อให้ ปตท.?  แล้วทำไมคนอื่นเค้าไม่เห็นหรือไง? - รองนายก โฆสิต เคยออกมาว้ากทีนึง เรื่องจะขึ้น LPG แล้วก็เงียบไป (คุณคิดว่า โฆสิตเค้าเพิ่งจะตกลงรับผลประโยชน์จาก ปตท.ได้ลงตัวแล้ว ถึงเงียบหรือเปล่า?) - คนใน ครม.คนอื่นๆ เงียบทั้งๆ ที่หลายๆ คนรู้เรื่องพวกนี้ดี ไม่ใช่ว่าไม่รู้ เช่น รมว.คลังคนปัจจุบัน ที่เป็นอดีตผู้อำนวยการ สถาบัน TDRI - นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ ท่านอื่นๆ หลายๆ คน คุณเคยเห็นใครออกมาคัดค้านบ้างมั้ย? ดร.โกร่ง อ.สมชาย ภคภาสวิวัฒน์ (ผมสะกดนามสกุลแกไม่ถูกแฮะ จู่ๆ ก็นึกไม่ออก) ดร.อัมมาร์ สยามวาลา คนในสถาบัน TDRI สถาบันทางวิชาการอื่นๆ เช่น NIDA , มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (ที่ออกมาสรุปผลเศรษฐกิจบ่อยๆ น่ะ) อาจารย์สายเศรษฐศาสตร์ท่านอื่นๆ ฯลฯ จริงๆ ผมก็ไม่ได้เป็นคนรอบรู้ หาข่าว ค้นข่าวมาอ่านมามากมายนะครับ แต่ถ้าใครเคยอ่านเจอ หรือพอจะค้นข่าวของบุคคลที่ผมบอกมานี้ (หรือคนอื่นๆ ก็ตาม) ที่บอกว่า ไม่ควรลอยตัว LPG ควรกดราคาถูกๆ ไว้ ต่อไปเรื่อยๆ  ผมขออ่านหน่อยครับ (พอดีผมอาจจะเชื่อไปทางนั้นก่อนแล้ว เลยไม่ทันสังเกตเห็นข่าวแบบนี้) นอกจากนักการเมืองที่มาหาเสียง ทำทีเป็นเข้าอกเข้าใจประชาชนว่า ค่าครองชีพสูง จะช่วยหาทางลดราคาน้ำมันแล้ว ผมไม่เห็นได้ยินนักวิชาการคนไหน พูดอีกเลย หรือคุณจะบอกว่า พวกนั้นรับเงินใต้โต๊ะจาก ปตท.ทั้งหมด  คนใน สนพ. และกระทรวงพลังงานก็เหมือนกัน? ถ้าคุณมองประเทศไทยในแง่ร้ายถึงขนาดนั้นนะ มันไม่พัฒนา (แบบลุ่มๆ ดอนๆ) มาได้ถึงขนาดนี้หรอก ถ้าคุณมองแบบนั้นจริงๆ ล่ะก็ ผมแนะนำเลยว่า (จริงๆ นะ อันนี้ไม่ได้ประชดเลยแม้แต่น้อย) หาลู่ทางย้ายไปปักรกรากที่ประเทศอื่นเถอะครับ ดูๆ ไปเลยว่า ประเทศไหนน่าจะดีในสายตาของคุณ แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 50 06:30:22 จากคุณ : P_Wut - [ 29 พ.ย. 50 06:20:05 ]

ความคิดเห็นที่ 124 ตอบคุณ khun_kit ในคห. 121 เอ่อ..จริงๆ มันเป็นข้อความของคุณ pop35 นี่นา "ที่คุณ P_Wut เสนอข้อมูลมา มันก็แค่ข้อมูลที่ทาง ปตท.เสนอ.........ทำไม คุณ ไม่หาข้อมูลจากแหล่งอื่นบ้างล่ะครับ" ข้อมูลทั้งหมด ผมได้มาจากเว็บ eppo ทั้งสิ้น  ถ้าคุณ (ทั้งคุณ pop35 และคุณ khun_kit เอง) จะบอกว่า -  เป็นข้อมูลลวง เค้าวางแผนกันมา 3-4-5 ปี -  คนใน สนพ. (eppo) ก็ทำข้อมูลลวงๆ รอว่า ซักวันนึง จะมีคนอย่างผมไปเปิดอ่านดู เพื่อจะมาวิเคราะห์ให้เข้าทางเค้า มาตอบกระทู้พวกคุณ และจะมีคนมาตามอ่านอีกหยิบมือนึง ก็แล้วแต่จะคิดกันไปครับ  ผมคงห้ามความคิดพวกคุณไม่ได้ จากคุณ : P_Wut - [ 29 พ.ย. 50 06:26:18 ]

ความคิดเห็นที่ 125 เอ่อ ผมอาจจะพูดปนๆ กันนะ ระหว่าง น้ำมัน กับ LPG  ผมมองว่า มันก็ครือๆ กันนี่แหละ มันเป็นพลังงานหลักๆ ซึ่งบางส่วนคนสามารถ switch ไปใช้ กลับไปกลับมา กันได้ จากคุณ : P_Wut - [ 29 พ.ย. 50 06:32:49 ]

ความคิดเห็นที่ 126 ตอบคุณ altisboy "ปล.ผมว่าบางจากนี่ที่ได้กำไรน้อยเพราะเรื่องของการบริหารการจัดการมี ปัญหาครับ เพราะดูเทียบกันง่ายๆจากงบกำไรขาดทุนของในส่วนของโรง กลั่นของทางบางจากเมื่อเทียบกับไทยออยล์ ต่างกันมากครับ - กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีของ บางจาก ประมาณ 3% - กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีของ ไทยออยล์ ประมาณ 10% " ผมได้ตอบไปแล้ว ถ้าคุณจะกรุณาอ่านสักหน่อยก็คงดี ไม่งั้นที่ผมอุตส่าห์รวบรวม เรียบเรียง และพิมพ์มาตอบให้ ก็คงสูญเปล่า ส่วนที่มันต่างกันนี่ไงครับ ที่ผมบอกว่า กำไรมาจากฟากโรงกลั่น แต่ขาดทุนในฟากของค้าปลีกน้ำมัน - ถ้าจะดูกำไรฟากโรงกลั่น ให้ดูที่ ไทยออยล์และ RRC - ถ้าจะดูกำไรรวม 2 ฟาก ให้ดูที่ บางจาก - ถ้าจะดูกำไรเฉพาะฟากค้าปลีกน้ำมัน ให้ดูจากส่วนต่างระหว่าง % กำไร ของทั้ง 2 ข้อนั้น หลักฐานอีกข้อนึง ที่จะยืนยันว่า กำไรจากฟากค้าปลีก ไม่คุ้มค่า ไม่น่าลงทุนอีกต่อไป หรือ มันอยู่เดี่ยวๆ ไม่ได้ ก็คือ การที่ Q8 และ JET ถอดใจขายกิจการออกจากไทยไปทั้งหมด ผมกำลังรอดู PETRONAS อยู่เนี่ยว่า จะทนได้นานแค่ไหน เพราะไม่ใช่เจอแต่กำไรฟากค้าปลีกน้อยๆ จะเจอพวก anti-malaysia ด้วยอีกตะหาก จากคุณ : P_Wut - [ 29 พ.ย. 50 06:39:25 ]

ความคิดเห็นที่ 127 ยาวชะมัดจะอ่านจบทันเข้างานป่าวเนี่ย.. - -" จากคุณ : CK5 - [ 29 พ.ย. 50 07:01:52 ]

ความคิดเห็นที่ 128 ผมว่าคุณ P_Wut เองนั่นแหละครับที่น่าจะกลับไปอ่านคำตอบของผมแล้ว วิเคราะห์หลักความคิดของคุณซะใหม่ครับ ผมกำลังจะอธิบายว่าถ้าคุณต้อง การดูที่ผลกำไรของทั้ง 2 ด้านจริงๆอย่าดูแต่บางจากครับ มันไม่ได้บอกว่า การที่บางจากได้กำไรน้อยเพราะธุรกิจค้าปลีกน้ำมันเพียงตัวเดียว แต่เป็น เพราะกำไรจากโรงกลั่นที่น้อยตามไปด้วยอันเกิดมาจากปัญหาภายในของ ทางบางจากเอง ถ้าอยากมองให้เป็นกลางจริงๆคุณเองพยายามจะบอกว่าผล กำไรของโรงกลั่นไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับปตท.ผมก็ได้เอาข้อมูลมาให้คุณ พิจรณาใหม่แล้วไงครับ...ส่วนในการที่คุณยกมาอ้างว่าให้ดูทาง Q8 และ Jet นั้นไม่น่าลงทุนอันนี้ก็เห็นด้วยครับ แต่เพราะปัญหาของทาง Jet คือไม่ สามารถสู้ได้ไนแง่การแข่งขันด้านการผูกขาดการตลาดครับ ปตท.ถือได้ว่า เป็นผู้กำหนดราคาตลาดในการขายน้ำมันดังจะเห็นได้ว่าทุกๆค่ายพยายามอิง ราคาขายหน้าหัวจ่ายจากปตท. ซึ่งจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันมีค่ายอื่นที่พยายาม ฉีกตัวออกมาเพราะโดนปตท.บีบค่าการตลาดมากเกิน ลองคิดดูครับว่าพอ Jet ถอนตัวออกแล้วทำไมปตท.ถึงรีบคว้าเอาไว้ ในแง่การตลาดผู้ที่เป็นปลา เล็กถ้าพยายามเข้ามาแข่งขันแน่นอนคือต้องโดนกีดกันทุกทางครับ แล้วพอ ปลาเล็กถอนตัวออกไป เพื่อการต่อยอดของกิจการและป้องกันผู้แข่งขัน หน้าใหม่จะเข้ามาป่วนตลาดอีก ก็ต้องฮุบไว้เองครับ ถ้าคุณบอกว่าธุรกิจค้า ปลีกน้ำมันไม่น่าลงทุนทำไมปตท.ต้องซื้อเก็บไว้เองเพื่อให้ตัวเองขาดทุนล่ะ ครับ ผมว่าผู้บริหารเขามองเกมส์เป็นครับ ผมบอกไปแล้วทุกอย่างคือผล ประโยชน์ครับ การวิเคราะห์ต้องมาองให้กว้างและลึกพอครับ อย่ามองแค่ เปลือกนอกของธุรกิจครับ... จากคุณ : altisboy (altisboy) - [ 29 พ.ย. 50 08:34:42 ]

ความคิดเห็นที่ 129 ^ ที่ผมตอบไว้ ผมหมายความว่า - โรงกลั่นมีกำไรมาก แต่จะมากแค่ไหน ผมหาข้อมูลไม่ได้ นอกจากดูจากกำไรสุทธิของบริษัทที่ทำธุรกิจโรงกลั่น และขายส่งน้ำมันอย่างเดียว - ค้าปลีกน้ำมันมีกำไรน้อย โดยดูจาก # บางจาก ซึ่งมีทั้งโรงกลั่นและค้าปลีกน้ำมัน ผลกำไรรวมกันต่ำมาก # Q8 และ JET ซึ่งทำธุรกิจค้าปลีกน้ำมันอย่างเดียว อยู่ไม่ได้ # บริษัทอื่นๆ ที่ยังอยู่ได้ เพราะมีทั้งโรงกลั่นและค้าปลีกรวมกัน กำไรจึงถัวเฉลี่ยกันไป _____________________________________________________________________________ ขอเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย เพื่อให้เห็นตัวเลขได้ชัดเจนขึ้นครับ ขอยกข้อความของคุณ altisboy เอง มาทั้งหมด "จากงบกำไรขาดทุนของในส่วนของโรงกลั่นของทางบางจากเมื่อเทียบกับไทยออยล์ ต่างกันมากครับ - กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีของ บางจาก ประมาณ 3% - กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีของ ไทยออยล์ ประมาณ 10%" ไทยออยล์กำไร 10% = การกลั่นน้ำมันมีกำไร 10% บางจากกำไร 3% = การกลั่นน้ำมัน + ค้าปลีกน้ำมัน กำไรรวมกัน = 3% ดังนั้น ค้าปลีกน้ำมัน จะกำไรเพียง =  3 - 10 = ติดลบ 7% ถ้าคุณบอกว่า บางจากกำไรน้อยผิดปกติ  สมมติเป็น AAA ก็ได้ครับ ถ้าสมมติให้ AAA เหมือนบางจาก มีทั้งธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน และค้าปลีกน้ำมัน - ถ้ากำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี = 10%  ผมจะตีความได้ว่า กำไรจากการกลั่น 10% + กำไรจากค้าปลีกน้ำมัน 10% เฉลี่ยแล้ว จึงได้ 10% เท่าเดิม - ถ้ากำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี = 9%  ผมจะตีความได้ว่า กำไรจากการกลั่น 10% + กำไรจากค้าปลีกน้ำมัน 8% เฉลี่ยแล้ว จึงได้ 9% - ถ้ากำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี = 8%  ผมจะตีความได้ว่า กำไรจากการกลั่น 10% + กำไรจากค้าปลีกน้ำมัน 6% เฉลี่ยแล้ว จึงได้ 8% - ถ้ากำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี = 7%  ผมจะตีความได้ว่า กำไรจากการกลั่น 10% + กำไรจากค้าปลีกน้ำมัน 4% เฉลี่ยแล้ว จึงได้ 7% เท่าเดิม จริงๆ ตัวเลขมันคงไม่ได้เฉลี่ยกันง่ายๆ แบบบวกกันหารสองแบบนี้  แต่ภาพคร่าวๆ มันน่าจะประมาณนี้แหละครับ สรุปคือ กำไรมากมาจากฟากโรงกลั่น กำไรน้อยมาจากฟากค้าปลีก รวมกันแล้วถัวเฉลี่ยกันไป _________________________________________________________________________ คุณเองก็บอกอยู่แล้วว่า ปตท.บีบค่าการตลาดมากเกินไป  ผมเห็นด้วย  ดังนั้น ผมไม่เคยออกมาโวยวาย เวลา ปตท.และผู้ค้าน้ำมันรายอื่นออกมาประกาศขึ้นราคาน้ำมัน คุณบอกว่า มันเป็นเกมส์ ทำไมตอน JET ขายทิ้ง แล้ว ปตท.ถึงรีบฮุบ  อืม ทำไมคุณพูดไม่หมดล่ะครับ  ถ้า ปตท. ไม่ซื้อ มี Shell รอซื้ออยู่ เค้าประมูลแข่งด้วย แต่เสนอราคาต่ำกว่า ถ้า ปตท.ไม่ฮุบ JET  แล้วให้ Shell คว้าไป  ส่วนแบ่งตลาดน้ำมันสำเร็จรูปอาจเปลี่ยนไป  ปตท. คงไม่อยากเสีย ยังอยากคงสถานภาพความเป็น Big Player อยู่ ที่มีการเปิดเผยออกมาทีหลังว่า ปตท. เสนอราคาซื้อ JET สูงกว่า Shell อยู่หลายตังค์  ผมอยากจะบอกว่า ถ้า ปตท.รู้ว่า Shell จะเสนอราคาแค่นั้น  เค้าก็คงลดราคาที่ตัวเองประมูลมาถูกลง  ใครจะไม่อยากซื้อของถูก แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 50 10:38:57 แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 50 10:38:41 จากคุณ : P_Wut - [ 29 พ.ย. 50 09:31:02 ]

ความคิดเห็นที่ 130 ผมขอเพิ่มเติมความเห็นอีกเล็กน้อย กรณีการลอยตัว LPG ของ รมว. คนนี้ รัฐบาลนี้ ขึ้นมาปกครองประเทศตั้งแต่ ปลายปีที่แล้ว ถ้าจำไม่ผิด มีการตั้ง นายกตอนต้น ต.ค.  ผมจำไม่ได้ว่า หา รมต. ครบและเริ่มทำงานวันไหน เดือนไหน แต่คงไม่เกินปลายเดือน พ.ย. 2549 หรอกมั้ง? ผมไม่รู้ว่า ราคา LPG ในตลาดโลก มันสูงขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ถ้าให้เดา มันคงสูงขึ้นมามากกว่า 320 US$ นานแล้ว เพราะ LPG เป็นผลิตภัณฑ์ปิโตรเลี่ยมชนิดหนึ่ง  เรื่องที่มีโรงงานปิโตรเคมีเอา LPG ไปเป็นวัตถุดิบผลิตพวกพลาสติกส์ได้ ก็ทำกันมานานระดับสิบปีแล้ว ดังนั้น เมื่อราคาน้ำมันดิบขึ้น  LPG น่าจะขึ้นตามมาด้วย คงไม่ใช่เพิ่งจะมาขึ้นกันกลางปี 2550 นี้ แล้วทำไม เค้าถึงไม่ปล่อยให้ LPG ลอยตัวมาตั้งแต่ต้นปี? ถ้ากลับไปดูตารางที่ผมเอามาลง  ปี 2006 ส่งออก LPG  576,000 ตัน สิ้นปีนี้จากการประมาณการของผมเอง based on 9 เดือนแรก  น่าจะส่งออกได้ 320,000 ตัน ห่างกันถึง 256,000 ตัน ผมขอพูดถึงเฉพาะภาครถยนต์แล้วกัน สมมติว่า ถ้ากำหนดให้ภาครถยนต์ไม่เพิ่มขึ้นเลยแม้แต่น้อย  ภาคอื่นๆ ขึ้นตามปกติ  สิ้นปีนี้น่าจะมี LPG เหลือส่งออก = 320,000 + (580,000-459,000) = 441,000 ตัน ( 320,000 คือ ค่าประมาณการส่งออกของปีนี้ 580,000 คือ ค่าประมาณการของการใช้ในภาครถยนต์สิ้นปีนี้ 459,000 คือ ค่าการใช้ในภาครถยนต์ของสิ้นปี 2006 เลข 2 ตัวล่าง เพื่อจะบอกว่า ถ้า 2007 ไม่ใช้เพิ่มขึ้นจากปี 2006 เลย  จะหาได้ว่า สิ้นปี 2007 จะเหลือส่งออกเท่าไหร่ ซึ่งได้ค่ามาว่า 441,000 ตัน) มาถึงตรงนี้ ขอหยุดนิดนึง เผื่อจะงง - ตามความเป็นจริงในปัจจุบัน LPG เริ่มลอยตัวปลายปี  LPG มีเหลือส่งออกราว 320,000 ตัน - เหตุการณ์ที่ผมสมมติ ภาครถยนต์ไม่มีการใช้ LPG เพิ่มขึ้น  LPG มีเหลือส่งออกราว 441,000 ตัน แตกต่างกันมากถึง = 441,000 - 320,000 = 121,000 ตัน ผมขอประเมินคร่าวๆ ว่า "ถ้า LPG มีการปล่อยลอยตัวตั้งแต่ต้นปี  ภาครถยนต์ไม่มีการเติบโตขึ้นเลย  จะมี LPG เหลือส่งออกเพิ่มอีก 121,000 ตัน" คิดราคาเฉลี่ยของ LPG ปีนี้  ผมขอทึกทักเอาเองว่า = 620 US$ (กลางปีผมเคยเช็คทีนึง ตอนนั้นมันขึ้นไป 650 US$ แล้ว แต่ตอนต้นปีไม่มีข้อมูล ผมขอสมมติหยาบๆ ละกัน) เท่ากับว่า ส่วนต่างราคาที่ขายในประเทศ กับราคาที่จะส่งออกไปขายได้  = 620 - 320 = 300 US$ ต่อ LPG 1 ตัน LPG ปริมาณ  121,000 ตัน x 300 US$ x 34 บาท  คำนวณเป็นเงินได้  1,234.2 ล้านบาท " ถ้า รมว. คนนี้ ปล่อย LPG ลอยตัวมาตั้งแต่ต้นปี แล้วมีผลทำให้ LPG มีเหลือส่งออกมากขึ้นกว่าปัจจุบัน 121,000 ตัน  กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน และ ปตท. จะได้รายได้เพิ่มขึ้นถึง 1,234 ล้านบาท " แต่ รมว. คนนี้ ไม่ทำ มาทำช่วงท้ายสุด ก่อนที่รัฐบาลนี้ จะหมดวาระ  ยอมให้คนไทยใช้ LPG ราคาถูกกว่าความเป็นจริงมาอีก 1 ปีเต็ม คุณอาจจะตอบผมก็ได้ว่า - ขืนขึ้นก่อน ก็โดนประท้วงสิ ไม่อยู่รอดครบปีมาถึงวันนี้หรอก  โดนพวกทักษิณใช้เป็นจุดอ่อนในการโค่นรัฐบาล คมช. แน่นอน - ก็มันยังตกลงผลประโยชน์ใต้โต๊ะกันไม่ได้ไง  ไอ้ปิยสวัสดิ์มันเรียกตั้ง 10% ใครจะให้มันได้  ไหนจะคนในกระทรวงพลังงาน สนพ. กรมธุรกิจพลังงานอีก ฯลฯ - ก็ไอ้ปิยสวัสดิ์มันโง่ไง มันเพิ่งมาตาสว่าง เห็นช่องทางทำกิน ก็ตอนจะหมดสมัยรัฐบาลอยู่แล้ว ฯลฯ ก็แล้วแต่จะคิดครับ จากคุณ : P_Wut - [ 29 พ.ย. 50 09:57:42 ]

ความคิดเห็นที่ 131 สรุป ก็คือ คุณ P_Wut ต้องการให้ลอยตัวราคา LPG เท่ากับตลาดโลก เพื่อ ให้ ปตท มีกำไรเพิ่มขึ้น ใช่ไหมครับ? จากคุณ : khun_kit - [ 29 พ.ย. 50 10:10:40 ]

ความคิดเห็นที่ 132 จากความคิดเห็นข้างบน สรุปง่ายๆว่า ปตท.ทำทุกอย่างที่จะผูกขาดพลังานให้ได้ทุกวิถีทาง ทั้งการผลิตและการขายปลีกครับ และคุณ P_WUT คิดว่า รมต.พลังงานที่ไม่ได้มาจากประชาชนคนนี้ เป็นคนดีกล้าตัดสินใจใช่ไหม น่ายกย่องใช่ไหม ครับ ไม่ใช่การทิ้งทวน นะครับ จากข้อความของ P_WUT "คุณบอกว่า รมว.คนนี้ ทำทุกอย่างเพื่อเอื้อให้ ปตท.?  แล้วทำไมคนอื่นเค้าไม่เห็นหรือไง? - รองนายก โฆสิต เคยออกมาว้ากทีนึง เรื่องจะขึ้น LPG แล้วก็เงียบไป (คุณคิดว่า โฆสิตเค้าเพิ่งจะตกลงรับผลประโยชน์จาก ปตท.ได้ลงตัวแล้ว ถึงเงียบหรือเปล่า?)" ก็ไม่แน่นะครับเพราะกำไรของ ปตท.มหาศาลพอที่จะให้ผลประโยชน์ทุกอย่างกับคนที่มีอำนาจสั่งการเพื่อผลกำไรของตนเองครับ สามารถอุดหนุนรัฐบาลพรรคการเมืองได้นะครับ "คนใน ครม.คนอื่นๆ เงียบทั้งๆ ที่หลายๆ คนรู้เรื่องพวกนี้ดี ไม่ใช่ว่าไม่รู้ เช่น รมว.คลังคนปัจจุบัน ที่เป็นอดีตผู้อำนวยการ สถาบัน TDRI - นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ ท่านอื่นๆ หลายๆ คน คุณเคยเห็นใครออกมาคัดค้านบ้างมั้ย? ดร.โกร่ง อ.สมชาย ภคภาสวิวัฒน์ (ผมสะกดนามสกุลแกไม่ถูกแฮะ จู่ๆ ก็นึกไม่ออก) ดร.อัมมาร์ สยามวาลา คนในสถาบัน TDRI สถาบันทางวิชาการอื่นๆ เช่น NIDA , มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (ที่ออกมาสรุปผลเศรษฐกิจบ่อยๆ น่ะ) อาจารย์สายเศรษฐศาสตร์ท่านอื่นๆ" จะพูดทำไมละครับ อีกไม่กี่วันจะเลือกตั้งแล้ว คนอื่นเขารอรัฐบาลใหม่แล้วครับ  ยกเว้นกระทรวงพลังงานที่ขยันเกินเหตุครับ "ถ้าเป็นข้อมูลวงใน (เรื่องการพยายามทำทุกวิถีทางให้ ปตท. ได้กำไรสูงสุด) อย่างนั้น อันนี้ก็อีกเรื่อง ผม no comment" ข้อมูลคุณแน่นขนาดนี้  ผมว่าคุณก็รู้เหมือนกันกับที่ผมรู้แต่คุณไม่ยอม บอกเองครับ   ควรที่จะรอรัฐบาลใหม่ครับ จากคุณ : pop35 - [ 29 พ.ย. 50 10:18:39 ]

ความคิดเห็นที่ 133 "แต่ รมว. คนนี้ ไม่ทำ มาทำช่วงท้ายสุด ก่อนที่รัฐบาลนี้ จะหมดวาระ  ยอมให้คนไทยใช้ LPG ราคาถูกกว่าความเป็นจริงมาอีก 1 ปีเต็ม คุณอาจจะตอบผมก็ได้ว่า - ขืนขึ้นก่อน ก็โดนประท้วงสิ ไม่อยู่รอดครบปีมาถึงวันนี้หรอก  โดนพวกทักษิณใช้เป็นจุดอ่อนในการโค่นรัฐบาล คมช. แน่นอน - ก็มันยังตกลงผลประโยชน์ใต้โต๊ะกันไม่ได้ไง  ไอ้ปิยสวัสดิ์มันเรียกตั้ง 10% ใครจะให้มันได้  ไหนจะคนในกระทรวงพลังงาน สนพ. กรมธุรกิจพลังงานอีก ฯลฯ - ก็ไอ้ปิยสวัสดิ์มันโง่ไง มันเพิ่งมาตาสว่าง เห็นช่องทางทำกิน ก็ตอนจะหมดสมัยรัฐบาลอยู่แล้ว ฯลฯ" คุณ P_WUT ครับคุณไม่รู้จักคำว่า ทิ้งทวนหรือครับ แนวคิดง่ายๆครับ จากคุณ : pop35 - [ 29 พ.ย. 50 10:25:22 ]

ความคิดเห็นที่ 134 จุดยืนของผมคือ "ในส่วนของการลอยตัวในส่วนที่กองทุนน้ำมันชดเชยอยู่ผมเห็นด้วยครับ" แต่ถ้าลอยตัวเท่าตลาดโลกแล้วคนไทยได้อะไรครับ อยากลดการใช้ lpgในรถยนต์ก็เลยต้อง ลอยตัวlpg ให้เท่าตลาดโลก เพื่อลดปริมาณการใช้ลงนี่เป็น วิธีแก้ปัญหาหรือครับ ทำไมไม่ทำ ngv ให้พร้อมมากกว่านี้ครับ ถ้า ngvพร้อม ประชาชนก็จะหันมาใช้ ngv มากกว่า lpg เองครับ จากคุณ : pop35 - [ 29 พ.ย. 50 10:39:16 ]

ความคิดเห็นที่ 135 #129 คำตอบของคุณเองอธิบายได้อยู่แล้วครับว่าทำไมที่คุณบอกเองว่า กิจการค้าปลีกไม่น่าลงทุนแต่กลับมี บ.ยักษ์ใหญ่ทางค้าปลีกน้ำมันต้องการ ลงมาเล่นต่อครับ ถ้าต้องการดูว่าธุรกิจค้าปลีกน้ำมันมีกำไรน้อยจริงๆ ผมว่าก็ ลองหาของรายอื่นมาเปรียบเทียบด้วยครับนอกจากของบางจากเพียงราย เดียว แล้วมาสรุป เพราะผมเองก็เปรียบเทียบทางด้านโรงกลั่นไปแล้วซึ่งได้ เห็นถึงความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่าง บ.ในเครือของปตท.กับบางจากครับ ปล.ผมไม่แน่ใจจริงๆครับว่า Shell ณ ปัจจุบันยังมีโรงกลั่นเหลืออยู่ในเมือง ไทยหรือเปล่าหลังจากขายโรงกลั่นน้ำมันระยองออกไปแล้ว ถ้าไม่มีเหลือยู่ ก็แสดงว่าเหลือแต่ธุรกิจทางด้านค้าปลีกน้ำมัน ซึ่งก็แปลกอยู่ว่าทำไมถึงยัง ทำธุรกิจอยู่ได้ครับ ถ้าใครมีข้อมูลทางบัญชีของเชลล์ลองเอามาให้ข้อมูล คร่าวๆดูก็น่าจะดีครับ... จากคุณ : altisboy (altisboy) - [ 29 พ.ย. 50 10:53:34 ]

ความคิดเห็นที่ 136 ตอบคุณ pop35 ถ้าไม่ตัดสินใจปล่อยลอยตัวก่อนเปลี่ยนรัฐบาล  คงไม่ได้เห็นแน่นอน มีอีกเรื่องที่อยากจะพูดถึง ก็คือ ผมไม่มีความหวังอะไรจะฝากกับรัฐบาลที่จะมาหลังเลือกตั้งเลยครับ จากคุณ : P_Wut - [ 29 พ.ย. 50 11:07:14 ]

ความคิดเห็นที่ 137 ตอบแบบเลี่ยงๆ เสียเวลาที่หาข้อมูลมาชักแม่น้ำ จริงๆ จากคุณ : khun_kit - [ 29 พ.ย. 50 11:13:48 ]

ความคิดเห็นที่ 138 จากความคิดเห็นที่123ของคุณ P_WUT ถึงผม "ถ้าคุณมองประเทศไทยในแง่ร้ายถึงขนาดนั้นนะ มันไม่พัฒนา (แบบลุ่มๆ ดอนๆ) มาได้ถึงขนาดนี้หรอก ถ้าคุณมองแบบนั้นจริงๆ ล่ะก็ ผมแนะนำเลยว่า (จริงๆ นะ อันนี้ไม่ได้ประชดเลยแม้แต่น้อย) หาลู่ทางย้ายไปปักรกรากที่ประเทศอื่นเถอะครับ ดูๆ ไปเลยว่า ประเทศไหนน่าจะดีในสายตาของคุณ" จากความคิดเห็นที่136ของคุณ P_WUT ถึงผม "ถ้าไม่ตัดสินใจปล่อยลอยตัวก่อนเปลี่ยนรัฐบาล  คงไม่ได้เห็นแน่นอน มีอีกเรื่องที่อยากจะพูดถึง ก็คือ ผมไม่มีความหวังอะไรจะฝากกับรัฐบาลที่จะมาหลังเลือกตั้งเลยครับ" อ่านแล้วงงครับ ตอนแรกบอกให้ผมไปหาประเทศใหม่อยู่ การเมืองบ้านเราไม่ได้แย่ขนาดนั้น  แต่ต่อมาคุณกลับบอกว่า ไม่มีความหวังอะไรกับรัฐบาลใหม่ แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 50 11:28:42 แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 50 11:24:55 จากคุณ : pop35 - [ 29 พ.ย. 50 11:22:27 ]

ความคิดเห็นที่ 139 เห็นด้วยกับ คห.134 ครับ ขอเสริมคุณ pop35 นะครับ ถ้า ปตท.มีเจตนาที่บริสุทธิ์จริงๆ ช่วยนำกำไรที่ได้จากการขี้นราคา lpg เท่ากับตลาดโลกคืนรัฐ หรือ กองทุนน้ำมันทั้งหมดสิครับ บริหารรัฐกิจ(ประชาชน) กับ บริหารธุรกิจ(กำไร) มันต่างกันนะครับ คุณ P_Wut จากคุณ : khun_kit - [ 29 พ.ย. 50 11:35:01 ]

ความคิดเห็นที่ 140 ตอบ คห. 135 "อ่านแล้วงงครับ ตอนแรกบอกให้ผมไปหาประเทศใหม่อยู่ การเมืองบ้านเราไม่ได้แย่ขนาดนั้น  แต่ต่อมาคุณกลับบอกว่า ไม่มีความหวังอะไรกับรัฐบาลใหม่" ยอมรับว่า บุคลากรด้านการเมือง มีคนแย่ๆ อยู่เยอะ หาคนดีๆ ยากมาก แต่ด้านรัฐ ยังมีดีๆ เหลืออยู่ครับ ที่ผมบอกว่า ผมไม่ได้มีความหวังอะไรกับรัฐบาลใหม่ จริงครับ แค่ว่าให้มันมีรัฐบาลจากการเลือกตั้งเท่านั้น  ให้ได้รับการยอมรับจากต่างชาติมากกว่ารัฐบาล คมช.ตอนนี้ แต่นอกนั้น เศรษฐกิจจะดีขึ้นหรือไม่ มาจากเอกชน และข้าราชการส่วนนึงที่ยังตั้งหน้าตั้งตาทำงานอยู่ อีกอย่างหนึ่ง รอดูแล้วกันว่า รัฐเค้าจะให้ LPG ลอยตัวขึ้นไปถึงแค่ไหน อย่างไร ตอบคห.ที่ 139 กำไรจากราคา LPG จะถูกรวมอยู่กับกำไร ปตท.ทั้งหมด - เสียภาษีนิติบุคคล 30% - คืนรัฐในรูปเงินปันผล ตามสัดส่วนหุ้นที่รัฐถืออยู่ จากคุณ : P_Wut - [ 29 พ.ย. 50 12:09:18 ]

ความคิดเห็นที่ 141 คห.140 ครับ เรื่องกำไรจาก lpg ไปไหน ต้องคืนให้ผู้ถือหุ้นตามสัดส่วนนั้น ..ผมทราบ ครับ เพราะอย่างนี้ไงครับ ปตท.และผู้ถือหุ้น ถึงต้องอยากขึ้น ราคา lpg ให้เท่ากับตลาดโลก ปล.คนพลังงานตอบวนไปวนมา สรุป ก็จะนำกำไรคืนผู้ถือหุ้น...แค่นั้น โอเค ครับ ผมยอมแพ้ จากคุณ : khun_kit - [ 29 พ.ย. 50 12:31:28 ]

ความคิดเห็นที่ 142 ณ ปัจจุบัน ผมว่า ngv เหมาะกับภาคธุรกิจขนส่ง หรือ โรงงานอุตสาหกรรมแค่นั้น ... รอให้ ปตท. หรือ ผู้ค้ารายอื่น กล้าลงทุนกับการสร้างโครงข่ายการให้บริการก๊าซของตัวเองจนสมบูรณ์มากพอ ผู้บริโภครายย่อย ค่อยคิดติดตั้ง ngv จะดีกว่า ... ถ้า รัฐโดยผ่านปตท.คิดอยากจะหากำไร หรือสร้างความมั่นคงให้กับตัวเองก็ต้องกล้าลงทุนด้วยเช่นกัน อย่าผลักภาระความเสี่ยงของธุรกิจมาให้กับประชาชน หรือผู้คนที่เขาไม่ได้ถือกฏหมายและไม่มีอำนาจอยู่ในมือ เช่นการบังคับให้ taxi ใหม่ต้องติด ngv เท่านั้น ... สงสารเขานะครับ มันบาปกรรมที่ทำเช่นนี้ ! จากคุณ : internetsmile - [ 29 พ.ย. 50 14:26:37 ]

ความคิดเห็นที่ 143 ตอบ คห. 141 ผมขอเลิกตอบเรื่อง ปตท. / กำไร / ผู้ถือหุ้น แล้วครับ  เพราะคิดว่า ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์  เรื่องเดียวกัน แต่มองกันคนละมุม คนละประเด็น "ราคา LPG ต้องปรับให้เป็นลอยตัว เพราะจะไม่สามารถหามาให้พอกับความต้องการใช้ในอนาคต ในราคาที่ผิดธรรมชาตินี้ได้" ตอบ คห. 142 ผมยอมรับว่า ปตท. ไม่ค่อยพร้อมเท่าไหร่ เรื่องการขาย NGV ผมยังงงเลยว่า วันนี้มีข่าวว่า อีก 6 เดือนข้างหน้าจะมีปัญหาปั๊ม NGV แก๊สหมด เพราะไม่สามารถจัดส่ง NGV ได้ทันกับปริมาณการเติม เหมือนกระทรวงพลังงานจะปล่อยลอยตัว LPG แล้วก็เลยเสนอ NGV เป็นทางเลือกให้ประชาชนแทน  แต่ NGV ก็ดันจะไม่พอ สรุป คือ งานนี้ ปตท.รับไปเต็มๆ โดนด่าทั้ง 2 ข้าง จากคุณ : P_Wut - [ 29 พ.ย. 50 16:28:31 ]

ความคิดเห็นที่ 144 ผมยินดีใช้แก๊สlpg ราคา 700 US ต่อตันหรือมากกว่า เมื่อlpgในประเทศถูกนำมาใช้จน ขาดแคลน จนต้องนำเข้า ดีกว่าจะต้องใช้ lpg ราคา 700 US ต่อตันโดยการอ้างว่าเผื่อขาดแคลนในอนาคตครับ จากคุณ : pop35 - [ 29 พ.ย. 50 18:11:44 ]

ความคิดเห็นที่ 145 จากความคิดเห็นที่ 143 "สรุป คือ งานนี้ ปตท.รับไปเต็มๆ โดนด่าทั้ง 2 ข้าง" แต่ปตท.คงไม่เดือดร้อนหรอกครับ ก็กำไรมันเพิ่มนี่ครับ คนที่ไม่ถูกด่าคือประชาชนครับ แต่แย่ลงเพราะค่าครองชีพเพิ่มขึ้นครับ ถ้าคุณเงินเดือน 1แสนบาท น้ำมันลิตรละ 60บาท LPGลอยตัว คุณก็เติมไหวยังใช้รถได้สบาย ยังพอมีเงินเหลือเก็บบ้าง แต่คนส่วนใหญ่ของประเทศ ไม่ได้มีรายได้มากขนาดนั้น ค่าครองชีพในปัจจุบันก็สูงจนจะแย่อยู่แล้ว ถ้าจะรีบลอยตัว LPGให้เท่าตลาดโลก โดยอ้างว่าป้องกันการขาดแคลนในอนาคต ประชาชนจะแย่ก่อน LPGจะขาดแคลนครับ จากคุณ : pop35 - [ 29 พ.ย. 50 18:27:30 ]

ความคิดเห็นที่ 146 ทำไม P_WUT ยังไม่เข้าใจ รึเจตนาไม่เข้าใจก็ไม่รุ ก็บอกตั้งหลายครั้งแล้วว่า Shell จริงๆตอนนี้ไม่มีในไทย มีแต่ Shell ที่ดำเนินงานโดย ปตท. เพราะขอชื่อฝรั่งเค้าใช้ กลัวชาวบ้านจะรู้สึกว่าผูกขาดพลังงาน ยังมาอ้างละครปาหี่ว่า Shell ประมูลแข่งซื้อปั๊ม Jet กับ ปตท.อีกแน่ะ คนในวงการน้ำมันเค้ารู้กันทุกคนว่าพนักงานเชลล์ทั้งหมดโอนไปเป็นพนักงาน ปตท.มาสามปีกว่าแล้ว ถ้าอ้างตัวว่าเป็นผู้รู้เรื่องพลังงานดี แสดงว่าแกล้งไม่รู้ เพราะนี่เป็นข้อมูลไม่ลับอะไร สรุปว่างานซื้อปั๊ม Jet เป็นงานคุยราคาซื้อขายกันและอะไรอีกนิดหน่อยปลายนวมที่สิงค์โปร์ โดยใช้ชื่อเชลล์(ที่ปตท.ดำเนินงานแกล้งทำเป็นประมูล ไม่ให้น่าเกลียด) จากคุณ : x - [ 29 พ.ย. 50 23:54:13 A:210.246.64.58 X: TicketID:052378 ]

ความคิดเห็นที่ 147 ขณะนี้มีประกาศ พรก. เลือกตั้งแล้ว รัฐบาลปัจจุบันก็เป็นรัฐบาลรักษาการ .. ไม่บังควรทำงาน อะไรเชิงนโยบายที่ไปผูกพันรัฐบาลหน้าที่จะมีอีกไม่กี่เดือน ภาษาการเมืองเขาเรียกว่า มรรยาท ... ไม่รู้จะรีบร้อนทำไปถึงไหน ??? ทำให้เกิดข้อสงสัยครับ จากคุณ : pop35 - [ 30 พ.ย. 50 00:00:14 ]

ความคิดเห็นที่ 148 http://www.gasthai.com/boardgas/Question.asp?ID=A30264 จากคุณ : pop35 - [ 30 พ.ย. 50 00:08:55 ]

ความคิดเห็นที่ 149 ขอข้อมูลยืนยันหน่อยครับ  ว่าเชลล์ประเทศไทย  ขึ้นอยู่กับ ปตท. เข้าไปดูเวป  http://www.shell.com/home/Framework?siteId=thailand-th ในส่วนประวัติของเชลล์  ก็ไม่มีส่วนไหนบอกว่าขายกิจการ  มีแต่ขายโรงกลั่น RRC  ซึ่งเดิมเชลล์ร่วมทุนกับปตท.  ให้กับ ปตท. เท่านั้น http://www.shell.com/home/content2/thailand-th/about_shell/who_we_are/longpresencethailand_12071230.html นอกจากนี้  ในส่วนผู้บริหาร http://www.shell.com/home/content/thailand-th/about_shell/our_people/management_1227.html ก็ยังมีระบุว่า   บางท่านรับผิดชอบนอกจากประเทศไทยแล้วก็ยังมีประเทศอื่นๆ ด้วย    ซึ่งถ้าเป็นของ ปตท. ตามที่กล่าว   คงไม่มีใครให้ไปทำตลาดให้กับบริษัทอื่นๆ  ในต่างประเทศมังครับ จากคุณ : sunsetbeach - [ 30 พ.ย. 50 15:00:32 ]

ความคิดเห็นที่ 150 รู้ทั้งรู้ที่ปตท.อ้างว่าก๊าซ LPG ใช้ได้ไม่ดี ให้ไปใช้ NGV เพราะปตท.อยากให้ LPG มีเหลือมากๆเพื่อที่จะเอาไปขายต่างประเทศได้ราคาแพงๆก็เท่านั้น แต่พวกเราคนไทยส่วนใหญ่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ก้มหน้ารับกรรมไปตามระเบียบ แล้วคนไทยได้อะไรจากการลอยตัว LPG นอกจากข้าวของค่าครองชีพแพงขึ้น (นอกเหนือจากปัญหาน้ำมัน) และก็มีแต่พวกผู้บริหารปตท. ผู้ถือหุ้น รวยเอาๆ โดยคนพวกนี้ไม่สนใจว่าประเทศจะเป็นยังไง ขอให้ตัวเองได้ผลประโยชน์เป็นพอ จากคุณ : apichan (apichan) - [ 30 พ.ย. 50 16:21:54 ]

ความคิดเห็นที่ 151 คุณ sunsetbeach ผมก็หาข้อมูลเรื่อง Shell นี่อยู่เหมือนกัน เปิดเว็บไซต์ก็แล้ว โทรไปถามฝ่ายประชาสัมพันธ์ก็แล้ว เค้าก็ยืนยันว่า เค้ายังเป็นของ Shell อยู่ ถือหุ้นโดย Royal Dutsch Shell ขึ้นกับบริษัทแม่ที่เมืองนอก เพียงแต่ผมยังติดต่อเพื่อนผมที่ทำงานที่นั่นไม่ได้ โทรไปแล้วไม่อยู่ที่โต๊ะ เลยอยากจะคุยรายละเอียดกับเพื่อนให้มันชัดๆ อีกที ก่อนจะมาโพสต์ตอบ แต่คุณก็มาตอบยืนยันตัดหน้าไปเรียบร้อยแล้ว ขอบคุณครับ ปล. ไว้ติดต่อเพื่อนผมได้แล้ว ผมจะเอาข้อมูลเพิ่มเติมมาโพสต์แล้วกันนะครับ จากคุณ : P_Wut - [ 30 พ.ย. 50 17:32:40 ]

ความคิดเห็นที่ 152 ขอบคุณ คุณP_Wutครับ เหนื่อยหน่อยนะคับ จากคุณ : babeheart - [ 1 ธ.ค. 50 09:38:22 ]

ความคิดเห็นที่ 153 มา update เพิ่มเติม กลัวเดี๋ยวจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่ สูตรการลอยตัวราคา LPG จะไม่ใช่ เท่ากับ ราคา LPG ที่สิงคโปร์ครับ เมื่อผ่านระยะเวลาการปรับขึ้นทีละเสต็ปๆ ไปแล้ว (ใช้เวลา 5 ขั้นตอน 5 เดือนมั้ง) สุดท้าย ราคา LPG ลอยตัว จะ = 60% ของราคาหน้าโรงแยกก๊าซ + 40% ของราคาสิงคโปร์ ตอนนี้ ราคาหน้าโรงแยกก๊าซ อยู่แถวๆ 320 US$ ราคาสิงคโปร์อยู่แถวๆ 720 US$ ดังนั้น ตามสูตรนี้แล้ว  ราคาจะอยู่ที่ 480 US$ หรือคิดเป็นเงินไทยได้ = 16.32 บาท/กก. ครับ เมื่อบวกภาษีต่างๆ อีกราวๆ 7-8 บาท ราคาจะขึ้นไปราวๆ 23-24 บาท/กก.ครับ (ถ้าราคาตลาดโลกเท่ากับ 720 US$ นะ) http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V6073974/V6073974.html#18 แก้ไขเมื่อ 01 ธ.ค. 50 16:16:10 จากคุณ : P_Wut - [ 1 ธ.ค. 50 16:13:55 ]

ความคิดเห็นที่ 154 แผนการลอยตัวของ LPG ตามนี้ครับ http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V6078853/V6078853.html#39 ___________________________________________________________________________________ อยากรู้ว่าถ้าขึ้นแต่ละขั้นตอน ราคาจะเป็นเท่าไหร่คับ ถ้าอ้างอิงราคาตลาดโลกที่650เหรียญ/ตัน ขั้นตอนที่ 1 มีผล 1 ธ.ค. 50 ลดการชดเชยในส่วนของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ราคาขายจะเป็นลิตรละ เท่าไหร่? ขั้นตอนที่ 2 มีผล 1 ม.ค. 51 นำราคาตลาดโลก อิงราคาตลาดโลก5% ราคาขายจะเป็นลิตรละ เท่าไหร่? ขั้นตอนที่ 3 มีผล มิ.ย. 51 นำราคาตลาดโลก อิงราคาตลาดโลก10% ราคาขายจะเป็นลิตรละ เท่าไหร่? ขั้นตอนที่ 4 มีผล ส.ค. 51 นำราคาตลาดโลก อิงราคาตลาดโลก20% ราคาขายจะเป็นลิตรละ เท่าไหร่? ขั้นตอนที่ 5 มีผล ต.ค. 51 นำราคาตลาดโลก อิงราคาตลาดโลก30% ราคาขายจะเป็นลิตรละ เท่าไหร่? ขั้นตอนที่ 6 มีผล ธ.ค. 51 นำราคาตลาดโลก อิงราคาตลาดโลก40% ราคาขายจะเป็นลิตรละ เท่าไหร่? คำนวณยังไงเหรอครับ ที่ว่าอิงราคาตลาดโลก xx% ขอบคุณล่วงหน้าครับ จากคุณ : ^Top^  - [ 30 พ.ย. 50 14:17:00 ] _______________________________________________________________________________________ คุณเอาราคาอ้างอิงตลาดโลก 650 US$/ตัน มาจากไหนอ่ะครับ? เท่าที่ผมทราบตอนนี้มันขึ้นไปเป็น 720 US$ แล้วนะ ไม่เป็นไร เอา 650 US$ ก็ได้ --> อิงราคาตลาดโลก 320 US$ คือ ราคาของฝั่งโรงแยก ขั้นตอน 2  =  95% x 320 +   5% x 650 = 336.5 ขั้นตอน 3  =  90% x 320 + 10% x 650 = 353.0 ขั้นตอน 4  =  80% x 320 + 20% x 650 = 386.0 ขั้นตอน 5  =  70% x 320 + 30% x 650 = 369.5 ขั้นตอน 6  =  60% x 320 + 40% x 650 = 452.0 เอาราคาเป็นเหรียญ x 34 (บาท/US$) หารด้วย 1000 ( 1 ตันมี 1000 โล) จะได้เป็นราคาหน้าโรงแยก/โรงกลั่น จากคุณ : P_Wut - [ 1 ธ.ค. 50 16:58:23 ]

ความคิดเห็นที่ 155 ขอบคุณ คุณ P_Wut ครับ จากคุณ : ChkTe - [ 2 ธ.ค. 50 00:46:25 ]

ความคิดเห็นที่ 156 โหวต จากคุณ : สิงห์หน่อย - [ 2 ธ.ค. 50 09:52:50 ]

ความคิดเห็นที่ 157 P_WUT ครับ ผมค่อนข้างกระจ่างในกระทู้ตัวเองแล้ว แต่ยังส่งสัยเล็กน้อย (พี่อาจจะตอบในนี้แล้วแต่อ่านไม่หมด) 1.ผมเข้าใจว่า 60:40 เป็นตัวเลขการนำเข้าวัตถุดิบ ซึ่งได้น้ำมันเป็นหลัก และได้ LPG เป็นของแถม เขาเอามาคิดเป็นราคาลอยตัว แต่จากตัวเลขการส่งออกที่ LPG ส่งออก 7-8% ของทั้งหมด ทำไมเขาไม่เอามาคิดเป็นราคาด้วยล่ะครับ เพราะถ้าเอามาคิดด้วย น่าจะทำให้ลดลงราวๆ 1 บาท/กก หรือว่าเป็นช่องโหว่ของสัมปทาน 2.ตกลงราคา LPG ปัจจุบัน ปตท.ได้กำไรหรือขาดทุนครับ หรือรัฐต้องมาช่วยเท่าไหร่ จากคุณ : Redrum - [ 2 ธ.ค. 50 10:09:10 ]

ความคิดเห็นที่ 158 รัฐยกเลิกการชดเชยไปแล้วครับ ในขั้นตอนที่ 1 ครับ ตั้งแต่ 1ธ.ค. ราคา LPG ปัจจุบันขายในประเทศ ไม่ขาดทุนครับ แต่กำไรน้อยกว่าส่งออกครับ จากคุณ : pop35 - [ 2 ธ.ค. 50 13:12:53 ]

ความคิดเห็นที่ 159 ตอบคุณ Redrum 60:40  ผมคิดว่า มีที่มาจากว่า ปริมาณ LPG ที่ผลิตได้ทั้งหมดในประเทศตอนนี้ - ผลิตได้จากก๊าซธรรมชาติ = 60% - ผลิตจากการกลั่นน้ำมัน = 40% สัดส่วน LPG ที่มาจากทั้ง 2 ทาง มันมากแบบมีนัยสำคัญทั้งคู่  ไม่ใช่ 95:5 หรือ 10:90 (ถ้าเป็นแบบ 95:5 หรือ 10:90  การตั้งราคาจะยึดตัวใดตัวหนึ่งเลย ก็ไม่ค่อยน่าเกลียด) ถ้าไม่ลอยตัว ยึดราคาหน้าโรงแยกอย่างเดียว  พวกโรงกลั่นขายขาดทุนอยู่เยอะ โดยเฉพาะช่วงหลังที่ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นไปสูงมาก ผมว่านะ ประเด็นสำคัญที่ ก.พลังงานลอยตัว มาจาก เรื่องราคาที่ห่างกันมากขึ้นๆ ทุกวัน ไม่ปรับตัวตามกัน ให้สอดคล้องกัน มันจะทำให้เกิดปัญหาในอนาคต เรื่องโรงกลั่นได้ราคา LPG ดีขึ้น (แต่ยังไม่ดีเมื่อเทียบกับ หากไปตั้งโรงกลั่นนอกประเทศ) และโรงแยกของ ปตท. ได้กำไรมากขึ้น  มันเป็นผลพลอยได้ จะให้ทำไงล่ะครับ  ถ้าแยกราคา 2 ภาค (ภาคครัวเรือนราคานึง ภาคอื่นๆ ราคานึง) ในทางปฏิบัติจริง ทำไม่ได้แน่นอน  ต้องมีคนลักลอบเอา LPG จากถังบ้าน เติมใส่รถแน่นอน หรือจะให้เค้าออก กม. ห้ามใช้ LPG ในภาคอื่นๆ?  เท่าที่ผมติดตามข่าวของ รมว. คนนี้มา เค้า - ไม่ชอบการอุ้ม  ตอนสมัยรัฐบาลทักษิณ โดนย้ายจาก สนพ. ก็เพราะคัดค้านไม่ให้อุ้มรอบแรกนี่แหละ เจอคำสั่งย้ายไปสำนักนายกฯ มั้ง แกลาออกจากราชการเลย - พยายามจะปล่อยให้ทุกอย่างลอยตัว ให้กลไกตลาดทำงานโดยธรรมชาติของมัน  ไม่มีการบังคับ  ให้ทุกคนเลือกใช้พลังงานได้ทุกรูป ทุกชนิดมากกว่าจะมาจำกัดให้เลือกแค่บางชนิด ขนาดเบนซิน 95 สุดท้ายเค้าก็ไม่เลิก (ต่างจากรัฐบาลที่แล้ว) อีกอย่างนึง เท่าที่อ่านเก็บข้อมูลจากที่อื่น  เห็นว่า หลังๆ นี้ ก๊าซธรรมชาติก็นำเข้าจากพม่ามาเยอะ (ในคอลัมน์ หมายเหตุประเทศไทย หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ หน้า 5 ฉบับเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่พูดเรื่อง พลังงานในอนาคต บอกไว้ว่า ตอนนี้นำเข้าก๊าซธรรมชาติจากพม่ามากกว่า 50% แล้ว)  ถ้า ปตท. ต้องจ่ายค่าก๊าซตามราคาตลาดโลก แต่ต้องมาขาย LPG ถูกเกินราคาตลาดโลก ผมว่า ก็ไม่แฟร์กับเค้านะ  ถ้ามองแบบโลกการค้าเสรีน่ะ จากคุณ : P_Wut - [ 3 ธ.ค. 50 01:48:35 ]

ความคิดเห็นที่ 160 เพิ่งได้มาอ่านกระทู้นี้ คุณ P_Wut ตอบเป็นเหตุเป็นผลดี ผมเข้าใจมาอย่างคุณนี่แหละ แต่ขี้เกียจพิมพ์จริงๆ กระแสมันแรงคนใช้ยังมองแต่ตัวกรู เงินกรู ไม่ได้มองเงินชาติ สมบัติชาติ มันก็จะคิดได้แค่นี้แหละ ดูคุณ P_Wut อธิบายไป ก็ขำ คนที่อ่านไม่เข้าใจประเด็น คิดแต่ว่าเงินเข้าใคร อยากให้พวกพูดๆมาเป็นบอร์ดบริหาร ปตท. หรือ กระทรวงพลังงานจริงๆ อยากดูซิว่าบริหารได้ยังไง แค่ที่ P_Wut อธิบายยังไม่เข้าใจ จะไปเอาอะไรกับเศรษฐกิจมหภาค ถ้าเก่งจริงได้อย่างปากกับมือที่พิมพ์ เค้าคงมาเชิญเป็น รมต. หรือ ประธานบอร์ดแล้วมั้ง ถ้ายังมัวแต่มันปากกับมือพิมพ์ ไม่ได้ตาดูสมองคิดซะมั่ง ก็วนเวียนอยู่ที่เดิมไปเหอะ ปล.อยากอ่านสาระเชิญของคุณP_Wut เลยครับ ของผมอยากพิมพ์เฉยๆ กลุ่มปลายทางที่ผมจะสื่อสารไม่เข้าใจที่ผมพิมพ์หรอก เอิ้กๆๆ จากคุณ : Raphin - [ 3 ธ.ค. 50 12:04:35 ]

ความคิดเห็นที่ 161 ฟังแล้วก็ยังงงๆ อ่ะครับ สรุปว่า ราคาตอนนี้ ปตท.ได้กำไรหรือยังครับ??? เรื่องราคาที่ต่างกันอยู่กับตลาดโลกจะส่งผลกระทบในอนาคตผมไม่สนใจครับ เนื่องจาก ถ้าวาดเป็นกราฟของราคาขึ้นมาดูแล้ว ระหว่างการทยอยขึ้นกับขึ้นทีเดียวเมื่อต้องขึ้นแล้ว จากรูปด้านล่างนะครับ - เส้นสีแดง คือ ราคาตลาดโลก - เส้นสีชมภู คือ การขึ้นราคาตามนโยบาย - เส้นสีน้ำเงิน คือ การขึ้นราคาเมื่อถึงตอนจำเป็นจริงๆ เช่น ก๊าซหมดประเทศ จะเห็นว่า จะมีพื้นที่ส่วนต่างของราคาอยู่ ซึ่งตรงนี้แหละ หากราคาปัจจุบัน ณ วันที่ 3 นี้ ปตท.ได้กำไรอยู่แล้วล่ะก็ พื้นที่ส่วนต่างสีฟ้านี่จะเป็นเค้กก้อนโตสำหรับปตท. จะได้กินกันหวานไปเลย เป็นตัวเลขเท่าไหร่นั้น ก็ต้องเอาพื้นที่ตรงนี้ไปคูณกับปริมาณที่ขายไปดู ก็จะรู้ว่าก้อนใหญ่แค่ไหน (ก็คือคำว่าผลพลอยได้ของ พี่ P_WUT ใช่ป่ะครับ ตรงนี้) ซึ่งถามพี่น้องชาวบ้านชาวช่องดูครับ ว่าค่าปลอบปะโลมจิตใจแก้โรคหัวใจช๊อคจากการขึ้นราคาของทีเดียว แพงขนาดนี้เขาจะเลือกอย่างไหนกัน ข้อเสนอแนะ - ถ้าหากขณะนี้ ปตท.มีกำไรอยู่แล้ว แล้วรัฐกลัวประชาชนจะช๊อคเมื่อก๊าซในไทยหมดขึ้นมาจริงๆ ผมขอให้เปลี่ยนจากการขึ้นราคาให้ปตท. มาเป็นการเก็บเงินเข้ากองทุน ด้วยอัตราเดียวกันดีกว่า แล้ววางแผนนำเงินกองทุนเพื่อไปใช้พัฒนาระบบขนส่ง และระบบผลิตไฟฟ้า เพื่อให้ได้ไฟฟ้าราคาถูก เตาแก๊สจะได้เปลี่ยนมาเป็นเตาไฟฟ้าแทน ปล.ผมไม่ค่อยสนใจเรื่องความเป็นไปเท่าไรนัก เพราะผมมองแง่ราคา-กำไร-ขาดทุน อย่างเดียวนะครับ เพราะมันเป็นธุรกิจ จากคุณ : Redrum - [ 3 ธ.ค. 50 21:46:51 ]

ความคิดเห็นที่ 162 "ความคิดเห็นที่ 161   ฟังแล้วก็ยังงงๆ อ่ะครับ สรุปว่า ราคาตอนนี้ ปตท.ได้กำไรหรือยังครับ???" สรุปว่าได้กำไรแล้วครับ ไม่ขาดทุน แต่ส่งออกได้กำไรมากกว่า ผมตอบให้ตรงคำถามแล้วครับ พวกนักวิชาการทั้งหลายไม่ต้องมาตอบ ชักแม่น้ำทั้งห้า นะครับ คนพวกนั้นนะรายได้เยอะเขาเติมน้ำมันครับ เขาไม่ติดแก๊สหรอกครับ  แก๊สจะขึ้นทันทีเป็นลิตรละ 20 บาทเขาก็ไม่เดือดร้อนครับ พวกคนไม่เคยลำบากครับ แก้ไขเมื่อ 03 ธ.ค. 50 23:15:40 จากคุณ : pop35 - [ 3 ธ.ค. 50 22:54:54 ]

ความคิดเห็นที่ 163 ตอบคุณ Redrum ถูกต้องครับ กราฟของคุณถูกต้อง ยกเว้น  ราคาสุดท้าย มันจะไม่มีวันปีนขึ้นไปถึงเพดาน (ราคาตลาดโลก) เพราะมีราคาหน้าโรงแยกก๊าซ ร่วมคำนวณอยู่ในสัดส่วน 60% อย่างที่ผมบอกไปว่า สูตรราคานี้ ไม่สามารถใช้แก้ปัญหา ไม่ต้องนำเข้า LPG ได้ ถ้าถึงวันนั้น  ก็คอยดูกันว่า รัฐจะทำยังไง (ราคาขายในประเทศ สมมติ 480US$ แต่ราคานำเข้า 720 US$)  ใครจะรับภาระส่วนต่างตรงนี้? จากคุณ : P_Wut - [ 4 ธ.ค. 50 16:43:45 ]

ความคิดเห็นที่ 164 ปัญหาทั้งหมดมาจากการที่ ปตท กลายสภาพเป็นบริษัทค้ากำไรเต็มตัว ถ้ายังเป็นรัฐวิสาหกิจเช่นเดิม แรงจูงใจในการค้ากำไรเกินควรกับประชาชนชาวไทยก็จะไม่สูงขนาดนี้ ผมอยากให้ศาลสั่งยึดกลับมา หรือซื้อในราคาพาร์ แล้วจับพวกร่วมขบวนการมาตัดหัวทิ้ง สะจายยยยย จากคุณ : น้าติ่ง - [ 6 ธ.ค. 50 18:38:32 A:124.121.38.246 X: TicketID:099606 ]

ความคิดเห็นที่ 165 คุณน้าติ่ง  ลองไปหาข้อมูลให้ดีๆ  ให้ถี่ถ้วนก่อนเถอะครับ   ในประวัติศาตร์ที่ผ่านมา  ความ "ไม่รู้"  และ "ความสะใจ"  สร้างความล่มจมให้กับชาติมามากต่อมากแล้ว    อย่าให้ชาติไทยต้องบอบช้ำ  เพียงเพราะว่า   "ไม่รู้ว่าข้อมูลจริงๆ มันเป็นอย่างไร  ก็เลยหลงผิดไป"    เลยครับ จากคุณ : sunsetbeach - [ 7 ธ.ค. 50 08:54:18 ]