ความคิดเห็นที่ 1 -  เพราะมีคนได้รับประโยชน์อยู่เพียงไม่กี่คน การแปรรูป ปตท.จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งยังทำให้ผู้บริหาร ปตท. และผู้ถือหุ้นมีกำไรมหาศาล แต่เงินกลับไปเข้ากระเป๋าเอกชน และกลุ่มทุนธุรกิจการเมือง ทั้งที่ ปตท.เป็นสมบัติ ของชาติ ที่สำคัญหลังการแปรรูป ปตท.ยังมุ่งแสวงหากำไรเพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นเป็นหลัก แทนที่จะมุ่งเน้นผลประโยชน์กลับคืนสังคม ในรายงานของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยระบุว่า การเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป ได้ดำเนินการตามกระบวนการที่ถูกต้อง โปร่งใส และเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ และกฎระเบียบของ ก.ล.ต.ซึ่งผ่านการตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยแล้วจากสำนักงาน ก.ล.ต. ไม่ได้เป็นไปเพื่อเอื้อประโยชน์กับกลุ่มใด ขณะที่การกระจายหุ้นเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ของตลาดหลักทรัพย์ และแนวปฏิบัติที่เป็นสากล ซึ่งต้องจองซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายที่เป็นธนาคาร หรือนายหน้าค้าหลักทรัพย์ ส่วนสนนราคาที่เสนอขายก็อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจในช่วงนั้น ซึ่งดัชนีหุ้น (SET Index) อยู่ที่ 305 จุด พิสูจน์ ได้จากราคาหุ้นที่ขึ้นลงในระดับใกล้เคียงกับราคาที่เสนอขาย (หุ้นละ 35 บาท) อยู่นานถึง 9 เดือน นับตั้งแต่วันที่เปิดให้มีการซื้อขาย ในวันที่ 6 ธ.ค. 2544 จนถึงเดือน ก.ย. 2545 โดยราคาลดลงไปอยู่ ในระดับต่ำสุดที่ 29 บาท ณ วันที่ 30 เม.ย. 2544 ถ้านักลงทุน หรือประชาชนทั่วไปที่จองซื้อไม่ได้ มี ความต้องการจะลงทุนในหุ้น ปตท.ก็สามารถเข้าไปซื้อ ในตลาดได้ในราคาที่ต่ำกว่าราคาจอง สำหรับการเสนอขายหุ้น ปตท.ดังกล่าว เป็นการนำหุ้นในส่วนของการเพิ่มทุนหลังการจัดตั้งเป็นบริษัท มาเสนอขายต่อประชาชน มิใช่เป็นการนำทรัพย์สินเดิมของ ปตท.ออกขายแต่อย่างใด ในขณะที่ ปตท.ยังคงมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจตาม พ.ร.บ. วิธีการงบ ประมาณ ซึ่งรัฐโดยกระทรวงการคลังถือหุ้นทางตรงอยู่ 52% และถ้ารวมกองทุนที่รัฐถือทางอ้อม เช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และกองทุนวายุภักษ์ด้วย ผู้ถือหุ้นใหญ่ ยังคงเป็นรัฐ 68% ถ้านับเอาการลงทุนผ่านกองทุน และสถาบันการลงทุนในประเทศของคนไทยอีกกว่า 11 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 12% ก็คงจะเห็นว่า คนไทยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน ปตท.อยู่ถึง 80% ปตท.จึงไม่ใช่เป็นของกลุ่มบุคคลใด หรือเอื้อประโยชน์แก่ใครเป็นการเฉพาะ หากแต่ยังคงเป็นสมบัติของชาติที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามมูลค่ารวมตลาดหลักทรัพย์ (Merget Cap) จากคุณ : sunsetbeach - [ วันรัฐธรรมนูญ 16:44:20 ]

ความคิดเห็นที่ 2 -  เหตุใดราคาพลังงานทั้งน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) จึงแพงขึ้นหลังการแปรรูป ทั้งๆที่ก๊าซธรรมชาติ และแอลพีจี มีแหล่งผลิตในประเทศไทย ส่วนการขึ้นราคาน้ำมันก็ทำให้ ปตท.มีกำไรเป็นจำนวนมหาศาล ในแต่ละปี โดยข้อเท็จจริงแล้ว ทั้งราคาน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และก๊าซหุงต้ม ต้องผูกติดอยู่กับกลไกราคาในตลาดโลก เพราะประเทศไทยต้องนำเข้าน้ำมันดิบวันละกว่า 700,000 บาร์เรล เนื่องจากไม่มีแหล่งน้ำมันดิบในประเทศ ส่วนที่บางประเทศ เช่น มาเลเซีย มีราคาน้ำมันถูกกว่าไทย ก็เพราะมาเลเซียมีแหล่งน้ำมันดิบในประเทศตนเอง แถมยังมีรายได้จากการส่งออกน้ำมันมาช่วยอุดหนุนราคาขายปลีกในประเทศให้ สำหรับประเทศไทย ราคาจำหน่ายน้ำมันทุกลิตร จะถูกบวกภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ภาษีเทศบาล ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีอนุรักษ์พลังงาน และการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง รวมกันประมาณ 10 บาทต่อลิตร แม้ว่าราคาขายปลีกหน้าโรงกลั่นจะอยู่ที่ประมาณ 19 บาท ต่อลิตรก็ตามที แต่หากรวมภาษีสังคมต่างๆเหล่านี้แล้ว ราคาหน้าปั๊มก็จะเป็นอย่างที่เห็น ส่วนก๊าซธรรมชาติ แม้จะมีแหล่งก๊าซ ในอ่าวไทย แต่ไทยไม่สามารถกำหนดราคาได้เอง เพราะตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ไทยยังไม่มีศักยภาพในการขุดเจาะ จึงต้องพึ่งพานักลงทุนจากต่างชาติ ที่แต่ละหลุมต้องใช้เงินลงทุนหลายพันล้านบาท โดยบริษัท ยูโนแคล จำกัด และบริษัท เชฟรอน จำกัด ในฐานะผู้ขุดเจาะหลักในไทย คือ ผู้ทำหน้าที่เจรจากับรัฐบาลไทย ในการอ้างอิงสูตรราคา โดย ปตท.ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ และเป็นเพียงผู้รับซื้อหน้าปากหลุมเท่านั้น แม้ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ปตท.สผ.จะเป็นผู้นำร่องสำรวจขุดเจาะก๊าซธรรมชาติ แต่ก็ยังต้องแข่งขันประมูลสัมปทานแหล่งก๊าซธรรมชาติกับนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งจนถึงปัจจุบันก็มีสัดส่วนในสัมปทานก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยไม่ถึง 30% ของสัมปทานทั้งหมด เช่นเดียวกับก๊าซหุงต้มที่ต้องขึ้นอยู่กับราคาตลาดโลกซึ่งสูงกว่าราคาในประเทศ แต่เนื่องจากรัฐบาลได้อุดหนุนราคาก๊าซหุงต้มมาโดยตลอด ทำให้ผู้บริโภคใช้ก๊าซหุงต้มในราคาที่ถูกมาก โดยเฉพาะเมื่อมีการนำเงินจากผู้ใช้น้ำมันมาชดเชยให้กับผู้ใช้ก๊าซหุงต้ม จนส่งผลให้มีการนำไปใช้งานผิดประเภท เช่น ไปใช้ในรถแท็กซี่ รถยนต์บ้าน ขณะที่โรงงานอุตสาหกรรมต่างก็หันมาใช้ก๊าซหุงต้มเพิ่มขึ้นจนถึงปัจจุบัน รัฐบาลจำต้องทยอยลดการอุดหนุนอันเป็นภาระรายจ่ายของ ภาครัฐลง ด้วยการปล่อยราคาลอยตัวในสิ้นปี 2551 จากคุณ : sunsetbeach - [ วันรัฐธรรมนูญ 16:44:36 ]

ความคิดเห็นที่ 3 -  กำไรจากการแปรรูป ปตท.ถูกนำไปใช้อย่างไร เพราะหลังการแปรรูป ปตท.ยังมุ่งแสวงหาแต่กำไรเพื่อ ตอบแทนผู้ถือหุ้นเป็นหลัก แทนที่จะมุ่งเน้นผลประโยชน์ กลับคืนสังคม จากนี้ไปจนถึง 5 ปีข้างหน้า ปตท. จะสามารถส่งเงินรายได้เข้า รัฐประมาณ 300,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการที่ ปตท.ระดมทุนได้มาจากผู้ถือหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ และกำไรจากผลประกอบการของกลุ่มบริษัทในเครือซึ่งได้นำมาขยายกิจการรวมกันได้กว่า 600,000 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากการที่ ปตท.ได้เข้าไปพลิกฟื้นกิจการของบริษัทลูกที่ประสบปัญหาหนี้สินจากการลงทุน และการขาดสภาพคล่องในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ กระทั่งมีกำไรขึ้นมา เช่น โรงกลั่นไทยออยล์ และโรงกลั่นระยอง ตลอดจนถึงกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีในเครือ ทั้งนี้ กำไรของ ปตท.มาจากหลายช่องทาง โดยส่วนใหญ่มาจากธุรกิจปิโตรเคมี ก๊าซธรรมชาติ ส่วนธุรกิจน้ำมัน ประสบความขาดทุนเกือบทุกปี หรือปีละประมาณ 4,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันตลาดโลกผันผวน และปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก ขณะที่ ปตท.ต้องช่วยรับภาระแทนประชาชน ด้วยการชะลอการปรับขึ้นราคา เห็นได้จากผลประกอบการปี 2549 ที่ ปตท.มีกำไร 95,261 ล้านบาท เป็นกำไรที่มาจากการทำธุรกิจ ปตท.โดยตรง 38% หรือประมาณ 36,199 ล้านบาท อีก 62% หรือ 59,061 ล้านบาท มาจากบริษัทลูก และบริษัทที่ปตท.ไปร่วมลงทุน ในปี 2549 ปตท.ได้ใช้เม็ดเงินกว่า 26,000 ล้านบาท ที่มาจากผลกำไร เพื่อช่วยผ่อนภาระของประชาชน ทั้งทางตรง และทางอ้อม โดยการตรึงราคาขายปลีกน้ำมัน 4,000 ล้านบาท รวมทั้งการชดเชยราคาก๊าซหุงต้มแก่ประชาชนประมาณ 20,000 ล้านบาท ชดเชยราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ (เอ็นจีวี) อีกประมาณ 2,000 ล้านบาท ปีเดียวกัน ปตท.ยังได้นำส่งเงินรายได้เข้ารัฐ ผ่านภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินปันผล รวม 58,894 ล้านบาท ส่วนในรอบ 9 เดือนแรกของปีนี้ ปทต.ได้ส่งเงินเข้ารัฐไปแล้ว 51,467 ล้านบาท ถ้าคิดเป็นเงินนำส่งเข้ารัฐตั้งแต่ปี 2545 จนถึงปัจจุบัน ปตท.ได้นำเงินส่งเข้ารัฐแล้ว 140,000 ล้านบาท จากที่ก่อนการแปรรูป ปตท.สามารถนำเงินส่งเข้ารัฐได้เพียงปีละ 7,000-10,000 ล้านบาทเท่านั้น จากคุณ : sunsetbeach - [ วันรัฐธรรมนูญ 16:44:49 ]

ความคิดเห็นที่ 4 -  ทำไมการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ไม่ได้ รับผลกระทบทางธุรกิจเมื่อศาลปกครองสั่งเพิกถอนแผน การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แต่ตรงกันข้าม ปตท. กลับจะมีผลกระทบสูงมากหากถูกเพิกถอนออกจากตลาด หลักทรัพย์ ธุรกิจของ ปตท.แตกต่างไปจาก กฟผ. เนื่องจาก กฟผ.ทำธุรกิจ แบบผูกขาดเพียงรายเดียว ส่วน ปตท. ทำธุรกิจที่มีการแข่งขันเสรี เกือบทุกกิจการมีการแข่งขันกับเอกชนในธุรกิจประเภทเดียวกัน รวมทั้งเป็นการทำธุรกิจที่เชื่อมโยงกันตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง มีความหลากหลาย เกี่ยวข้องกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจำนวนมาก การแปรรูปของทั้ง 2 องค์กร จึงไม่อาจนำมาเปรียบเทียบกันได้ เนื่องจากขั้นตอนการดำเนินการมีความแตกต่างกัน ลักษณะการทำธุรกิจก็แตกต่างกัน แม้การแปรรูปจะต้องดำเนินการภายใต้ข้อกำหนดเดียวกันใน พ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจ ก็ตาม ขณะเดียวกัน การแปรรูปของ ปตท.ในประเด็นของคณะกรรมการที่ดำเนินการแปลงสภาพจากรัฐวิสาหกิจไปเป็นบริษัท จำกัด (มหาชน) ก็มีคุณสมบัติถูกต้องตามข้อกำหนดของกฎหมาย แม้มีการร้องเรียนในภายหลังว่ามีคุณสมบัติขัดกับข้อกำหนด แต่หลังจากตรวจสอบ ก็พบว่าคุณสมบัติของคณะกรรมการที่มาดำเนินการเรื่องนี้ของ ปตท.ไม่ขัดต่อเงื่อนไขแต่อย่างใด ต่างจากกรณีของ กฟผ.ที่คณะกรรมการบางคนมีคุณสมบัติขัดต่อเงื่อนไขของกฎหมาย ขณะที่ขั้นตอนการทำประชาพิจารณ์ขาดการรับฟังความเห็นจากประชาชนฝ่ายต่างๆอย่างตรงไปตรงมา แม้จะทำประชาพิจารณ์ถึง 4 ครั้ง แต่ก็ขาดการรับฟังความเห็นเบื้องต้น ก่อนการ ทำประชาพิจารณ์ทุกครั้ง จึงเป็นเหตุให้ศาลปกครองสูงสุด พิพากษาว่า เป็นการแปรรูปผิดขั้นตอน มีผลให้ กฟผ.ต้องระงับการกระจายหุ้น และกลับคืนสู่สถานภาพการเป็นรัฐวิสาหกิจดังเดิม เมื่อไม่ได้กระจายหุ้นในตลาดหลัก ทรัพย์ จึงไม่มีผู้ถือหุ้นรายใดได้รับผลกระทบจาก กฟผ. แต่ในกรณีของ ปตท. ซึ่งได้มีการกระจายหุ้นใน ตลาดหลักทรัพย์แล้ว ผลกระทบจึงมีสูง และไม่ได้จำกัดอยู่แต่เฉพาะผู้ลงทุนจำนวน 700,000-800,000 บัญชีเท่านั้น หากแต่ยังกระทบถึงนักลงทุนรายย่อยที่ลงทุนผ่านกองทุนต่างๆในประเทศอีกถึง 11 ล้านคน สำหรับข้อถกเถียงเรื่องการรอนสิทธิ์ในที่ดินเพื่อการวางท่อก๊าซธรรมชาติ ซึ่งจะหมดไปเมื่อ ปตท.ไม่มีสภาพเป็นรัฐ วิสาหกิจ ขณะนี้กฎหมายให้ ปตท.สามารถขอรอนสิทธิ์จากคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการพลังงานเป็นผู้อนุมัติได้ จากเดิมที่ ปตท.ทำหน้าที่ในการบริหารจัดการอยู่ จากคุณ : sunsetbeach - [ วันรัฐธรรมนูญ 16:45:05 ]

ความคิดเห็นที่ 5 -  บมจ.ปตท.ควรอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ต่อไป หรือควร ให้รัฐบาลซื้อคืน หากต้องการเอา ปตท.กลับไปเป็นรัฐวิสาหกิจที่รัฐถือหุ้น 100% สิ่งแรกที่รัฐบาลต้องทำคือ ระดมเงินทุนกว่า 472,150 ล้านบาทเพื่อซื้อหุ้นที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์คืน เพราะ ปตท.มีทุนจดทะเบียนทั้งหมด 2,816 ล้านหุ้น กระทรวงการคลังถืออยู่ 1,467 ล้านหุ้น คิดเป็น 52.17% จึงเหลือจำนวนหุ้นที่รัฐบาลต้องใช้เงินเพื่อตั้งโต๊ะรับซื้อคืน 47.83% หรือ 1,349 ล้านหุ้น ซึ่งหากคำนวณจากราคาหุ้น ปตท.ที่ปิด ณ วันที่ 7 ธ.ค.2550 ที่ 356 บาท ก็ต้องใช้เงินกว่า 472,150 ล้านบาท ในการซื้อหุ้นกลับมาเป็นของรัฐบาล จึงเกิดคำถามว่า รัฐบาลจะหาเงินจำนวนมากดังกล่าวมาจากไหน และในภาวะที่ประเทศไทยยังต้องการใช้เงินทุนเพื่อการพัฒนาในหลายด้าน โดยเฉพาะในการลงทุนโครงการขนาดใหญ่อย่างรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน แต่รัฐกลับต้องนำเงินจำนวนมากไปซื้อหุ้น ปตท.คืน นอกจากจะเป็นการเสียโอกาสในการพัฒนาประเทศด้านอื่นๆไปแล้ว ยังไม่มีเหตุผลว่า จะเอา ปตท.กลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจเพื่ออะไร ในขณะที่ ปตท.ได้ชื่อว่ามีการบริหารจัดการที่ดีที่สุด มีความสามารถในการทำกำไรได้สูงสุด ขณะเดียวกันยังสามารถเกื้อหนุนกิจกรรมสังคมได้อย่างเต็มที่ ทั้งยังเป็นกิจการที่สามารถคานอำนาจ และแรง กดดันจากธุรกิจน้ำมันข้ามชาติได้เป็นอย่างดี สำหรับการให้รัฐซื้อคืนในราคาเดิมที่เสนอขายครั้งแรกหุ้นละ 35 บาท ก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะนักลงทุนทั่วโลกจะมองประเทศไทยเหมือนเด็กเล่นขายของ จะเลยเถิดไปจนถึงขั้นเลิกทำการค้ากับประเทศไทยเพราะขาดความน่าเชื่อถือ เพราะหุ้น ปตท.ในปัจจุบันนักลงทุนได้เปลี่ยนมือกันมาหลายรอบแล้ว และต้นทุนราคาในตลาดหลักทรัพย์ก็เปลี่ยนไปเป็นหุ้นละ 356 บาทแล้ว ที่สำคัญก็คือ หุ้นในกลุ่ม ปตท. ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดรวมสูงถึง 2.18 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 33.51% ของมูลค่ารวมของตลาด หากต้องถูกเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทยจะหมดลงในฉับพลัน ถึงเวลานั้น เงินทุนจะไหลออกจากประเทศไทยอย่างรวดเร็ว เพราะสับสนในความไม่แน่นอน และหันไปลงทุนใน ตลาดหุ้นประเทศอื่นแทน เมื่อไม่มีเงินลงทุนในประเทศไทย ก็จะทำให้อัตราการเจริญเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ลดลง ประเทศไทยจะมีสถานะที่เรียกได้ว่า ล้มทั้งยืนในทันที!! ในขณะที่ ปตท.ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นบริษัทข้ามชาติไปแล้ว จะขาดความคล่องตัวในการดำเนินงาน และขยายกิจการ จากเดิมที่ สามารถระดมเงินทุนจากตลาดหลักทรัพย์ได้ ก็จะต้องเปลี่ยนไปกู้เงินมาลงทุนแทน ส่งผลให้ประเทศมีหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นไปอีก. จากคุณ : sunsetbeach - [ วันรัฐธรรมนูญ 16:45:21 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มีปัญญาหาเงินไปซื้อคืนมั้ยล่ะ แล้วถ้าซื้อคืนมาแล้ว - ราคาน้ำมันจะถูกลงจริงหรือ - ราคาก๊าซหุงต้มจะคงตัวอยู่จริงหรือ - ราคาน้ำมันที่ขายในประเทศจะสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงหรือไม่ - ปตท. จะรับใช้ประชาชนหรือนักการเมืองกันแน่ - ปตท. จะตกเป็นเหยื่อการเมืองไปอีกนานเท่าใด? จากคุณ : Steeringwheel Father - [ วันรัฐธรรมนูญ 17:26:43 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่ต้องซื้อคืนหรอกครับ แค่ผู้ถือหุ้นใหญ่ หรือรัฐบาล ประกาศไม่ปันผลกำไรต่อเนื่องนาน 10 ปี ราคาหุ้นก็จะตกและรัฐมีราคารับซื้อที่เหมาะสมเอง สำคัญสุดคือการคัดสรรผู้บริหารที่เข้ามาทำหน้าที่เพื่อนผลประโยชน์ของประเทศของประชาชน มิใช่ผลกำไร จากคุณ : wholehearted - [ วันรัฐธรรมนูญ 17:47:49 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ต้องถาม บ้านเลขที่ 111  ที่มีหุ้นใหญ่ๆในนั้นหลายๆ คนว่า พร้อมจะเสียสละขายคืนเพื่อชาติ หรือไม่   ....พิสูจน์ไปเลยว่า รักชาติ อย่างที่เคยพูดไว้หรือเปล่า....ลุ้นๆๆ .... เห็นด้วยครับ...แต่ เขาคงไม่ขายหรอก กำไร งามอย่างงี้....เอ่...แต่ ชุดที่แล้วขาย ปตท. ผมจำเหตุผลไม่ได้แล้วว่า ขายทำไม มีใคร จำได้บ้างช่วยบอกเล่าเก้าสิบให้ฟังด้วย จากคุณ : songyot001 - [ วันรัฐธรรมนูญ 17:49:36 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เอา ปตท ออกจากตลาดหุ้น มันจะกระเพื่อมไปทั้งตลาดนะเราว่า คงต้องแก้กับปัญหาโดยวิธีอื่น ที่ธรรมาภิบาลมากกว่านิ จากคุณ : น้องปลาดาว - [ วันรัฐธรรมนูญ 18:45:53 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ความคิดเห็นที่ 8   ต้องถาม บ้านเลขที่ 111  ที่มีหุ้นใหญ่ๆในนั้นหลายๆ คนว่า พร้อมจะเสียสละขายคืนเพื่อชาติ หรือไม่   ....พิสูจน์ไปเลยว่า รักชาติ อย่างที่เคยพูดไว้หรือเปล่า....ลุ้นๆๆ .... เห็นด้วยครับ...แต่ เขาคงไม่ขายหรอก กำไร งามอย่างงี้....เอ่...แต่ ชุดที่แล้วขาย ปตท. ผมจำเหตุผลไม่ได้แล้วว่า ขายทำไม มีใคร จำได้บ้างช่วยบอกเล่าเก้าสิบให้ฟังด้วย จากคุณ : songyot001  - [ วันรัฐธรรมนูญ 17:49:36 ] โทษเถอะพี่คิดนิดนึงเถอะครับ ถ้าพี่มีหุ้นราคาพาร์ 35 ตอนนั้น แล้วตอนนี้ราคามันวิ่งไปที่ 356 เป็นพี่พี่จะขายคืนในราคาพาร์เพื่อชาติมั้ยครับ สมมุติว่าพี่มีอยู่ซักแค่ แสนหุ้นอ่ะ  แต่ผมว่าพี่ทำแน่เลย เพราะพี่เป็นคนดีใช่มั้ยคับ 555 บางคนเน๊าะ สักแต่ว่าได้แขวะ 555 แต่สมองคิดไม่เป็น อ่านความเห็นที่ 6 แล้วหัดคิดหัดคำนวณบ้าง สมองจะได้ทำงานกับเค้าบ้าง จากคุณ : น้องรถถัง - [ วันรัฐธรรมนูญ 19:01:13 ]

ความคิดเห็นที่ 11 หลายๆคนที่มีหุ้นตอนพาร์ ถ้าเป็นนักการเมือง หรือนักลงทุน ส่วนมาก 99.99% ขายทิ้งไปตอน400+ แล้วทั้งนั้น  ไม่มีใครมากอดไว้หรอก นอกจาก VI ตัวจริงที่มีน้อยกว่าน้อย ปัญหาคือ สื่อเมืองไทยที่ชอบลงอ้างเหตุผลอย่างเลิศหรูเนี่ย ทำการบ้านจริงๆกี่สือกัน  ส่วนมาก คือไปอ้าปากรอน้ำลายคนอยากพูด  ซึ่งคนอยากพูดก็มีตั้งแต่นักวิชาการที่ไม่เคยแม้แต่จะทำให้ตัวเองอยู่ได้อย่างพอเพียง จนถึงพวกนักวิชาการรับจ้างพูดตามใบสั่ง คนที่อยากให้ ปตท.ออกมาจากตลาดเนี่ย ขอร้องว่าไปศึกษาดูให้ดีๆ ถึงผลเสียนะครับ  รับประกันว่า สะเทือนทุกชนชั้นครับ ไม่ว่าคุณจะเล่นหุ้นหรือไม่เล่น  ปตท. ณ.วันนี้แทบจะเป็นตัวแทนของตลาดหุ้นไทย คือ ปตท.ราคาขึ้น หุ้นขึ้น ปตท.ราคาตก หุ้นตก  เวลาขึ้นก็เกิดผลจิตวิทยาให้หุ้นอื่นๆขึ้นตาม  เวลาตก ก็เกิดผลจิตวิทยาให้หุ้นตัวอื่นตกตามเหมือนกัน แต่ที่ผ่านมา เวลาขึ้นหรือตก ไม่มากหรอก เพราะเป็นรูปแบบการปรับเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุนมากกว่า   แต่ถ้าไปทำท่าว่าจะเอาออกจากตลาด กองทุนต่างชาติ และกองทุนไทย ทุกกองไม่เททิ้งได้เหรอ  คนบริหารกองถ้าไม่ทำเพื่อผลประโยชน์กองทุน ต้องขึ้นศาลนะครับ(คลังถือ52%)  ในนั้นก็มี กบข วายุภักด์ และ ประกันสังคม รวมกันประมาณ 20% อยู่ด้วยนะครับ  แล้วอย่ามาร้องว่าหนูไม่รู้ว่าเชียร์ผิดข้างนะครับ เอาสัดส่วนการถือหุ้นมาให้ดูอีกรอบ http://www.set.or.th/set/companyinfo.do?type=holder&symbol=PTT&language=th&country=TH หน้านี้ ถ้าให้ผมดูคือฝรั่งถืออยู่ประมาณ 12.95% และมีหลายชาติเชี่ยวหละ  ถ้าเราจะทำเค้าขาดทุน ก็คงต้องเตรียมคำตอบดีๆนะครับ  เอาที่เค้าฟังแล้วไม่เล่นเรากลับเรื่องกำแพงภาษี หรือการค้าอื่นๆ นะครับ จากคุณ : แมวน้ำขี้เซา - [ วันรัฐธรรมนูญ 19:28:57 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ถามว่าผู้ที่ซื้อตอนราคาพาร์ ยังถือกันอยู่หรือไม่ เชื่อได้เลยว่าเปลี่ยนมือกันหมดแล้ว ปตท เดินมาไกลแล้ว  อย่าทำอะไรด้วยความสะใจ เพราะต่อไปคงไม่มีใครเชื่อถือคนไทยอีก แล้วใครจะกล้ามาลงทุนทำธุรกิจในไทยอีก จากคุณ : chitt1234 - [ วันรัฐธรรมนูญ 20:17:22 ]

ความคิดเห็นที่ 13 http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I6114086/I6114086.html#15 จากคุณ : แมวน้ำขี้เซา - [ วันรัฐธรรมนูญ 20:24:47 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่ต้องซื้อคืนหรอก เพียงแต่ขาดทุนกำไรให้น้อยลงนิดนึงก็พอ ก่อนที่ชาวบ้านจะไม่มีกินจริงๆ จากคุณ : อาชาสีหมอก_offer - [ วันรัฐธรรมนูญ 21:24:52 ]

ความคิดเห็นที่ 15 แคร์แต่นักลงทุฯต่างชาติ พยายามหัดหายใจด้วยตัวเองเป็นบ้าง วันใดพวกต่างชาติรวมตัวถอนแล้วไม่ตายทั้งประเทศเหรอว๊ะเนี๊ยะ จากคุณ : แมวมอง (tee4858) - [ วันรัฐธรรมนูญ 21:27:04 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ประกาศไม่ปันผลล่วงหน้าไปเลยครับ 10 ปี อีก 10ปีก็กำหนดใหม่ ใครเก็บหุ้นไว้ก็ต้องคายออกมาให้หมด สมน้ำหน้าพวกนักลงทุน เห็นสมบัติชาติเข้าตลาดก็หิวผลประโยชน์ไม่แพ้นักการเมืองเลวๆ การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรตัดสินใจก่อนเข้าลงทุน จากคุณ : คุณหน่อง - [ วันรัฐธรรมนูญ 21:44:31 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ใครจะรวยกับการถือหุ้นก็ช่างเขาเหอะอย่าไปอิจฉาเขาเลย รัฐบาลไม่ได้ชักเนื้อเข้าไปอุ้มเหมือน รัฐวิสาหกิจอื่นๆ คุณแน่ใจได้อย่างไรว่า เอาออกมาเป็นรัฐวิสาหกิจแล้ว มันจะได้กำไรงาม สหภาพ บร์อด ไม่เอาโบนัส ไม่โกงไม่กินสูบๆๆๆ แน่ใจหรือ คุณแน่ใจหรือไม่ว่า การไฟฟ้าปัจจุบันนี้ไม่มีการโกงกินเลย(อย่าบอกว่ามันก็โกงกินทั้งนั้น)คุณคิดหรือไม่ว่ากำไรจากการไฟฟ้ามันควรจะเท่านี้หรือมากกว่านี้ตรวจสอบได้ไหม ใครเป็นคนตรวจสอบ การรถไฟ ขส.มก.ขาดทุนทุกปี แน่ใจหรือไม่ว่าไม่โกงกิน จะให้เอกชนมาสร้างก็ไม่ให้ กลัวไม่ได้กินหรือไง บริหารขาดทุนทุกปี แต่มีคนอยากมาบริหาร  เวรกรรมประเทศไทย จากคุณ : จ่าแห้ว - [ วันรัฐธรรมนูญ 22:44:04 ]

ความคิดเห็นที่ 18 หึ หึ พวกพ้องเค้าเยอะจริงๆ จากคุณ : artah - [ 11 ธ.ค. 50 08:32:27 ]

ความคิดเห็นที่ 19 .. ยังไม่เลิกกันอีก เรื่อง แบบนี้ รุ้จักไหมคำว่า ประหยัดใช้รถเท่าที่จำเป็น .. จากคุณ : ZANIKU - [ 11 ธ.ค. 50 09:12:19 ]

ความคิดเห็นที่ 20 PETROMENA = Indonesia state enterprise / government running PETRONAS = Malasia state enterprise / government running EXXON-MOBIL-CHEVRON-CALTEX-UNOCAL 76-PHILLIP CONOCO all belonging to " THE ROCKY FELLER ", in proxy nominees as per U.S anti trust laws !!!!! PTT = Thai an independent private enterprise which a little portion stock hold by Thai government, but all major stock holders belong to certain group of money hungriest........P, S, SYJ,PSB and a whole gang of those crook that sucking of our nation blood !!!!!................scary us ................................................feel sorry to our poor patriot. จากคุณ : air crew - [ 11 ธ.ค. 50 09:13:49 A:124.121.4.149 X: TicketID:157474 ]

ความคิดเห็นที่ 21 พวกที่โพสบางคนนี่อ่านดูก็รู้ว่าไม่ได้อ่านที่ จขกท.มาโพสเลย หรืออ่านแล้วแต่ใช้หัวแม่โป้งเท้าแปลผล ไอ้การตอบแค่ว่าไม่ปันผลน่ะ ผมมองว่ามันก็แค่พวกขี้อิจฉาคนที่เค้ามีเงินเท่านั้นแหละ คิดแต่ว่าชีวิตกรูบัดซบ ไม่มีเงินจะจ่ายค่าน้ำมันอยู่แล้ว ทำไมคนอีกกลุ่มถึงมีเงินหว่า ไม่ได้ๆ ต้องลดราคา ห้ามลอยตัวนะ กรูจะได้ใช้เหมือนเดิม ไม่ต้องประหยัดมันหรอก กรูมีเหตุผลต้องใช้อ่ะ แต่พวกนี้ เนื่องจากไม่ได้เอาสมองมาคิด จึงลืมมองมุมกลับว่าทำไม คนกลุ่มหนึ่งถึงไปจุดเหล่านั้นได้ ตอนเด็กๆเค้าทำอะไร เค้าพยายามเรียนหนังสือแค่ไหน จบอะไรมา ขณะที่ไอ้คนด่าน่ะ วันๆทำอะไรบ้าง ถ้าเงยหน้ามองคนสูงๆแล้วพยายามปีนน่ะน่าชื่นชม แต่มองที่สูงแล้วพยายามฉุดให้ลงมาคลุกดินกับตัวเองน่ะ น่าสมเพช ถ้าใครไม่ได้เป็นอย่างที่ว่าก็ขอโทษด้วยครับ แต่อ่านมาหลายกระทู้มีแต่คนพูดแต่เรื่อง "เงิน" คนโน้นได้เยอะ เราได้น้อย แต่ช่วยศึกษารายละเอียดนิดนึงก็ดีนะ เหตุผลมากมายที่ จขกท. นำเสนอน่ะเข้าใจได้ง่ายๆนะ ทำใจเป็นกลางอ่านแล้วคิดก่อนตอบนะ พวกด่าเอามัน ไม่มีเหตุผลมาสนับสนุนแม้กระทั่งความคิดตัวเองน่ะ เชิญไปบอร์ดประมูลเลยดีกว่า สะใจกว่าเยอะ จากคุณ : Raphin - [ 11 ธ.ค. 50 11:30:51 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อยากฝากอะไรอีกสักนิด เป็นข้อคิดให้พวก Anti-ปตท. ได้อ่านสักหน่อย รัฐวิสาหกิจในประเทศไทย มีมาตั้งแต่ พ.ศ. ไหน ผมจำไม่ได้แล้ว รู้แต่ว่า คงไม่ต่ำกว่า 30-40 ปีแน่นอน (ก่อนผมจะเกิด) เคยเห็นรัฐวิสาหกิจไหน เจริญรุ่งเรือง ทำงานมีประสิทธิภาพสูง ราคาขายของต่ำ ต้นทุนการดำเนินงานต่ำสุดๆ กำไรเยอะๆ ส่งเข้ารัฐ - การไฟฟ้าฝ่ายผลิต เหรอ?? ตราบใดก็ตาม ที่จะมีการประกาศให้เอกชนประมูลก่อสร้างโรงไฟฟ้า แล้วขายไฟให้รัฐ  แล้วมีนักลงทุนยังสนใจประมูลแข่งกัน  นั่นเป็นข้อมูลทางอ้อมอย่างนึงที่บอกว่า  ราคาขายของไฟฟ้าที่ยังขายกันทุกวันนี้  ยังมีกำไรมากเพียงพอ จนคุ้มค่าต่อการลงทุน  นักลงทุนยังอยากกู้เงินมาลงทุนสร้าง มากกว่าจะเก็บเงินทุนของตัวเองไปเล่นหุ้น หรือไปฝากแบงค์ หรือไปลงทุนด้านอื่นๆ - องค์การโทรศัพท์ เหรอ ผมยังจำได้สมัยเด็กๆ ที่แม่ผมมาบ่นให้ฟัง ว่า ไปขอโทรศัพท์นานหลายปีแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ แถมตอนจะได้ ยังต้องจ่ายค่าอะไรก็ไม่รู้อีก 8,000 บาท นัยว่า เป็นใต้โต๊ะให้เจ้าหน้าที่ที่ทำเรื่องขอเบอร์ให้ ตั้งแต่เปิดสัมปทานให้ TA , TT&T ให้บริการโทรศัพท์พื้นฐานมาแข่งขันได้  หลังจากนั้น เรื่องนี้ก็หมดไป  บ้านใครอยู่ในพื้นที่ที่ 2 รายนี้ให้บริการ ขอโทรศัพท์กันไม่ถึงเดือน ก็ได้กันแล้ว ถ้าไม่มีสัมปทานโทรศัพท์มือถือ ทั้ง AIS  , DTAC , TRUE , HUTCH  ไม่รู้ว่า จนป่านนี้ เรายังต้องจ่ายค่าโทรศัพท์ทางไกล นาทีละ 9 บาทขึ้นไปอยู่อีกหรือเปล่า - ยังมีหน่วยงานไหนอีก ที่ควรพูดถึง ในแง่ของความเจริญรุ่งเรืองของการบริหารรัฐวิสาหกิจ??? - ยังไม่ได้พูดถึง พวกที่มันเจ๊งไปแล้ว หรือ จะเจ๊งไม่เจ๊งแหล่เลย ทั้ง รสพ. หรือ ขสมก. การรถไฟ ฯลฯ จากคุณ : P_Wut - [ 11 ธ.ค. 50 12:32:28 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คุณ P_Wut บอกไปก็เปล่าประโยชน์ครับ ถ้าใช้แต่อารมณ์กับหัวแม่เท้าอ่านไปก็ไม่เกิดประโยชน์ พวกแอนตี้เรื่องนี้ทำตัวเองลอยเหนือเหตุผลไปแล้ว ใช้แค่ความรู้สึกตัวกรู ของกรู เงินกรูมาตัดสินแทนเหตุผลไปหมดแล้วล่ะ คนเราถ้ามันจะคิดสักหน่อยก็พูดกันรู้เรื่อง แต่ไม่คิดเลยเอาแต่ด่าไปวันๆ พูดไปก็ไม่รู้เรื่อง แต่คนพวกนี้ไม่น่ากลัวในชีวิตจริง เพราะส่วนใหญ่ชีวิตคงไม่ก้าวหน้ากว่านี้เท่าไหร่ เป็นแค่เสียงนกเสียงกาในเนตไปวันๆ ไม่มีคนก้มมามองหรอก อย่างว่าแหละ...สุนัขเห่ามักไม่กัด!!! จากคุณ : Raphin - [ 11 ธ.ค. 50 12:44:10 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ทำผิดกฎหมาย และหรือ ไม่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ในขั้นตอนใดๆ หรือไม่ ศาลปกครอง ท่านจะพิจารณา และ มีคำพิพากษา ออกมาในที่สุด.          ผิดก็คือผิด ถูกก็คือถูก จะไปยกเหตุผล เงินทุน ต่างชาติ ทำไปแล้ว ซื้อคืนยังไง ยกความเหมาะสมทางธุรกิจ โลกาอาละวาด ต่างๆนาๆ มาอ้าง มันเรื่องผลประโยชน์ ได้กับเสีย เอามาอ้าง เพราะ คนได้เสีย เท่านั้นเอง          ถ้าศาลสั่งว่าผิด ต้องยกเลิก เอาหุ้นคืน วิธีไหนซื้อคืนอย่างไร เท่าใด เมื่อถึงเวลาต้องทำ มันจะมีทางออกของมันเอง ไม่ยากเย็นอะไร ต่างชาติ ก็ยึดหลักกฎหมายและทำนองคลองธรรม ถ้ามันผิด เขาก็คงยินดีทำให้ถูก ยิ่งถ้ามันผูกพันกับ การคอร์รับฉันเชิงนโยบาย ผลประโยชน์ทับซ้อน ต่างชาติ เขาไม่เห็นด้วย และ ต่อต้านอยู่แล้ว อย่าเอามาอ้างเลย. และ ฟังมาว่า..          ปตท. เคยใช้กฎหมาย และ ความเป็นรัฐวิสาหกิจไปเวนคืน และหรือ ใช้ประโยชน์ที่ดินสาธารณะสมบัติของชาติ และ มี ใช้ สิทธิพิเศษ มากมาย แล้ว เอาสิทธิ์ที่ว่านี้ ไปขายเป็นหุ้นมหาชน เสียด้วย ไม่ได้แยกออกมา เพียง เท่านี้ ก็เริ่มจะผิดแล้ว ใน ข้อแรก. จริงหรือไม่ ใครตอบได้ชัดเจน.          แน่ใจกันหรือว่า แปรรูป ปตท. ถูก หรือ ผิด กฎหมาย ใครตัดสิน เลิกพูด เลิกสร้างภาพ เลิกโยนหินถามทาง เถอะ ทุกคน รวมทั้งสื่อ แล้ว รอคำพิพากษาของศาล. น่าจะดีกว่า.          ขอบคุณครับ แก้ไขเมื่อ 11 ธ.ค. 50 13:32:17 จากคุณ : ผ่านมาอ่าน - [ 11 ธ.ค. 50 13:15:59 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เรื่องอย่างนี้ มองที่ส่วนตัว หรือว่าส่วนรวมครับ แค่นี้ก็น่าจะมีสำนึกแล้วนะครับ จากคุณ : wit - [ 11 ธ.ค. 50 13:19:06 A:58.9.3.231 X: TicketID:154143 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ผมว่าหยุดปันผล 10 ปี เดี๋ยวราคามันก็ตกเอง แล้วก็ซื้อคืนตอนนั้น ไอพวกนักลงทุนที่กลัวขาดทุน ก็ขายไปดิ จะโง่ถือไว้หาอะไร แล้วการลงทุนมันก็ต้องมีขาดทุนทั้งนั้น จะเอากำไรอย่างเดียว เป็นไปไม่ได้หรอก แล้วพวกที่ชอบแปรรูป ดูประเทศพวกที่แปรรูปการไฟฟ้า โทรศัพท์ แล้วเป็นไง ราคามันก็ขึ้นกันทั้งนั้น ยิ่งรายได้ของคนที่อยู่ในประเทศเราก็ไม่สูงด้วย ดูอย่าง Australia ประเทศที่อยู่ในกลุ่มเจริญแล้ว แปรรูปไป ก็ไม่เห็นมีอะไรดีขึ้นเลย มีแต่คนบ่นว่าขอแพงขึ้น ใช้ความคิดกันหน่อย ถ้าแปรรูปแล้วดีจริง ทุกประเทศมันก็ทำไปหมดแล้ว จากคุณ : ไม่หัดคิดกันเลย - [ 11 ธ.ค. 50 13:32:37 A:124.177.77.207 X: TicketID:073233 ]

ความคิดเห็นที่ 27 คห. ที่ 1 กบข. ไม่ใช่ของรัฐนะครับ อย่าสับสน เป็นของข้าราชการทั้งประเทศซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา วายุภักษ์ถ้าจำไม่ผิดก็ส่วนใหญ่เป็นของกระทรวการคลังจริงแต่ก็ไม่ร้อยเปอร์เซนต์เพราะมีการเสนอขายให้บุคคลทั่วไปตอนตั้งกองทุน ไม่เห็นด้วยกับการ de-list ปตท.เช่นกันแต่อย่ามั่วข้อมูล จากคุณ : Jeoy - [ 11 ธ.ค. 50 13:52:15 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ถ้าคิดเป็นเงินนำส่งเข้ารัฐตั้งแต่ปี 2545 จนถึงปัจจุบัน ปตท.ได้นำเงินส่งเข้ารัฐแล้ว 140,000 ล้านบาท จากที่ก่อนการแปรรูป ปตท.สามารถนำเงินส่งเข้ารัฐได้เพียงปีละ 7,000-10,000 ล้านบาทเท่านั้น ...................................... โปรดจำไว้ให้ขึ้นใจ ก่อนจะแสดงความคิดเห็นใด   ไอ้ที่บอกว่า  ทำไมไม่คิดถึงประโยชน์ของประเทศบ้าง    ก็ให้มันนึกถึงตรงนี้เข้าไว้  ภาษีที่นำส่งนี่ล่ะ  รายได้หลักของประเทศ    เงินปันผล ก็เข้าสู่มือรัฐ 68 %   จะเอาไรกันอีก   ไอ้ที่บอกว่า ซื้อคืนมา แล้วทำให้ราคาน้ำมันถูกลง ก็กรุณาไปอ่านตรง คห 2 อีกครั้ง ว่า  เราสามารถกำหนดราคาน้ำมัน แก๊ส ได้เองหรือไม่   จะได้หายบ้ากันซะที จากคุณ : ลูกแม่โดม - [ 11 ธ.ค. 50 16:10:43 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อยากรู้ว่ากำไรของปตท. เป็นแสนล้านในปี50นี้ มาจากไหนครับ? ไม่ได้ถามว่ามาจาก ก๊าช น้ำมัน ปิโตรเคมี เท่าไร แบบที่ปตท.อ้างๆกันว่า segment น้ำมันขาดทุน กำไรจากส่วนอื่น (ก็ไปฟันตรงค่ากลั่นนำมันในโรงกลั่นที่ตัวเองถือหุ้นแล้วหรือเปล่า) แต่ยอดขายปตท.มาจากการขายให้ใคร? สัดส่วนการส่งออกสักเท่าไรครับ ลูกค้าปตท. ส่วนใหญ่เป็นใครครับ หรือว่ามาจากในประเทศ เช่น ผูกขาดการขายก๊าซในราคาแพงๆให้ กฟผ. ซึ่งสุดท้ายก็มาเป็นค่า FT ที่แพงขึ้นหรือเปล่า กำไรของผลิตภัณฑ์ของปตท.ที่ขายอาจทำให้ค่าครองชีพที่แพงขึ้นหรือเปล่า กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนในประเทศหรือเปล่า อยากทราบครับ กำไรของ ปตท.กับประโยชน์ของชาวบ้านมันจะไปด้วยกันยังไงครับ จากคุณ : Jeoy - [ 11 ธ.ค. 50 16:47:26 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ผู้ถือหุ้นหย่ายนั่นแหละ ถ้าออกนโยบาย ที่ไม่เป็นการทำให้เป็น ธุรกิจเพื่อกอบโกย ปันผลแค่พอสมควร ไม่กอบโกยทำกำไร กำไรจนผลประกอบการเป็น แสนล้าน แค่นี่ เดี๋ยว ราคาหุ้นมันก็ลงไปอยู่ในตำแหน่งราคาที่ควรจะเป็น แค่ 4 แสนล้าน ผลประกอบการ ปีนึงก็ เป็นแสนล้านแล้วไม่ใช่เหรอ ธุรกิจ ผูกขาด ทำยังไงก็ ได้กำไรอยู่ดีแหละ ไม่จำเป็นต้องเข้า ตลาดหุ้นหรอก เหลือ PTTEP ไว้ใน ตลาดตัวเดียวก็พอสำหรับไปแข่งกันจริงๆจังๆ จากคุณ : ก้นกบ - [ 11 ธ.ค. 50 18:15:51 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ปตท.มัน SUCKS จริงๆ เพิ่งโฆษณาไม่นานในทีวีประกาศอวดเก่งจนทั่วว่ามีเทคโนโลยีไปเจาะผลิตก๊าซถึงบาห์เรน วันนี้ทะลึ่ง(แอบ)จ้างนักข่าวมาบอกว่าที่ราคาก๊าซต้องขึ้นตามตลาดโลก(ของมัน) เพราะฝรั่งเป็นเจาะ ตัวมันเองยังไม่มีปัญญาเจาะ(ตามกระทู้หรือนักข่าวหัวเขียวว่า) เลยต้องซื้อจากฝรั่ง(ในไทย)ตามราคาตลาดโลก ดูมันช่างปลิ้นปล้อนตะลบตะแลงจริงจริ้ง -เอาตรรกะง่ายๆ อ้างว่าคนมาเลย์ใช้น้ำมันราคาถูก เพราะเค้ามีน้ำมันของเค้าเอง ไม่ต้องขายราคาตลาดโลก -ก็แล้วบ้านเรามีก๊าซของเราเอง ก็ต้องได้ใช้ก๊าซราคาถูกแบบคนมาเลย์ใช้น้ำมัน แบบนี้ถูกต้องรึป่าวล่ะ เรื่องอะไรต้องให้เอ็งเอากำไรไปงาบกับผู้ถือหุ้นล่ะว้า -เรียกว่าอ้างมั่วจน ลิ้นพันคอตัวเองตาย พี่ก็เลยมั่วต่อว่าเจาะเองไม่เป็น ตามที่บอกไว้ข้างบน ว่าฝรั่งเจาะคิดตามราคาฝรั่ง แล้วมาเลย์มันก็จ้างฝรั่งเจาะเหมือนกัน ทำไมเค้าไม่งาบกำไรแบบเอ็งล่ะ...ฮ่วย จากคุณ : x - [ 12 ธ.ค. 50 00:27:26 A:210.246.64.236 X: TicketID:052378 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ปตท.มัน SUCKS จริงๆ เพิ่งโฆษณาไม่นานในทีวีประกาศอวดเก่งจนทั่วว่ามีเทคโนโลยีไปเจาะผลิตก๊าซถึงบาห์เรน วันนี้ทะลึ่ง(แอบ)จ้างนักข่าวมาบอกว่าที่ราคาก๊าซต้องขึ้นตามตลาดโลก(ของมัน) เพราะฝรั่งเป็นเจาะ ตัวมันเองยังไม่มีปัญญาเจาะ(ตามกระทู้หรือนักข่าวหัวเขียวว่า) เลยต้องซื้อจากฝรั่ง(ในไทย)ตามราคาตลาดโลก ดูมันช่างปลิ้นปล้อนตะลบตะแลงจริงจริ้ง   ก็คงปี 2526 มั้งที่อดีตรัฐบุรุษเป็นนายกรัฐมนตรี เห็นว่าตอนนั้นไทยมีสโลแกนว่า โชติช่วงชัชวาลย์นิ(ไม่ชัวร์นะ)  แต่โฆษณานี่มัน ปตทสผ ไม่ใช่เหรอครับ เพราะรอบๆอ่าวไทย ที่เจอโดนฝรั่งได้สัมปทานไปก่อนแล้วนิ  แล้ว ปตทสผ  กว่าจะมีวันนี้ได้ก็ส่งคนไปเรียนรู้งานกับบริษัทฝรั่งนะครับ -เอาตรรกะง่ายๆ อ้างว่าคนมาเลย์ใช้น้ำมันราคาถูก เพราะเค้ามีน้ำมันของเค้าเอง ไม่ต้องขายราคาตลาดโลก อ้าว ไม่จริงเหรอครับ มาเลเซียไม่มีน้ำมันเหรอครับ ทีลาว เขมร พม่า ไม่เห็นไปเปรียบเทียบกับเค้าเลย เค้าด้อยกว่าเรายังใช้น้ำมันแพงกว่าเราอีก -ก็แล้วบ้านเรามีก๊าซของเราเอง ก็ต้องได้ใช้ก๊าซราคาถูกแบบคนมาเลย์ใช้น้ำมัน แบบนี้ถูกต้องรึป่าวล่ะ เรื่องอะไรต้องให้เอ็งเอากำไรไปงาบกับผู้ถือหุ้นล่ะว้า คิดแบบตรรกะคุณมันง่ายๆ ไงครับ ด่าเอามันส์อย่างเดียว โดยไม่ดูสมการราคาก๊าซตลาดโลก เค้าขาย ที่ 500 เหรียญต่อตัน เราคิดแค่ 315 เหรียญ นิคุณ http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V6098141/V6098141.html#81   ผมไม่รู้หรอกนะครับเอาข้อมูลมาจากในลิงค์ ระดับอาจารย์บอกมาเลยนะคุณ -เรียกว่าอ้างมั่วจน ลิ้นพันคอตัวเองตาย พี่ก็เลยมั่วต่อว่าเจาะเองไม่เป็น ตามที่บอกไว้ข้างบน ว่าฝรั่งเจาะคิดตามราคาฝรั่ง แล้วมาเลย์มันก็จ้างฝรั่งเจาะเหมือนกัน ทำไมเค้าไม่งาบกำไรแบบเอ็งล่ะ...ฮ่วย ด่าสนุกดีนะครับ คงสะใจ อิอิ  และ่หาเหตุผล(มั่ว)มาประกอบ จากคุณ : STOCK_BABY - [ 12 ธ.ค. 50 02:40:50 ]

ความคิดเห็นที่ 33 น้องจะตอบก็ตอบให้ตรงคำถาม มาเลย์เค้าขายน้ำมันให้คนเค้าใช้ เค้าดูสมการน้ำมันในตลาดโลกแบบที่น้องมั่วตอบรึป่าว สะใจแบบเดียวคงไม่ไหวครับ รวยอยู่กลุ่มก้อนกระจุกเดียว จากทรัพยากรพลังงานของแผ่นดินโดยรวม ปล่อยให้มีเงินมากขึ้นอันตรายครับ ขี่อยู่บนหลังชาวบ้านเค้าด้วย จากคุณ : x - [ 12 ธ.ค. 50 03:15:43 A:210.246.64.236 X: TicketID:052378 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เรื่องเอาออกจากตลาดหุ้นผมว่ามันงี่เง่ามากๆเลยนะ ใครจะทำจริงๆก็เท่ากับว่าหาเรื่องให้เศรษฐกิจมันแย่ลงไปก็เท่านั้น อีกอย่างเอาคืนกลับมาตอนนี้ คนที่ได้เสียกับตัวหุ้นเขาก็ประสบความสำเร็จกันไปนานแล้วล่ะ หลายๆเหตุผลก็คงคิดกันได้ว่า มันออกไปแล้วล่ะ เอาคืนมาก็มีแต่ผลเสีย ทีนี้สิ่งที่อยากจะให้ทำมากๆหน่อยก็คือว่าให้รัฐเข้าไปตักตวงผลประโยชน์เข้าประเทศไทยบ้างเถอะ ไหนๆมันก็ธุรกิจของเราเองไม่ใช่เหรอ จะให้น้ำมันแพง แกสทะลัก ก็ทำเลย ถ้าสิ่งต่างๆหลายๆที่เราจ่ายไปมันกลับคืนมาสู่แผ่นดินเกิดของเราเอง ผมยอมนะ ต่อให้น้ำมันลิตรละ 35 แต่ 5 บาทที่เกิดมาเป็นกำไร มันกลับมาสู่ประเทศของเราเอง มันก็น่าสนใจ หลายๆฝ่ายต้องร่วมใจกันคิดซิไม่ใช่คิดแต่จะเอาน้ำมันถูกอย่างเดียว ใช้กันมากๆ มันก็จะขึ้นราคาเองแหล่ะมันไม่มีถูกหรอก demand supply แล้วกับของที่คิดว่าจำเป็นต้องใช้อีก ขึ้นเท่าไรก็ต้องใช้ ที่เขาทำทุกวันนี้ถ้าไม่ใช่ว่ามีคนไปคั่นไว้ ราคาน้ำมันมันคงพุ่งไปมากกว่านี้แล้ว พวกคิดจะเอาออกจากตลาดหุ้น แค่คิดก็.... จากคุณ : d6]jtsojkp - [ 12 ธ.ค. 50 06:06:57 A:58.64.100.227 X: TicketID:068562 ]

ความคิดเห็นที่ 35 "ก็คงปี 2526 มั้งที่อดีตรัฐบุรุษเป็นนายกรัฐมนตรี เห็นว่าตอนนั้นไทยมีสโลแกนว่า โชติช่วงชัชวาลย์นิ(ไม่ชัวร์นะ) แต่โฆษณานี่มัน ปตทสผ ไม่ใช่เหรอครับ เพราะรอบๆอ่าวไทย ที่เจอโดนฝรั่งได้สัมปทานไปก่อนแล้วนิ แล้ว ปตทสผ กว่าจะมีวันนี้ได้ก็ส่งคนไปเรียนรู้งานกับบริษัทฝรั่งนะครับ " ....เออ คุณ สตอ...บอย แน่ใจหรือครับว่าไทยทำได้เอง ขุดได้เอง ว่างๆลองไปที่แท่นขุดเจาะหน่อยนะครับ ถ้าคุณไปได้นะ มองดูให้ทั่วว่าวิศวฯชาวไทยของปตท.ทำอะไรบนนั้นมั่ง วันๆทำงานตามฝรั่งมันบอกให้ทำครับ จ้างฝรั่งมาทำงานสำคัญและสั่งวิศวฯไทยๆนั่นนะทำตามครับ รวมทั้งมองจอเฝ้าจอนะ เคยไปดูรึเปล่า อย่าไปเชื่อโฆษณาให้มันมาก จากคุณ : ..... - [ 12 ธ.ค. 50 15:15:41 A:210.246.64.59 X: TicketID:131513 ]

ความคิดเห็นที่ 36 >> ผมยอมนะ ต่อให้น้ำมันลิตรละ 35 แต่ 5 บาทที่เกิดมาเป็นกำไร มันกลับมาสู่ประเทศของเราเอง มันก็น่าสนใจ -- น้ำมัน เบนซิน 95 ที่ราคาลิตรละ  30 กว่าบาทตอนนี้  ภาษีเข้ารัฐประมาณ 6 บาท   เข้ากองทุนน้ำมันอีก 4 บาท   แล้วนะครับ ราคาหน้าโรงกลั่นเองจริงๆ ลิตรละ 20 บาทนิดๆ เอง http://www.eppo.go.th/petro/price/pt-price-st-2007-12-11.xls จากคุณ : sunsetbeach - [ 13 ธ.ค. 50 09:38:01 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ธุรกิจน้ำมันที่ ปตท บอกว่าขาดทุนน่ะมันส่วนการตลาดอย่างเดียวครับแต่ในส่วนการกลั่นน้ำมันที่ ปตท มีหุ้นอยู่ตามโรงกลั่นต่างๆน่ะฟาดกำไรพุงปลิ้นไม่งั้นโรงกลั่นต่างๆไม่จ่ายโบนัสพนักงานกันโรงละ 6 เดือนหลอก ปตท พูดความจริงตลอดแต่พูดไม่หมด จากคุณ : rtu - [ 16 ธ.ค. 50 12:49:57 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เห็นด้วยกับกับ คห. 21 Raphin อย่างมากๆ เรื่องของเรื่อง มันก็แค่คนที่ต้องจ่ายน้ำมันแพงขึ้น แล้วก็มาโวยวายหาที่ลง มีกระทั่งกระแสการเมืองแอบแฝง  พวกที่อิจฉาพวกเล่นหุ้น พวกที่มีความรู้เรื่องหุ้นแบบงูๆปลาๆ พวกนี้เกาะแสมาด่าทั้งน้าน ผมเกลียดพวกรัฐวิสาหกิจพวกมานาน ผมว่าพวกนี้สูบเลือดมากกว่าเสียอีก ทำไมมันขาดทุนทั้งปีทั้งชาติ บริหารภาษาอะไร ผมสงสัยนัก ส่วนที่ขาดทุนไปเข้ากระป๋าใครกันแน่ เมื่อก่อนได้แวะไป กฟ-. บ่อย เห็นพฤติกรรมพวกนี้แล้ว สงสารประเทศชาติจริงๆ น่าเสียดายที่ไม่ได้แปรรูป ป่านนี้มีกำไรเข้ารัฐมหาศาล แทนที่จะขาดทุนเพื่อเข้ากระเป๋าบางคน จากคุณ : dragon smile - [ 18 ธ.ค. 50 13:18:20 ]